Posts

Vacheron Constantin สร้างความแตกต่างในงาน Watches and Wonders Geneva 2023 ด้วยการแสดงค่าแบบเรโทรเกรด

บทความโดย Ruckdee Chotjinda 

Watches and Wonders Geneva เป็นงานแสดงนาฬิการะดับโลกที่สำคัญที่สุดในรอบปี และเป็นเวทีที่ทุกแบรนด์ดังจะต้องเลือกสรรผลิตภัณฑ์หรือแนวคิดมาประชันกันอย่างเต็มที่เสมือนกับเป็นมอเตอร์โชว์ของวงการนาฬิกา เช่นเดียวกับ Vacheron Constantin ซึ่งในปีนี้เลือกสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอนาฬิกาที่มีการแสดงค่าแบบเรโทรเกรดมากถึง 3 รุ่น 

และในกรณีของ Overseas Moon Phase Retrograde Date นี้นอกจากจะมีการแสดงค่าวันที่ด้วยเข็มแบบเรโทรเกรดแล้วก็ยังมีฟังก์ชั่นมูสเฟสบอกข้างขึ้นข้างแรมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาอีกด้วย และก็เป็นมูนเฟสแบบความเที่ยงตรงสูงซึ่งต้องการการปรับตั้งเพียงแค่ 1 ครั้งในรอบระยะเวลา 122 ปี (ในขณะที่นาฬิกามูนเฟสทั่วไปจะต้องปรับตั้ง 1 ครั้งเมื่อเวลาผ่านไปเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น) Vacheron Constantin Overseas Moon Phase Retrograde Date ตัวเรือนสเตนเลสสตีลสไตล์สปอร์ทชิคขนาด 41 มม. รุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่องนาฬิกาแบบขึ้นลานอัตโนมัติซึ่งมีกำลังลานสำรองประมาณ 40 ชั่วโมง สวมใส่ด้วยสายสเตนเลสสตีลที่มีข้อสายเป็นรูปทรงไม้กางเขนมอลตีสซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของ Vacheron Constantin หรือสวมใส่ด้วยสายหนังลูกวัวสีน้ำเงินเดินด้ายขาว หรือสายยางสีน้ำเงินซึ่งให้มาในชุดและเจ้าของนาฬิกาสามารถสับเปลี่ยนเองที่บ้านได้โดยสะดวก

สำหรับใครที่ชอบสไตล์เรียบหรูหรือนาฬิกาแนวเดรสที่ดูบางและสง่างาม ในปีนี้ Vacheron Constantin ก็มีนาฬิการุ่น Patrimony Retrograde Day-Dateตัวเรือนแพลทตินัมขนาด 42.5 มม. ที่ผสานความมินิมอลเข้ากับความซับซ้อนในเชิงกลไกได้เป็นอย่างดี หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้มีเข็มวันที่แบบเรโทรเกรดอยู่ทางด้านบนของหน้าปัดเหมือนกับรุ่นแรกที่เรานำเสนอไป และที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือเข็มชี้บอกวันตั้งแต่จันทร์จนถึงอาทิตย์ทางด้านล่างของหน้าปัดที่จะดีดกลับไปยังจุดเริ่มต้นโดยอัตโนมัติเมื่อสัปดาห์การทำงานใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เข็มวันที่และเข็มวันแบบเรโทรเกรดทั้งสองนี้เป็นเข็มแบบที่เรียกว่าบลูด์สตีลซึ่งผ่านกระบวนการความร้อนจนเนื้อโลหะกลายเป็นสีน้ำเงิน ไม่ได้เป็นการชุบหรือเคลือบสีแต่อย่างใด และเป็นเทคนิคที่พบเห็นได้เฉพาะในนาฬิการะดับไฮเอ็นด์เท่านั้น ส่วนเข็มบอกเวลานั้นผลิตจากไวท์โกลด์และได้รับการออกแบบให้มีลักษณะโค้งเล็กน้อยไปตามรูปทรงโดมของหน้าปัดสีแซลมอนซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดแห่งความสุนทรีย์ที่พบเห็นได้ในนาฬิกา Vacheron Constantin ตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1940 เป็นต้นมา 

Vacheron Constantin เลือกตอกย้ำความร่วมสมัยของนาฬิการุ่น Traditionnelle Tourbillon Retrograde Date Openface นี้ด้วยการทำพื้นผิวของเครื่องนาฬิกาให้เป็นสีเทาเข้มด้วยกระบวนการ NAC จึงดูตัดกับโทนสีของเข็มบอกเวลา หลักชั่วโมงและตัวเรือนที่ผลิตจากพิงค์โกลด์ได้เป็นอย่างดี สำหรับรายละเอียดสุดท้ายที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้มีความร่วมสมัยก็คือการออกแบบโรเตอร์สำหรับการขึ้นลานแบบอัตโนมัติให้เป็นแบบเพอริเฟอรอลหรือว่าอยู่รอบนอกของตัวเครื่องซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำให้โรเตอร์ไม่บดบังความงามของเครื่องและช่วยลดความหนาของนาฬิกาไปได้ในเวลาเดียวกัน

rhunrun เรียบเรียง

ต้อนรับตรุษจีน พาไปพบกับซองแดงในปีกระต่าย 2023

พบกับซองแดงในปีกระต่าย 2023 ไปดูกันว่าแต่ละแบรนด์จะนำเสนอซองอั่งเปากันออกมาแบบไหน ทั้งการนำลวดลายกระต่ายมาตีความใหม่ หรือการใส่เอกลักษณ์ของทางแบรนด์ลงไปในซองอั่งเปา ไปรับชมกันได้เลยครับ

Sign of the Times

เรือนเวลา และร่องรอยแห่งกาลเวลา ความคลาสสิกที่แยกจากกันไม่ออก

Photographer: number 45

Stylist: Teeratat Somudomsup

Vacheron Constantin : Historiques American 1921

หนึ่งร้อยปีแห่งความกล้าและการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ นาฬิกาสามรุ่นผสมผสานซิกเนเจอร์ดีไซน์
-Vacheron Constantin ฉลองครบรอบ 100 ปีของนาฬิกาประวัติศาสตร์ในชื่อ American 1921 ซึ่งเดิมผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพื่อตลาดอเมริกันเป็นหลัก
-ความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของยุค Roaring Twenties (1920s) สื่อผ่านตัวเรือนทรงคุชั่น ดิสเพลย์แบบอสมมาตร และเม็ดมะยมแบบเยื้องศูนย์
-นาฬิกาสามรุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับเอกลักษณ์ในการดีไซน์ โดยมีสองรุ่นผลิตจากไวท์โกลด์ และอีก 100 เรือนอยู่ใน Collection Excellence Paltine ผลิตในจำนวนจำกัด เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าผู้เชี่ยวชาญและนักสะสมนาฬิกาวินเทจ
-ทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮาส์ Calibre 4400 AS สำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมง
-นาฬิกาไอคอนนี้เป็นที่ชื่นชอบเพราะความคลาสสิกที่ถูกนำมาทวิสต์ใหม่

ในปี 1921 Vacheron Constantin จับกระแสความแรงของยุค Roaring Twenties มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิกาดีไซน์อาวองต์-การ์ดเพื่อตลาดอเมริกันเป็นหลัก ต่อมาในปี 2021 เมซงได้ฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษของผลงานไอคอนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักสะสมและผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาชั้นสูง โดยนำเสนอเป็นนาฬิกาใหม่ 3 เวอร์ชั่นในชื่อ American 1921 เป็นการตีความนาฬิการะดับตำนานให้ร่วมสมัย ตอกย้ำความกล้าเปี่ยมวิสัยทัศน์ของเมซง ผลงานใหม่ทั้งสามรุ่นนี้เปิดตัวภายในงาน Watches & Wonders 2021 เป็นส่วนหนึ่งของธีมประจำปี 2021 ของ Vacheron Constantin ซึ่งมีชื่อว่า Classic with a Twist เชิดชูพลังความคิดสร้างสรรค์ของเมซง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแนวคิดการให้ความสำคัญกับมรดกของอดีต และความกล้าที่จะนำเสนอสิ่งที่คาดไม่ถึง

นอกจากจะสง่างามและคลาสสิกแล้ว ผลงานนี้ยังโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แหวกล้ำ นี่ไม่ใช่แค่นาฬิกาธรรมดาๆ หากแต่เป็นสัญลักษณ์และตัวแทนความคิดสร้างสรรค์ของ Vacheron Constantin นาฬิกา American 1921 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน นับเป็นหนึ่งในผลงานมรดกชิ้นสำคัญ ล่าสุด เมซงได้เฉลิมฉลองจิตวิญญาณอาวองต์-การ์ดนี้ผ่าน 3 ผลงานใหม่ที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่อเหล่านักสะสมและผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาวินเทจ ตัวเรือนทรงคุชั่น ดิสเพลย์แบบอสมมาตร และเม็ดมะยมซึ่งอยู่ระหว่างตำแหน่ง 1 และ 2 นาฬิกานั้น เป็นการนำขนบดีไซน์มาทวิสต์ใหม่จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจ
ทั้งการจัดวางเลย์เอาต์แบบเยื้องศูนย์และดีไซน์ที่ไร้กาลเวลา นาฬิกา American 1921 ทั้ง 3 รุ่นใหม่สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 100 ปี ประกอบด้วย 2 เวอร์ชั่นที่ผลิตจากไวท์โกลด์ 18K และรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น 100 เรือนใน Collection Excellence Platine ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน Calibre 4400 AS กลไกนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28.5 มม. มองเห็นชัดเจนผ่านฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล ติดตั้งแบบเยื้องศูนย์จากแกน ในขณะที่ตลับลานขนาดใหญ่ทำให้สามารถสำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมง

ไอคอนแห่งยุค Roaring Twenties
ต้นกำเนิดของนาฬิการุ่นนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 1919 ในช่วงเวลานั้น เมซงได้ทดลองนำเสนอตัวเรือนรูปทรงหลากหลายออกมาในปริมาณไม่มาก และกลายเป็นที่รู้จักด้วยสไตล์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเรือนทรงคุชั่น และสองปีหลังจากนั้น Vacheron Constantin ได้ผลิตนาฬิกาเพิ่มขึ้นจำนวนหนึ่งเพื่อตลาดอเมริกาโดยเฉพาะ และได้ตั้งชื่อว่า American 1921 ผลงานในครั้งนั้นได้กลายเป็นนิยามด้านดีไซน์ของคอลเลกชั่น Historiques ในปัจจุบัน

เบื้องหลังดีไซน์แปลกตาของผลงานในยุค 1920s นี้มาจากจิตวิญญาณของยุค Roaring Twenties ซึ่งได้นำกระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลงมาสู่สหรัฐอเมริกาและยุโรปอยูนานเกือบทศวรรษ ยุคนี้มีทั้งความเฟื่องฟูทางวัฒนธรรมและศิลปะ เป็นยุคแห่งความกล้าหาญและการพลิกทลายขนบดั้งเดิม เศรษฐกิจเจิรญเติบโตถึงขีดสุด ลองนึกภาพโจเซฟีน เบเกอร์ออกมาเต้นโดยสวมเพียงกระโปรงผ้าพันคอบานาที่แทบจะปิดอะไรไม่มิด คลับและแดนซ์ฮอลล์สั่นสะเทือนด้วยเสียงเสียงเพลงชารลส์ตันและแจ๊ซ อีกทั้งศิลปินเซอร์เรียลิสต์ก็ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ… ภายในเวิร์กช็อปของ Vacheron Constantin ได้จับเอากระแสมาแรงในช่วงปีนั้นมาใช้ต่อเติมมุมมองใหม่ๆ ในช่วงนั้น นาฬิกาพกกำลังล่าถอยให้กับนาฬิกาข้อมือนั้น ความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนกลไกขนาดเล็กได้แผ้วถางทางให้กับความคิดสร้างสรรค์ที่พร้อมปะทุ สไตล์ฝันเฟื่องต่างๆ ล้วนแล้วแต่ปรากฏจริงได้บนข้อมือ ดังจะเห็นได้จากผลงานวินเทจต่างๆ ในยุค 1921 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ชาญฉลาดระหว่างความเคร่งขรึมจริงจังและความไม่ยึดติดกับขนบ เรียกได้ว่าเป็นความคลาสสิกที่ถูกนำมาทวิสต์ใหม่

นาฬิกาล้ำค่าหายาก
นาฬิกา American 1921 โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ ด้วยตัวเรือนทรงคุชั่นสง่างามเรียบง่ายที่เป็นตัวกำหนดกรอบของลุค ทั้งยังไม่เหมือนใครด้วยการดีไซน์การแสดงเวลา หน้าปัดย่อยวางตัว 45 องศาหมุนทวนเข็มนาฬิกา กลไกทำให้สามารถอ่านค่าเวลาในแนวทะแยงได้ ในขณะที่เม็ดมะยมติดตั้งอยู่ระหว่างตำแหน่ง 1 และ 2 นาฬิกาทางมุมบนขวาของตัวเรือน ทำให้นาฬิกาโดดเด่นไม่เหมือนใครและยังเปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดใจ

นาฬิกาเวอร์ชั่นแรกที่ผลิตขึ้นนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักขับซึ่งสามารถดูเวลาได้อย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย และจากเดิมที่เป็นนาฬิกาของสุภาพบุรุษนักขับ ต่อมานาฬิการุ่นนี้ก็กลายมาเป็นที่นิยมในวงของผู้รักในความสง่างามและสไตล์อาวองต์-การ์ด เมื่อค้นดูในอาร์ไคฟ์จึงได้พบว่ามีนาฬิกาสองเรือนที่เป็นของนักเขียนและนักบวชชาวอเมริกันนามว่า แซมมวล พาร์กส์-แคดแมน บุรุษผู้นี้เป็นที่รู้จักจากการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมด้านชาติพันธุ์และการต่อต้านชาวยิว และยังเป็นนักบุกเบิกในหัวใจ เขาเป็นคนแรกๆ ที่ใช้วิทยุกระจายเสียงบทสวดไปยังผู้ฟังนับล้าน และเชื่อว่าที่เขาเลือกใช้นาฬิการุ่นนี้เพราะช่วยให้เขาดูเวลาได้อย่างสะดวก ไม่โจ่งแจ้งขณะเทศนา หนึ่งในนาฬิกาสองรุ่นที่เขาเป็นเจ้าของ ปัจจุบันอยู่ในคอลเลกชั่นเฮอริเทจของ Vacheron Constantin ผลงานเลอค่าหายากนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ในปี 2021

Historiques American 1921 – ตัวเรือนไวท์โกลด์ 40 มม.
ตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K หน้าปัดแบบเยื้องศูนย์ และเม็ดมะยมซึ่งติดตั้งอยู่ระหว่างตำแหน่ง 1 และ 2 นาฬิกาไม่เหมือนใคร นาฬิกา American 1921 นำแรงบันดาลใจจากรหัสดีไซน์ที่ใช้ครั้งแรกในเวิร์กช็อปของ Vacheron Constantin เมื่อ 100 ปีก่อน รูปลักษณ์เรโทรเหมาะสำหรับหนุ่มแดนดี้ผู้หลงรักสไตล์วินเทจ รับกับข้อมือพอเหมาะพอดีด้วยตัวเรือนขนาด 40 มม. ล้อมหน้าปัดสีเงินแบบเกรน โฉมหน้าเรียบง่าย ประดับบด้วยตัวเลขอาระบิก และรางนาทีสีดำ รับกับเข็มชั่วโมงและนาทีทำจากทอง 18K เพรียวบางสไตล์เบรเกต์ และเข็มทรงบาตองบนหน้าปัดวินาที ซึ่งทั้งสามเข็มมาในเฉดสีดำ รูปลักษณ์ไม่เหมือนใครนี้ยังเข้ากับสายรัดข้อมือหนังลูกวัวสีน้ำตาลจากเวิร์กช็อป Serapian บริษัทเครื่องหนังจากอิตาลี ก่อตั้งขึ้นที่มิลานตั้งแต่ปี 1928

ฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัลเผยให้เห็นกลไกไขลาน Calibre 4400 AS ของ Vacheron Consrantin ซึ่งติดตั้งแบบเยื้องศูนย์จากแกน กลไกอินเฮาส์ซึ่งเที่ยงตรงและทำงานเต็มประสิทธิภาพ ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 2008 แสดงชั่วโมง นาที และวินาทีที่หน้าปัดย่อย พร้อมสำรองพลังงานได้นาน 65 ชั่วโมง ตกแต่งอยางประณีตด้วยมือตามขนบการสร้างสรรค์นาฬิกาชั้นสูง

Historiques American 1921 – ตัวเรือนไวท์โกลด์ 36.5 มม.
ด้วยตัวเรือนขนาด 36.5 มม. ทำให้นาฬิกกา American 1921 เหมาะกับทุกคนแม้แต่ผู้ที่มีข้อมือเล็ก ตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K รูปทรงเพรียวบางโอบล้อมหน้าปัดเฉดสีเงินแบบเกรน รับกับตัวเลขอาระบิกสีดำและหน้าปัดย่อยวินาที และเข็มชั่วโมงและนาทีสีดำปลายฉลุทำจากทอง 18K และเส้นรอบวงหน้าปัดยังเด่นด้วยรางนาที เพิ่มเสน่ห์แบบเรโทรให้กับดีไซน์ดั้งเดิม

กลไกไขลาน Calibre 4400 AS ของ Vacheron Consrantin แสดงชั่วโมง นาที และวินาทีที่หน้าปัดย่อย ติดตั้งแบบเยื้องศูนย์จากแกน ควบคุมด้วยเม็ดมะยมซึ่งติดตั้งอยู่ ณ ตำแหน่ง 1.30 น. นอกจากจะสำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมงอย่างสบายๆ แล้ว กลไกอินเฮาส์นี้ยังได้รับการตกแต่งอย่างประณีตบรรจงดังจะเห็นได้ผ่านฝาหลังโปร่งใสตามธรรมเนียมของการผลิตนาฬิกาชั้นสูง และเติมความสมบูรณ์แบบด้วยสายรัดข้อมือหนังลูกวัวสีน้ำตาลเข้มหรือสีเบอร์กันดี ผลิตจากโรงงานเครื่องหนัง Serapian ในอิตาลี

Classic with a twist
ความคิดสร้างสรรค์ของ Vacheron Constantin ยังคงสอดประสานกลมกลืนไปกับช่วงเวลาปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ชวนให้นึกถึงความทรงจำในอดีต ผลงานเหล่านี้คือตัวแทนแห่งความสง่างาม ซึ่งเป็นหลักยึดของเหล่าวอทช์เมกเกอร์ ช่างฝีมือ และดีไซเนอร์มาตลอดหลายศตวรรษ ทั้งยังเป็นการเชิดชูมรดกจากอดีตและความกล้าที่จะค้นหาสิ่งที่คาดไม่ถึง ผลงานของ Vacheron Constantin กำเนิดขึ้น ณ จุดบรรจบของความเป็นเลิศทางเทคนิคและความประณีตงดงาม และยังคงร่ายมนต์สะกดผ่านยุคสมัยต่างๆ มาจนถึงยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าเสน่ห์ไร้กาลเวลานี้ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยเพียงการผลิตนาฬิกาตามขนบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ผลงานแต่ละเรือนยังต้องแสดงถึงความกล้าผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการแสดงเวลาแบบพิเศษ หน้าปัดเยื้องศูนย์ การตกแต่งชิ้นส่วนด้วยเทคนิคพิเศษ การเก็บรายละเอียดอย่างประณีตด้วยมือ และความสลับซับซ้อนของกลไก ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของความเชี่ยวชาญขั้นสูงสุด และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เข้าถึงความรูสึก ซึ่งเทคนิคและสไตล์มาบรรจบกันอย่างสมดุลกับขนบและความแหวกขนบ

Vacheron Constantin กับการกลับมาของนาฬิกาโครโนกราฟ Cornes de vache ที่มีดีไซน์หรูหราคลาสสิกกลิ่นไอเท่ๆจากยุค 60’s

ถือกำเนิดในปี ค.ศ. 1955 ท่ามกลางช่วงปีอันเฟื่องฟูหลังสงคราม นาฬิกา วาเชอรอง คองสตองแตง รุ่น “คอร์น เดอ วาช” (Cornes de vache) ซึ่งตั้งชื่อตามลักษณะรูปทรงของหูเชื่อมสายได้สร้างชื่อเสียงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในฐานะหนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นสัญลักษณ์ของช่วงเวลานั้น ด้วยหมายเลขอ้างอิง 6087 และผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษมาก ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในเรือนเวลารุ่นที่ผู้คนซึ่งหลงใหลในเมซง (Maison) แห่งนี้ต่างตามหามากที่สุด ภายใต้จิตวิญญาณความวินเทจของคอลเลคชั่น ฮิสทอริคส (Historiques) ในวันนี้ วาเชอรอง คอนสแตนติน (Vacheron Constantin) ได้นำเสนอซึ่งการตีความและการนำกลับมาทำใหม่ของเรือนเวลาสตีล พร้อมด้วยเอกลักษณ์แห่งการผสมผสานระหว่างประเพณีและความเป็นต้นตำรับดั้งเดิมอันเปี่ยมด้วยสไตล์

วาเชอรอง คองสตองแตง ปรารถนาที่จะมอบซึ่งความเป็นจริงที่สามารถจับต้องได้ให้กับมรดกของตน โดยการสร้างสรรค์ ฮิสทอริคส คอลเลคชั่น ขึ้นในปี ค.ศ. 2006 เพื่ออุทิศให้กับเหล่าต้นแบบซึ่งได้สร้างวิวัฒนาการให้กับเมซง โดยคอลเลคชั่นนี้ได้ตอกย้ำความโดดเด่นของมรดกอันรุ่มรวยทางเทคนิคและความสวยงามของโรงงานการผลิต ผ่านการตีความใหม่อันร่วมสมัยของเหล่ารุ่นตำนานอันเป็นสัญลักษณ์ ด้วยการรังสรรค์ทายาทเรือนเวลาทั้งหมดที่บรรดานักสะสมและผู้ซึ่งหลงใหลในนาฬิกากำลังมองหาซึ่งผลงานที่อาบไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเก่าแก่และความวินเทจ ทำให้นาฬิกา ฮิสทอริคส นี้มีความพิเศษโดยธรรมชาติ และตลอดระยะเวลาหลายปี ผลงานหลากหลายรุ่น อาทิ อเมริกัน 1921 (American 1921) หรืออัลตร้า-ไฟน์ 1955 (Ultra-fine 1955) ได้มอบซึ่งการปลุกฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่

HISTORIQUES CORNES DE VACHE 1955

นาฬิกา คอร์น เดอ วาช ฮิสทอริคส  1955 ขับเคลื่อนโดยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือโครโนกราฟ คาลิเบอร์ 1142 มอบการสำรองพลังงานได้นาน 48 ชั่วโมง โดยรักษาไว้ซึ่งประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาอันยิ่งใหญ่ กับจักรกลจับเวลาช่วงสั้นๆ ที่ควบคุมผ่านคอลัมน์วีล (column-wheel) ตกแต่งด้วยหัวสกรูรูปทรงคล้าย มอลทิส ครอส (Maltese cross) สัญลักษณ์ของวาเชอรอง คอนสแตนติน พร้อมทั้งงานตกแต่งและขัดขึ้นมุมด้วยมือทั้งหมด กับลวดลายเกรนวงกลมบนด้านหน้าปัด และโคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève) บนด้านหลัง กลไกซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วน 164 ชิ้นและทำงานความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (3 เฮิรตซ์) นี้ยังสามารถชื่นชมความสวยงามประณีตได้ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ใส และล้อมกรอบด้วยขอบตัวเรือนรูปทรงสิบด้าน 

เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้นำเสนอฟังก์ชั่นแสดงเวลา ซึ่งรวมไปถึงการแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็ก เช่นเดียวกับฟังก์ชั่นจับเวลาโครโนกราฟ พร้อมด้วยเข็มจับเวลาวินาทีกลาง และหน้าปัดย่อยแสดงการจับเวลานาที รายล้อมด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ (tachymeter) (ทำหน้าที่ในการช่วยคำนวณความเร็วเฉลี่ยเหนือระยะทางที่กำหนด) บนฐาน 1000 เมตร รอบหน้าปัดซึ่งติดตั้งด้วยเข็มชี้สตีลสีน้ำเงินเพื่อมอบความสามารถในการมองเห็นได้อย่างชัดเจนสูงสุด ขณะที่วงแหวนสเกลนาทีสีขาวยังแสดงเวลาได้อย่างแม่นยำด้วยตัวเลขสีแดงเข้ม ตอกย้ำความโดดเด่นของโทนสีเทากำมะหยี่บนหน้าปัดโอปอลซึ่งบรรจุไว้ด้วยหน้าปัดย่อยลายก้นหอยสองวง พร้อมทั้งตัวเลขโรมันสีแดงและเครื่องหมายบอกชั่วโมงแบบนำมาติดบนหน้าปัด 

ข้อมูลทางเทคนิค

ฮิสทอริคส คอร์น เดอ วาช 1955 

หมายเลขอ้างอิง              5000H/000A-B582

คาลิเบอร์                       1142

                                    พัฒนาและผลิตขึ้นโดย วาเชอรอง คองสตองแตง

                                    จักรกล, ไขลานด้วยมือ

                                    ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 27.5 มม. (12”’)

                                    หนา 5.57 มม.

                                    สำรองพลังงานได้ประมาณ48 ชั่วโมง 

                                    ความถี่ 3 เฮิรตซ์ (21,600 ครั้ง/ชั่วโมง)

                                    ชิ้นส่วน164ชิ้น

                                    ทับทิม 21 เม็ด

                                    เรือนเวลาผ่านประกาศนียบัตร ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา (Hallmark of Geneva) 

การแสดง                       ชั่วโมง, นาที, วินาทีบนหน้าปัดเล็ก ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา 

                                    โครโนกราฟคอลัมน์วีล (หน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที) 

ตัวเรือน                         สตีล

                                    ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 38.5 มม., หนา 10.9 มม.

                                    ฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งใส 

                                    ผ่านการทดสอบการกันน้ำที่ระดับความลึก 3 บาร์ (ประมาณ 30 เมตร) 

หน้าปัด                         บริเวณศูนย์กลางทำจากโอปอลตกแต่งสีเทากำมะหยี่ พร้อมด้วยหน้าปัดย่อยลายก้นหอย

                                    เครื่องหมายบอกชั่วโมงและตัวเลขโรมันแบบนำมาติดบนหน้าปัด ทำจากทองไวท์โกลด์ 18 กะรัต 

                                    เข็มชั่วโมง นาที และวินาทีเล็ก ทำจากทองไวท์โกลด์ 18 กะรัต

                                    เข็มโครโนกราฟและเข็มบนหน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที ทำจากสตีลสีน้ำเงิน 

สาย                              สายหนังวัวสีน้ำตาลเข้มแบบพาติน่าโดยเซอราเปียน, ด้านในทำจากหนังวัว, เย็บตะเข็บด้วยด้ายสีเดียวกัน                                            

หัวเข็มขัด                       หัวเข็มขัดสตีล

                                    รูปทรง มอลทิส ครอส ครึ่งซีกขัดเงา 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Pendulum Siam Paragon โทร. 026109423

เรื่อง-เรียบเรียง rhunrun