Posts

Ulysse Nardin : FREAK X ENAMEL BLUE

ต่อยอดความสมบูรณ์แบบของคอลเลกชั่น Freak ด้วยผลงาน Freak X Enamel Blue รุ่นใหม่ เป็นครั้งแรกสำหรับนาฬิกา Freak X ที่ได้นำเสนอหน้าปัดชั่วโมงที่มาพร้อมกับศิลปะชั้นสูงด้วยเทคนิคกิโยเช่ลงอีนาเมล (ลงยา) สีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นนี้

Freak เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตนาฬิกาไปอย่างสิ้นเชิง และยังคงก้าวข้ามขีดจำกัดต่อไป เนื่องจากไม่มีหน้าปัดและไม่มีเข็ม กลไกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบอกเวลา อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรกที่กลไกการเคลื่อนไหวได้รับการแยกส่วนเพื่อแสดงเวลาด้วยตัวเอง โดย Freak X Enamel Blue ได้ผสมผสานศิลปะชั้นสูงโดยช่างฝีมือโบราณเข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เทคนิคชั้นสูงนี้เป็นเทคนิคพิเศษที่ดูแลโดยช่างฝีมือของ Ulysse Nardin ผสมผสานอย่างลงตัวกับการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาขั้นสูง (Haute Horlogerie)

เอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Freak รุ่นใหม่นี้คือหน้าปัดลงอีนาเมล (ลงยา) เทคนิคการตกแต่งพิเศษที่สืบทอดโดยช่างฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น เทคนิคนี้มักจะใช้ได้กับนาฬิกาที่ผลิตโดยช่างฝีมือชั้นสูงเท่านั้น เพราะต้องใช้ทักษะในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมจนถึงการลงอีนาเมล (ลงยา) เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยพรสวรรค์ ความรู้ และประสบการณ์ ไม่น่าแปลกใจที่จะหาช่างฝีมือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถทำได้

 Donzé Cadrans ตั้งอยู่ที่เมือง Le Locle ประเทศ Switzerland ซึ่ง Ulysse Nardin เป็นเจ้าของ และยังคงรักษาความรู้ความชำนาญที่เป็นเลิศนี้ไว้ หน้าปัดที่ดูแปลกใหม่นี้ ได้รับการตกแต่งตามเทคนิคกิโยเช่เป็นครั้งแรก ด้วยการใช้เส้นสายลวดลายทรงเรขาคณิต เทคนิคนี้ช่วยทำให้หน้าปัดดูมีมิติและความทันสมัย โดยการเคลือบอีนาเมล (ลงยา) หลายชั้นบนหน้าปัดนี้
แผ่นสีที่ใช้ในการลงยาจะถูกบดแล้วค่อยๆ เติมน้ำ สีแต่ละชั้นจะถูกเผาในเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 800 องศา และระหว่างแต่ละชั้น ต้องใช้เวลาระบายความร้อนซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งนาที การผลิตนี้จำเป็นต้องใช้เคลือบสีสามถึงสี่ชั้นและรอบการอบอย่างน้อยห้ารอบก่อนที่จะทาสีเคลือบโปร่งแสงชั้นสุดท้ายที่เรียกว่า “ฟองดอง” เลเยอร์นี้มีความสำคัญเนื่องจากผลลัพธ์ของกระบวนการขึ้นอยู่กับเลเยอร์นี้

Freak X Enamel Blue มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ UN-230 การไขลานด้วยมือ และการตั้งเวลาผ่านเม็ดมะยม มาพร้อมกับดิสก์หมุนทุกๆ ชั่วโมงเพื่อระบุเวลา บาลานซ์วีลและเฟืองท้ายทำจากซิลิคอน ซึ่ง Ulysse Nardin เป็นผู้เชี่ยวชาญมาตั้งแต่ปี 2001 โดดเด่นด้วยตัวเรือนและฝาหลังไทเทเนียมสีเทา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 43 มม. สามารถสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง สนนราคา 1,435,000 บาท ตัวเรือนมาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน เย็บตะเข็บข้างด้วยด้ายสีขาว และตัวล็อคสายไทเทเนียมแบบบานพับ

Freak X Enamel Blue ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีของ PMT The Hour Glass ซึ่งเป็นพันธมิตรแต่เพียงผู้เดียวของ Ulysse Nardin ในประเทศไทย
“เราให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาชั้นสูงซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทย” แพทริค พรูนีโอซ์ จาก Ulysse Nardin กล่าว “เราได้ปฏิวัติวงการนาฬิกาอีกครั้งในการผลิตนาฬิกาจักรกลโดยใช้ซิลิคอน ที่มาพร้อมเทคนิคการลงอีนาเมล (ลงยา) ซึ่งเป็นความรู้ของบรรพบุรุษมาผสมผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัยถือเป็นความท้าทาย ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิตทำให้ Freak X Enamel Blue ดูน่าทึ่งมาก”

ผลงานนาฬิการุ่นนี้จะวางจำหน่ายผ่านทาง PMT The Hour Glass และเครือข่ายทั่วทั้งภูมิภาค