Posts

แม้ตัวจะจากไปแต่ผลงานยังคงโดดเด่นและเป็นที่ติดตาม Vivienne Westwood คอลเล็กชั่นล่าสุด Spring/Summer 2023

ถ่ายทำในเขตชานเมืองของกรุงปารีส และบริเวณรอบ ๆ อาคารสูงของเขตที่ 20 ที่ซึ่งภูมิทัศน์ของเมืองแสดงให้เห็นพื้นที่ที่มีการปรับปรุงใหม่และทิวทัศน์ของชั้นดาดฟ้า ชื่อคอลเลคชั่นนี้คือ BORN TO REWILD ซึ่งประกอบด้วยสไตล์ที่หลากหลาย อย่างชุดชั้นในผ้าฝ้าย เดนิมปักลาย ชุดทางกางการ และชุดคลุมลางทางผ้าแจ็คการ์ด ลายพิมพ์ดอกไม้ในรูปแบบใหม่และสไตล์แบบดั้งเดิมที่นำมาตัดกัน

รองเท้าส้นหนาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองเกียวโตที่สวมใส่โดยเท็ดดี้ บอยส์ และร็อคเกอส์ รูปแบบและรูปทรงใหม่ ระบบแพตเทิร์นแบบ ‘ตัดต่อ’ และ ‘ฉีกขาด’ สำหรับชุดสั่งตัด เสื้อเชิร์ต และเดนิมผ้าออร์แกนิค และการตีความของ ‘นักฟุตบอล’ ผ่านเสื้อผ้าไหล่กว้างและทรงเข้าเอว

ผ้าทาร์ทันลายตารางสีนีออนสำหรับฤดูร้อนอย่าง ‘MacAndy’ นำมาจากคอลเลคชั่นแองโกลมาเนีย (Anglomania) ประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ปี ’93 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความนิยมของฝรั่งเศสที่มีต่อการแต่งกายของอังกฤษ อย่างผ้าทวีต ลายตารางทาร์ทันสีสันสดใส รองเท้าแพล็ตฟอร์มอย่างรุ่น Vargas กระโปรงคอร์เซ็ต และแจ็คเก็ตรุ่น Pourpoint

ชุดสูทลายทางสีขาวและฟ้าแบบนักเรียนอังกฤษ รวมถึงเดนิมผ้าแจ็คการ์ดที่ผลิตในประเทศอังกฤษ ร่วมกับรองเท้าแพล็ตฟอร์มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าเท็ดดี้ เกิร์ลส์ (Teddy Girls) ที่เก็บภาพโดยเคน รัสเซล (Ken Russell) และชุดถักในลวดลายเรขาคณิตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานเย็บปักถักร้อยของเยอรมันในศตวรรษที่ 14

ลวดลาย ‘หัวใจ’ ที่คุ้นเคยสำหรับวิเวียน เวสต์วูด ถูกนำมาใช้บนเสื้อสเวตเตอร์ทรงปล่อยและชุดถักต่าง ๆ เพื่อบอกเล่ารูปทรงใหม่ที่เรียกว่า ‘กระบวนการหัวใจ’ บนเดรสและคอร์เซ็ตแบบใหม่

การตัดเย็บแบบไร้เพศในลายพิมพ์ Infinity & Saturn ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ทางโหราศาสตร์ อย่าง ‘Saturn Return’ หรือการกลับมาของดาวเสาร์ ซึ่งกล่าวกันว่าเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง โดยแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและแปรรูปที่สำคัญ 

การฟื้นคืนธรรมชาตินั้นมอบความหวังในการจัดการกับภาวะฉุกเฉินทางธรรมชาติและสภาพอากาศ ในขณะเดียวกันมอบประโยชน์มากมายให้กับผู้คน โดยเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติครั้งใหญ่จนธรรมชาติสามารถกลับมาดูแลตัวเองได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังเปนการฟื้นฟูกระบวนการทางธรรมชาติที่สำคัญและซ่อมแซมระบบนิเวศที่เสียหาย

เราสนับสนุนโครงการ Redwilding Britain rewildingbritain.org.uk ซึ่งดำเนินการไปอย่างทะเยอทะยานเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติครั้งใหญ่ทั่วทั้งพื้นที่ 30% ของสหราชอาณาจักรภายในปี 2030 สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อผู้มีอำนาจ สร้างความตระหนักรู้ และเพิ่มอัตราการฟื้นฟูบนพื้นบกและในทะเลผ่านเครื่อข่าย Rewilding Network ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ Global Rewilding Alliance rewildingglobal.org เราช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั่วโลก

เยี่ยมชมเว็บไซต์ Rewilding Britain สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

rhunrun เรียงเรียง fggt t o n g

เตรียมใช้กันยาวๆ! BOTTEGA VENETA ประกาศ “THE CERTIFICATE OF CRAFT” หรือ “ใบรับรองงานฝีมือ” ซึ่งเป็นโปรแกรมการรับประกันตลอดชีวิตสำหรับกระเป๋า

ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเลือกใช้วัสดุและโดดเด่นด้วยความพิถีพิถันในงานฝีมือ Bottega Veneta ประกาศบริการใหม่ที่ไม่เหมือนใคร: ใบรับรองงานฝีมือ

บริการดูแลฟรีที่จะช่วยยืดชีวิตคุณภาพของงานฝีมือของ Bottega Veneta ให้ยั่งยืนและใช้งานได้นานยิ่งขึ้น โปรแกรมการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน ใบรับรองงานฝีมือนี้มอบการดูแลและซ่อมแซมกระเป๋าอันเป็นเอกลักษณ์ของเราได้อย่างไม่จำกัด

Bottega Veneta เป็นงานฝีมือที่วิจิตรประณีต ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านไอเท็มต่าง ๆ ได้อย่างงดงาม ใบรับรองงานฝีมือเกิดขึ้นจากความปรารถนาที่จะนำเสนอบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าคนสำคัญในการเก็บรักษาสินค้าจาก Bottega Veneta ตลอดการใช้งาน” Leo Rongone CEO ของ    Bottega Veneta กล่าว 

Leo Rongone กล่าว  “Bottega Veneta นำเสนอใบรับรองงานฝีมือ มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการใช้งานได้หลายชั่วอายุคน ทางเรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ รวมถึงการรักษาผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้นานเท่านาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนใบใหม่โดยไม่จำเป็น” 

ซึ่งมาในรูปแบบบัตรแข็งที่เชื่อมโยงกับหมายเลขซีเรียลของผลิตภัณฑ์ที่เป็นโดยนับเป็นสินค้า 1 ชิ้น ใบรับรองงานฝีมือนี้จะให้บริการในร้านของเราโดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้

ด้วยแนวคิดที่ว่ารูปแบบความหรูหราเหนือระดับต้องอาศัยกาลเวลา โดยใบรับรองงานหัตถกรรมจึงเป็นหนึ่งในรากฐานของหลักในการก่อตั้ง Bottega Veneta “วิสัยทัศน์ของเรายังคงสอดคล้องกับหนึ่งในผู้ก่อตั้งของเรา เขาต้องการให้ Bottega Veneta สะท้อนความหรูหราและเหนือระดับ เราใช้เวลาวันแล้ววันเหล่า ไม่ใช่เพียงหลักชั่วโมง ในการรังสรรค์สินค้าทุกชิ้น พวกมันถูกออกแบบมาให้คงอยู่และใช้งานได้ตราบนานเท่านาน” Leo Rongone กล่าว

ลดผลกระทบต่อธรรมชาติของเชื้อเพลิงทางอากาศเพื่อการเดินทางที่ยั่งยืน VALENTINO เข้าร่วมโครงการ SAF CORPORATE PROGRAMME ของ AIR FRANCE และ KLM

– Air France และ KLM และ Maison Valentino มีความภูมิใจที่จะประกาศข้อตกลงเพื่อสนับสนุนโครงการ SAF (Sustainable Aviation Fuel) ของกลุ่มสายการบินที่สนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนการเดินทางที่ยั่งยืนในอนาคต

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ในเส้นทางสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงของ Maison Valentino การสนับสนุนการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยจิตสำนึกนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการปกป้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการทำธุรกิจในรูปแบบโมเดลที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมสอดคล้องกับแก่นของวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและมั่นคง โดยตระหนักรู้ว่าเส้นทางสู่ความยั่งยืนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา (และเชื้อเพลิง) สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับระบบนิเวศเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในระดับโลกอีกด้วย

 “การผลิตเชื้อเพลิงหมุนเวียนสำหรับการบินเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคส่วนของเรา  องค์กรที่สำคัญอย่าง Maison Valentino ได้เข้าใจถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งยังยึดมั่นในปรัชญาเดียวกันนี้ ด้วยข้อตกลงนี้ เรามั่นใจว่าเส้นทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคน้อยลงและทำให้เราสามารถที่จะจัดสรรเชื้อเพลิงที่เพียงพอต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างยั่งยืนในวงกว้างด้วยราคาที่เหมาะสมกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล” Stefan Vanovermeir กรรมการผู้จัดการของ Air France และ KLM East Mediterranean

บริษัทคู่ค้าของ Air France และ KLM อย่าง Maison Valentino จะสามารถคาดการณ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของพวกเขาและยังสามารถกำหนดจำนวนเงินบริจาครายปีที่พวกเขาต้องการมอบให้กับโปรแกรมผ่านโครงการ SAF

Air France และ KLM จะนำเงินสนับสนุนทั้งหมดที่ได้จากการบริจาคไปใช้ในการจัดหาเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนสำหรับการบินเพื่อสนับสนุนโครงสร้างของอุตสากรรมการเดินทางทางอากาศไปสู่การมีความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น การลงทุนในโครงการนี้ บริษัทพันธมิตรจะดำเนินการร่วมกันอย่างโปร่งใสเป็นรูปธรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินสีเขียวแห่งนวัตกรรมทางเลือกใหม่

Maison Valentino – ในแง่ของวัฒนธรรมองค์กรและความมุ่งมั่นที่ถูกยกระดับขึ้นในการปกป้องผู้คนและอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม เมซงยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอเอกลักษณ์และรากฐานขององค์กรผ่านบทสนทนาแห่งนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบและตระหนักรู้ การเติบโตในเส้นทางสีเขียวนี้มีความเด่นชัดมากขึ้นเพื่อแสวงหาทางเลือกใหม่ๆ และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

เชื้อเพลิงที่ยั่งยืนสำหรับการบินคือกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

เป้าหมายของ Air France และ KLM คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อ ผู้โดยสาร/กิโลเมตร ทั้งหมดที่ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2548Air France และ KLM ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับผู้ถือผลประโยชน์ร่วมและหน่วยงานสาธารณะเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Air France และ KLM ได้มีส่วนร่วมในโครงการการวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือก โดยในปี 2554 บริษัทสายการบินทั้งสองยังเป็นบริษัทแรกๆ ที่ดำเนินกิจการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ด้วยเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนแสดงให้เห็นว่ายังมีทางเลือกอื่นที่สามารถมาทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้

ณ วันนี้ เชื้อเพลิงที่ยั่งยืนสำหรับการบินสามารถผลิตได้จากน้ำมันที่ใช้แล้ว วัสดุรีไซเคิลและเศษไม้จากป่า โดยสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงมอเตอร์ของเครื่องบินและสามารถลดการปล่อยมลพิษได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงทั่วไป  ในขณะที่ความท้าทายหลักในปัจจุบันคือการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่บริษัทคู่ค้าของ Air France และ KLM สามารถมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมได้โดยการบริจาคสนับสนุนโปรแกรม

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Air France ได้นำเสนอ Airbus A220-300 ลำแรกประหนึ่งอัญมณีอันล้ำค่าขององค์กรที่โดดเด่นในการส่งของทั้งระยะใกล้และระยะไกล เพื่อช่วยขจัดคาร์บอนของแต่ละภาคส่วนและสอดคล้องกับกลยุทธ์การนำกลับมาใช้ใหม่ของสายการบิน Air France และ กลุ่ม KLM 

ถือเป็นเครื่องบินลำใหม่ที่มีสมรรถนะด้านพลังงานที่ไม่มีใครเทียบได้ รับประกันการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงถึง 20% และลดเสียงได้ถึง 34%ความมุ่งมมั่นสู่ความยั่งยืนในครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการช่วยเหลือสายการบินที่จำเป็นต้องลดต้นทุนอีกด้วย

ในช่วงเวลาที่การรับรู้ถึงสภาพอากาศเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ของบริษัทหลายแห่ง โปรแกรมสำหรับองค์กรของ SAF เปิดโอกาสให้คู่ค้าของ Air France และ KLM มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย Maison Valentino สนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกและการผนึกกำลังกันบนเส้นทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเชื่อมั่นว่าเป็นกลไกที่ยั่งยืนของแบรนด์

rhunrun เรียบเรียง

F gg T ng

a ot o

อีกหนึ่งก้าวเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยื่น Valentino เปิดตัวโครงการ Open for a Change นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ (Bio-based) มาใช้ในการออกแบบ

Maison Valentino เปิดตัวโครงการ Open for a Change โดยนำรองเท้าสนีกเกอร์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมซงทั้งรุ่น Open และ Rockstud Untitled มาออกแบบและนำเสนอในรูปแบบใหม่ด้วยแนวคิดและความตั้งใจในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งการเสาะหานวัตกรรมใหม่ๆและคัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิต อย่างเช่นการนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ (Bio-based) มาใช้ในการออกแบบรองเท้า Open และ Rockstud Untitled เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเดินเข้าสู่ความยั่งยื่นอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันก็ยังคงซึ่งความสวยงามและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงไว้

รองเท้าสนีกเกอร์หลากสีสันในครั้งนี้ถูกผลิตโดยใช้วัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักทั้งการนำเส้นใยวิสโคสและโพลียูรีเทนที่ผลิตจากข้าวโพดมาใช้แทนหนังส่วนบนของรองเท้าทั้งสองรุ่นและด้านข้างของรุ่น Open ส่วนเชือกผูกรองเท้าก็ถูกผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลทั้งหมด ในขณะที่ Stud หมุดอันเป็นเอกลักษณ์ของ Valentino ในรุ่น Rockstud Untitled ก็ผลิตจากไนลอนรีไซเคิลเช่นเดียวกัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนี้ยังสะท้อนไปถึงบรรจุภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากผ้าฝ้ายรีไซเคิลและกระดาษที่มาจากป่าที่มีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

Valentino Garavani Open for a Change นั้นโดดเด่นด้วยความปราถนาในการเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับการรักษางานหัตถศิลป์อันมีมาอย่างยาวนานของเมซง ภารกิจหลักคือการให้ความสำคัญกับปัจจุบัน ณ ตอนนี้เพื่อตอบคำถามปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันผ่านชิ้นงานอันเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลาผ่านยุคสมัยและเทรนด์ ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการไตร่ตรองอย่างสงบผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ มุ่งไปยังอนาคตโดยปฏิเสธซึ่งทางลัด จิตสำนึกจะทำหน้าที่เป็นเข็มทิศตลอดเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงในโครงการ Open for a Change ของ Valentino ไม่เพียงแค่เมซง แต่ยังรวมไปถึงชุมชนด้วย

รองเท้าสนีกเกอร์ทั้งสองได้เปิดตัวในช่วง Paris Fashion Week ตั้งแต่วันที่ 1-5 ตุลาคม โดยถูกจัดวางชั่วคราวที่ร้าน Rombaut ที่ตั้งอยู่ใกล้กับหอ Eiffel ร้าน Rombaut นี้มีชื่อเสียงในการสนับสนุนโครงการความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับค่านิยมในปัจจุบัน Valentino Garavani Open for a Change มีวางจำหน่ายแล้วในร้าน Valentino ทั่วโลกและผ่าน e-commerce  ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่อย่างเป็นทางการ ไม่เปลี่ยนผันตามฤดูกาลและสอดคล้องกับความนิยมของทุกสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยวิสัยทัศน์ สุนทรียภาพ และความงามแบบคลาสสิกของ Valentino

เรียบเรียง rhunrun

เท่และเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้มากๆ Austin Babbitt ศิลปินมาแรงจากอเริกาแปลงโฉมเสื้อตัวเก่าเป็นมาร์กเท่ๆสไตล์สตรีท!

เท่และเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้มากๆ Austin Babbitt (@asspizza) ดีไซเนอร์หนุ่มจากนิวยอร์ก หยิบเอาเสื้อยืดตัวเก่ามาทำเป็น mask แบบสวมหัวที่เย็บเสริมบริเวณขอบตาและจมูก พร้อมสกรีนลายรอบปากและกรอบหน้า

Austin Babbitt

ซึ่งถึงแม้จะอายุเพียงแค่ 22 ปีแต่เจ้าตัวก็ได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Supreme รวมถึงศิลปินฮิปฮอประดับแถวหนัาทั้ง Kanye West และ Wiz Khalifa มาแล้วครับ

ด้วยสไตล์ดิบๆที่หยิบเอาของใกล้ตัวมาคัสตอมด้วยสีสันร้อนแรงและกราฟฟิกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ดุดัน ใครจะลองหยิบเสื้อตัวเก่ามาทำตามก็ได้นะครับ!

เรื่อง-เรียบเรียง rhunrun

เนื่องในวัน Earth Day เราขอพาย้อนไปชมคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าชั้นสูงที่เล่นกับวัสดุธรรมชาติได้อย่างสนุก Jean Paul Gaultier Spring/Summer 2010 Haute Couture

สำหรับวัน Earth Day รักษาสิ่งแวดล้อมประจำปีนี้เราขอย้อนเอาคอลเล็กชั่นที่นำวัสดุธรรมชาติมาผสมผสานกับเสื้อผ้าชั้นสูงได้อย่างลงตัว Jean Paul Gaultier ในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2010 haute couture

โดยโชว์นี้ยังมีเซอร์ไพรส์(ในภาพสุดท้าย) ด้วยการนำดีว่าตัวแม่ Rihanna มารับบทตากล้องอีกด้วยครับ รักธรรมชาติอย่างมีสไตล์จริงๆสำหรับดีไซเนอร์ระดับตำนานชาวฝรั่งเศส

เรื่อง-เรียบเรียง rhunrun

KATE XOXO แพลตฟอร์มเพื่อคนยุคใหม่ที่มีความหลงใหลในแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม กับสื่อกลางในการส่งต่อสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นมากกว่าช่องทางซื้อขายสินค้าแฟชั่นเท่านั้น

คุณอาจจะสงสัยว่า KATEXOXO.COM นั้นเป็นใคร? แล้วทำไมจึงต้องมีแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา? KATE คือกลุ่มคนยุคใหม่ที่มีความหลงใหลในแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม สนใจในเทคโนโลยีที่เชื่อมผู้คนเข้าหากัน KATE สนุกกับการแต่งตัวชอบการมิ๊กซ์แอนด์แมตช์ และยังให้ความสำคัญกับการใช้สินค้าแฟชั่นแบบหมุนเวียน KATE อยากสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กลุ่มคนแฟชั่นผ่าน KATEXOXO.COM แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นเหมือน Luxury Market Place สื่อกลางในการส่งต่อสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นมากกว่าช่องทางซื้อขายสินค้าแฟชั่นเท่านั้น

อกจากจะเป็นหนึ่งช่องทางในการส่งต่อสินค้าแฟชั่นแล้ว KATEXOXO.COM ยังนำเสนอข่าวคราวความเคลื่อนไหวในโลกแฟชั่น บอกเล่าประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่แฝงอยู่ในงานดีไซน์ชิ้นคลาสสิกแต่ละชิ้นที่จะทำให้คุณตกหลุมรักแบรนด์เหล่านั้นมากขึ้นไปอีก รวมถึงคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ในการดูรายละเอียดสินค้าแบรนด์เนมแบบเจาะลึก เพื่อให้คุณได้เข้าถึงรายละเอียดของงานฝีมือและคุณค่าที่อยู่ในชิ้นงานที่มากไปกว่าการใช้วัสดุราคาแพง

Buy, Sell and Share

the sustainability of luxury pre-owned fashion.

การซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมมือสองหรือ Pre-owned นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งโซเชียลมีเดียนับเป็นช่องทางที่มีอิทธิพลในการซื้อขายมากที่สุด แต่หลายครั้งที่เรายังขาดความมั่นใจในการซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มนี้เนื่องจากไม่มีหน้าร้านหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือในการการันตีสินค้าว่าเป็นของแท้ มีความเสี่ยงในการที่จะได้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์รวมถึงความเสี่ยงจากการฉ้อโกงจากเหล่ามิจฉาชีพ 

จากความเสี่ยงและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการซื้อ ขาย สินค้าแบรนด์เนมบนแพลตฟอร์มที่ขาดความน่าเชื่อถือ ทำให้ KATE นั้นเล็งเห็นช่องทางในการแก้ปัญหาและสร้างแพลตฟอร์มในการส่งต่อแฟชั่นไอเท็มที่คุณรักไปยังเจ้าของใหม่ ด้วยการเห็นคุณค่างานฝีมือของสินค้าแบรนด์เนม เป็นการหมุนวนใช้สินค้าแฟชั่นเพื่อลดการใช้สินค้าใหม่ที่ฟุ่มเฟือยจนเกินไปในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยปริยาย โดยมี KATEXOXO.COM เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแบบ end to end ที่คุณสามารถลงขายด้วยการโพสรูปและลงรายละเอียดสินค้าด้วยตัวเอง หลังจากได้รับการตรวจสอบจากทาง KATE XOXO.com สินค้าจะถูกโพสขายบนหน้าเว็บไซต์ โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียมการฝากขายและค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินรวมอยู่ที่ 5.5% ของราคาสินค้า  พร้อมมีบริการขนส่งที่มั่นใจได้ว่าสินค้าจะไปถึงมือผู้รับได้อย่างแน่นอน

รับชมไอเท็มทั้งหมดและบทความแฟชั่นได้ที่นี่ครับ

Stan Clothing แบรนด์แฟชั่นรักษ์โลกกับการ upcycling สร้างเสื้อผ้าสุดเท่ที่มีตัวเดียวในโลก!

ท่ามกลางเทรนด์การรีไซเคิลหรือการ upcycling แปรรูปไอเท็มแฟชั่นเพื่อเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆโดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ อีกหนึ่งแบรนด์จาก California ที่นำเสนอเรื่องนี้ได้อย่างมีสไตล์มากๆก็คือ Stan Clothing โดยหนุ่มนักโต้คลื่นวัย 23 ปี Tristan Detwiler

ซึ่งคอลเล็กชั่นเปิดตัวหนุ่มนักอนุรักษ์คนนี้ก็ตัดเอาผ้าห่มและผ้านวมเก่ามาทำเป็นเสื้อผ้าทั้ง แจ๊กเก็ตหลายดีไซน์ เสื้อถัก กางเกง รวมไปถึงกระโปรง อีกด้วย
เป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับผ้าเก่าอายุกว่า 130 ปีใน Southern California ครับ และคอลเล็กชั่นนี้ก็จะได้โชว์ที่ New York Fashion Week ด้วยถือว่าเป็นไอเดียและเรื่องราวดีๆของวงการแฟชั่นครับ!

Emily Oberg ปล่อยคอลเล็กชั่นล่าสุดจากแบรนด์ Sporty & Rich กับเสื้อผ้ามีสไตล์ ใส่สบายและยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม!

อีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังมาแรงสุดๆ Sporty & Rich โดย influencer สาวมากสไตล์ผู้หลงรักการออกกำลังกาย Emily Oberg และสำหรับคอลเล็กชั่นล่าสุด Fall/Winter 2020 นี้เจ้าตัวก็ยังคงคอนเซ็ปท์ความเรียบเท่สวมใส่ง่ายแต่สนุกด้วยลายกราฟฟิก โดยเลือกใช้สีที่ mix & match ได้ง่ายอย่าง ครีม เทา ขาว ดำ และ เขียวเป็นสีหลัก

พร้อมด้วยดีเทลรักษ์โลกอย่างทุกๆออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งทางแบรนด์จะร่วมปลูกต้นไม้ใน Eden Reforestation Projects ในประเทศ Madagascar 1 ต้น นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์จะใช้วัสดุย่อยสลายได้ตามธรรมชาติทุกชิ้นโดยปราศจากการใช้พลาสติกครับ

รีบไปจับจองกันได้เลยเพราะหลายดีไซน์นั้นเริ่ม Sold out ไปแล้วครับ! ชมรายละเอียดการสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ

รักโลกอย่างมีสไตล์! Prada ตอกย้ำถึงเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

Prada ตอกย้ำถึงเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมประกาศจุดยืนที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในปี 2020 นำเสนอผ่านคอลเลคชั่น Prada Re-Nylon รวบรวมไว้ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และแอคเซสเซอรี่สำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ทุกไอเท็มรังสรรค์ขึ้นจากเส้นด้าย ECONYL® หรือวัสดุไนลอนรีไซเคิล 100%

นับเป็นก้าวสำคัญแห่งการสร้างสรรค์สิ่งทอและการผลิตสินค้าลักซ์ชัวรี่แบบยั่งยืน พบกับคอลลเคชั่น Prada Re-Nylon ได้ที่บูติค Prada ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม เป็นต้นไป