Posts

หล่อให้สุดด้วยชุดสูทสไตล์ต่างๆ ของสายลับ 007

ถามว่าใครคือผู้ชายที่คนทั้งโลกเฝ้าใฝ่ฝันว่าจะเป็น หนึ่งในนั้นย่อมหนีไม่พ้นตัวละครจากนิยายสายลับสุดคลาสสิคอย่างเจมส์ บอนด์ 007 ซึ่งเป็นต้นแบบของชายหนุ่มมาดดี คารมเจ๋ง ฉลาดและแข็งแกร่ง มีเสน่ห์เหลือหลาย แถมยังกระเป๋าหนัก และที่สำคัญพยัคฆ์ร้าย 007 ยังดูดีเสมอในชุดสูทเนี้ยบกริบชนิดที่แผ่รังสีมาแต่ไกล แน่นอนว่าฝ่ายคอสตูมต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อเลือกเฟ้นชุดสูทที่ใส่แล้ว ‘ส่งเสริม’ คาแร็กเตอร์ ไม่ใช่ทำลาย จึงไม่ผิดนักถ้าเราจะลองทำความรู้จักและเรียนรู้การใส่สูทต่างๆ จากบอนด์

พยัคฆ์ร้าย 007 ปรากฎบนจอหนังครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505 โดยใช้ชื่อตอนว่า ‘Dr. No’ ภาพของนักแสดงหนุ่ม (ในตอนนั้น) ฌอน คอนเนอรี ยังตราตรึงในใจทุกคนอยู่ คอนเนอรีในบทบาทสายลับ 007 อยู่ในชุดสูท 3 ชิ้น รวมด้วยโค้ตตัวยาวจาก Anthony Sinclair (แอนโธนี ซินแคลร์) ทั้ง 6 ภาคที่คอนเนอรีแสดงนำ แต่งครบเซตทั้งสปอร์ตแวร์ ดินเนอร์ แจ๊กเก็ต และทักซิโด้

ให้ตายสิ จะมีใครใส่สูทสีขาวกลัดดอกไม้แดงได้เท่เท่าณอนอีก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 จอร์จ ลาเซนบี ปรากฎตัวในตอน ‘On Her Majesty’s Secret Service’ (และกลายเป็นตอนเดียวของเขา) ในชุดสูทของ Dimi Major (ดีมี เมเจอร์) ในสไตล์คลาสสิกอิงลิช ดินเนอร์ แจ๊กเก็ต ลุคเด่นได้แก่ชุดสูทผ้าลินินสีขาวและชุดสูทกระดุม 2 แถว

แม้โผล่มาตอนเดียวแต่ก็ยังไม่ทิ้งมาดสายลับ

 

การมาถึงของโรเจอร์ มัวร์ ในพ.ศ. 2516 กับตอน ‘Live and Let Die’ ก็ถึงตาของ Douglas Hayward (ดักลาส ฮาวาร์ด) ร้านตัดสูทเก่าแก่ของประเทศอังกฤษที่มัวร์มักจะปรากฎตัวในชุดสูท 3 ชิ้น ตัดเย็บจากผ้าขนสัตว์ลายทางทั้งแบบกระดุมแถวเดียวและแบบ 2 แถว รวมถึง Morning Coat ยังไม่นับเนคไทลายทะแยงสลับสีแดงที่แฟนพันธ์แท้ย่อมจำได้ไม่ลืม

หนึ่งในนักแสดงที่ได้รับบทเจมส์ บอนด์ ยาวนานถึง 7 ภาค

 

อีก 2 ปีต่อมา ทิโมธี ดาลตัน ได้รับบทเจมส์ บอนด์ ครั้งแรกในตอน ‘The Living Daylights’ ซึ่งเป็นสายลับเพียงคนเดียว ที่ไม่มีการบันทึกว่าดาลตันใส่ชุดสูทของแบรนด์อะไร แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 2 ตอน ที่ดาลตันแสดงนำ (The Living Daylights และ Licence to Kill) เป็นภาคที่บอนด์แต่งตัวลำลองมากที่สุดแล้ว (ไม่นับทรงผมที่ยุ่งเหยิงตลอดเวลา)

สายลับ 007 ที่ลำลองและผ่อนคลายมากที่สุด

เมื่อ เพียร์ซ บรอสแนน มารับบทสายลับใน ‘Golden Eyes’ ปีพ.ศ. 2538 บรอสแนนปรากฎตัวในชุดสูทคัตติ้งคมกริบของ Brioni (บริโอนี) ไม่ว่าจะชุดสูท 3 ชิ้น แจ๊กเก็ตตัวยาว แจ๊กเก็ตกระดุม 2 แถว ปกสไตล์ Peaked Lapels ทักซิโด้ รวมไปถึงสูทผ้าลินินในตอน ‘Die Another Day’ ส่วนตอนสุดท้ายของบรอสแมนอย่าง ‘The World Is Not Enough’ ก็ได้ชื่อว่าเป็นเจมส์ บอนด์ที่แต่งตัวดีที่สุด

เจมส์ บอนด์ ภาคนี้ได้รับการขนานามว่าแต่งตัวดีที่สุด

เจมส์ บอนด์คนล่าสุดได้แก่ แดเนียล เคร็ก ปรากฎตัวในชุดสูทของบริโอนีใน ‘Casino Royale’ ปี พ.ศ. 2549 เพียงตอนเดียว หลังจากนั้น บอนด์คนล่าสุดก็เปลี่ยนไปสวมชุดสูทของ Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) ในแทบทุกภาค ไม่ว่าจะแจ๊กเก็ตทรง Regency กระดุม 2 เม็ด หรือแจ๊กเก็ตทรง O’ Connor กระดุม 3 เม็ด ที่ทอม ฟอร์ด ดูแลลุคให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า

เมื่อทอม ฟอร์ด เริ่มเข้ามาคุมเจมส์ บอนด์ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

เพื่อสูทที่สมบูรณ์แบบ คุณจะยอมเปลือยกายหรือไม่?

ถ้าคุณเคยเข้าร้านตัดสูท คุณก็จะเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสูท Bespoke หรือ สูทตัดตามสั่ง และสูท Ready-to-Wear หรือสูทสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามห้าง หลายคนเลือกสูท Ready-to-Wear เพราะมีข้อดีตรงที่ราคาไม่แพงและที่สำคัญ เร็ว ไม่ต้องเสียเวลากับการวัดตัวอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งการรอการตัดเย็บที่นานพอสมควร ซึ่งเหตุผลนี้อาจจะทำให้ผู้ชายหลายคนมองข้ามการตัดสูทแบบ Bespoke ไปได้ แต่วันนี้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ คล้ายกับเทคโนโลยีจาก Xbox Kinect เรียกว่า 3D Body Scanner ที่กำลังได้ความนิยมทั่วโลก ที่ร้านสูท Bespoke ชื่อดังหลายร้านเปลี่ยนมาใช้ ความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับการตัดสูทที่พอดีกับโครงร่างและบุคคลิกภาพของคุณก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และคุณจะเข้าใจว่าสูทดีๆ สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้จริง

suit_scan_inline

Alton Lane ร้านสูท Bespoke ชื่อดังในย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก เปิดให้บริการรับตัดสูทจากลูกค้าทั่วโลกมาตั้งแต่ในปี 2009 และโด่งดังเพราะเป็นหนึ่งในร้านแรกๆ ที่นำเครื่องสแกนสามมิติ 3D Body Scanner มาใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการผลิตให้ลูกค้า โดยใช้เวลาในการวัดสรีระร่างกายไม่ถึง 10 วินาที หลังจากพูดคุยกับลูกค้าถึงจุดประสงค์ในการตัดและรสนิยมที่ลูกค้าคาดหวัง รวมไปถึงการเลือกเนื้อผ้า แพทเทิร์น และวัสดุที่จะใช้ในลายละเอียดต่างๆ ของสูท ช่างออกแบบของร้านก็จะเชิญลูกค้าเดินเข้าไปในเครื่องสแกนที่มีลักษณะเหมือนกับตู้โทรศัพท์ทั่วไป มีขนาดเล็กและกินพื้นที่ไม่มาก เครื่องจะสแกนไปบนร่างกายของลูกค้าโดยใช้เซ็นเซอร์ทั้งหมด 16 จุด ทำการกำหนดจุดสำคัญต่างๆ บนร่างกายและวัดสัดส่วนของร่างกายโดยอัตโนมัติ จัดเก็บข้อมูลและส่งผลไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล โดยเชื่อมจุดสำคัญต่างๆ เข้าหากันจนเห็นเป็นโครงร่างและสัดส่วนของลูกค้าบนพื้นผิวแบบ 3 มิติ ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็วกว่าการวัดด้วยมือกับสายวัดที่เคยทำมา ซึ่งไฮไลท์ของเทคโนโลยีตัวนี้คือการที่เครื่องสามารถวัดสัดส่วนของร่างกายได้ถึง 120 จุดในเวลาสั้นๆ ขณะที่ร้านตัดเสื้อสูททั่วไปวัดสัดส่วนของร่างกายได้เพียงแค่ 20-30 จุดในเวลาที่นานกว่า (แถมขั้นตอนการวัดสัดส่วนด้วยสายวัดยังทำให้ผู้ชายหลายคนรู้อึดอัดอีกด้วย)

why-altone-image-1

ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนตัดสูทโดยใช้เทคโนโลยี 3D Body Scanner คือ สูทที่ตรงใจ และพอดีทุกสัดส่วน ไม่ต้องกลับมาลองและวัดตัวซำ้ๆ ให้เสียเวลาเหมือนกับร้านตัดสูทอื่นๆที่มีจะการวัดตัวทั้งหมด 3 ครั้งเป็นอย่างตำ่ และที่สำคัญดูดีกว่าสูทสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป ที่อาจจะดูทันสมัย แต่จะแก้ยังไงไซส์ก็ไม่ตรงกับผู้สวมใส่อยู่ดี ลงทุนอีกสักนิด บวกกับการดูและรูปร่างและการซักอบรีดดีๆ คุณอาจจะมีสูทที่อยู่คู่กับคุณยาวไปจนแก่เลยก็ได้นะ

null

ไม่เพียงเท่านั้น การวัดร่างกายด้วยวิธีการสแกนสามมิตินี้ไม่ได้มีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกนำมาใช้ในงานด้านการแพทย์ และนำไปประยุกต์ต่อยอดใช้ในงานสแกนสามมิติแบบอื่นๆอีกด้วย

fitting

Alton Lane’s “How It Works” Video

How to blend in? ความเป็นหนุ่มอิตาเลี่ยนที่ถูกถ่ายทอดผ่านเครื่องแต่งกาย

ผู้ชายอิตาเลี่ยนมีความเป็นตัวเองสูง พวกเขาถ่ายทอดมันผ่านเครื่องแต่งกายของตน ในฝูงชนมากมายชายหนุ่มอิตาเลี่ยน พบเห็นและสังเกตได้อย่างง่ายดาย เหตุใดผู้ชายอิตาเลี่ยนถึงมีสไตล์ที่แสนน่าหลงใหล? สไตล์แบบอิตาเลี่ยนเป็นเรื่องไกลตัวเกินไปหรือไม่?

pitti133-florence-june-17-2011

วันนี้ L’Optimum จะมานำเสนอวิธีต่างๆที่จะสร้างกลิ่นไอแบบอิตาเลี่ยนในการแต่งตัวที่สามารถนำมาปรับใช้กับ everyday life ได้อย่างไม่ยากเย็น

1. สูทแบบกระดุมสองแถว (Double – Breasted)
ถึงจะไม่ได้มีต้นกำเนิดในอิตาลี แต่สูทหรือเบลเซอร์แบบกระดุมสองแถวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากชายหนุ่มอิตาเลี่ยน และปรากฎให้เห็นบ่อยครั้งในงาน Pitti Uomo ที่จัดขึ้น ณ เมืองฟรอเลนซ์ปีละสองครั้ง

tumblr_nu4au1XxeU1tkqurbo1_1280

2.เสื้อเชิ้ตแบบปกคอกว้าง (Spread Collar)
เป็นเสื้อที่มีปกคอกว้างกว่าเสื้อเชิ้ตปกติเล็กน้อย เหมาะกับการผูกเนคไทและได้รับความนิยมคู่กับสูทกระดุมสองแถว

Attolini-1-830x622

3.เนื้อผ้าลินิน
เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื่นตามแบบภูมิภาคแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื้อผ้าบางเบาใส่สบาย อาทิผ้าลินินจึงเป็นเพื่อนแท้ผู้รู้ใจของหนุ่มอิตาเลี่ยน ทั้งสำหรับตัดเสื้อเชิ้ตและตัดสูท นอกจากนั้นรอยยับบนตัวผ้ายังสร้างอารมณ์ที่ relax และเป็นกันเองให้แก่ผู้คนรอบตัว ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของชายหนุ่มอิตาเลี่ยน

Gianni_Dal_Cortivo00

4.เครื่องประดับบนข้อมือ
กำไล หินสี ลูกปัด สร้อยข้อมือ ตลอดจนนาฬิกาแนว Vintage ล้วนแสดงถึงความมั่นใจของผู้สวมใส่ โดยเฉพาะนาฬิกาที่ในยุคดิจิตอลผู้คนดูเวลาผ่านสมาร์ตโฟนเสียส่วนใหญ่ เรือนเวลาที่ใส่ติดข้อมือจึงกลายเป็นเครื่องบอกรสนิยมแทน Vintage Rolex Submariner, Vintage Rolex Daytona และ Vintage Rolex GMT ล้วนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

white-spread-collar-shirt-blue-silk-knit-tie-bead-bracelets-rolex-watch-double-breasted-blazer

5.รองเท้าหนัง Double Monk Straps
รองเท้ามาดหรูที่มาพร้อมสายรัดสองเส้น ขับเน้นความจริงจังบนความ Casual ในเวลาเดียวกัน เหมาะกับการใส่พร้อมสูทและถุงเท้าที่มีลูกเล่นสีฉูดฉาด

shoepassion-double-monk-strap-shoe-review

Content by Suwicha Sangkayoolakul, Photography by gentleman’s gazette, parisian gentleman, archetipo.com and he spoke style

Suit Ladder : การเลือกซื้อสูทตัวแรกและการต่อยอดในวงการสูท

ในวัยเรียน การเลือกซื้อ – ตัดสูท อาจเป็นเรื่องไกลตัว บางคนอาจซื้อสูทเพียงตัวเดียวเพื่อใช้ในงานสำคัญ บางรายอาจพึ่งสูทตัวเก่าของคุณพ่อในตู้เสื้อผ้าประจำตระกูล แต่เมื่อสิ้นสุดวัยเรียน สูทจะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตวัยทำงาน รวมถึงในชีวิตประจำวัน แน่นอนการลงทุนในสูทราคาแพงย่อมมีความเสี่ยงจึงมักเกิดคำถามขึ้นว่า สูทชนิดไหนที่เราควรซื้อเป็นตัวแรก? และหากต้องการเพิ่มสูทไว้ในตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกใส่ตามโอกาสควรเป็นสูทประเภทไหนบ้าง จนเกิดเป็นทฤษฎีว่าด้วย ‘บันไดสูท’ (Suit Ladder) ที่แนะนำผู้เริ่มต้นแบบขั้นต่อขั้น

photo (3)

บันไดขั้นแรก: สูทสีเทาเข้ม
สาเหตุที่เลือกสูทสีเทาเข้มเป็นสูทตัวแรกเพราะสูทสีเทามีประโยขน์ที่หลากหลายและสามารถเข้ากับสีอื่นได้ง่าย สูทสีเทาจึงเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัยและใช้ได้หลายโอกาส

photo

บันได้ขั้นที่สอง: สูทสีน้ำเงินเข้ม (Navy)
สูทสีน้ำเงินเข้มแตกต่างจากสูทสีเทาเข้มตรงที่สูทสีน้ำเงินเข้มแสดงถึงความเหมาะสมในการใช้สอย ใช้สำหรับการประชุม รวมถึงการออกงานสังคมได้เป็นอย่างดี

armani-blue-collezioni-giorgio-notch-lapel-suit-regular-fit-product-1-18114973-1-013601266-normal

บันไดขั้นที่สาม: สูทมีลาย (Pinstripes & Plaid)
หลายคนอาจหยุดเพียงบันไดขั้นที่สอง แต่หากต้องการเพิ่มสีสันให้ตู้เสื้อผ้า สูทแบบ Pinstripes ที่เป็นลายทาง หรือ Plaid ที่เป็นลายตาราง ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดียิ่ง และยังสามารถปรับเป็นแบบ Double – Breasted ได้อีกด้วย

33588b31cb7aede90acd0e1b54436f69

บันไดขั้นที่สี่: สูทสีดำ
ถึงประโยขน์ใช้สอยจะไม่เท่ากับสูทสีเทา แต่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสูทสีดำไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่มีความเป็นทางการสูงตลอดจนงานศพ

Dolce-Gabbana-Spring-Summer-2013-Men’s-Sartorial-Collection-2
บันไดขั้นสุดท้าย: ตามความเหมาะสม
เมื่อมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย เราสามารถเลือกซื้อ – ตัดสูทตามความเหมาะสมและความชื่นชอบของตัวเองได้ โดยเล่นกับสี ลวดลาย หรือเนื้อผ้า เหตุเพราะเรามีสูทที่จำเป็นต่อชีวิตจากบันไดขั้นที่แรกถึงขั้นที่สี่แล้ว

Versace-Spring-Summer-2016-Menswear-Collection-Milan-Fashion-Week-001-800x1202

ทั้งนี้การเลือกซื้อ – ตัดสูท มีรายละเอียดอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับการใช้สอยของแต่ละประเภทและความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

Content by Suwicha Sangkayoolakul

มาดูกันว่าจะใส่สูทให้เหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเราได้อย่างไร

Be a Man, Wear a Suit

ทุกวันนี้กระแสการใส่สูทดูจะเป็นที่นิยมให้หมู่คุณผู้ชาย เห็นได้จากท้องถนนหรือตามห้างสรรพสินค้าที่เราจะพบผู้ชายใส่สูทมากขึ้น ไม่ใช่แค่สูททางการแบบนักธุรกิจ แต่รวมไปถึงสูทแบบลำลองและแจ๊กเก็ตหลากสี แต่ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีความร้อนชื้น คุณผู้ชายบางท่านอาจยังสงสัยว่า จริง ๆ แล้วเราควรใส่สูทอย่างไรให้เหมาะกับสภาพอากาศ ใจหนึ่งก็อยากหล่อ ใจหนึ่งก็กลัวจะร้อนและอึดอัด แต่ถ้าเราบอกว่า มีสูทที่ไว้สำหรับฤดูร้อนโดยเฉพาะล่ะ ?

Suit summer 1200

Summer Suit

แม้สูทจะมีต้นกำเนิดมาจากยุโรป แต่ยุโรปเองก็มีฤดูร้อนที่อากาศอบอ้าวไม่ต่างจากเรา จึงมีสิ่งที่เรียกว่า สูทสำหรับฤดูร้อน (Summer suit) ซึ่งนิยมตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน มีคุณสมบัติระบายความร้อน ไม่หนาและอุ่นเหมือนผ้าขนสัตว์ นอกจากตัวเนื้อผ้าแล้ว สูทสำหรับฤดูร้อนจะเป็นแบบไม่มีซับใน (Unlined) เพื่อช่วยให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

Linen vs. Cotton

ผ้าทั้งสองชนิดระบายความร้อนได้ไม่ต่างกัน แต่ความพิเศษของผ้าลินินคือเมื่อใส่จะเกิดรอยยับ ไม่ว่าจะบริเวณหลัง หรือช่วงแขน ซึ่งให้ลุคสบาย ๆ ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ในขณะที่ผ้าคอตตอนอาจจะยับน้อยจึงดูเรียบร้อยกว่า

Colors

ฤดูร้อนคือความสดใส สีของสูทฤดูร้อนจึงนิยมสีสดหรือสีพาสเทล เช่น ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน เขียวอ่อน หรือจะน้ำเงินเข้มก็ดูดี

Accessories

อย่ากลัวที่จะเพิ่มลูกเล่นให้กับสูทฤดูร้อนของเราด้วยผ้าเช็ดหน้าสีตัดกันสักพื้นพับใส่ตรงกระเป๋าอก (Pocket square) หรืออาจติดดอกไม้ผ้า (Boutonniere) บริเวณปกเพื่อเพิ่มความสนุก

แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือนาฬิกาเท่ ๆ สักเรือนที่จะช่วยให้ลุคของคุณดูสมบูรณ์ขึ้น ต่อให้แต่งตัวดีแค่ไหน แต่ถ้ามาสายก็คงหมดกัน นาฬิกาจาก Guess นอกจากจะโดดเด่นเรื่องฟังก์ชั่นที่ครบครันแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย รับรองว่า จะเข้ากับสูทฤดูร้อนของคุณอย่างแน่นอน

Sponser Content by Guess Watch

SUIT ME UP

หลายคนอาจจะคิดว่าการแต่งสูทเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และห่างไกลจากสไตล์ของตัวเอง จนทำให้ลืมว่าต้องมีสูทอยู่ในตู้ แต่เราจะทำให้คุณรู้สึกง่ายขึ้น

loptimum thai s1

ทำไมสูทถึงสำคัญ?

สูทเป็นเครื่องแต่งกายที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย เพราะมันสามารถสะท้อนถึงบุคคลิกรสนิยม และสไตล์ของแต่ละคนได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ชายแต่ละคนอาจจจะชอบสีต่างกัน ดีไซน์ที่ต่างกัน บางคนชอบใส่สูทผ้าลินิน แทนที่จะทอจากผ้าไหมทั้งหมด นอกจากนี้แล้ว สูทยังบ่งบอกถึงความเรียบโก้ ที่สามารถใส่ได้ตั้งแต่วัยรุ่นทั่วไป จนกระทั่งนักธุรกิจระดับสูง

lopimum thai ss1

มีกฎหรือข้อบังคับตายตัวสำหรับการใส่สูทไหม?

ผู้ชายทุกคนควรแต่งตัวให้ดูภูมิฐาน โดยเฉพาะงานที่ดูว่าจะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย การมีสูทที่ดีสักชุดไว้ครอบครอง ทำให้เรามั่นใจว่าการแต่งตัวให้ดูดีเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยร่างกายของผู้ใส่ก็มีส่วน เช่น ตรงไหล่ควรจะเข้ามุมให้ดีกับเสื้อสูท โดยไม่ต้องมีแผ่นฟองน้ำมาช่วยหรือเสื้อสูทที่ดีนั้น ก็ควรจะมีขนาดพอดีกับช่วงอก และที่สำคัญต้องไม่รัดจนเกินไป ใส่แล้วรู้สึกสบาย อ่อ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือเนื้อผ้าและการตัดเย็บ

loptimum s 4

อะไรคือคำนิยามของสูทคุณภาพดี และวิธีเลือกสูทก่อนซื้อสำหรับมือใหม่?

สูทที่ดีต้องผ่านการตัดเย็บจากช่างผู้เชี่ยวชาญ และต้องใช้วัสดุคุณภาพดีเท่านั้น โดยขั้นตอนแรกของการผลิตสูทสักตัวคือการใส่ใจในเรื่องของคัตติ้ง การใช้เครื่องมือในการตัดเย็บ เพราะสูทสักตัวมีโครงสร้างที่สลับซับซ้อน ช่างผู้ชำนาญการจึงจำเป็นสำหรับสูทสักตัวที่มีทั้งความหรูหราและความประณีต

loptimum suit

สูทมีความสำคัญมากแค่ไหนสำหรับคนเอเชียอย่างเรา?

เราสามารถเลือกวัสดุ เพื่อมาตัดสูทแต่ละตัวได้ แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงเช่นกัน การตัดสูทต้องคิดถึงสภาพอากาศที่เหมาะสมในการสวมใส่ ถ้าจะให้แนะนำ ขอเสนอสูที่ตัดจากผ้าลินินผสมผ้าฝ้าย หรือผ้าชนิด อื่นๆที่มีเนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไป

loptimum ss1

สูทมีบทบาทในการแต่งตัวของผู้ชายเมื่อไร?

จะเห็นว่าตอนนี้ผู้ชายหันมาใส่ใจกับการแต่งตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวแบบธรรมดาทั่วไป การแต่งตัวไปทำงาน หรือเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังค้นหาสไตล์ในการแต่งตัวของพวกเขา แต่ไม่ว่าทุกคนจะมีสไตล์การแต่งตัวที่ต่างออกไปอย่างไร ความเรียบร้อย และความสุภาพคือสิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอ มันต้องมีโอกาสสักครั้งบ้างล่ะที่เราต้องออกงานที่เป็นทางการ นั่นคือเหตุผลที่ว่า ‘ทำไมเราถึงต้องมีสูทแขวนไว้ในตู้’

INSPIRATION: RUNWAY

Lanvin lop th

LANVIN

loptimum th s5

DIOR HOMME

loptimum dolce

DOLCE GABBANA