Posts

New Design of Rolex and the Oscars® Greenroom

ในแต่ละปี Rolex ได้พัฒนาประสบการณ์อันน่าดื่มด่ำที่ไม่เหมือนใครและการตกแต่งห้อง Greenroom ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ในปีนี้ห้องกรีนรูมจะรวบรวมบรรยากาศของป่าเขตร้อน ไม่เพียงแค่การสดุดีต่อธรรมชาติ Rolex แสดงความเคารพต่อนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ที่ลงมือปฏิบัติจริงในทุกวันเพื่อปกป้องโลก การแสดงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ระบบนิเวศน์ของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Perpetual Planet Initiative

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ Rolex ได้ร่วมมือกับศิลปินที่มีความสามารถมากที่สุดในโลกและสถาบันทางวัฒนธรรมชั้นนำเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเลิศและมีส่วนร่วมในการสืบสานมรดกทางศิลปะ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ด้วย Rolex Perpetual Arts Initiative ซึ่งเป็นผลงานศิลปะอันกว้างขวางที่ขยายไปถึงดนตรี สถาปัตยกรรม ภาพยนตร์ และโปรแกรมให้คำปรึกษาของ Rolex แบรนด์ดังกล่าวยืนยันความมุ่งมั่นระยะยาวที่มีต่อวัฒนธรรมโลก
ในความพยายามทั้งหมดเหล่านี้ Rolex สนับสนุนความเป็นเลิศทางศิลปะและการถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นหลัง สร้างคุณูปการที่ยั่งยืนต่อวัฒนธรรมทั่วโลก

Rolex รักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับโลกแห่งภาพยนตร์มาโดยตลอด นาฬิกาได้แสดงบทบาทของตัวเองบนข้อมือของตัวละครในตำนานในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงผลงานชิ้นเอกที่ได้รับรางวัลออสการ์หลายเรื่องเช่นกัน และในวันนี้ ด้วยการสนับสนุนความเป็นเลิศทางศิลปะและเทคนิคในการสร้างภาพยนตร์ Rolex เองได้กลายเป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในนามของตนเอง

Rolex สนับสนุนการอนุรักษ์และถ่ายทอดศิลปะภาพยนตร์ ส่งเสริมความเป็นเลิศ และเฉลิมฉลองความก้าวหน้าด้วยการร่วมแสดงกับตำนานที่มีชีวิตและพรสวรรค์รุ่นเยาว์ผ่าน Testimoneses (Martin Scorsese และ James Cameron) ความร่วมมือกับ Academy of Motion Picture Arts and Sciences (สถาบัน รางวัลและ Academy Museum ในลอสแองเจลิส) และ Rolex Mentor and Protégé Arts Initiative
ROLEX และ CINEMA: การเคลื่อนไหวที่คิดค้นขึ้นใหม่ตลอดเวลา

ภาพยนตร์คือการเคลื่อนไหวที่ไม่สิ้นสุด มีอำนาจในการทำให้ประวัติศาสตร์มีชีวิตและสำรวจทุกอนาคตที่เป็นไปได้ ทั้งส่วนรวมและส่วนบุคคล เช่นเดียวกับนาฬิกา Rolex โรงภาพยนตร์ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำและแรงบันดาลใจของเรา เป็นพยานถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นของเราที่จะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ ที่เราอาจพบระหว่างทาง มากกว่าแค่ 24 เฟรมต่อวินาทีหรือ 24 ชั่วโมงภายในหนึ่งวัน มันรวบรวมแก่นแท้ของอารมณ์ของเรา

ROLEX และ CINEMA เขียนประวัติศาสตร์เคียงข้างกัน
ในปี 1926 Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Rolex ได้คิดค้นนาฬิกาข้อมือกันน้ำที่ปฏิวัติวงการจนเป็นข่าวพาดหัว นั่นคือ Oyster เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ผู้ชมต่างประหลาดใจกับ The Jazz Singer ซึ่งเป็นภาพยนตร์เสียงเรื่องแรก ช่วงเวลาทั้งสองเหตุการณ์นี้ส่งสัญญาณถึงการมาถึงของการสร้างภาพยนตร์สมัยใหม่และการผลิตนาฬิกาสมัยใหม่ด้วยเช่่นกัน ในปี 1921 Rolex ได้เปิดตัว Oyster Perpetual ที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น นาฬิกาข้อมือไขลานอัตโนมัติแบบกันน้ำเรือนแรกที่มีโรเตอร์ Perpetual ในขณะเดียวกัน โรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังสีก็เปิดตัวบนเป็นจอใหญ่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Rolex และโรงภาพยนตร์มักจะเป็นส่วนหนึ่งของการนำยุคสมัยเสมอ จนถึงทุกวันนี้ พวกเขายังคงแบ่งปันการแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และความก้าวหน้า ซึ่งส่งเสริมแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า เหล่าคนดังจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะสวมใส่ Rolex บนจอภาพยนตร์ แต่หลังจากเป็นดารารับเชิญบนข้อมือของพวกเขาทั้งต่อหน้าและหลังกล้อง Rolex ก็จะสวมบทบาทเป็นนักแสดงนำในไม่ช้า


ในปี 2017 เหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์จะช่วยประสานความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่าง Rolex และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ประการแรก ผู้กำกับ Martin Scorsese ร่วมงานกับ James Cameron ในฐานะ Rolex Testimonee และในปีเดียวกันนั้น ทางแบรนด์ก็ได้ผนึกความร่วมมือกับ Academy of Motion Picture Arts and Sciences ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ Rolex กลายเป็น Exclusive Watch ของ Academy of Motion Picture Arts and Sciences, Proud Sponsor of the Oscars® และ Exclusive Sponsor of the Governors Awards Rolex ทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนผู้ก่อตั้ง Academy Museum of Motion Pictures ซึ่งเปิดทำการในลอสแองเจลิสในเดือนกันยายน 2021
Rolex ส่งเสริมความเป็นเลิศ ทั้งด้านความรู้ การอนุรักษ์ศิลปะ และผู้ที่มีความสามารถ พันธกิจของ Academy คือการรักษาความเป็นเลิศด้านภาพยนตร์และรักษามรดกนี้ไว้ให้คนรุ่นหลัง เพื่อจุดประกายจินตนาการและเฉลิมฉลองคุณค่าสากลของภาพยนตร์ ดังนั้นจึงเป็นการบรรจบกันของคุณค่าระหว่าง Rolex และ Academy ที่เน้นผ่านความร่วมมืออันยาวนานนี้

นักแสดงรับเชิญเป็นคำที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เพื่ออธิบายลักษณะการปรากฏตัวของของบุคลิกที่มีชื่อเสียงในภาพยนตร์ในชั่วขณะหนึ่ง เป็นเวลาเกือบศตวรรษที่ Rolex ปรากฏตัวบนข้อมือของนักแสดงฮอลลีวูดระดับตำนาน นาฬิกา Rolex เสริมสร้างเอกลักษณ์ของตัวละครที่สวมใส่ด้วยสัญลักษณ์อันทรงพลัง ที่พวกเขาได้ปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เมื่อตัวละครสวมนาฬิกา Rolex นี่เป็นทางเลือกทางศิลปะที่นักแสดงและผู้กำกับเป็นผู้เลือก ด้วยนาฬิกาเหล่านี้และการมีอยู่ของหน้าจอ Rolex เป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งภาพยนตร์อย่างแยกไม่ออก เมื่อนักแสดงเลือกสวมนาฬิกา Rolex การมีนาฬิกาบนข้อมือจะเพิ่มมิติให้กับโครงเรื่องและเอฟเฟ็กต์ส่วนตัวที่จะช่วยให้ตัวละครมีประวัติศาสตร์ อดีต และโชคชะตาที่เป็นไปได้ เผยให้เห็นถึงนิสัยใจคอ รสนิยม ค่านิยม แรงบันดาลใจ และความคิดของผู้สวมใส่ นี่จึงไม่ใช่เพียงแค่นาฬิกาหรือเครื่องประดับสำหรับการสวมใส่ให้ครบสำหรับชุดของนักแสดงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายมากกว่านั้นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge

Photography: Courtesy of rolex

Author: Sethapong Pawwattana

The Oyster Perpetual Deepsea Challenge, waterproof to a depth of 11,000 metres (36,090 feet)

ผลจากความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาสำหรับการดำน้ำของ Rolex และเป็นเรือนเวลาที่แสดงถึงความก้าวหน้าในการพิชิตความลึกใต้มหาสมุทร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิการุ่นทดลองที่ James Cameron สวมใส่ขณะดำดิ่งสู่บาดาลที่ร่องลึกมาเรียนาด้วยความลึกระดับ 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) เมื่อปี 2012 และมาพร้อมกับการกันน้ำที่รับประกันได้สูงถึง 11,000 เมตร (36,090 ฟุต) กลไกคาลิเบอร์ 3230 ที่เปิดตัวในปี 2020 สามารถประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้นประมาณ 70 ชั่วโมง จากคุณสมบัติสองประการ ประการแรกคือความหนาของผนังกระปุกลานที่บางลงเพื่อการใส่สปริงที่ยาวขึ้นจึงสามารถเพิ่มปริมาณการเก็บพลังงานให้มากขึ้นได้ และอีกประการคือการทำงานของชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ซึ่งผลิตขึ้นจากนิกเกิล-ฟอสฟอรัสที่ผ่านการจดสิทธิบัตรแล้ว เป็นการผนวกรวมกันของประสิทธิภาพด้านพลังงานอันยอดเยี่ยมและน่าเชื่อถือ และไม่เกิดผลกระทบใดๆ เมื่อต้องเผชิญกับการรบกวนจากสนามแม่เหล็ก

ROLEX PERPETUAL PLANET INITIATIVE พันธมิตรโครงการ MISSION BLUE กับภารกิจปกป้องเขตอนุรักษ์ทางทะเลกาลาปากอส

25 ปีแห่งการปกป้องเขตอนุรักษ์ทางทะเลกาลาปากอส ภายใต้แนวคิดริเริ่มPerpetual Planet ซึ่ง Rolex ได้สนับสนุนโครงการ Mission Blue องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านการอนุรักษ์มหาสมุทรตามเป้าหมายการสร้างเครือข่ายระดับโลกสำหรับ Hope Spot พื้นที่ที่เปี่ ยมไปด้วยระบบนิเวศทางทะเลที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง เพื่อความสมบูรณ์และอนาคตของมหาสมุทร

การเปิดตัวโครงการ Perpetual Planet ในปี 2019 ได้ตอกย้าถึงการมีส่วนร่วมดังกล่าว โดยแรกเริ่มโครงการได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญไปที่การสนับสนุนบุคคลที่มีส่วนร่วมในการ
สร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเคย ผ่านโครงการ Rolex Awards for Enterprise ในการปกป้องมหาสมุทรซึ่งเป็น ส่วนหน่ึงของความร่วมมือที่จัดต้ังข้ึนกับโครงการ Mission Blue และการทำ
ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านความร่วมมืออันยาวนานกับNational Geographic Society

บุคคลหรือองค์กรที่เข้าร่วมในโครงการ Perpetual Planet ในขณะนี้ได้แก่ Cristina Mittermeier และ Paul Nicklen ช่างภาพผู้อนุรักษ์ธรรมชาติ, Rewilding Argentinaและ Rewilding Chile องค์กรลูกของ Tompkins Conservation ซึ่งกำลังปกป้องภูมิประเทศในทวีปอเมริกาใต้, องค์กร Coral Gardeners ที่ทำการปลูกปะการังคืนสู่แนวปะการัง,

ทีมสำรวจของ Steve Boyes และโครงการ The Great Spine of Africa ที่สำรวจลุ่มแม่น้าสายสำคัญของทวีป, โครงการ Under The Pole ที่ผลักดันขีดจำกัดของการสำรวจใต้น้า, ทีมสำรวจ B.I.G ไปยังขั้วโลกเหนือในปี2023 ซึ่งทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อเขตอาร์กติก และโครงการ Monaco Blue ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์มหาสมุทร

นอกจากนี้Rolex ยังได้สนับสนุนองค์กรและโครงการริเริ่มที่ส่งเสริมนักสำรวจนักวิทยาศาสตร์และนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ ผ่านทุนการศึกษาต่าง ๆ เช่น ทุน Our World-Underwater Scholarship Society และ The Rolex Explorers Club Grants

rhunrun เรียบเรียง

ต้อนรับตรุษจีน พาไปพบกับซองแดงในปีกระต่าย 2023

พบกับซองแดงในปีกระต่าย 2023 ไปดูกันว่าแต่ละแบรนด์จะนำเสนอซองอั่งเปากันออกมาแบบไหน ทั้งการนำลวดลายกระต่ายมาตีความใหม่ หรือการใส่เอกลักษณ์ของทางแบรนด์ลงไปในซองอั่งเปา ไปรับชมกันได้เลยครับ

Mentors & Protégés for the 2023-2024 Arts Programme

Author: Sethapong Pawwattana

Photography: Courtesy of Rolex

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้วที่ Rolex ได้สนับสนุนศิลปินที่มีความสามารถ มากที่สุดในโลกและสถาบันทางวัฒนธรรมชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยสืบสานมรดกทางศิลปะและสร้างการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อวัฒนธรรมระดับโลกนี้ได้แผ่ขยายออกไปผ่านดนตรี สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์ รวมถึงโครงการ Rolex Mentor and Protg Arts Initiative ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2002 อันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการถ่ายโอนองค์ความรู้จากศิลปินรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อไป ซึ่งโครงการให้คำปรึกษาดังกล่าวนั้น มีความเชื่อที่ว่าศิลปะคือความต่อเนื่อง คือการสั่งสมประสบการณ์ในอดีตจากรุ่นสู่รุ่น และศิลปินทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าศิลปินรุ่นก่อนหน้า ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมของ Rolex ในการส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะบุคคล ศิลปินรุ่นเยาว์ที่เปี่ยมไปด้วยอนาคตอันสดใส หรือ Protg จะได้รับโอกาสอันหายากในการใช้เวลาช่วงสำคัญแลกเปลี่ยนความคิดอันสร้างสรรค์กับศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกในสาขาเฉพาะของตน หรือ Mentor แบบตัวต่อตัว โครงการนี้จะครอบคลุมสาขาวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม นาฏศิลป์ ภาพยนตร์ วรรณกรรม ดนตรี การละครและทัศนศิลป์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีตัวเลือกอื่น หรือ “หมวดหมู่เปิด” ซึ่งคือการให้คำปรึกษาที่ในสาขาอื่นๆ หรือในการแสวงหาสหวิทยาการ โดยจะถูกจัดกลุ่มในช่วงเวลาสลับกันตามระเบียบของโครงการ 

โดยในปีนี้ Rolex ได้ประกาศรายนามศิลปินที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และศิลปินรุ่นใหม่ในโครงการ Arts Programme ประจำปี 2023-2024 ซึ่งจับคู่ 5 ศิลปินชั้นครูกับ 5 ศิลปินรุ่นใหม่ที่เปี่ยมความสามารถจากทั่วโลกในสาขาต่างๆ ดังนี้ ประติมากรชาวกานา El Anatsui เลือก Bronwyn Katz ศิลปินทัศนศิลป์ชาวแอฟริกาใต้, นักเขียนชาวอังกฤษ Bernardine Evaristo เลือกนักเขียนชาวกานา Ayesha Harruna Attah, ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวจีน Jia Zhang-Ke เลือก Rafael Manuel ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวฟิลิปปินส์, สถาปนิกชาวฝรั่งเศส Anne Lacaton เลือกสถาปนิกชาวเลบานอน-อาร์เมเนีย Arine Aprahamian ในขณะที่นักร้องแจ๊สชาวอเมริกัน Dianne Reeves ได้เลือกนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเกาหลีใต้ Song Yi Jeon เป็นลูกศิษย์ของเธอ

Rebecca Irvin หัวหน้าโครงการให้คำปรึกษาฯ กล่าวว่า “Rolex รู้สึกขอบคุณเมนเทอร์ทุกๆ ท่านอย่างสุดซึ้ง สำหรับความมุ่งมั่นในการพัฒนาความสามารถด้านศิลปะให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดและ การสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ เรายังขอแสดงความยินดีกับเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งตอนนี้ได้เข้าร่วมกับกลุ่มศิลปินหลากรุ่นจากทั่วโลกที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในรอบปีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยก้าวข้ามอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์วัฒนธรรม รวมไปถึงช่วงวัย และเราก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมเฉลิมฉลองกับเมนเทอร์และศิลปินรุ่นใหม่ทุกๆ ท่านตลอดทั้ง 20 ปีที่ผ่านมาในงาน Rolex Arts ครั้งถัดไป”

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการสามารถติดตามได้ที่ www.rolex.org

Always Number 1 : Singapore Grand Prix การแข่งขันของสุดยอดยานยนต์

Singapore Grand Prix การแข่งขันของสุดยอดยานยนต์ ที่พร้อมทดสอบทุกขีดจำกัดของทั้งนักขับและทีมสต๊าฟ กลับมาอีกครั้ง พร้อมสถิติการเข้าชมสูงสุดในรอบ 13 ปี

Author: Rhun Na Ranong

Photography: Courtesy of Rolex

 

การแข่งขันความเร็วที่ถือเป็นระดับสุดยอดของโลกอย่าง Formula 1 กับ Rolex มีความผูกพันกันมาตั้งแต่ปี 2013 ในฐานะ Global Partner และเป็นนาฬิกาสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ Timepiece of Formula 1 ให้ความสนับสนุนการพัฒนาสำหรับการแข่งขันนี้รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ทางด้าน เทคโนโลยี รวมถึงมีประวัติที่เข้มข้นเกี่ยวข้องกับนักขับรถสูตร 1 นี้ ในปี 2017 Mark Webber ผู้ชนะ Formula 1 Grand Prix ถึงสองครั้ง และ 2015 FIA World Endurance Champion ได้เป็น Rolex Testimonee ล่าสุดผู้ที่เข้ามาร่วมก็คือแชมเปี้ยนระดับโลกของ FIA Formula 1 Drivers จากปี 2009 Jenson Button

เรียกว่าเป็นการแข่งขันที่อยู่บนจุดสูงสุดของกีฬาด้านความเร็วอยู่แล้วสำหรับ งาน FORMULA 1 SINGAPORE AIRLINES SINGAPORE GRAND PRIX 2022 ในปีนี้นับเป็นฤดูกาลที่ 10 ของ Rolex ในฐานะ Global Partner และนาฬิกาอย่างเป็นทางการของ Formula 1 ที่เราจะเห็น Rolex Pit Lane Clock เป็นสัญลักษณ์แห่งที่อยู่ในสนามแข่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เช่นกันสำหรับสนาม Marina Bay Street Circuit ในประเทศสิงคโปร์ ที่เป็นสถานที่จัดงาน ที่แฟนการแข่งความเร็วทั้งโลกจับตามอง

ท่ามกลางโค้งที่ท้าทายกว่า 23 โค้งในความยาวสนาม 5.063 กิโลเมตร การแข่งขันในช่วงค่ำของรายการนี้พร้อมความท้าทายทุกขีดจำกัดของนักขับสมรรถนะของรถ ทีมเวิร์คและการวางแผนของทั้ง 10 ทีมที่ร่วมแข่งขันเส้นทางที่ท้าทายนี้ไม่เพียงต้องใช้ทักษะหลังพวงมาลัยเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ประสิทธิภาพสูงสุดของยานยนต์ Formula 1 ด้วย การแข่งขันนี้ได้กลับมาเป็นครั้งแรก

Sergio Perez (MEX) Red Bull Racing RB18 in the race.

นับตั้งแต่ปี 2019 Sir Jackie Stewart ผู้เป็น Rolex Testimonee มานานกว่า ครึ่งศตวรรษและเป็นแชมป์โลกนักขับรถสูตร 1 นี้ถึง 3 สมัย ได้กล่าวว่า “สิงคโปร์คือจุดหมายที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในปฎิทินการแข่งขัน Formula 1 และมีชื่อเสียงด้านการแข่งขันแบบปิด (close racing) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีความท้าทายต่อทีมที่มาแข่งขันชนิดที่ไม่เหมือนที่ไหน

ตลอด 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา Rolex ได้สนับสนุนความเป็นเลิศทางด้านเทคนิค และทักษะมากมายที่เป็นหัวใจของการกีฬา Mark Webber ผู้ชนะ Formula 1 Grand Prix ถึงสองครั้งและเป็น Rolex Testimonee กล่าวว่า: “ปีนี้เสมือนเป็นย่างก้าวที่สำคัญสำหรับ Rolex และ Formula 1 ที่ได้สร้างความร่วมมือที่สอดคล้อง แนบแน่นแสดงถึงความภักดีที่แน่วแน่ โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องขององค์กรที่มีวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และตั้งเป้าหมายที่เปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน การแข่ง Formula 1 อยู่ในระดับแนวหน้าของนวัตกรรมเสมอ เช่นเดียวกับ Rolex ที่ขึ้นชื่อใน ด้านการเพิ่มมาตรฐานขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ผลงานสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาของ Rolex จึงมีความหมายที่สอดคล้องกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือ”

Fernando Alonso (ESP) Alpine F1 Team A522 during qualifying.

บนชัยชนะในวัน Main Race ของ Sergio Perez นักขับชาวเม็กซิกัน เจ้าของฉายา Checo จากทีม Oracle Red Bull Racing กับเวลา 2:02:20.238 หลังจากฝ่าฟันมาทั้งสายฝนในวัน Qualifying และสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนชื้น เบื้องหลังความสำเร็จและแชมเปญที่ถูกเปิดฉลอง สอง Testimonee คนสำคัญของ Rolex อย่าง Sir Jackie Stewart ตำนานนักแข่งจากสก็อตแลนด์ เจ้าของแชมป์โลก F1 สามสมัยในยุค ’70s และ Mark Webber อีกหนึ่งยอดนักขับชาวออสเตรเลีย ที่คว้าชัยชนะบนการแข่งขันรถยนต์ถึงสองชนิด (ทั้ง F1 และ FIA World Endurance Championship) ได้เล่าให้เราฟังถึงประสบการณ์การแข่งขันจริงของนักขับทั้งสองสมาธิและความมุ่งมั่นรวมไปถึงการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่จะผิดพลาดไม่ได้เลย แม้จะเป็นปัจจัยที่เล็กน้อยที่สุดหากอยากขึ้นไปบนจุดสูงสุดของโพเดียม

Mick Schumacher (GER) Haas VF-22 in the race.

นอกจากนี้ Sir Jackie Stewart วัย 83 ปี ในกางเกงลาย Tartan ตัวสวยและ Rolex Oyster Perpetual Day-Date 36 หน้าปัดและสายหนังสีเขียวตัดกับตัวเรือนทองคำที่เข้ากับหมวกและเสื้อเชิ้ตสองกระเป๋าปกกลัดกระดุมสไตล์สปอร์ต ลุคเท่ๆ ที่ไม่ทิ้งความเก๋าของยอดนักซิ่งแห่งยุค ’70s ยังได้เสริมด้วยน้ำเสียง ที่เปี่ยมไปด้วยความปีติหลังจากนั่งเชียร์อย่างออกรสมาตลอด 3 วันของการแข่งขันเกี่ยวกับความปลอดภัยและมาตรฐานการจัดงานที่พัฒนาขึ้นมากจากยุคที่เจ้าตัวนั่งอยู่หลังพวงมาลัย

“ในยุคของผมน่าเศร้านะ ทุกอย่างมันไม่ได้ปลอดภัยและได้รับการดูแลทั่วถึง อย่างทุกวันนี้ ผมเสียเพื่อนร่วมอาชีพไปถึง 57 คน เรียกได้ว่าไปร่วมงานศพบ่อยกว่า งานแต่งงานซะอีก แต่ตอนนี้การแข่งรถสูตร 1 ถือว่าปลอดภัยกว่ารักบี้หรือขี่ม้าด้วยซ้ำ ไม่มีการจากไปอย่างน่าเศร้าที่ผมต้องเจอมาตลอดอาชีพอีกแล้ว แม้แต่การแข่งขันรถสูตร 2 และ 3 ก็ปลอดภัยมากขึ้นตามลำดับ ถือว่าน่ายินดีเอามากๆ เลย”

(L to R): Jackie Stewart (GBR) with Mark Webber (AUS) Channel 4 Presenter.

ความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาของเจ้าตัวที่คลุกคลีกับวงการความเร็วมาครึ่งศตวรรษ ทำให้ผู้ฟังรับรู้ได้เลยว่าความสำเร็จบนความเร็วสุดท้าทายที่ทุกอย่างดูเหมือน จะหลุดการควบคุมได้ทุกวินาทีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้มันมาครอง ไม่แปลกที่แฟนๆ กว่า 300,000 คนที่ร่วมเข้าชมกลางสายฝนจะกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม และประสบการณ์แสนพิเศษในการแข่งขันครั้งที่ 13 บนเกาะสิงคโปร์แห่งนี้ครับ

Design of Greenroom 2022

Greenroom คือห้องโถงของงานออสการ์พื้นท่ีสังสรรค์ซึ่งผู้ที่ได้รับการเสนอช่ือเข้าชิงรางวัลและผู้ประกาศ รางวัลจะมารวมตัวกันก่อนขึ้นสู่เวที Greenroom เป็นประสบการณ์อันชวนดื่มด่ำท่ี Rolex ได้พัฒนา รูปแบบการตกแต่งใหม่ในแต่ละปี โดยในปี 2022 นี้ เป็นการเฉลิมฉลองการรวมตัวกันของภาพยนตร์และ ศิลปะการทำนาฬิกา


แรงบันดาลใจสาหรับธีมในปีนี้ได้มาจากฮอลลีวูดและสตูดิโอหลัก ๆ ของฮอลลีวูด ผนังตกแต่งในสไตล์ อาร์ตเดโคจัดเรียงองค์ประกอบต่าง ๆ จากนาฬิกา Rolex สู่กระเบื้องโมเสค เพื่อให้เกิดเป็นภาพเส้นขอบ ฟ้าของลอสแองเจลิสซึ่งเป็นบ้านของภาพยนตร์บทกวีที่สรรเสริญถึงความกล้าหาญแห่งการรังสรรค์เครื่องบอกเวลานี้ ใช้รูปแบบขององค์ประกอบการตกแต่ง ท่ีแสดงถึงสัญลักษณ์ของสถานท่ีสำคัญอันเป็นท่ีรู้จักจากโลกภาพยนตร์ เช่น ฮอลลีวูด, สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ Academy of Motion Picture Arts and Sciences และพิพิธภัณฑ์สถาบันภาพยนตร์ Academy Museum of Motion Pictures ตลอดจน ประดับประดาด้วยคุณลักษณะท่ีโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ Rolex อันได้แก่ หลักชั่วโมง เข็มและขอบหน้าปัดแบบร่องของนาฬิกา
ในการสร้างแบบจำลองสถานท่ีสาคัญเหล่านี้ ช่างฝีมือของ Rolex จากแผนกออกแบบ ได้แกะสลักและหุ้ม ด้วยแผ่นหนัง Arnaud Boetsch ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อ สารและภาพลักษณ์ของ Rolex กล่าวว่า “ความเอาใจ ใส่อย่างพิถีพิถันในการผลิตนาฬิกา Rolex ความต้ังใจท่ีใส่เข้าไปในทุกอณูรายละเอียด ตลอดจนการ แสวงหาความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องของเราล้วนแสดงให้ประจักษ์ในห้อง Greenroom ท่ีสะท้อนความ ละเอียดอ่อน ความแม่นยำ และความมหัศจรรย์ของภาพยนตร์”


การผสานรวมองค์ประกอบการตกแต่งต่าง ๆ เหล่าน้ีเป็นสิ่งท่ี Rolex ต้องการสื่อในแคมเปญล่าสุด ซึ่งเป็นการยกย่องงานศิลปะของผู้สร้างภาพยนตร์ ท้ังน้ี บทภาพยนตร์ของ The Path ซึ่งจะออกอากาศในพิธีมอบ รางวัลออสการ์ครั้งท่ี 94 จะเปิดแสดงอยู่ในห้อง Greenroom ด้วย ภาพยนตร์เรื่องน้ีถูกออกแบบให้เสมือนเป็นอุปลักษณ์หรือการเปรียบเปรยอันทรงพลังแห่งการเคลื่อนไหว ความก้าวหน้า และกระบวนการอัน สร้างสรรค์ผ่านภาพเคลื่อนไหว แสดงให้เห็นเส้นทางต่าง ๆ ท่ีบุคคลสามารถเลือกเดินได้ ภาพยนตร์ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกเรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Rolex เพื่อยังคุณค่าของความเป็นเลิศท่ีทางแบรนด์มีกับโลกแห่งภาพยนตร์

2

บทภาพยนตร์มาพร้อมกับภาพท่ีถ่ายจากภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งจัดแสดงอยู่ท่ัวห้อง Greenroom “แต่ละฉาก จากภาพยนตร์ไอคอนิกท่ีถูกจัดแสดงล้วนเป็นการราลึกถึงครอบครัวแห่งภาพยนตร์” Arnaud Boetsch กล่าว

ด้วยการเป็นเจ้าภาพห้อง Greenroom สาหรับผู้ได้รับการเสนอช่ือเข้าชิงรางวัล Rolex ได้มีส่วนร่วมใน ช่วงเวลาแห่งอารมณ์อันเข้มข้นท่ีศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่ีสุดในวงการภาพยนตร์บางท่านได้สัมผัส ท้ังก่อนและ หลังพิธีมอบรางวัลออสการ์

ROLEX และฮอลลีวูด

ในปี 2017 Rolex ได้ผนึกความร่วมมือกับ Academy of Motion Picture Arts and Sciences ซึ่งเป็นองคก์รสูงสุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ภารกิจของสถาบันฯ คือการส่งเสริมความเป็นเลิศในภาพยนตร์และรักษามรดกไว้สำหรับชนรุ่นหลัง เพื่อจุดประกายจินตนาการและเฉลิมฉลองคุณค่าอันเป็นสากลของ ภาพยนตร์ ท้ังนี้ความร่วมมือระยะยาวในครั้งน้ีถือเป็นการฉลองการผสานรวมคุณค่าท่ี Rolex และศิลปะแห่งภาพยนตร์มีร่วมกัน Rolex ได้กลายเป็นนาฬิกาเอกสิทธิ์ของ Academy of Motion Picture Arts and Sciences ผู้สนับสนุนท่ีภาคภูมิใจของงานประกาศรางวัลออสการ์ (Proud Sponsor of the Oscars®) และ ผู้สนับสนุนรายเดียวของงาน Governors Awards

นอกจากนี้ Rolex ยังเป็นผู้ร่วมก่อต้ังพิพิธภัณฑ์ Academy Museum of Motion Pictures ซึ่งเปิดตัวข้ึนในลอสแองเจลิสเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 อีกด้วย

Rolex สนับสนุนการส่งเสริมและเฉลิมฉลองความเป็นเลิศ การดำรงอยู่ขององค์ความรู้ การอนุรักษ์ศิลปะ ตลอดจนการสร้างศิลปินรุ่นใหม่

กิตติศัพท์ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญที่หาเปรียบไม่ได้

Rolex เป็นผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสำนักงานใหญ่ต้ังอยู่ ท่ีนครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีช่ือเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อันเป็น สัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความหรูหรามีระดับ และคุณค่าอันทรงเกียรติ นาฬิการุ่น Oyster Perpetual และ Cellini ได้รับการรับรองจาก COSC และได้รับการทดสอบภายในองค์กรเพื่อรับรองด้านความเที่ยงตรงสมรรถนะ และความน่าเช่ือถือ การรับรองสถานะ Superlative Chronometer สามารถสังเกตได้จากตราสัญลักษณ์ซีลสีเขียวเพื่อเป็นการรับประกันว่านาฬิกาแต่ละเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายใน ห้องปฏิบัติการของแบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กำหนดขึ้นซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจากภายนอกอยู่เป็นระยะ

คาว่า “Perpetual” ที่ปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คาท่ีอยู่บนหน้าปัด นาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาท่ีหล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน โดย Hans Wilsdorf ผู้ก่อต้ังบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็นเลิศอย่างยั่งยืนท่ีผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไป ข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาท่ีสาคัญ ของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกท่ีกันน้ำได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไกไขลาน อัตโนมัติ Perpetual rotor ท่ี Rolex คิดค้นข้ึนในปี 1931 ท้ังนี้ Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 500 ฉบับ ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแบรนด์ ณ ไซต์ท้ังสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์สามารถออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสำคัญของนาฬิกาได้เอง นับต้ังแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบกลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือเชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือนหน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมั่นท่ีจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม กีฬา และการสำรวจ ตลอดจนบุคคลที่ทุ่มเทในการหาแนวทางเพื่ออนุรักษ์โลกใบนี้

ROLEX และภาพยนตร์

Rolex ยังคงเช่ือมโยงกับโลกแห่งภาพยนตร์มาโดยตลอด นาฬิกาของแบรนด์ได้สวมบทบาทอยู่บนข้อมือ ของตัวละครท่ีเป็นตำนานในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงเหล่าผลงานชิ้นเอกท่ีได้รับรางวัลออสการ์ใน หลากหลายสาขา และทุกวันน้ี ด้วยการสนับสนุนความเป็นเลิศด้านศิลปะและเทคนิคในการสร้าง ภาพยนตร์ Rolex ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวแสดงที่มีบทบาทของตนเอง

Rolex สนับสนุนการอนุรักษ์และการถ่ายทอดศิลปะภาพยนตร์ พร้อมส่งเสริมความเป็นเลิศและเฉลิมฉลอง ความก้าวหน้าด้วยการร่วมมือกับบุคคลท่ียังคงเป็นตำนาน รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ผู้มีพรสวรรค์ ผ่าน Rolex Testimonee (Martin Scorsese และ James Cameron) การเป็นพันธมิตรร่วมกับสถาบันศิลปะและ วิทยาการภาพยนตร์ (ซึ่งเป็นท้ังสถาบัน รางวัล และพิพิธภัณฑ์แห่งภาพยนตร์ในลอสแองเจลิส) และ โครงการ Rolex Mentor and Protégé Arts Initiative

ROLEX: ผู้สนับสนุนท่ีภาคภูมิใจของงานรางวัลออสการ์

ไฮไลทข์องฤดูกาลภาพยนตร์

งานประกาศรางวัลออสการ์เป็นการเฉลิมฉลองเอกลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ แรงบันดาลใจ และความอัจฉริยะทางเทคนิคจากผลงานชิ้นเอกท่ีถูกรังสรรค์ข้ึนมาซึ่ง Rolex มีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนท่ีภาคภูมิใจ ของงานออสการ์ ณ โรงละคร Dolby® ในฮอลลีวูด ต่อเนื่องเป็นปีท่ี 6 โดยมีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศ ต่าง ๆ กว่า 200 แห่งท่ัวโลก งานอันมีลักษณะพิเศษเฉพาะนี้ไม่เพียงแค่เป็นการเฉลิมฉลองแห่งวงการภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยกำหนดทิศทางของภาพยนตร์ท่ัวโลกปีแล้วปีเล่า

การเฉลิมฉลองความเป็นเลิศ

งานมอบรางวัลออสการ์เป็นมากกว่าการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองแรงบันดาลใจ และอารมณ์ ตลอดจนกระบวนการผลิต ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค และอื่น ๆ ท้ังหมดท่ีเก่ียวข้องกับการสร้างภาพยนตร์ Hans Wilsdorf ผู้ก่อต้ัง Rolex เคยกล่าวคำพูดโปรดไว้ว่า งานนี้เป็นบทกวีแห่ง “ผลงานท่ีสร้างไว้เป็นอย่างดี” ภาพยนตร์เป็นศิลปะ วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรม และงานมอบรางวัลออสการ์ก็เป็นเช่นนั้นในทุกแง่มุม

ROLEX และห้อง OSCARS® GREENROOM

Rolex คือเจ้าภาพอย่างเป็นทางการของ Greenroom ห้องโถงประจำงานออสการ์ ผู้ได้รับการเสนอช่ือและผู้ นำเสนอรางวัลจะมารวมตัวกันภายในห้องรับรองนี้ก่อนและหลังการข้ึนเวทีในงานมอบรางวัลออสการ์ โดยบางรายกลับมาพร้อมกับรูปปั้นแห่งความปรารถนา

ในแต่ละปี Rolex จะพัฒนารูปแบบการตกแต่งใหม่ๆ อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อให้สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศ ของห้อง Greenroom ได้อย่างเต็มท่ี โดยการตกแต่งพื้นท่ีปี 2022 นี้ เป็นการยกย่องภาพยนตร์ฮอลลีวูดใน ตำนานและเฉลิมฉลองการรวมตัวกันของภาพยนตร์และศิลปะการทำนาฬิกา

ROLEX กับงานประกาศรางวัล GOVERNORS AWARDS

งาน Governors Awards บ่งบอกถึงการเริ่มต้นแห่งฤดูกาลประกาศรางวัลออสการ์ โดยในงานจะมีการ นำเสนอรายช่ือผู้มีผลงานภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และมอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จท่ียอดเยี่ยมตลอดช่วงชีวิต

ROLEX และฮอลลีวูด

ในปี 2017 Rolex ได้ผนึกความร่วมมือกับ Academy of Motion Picture Arts and Sciences องค์กร กิตติมศักดิ์ท่ีมีอานาจสูงสุดแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ภารกิจของสถาบันฯ คือการส่งเสริมความเป็นเลิศในภาพยนตร์และรักษามรดกไว้สาหรับชนรุ่นหลัง เพื่อจุดประกายจินตนาการและเฉลิมฉลองคุณค่าอันเป็น สากลของภาพยนตร์ ท้ังนี้ความร่วมมือระยะยาวในครั้งนี้ถือเป็นการฉลองการผสานรวมคุณค่าท่ี Rolex และศิลปะแห่งภาพยนตร์มีร่วมกัน

Rolex ได้กลายเป็นนาฬิกาเอกสิทธิ์ของ Academy of Motion Picture Arts and Sciences ผู้สนับสนุนท่ีภาคภูมิใจของงานประกาศรางวัลออสการ์ (Proud Sponsor of the Oscars®) และผู้สนับสนุนรายเดียวของ งาน Governors Awards

เกี่ยวกับ ROLEX

กิตติศัพท์ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญที่หาที่เปรียบไม่ได้

Rolex เป็นผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยมีสานักงานใหญ่ต้ังอยู่ที่นครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีช่ือเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อันเป็น สัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความหรูหรามีระดับ และคุณค่าอันทรงเกียรติ นาฬิการุ่น Oyster Perpetual และ Cellini ได้รับการรับรองจาก COSC และได้รับการทดสอบภายในองค์กรเพื่อรับรองด้านความเที่ยงตรง สมรรถนะ และความน่าเช่ือถือ การรับรองสถานะ Superlative Chronometer สามารถสังเกตได้จากตรา สัญลักษณ์ซีลสีเขียว เพื่อเป็นการรับประกันว่านาฬิกาแต่ละเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการของแบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดท่ีกาหนดขึ้น ซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจาก ภายนอกอยู่เป็นระยะ

คำว่า “Perpetual” ท่ีปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำท่ีอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาท่ีหล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน โดย Hans Wilsdorf ผู้ก่อต้ังบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็นเลิศอย่างยั่งยืนท่ีผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไป ข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาท่ีสาคัญ ของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกท่ีกันน้ำได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไกไขลานอัตโนมัติ Perpetual rotor ท่ี Rolex คิดค้นขึ้นในปี 1931 ท้ังน้ี Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 500 ฉบับตลอดช่วง ประวัติศาสตร์ท่ีผ่านมาของแบรนด์ ณ ไซต์ท้ังสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์สามารถออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสาคัญของนาฬิกาได้เอง นับต้ังแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบกลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือเชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือน หน้าปัด และ สายนาฬิกานอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมัน่ ท่ีจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรมกีฬา และการสำรวจ ตลอดจนบุคคลที่ทุ่มเทในการหาแนวทางเพื่ออนุรักษ์โลกใบนี้

ROLEX : Oyster Perpetual GMT-Master II.


สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในการเปิดตัวนาฬิการุ่นล่าสุดของ ROLEX ในงาน Watches and Wonders-Geneva 2022 กับนาฬิกาที่มีเม็ดมะยมด้านซ้ายรวมทั้งหน้าต่างวันที่ก็ขยับมาอยู่ที่ 9 นาฬิกา โดยมี เลนส์ขยายหรือ Cyclops lens ช่วยขยายให้มองเห็นวันที่ได้ชัดเจนขึ้น เป็นการพลิกการจัดวางกลไกด้านในให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเพราะไม่ใช่การกลับขวาเป็นซ้ายกับกลไกแล้วจะออกมาเป็นเช่นนี้ได้


การกลับมาของ Oyster Perpetual GMT-Master II. นับตั้งแต่ปี 1982 ที่เผยโฉมเป็นครั้งแรก แต่รุ่นใหม่นี้ก็มาพร้อมกับความใหม่ทั้งสีของขอบหน้าปัดที่ทำหน้าที่บอกเวลาของไทม์โซนที่สองซึ่งแบ่งเป็นสีดำกับสีเขียวซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสำหรับนาฬิการุ่นนี้ ทำจาก Cerachrom โดยตัวเรือนทำจาก Oystersteel ขนาด 40 มม. ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำ และนาฬิการุ่นนี้กันน้ำได้ลึก 100 เมตร โดยปุ่มเม็ดมะยมมีการล็อค 3 ชั้นเพื่อกันน้ำโดยมีชิ้นส่วนที่ปกป้องเม็ดมะยมหรือ crown guard ที่กันไม่ให้ไปโดยเม็ดมะยมโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งเป็นดีไซน์ที่เน้นความสมบุกสมบันของนาฬิกาเพื่อการใช้งาน


กลไก Calibre 3285 ที่มีความเที่ยงตรงสูงจาก blue Parachrom hairspring ที่ทาง ROLEX ได้คิดค้นขึ้นเพื่อให้เกิดความเที่ยงตรงของจังหวะการเดินของเข็มนาฬิกา โดยกลไกชุดนี้ถือว่าเป็นชุดที่มีประสิทธิภาพสูงชุดหนึ่งของ ROLEX รับประกันด้วยการผ่านการทดสอบจาก Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC) ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะเป็นนาฬิกาสำหรับนักเดินทางทำให้ Oyster Perpetual GMT-Master II. ไม่เพียงแต่มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และทำมาสำหรับคนที่ชอบใส่นาฬิกามือขวา และคงถูกใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่ถนัดมือซ้ายเพราะเหมือนออกแบบมาให้พวกเขาโดยเฉพาะ แต่ทว่าไม่ได้หมายความว่าคนถนัดขวาจะใช้นาฬิกานี้ไม่ได้หรือจะสวมนาฬิกานี้กับมือซ้ายไม่ได้ แต่กลับเป็นดีไซน์ที่สร้างความเท่อย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยคุณสมบัติที่สำรองพลังงานได้นานถึง 70 ชั่วโมง


สายนาฬิกาเป็น Oyster bracelet สุดคลาสสิกที่แต่ละข้อต่อมีส่วนประกอบ 3 ชิ้นอันเป็นดีไซน์คลาสิกของสายนาฬิกาออยสเตอร์มายาวนาน โดยสายสำหรับนาฬิการุ่นนี้จะมีคลิปเป็นตัวล็อคเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ไปโดยตัวล็อคโดยบังเอิญแล้วทำให้สายนาฬิกาปิดออก โดยตัวล็อคสายเป็นแบบบานพับ
ดีไซน์ที่สะดุดตั้งแต่เม็ดมะยมอยู่ด้านซ้ายของ Oyster Perpetual GMT-Master II. ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ทรงประสิทธิภาพแฝงไว้อีกมาก เชื่อว่าหลายคนต้องการจับจองที่จะเป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนพิเศษนี้ และถือเป็นดีไซน์แห่งปีของ ROLEX ที่ออกมาสร้างความฮือฮาจริงๆ

ROLEX – A FOUNDING SUPPORTER OF ONE OF THE WORLD’S FOREMOST FILM MUSEUMS.

เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสถาปัตยกรรมชิ้นงามที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์ Academy Museum of Motion Pictures ที่ออกแบบโดย Renzo Piano สถาปนิกเจ้าของรางวัล Pritzker ผู้เปรียบได้กับสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ของยุคปัจจุบัน โดยมีพื้นที่ 50,000 ตารางฟุต โดยมีแกลเลอรีของ Rolex ซึ่งเป็นนิทรรศการถาวรที่ครอบคลุมพื้นที่หลายห้องบนชั้น 3 ของพิพิธภัณฑ์ นำเสนอหัวข้อ “Stories of Cinema” พร้อมบอกเล่าเรื่องราวสุดพิเศษที่เผยให้เห็นหลากหลายแง่มุมของการสร้างภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ศิลปินผู้สร้างสรรค์ ประวัติศาสตร์ และแรงกระเพื่อมทางสังคม

ในวันนี้ พิพิธภัณฑ์ Academy Museum of Motion Pictures ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในลอสแอนเจลิส นับเป็นการสร้างประวัติศาตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการภาพยนตร์ เพื่อสานต่อการร่วมสนับสนุนโลกแห่งภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน Rolex ในฐานะของผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันบุกเบิกแห่งนี้ คือการขยายขอบเขตพันธมิตรซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นอย่างไม่มีสิ้นสุดของแบรนด์ในการเสาะหาและส่งเสริมความเป็นเลิศ พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ของ Rolex ในการสนับสนุนศิลปะแห่งการสร้างภาพยนตร์ การอนุรักษ์มรดกด้านภาพยนตร์ ตลอดจนการส่งต่อองค์ความรู้และทักษะให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

พิพิธภัณฑ์ ACADEMY MUSEUM OF MOTION PICTURES

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถาบันแห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่สร้างขึ้นเพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอิทธิพลด้านวัฒนธรรมของการสร้างภาพยนตร์ ศูนย์กลางสำหรับผู้ชื่นชอบภาพยนตร์แห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Renzo Piano สถาปนิกเจ้าของรางวัล Pritzker โดยมีพื้นที่ 50,000 ตารางฟุต (ราว 4,650 ตารางเมตร) สำหรับแกลเลอรีของนิทรรศการ โรงภาพยนตร์ 2 แห่ง ซึ่งรวมถึงหอประชุมขนาด 1,000 ที่นั่ง สตูดิโอเพื่อการศึกษา และส่วนพื้นที่สาธารณะที่ออกแบบอย่างสวยงาม ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์มุ่งหวังให้ผู้คนเข้าใจโลกภาพยนตร์ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการ การฉายภาพยนตร์ ตลอดจนการจัดโครงการและการแสดงคอลเลกชันต่าง ๆ

แกลเลอรีของ Rolex ซึ่งเป็นนิทรรศการถาวรที่ครอบคลุมพื้นที่หลายห้องบนชั้น 3 ของพิพิธภัณฑ์ นำเสนอหัวข้อ “Stories of Cinema” พร้อมบอกเล่าเรื่องราวสุดพิเศษที่เผยให้เห็นหลากหลายแง่มุมของการสร้างภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ศิลปินผู้สร้างสรรค์ ประวัติศาสตร์ และแรงกระเพื่อมทางสังคม โดยจัดแสดงผ่านรูปแบบที่มีความหลากหลายและน่าสนใจเพื่อรังสรรค์ความมหัศจรรย์แห่งศิลปะแขนงนี้ โดยมีการจัดแสดงนาฬิกา Cosmograph Daytona เรือนในตำนานของนักแสดงและผู้ชื่นชอบการแข่งรถอย่าง Paul Newman ในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

การเชื่อมโยงที่สำคัญกับภาพยนตร์

เป็นเวลาเกือบศตวรรษที่ Rolex และโลกภาพยนตร์ได้สร้างสานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติผ่านนาฬิกา Rolex สัญลักษณ์แห่งความทรหดและความแข็งแกร่ง ที่ปรากฏอยู่บนข้อมือของนักแสดงในภาพยนตร์ที่น่าจดจำมากมาย โดยสายสัมพันธ์นี้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องที่ Rolex มีต่อผู้กำกับภาพยนตร์ ทั้งผู้ที่เป็นที่ยอมรับในวงการและผู้กำกับรุ่นใหม่

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่าง Rolex และวงการภาพยนตร์ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2017 เมื่อ Rolex ลงนามในสัญญาการเป็นพันธมิตรร่วมกับสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences — AMPAS) ต่อมา Rolex ได้กลายเป็นนาฬิกาพันธมิตรรายเดียวของสถาบัน พร้อมยังเป็นผู้สนับสนุนที่ภาคภูมิใจของงานประกาศรางวัลออสการ์ ซึ่ง Rolex เป็นผู้ออกแบบและเจ้าภาพห้อง Greenroom ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ ไว้รองรับผู้ประกาศรางวัลและแขกผู้มีเกียรติที่มาพบปะกันก่อนขึ้นเวทีออสการ์ ในปี 2018 Rolex ได้เป็นผู้สนับสนุนงาน Governors Awards ซึ่งเป็นพิธีมอบรางวัลประจำปีที่จัดขึ้นโดย Academy of Motion Picture Arts and Sciences เพื่อเป็นการมอบเกียรติประวัติแก่ความสำเร็จในชีวิตวงการภาพยนตร์ การสนับสนุนพิพิธภัณฑ์ Academy Museum of Motion Pictures จึงนับเป็นส่วนหนึ่งของการขยายกรอบความร่วมมือ ทั้งสององค์กรมีความสอดคล้องกันภายใต้ความมุ่งมั่นในการเสาะหาความเป็นเลิศ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตลอดจนพันธกิจในการรักษาและเฉลิมฉลองผลงานขั้นสุดยอดระดับผลงานชิ้นเอก

สืบสานศิลปะแห่งภาพยนตร์ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน

Rolex ยังคงไว้ซึ่งสายสัมพันธ์สุดพิเศษกับผู้กำกับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้มีวิสัยทัศน์และความเป็นเลิศที่ช่ำชองการใช้เทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์เหล่านี้ เป็นผู้ทำลายขีดจำกัดในการเล่าเรื่องและการสร้างภาพยนตร์ ทั้ง Martin Scorsese และผู้กำกับภาพยนตร์ร่วมวงการอย่าง James Cameron ถือเป็นสองบุคคลที่ทรงอิทธิพลในโลกแห่งภาพยนตร์ และปัจจุบันทั้งสองมีบทบาทเป็น Rolex Testimonee

Scorsese ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ของเขาในฐานะศิลปินที่ปรึกษาผ่านโครงการ Rolex Mentor and Protégé Arts Initiative ที่จับคู่ศิลปินรุ่นใหม่กับเหล่าปรมาจารย์ในศิลปะแต่ละแขนงเพื่อทำงานสร้างสรรค์ร่วมกันในช่วงเวลาที่กำหนด โครงการดังกล่าวสะท้อนความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการส่งผ่านองค์ความรู้ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของปรัชญาแห่งความยั่งยืน (Perpetual Spirit) ของ Rolex อันหล่อหลอมขึ้นจากศักยภาพที่ไร้ที่สิ้นสุดของมนุษยชาติ แรงขับเคลื่อนอันแรงกล้าในการเดินหน้าทำลายอุปสรรค และการสร้างความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยผู้กำกับที่ทำหน้าที่เป็นศิลปินที่ปรึกษาที่ผ่านมารวมถึง Alfonso Cuarón และ Spike Lee โดยทั้ง 2 ท่านได้รับเชิญให้ร่วมถ่ายทอดความรู้ ณ งานทางออนไลน์ที่พิพิธภัณฑ์จัดขึ้น ทั้งคู่ได้นำผลงานภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์ของตนออกสู่สายตาสาธารณะมากยิ่งขึ้น

“เป็นเวลากว่าหลายทศวรรษที่ Rolex ได้เชื่อมโยงกับโลกแห่งภาพยนตร์ ตั้งแต่การปรากฏตัวของนาฬิกาในภาพยนตร์ระดับตำนาน ไปจนถึงการสนับสนุนนักสร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ผ่านโครงการศิลปินที่ปรึกษาของแบรนด์” Arnaud Boetsch ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารและภาพลักษณ์ของ Rolex กล่าว “ความเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการระหว่างแบรนด์และโลกภาพยนตร์ได้เริ่มขึ้นในปี 2017 ผ่านการร่วมมือกับสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences – AMPAS) โดยทั้ง Rolex, AMPAS, พิพิธภัณฑ์ และโลกแห่งภาพยนตร์นั้นมีความสอดคล้องกันอย่างกลมกลืน เพราะต่างรวมตัวกันภายใต้พันธกิจในการเสาะหาความเป็นเลิศ มุ่งมั่นทำลายขีดจำกัด และสร้างสรรค์อนาคตให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตลอดจนเป็นผู้สร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนและสังคม”

เกี่ยวกับ ROLEX
กิตติศัพท์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญ

Rolex เป็นผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความหรูหรามีระดับ และคุณค่าอันทรงเกียรติ นาฬิการุ่น Oyster Perpetual และ Cellini ได้รับการรับรองจาก COSC และได้รับการทดสอบภายในองค์กรเพื่อรับรองด้านความเที่ยงตรง สมรรถนะ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งการรับรองสถานะ Superlative Chronometer สังเกตได้จากตราสัญลักษณ์ซีลสีเขียว เพื่อเป็นการรับประกันว่านาฬิกาแต่ละเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการของแบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กำหนดขึ้น ซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจากภายนอกอยู่เป็นระยะ

คำว่า “Perpetual” ที่ปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำที่อยู่บนหน้าปัดนาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาที่หล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน โดย Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็นเลิศอย่างยั่งยืนที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาที่สำคัญ ของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกที่กันน้ำได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไก ไขลานอัตโนมัติ Perpetual rotor ที่ Rolex คิดค้นขึ้นในปี 1931 ทั้งนี้ Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 500 ฉบับตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแบรนด์ ณ ไซต์ทั้งสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์สามารถออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสำคัญของนาฬิกา
ได้เอง นับตั้งแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบกลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือ
เชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม กีฬา และการสำรวจ ตลอดจนบุคคลที่ทุ่มเทในการหาแนวทางเพื่อช่วยอนุรักษ์โลกใบนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ROLEX และภาพยนตร์ ได้ที่
https://www.rolex.com/world-of-rolex/rolex-and-cinema/making-of-a-masterpiece.html