คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษโดย Louis Vuitton Studio Prêt-à-Porter Homme Fall Collection 2024
ฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนแปลงเรียกร้องให้เกิดวิธีการใหม่ ๆ ในการแต่งกาย สำหรับ Louis Vuitton Studio Prêt-à-Porter Homme เวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสร้างแรงบันดาลใจให้กับปรัชญาการแต่งกายแบบทวิภาวะ โดยคอลเลคชั่น Fall 2024 นำเสนอยูนิฟอร์ม work-to-play อันร่วมสมัย ซึ่งเกิดจากการยกระดับการปรับเปลี่ยนมุมมองที่เกี่ยวข้องกับขนบของการแต่งกายในทุก ๆ วัน ผลงานที่นำเสนอจึงเกิดเป็นลูกผสมของชุดทำงานแบบดั้งเดิมและการแต่งกายในวันสบาย ๆ การพัฒนาวิธีการดัดแปลงรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งถ่ายทอดสู่การรังสรรค์เสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษของแบรนด์ รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ จึงได้ผสมผสานความยอดเยี่ยมของการแต่งกายแบบเป็นทางการและความผ่อนคลายในสไตล์แคชชวลเอาไว้ในการเปลี่ยนผ่านทางการแต่งกายนี้ โดยคอลเลคชั่น Fall 2024 ได้รับการออกแบบโดย Louis Vuitton Studio Prêt-à-Porter Homme ก่อนหน้าโชว์เปิดตัวของฟาเรลล์ วิลเลียมส์ (Pharell Williams) ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษคนใหม่ในเดือนมิถุนายน 2023






คอลเลคชั่นนี้ตีความแนวคิดของการเปลี่ยนผ่านผ่านการผสมผสานข้อกำหนดในการแต่งกายตามที่เป็นจริงและในทางอุปมาอุปไมย โดยความเป็นลูกผสมเหล่านี้เห็นได้ชัดจากการทำสไตล์ลิงในทุก ๆ ลุค ในขณะที่เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับได้รับการดัดแปลงจากแม่แบบเดิมที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยท้ายที่สุดแล้วตัวตนแห่งความเป็น Louis Vuitton ทั้งในแง่ของภาพอันเป็นที่ประจักษ์และงานฝีมือก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปและเกิดเป็นรูปทรงใหม่ นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ถ่ายทอดให้เห็นผ่านลวดลายหลักของคอลเลคชั่น ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนจากผิวสัมผัสของผ้าลูกฟูกและหนัง Epi อันเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton ถักสานเข้าด้วยกันในแนวทแยงและทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยวัสดุและเทคนิคอันหลากหลาย อีกทั้งยังสื่อให้เห็นถึงการเล่นกับภาพลวงตาในขณะเคลื่อนไหวภายใต้เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับไปพร้อมกัน




เอฟเฟกต์ดังกล่าวปรากฏให้เห็นบนเสื้อแจ็คเก็ตเอวิเอเตอร์สีเขียวซึ่งทำจากผ้าวูลแจ็คการ์ดตกแต่งด้วยแถบหนัง ชุดสูทผ้าทอ fil-coupé สีเขียวโอลีฟอันประกอบไปด้วยเสื้อโอเวอร์เชิ้ตและกางเกง หรือชุดสูทผ้าทอ fil-coupé แบบดั้งเดิมในเฉดสีฟ้าน้ำทะเลที่ถูกขยายออกจนได้วอลลูมตามต้องการเพื่อให้ได้ลุคที่ดูผ่อนคลาย ในขณะที่เสื้อบอมเบอร์แจ็คเก็ตผ้าวูลแจ็คการ์ดบุนวมสีแดงพร้อมกางเกงขาสั้นที่เข้ากัน ได้รับการสร้างสรรค์ผ่านเอฟเฟกต์ที่ชวนให้นึกถึงผิวสัมผัสของกระเป๋า อันเกิดจากการศึกษาแนวทางปฏิบัติของแบรนด์ในการหล่อหลอมความงดงามแห่งเครื่องประดับและเสื้อผ้าเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ แนวคิดดังกล่าวยังสะท้อนอยู่ในเสื้อคาร์ดิแกนผ้าวูลสีแดง และเสื้อโอเวอร์เชิ้ตหนังกลับสีดำปั๊มลายนูน และยังปรากฏให้เห็นเพิ่มเติมในรูปแบบของลายพิมพ์บนเสื้อเชิ้ต กางเกง และแจ็คเก็ต รวมไปถึงชุดสูททำงานผ้าเดนิมลายโมโนแกรม


ด้วยการบอกเล่าถึงปรัชญาอันเกิดจากการผสมผสานความเป็นทางการและความผ่อนคลายเข้าด้วยกันนี้ รองเท้าเดอร์บี LV Discovery จึงได้เลือกใช้พื้นรองเท้าผ้าใบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างความเป็นทางการและสปอร์ตแวร์เข้าไว้ด้วยกัน ในขณะที่รองเท้าสลิปออน LV Pacific จับคู่พื้นรองเท้าผ้าใบเข้ากับส่วนบนของรองเท้าที่ทำจากหนังกลับ เพื่อถ่ายทอดถึงความสง่างามและความสบายในการสวมใส่ การมาพบกันเช่นนี้ยังเห็นได้ในเวอร์ชันของรองเท้าชัคกาบูตบุซับในด้วยลวดลาย Damier เช่นเดียวกับการนำเสนอจิวเวลรี การผสมผสานผ้าลูกฟูกและหนัง Epi จะปรากฏให้เห็นบนชิ้นงานโลหะปั๊มนูนในเฉดสีทองวินเทจ และนำเสนอในรูปแบบของสร้อยข้อมือ สร้อยคอตกแต่งแผ่นโลหะ ตลอดจนแหวนวงเกลี้ยง






ในส่วนของกระเป๋าก็ได้รับการประยุกต์เทคนิคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การตีความโดยใช้หนัง Epi จะปรากฏผ่านการใช้ผิวสัมผัสและแพทเทิร์นของหนัง Maxi Epi สีแดง ซึ่งจะถูกนำเสนอบนกระเป๋ารุ่น Almaโบว์ลิ่ง กระเป๋าเป้สะพายหลัง Christopher กระเป๋า Poloncho ทรงกระบอกที่ดูนุ่ม กระเป๋าสะพายไหล่ Monceau ซึ่งดูบิดเบี้ยว และกระเป๋า Steamer ใบจิ๋ว ในขณะที่ลวดลาย monogram สุดคลาสสิกของ Louis Vuitton จะปรากฏในสองเฉดสีใหม่ ได้แก่ ผ้าแคนวาสสีเขียวโอลีฟซึ่งมาพร้อมกับการเดินเส้นปักสีส้มภายในกระเป๋าเป้สะพายหลัง Discovery กระเป๋า Pochette กระเป๋า Keepall และกระเป๋าสะพายข้างทรงครึ่งวงกลมใหม่ และผ้าแคนวาสสีฟ้ามาพร้อมกับการเดินเส้นปักสีน้ำตาลสำหรับกระเป๋าสะพายข้าง Avenue Sling และกระเป๋าเคเมอรา สำหรับกระเป๋าเป้สะพายหลัง Aerogram จะถูกนำเสนอด้วยหนังเกรนโทนสีโทปหรือฟ้าอ่อน ในขณะที่กระเป๋า City Keepalls จะมีให้เลือกในรูปแบบของหนังเกรนสีฟ้าอ่อนหรือผ้าแคนวาสโมโนแกรมสีฟ้า ในขณะที่เครื่องหนังขนาดเล็กชิ้นต่าง ๆ จะถูกตีความด้วยวัสดุหลักเช่นเดียวกับไอเทมอื่น ๆ จากคอลเล็คชั่น