Posts

เรือนเวลาที่ Hollywood มั่นใจ! รวมนาฬิกา OMEGA บนข้อมือของเหล่าซุปเปอร์สตาร์ที่งานประกาศรางวัล Oscars ครั้งที่ 95

ท่ามกลางงานประกาศรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 95 ใจกลาง Los Angeles ที่รายล้อมไปด้วยเหล่านักสร้างสรรค์ทั้งเบื้องหน้าและหลังของ Hollywood แฟชั่นบนพรมแดงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยรวมถึงนาฬิกาที่เป็น accessories คู่ใจของหลายๆคนอีกด้วย OMEGA คือแบรนด์คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจและหยิบมาสวมใส่ในวันสำคัญเช่นนี้ แต่ละคนเลือกเรือนไหนบ้าง ตามเราไปชมได้เลยครับ

Brendan Fraser

ผู้ชนะรางวัลใหญ่ Actor in a Leading Role จาก “The Whale” สวมใส่ OMEGA Speedmaster Chronoscope (reference: 329.33.43.51.02.001)

Ke Huy Quan

ผู้ชนะรางวัล Actor in a Supporting Role จาก “Everything Everywhere All at Once” สวมใส่ OMEGA Globemaster สาย stainless steel (reference: 130.30.39.21.02.001)

Andrew Garfield

นักแสดงมากความสามารถ เลือกสวมใส่ OMEGA De Ville Trésor ตัวเรือน 18K Sedna Gold สุดหรู (reference: 432.53.40.21.02.002)

Barry Keoghan

ผู้มีชื่อเข้าชิง Actor in a Supporting Role category จาก  “The Banshees of Inisherin” เลือกสวมใส่ OMEGA Globemaster สาย stainless steel (reference: 130.30.39.21.02.001) แบบเดียวกับ Ke Huy Quan

Lewis Pullman

อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถชาวอเมริกัน เลือกสวมใส่ OMEGA De Ville Trésor ตัวเรือน stainless steel (reference: 435.13.40.21.02.001)

Nicole Kidman

ปิดท้ายด้วยซุปเปอร์สตาร์คนสวยตลอดกาลของ Hollywood และเจ้าของรางวัลเมื่อปี 2003 เลือกสวมใส่ OMEGA Museum timepiece ตัวเรือน 18K white gold ที่แสนมีระดับ

rhunrun เรียบเรียง

ห้วงเวลาแสนโรแมนติกกับไอเดียของขวัญจาก Omega

เมื่อวันวาเลนไทน์ใกล้เข้ามา OMEGA จึงขอเสนอเรือนเวลาอันแสนพิเศษสองรุ่น ของขวัญในอุดมคติสำหรับคนรักที่หลงใหลในความหรูหราจากสวิส

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกสำหรับสุภาพสตรีของ OMEGA ยังมาพร้อมสรรพด้วยดอกไม้ นาฬิกา De Ville Mini Trésor ตัวเรือนทอง Moonshine™ 18K ได้รับการประดับด้วยลวดลายบุปผชาติสีแดงบนสายนาฬิกาผ้าที่พิมพ์แบบ Toile de Jouy อันเป็นเอกลักษณ์

เพชรถูกนำมาประดับเรียงร้อยบนด้านข้างของตัวเรือนขนาด 26 มม. อีกทั้งการตกแต่งด้วยธีมดอกไม้ยังครอบคลุมไปถึงบนเม็ดมะยมที่ประกอบด้วยเพชรหนึ่งเม็ดซึ่งรายล้อมด้วยลายดอกไม้จากลิควิดเซรามิกสีแดง หน้าปัดทรงโดมรังสรรค์จากอีนาเมลสีออฟไวท์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีแบบ “Grand Feu” ถูกเติมเต็มด้วยชุดเข็มจากทอง Moonshine™ 18K ที่ขัดเงาแบบไดมอนด์

รวมถึงหลักเลขโรมันที่พิมพ์ด้วยสีโรส ขุมกำลังของเรือนเวลา De Ville อันสง่างามคือกลไก OMEGA Calibre 4061 ซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้กระจกแซฟไฟร์ประดับด้วยลวดลาย “Her Time” เคลือบโลหะจนดูราวกับกระจก

ในด้านเรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษก็นับได้ว่าคลาสสิกอย่างแท้จริง นาฬิกา OMEGA De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่ 3 รังสรรค์จากทอง Sedna™ 18K หน้าปัดเคลือบ PVD สีดาร์คบลที่ตกแต่งด้วยลวดลายซันบรัช ประดับด้วยชุดเข็มเคลือบ PVD สีทอง Sedna™ หลักชั่วโมงมีการสลับระหว่างหลักเลขโรมันและทรงคาโบชง

และเติมเต็มลุคที่เหนือกาลเวลาด้วยหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา, หน้าปัดย่อยบอกวินาที ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา รวมถึงรางนาทีแบบรางรถไฟที่บริเวณขอบของหน้าปัด นาฬิกาที่ได้รับการรับรอง Master Chronometer รุ่นนี้มาในกล่องหนังสีดาร์คบลูและขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Co-Axial Calibre 8802 ที่สามารถยลโฉมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อการขีดข่วนบนฝาหลัง

เช่นเดียวกับความรักที่จะดำรงตราบนิรันดร์ นาฬิกาทั้งสองรุ่นต่างถูกผลิตให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและได้รับการรับประกันที่ครอบคลุมทั่วโลกนานถึง 5 ปีเต็ม คู่เรือนเวลาประจำวันวาเลนไทน์ของ OMEGA พร้อมวางจำหน่ายทั้งที่บูติก หรือช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ OMEGA นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีของขวัญอีกมากมายหลายแบบสำหรับคนสำคัญของคุณให้เลือกสรรอีกด้วย

rhunrun เรียบเรียง

Omega Speedmaster Super Racing เรือนเวลาลุคสปอร์ตกับกลไกสุดพิเศษที่ลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

OMEGA Speedmaster รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นสามารถปรับความเที่ยงตรงได้อย่างละเอียด ต้องขอบคุณระบบ Spirate™ ที่มาพร้อมกับสายใยนาฬิการะดับปฏิวัติวงการซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจดสิทธิบัตรที่สามารถปรับอัตราการแกว่งได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม กลไกที่ไม่เหมือนใครช่วยมอบความเป็นไปได้ให้ OMEGA สามารถยกระดับลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงเพียงนี้ ทาง OMEGA แทบกล่าวได้ว่าต้องคิดค้นจักรขึ้นใหม่ทั้งชิ้น: แบบถูกร่างขึ้นจากฐานข้อมูลทางเทคนิคของ Swatch Group ผสานเข้ากับความเที่ยงตรง, ความเสถียร และความน่าเชื่อถือของกลไกแบบอินเฮ้าส์ของ OMEGA ที่เหนือระดับในด้านโครโนเมตริกทางออกระดับนวัติกรรมดังกล่าวคือบาลานซ์สปริง Si14 แบบใหม่ที่ช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถตั้งความตึงของจุดยึดสายใยนาฬิกาผ่านกลไกการปรับแบบเยื้องศูนย์ที่อยู่บนบาลานซ์บริดจ์

ในด้านของ บาลานซ์สปริง Si14  นั้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial คือบาลานซ์สปริง Si14 ของ OMEGA ซึ่งแม้จะมีขนาดที่เล็กละเอียดมากกว่าเส้นผมมนุษย์ถึงสามเท่า บาลานซ์สปริงซิลิคอนก็มีความยืดหยุ่น, ทนทานต่อการกระแทก และไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีระบบ Spirate™ ของ OMEGA ประกอบไปด้วยสายใยนาฬิกาที่กำลังอยู่ในกระบวนการจดสิทธิบัตรซึ่งทำให้สามารถปรับอัตราการแกว่งได้อย่างละเอียด สายใยแต่ละชิ้นผลิตจากซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตภายในที่มีชื่อว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching)

มาที่ด้านของหน้าปัดถูกรายล้อมด้วยรางนาทีแบบเรซซิ่งที่ชวนมอง ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำถูกติดตั้งด้วยสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีเหลืองแบบใหม่ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี “กรองด์ เฟอ” (grand feu) สีเหลืองอันโดดเด่นที่เคยปรากฏบน Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS รุ่นปี 2013 นี้ยังถูกใช้บนเข็มโครโนกราฟที่ไล่เฉดสีรวมถึงแถบสีของเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที/12 ชั่วโมงตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลักเลข 3 นาฬิกายังทำหน้าที่บอกโซนเวลาที่สอง

ลายรวงผึ้งบนหน้าปัดเป็นการอ้างอิงถึงเรือนเวลาคอนเซปต์ที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ OMEGA ที่สามารถทนทานสนามแม่เหล็กแบบสุดขั้วได้ถึง 160,000 เกาส์

Speedmaster Super Racing รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวเลือกสายโลหะ และตัวเลือกสุดสปอร์ตอย่างสาย NATO ไนลอนรีไซเคิลลายแถบสีดำและสีเหลืองซึ่งอ้างอิงมาจากรหัสสีอันโดดเด่นของ Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ที่เปิดตัวเมื่อ 10 ปีก่อน

rhunrun เรียบเรียง

รีบคว้าเรือนโปรดก่อนราคาขึ้น! OMEGA เตรียมปรับราคานาฬิกาทุกรุ่นขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อย่าง OMEGA ในประเทศไทย ประกาศเตรียมปรับราคาขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 

โดยรุ่นยอดฮิตอย่าง Speedmaster Moonwatch จะปรับราคาขึ้นจาก262,000 บาท เป็น 281,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 7.25% และ Speedmaster 57 ปรับราคาขึ้นจาก 313,000 บาทเป็น 334,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.71% 

ในขณะที่คอลเล็กชัน Seamaster ในกลุ่ม Seamaster Diver 300M จะปรับราคาขึ้นจาก 196,000 บาท เป็น 209,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.63% และ Seamaster Aqua Terra World 

สำหรับใครที่ตัดสินใจจะเก็บสะสม และลงทุนกับนาฬิกา OMEGA ในอนาคต รับรองเลยว่าได้รับความคุ้มค่า มาพร้อมการรับประกันจาก OMEGA ถึง 5 ปีเต็ม ดังนั้นหากใครอยากสัมผัสเรือนเวลาสุดพิเศษก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น ก็ต้องรีบไปจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ บูติก OMEGA ทั้ง 3 สาขา

สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959

สาขา สยามพารากอน โทร. 02-129-4878

สาขา เซ็นทรัลภูเก็ตฟอเรสตา 076-510-818

หรือติดต่อ LINE OA: @OMEGAThailand 

rhunrun เรียบเรียง

ทุกรายละเอียดของเรือนเวลา De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่สามล่าสุดจาก Omega ต่อยอดการออกแบบที่แสนคลาสสิกและสง่างาม

นับตั้งแต่ปี 1994 De Ville Prestige ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบที่แสนคลาสสิกและความสง่างามของคอลเลคชั่นเรือนเวลาจากOMEGA รูปโฉมที่บริสุทธิ์ของนาฬิกาแต่ละรุ่นผสมผสานไว้ด้วยความงดงามแบบสมัยใหม่และศาสตร์การผลิตเครื่องบอกเวลา ผสานด้วยความวิจิตรและสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์จนทำให้นาฬิกาเหล่านี้ได้รับความนิยมจากทั่วโลก

ในปีนี้ De Ville Prestige จะได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ซึ่งไม่เพียงจะเพิ่มมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer สำหรับนาฬิกากลไกจักรกล แต่ยังรวมถึงการออกแบบใหม่และมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิมผ่านหน้าปัดที่ถูกตกแต่งในแบบต่างๆ รวมถึงเฉดสีอีกมากมายที่จะเข้ากับตัวตนและไลฟ์สไตล์ที่หลายหลาก

สำหรับสมาชิกใหม่ของปีนี้มีนาฬิกา De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่สามมากมายที่รอให้คุณตกหลุมความรัก เครื่องบอกเวลาเหล่านี้โดดเด่นด้วยตัวเรือนที่บางลงกว่าเดิมซึ่งรับกับข้อมือได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมาตรฐาน Master Chronometer ที่คอยส่งมอบความเที่ยงตรงให้กับทุกโมงยามของวัน

เริ่มต้นเรือนเวลามากมายในคอลเลคชั่นเจเนอเรชั่นที่สามด้วยนาฬิกาใหม่หกรุ่นที่มาในขนาดและสีที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นต่างผ่านการปรับปรุงและมีความหลากหลายซึ่งช่วยให้คุณได้เข้าใจถึงสไตล์ต่างๆ ที่จะถูกเผยโฉมในปีนี้โดยที่แก่นแห่งดีเอ็นเอของ De Ville Prestige ยังคงถูกรักษาไว้ ด้านหน้าของตัวเรือนเป็นทรง “triple-apple” (ลักษณะตัวเรือน-ขอบตัวเรือนอันเป็นเอกลักษณ์) ในขณะที่ทรง  “bassine” ช่วยเผยรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและเพรียวบาง หน้าปัดขนาดใหญ่และหลักชั่วโมงเลขโรมันช่วยให้แสดงเวลาได้อย่างชัดเจน สายโลหะแบบ 7 ข้อขัดเงาที่ได้รับความนิยมก็ยังคงได้รับการรักษาไว้เช่นเดิมนอกจากนี้รูปลักษณ์ในอดีตหลายประการก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของ OMEGA

โครงสร้างของคอลเลคชั่น

นอกจากนาฬิกาทองคำ 18K ก็มีตัวเลือกสำหรับสายโลหะและสายหนัง และพร้อมสำหรับการเป็นเครื่องประดับสำหรับรุ่นสองกษัตริย์และรุ่นสตีล โครงสร้างคอลเลคชั่นมีดังต่อไปนี้:

  • คอลเลคชั่นสำหรับสุภาพสตรี:
    • ความแตกต่างของหน้าปัด:
      • นาฬิการุ่นที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงทรงคาโบชงจะได้รับสายโลหะ
      • นาฬิการุ่นที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงเพชรจะได้รับสายนาฬิกาหนัง
  • คอลเลคชั่นสำหรับสุภาพบุรุษ:
    • หน้าปัดแบบเดียวกันจะมีทั้งสายนาฬิกาโลหะและสายหนัง

ทางด้านของฟังก์ชั่นที่แตกต่างสำหรับเรือนเวลาหลายขนาดคอลเลคชั่นมาพร้อมกับกลไกสี่แบบซึ่งต่างมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกัน

  • Calibre 8810 – กลไกจักรกล, พร้อมระบบพลังงานสำรองกับเข็มวินาทีขนาดเล็ก – สำหรับ 41 มม.
  • Calibre 8802 – กลไกจักรกล, กับเข็มวินาทีขนาดเล็ก – สำหรับ 41 มม.
  • Calibre 8800 – กลไกจักรกล, ชุดเข็มกลาง 3 เข็ม – สำหรับขนาด 40 มม. และ 34 มม.
  • Calibre 4061 – กลไกควอทซ์, ชุดเข็มกลาง 2 เข็ม – สำหรับขนาด 30 มม. และ 27.5 มม.

การรับรองระดับ Master Chronometer 

นาฬิกาจักรกลทุกรุ่นในเวลานี้ได้รับการปรับปรุงมาตรฐานความเที่ยงตรงให้อยู่ในระดับสูงสุดของสวิตเซอร์แลนด์ทั้งในด้านความเที่ยงตรง, ประสิทธิภาพ และคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็ก

การรับประกันทั่วโลก

นาฬิกาทุกเรือนมาพร้อมกับการรับประกันนาน 5 ปีเต็ม

rhunrun เรียบเรียง

Zoë Kravitz นักแสดงสาวมากความสามารถเลือก OMEGA เป็นเรือนเวลาคู่ใจที่บ่งบอกสไตล์และคาแรคเตอร์ที่สะกดผู้ชมได้เสมอในแบบฉบับของเธอ 

โซอี้ คราวิตซ์ ดาราสาวเจ้าบทบาทตบเท้าเข้าเป็นหนึ่งในทำเนียบสตรีมากมายที่เลือกใส่เรือนเวลา OMEGA จากสวิส

นับได้ว่าฝีมือการแสดงที่โดดเด่นระดับโลกของ โซอี้ คราวิตซ์ นั้นสามารถสะกดผู้ชมได้อยู่หมัด เห็นได้จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลากหลายแนวและภาพยนตร์อิสระอีกหลายเรื่อง นักแสดง, ผู้กำกับ, นางแบบ และโปรดิวเซอร์สาวรายนี้มีสไตล์ที่เปี่ยมด้วยพลังของความหนุ่มสาวและเชื่อมั่นในตนเอง และ OMEGA ก็ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับเธอสู่โลกของแบรนด์

โซอี้ คราวิตซ์คือดาวเด่นประจำแฟรนไชส์ภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์เช่น The Batman, Mad Max และ Fantastic Beasts อีกทั้งยังคว้ารางวัล EMMY® Award จากละครโทรทัศน์อย่าง Big Little Lies ตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าสู่วงการบันเทิง Variety ได้จัดให้เธออยู่ในรายการ “10 Actors to Watch” ในขณะที่ Forbes ยกเธอให้อยู่ในทำเนียบ “30 Under 30 List” หลังจากควบทั้งตำแหน่งนักแสดงและผู้อำนวยการผลิตในละครโทรทัศน์เรื่อง High Fidelity for Hulu ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย

และบทบาทล่าสุดของเธอในฐานะ Catwoman จากภาพยนตร์ The Batman ปี 2022 ฝีมือกำกับของแมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ของค่าย Warner Bros. ในปีเดียวกันนี้ โซอี้ คราวิตซ์ยังจะมีผลงานกำกับครั้งแรกผ่านภาพยนตร์เรื่อง Pussy Island

อีกฝ่ายก็รู้สึกเช่นเดียวกัน มร.เรย์โนลด์ เอชลิมานน์ (Raynald Aeschlimann) ทางประธานและซีอีโอของ OMEGA กล่าวชื่นชมโซอี้ คราวิตซ์ว่า “เธอเป็นหญิงสาวที่มีพรสรรค์เต็มเปี่ยม มาพร้อมกับแรงผลักดันที่น่าชมและความตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จในแบบของตนเอง” รวมถึงบรรยายความร่วมมือครั้งใหม่นี้ว่า “นับเป็นก้าวต่อไปที่น่าตื่นเต้นในพันธกิจเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังนิยามความหรูหราในแบบที่แตกต่างออกไป”

rhunrun เรียบเรียง

OMEGA : Time, Tide & Fame.

สร้างกระแสตอบรับล้นหลามสำหรับการมาร่วมงานกับลอฟฟีเซียลออมส์ไทยแลนด์สำหรับเจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุขมาในมาดหนุ่มเท่กับลุคต่างๆทั้งลำลองเป็นทางการและเท่แบบสปอร์ตๆโดยอมชลุคกับนาฬิกา OMEGA รุ่นต่างๆที่ครั้งนี้เราจะมาขยายกันว่าแต่ละรุ่นแต่ละเรือนที่สุดเท่นั้นมีความพิเศษอย่างไรนอกจากประสิทธิภาพเรื่องการบอกเวลาแล้วนวัตกรรมใหม่ๆในการรังสรรค์วัสดุทำให้ OMEGA คือนาฬิกาที่ต้องจับตามอง

ในกลิ่นอายของความวินเทจแต่ไม่ได้หมายความว่าจะดูเป็นหนุ่มทันสมัยไม่ได้ กับลุคนี้ที่แม้จะจับคู่เชิ้ตตัวในสีดำกับแจ็คเก็ตตัวนอกสีน้ำตาลอันเป็นคู่สีสุดคูลสำหรับหนุ่มๆ แต่เพิ่มดีเทลกับนาฬิกาข้อมือที่สวมใส่อย่าง OMEGA Speedmaster รุ่น CHRONOSCOPE ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกายุค 1940s ของ OMEGA มีหนาปัดย่อยเพื่อการคำนวณค่าเวลาต่างๆ รวมทั้งสเกลจับเวลา 3 ตัวในดีไซน์หอยทากอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมสายหนังที่ดูเท่ตลอดกาล

SPEED MASTER CHRONOSCOPE CO‑AXIAL MASTER CHRONOMETER CHRONOGRAPH 43 MM

(หมายเลขอ้างอิง 329.92.43.51.10.001)

คอลเลกชั่น Chronoscope ได้นำการออกแบบ Speedmaster ในตำนานมาผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟของ OMEGA จากทศวรรษที่ 1940 รุ่นตัวเรือน 43 มม. นี้รังสรรค์ด้วยสีบรอนซ์โกลด์อันเป็นเอกสิทธิ์ของ OMEGA พร้อมหน้าปัดบรอนซ์ออกซิไดซ์ที่มีร่องรอยพิเศษและผิวเคลือบโอปาลีน นอกจากวงขอบตัวเรือนทำจากเซรามิกสีน้ำตาลขัดมันที่มีสเกลทาคีมิเตอร์ทำด้วยเทคนิคอีนาเมล “วินเทจ” แล้ว เข็มรูปใบไม้และตัวเลขอารบิกยังมีการเคลือบ PVD ทองสัมฤทธิ์ ทอง 18K ด้วยรูปแบบแทร็ก “เกลียว” ที่ไม่เหมือนใครอยู่ใต้ตัวเลข ที่โดดเด่นที่สุดคือ หน้าปัดพิมพ์ด้วยสเกลจับเวลาที่โดดเด่นสามตัวในดีไซน์ “หอยทาก” ของปี 1940 ซึ่งรวมถึงสเกลทาคีมิเตอร์ สเกลพัลโซมิเตอร์ และสเกลเทเลมิเตอร์

สายหนังสีน้ำตาล เด่นด้วยหน้าปัดขนาดเล็กสีเงินที่ 9 นาฬิกาเพื่อบอก 60 นาทีและหน้าปัดเล็กสีเงินที่ 3 นาฬิกา บอกเวลา 12 ชั่วโมงภายในนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9908 การออกแบบของกลไกนี้โดดเด่นคือโครโนสโคปบริดจ์ การขัดแต่งแบบ Arabesque Geneva Waves ที่เริ่มจากบาลานซ์วีลแทนที่จะเป็นกลางกลไก – นับเป็นครั้งแรกที่ปรากฏในแบรนด์ OMEG เพื่อที่จะเพิ่มกำลังสำรองของนาฬิกา OMEGA ได้เลือกเสริมการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร (Diamond-Like-Carbon) ที่เพิ่มทนทานต่อการสึกหรอให้กับตลับลานคู่ ระบบคอลัมน์วีลของ OMEGA ยังช่วยรับประกันว่าฟังก์ชั่นต่างๆ ของโครโนสโคปจะทำงานได้อย่างเที่ยงตรงด้วยการรับรองระดับ Master Chronometer ทั้งกลไกและนาฬิกาได้ถูกทดสอบภายใต้สภาวะที่สุดขั้วที่ตั้งขึ้นจากการทดสอบที่เข้มงวดที่สุดของอุตสาหกรรมโดย Swiss Federal Institute of Metrology (METAS)

ขยายความบางฟังก์ชั่นที่คนอาจจะไม่ทราบถึงความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้

ทาคีมิเตอร์ คือ การบอกความเร็วจากระยะทาง Chronoscope จะสามารถบอกความเร็วที่คุณใช้ในการเดินทางได้ โดยอิงจากระยะทางที่เดินทาง โดยสเกลจะช่วยวัดระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางเฉลี่ยระหว่างตำแหน่งสองตำแหน่ง ไม่มีว่าการเดินทางของคุณจะเป็นในหน่วยไมล์หรือกิโลเมตร

เทเลมิเตอร์ คือ การบอกระยะทางจากความเร็วของเสียง เพียงสองขั้นตอนสุดง่าย เครื่องบอกเวลาอันเที่ยงตรงจาก OMEGA สามารถบอกได้อย่างแม่นยำว่าคุณอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดที่สามารถมองเห็นและมีเสียง เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง

พัลโซมิเตอร์ คือ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เต้นช้าไป เร็วไป หรือกำลังพอดี ต้องขอบคุณสเกล 30 ครั้งต่อนาที ที่ทำให้คุณสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจของทั้งตนเองหรือผู้อื่นได้



สำหรับรุ่นต่างๆ ของ CHRONOSCOPE มีทั้งตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 43 มม. ถึงหกรุ่นที่มาพร้อมกับตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาสลับด้าน สองรุ่นติดตั้งด้วยหน้าปัดสีเงินและชุดเข็มน้ำเงิน / สองรุ่นติดตั้งด้วยหน้าปัดน้ำเงินกับชุดเข็มชุบโรเดียม / สองรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีเงินกับหน้าปัดย่อยสีดำ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหน้าปัด “แพนด้า” ของ OMEGA กับชุดเข็มสีดำ ทุกหน้าปัดติดตั้งด้วยหลักเลขอารบิก ขอบตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียมอโนไดซ์สีน้ำเงินหรือดำ สามารถเลือกสายหนังที่มาคู่กับหัวสายสตีลแบบใหม่ หรือสายสแตนเลสสตีล

เพิ่มลุคสปอร์ตสำหรับการแต่งกายของหนุ่มๆ ด้วยนาฬิกาดำน้ำสุดเท่ Seamaster Professional Diver 300M ที่มีเวอร์ชั่นใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 ด้วยตัวเรือนเซรามิกสีดำพร้อมลายคลื่นที่เกิดจากเลเซอร์ล้อมกรอบด้วยทอง Sedna™ แต่งขอบแบบเจียมุมเป็นลายเหลี่ยมสุดเท่ ไม่ว่าจะแต่งตัวในลุคหรูเพียงใดแต่ถ้าต้องการเดิมความสปอร์ตที่ดูแพงก็คงต้องเป็นนาฬิกาเรือนนี้ ดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นไม่มียุคสมัย ลูกเล่นของเม็ดมะยม 2 ตำแหน่งที่ออกแบบมาเพื่อการใช้สอยอย่างสะดวกเมื่อมือต้องสวมถุงมือดำน้ำกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของดีไซน์ที่เท่ไม่เหมือนใคร

SEAMASTER DIVER 300M CO‑AXIAL MASTER CHRONOMETER 43.5 MM

(หมายเลขอ้างอิง 210.62.44.20.01.001)

ตั้งแต่ปี 1993 นาฬิกา Seamaster Professional Diver 300M มาถึงรุ่นศตวรรษที่ 21 ของ OMEGA ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบนาฬิกาดำน้ำแบบดั้งเดิม ในขณะที่นำเสนอวัสดุและกลไกใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น รุ่น 43.50 มม. นี้ตัวเรือนเซรามิกสีดำ [ZrO2] และทอง Sedna™ หน้าปัดเซรามิกสีดำพร้อมลายคลื่นที่ฉลุด้วยเลเซอร์เพื่อเป็นลวดลายแบบโปร่ง ขีดบอกเวลาทำจากทองคำ Sedna™ ขัดเงาและเข็มนาฬิกาแบบเหลี่ยมเพชรเคลือบด้วย Super-LumiNova สีขาว ตัดกันอย่างสวยงามกับหน้าปัดสีดำ เติมเต็มลุคด้วยสายนาฬิกาทำจากยางสีดำพร้อมตัวล็อคเซรามิกสีดำ ฝาหลังแบบขัดมันเงาพร้อมการออกแบบขอบเป็นคลื่นมาพร้อม NAIAD LOCK ที่จดสิทธิบัตรของ OMEGA กลไกขับเคลื่อนนาฬิกาคือ Co-Axial Master Chronometer Caliber 8806 ของ OMEGA สามารถกันน้ำได้ในระดับ 30 บาร์ (300 เมตร)

กลไก คาลิเบอร์: โอเมก้า 8806 แบบไขลานอัตโนมัติแบบ Co-Axial Master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS ทนทานต่อสนามแม่เหล็กถึง 15,000 เกาส์ ฟรีสปริงบาลานซ์พร้อมสปริงซิลิกอนบาลานซ์ ไขลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง การตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยโรเตอร์ชุบโรเดียมและ บริดจ์ที่มีการขัดแต่งแบบ Arabesque Geneva Waves

OMEGA มีวัสดุที่คิดค้นขึ้นมาพิเศษ คือ SednaTM Gold 18K ซึ่งเป็นโลหะผสมทองคำโรสโกลด์อัลลอยด์ที่มีความสว่างเรื่อเรืองออกเฉดแดงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ได้รับการตั้งชื่อตาม Sedna ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่รอบ ๆ เป็นดาวเคราะห์ที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล SednaTM Gold จึงไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติมาตรฐานทั้งหมดของทองคำ 18K แต่ยังให้ความคงทนสูงต่อการซีดจางของสีและความมันวาวเมื่อเวลาผ่านไป องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ประกอบด้วยทองแดงและแพลเลเดียมสำหรับสีและความทนทาน

เจมส์ จิรายุมาในลุคสบายๆ กับสเว็ตเตอร์ทอลายกราฟฟิกและจับคู่กับนาฬิกา OMEGA : CONSTELLATION MASTER CHRONOMETER ตัวเรือนทอง Sedna™ 18K จับคู่หน้าปัดสีน้ำเงินซันบรัชเป็นคู่สีที่หรูหราแต่ยังมีความโมเดิร์นทันสมัย เท่ด้วยวงขอบหน้าปัดที่มีตัวเลขโรมัน ดีไซน์ที่มีกลิ่นอายของยุคเอจตี้ส์แต่กลับดูโมเดิร์นในยุคนี้อย่างลงตัว สวมใส่กับสไตล์การแต่งกายได้หลายลุคทั้งลำลองและเป็นทางการโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนาฬิกา และสีน้ำเงินนี้ยังบ่งบอกถึงความภูมิฐานแบบสุภาพบุรุษที่ชอบความท้าทายในการใช้ชีวิต

CONSTELLATION MASTER CHRONOMETER

เป็นเวลามากกว่า 40 ปีที่ OMEGA เปิดตัวดีไซน์ Constellation “Manhattan” อันโด่งดัง แม้ชื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทว่าความคลาสสิคจากปี 1982 ยังคงตราตรึงผู้คนทั่วโลกไม่เสื่อมคลาย การออกแบบได้รับการปรับเปลี่ยนหลายครั้งตลอดหลายทศวรรษ และในเจเนอเรชั่นล่าสุดนี้ก็บรรจุไว้ซึ่งรายละเอียดน่าตื่นตาแบบใหม่มากมาย รวมถึงการรับรองมาตรฐาน Master Chronometer ที่เป็นมาตรฐานด้านความเที่ยงตรงที่สูงที่สุด ตัวเรือนทอง Sedna™ 18K ที่มาพร้อมกับหน้าปัดซันบรัชสีน้ำเงินและขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงิน เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษรุ่นนี้รังสรรค์มาเพื่อให้สวมใส่ได้ในทุกโอกาสตลอดทั้งปี นี่คือนาฬิกาที่คุณจะสวมใส่ในเวลาที่อยากโดดเด่นไม่เหมือนใคร

สำหรับตัวเรือนขนาด 41 มม. ขับเคลื่อนโดยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8901 ซึ่งมองเห็นได้ผ่านฝาหลังที่เป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่ป้องกันรอยขีดข่วนแบบโดม(หมายเลขอ้างอิง 131.63.41.21.03.001)

การออกแบบที่น่าทึ่งและคงทนของ OMEGA Constellation โดดเด่นด้วยรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่มีชื่อเสียง และขีดข้างหรือ claw ที่ด้านข้างของตัวเรือน สำหรับรุ่นตัวเรือนทองคำ 18K Sedna™ ขนาด 41 มม. นี้โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงาพร้อมตัวเลขโรมันทำจาก Ceragold™ หน้าปัดสีน้ำเงินแบบซันบรัช และหน้าต่างวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มนาฬิกา โลโก้ OMEGA ดาว Constellation และขีดบอกเวลาทรงเหลี่ยมเพชรล้วนเป็นทองคำ 18K Sedna™ สายหนังสีน้ำเงินพร้อมซับในด้วยยางทำให้สวมใส่สบายแม้อากาศจะร้อนชื้น สามารถกันน้ำได้ในระดับ 5 บาร์(50 เมตร)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือนเวลาเหล่านี้ได้ที่บูติก OMEGA
สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959
สาขา ดิ เอ็มโพเรียม โทร. 02-664-9550
และสาขา สยามพารากอน โทร. 02-129-4878
LINE OA: @OMEGAThailand หรือ คลิก https://bit.ly/3P2XNBx

ร่วมระลึกถึง OMEGA, Snoopy และ Apollo 13 กับภารกิจสุดระทึกที่มีเรือนเวลา Speedmaster เป็นส่วนสำคัญในการนำลูกเรือกลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 17 เมษายนนับได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับ OMEGA หลังเวลาล่วงเลยไปมากกว่า 50 ปีนับตั้งแต่ภารกิจ  Apollo 13 เมื่อภารกิจอันโด่งดังที่เกิดขึ้นในปี 1970 ทั้งลูกเรือ หรือเจ้าหน้าที่ภาคพื้นต่างก็ไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่ลุ้นระทึกและเฉียดหายนะมากเท่านี้มาก่อน

สำหรับ OMEGA ห้วงเวลานั้นยังคงประทับแน่นอยู่มิเสื่อมคลาย และต้องขอบคุณเรือนเวลาโครโนกราฟ Speedmaster Professional ที่มีบทบาทสำคัญในการนำลูกเรือกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

นักบินอวกาศ เจมส์ เอ. โลเวลล์ จูเนียร์ (James A. Lovell Jr.), ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ของ NASA
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

ตั้งแต่ปี 1965 ทาง NASA ได้ทำการกำหนดให้นาฬิกาเหล่านี้เป็น “อุปกรณ์สำรองชิ้นสำคัญ” ในกรณีที่เครื่องบอกเวลาดิจิทัลของนักบินอวกาศไม่สามารถใช้งานได้ เมื่อเกิดปัญหาระดับวิกฤตขึ้นกับ Apollo 13 ระหว่างการมุ่งหน้าไปดวงจันทร์ “อุปกรณ์สำรอง” ก็ได้ทำหน้าที่ของตน

เพียงสองวันหลังจากออกตัว ถังอ็อกซิเจนบนยาน Apollo 13 ก็เกิดระเบิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับ Service Module และทำให้นักบินอวกาศตกอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่ ภารกิจไปดวงจันทร์ถูกยกเลิก บัดนี้เป้าหมายเหลือเพียงการนำลูกเรือกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือที่ทางฮูสตัน (Houston) แนะนำคือการย้ายนักบินอวกาศเข้าไปใน Lunar Module อย่างไรก็ตาม โมดูลก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้รองรับคนจำนวนมากในระยะเวลานาน ดังนั้น ลูกเรือต้องปิดระบบเกือบทั้งหมดเพื่อทำการประหยัดพลังงาน – เครื่องจับเวลาดิจิทัลของพวกเขาจึงใช้การไม่ได้ ชะตากรรมของนักบินอวกาศต้องแขวนอยู่บนเส้นด้ายท่ามกลางความมืดมิดและหนาวเหน็บ

ยาน Apollo 13 เผชิญกับวิกฤตการณ์หลายอย่างตลอดระยะเวลาหลายวัน แต่เป็นอุปสรรคสุดท้ายที่ความเที่ยงตรงของ OMEGA ได้แสดงผลงาน

การช่วยเหลือลูกเรือภารกิจ Apollo 13 crew หลังลงจอดบนมหาสมุทร
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

เนื่องจากยานหลุดออกจากเส้นทางไปราว 60 ถึง 80 ไมล์ทะเล นั่นหมายความว่าโมดูลจะทำมุมระหว่างกลับสู่ชั้นบรรยากาศของโลกผิดและไม่มีทางจะปรับแก้ได้ ดังนั้นจึงต้องมีปรับเส้นทางใหม่ด้วยมือก่อนด้วยการเปิดการสันดาปเชื้อเพลิงนาน 14 วินาทีพอดี

ไม่มีที่ว่างให้กับความผิดพลาด เมื่อไร้อุปกรณ์จับเวลาดิจิทัล นักบินโมดูล แจ็ค สวีเกิร์ต (Jack Swigert) จึงใช้นาฬิกาโครโนกราฟ OMEGA Speedmaster Professional ของตนในการจับเวลาการเปิดสันดาปเชื้อเพลิงแทนระหว่างที่ผบ.เจมส์ โลเวลล์คอยบังคับยานโดยอ้างอิงจากเส้นขอบฟ้าของโลก ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทางแก้ที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ผล และท้ายที่สุด ในวันที่ 17 เมษายน หลังผ่านไป 142 ชั่วโมงกับอีก 54 นาที ยาน Apollo 13 ก็ลงจอดบนมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้อย่างปลอดภัย

หนึ่งปีต่อมา วันที่ 5 ตุลาคม ปี 1970 ทาง OMEGA ก็ได้รับรางวัล “Silver Snoopy Award” จาก NASA – เครื่องหมายแสดงความขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมในความสำเร็จของภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์ เมื่อรางวัลอันทรงเกียรตินี้ถูกรังสรรค์ขึ้น Snoopy ก็ได้รับเลือกให้เป็นมาสคอตแบบไม่เป็นทางการของ NASA จากความสามารถในทำให้บรรยากาศลดความตึงเครียดลงเมื่อพบกับปัญหา อีกทั้งยังสื่อถึงความสำเร็จของภารกิจและบทบาทการเป็น “สุนัขระวังภัย” (watchdog)

ตั้งแต่นั้น ทั้ง Snoopy และ Apollo 13 ก็อยู่ในหัวใจของ OMEGA มาตลอด รวมถึงได้มีการรังสรรค์นาฬิกา “Snoopy” หลายรุ่นขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับหมุดหมายต่างๆ ของการครบรอบภารกิจ และนาฬิกาSpeedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary ที่ถูกเปิดตัวไปไม่นานมานี้เมื่อปี 2020 ก็อัดแน่นไว้ด้วยสัมผัสแห่งความสนุกสนาน ทั้งหน้าปัดประดับด้วยเหรียญ Snoopy และจากนี้ยังมีตัวเรือนที่แสนพิเศษกับฝาหลังที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาจากตัวการ์ตูน Snoopy ที่บังคับยานโคจรรอบดวงจันทร์

นอกจากนาฬิกา Snoopy ทุกรุ่นจะทั้งดูดีและมอบความสนุกสนานให้กับบนข้อมือของคุณ เรือนเวลายังเป็นสิ่งย้ำเตือนที่เหนือกาลเวลาถึงความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือที่ OMEGA ได้มอบให้กับการสำรวจอวกาศตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี

rhunrun เรียบเรียง

นาฬิกาที่ฮอตที่สุดในนาทีนี้ทั้งดีไซน์และราคา! SWATCH เชิดชูหนึ่งในนาฬิกาที่โด่งดังที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสด้วยการเผยเรือนเวลา BIOCERAMIC ในคอลเลคชั่น MoonSwatch ใหม่ถึง 11 รุ่น

Swatch ร่วมกับ OMEGA เพื่อจินตนาการถึงการนำนวัตกรรมของ Swatch มาบรรจุลงใน Speedmaster Moonwatch

การจับมือกันที่เหนือความคาดหมาย, น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ครั้งแรกระหว่าง Swatch กับ OMEGA คือจุดสูงสุดของกระแสการร่วมงานกันระหว่างแบรนด์หรูและสตรีทแบรนด์เพื่อที่จะรังสรรค์ประดิษฐกรรมเวลาที่ผสานไว้ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองขั้ว

แบรนด์ได้หยิบนำแรงบันดาลใจจากอวกาศมาใช้ในการรังสรรค์นาฬิกา Swatch ถึงสิบเอ็ดรุ่นซึ่งตั้งชื่อตามดวงดาวบนท้องฟ้า ตั้งแต่ดาวยักษ์แดงที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะไปจนถึงดาวเคราะห์แคระกับดาวบริวาร

นาฬิกา Swatch ทุกรุ่นนี้มาพร้อมวัสดุที่เป็นสิทธิบัตรของแบรนด์อย่าง BIOCERAMIC อันเป็นเอกลักษณ์จากส่วนผสมเซรามิกสองในสามส่วน และสารที่ได้จากน้ำมันละหุ่งอีกหนึ่งส่วน แม้สีอย่างสีชมพูและสีน้ำเงินอ่อนจะเป็นการเผยอย่างชัดเจนว่าเรือนเวลาเหล่านี้จะแตกต่างไปจากนาฬิกาOmega Speedmaster ปกติ ทว่ากระทั่งเหล่าที่นิยมในนาฬิกา Moonwatch ก็ยังยากที่จะหาความแตกต่างพบ ทุกองค์ประกอบสำคัญของ Moonwatch ถูกบรรจุมาอย่างไม่ขาดตก ทั้งตัวเรือนแบบอสมมาตร, สเกลทาคีมิเตอร์อันโด่งดังที่มีจุดเหนือเลขเก้าสิบ รวมถึงหน้าปัดย่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของ Speedmaster ซึ่งสอดผสานกันได้อย่างลงตัว

นาฬิกา Moonwatch ของ OMEGA นับได้ว่าเป็นเครื่องบอกเวลาระดับตำนานที่นักสะสมทุกรายไม่ควรพลาด ส่วนนาฬิกาBIOCERAMIC MoonSwatch ของ Swatch ก็ช่วยทำให้การออกแบบระดับไอคอนิกนี้สามารถเข้าถึงได้ การทำให้ทุกคนสามารถสัมผัสกับนาฬิกาที่เคยไปยังดวงจันทร์สามารถสะท้อนถึงความสุขในการใช้ชีวิตและปรัชญาด้านนวัตกรรมของ Swatch ได้อย่างดี

ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ที่ร้าน Swatch 3 สาขา

– Swatch Central World Flagship Store ชั้น 1 เบอร์ 02 613 1471

-Swatch Icon Siam ชั้น เบอร์ 02 117 9633 

-Swatch Siam Paragon ชั้น M Watch Galleria  เบอร์ 02 690 1000 ต่อ 1124

สำหรับเงื่อนไขการซื้อคอลเลคชั่น Bioceramic MoonSwatch

จำกัดจำนวนไม่เกิน 2 เรือน (ไม่ซ้ำแบบต่อ 1 คน  เรือนละ 8,700 บาท

First come First Served”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA : @swatch_th 

#MoonSwatch #OmegaxSwatch

เรียบเรียง rhunrun

Safe and Sustainable future in space.

มาจัดการขยะอวกาศกัน ไม่น่าเชื่อว่าในอวกาศที่เรายังเดินทางไปไม่ได้ง่ายๆ เหมือนบนโลกจะมีมนุษย์จะมีดาวเทียมและเศษวัตถุในอวกาศที่มีแนวโน้มจะก่ออันตรายต่อกิจกรรมในอวกาศของมนุษย์มากกว่า 40,000 ชิ้น ทาง OMEGA จึงร่วมมือกับ Privateer เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืนในอวกาศ

OMEGA ผู้ผลิตนาฬิกาแบบแรกที่ได้ไปยังดวงจันทร์กลับมาเป็นแนวหน้าในการสำรวจอวกาศอีกครั้ง ได้มีภารกิจใหม่เป็นการสนับสนุนการติดตามดาวเทียมและเศษวัตถุในอวกาศที่มีแนวโน้มจะก่ออันตรายต่อกิจกรรมในอวกาศของมนุษย์ โดยร่วมกันทำแผนที่วัตถุอวกาศต่างๆ ในวงโคจรด้วยความแม่นยำและเปิดเผยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อคอยติดตามรวมถึงทำให้อวกาศเป็นสถานที่ปลอดภัยและทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ภารกิจของ Privateer อยู่ภายใต้การนำของสามผู้บริหาร: สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple, อเล็กซ์ ฟิลดิง (Alex Fielding) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Ripcord, ดร. โมริบา จาห์ (Moriba Jah) นักกลศาสตร์วงโคจรและนักสิ่งแวดล้อมอวกาศ

เป็นการรวมตัวสามผู้ยิ่งใหญ่ แต่นี่หาใช่ภารกิจเพื่อเกียรติยศ นักนวัตกรรมและนักแก้ปัญหาเหล่านี้ทราบดีว่าเศษวัตถุในอวกาศเป็นปัญหาเร่งด่วนและเป็นสิ่งที่ทุกชาติและทุกฝ่ายกังวล มี “ขยะ” อวกาศจากฝีมือมนุษย์กว่าสีหมื่นชิ้นที่โคจรรอบโลกที่ได้รับการถูกติดตาม ทว่ามันกลับครอบคลุมเพียงวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 ซม. มีวัตถุอันตรายในวงโคจรอีกมากที่ยังคงไม่สามารถระบุ, ติดตามและคาดการณ์ได้

เมื่ออวกาศสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าที่เคย ปริมาณปัญหาที่เกิดจากขยะอวกาศก็เริ่มสร้างความเสี่ยงให้กับดาวเทียมที่มนุษย์ต้องใช้สำหรับบริการที่จำเป็นต่างๆ เช่น การสื่อสาร, การระบุตำแหน่ง และการติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบันจึงนับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเรา – ไม่ใช่เพียงแค่ในอวกาศ แต่ยังรวมถึงบนโลกของเราด้วย

การรวบรวมข้อมูลและสร้างแบบจำลองระดับนี้คืองานขนาดยักษ์ และ OMEGA ก็ภูมิใจที่จะได้มีส่วนร่วมกับทาง Privateer ในความพยายามอันกล้าหาญนี้ เมื่อร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าความยั่งยืนทางอวกาศกำลังลดน้อยถอยลง มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือ

“เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับทาง OMEGA สำหรับการเปิดตัวเทคโนโลยีด้านกราฟของ Privateer” ฟิลดิงให้สัมภาษณ์ “OMEGA มีประวัติศาสตร์ยาวนานในด้านการสำรวจไม่ว่าจะเป็นบนแผ่นดิน, ทะเล และอวกาศ และด้วยการสนับสนุนจากพวกเขา ทาง Privateer จะสามารถขยายการสำรวจของมนุษยชาติและเข้าใจพรมแดนแห่งสุดท้ายได้ดียิ่งขึ้น”

มร. เรย์โนลด์ เอชลิมานน์ (Raynald Aeschlimann) ประธานและซีอีโอของ OMEGA เปิดเผยความรู้สึก “การได้ร่วมมือกับ Privateer นั้นเหมือนกับการพบตัวต่อชิ้นสุดท้าย ด้วยโครงการใหม่นี้ เราจะสามารถตอบแทนโลกได้ตั้งแต่ก้นสมุทรไปจนถึงอวกาศ OMEGA กับ Privateer ต่างเสริมซึ่งกันและกัน พวกเรายึดมั่นในรายละเอียด ภายในนาฬิกาจักรกลนั้นไม่ต่างอะไรกับจักรวาลขนาดย่อม ทุกอย่างต้องทำงานได้อย่างไร้ที่ติหากอยากให้มันทำงานอย่างสมบูรณ์แบบและยาวนาน”

ความร่วมมือใหม่คือหลักประกันที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิมถึงความตั้งใจในการมองหาการผจญภัย, การเรียนรู้, การพัฒนา และกล้าที่จะเสี่ยงของแบรนด์จากสวิส — รวมถึงใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
เมื่อนำประวัติศาสตร์ด้านการสำรวจอวกาศของ OMEGA และนวัตกรรมล่าสุดของ Privateer มาผสานกัน ความร่วมมือยังแสดงพันธกิจที่จะอุปถัมภ์ความรู้และความหวังของบริษัท เมื่อโลกกำลังเผชิญกับอนาคตด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แน่นอนทั้งทางบก, ทางทะเล, ทางอากาศ และในอวกาศ นักบุกเบิกเหล่านี้จึงมุ่งที่จะเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการรักสิ่งแวดล้อม “เราต้องดูแลสิ่งแวดล้อมราวกับว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับมัน เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ” จาห์เผย

เช่นเดียวกับภาพ Earthrise อันโด่งดังที่ถ่ายจากยาน Apollo 8 ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม แผนที่ดิจิทัลของสิ่งที่มนุษยชาติหลงเหลือไว้ในอวกาศนี้จะเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันในการสร้างความตระหนักถึงความเปราะบางของโลกของเรา

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดู mission.privateer.com.