Posts

เรือนเวลาที่ Hollywood มั่นใจ! รวมนาฬิกา OMEGA บนข้อมือของเหล่าซุปเปอร์สตาร์ที่งานประกาศรางวัล Oscars ครั้งที่ 95

ท่ามกลางงานประกาศรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 95 ใจกลาง Los Angeles ที่รายล้อมไปด้วยเหล่านักสร้างสรรค์ทั้งเบื้องหน้าและหลังของ Hollywood แฟชั่นบนพรมแดงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยรวมถึงนาฬิกาที่เป็น accessories คู่ใจของหลายๆคนอีกด้วย OMEGA คือแบรนด์คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจและหยิบมาสวมใส่ในวันสำคัญเช่นนี้ แต่ละคนเลือกเรือนไหนบ้าง ตามเราไปชมได้เลยครับ

Brendan Fraser

ผู้ชนะรางวัลใหญ่ Actor in a Leading Role จาก “The Whale” สวมใส่ OMEGA Speedmaster Chronoscope (reference: 329.33.43.51.02.001)

Ke Huy Quan

ผู้ชนะรางวัล Actor in a Supporting Role จาก “Everything Everywhere All at Once” สวมใส่ OMEGA Globemaster สาย stainless steel (reference: 130.30.39.21.02.001)

Andrew Garfield

นักแสดงมากความสามารถ เลือกสวมใส่ OMEGA De Ville Trésor ตัวเรือน 18K Sedna Gold สุดหรู (reference: 432.53.40.21.02.002)

Barry Keoghan

ผู้มีชื่อเข้าชิง Actor in a Supporting Role category จาก  “The Banshees of Inisherin” เลือกสวมใส่ OMEGA Globemaster สาย stainless steel (reference: 130.30.39.21.02.001) แบบเดียวกับ Ke Huy Quan

Lewis Pullman

อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถชาวอเมริกัน เลือกสวมใส่ OMEGA De Ville Trésor ตัวเรือน stainless steel (reference: 435.13.40.21.02.001)

Nicole Kidman

ปิดท้ายด้วยซุปเปอร์สตาร์คนสวยตลอดกาลของ Hollywood และเจ้าของรางวัลเมื่อปี 2003 เลือกสวมใส่ OMEGA Museum timepiece ตัวเรือน 18K white gold ที่แสนมีระดับ

rhunrun เรียบเรียง

ห้วงเวลาแสนโรแมนติกกับไอเดียของขวัญจาก Omega

เมื่อวันวาเลนไทน์ใกล้เข้ามา OMEGA จึงขอเสนอเรือนเวลาอันแสนพิเศษสองรุ่น ของขวัญในอุดมคติสำหรับคนรักที่หลงใหลในความหรูหราจากสวิส

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกสำหรับสุภาพสตรีของ OMEGA ยังมาพร้อมสรรพด้วยดอกไม้ นาฬิกา De Ville Mini Trésor ตัวเรือนทอง Moonshine™ 18K ได้รับการประดับด้วยลวดลายบุปผชาติสีแดงบนสายนาฬิกาผ้าที่พิมพ์แบบ Toile de Jouy อันเป็นเอกลักษณ์

เพชรถูกนำมาประดับเรียงร้อยบนด้านข้างของตัวเรือนขนาด 26 มม. อีกทั้งการตกแต่งด้วยธีมดอกไม้ยังครอบคลุมไปถึงบนเม็ดมะยมที่ประกอบด้วยเพชรหนึ่งเม็ดซึ่งรายล้อมด้วยลายดอกไม้จากลิควิดเซรามิกสีแดง หน้าปัดทรงโดมรังสรรค์จากอีนาเมลสีออฟไวท์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีแบบ “Grand Feu” ถูกเติมเต็มด้วยชุดเข็มจากทอง Moonshine™ 18K ที่ขัดเงาแบบไดมอนด์

รวมถึงหลักเลขโรมันที่พิมพ์ด้วยสีโรส ขุมกำลังของเรือนเวลา De Ville อันสง่างามคือกลไก OMEGA Calibre 4061 ซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้กระจกแซฟไฟร์ประดับด้วยลวดลาย “Her Time” เคลือบโลหะจนดูราวกับกระจก

ในด้านเรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษก็นับได้ว่าคลาสสิกอย่างแท้จริง นาฬิกา OMEGA De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่ 3 รังสรรค์จากทอง Sedna™ 18K หน้าปัดเคลือบ PVD สีดาร์คบลที่ตกแต่งด้วยลวดลายซันบรัช ประดับด้วยชุดเข็มเคลือบ PVD สีทอง Sedna™ หลักชั่วโมงมีการสลับระหว่างหลักเลขโรมันและทรงคาโบชง

และเติมเต็มลุคที่เหนือกาลเวลาด้วยหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา, หน้าปัดย่อยบอกวินาที ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา รวมถึงรางนาทีแบบรางรถไฟที่บริเวณขอบของหน้าปัด นาฬิกาที่ได้รับการรับรอง Master Chronometer รุ่นนี้มาในกล่องหนังสีดาร์คบลูและขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Co-Axial Calibre 8802 ที่สามารถยลโฉมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อการขีดข่วนบนฝาหลัง

เช่นเดียวกับความรักที่จะดำรงตราบนิรันดร์ นาฬิกาทั้งสองรุ่นต่างถูกผลิตให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและได้รับการรับประกันที่ครอบคลุมทั่วโลกนานถึง 5 ปีเต็ม คู่เรือนเวลาประจำวันวาเลนไทน์ของ OMEGA พร้อมวางจำหน่ายทั้งที่บูติก หรือช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ OMEGA นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีของขวัญอีกมากมายหลายแบบสำหรับคนสำคัญของคุณให้เลือกสรรอีกด้วย

rhunrun เรียบเรียง

Omega Speedmaster Super Racing เรือนเวลาลุคสปอร์ตกับกลไกสุดพิเศษที่ลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

OMEGA Speedmaster รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นสามารถปรับความเที่ยงตรงได้อย่างละเอียด ต้องขอบคุณระบบ Spirate™ ที่มาพร้อมกับสายใยนาฬิการะดับปฏิวัติวงการซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจดสิทธิบัตรที่สามารถปรับอัตราการแกว่งได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม กลไกที่ไม่เหมือนใครช่วยมอบความเป็นไปได้ให้ OMEGA สามารถยกระดับลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงเพียงนี้ ทาง OMEGA แทบกล่าวได้ว่าต้องคิดค้นจักรขึ้นใหม่ทั้งชิ้น: แบบถูกร่างขึ้นจากฐานข้อมูลทางเทคนิคของ Swatch Group ผสานเข้ากับความเที่ยงตรง, ความเสถียร และความน่าเชื่อถือของกลไกแบบอินเฮ้าส์ของ OMEGA ที่เหนือระดับในด้านโครโนเมตริกทางออกระดับนวัติกรรมดังกล่าวคือบาลานซ์สปริง Si14 แบบใหม่ที่ช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถตั้งความตึงของจุดยึดสายใยนาฬิกาผ่านกลไกการปรับแบบเยื้องศูนย์ที่อยู่บนบาลานซ์บริดจ์

ในด้านของ บาลานซ์สปริง Si14  นั้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial คือบาลานซ์สปริง Si14 ของ OMEGA ซึ่งแม้จะมีขนาดที่เล็กละเอียดมากกว่าเส้นผมมนุษย์ถึงสามเท่า บาลานซ์สปริงซิลิคอนก็มีความยืดหยุ่น, ทนทานต่อการกระแทก และไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีระบบ Spirate™ ของ OMEGA ประกอบไปด้วยสายใยนาฬิกาที่กำลังอยู่ในกระบวนการจดสิทธิบัตรซึ่งทำให้สามารถปรับอัตราการแกว่งได้อย่างละเอียด สายใยแต่ละชิ้นผลิตจากซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตภายในที่มีชื่อว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching)

มาที่ด้านของหน้าปัดถูกรายล้อมด้วยรางนาทีแบบเรซซิ่งที่ชวนมอง ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำถูกติดตั้งด้วยสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีเหลืองแบบใหม่ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี “กรองด์ เฟอ” (grand feu) สีเหลืองอันโดดเด่นที่เคยปรากฏบน Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS รุ่นปี 2013 นี้ยังถูกใช้บนเข็มโครโนกราฟที่ไล่เฉดสีรวมถึงแถบสีของเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที/12 ชั่วโมงตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลักเลข 3 นาฬิกายังทำหน้าที่บอกโซนเวลาที่สอง

ลายรวงผึ้งบนหน้าปัดเป็นการอ้างอิงถึงเรือนเวลาคอนเซปต์ที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ OMEGA ที่สามารถทนทานสนามแม่เหล็กแบบสุดขั้วได้ถึง 160,000 เกาส์

Speedmaster Super Racing รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวเลือกสายโลหะ และตัวเลือกสุดสปอร์ตอย่างสาย NATO ไนลอนรีไซเคิลลายแถบสีดำและสีเหลืองซึ่งอ้างอิงมาจากรหัสสีอันโดดเด่นของ Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ที่เปิดตัวเมื่อ 10 ปีก่อน

rhunrun เรียบเรียง

รีบคว้าเรือนโปรดก่อนราคาขึ้น! OMEGA เตรียมปรับราคานาฬิกาทุกรุ่นขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อย่าง OMEGA ในประเทศไทย ประกาศเตรียมปรับราคาขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 

โดยรุ่นยอดฮิตอย่าง Speedmaster Moonwatch จะปรับราคาขึ้นจาก262,000 บาท เป็น 281,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 7.25% และ Speedmaster 57 ปรับราคาขึ้นจาก 313,000 บาทเป็น 334,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.71% 

ในขณะที่คอลเล็กชัน Seamaster ในกลุ่ม Seamaster Diver 300M จะปรับราคาขึ้นจาก 196,000 บาท เป็น 209,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.63% และ Seamaster Aqua Terra World 

สำหรับใครที่ตัดสินใจจะเก็บสะสม และลงทุนกับนาฬิกา OMEGA ในอนาคต รับรองเลยว่าได้รับความคุ้มค่า มาพร้อมการรับประกันจาก OMEGA ถึง 5 ปีเต็ม ดังนั้นหากใครอยากสัมผัสเรือนเวลาสุดพิเศษก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น ก็ต้องรีบไปจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ บูติก OMEGA ทั้ง 3 สาขา

สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959

สาขา สยามพารากอน โทร. 02-129-4878

สาขา เซ็นทรัลภูเก็ตฟอเรสตา 076-510-818

หรือติดต่อ LINE OA: @OMEGAThailand 

rhunrun เรียบเรียง

ทุกรายละเอียดของเรือนเวลา De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่สามล่าสุดจาก Omega ต่อยอดการออกแบบที่แสนคลาสสิกและสง่างาม

นับตั้งแต่ปี 1994 De Ville Prestige ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบที่แสนคลาสสิกและความสง่างามของคอลเลคชั่นเรือนเวลาจากOMEGA รูปโฉมที่บริสุทธิ์ของนาฬิกาแต่ละรุ่นผสมผสานไว้ด้วยความงดงามแบบสมัยใหม่และศาสตร์การผลิตเครื่องบอกเวลา ผสานด้วยความวิจิตรและสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์จนทำให้นาฬิกาเหล่านี้ได้รับความนิยมจากทั่วโลก

ในปีนี้ De Ville Prestige จะได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ซึ่งไม่เพียงจะเพิ่มมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer สำหรับนาฬิกากลไกจักรกล แต่ยังรวมถึงการออกแบบใหม่และมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิมผ่านหน้าปัดที่ถูกตกแต่งในแบบต่างๆ รวมถึงเฉดสีอีกมากมายที่จะเข้ากับตัวตนและไลฟ์สไตล์ที่หลายหลาก

สำหรับสมาชิกใหม่ของปีนี้มีนาฬิกา De Ville Prestige เจเนอเรชั่นที่สามมากมายที่รอให้คุณตกหลุมความรัก เครื่องบอกเวลาเหล่านี้โดดเด่นด้วยตัวเรือนที่บางลงกว่าเดิมซึ่งรับกับข้อมือได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมาตรฐาน Master Chronometer ที่คอยส่งมอบความเที่ยงตรงให้กับทุกโมงยามของวัน

เริ่มต้นเรือนเวลามากมายในคอลเลคชั่นเจเนอเรชั่นที่สามด้วยนาฬิกาใหม่หกรุ่นที่มาในขนาดและสีที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นต่างผ่านการปรับปรุงและมีความหลากหลายซึ่งช่วยให้คุณได้เข้าใจถึงสไตล์ต่างๆ ที่จะถูกเผยโฉมในปีนี้โดยที่แก่นแห่งดีเอ็นเอของ De Ville Prestige ยังคงถูกรักษาไว้ ด้านหน้าของตัวเรือนเป็นทรง “triple-apple” (ลักษณะตัวเรือน-ขอบตัวเรือนอันเป็นเอกลักษณ์) ในขณะที่ทรง  “bassine” ช่วยเผยรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและเพรียวบาง หน้าปัดขนาดใหญ่และหลักชั่วโมงเลขโรมันช่วยให้แสดงเวลาได้อย่างชัดเจน สายโลหะแบบ 7 ข้อขัดเงาที่ได้รับความนิยมก็ยังคงได้รับการรักษาไว้เช่นเดิมนอกจากนี้รูปลักษณ์ในอดีตหลายประการก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของ OMEGA

โครงสร้างของคอลเลคชั่น

นอกจากนาฬิกาทองคำ 18K ก็มีตัวเลือกสำหรับสายโลหะและสายหนัง และพร้อมสำหรับการเป็นเครื่องประดับสำหรับรุ่นสองกษัตริย์และรุ่นสตีล โครงสร้างคอลเลคชั่นมีดังต่อไปนี้:

  • คอลเลคชั่นสำหรับสุภาพสตรี:
    • ความแตกต่างของหน้าปัด:
      • นาฬิการุ่นที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงทรงคาโบชงจะได้รับสายโลหะ
      • นาฬิการุ่นที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงเพชรจะได้รับสายนาฬิกาหนัง
  • คอลเลคชั่นสำหรับสุภาพบุรุษ:
    • หน้าปัดแบบเดียวกันจะมีทั้งสายนาฬิกาโลหะและสายหนัง

ทางด้านของฟังก์ชั่นที่แตกต่างสำหรับเรือนเวลาหลายขนาดคอลเลคชั่นมาพร้อมกับกลไกสี่แบบซึ่งต่างมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกัน

  • Calibre 8810 – กลไกจักรกล, พร้อมระบบพลังงานสำรองกับเข็มวินาทีขนาดเล็ก – สำหรับ 41 มม.
  • Calibre 8802 – กลไกจักรกล, กับเข็มวินาทีขนาดเล็ก – สำหรับ 41 มม.
  • Calibre 8800 – กลไกจักรกล, ชุดเข็มกลาง 3 เข็ม – สำหรับขนาด 40 มม. และ 34 มม.
  • Calibre 4061 – กลไกควอทซ์, ชุดเข็มกลาง 2 เข็ม – สำหรับขนาด 30 มม. และ 27.5 มม.

การรับรองระดับ Master Chronometer 

นาฬิกาจักรกลทุกรุ่นในเวลานี้ได้รับการปรับปรุงมาตรฐานความเที่ยงตรงให้อยู่ในระดับสูงสุดของสวิตเซอร์แลนด์ทั้งในด้านความเที่ยงตรง, ประสิทธิภาพ และคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็ก

การรับประกันทั่วโลก

นาฬิกาทุกเรือนมาพร้อมกับการรับประกันนาน 5 ปีเต็ม

rhunrun เรียบเรียง

ร่วมระลึกถึง OMEGA, Snoopy และ Apollo 13 กับภารกิจสุดระทึกที่มีเรือนเวลา Speedmaster เป็นส่วนสำคัญในการนำลูกเรือกลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 17 เมษายนนับได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับ OMEGA หลังเวลาล่วงเลยไปมากกว่า 50 ปีนับตั้งแต่ภารกิจ  Apollo 13 เมื่อภารกิจอันโด่งดังที่เกิดขึ้นในปี 1970 ทั้งลูกเรือ หรือเจ้าหน้าที่ภาคพื้นต่างก็ไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่ลุ้นระทึกและเฉียดหายนะมากเท่านี้มาก่อน

สำหรับ OMEGA ห้วงเวลานั้นยังคงประทับแน่นอยู่มิเสื่อมคลาย และต้องขอบคุณเรือนเวลาโครโนกราฟ Speedmaster Professional ที่มีบทบาทสำคัญในการนำลูกเรือกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

นักบินอวกาศ เจมส์ เอ. โลเวลล์ จูเนียร์ (James A. Lovell Jr.), ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ของ NASA
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

ตั้งแต่ปี 1965 ทาง NASA ได้ทำการกำหนดให้นาฬิกาเหล่านี้เป็น “อุปกรณ์สำรองชิ้นสำคัญ” ในกรณีที่เครื่องบอกเวลาดิจิทัลของนักบินอวกาศไม่สามารถใช้งานได้ เมื่อเกิดปัญหาระดับวิกฤตขึ้นกับ Apollo 13 ระหว่างการมุ่งหน้าไปดวงจันทร์ “อุปกรณ์สำรอง” ก็ได้ทำหน้าที่ของตน

เพียงสองวันหลังจากออกตัว ถังอ็อกซิเจนบนยาน Apollo 13 ก็เกิดระเบิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับ Service Module และทำให้นักบินอวกาศตกอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่ ภารกิจไปดวงจันทร์ถูกยกเลิก บัดนี้เป้าหมายเหลือเพียงการนำลูกเรือกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือที่ทางฮูสตัน (Houston) แนะนำคือการย้ายนักบินอวกาศเข้าไปใน Lunar Module อย่างไรก็ตาม โมดูลก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้รองรับคนจำนวนมากในระยะเวลานาน ดังนั้น ลูกเรือต้องปิดระบบเกือบทั้งหมดเพื่อทำการประหยัดพลังงาน – เครื่องจับเวลาดิจิทัลของพวกเขาจึงใช้การไม่ได้ ชะตากรรมของนักบินอวกาศต้องแขวนอยู่บนเส้นด้ายท่ามกลางความมืดมิดและหนาวเหน็บ

ยาน Apollo 13 เผชิญกับวิกฤตการณ์หลายอย่างตลอดระยะเวลาหลายวัน แต่เป็นอุปสรรคสุดท้ายที่ความเที่ยงตรงของ OMEGA ได้แสดงผลงาน

การช่วยเหลือลูกเรือภารกิจ Apollo 13 crew หลังลงจอดบนมหาสมุทร
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

เนื่องจากยานหลุดออกจากเส้นทางไปราว 60 ถึง 80 ไมล์ทะเล นั่นหมายความว่าโมดูลจะทำมุมระหว่างกลับสู่ชั้นบรรยากาศของโลกผิดและไม่มีทางจะปรับแก้ได้ ดังนั้นจึงต้องมีปรับเส้นทางใหม่ด้วยมือก่อนด้วยการเปิดการสันดาปเชื้อเพลิงนาน 14 วินาทีพอดี

ไม่มีที่ว่างให้กับความผิดพลาด เมื่อไร้อุปกรณ์จับเวลาดิจิทัล นักบินโมดูล แจ็ค สวีเกิร์ต (Jack Swigert) จึงใช้นาฬิกาโครโนกราฟ OMEGA Speedmaster Professional ของตนในการจับเวลาการเปิดสันดาปเชื้อเพลิงแทนระหว่างที่ผบ.เจมส์ โลเวลล์คอยบังคับยานโดยอ้างอิงจากเส้นขอบฟ้าของโลก ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทางแก้ที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ผล และท้ายที่สุด ในวันที่ 17 เมษายน หลังผ่านไป 142 ชั่วโมงกับอีก 54 นาที ยาน Apollo 13 ก็ลงจอดบนมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้อย่างปลอดภัย

หนึ่งปีต่อมา วันที่ 5 ตุลาคม ปี 1970 ทาง OMEGA ก็ได้รับรางวัล “Silver Snoopy Award” จาก NASA – เครื่องหมายแสดงความขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมในความสำเร็จของภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์ เมื่อรางวัลอันทรงเกียรตินี้ถูกรังสรรค์ขึ้น Snoopy ก็ได้รับเลือกให้เป็นมาสคอตแบบไม่เป็นทางการของ NASA จากความสามารถในทำให้บรรยากาศลดความตึงเครียดลงเมื่อพบกับปัญหา อีกทั้งยังสื่อถึงความสำเร็จของภารกิจและบทบาทการเป็น “สุนัขระวังภัย” (watchdog)

ตั้งแต่นั้น ทั้ง Snoopy และ Apollo 13 ก็อยู่ในหัวใจของ OMEGA มาตลอด รวมถึงได้มีการรังสรรค์นาฬิกา “Snoopy” หลายรุ่นขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับหมุดหมายต่างๆ ของการครบรอบภารกิจ และนาฬิกาSpeedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary ที่ถูกเปิดตัวไปไม่นานมานี้เมื่อปี 2020 ก็อัดแน่นไว้ด้วยสัมผัสแห่งความสนุกสนาน ทั้งหน้าปัดประดับด้วยเหรียญ Snoopy และจากนี้ยังมีตัวเรือนที่แสนพิเศษกับฝาหลังที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาจากตัวการ์ตูน Snoopy ที่บังคับยานโคจรรอบดวงจันทร์

นอกจากนาฬิกา Snoopy ทุกรุ่นจะทั้งดูดีและมอบความสนุกสนานให้กับบนข้อมือของคุณ เรือนเวลายังเป็นสิ่งย้ำเตือนที่เหนือกาลเวลาถึงความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือที่ OMEGA ได้มอบให้กับการสำรวจอวกาศตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี

rhunrun เรียบเรียง

Safe and Sustainable future in space.

มาจัดการขยะอวกาศกัน ไม่น่าเชื่อว่าในอวกาศที่เรายังเดินทางไปไม่ได้ง่ายๆ เหมือนบนโลกจะมีมนุษย์จะมีดาวเทียมและเศษวัตถุในอวกาศที่มีแนวโน้มจะก่ออันตรายต่อกิจกรรมในอวกาศของมนุษย์มากกว่า 40,000 ชิ้น ทาง OMEGA จึงร่วมมือกับ Privateer เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืนในอวกาศ

OMEGA ผู้ผลิตนาฬิกาแบบแรกที่ได้ไปยังดวงจันทร์กลับมาเป็นแนวหน้าในการสำรวจอวกาศอีกครั้ง ได้มีภารกิจใหม่เป็นการสนับสนุนการติดตามดาวเทียมและเศษวัตถุในอวกาศที่มีแนวโน้มจะก่ออันตรายต่อกิจกรรมในอวกาศของมนุษย์ โดยร่วมกันทำแผนที่วัตถุอวกาศต่างๆ ในวงโคจรด้วยความแม่นยำและเปิดเผยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อคอยติดตามรวมถึงทำให้อวกาศเป็นสถานที่ปลอดภัยและทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ภารกิจของ Privateer อยู่ภายใต้การนำของสามผู้บริหาร: สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple, อเล็กซ์ ฟิลดิง (Alex Fielding) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Ripcord, ดร. โมริบา จาห์ (Moriba Jah) นักกลศาสตร์วงโคจรและนักสิ่งแวดล้อมอวกาศ

เป็นการรวมตัวสามผู้ยิ่งใหญ่ แต่นี่หาใช่ภารกิจเพื่อเกียรติยศ นักนวัตกรรมและนักแก้ปัญหาเหล่านี้ทราบดีว่าเศษวัตถุในอวกาศเป็นปัญหาเร่งด่วนและเป็นสิ่งที่ทุกชาติและทุกฝ่ายกังวล มี “ขยะ” อวกาศจากฝีมือมนุษย์กว่าสีหมื่นชิ้นที่โคจรรอบโลกที่ได้รับการถูกติดตาม ทว่ามันกลับครอบคลุมเพียงวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 ซม. มีวัตถุอันตรายในวงโคจรอีกมากที่ยังคงไม่สามารถระบุ, ติดตามและคาดการณ์ได้

เมื่ออวกาศสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าที่เคย ปริมาณปัญหาที่เกิดจากขยะอวกาศก็เริ่มสร้างความเสี่ยงให้กับดาวเทียมที่มนุษย์ต้องใช้สำหรับบริการที่จำเป็นต่างๆ เช่น การสื่อสาร, การระบุตำแหน่ง และการติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบันจึงนับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเรา – ไม่ใช่เพียงแค่ในอวกาศ แต่ยังรวมถึงบนโลกของเราด้วย

การรวบรวมข้อมูลและสร้างแบบจำลองระดับนี้คืองานขนาดยักษ์ และ OMEGA ก็ภูมิใจที่จะได้มีส่วนร่วมกับทาง Privateer ในความพยายามอันกล้าหาญนี้ เมื่อร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าความยั่งยืนทางอวกาศกำลังลดน้อยถอยลง มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือ

“เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับทาง OMEGA สำหรับการเปิดตัวเทคโนโลยีด้านกราฟของ Privateer” ฟิลดิงให้สัมภาษณ์ “OMEGA มีประวัติศาสตร์ยาวนานในด้านการสำรวจไม่ว่าจะเป็นบนแผ่นดิน, ทะเล และอวกาศ และด้วยการสนับสนุนจากพวกเขา ทาง Privateer จะสามารถขยายการสำรวจของมนุษยชาติและเข้าใจพรมแดนแห่งสุดท้ายได้ดียิ่งขึ้น”

มร. เรย์โนลด์ เอชลิมานน์ (Raynald Aeschlimann) ประธานและซีอีโอของ OMEGA เปิดเผยความรู้สึก “การได้ร่วมมือกับ Privateer นั้นเหมือนกับการพบตัวต่อชิ้นสุดท้าย ด้วยโครงการใหม่นี้ เราจะสามารถตอบแทนโลกได้ตั้งแต่ก้นสมุทรไปจนถึงอวกาศ OMEGA กับ Privateer ต่างเสริมซึ่งกันและกัน พวกเรายึดมั่นในรายละเอียด ภายในนาฬิกาจักรกลนั้นไม่ต่างอะไรกับจักรวาลขนาดย่อม ทุกอย่างต้องทำงานได้อย่างไร้ที่ติหากอยากให้มันทำงานอย่างสมบูรณ์แบบและยาวนาน”

ความร่วมมือใหม่คือหลักประกันที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิมถึงความตั้งใจในการมองหาการผจญภัย, การเรียนรู้, การพัฒนา และกล้าที่จะเสี่ยงของแบรนด์จากสวิส — รวมถึงใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
เมื่อนำประวัติศาสตร์ด้านการสำรวจอวกาศของ OMEGA และนวัตกรรมล่าสุดของ Privateer มาผสานกัน ความร่วมมือยังแสดงพันธกิจที่จะอุปถัมภ์ความรู้และความหวังของบริษัท เมื่อโลกกำลังเผชิญกับอนาคตด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แน่นอนทั้งทางบก, ทางทะเล, ทางอากาศ และในอวกาศ นักบุกเบิกเหล่านี้จึงมุ่งที่จะเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการรักสิ่งแวดล้อม “เราต้องดูแลสิ่งแวดล้อมราวกับว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับมัน เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ” จาห์เผย

เช่นเดียวกับภาพ Earthrise อันโด่งดังที่ถ่ายจากยาน Apollo 8 ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม แผนที่ดิจิทัลของสิ่งที่มนุษยชาติหลงเหลือไว้ในอวกาศนี้จะเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันในการสร้างความตระหนักถึงความเปราะบางของโลกของเรา

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดู mission.privateer.com.

Beijing 2022 Begins With OMEGA As Official Timekeeper

Beijing 2022 เริ่มขึ้นพร้อมกับ OMEGA ในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ
เมื่อพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่เปิดฉากขึ้น มหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว Beijing 2022 ก็เริ่มการแข่งขัน ตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ข้างหน้า OMEGA จะได้ปฏิบัติหน้าที่อันแสนสำคัญในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการและคอยบันทึกทุกความฝันของเหล่านักกีฬาระดับโลกที่ลงแข่งในสนามแห่งเกียรติยศ

Beijing 2022 จะเป็นการทำหน้าที่ครั้งที่ 30 ตั้งแต่ปี 1932 ที่ OMEGA ได้ทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก นับเป็นเวลากว่า 90 ปีที่ผู้ผลิตเรือนเวลาจากสวิสรายนี้ได้เป็นแนวหน้าของการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแข่งขัน และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งที่ทุกการแข่งขันสามารถเชื่อมั่น
Beijing 2022 ก็เช่นกัน ด้วยผู้บอกเวลากว่า 300 คนและอุปกรณ์นำสมัยหนักรวมกว่า 200 ตัน อีกทั้งเทคโนโลยีใหม่หลายอย่างที่บริษัทได้เปิดตัวจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ทั้งนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, กรรมการ และผู้ชม เทคโนโลยีเหล่านี้รวมถึงระบบวิเคราะห์การกระโดดในกีฬาสเก็ตลีลา, ระบบตรวจจับการออกตัวที่ผิดกติกาในกีฬาสปีดสเก็ต รวมถึงระบบแสดงผลระหว่างการแข่งขันสำหรับกีฬาฮ็อกกี้น้ำแข็ง แน่นอน ทุกเทคโนโลยีจะถูกผสานเข้ากับอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ ที่ OMEGA ใช้เพื่อเผยสิ่งที่เกิดในห้วงวินาที เช่น กล้องโฟโต้ฟินิช, ปืนออกตัวไฟฟ้า, สกอร์บอร์ด, โฟโต้เซลล์ และระบบสโนว์เกต

กว่า 109 การแข่งขันใน 7 ชนิดกีฬาจะถูกประชันกันใน Beijing 2022 นับได้ว่าเป็นงานใหญ่สำหรับผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการที่จะต้องบันทึกทุกการแข่งอย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม OMEGA ก็มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สามารถรับประกันได้ถึงความสำเร็จ บางที สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดอาจเป็นการเปิดตัวของกีฬาโมโนบ็อบ – กีฬาแข่งเลื่อนหิมะหนึ่งที่นั่งที่ OMEGA ช่วยพัฒนามาตั้งแต่ปี 2011
เมื่อฤดูร้อนปี 2008 โลกได้เคยเป็นสักขีพยานถึงหนึ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง มหานครแห่งนี้จะเป็นเมืองแรกที่ได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกทั้งกีฬาฤดูร้อนและฤดูหนาว OMEGA ที่หวนกลับมายังกรุงปักกิ่งพร้อมแล้วการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ยิ่ง

OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition

เผยโฉมแรกของ OMEGA ใน พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ (No Time To Die) ผู้ผลิตเรือนเวลาสวิสเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ของ No Time To Die ภาพยนตร์ 007 ที่ผู้คนต่างตั้งตารอคอย ภาค No Time To Die ถูกวางให้เข้าฉายในวันที่ 30 กันยายนในสหราชอาณาจักรศกนี้ ในเวลาเดียวกับความคาดหวังที่พุ่งทะยาน โฆษณาชิ้นใหม่จาก OMEGA ก็ได้เผยเรือนเวลาประจำตัวของจารชน 007

ภาพยนตร์โฆษณาอัดแน่นไว้ด้วยเนื้อหาสุดตื่นเต้นจากภารกิจล่าสุดของ เจมส์ บอนด์ รวมถึงการบอกใบ้ถึงการกลับมาของตัวละครใน 007 หลายตัว ทั้งคิว (Q) และมันนีเพนนี (Moneypenny) รวมถึงเจ้าหน้าที่ “ดับเบิ้ลโอ” คนใหม่อย่าง โนมิ (Nomi)

แน่นอนว่า แกนหลักของความตื่นเต้นย่อมเป็น OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition ตามที่โฆษณาชิ้นใหม่เผย เรือนเวลาจากไทเทเนียมเกรด 2 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้และคอยรับใช้บอนด์ทั้งในด้านคุณภาพและสไตล์ แม้ Q จะทำการดัดแปลงเครื่องบอกเวลาใน No Time To Die หลายอย่างจนมีความพิเศษ เรือนเวลานอกจอเงินที่พร้อมวางจำหน่ายให้ผู้ที่สนใจก็อัดแน่นไว้ด้วยแรงบันดาลใจ, การออกแบบที่มีน้ำหนักเบาและสัมผัสแห่งความวินเทจไม่ต่างกัน

OMEGA Seamaster กลายเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องแต่งกายของ 007 ตั้งแต่ภาค GoldenEye เมื่อปี 1995 หลังได้รับเลือกว่าเป็นนาฬิกาที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้การบอนด์

ภาพยนตร์โฆษณาของ OMEGA ย่อมมอบความอิ่มเอมให้กับผู้ชมและสร้างกระแสก่อนการเปิดตัว No Time To Die ในวันที่ 30 กันยายนในสหราชอาณาจักรและ 8 ตุลาคมในสหรัฐฯ จนกว่าจะถึงเวลานั้น ชาวลอนดอนสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์โฆษณาของ OMEGA ขนาดจุใจซึ่งฉายบนจอบริเวณพิคะดิลีเซอร์เคิส (Piccadilly Circus) ตั้งแต่วันที่ 6-12 กันยายน

เกี่ยวกับ NO TIME TO DIE

No Time To Die คือชื่ออย่างเป็นทางการของภาคที่ 25 ในการผจญภัยของเจมส์ บอนด์ ภาพยนตร์ — ของ EON Productions ของ อัลเบิร์ต อาร์. บร็อคโคลี และบริษัทเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ (MGM) เรื่องนี้ — ได้รับการกำกับโดย แครี โจจิ ฟุคุนางะ (Cary Joji Fukunaga) และมีดาราอย่าง แดเนียล เคร็ก ที่กลับมารับบทจอมจารชนรหัส 007 เจมส์ บอนด์ของเอียน เฟลมมิ่งเป็นภาคที่ห้า ภาพยนตร์จะเข้าฉายในวันที่ 30 กันยายนปี 2021 ในสหราชอาณาจักรโดย Universal Pictures International และในสหรัฐฯ วันที่ 8 ตุลาคมปี 2021 โดยเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ผ่าน United Artists Releasing

บทถูกรังสรรค์โดยนีล เพอร์วิซ (Neal Purvis) และโรเบิร์ต เวด (Robert Wade) ที่เคยฝากผลงานไว้ในภาค Spectre กับ Skyfall, แครี โจจิ ฟุคุนางะ กับฟีบี้ วาลเลอร์-บริดจ์ (Phoebe Waller-Bridge) จากภ. Killing Eve, Fleabag ภาพยนตร์ 007 เรื่องนี้จะเริ่มฉายทั่วโลกตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2021 โดย Universal Pictures International และเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ผ่าน United Artists Releasing

ใน No Time To Die บอนด์ได้ออกจากราชการและไปใช้ชีวิตอย่างสงบในจาไมกา ทว่าความสงบกลับอยู่กับเขาอยู่ได้ไม่นานนักเมื่อเพื่อนเก่า เฟลิกซ์ ไลเทอร์ (Felix Leiter) จาก CIA โผล่มาขอให้เขาช่วย ภารกิจคือการช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวซึ่งจะนำไปสู่การเชือดเฉือนที่มากเกินกว่าจะคิดฝัน นำบอนด์ให้ไปพบกับวายร้ายสุดลึกลับที่มีอาวุธเป็นเทคโนโลยีใหม่สุดอันตราย
www.007.com