Posts

Omega Speedmaster Super Racing เรือนเวลาลุคสปอร์ตกับกลไกสุดพิเศษที่ลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

OMEGA Speedmaster รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นสามารถปรับความเที่ยงตรงได้อย่างละเอียด ต้องขอบคุณระบบ Spirate™ ที่มาพร้อมกับสายใยนาฬิการะดับปฏิวัติวงการซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจดสิทธิบัตรที่สามารถปรับอัตราการแกว่งได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม กลไกที่ไม่เหมือนใครช่วยมอบความเป็นไปได้ให้ OMEGA สามารถยกระดับลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน

เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงเพียงนี้ ทาง OMEGA แทบกล่าวได้ว่าต้องคิดค้นจักรขึ้นใหม่ทั้งชิ้น: แบบถูกร่างขึ้นจากฐานข้อมูลทางเทคนิคของ Swatch Group ผสานเข้ากับความเที่ยงตรง, ความเสถียร และความน่าเชื่อถือของกลไกแบบอินเฮ้าส์ของ OMEGA ที่เหนือระดับในด้านโครโนเมตริกทางออกระดับนวัติกรรมดังกล่าวคือบาลานซ์สปริง Si14 แบบใหม่ที่ช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถตั้งความตึงของจุดยึดสายใยนาฬิกาผ่านกลไกการปรับแบบเยื้องศูนย์ที่อยู่บนบาลานซ์บริดจ์

ในด้านของ บาลานซ์สปริง Si14  นั้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial คือบาลานซ์สปริง Si14 ของ OMEGA ซึ่งแม้จะมีขนาดที่เล็กละเอียดมากกว่าเส้นผมมนุษย์ถึงสามเท่า บาลานซ์สปริงซิลิคอนก็มีความยืดหยุ่น, ทนทานต่อการกระแทก และไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีระบบ Spirate™ ของ OMEGA ประกอบไปด้วยสายใยนาฬิกาที่กำลังอยู่ในกระบวนการจดสิทธิบัตรซึ่งทำให้สามารถปรับอัตราการแกว่งได้อย่างละเอียด สายใยแต่ละชิ้นผลิตจากซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตภายในที่มีชื่อว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching)

มาที่ด้านของหน้าปัดถูกรายล้อมด้วยรางนาทีแบบเรซซิ่งที่ชวนมอง ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำถูกติดตั้งด้วยสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีเหลืองแบบใหม่ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี “กรองด์ เฟอ” (grand feu) สีเหลืองอันโดดเด่นที่เคยปรากฏบน Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS รุ่นปี 2013 นี้ยังถูกใช้บนเข็มโครโนกราฟที่ไล่เฉดสีรวมถึงแถบสีของเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที/12 ชั่วโมงตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลักเลข 3 นาฬิกายังทำหน้าที่บอกโซนเวลาที่สอง

ลายรวงผึ้งบนหน้าปัดเป็นการอ้างอิงถึงเรือนเวลาคอนเซปต์ที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ OMEGA ที่สามารถทนทานสนามแม่เหล็กแบบสุดขั้วได้ถึง 160,000 เกาส์

Speedmaster Super Racing รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวเลือกสายโลหะ และตัวเลือกสุดสปอร์ตอย่างสาย NATO ไนลอนรีไซเคิลลายแถบสีดำและสีเหลืองซึ่งอ้างอิงมาจากรหัสสีอันโดดเด่นของ Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ที่เปิดตัวเมื่อ 10 ปีก่อน

rhunrun เรียบเรียง

รีบคว้าเรือนโปรดก่อนราคาขึ้น! OMEGA เตรียมปรับราคานาฬิกาทุกรุ่นขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อย่าง OMEGA ในประเทศไทย ประกาศเตรียมปรับราคาขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 

โดยรุ่นยอดฮิตอย่าง Speedmaster Moonwatch จะปรับราคาขึ้นจาก262,000 บาท เป็น 281,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 7.25% และ Speedmaster 57 ปรับราคาขึ้นจาก 313,000 บาทเป็น 334,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.71% 

ในขณะที่คอลเล็กชัน Seamaster ในกลุ่ม Seamaster Diver 300M จะปรับราคาขึ้นจาก 196,000 บาท เป็น 209,000 บาท ขึ้นมาจากเดิม 6.63% และ Seamaster Aqua Terra World 

สำหรับใครที่ตัดสินใจจะเก็บสะสม และลงทุนกับนาฬิกา OMEGA ในอนาคต รับรองเลยว่าได้รับความคุ้มค่า มาพร้อมการรับประกันจาก OMEGA ถึง 5 ปีเต็ม ดังนั้นหากใครอยากสัมผัสเรือนเวลาสุดพิเศษก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น ก็ต้องรีบไปจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ บูติก OMEGA ทั้ง 3 สาขา

สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959

สาขา สยามพารากอน โทร. 02-129-4878

สาขา เซ็นทรัลภูเก็ตฟอเรสตา 076-510-818

หรือติดต่อ LINE OA: @OMEGAThailand 

rhunrun เรียบเรียง

ร่วมระลึกถึง OMEGA, Snoopy และ Apollo 13 กับภารกิจสุดระทึกที่มีเรือนเวลา Speedmaster เป็นส่วนสำคัญในการนำลูกเรือกลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 17 เมษายนนับได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับ OMEGA หลังเวลาล่วงเลยไปมากกว่า 50 ปีนับตั้งแต่ภารกิจ  Apollo 13 เมื่อภารกิจอันโด่งดังที่เกิดขึ้นในปี 1970 ทั้งลูกเรือ หรือเจ้าหน้าที่ภาคพื้นต่างก็ไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่ลุ้นระทึกและเฉียดหายนะมากเท่านี้มาก่อน

สำหรับ OMEGA ห้วงเวลานั้นยังคงประทับแน่นอยู่มิเสื่อมคลาย และต้องขอบคุณเรือนเวลาโครโนกราฟ Speedmaster Professional ที่มีบทบาทสำคัญในการนำลูกเรือกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

นักบินอวกาศ เจมส์ เอ. โลเวลล์ จูเนียร์ (James A. Lovell Jr.), ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ของ NASA
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

ตั้งแต่ปี 1965 ทาง NASA ได้ทำการกำหนดให้นาฬิกาเหล่านี้เป็น “อุปกรณ์สำรองชิ้นสำคัญ” ในกรณีที่เครื่องบอกเวลาดิจิทัลของนักบินอวกาศไม่สามารถใช้งานได้ เมื่อเกิดปัญหาระดับวิกฤตขึ้นกับ Apollo 13 ระหว่างการมุ่งหน้าไปดวงจันทร์ “อุปกรณ์สำรอง” ก็ได้ทำหน้าที่ของตน

เพียงสองวันหลังจากออกตัว ถังอ็อกซิเจนบนยาน Apollo 13 ก็เกิดระเบิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับ Service Module และทำให้นักบินอวกาศตกอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่ ภารกิจไปดวงจันทร์ถูกยกเลิก บัดนี้เป้าหมายเหลือเพียงการนำลูกเรือกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือที่ทางฮูสตัน (Houston) แนะนำคือการย้ายนักบินอวกาศเข้าไปใน Lunar Module อย่างไรก็ตาม โมดูลก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้รองรับคนจำนวนมากในระยะเวลานาน ดังนั้น ลูกเรือต้องปิดระบบเกือบทั้งหมดเพื่อทำการประหยัดพลังงาน – เครื่องจับเวลาดิจิทัลของพวกเขาจึงใช้การไม่ได้ ชะตากรรมของนักบินอวกาศต้องแขวนอยู่บนเส้นด้ายท่ามกลางความมืดมิดและหนาวเหน็บ

ยาน Apollo 13 เผชิญกับวิกฤตการณ์หลายอย่างตลอดระยะเวลาหลายวัน แต่เป็นอุปสรรคสุดท้ายที่ความเที่ยงตรงของ OMEGA ได้แสดงผลงาน

การช่วยเหลือลูกเรือภารกิจ Apollo 13 crew หลังลงจอดบนมหาสมุทร
ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพโดย NASA

เนื่องจากยานหลุดออกจากเส้นทางไปราว 60 ถึง 80 ไมล์ทะเล นั่นหมายความว่าโมดูลจะทำมุมระหว่างกลับสู่ชั้นบรรยากาศของโลกผิดและไม่มีทางจะปรับแก้ได้ ดังนั้นจึงต้องมีปรับเส้นทางใหม่ด้วยมือก่อนด้วยการเปิดการสันดาปเชื้อเพลิงนาน 14 วินาทีพอดี

ไม่มีที่ว่างให้กับความผิดพลาด เมื่อไร้อุปกรณ์จับเวลาดิจิทัล นักบินโมดูล แจ็ค สวีเกิร์ต (Jack Swigert) จึงใช้นาฬิกาโครโนกราฟ OMEGA Speedmaster Professional ของตนในการจับเวลาการเปิดสันดาปเชื้อเพลิงแทนระหว่างที่ผบ.เจมส์ โลเวลล์คอยบังคับยานโดยอ้างอิงจากเส้นขอบฟ้าของโลก ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทางแก้ที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ผล และท้ายที่สุด ในวันที่ 17 เมษายน หลังผ่านไป 142 ชั่วโมงกับอีก 54 นาที ยาน Apollo 13 ก็ลงจอดบนมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้อย่างปลอดภัย

หนึ่งปีต่อมา วันที่ 5 ตุลาคม ปี 1970 ทาง OMEGA ก็ได้รับรางวัล “Silver Snoopy Award” จาก NASA – เครื่องหมายแสดงความขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมในความสำเร็จของภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์ เมื่อรางวัลอันทรงเกียรตินี้ถูกรังสรรค์ขึ้น Snoopy ก็ได้รับเลือกให้เป็นมาสคอตแบบไม่เป็นทางการของ NASA จากความสามารถในทำให้บรรยากาศลดความตึงเครียดลงเมื่อพบกับปัญหา อีกทั้งยังสื่อถึงความสำเร็จของภารกิจและบทบาทการเป็น “สุนัขระวังภัย” (watchdog)

ตั้งแต่นั้น ทั้ง Snoopy และ Apollo 13 ก็อยู่ในหัวใจของ OMEGA มาตลอด รวมถึงได้มีการรังสรรค์นาฬิกา “Snoopy” หลายรุ่นขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับหมุดหมายต่างๆ ของการครบรอบภารกิจ และนาฬิกาSpeedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary ที่ถูกเปิดตัวไปไม่นานมานี้เมื่อปี 2020 ก็อัดแน่นไว้ด้วยสัมผัสแห่งความสนุกสนาน ทั้งหน้าปัดประดับด้วยเหรียญ Snoopy และจากนี้ยังมีตัวเรือนที่แสนพิเศษกับฝาหลังที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาจากตัวการ์ตูน Snoopy ที่บังคับยานโคจรรอบดวงจันทร์

นอกจากนาฬิกา Snoopy ทุกรุ่นจะทั้งดูดีและมอบความสนุกสนานให้กับบนข้อมือของคุณ เรือนเวลายังเป็นสิ่งย้ำเตือนที่เหนือกาลเวลาถึงความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือที่ OMEGA ได้มอบให้กับการสำรวจอวกาศตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี

rhunrun เรียบเรียง

Speedmaster Chronoscope เรือนเวลารุ่นใหม่จาก OMEGA กับการอออกแบบเพื่อเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อบอกระยะเวลาระหว่างตำแหน่งเวลาหรือเหตุการณ์

Chronoscope (โคร-โน-สะ-โคป) คำนาม เครื่องมือที่ใช้เพื่อวัดระยะเวลาที่ดำเนินไประหว่างเหตุการณ์ต่างๆ

คำว่า Chronoscope เกิดจากการนำคำในภาษากรีกสองคำมาผสมกัน คือ “Chronos” ที่แปลว่า เวลา และ “Scope” ที่แปลว่า การสังเกต คำแทนเครื่องมือที่ใช้เพื่อบอกระยะเวลาระหว่างตำแหน่งเวลาหรือเหตุการณ์

OMEGA Chronoscope รุ่นใหม่ขนาด 43 มม. อันน่าทึ่งสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม – และในหลากหลายระดับ

สำหรับเหล่าผู้ที่หลงใหลในบรรดาเรือนเวลาระดับตำนานของ OMEGA นาฬิการุ่นนี้ถูกอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย ทั้งหน้าปัดแบบพิมพ์และสามสเกลเวลาที่สะกดสายตา

ทาคีมิเตอร์: บอกความเร็วจากระยะทาง

Chronoscope จะสามารถบอกความเร็วที่คุณใช้ในการเดินทางได้ โดยอิงจากระยะทางที่เดินทาง โดยสเกลจะช่วยวัดระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางเฉลี่ยระหว่างตำแหน่งสองตำแหน่ง ไม่มีว่าการเดินทางของคุณจะเป็นในหน่วยไมล์หรือกิโลเมตร

เทเลมิเตอร์: บอกระยะทางจากความเร็วของเสียง

เพียงสองขั้นตอนสุดง่าย เครื่องบอกเวลาอันเที่ยงตรงจาก OMEGA สามารถบอกได้อย่างแม่นยำว่าคุณอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดที่สามารถมองเห็นและมีเสียง เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง

พัลโซมิเตอร์:วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

เต้นช้าไป เร็วไป หรือกำลังพอดี? ต้องขอบคุณสเกล 30 ครั้งต่อนาที ที่ทำให้คุณสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจของทั้งตนเองหรือผู้อื่นได้

แรงบันดาลใจจากความตัวตนในอดีต

เรือนเวลา Chronoscope ในปัจจุบันได้แสดงความเคารพถึงตัวตนในอดีตของ OMEGA ผ่านรายละเอียดการออกแบบหน้าปัดแบบ “หอยทาก”ที่เคยปรากฏบนนาฬิกาข้อมือของแบรนด์ในช่วงทศวรรษที่ 40 รวมถึงสิ่งที่แสดงความเป็นศตวรรษที่ 20 อย่างชุดเข็มทรงใบไม้ที่พบบนนาฬิกาหลากหลายรุ่นและรางนาทีแบบ “เวียน” ที่จัดเรียงอย่างวิจิตรภายใต้หลักเลขอารบิกบนหน้าปัด

กลไก

เมื่อพลิกไปที่ด้านหลังก็จะพบกับกลไกไขลาน OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9908 ที่ซุกซ่อนอยู่หลังกระจกแซฟไฟร์ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างประณีต รายละเอียดที่ทำให้การออกแบบของกลไกนี้โดดเด่นคือโครโนสโคปบริดจ์ การขัดแต่งแบบArabesque Geneva Waves ที่เริ่มจากบาลานซ์วีลแทนที่จะเป็นกลางกลไก – นับเป็นครั้งแรกที่ปรากฏในแบรนด์ OMEGA

เพื่อที่จะเพิ่มกำลังสำรองของนาฬิกา OMEGA ได้เลือกเสริมการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร (Diamond-Like-Carbon) ที่เพิ่มทนทานต่อการสึกหรอให้กับตลับลานคู่ ระบบคอลัมน์วีลของ OMEGA ยังช่วยรับประกันว่าฟังก์ชั่นต่างๆ ของโครโนสโคปจะทำงานได้อย่างเที่ยงตรง

ด้วยการรับรองระดับ Master Chronometer ทั้งกลไกและนาฬิกาได้ถูกทดสอบภายใต้สภาวะที่สุดขั้วที่ตั้งขึ้นจากการทดสอบที่เข้มงวดที่สุดของอุตสาหกรรมโดย Swiss Federal Institute of Metrology (METAS)

สายหนัง และ สายโลหะ

คอลเลคชั่นใหม่มาพร้อมตัวเลือกสายหนังสีน้ำเงิน, น้ำตาล หรือสีดำ  ที่มีการฉลุขนาดเล็กซึ่งเผยให้เห็นชั้นของยางสีแดงที่อยู่ภายใน หัวสายประดับด้วยสัญลักษณ์ Ω แบบยกนูน สำหรับผู้สวมใส่ที่หลงใหลในความเป็นโลหะในองค์รวม ยังมีตัวเลือกสายโลหะแบบขัดเงาสลับด้านซึ่งมาพร้อมกับระบบปรับสายที่เป็นสิทธิบัตรของ OMEGA ซึ่งสามารถปรับความยาวได้ถึงสองตำแหน่ง โดยสำหรับขนาดสายบริเวณขานาฬิกาอยู่ที่ 21 มมและ 16 มมที่หัวสาย

เรียบเรียง rhunrun

น่ารักหรูหราสไตล์สปอร์ต Omega เผยโฉมเรือนเวลา Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1970 ทาง OMEGA ได้รับรางวัล “Silver Snoopy Award” จากนักบินอวกาศของ NASA เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับความร่วมมือของแบรนด์ที่มีต่อการสำรวจอวกาศ และ Speedmaster ที่มีส่วนอย่างมากในการกอบกู้ยาน Apollo 13 ให้ผ่านห้วงวิกฤต

อีก 50 ปีถัดมา เรือนเวลารุ่นพิเศษได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้กับวาระดังกล่าว เรือนเวลามีการผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งการผลิตเครื่องบอกเวลาเข้ากับตัวการ์ตูน เรียกได้ว่า Snoopy รุ่นนี้ได้นำ OMEGA Speedmaster ไปสู่บทใหม่ของการออกแบบ

สุนัขบีเกิ้ลตัวโปรดของเรารับบทสำคัญบนเรือนเวลา นับเป็นครั้งแรกที่ Snoopy ในชุดนักบินอวกาศอันโด่งดังปรากฎในลักษณะรูปนูนต่ำบนหน้าปัดย่อยสีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา แบบเดียวกับที่ปรากฎบนเข็มกลัดเงินที่นักบินอวกาศ NASA มอบให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ในส่วนหน้าปัดเองก็ทำจากเงิน Ag925 ซึ่งสลักตกแต่งด้วยเลเซอร์ มีหน้าปัดย่อยสีน้ำเงินอีกสองวง (รวมทั้งหมด 3 วง) ชุดเข็มกับหลักชั่วโมงล้วนเคลือบด้วย PVD สีน้ำเงิน

หมัดเด็ดอยู่ที่ฝาหลัง! ครั้งนี้ Snoopy ของเราได้เดินทางสู่วงโคจรด้วยกลไกพิเศษที่ติดตั้งเข้ากับยานส่วนควบคุมและบริการ (CSM) สีขาวขนาดจิ๋ว เมื่อมีการใช้งานเข็มจับเวลา Snoopy ก็จะเดินทางไปยังด้านไกลของดวงจันทร์ – แบบเดียวกับลูกเรือของ Apollo 13 – นอกจากนี้บนกระจกแซฟไฟร์ยังได้รับการตกแต่งให้เหมือนพื้นผิวของดวงจันทร์โดยกระบวนการพ่นพอกโลหะขนาดไมโครแบบที่ไม่มีใครเหมือน

ที่ถัดลึกเข้าไปจะเป็นบ้านของมนุษยชาติ โลกขนาดย่อมจะหมุนด้วยอัตราหนึ่งรอบต่อนาที เท่ากับรอบของเข็มวินาทีย่อย ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการโคจรรอบตัวเองของโลก นอกจากนี้ยังมีประโยคอมตะ “Eyes on the Stars” ประดับอยู่ในส่วนผืนอวกาศดำมืด

ระบบ NAIAD LOCK ช่วยยึดโยงตัวอักษรให้อยู่ตรงตามตำแหน่งได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งรวมถึงวันที่ที่ OMEGA ได้รับรางวัล Silver Snoopy Award เมื่อปี 1970 เช่นเดียวกับภาพที่อุทิศให้กับภารกิจ Apollo 13 สุดอันตรายในปีเดียวกัน

เพื่อแสดงให้เห็นทักษะการผลิตเรือนเวลาชั้นสูง นาฬิกา Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary จึงเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 3861 กลไกชั้นนำรุ่นนี้ช่วยยกระดับให้กลไกMoonwatch อันลือชื่อให้ก้าวไปสู่มาตรฐานใหม่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ด้วยคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็กและการรับรองความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer โดย Swiss Federal Institute of Metrology (METAS)

เรือนเวลาของ OMEGA รุ่นนี้จะมาพร้อมกับการรับประกันถึง 5 ปีเต็ม ทว่านาฬิกาไม่ใช่รุ่นลิมิเต็ด เจ้าของเรือนเวลาจะได้รับกล่องนาฬิกาพร้อมยานApollo 13 จำลอง, ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับทำความสะอาด, แผ่นพับ และแว่นขยายเพื่อให้สามารถรับชมรายละเอียดได้อย่างใกล้ชิด

เรือนเวลาหมายเลขอ้างอิง 310.32.42.50.02.001 สนนราคาที่ 334,000 บาท