Sweet Home ออริจินัลซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ว่าด้วยเรื่องแรงปรารถนาภายในใจของผู้คนที่เปลี่ยนให้คนกลายเป็นสัตว์ประหลาด โดยสร้างจากมังงะยอดนิยมใน Webtoon ของฮวังยังซาน ซึ่งเขาเองก็ได้มาร่วมได้อีอึงบก ผู้กำกับฝีมือดีที่เคยได้ฝากฝีมือไว้ในซีรีส์ชื่อดังหลากหลายเรื่องทั้ง Guardian: The Lonely and Great God และ Mr. Sunshine ร่วมด้วยนักแสดงอย่างซงคัง อีจินอุค อีชียอง อีโดฮยอน พัคกยูยอง โกยุนจอง คิมนัมฮี และโกมินซีมาร่วมงาน
เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังรุนแรงอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ งานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์จึงเป็นการจัดออนไลน์ ลอฟฟีเซียล ออมส์ ไทยแลน์มีบทสัมภาษณ์ของทั้งนักแสดงและผู้กำกับมาฝากแฟนๆ ทุกคน
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ
เกาหลีเป็นประเทศที่สะท้อนความคิดผู้คนผ่านผลงานบันเทิงมากมาย สำหรับ Sweethome คุณได้ซ่อนแมสเสจหรือความคิดบางเรื่องอะไรเอาไว้ไหม ที่คนดูอาจจะยังไม่ทันสังเกต
แมสเสจที่ใส่ไว้เนี่ย คิดว่าถ้าผู้ชมสังเกตไม่ทันน่าจะไม่ได้ เลยตั้งใจใส่แมสเสจที่คิดว่าผู้ชมจะเห็นได้ชัดเจนไว้ค่อนข้างเยอะ และตั้งใจใส่จุดต่างๆ ที่จะทำให้คาดเดาเกี่ยวกับตัวละครแต่ละตัวไว้ตั้งแต่ตอนที่ 1 เลย ถ้าลองสังเกตไปด้วยระหว่างชมน่าจะสนุกขึ้น
K-Monster จะมีความแตกต่างอย่างไรกับ Hollywood-Monster บ้าง
สำหรับ K-Monster ตอนนี้ยังอยู่ในก้าวแรกอยู่ แต่ในอนาคตจะต้องพัฒนาไปไกลแน่นอน อยากให้รอติดตามชมกันด้วย ส่วนมอนสเตอร์หรือสัตว์ประหลาดที่อิงมาจากเว็บตูน Sweet Home จะมีลักษณะที่คล้ายมนุษย์ค่อนข้างมาก ทั้งในด้านรูปร่างและลักษณะนิสัย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นจุดที่ต่างกับ Hollywood Monster
คุณทำงานร่วมกับนักเขียนและนักวาดภาพประกอบจาก Webtoon อย่างไร มีคำแนะนำอะไรจากพวกเขาที่ช่วยให้คุณถ่ายทอดบุคลิกลักษณะและอารมณ์ของตัวละครออกมาในซีรีส์บ้าง
ได้รับกำลังใจจากนักเขียนเว็บตูนมากกว่า เพราะในส่วนของการร่วมงาน ตอนนั้นเอาท์ไลน์ของเรื่องยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็จะมีช่วงที่คอยแลกเปลี่ยน synopsis ของเรื่องด้วยกันอยู่เรื่อยๆ ในส่วนของการแสดงออกอารมณ์ของสัตว์ประหลาด ก็เป็นจุดที่ยากสำหรับผมเหมือนกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือจากนักออกแบบท่าเต้น คุณคิมซอลจิน ช่วยกันศึกษาค้นคว้าและออกแบบวิธีการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ด้วยกัน และนำไปใส่ซีจีต่อ
คุณได้กำกับซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จมาหลายเรื่อง คุณรู้สึกกดดันตัวเองในทุกครั้งที่ต้องเริ่มต้น
ถ้าบอกว่าไม่กดดันก็คงจะโกหก แต่พยายามจะกดดันตัวเองให้น้อยที่สุด ครั้งนี้เลือกชิ้นงานที่ท้าทายและเสี่ยง เลยคิดว่าถ้าออกมาไม่ดี ก็คงโดนต่อว่าไม่มากเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่า ถ้าจะเจ๊งก็มาเจ๊งแบบที่เราสนุกด้วยดีกว่า
ในทีมนักแสดงของเรื่องมีใครที่ทำให้คุณรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นพิเศษระหว่างการร่วมงานกัน
แต่ละอีพีก็จะต่างกันไป คุณคิมนัมฮีก็ประทับใจมาก คุณซงคังก็สื่อสารอารมณ์ได้ดีมาก คุณอีจินอุคในบทพยอนซังอุกก็แสดงอารมณ์สองด้านออกมาได้อย่างดี ทั้งมุมที่บ้าคลั่งและมุมที่บริสุทธิ์ สำหรับคุณอีชียองที่รับบทซออีกยอง ทุกท่านน่าจะได้เห็นแล้วว่า แสดงบทบาทนักสู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมาก นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงอีกหลายท่านที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพร์สอยู่ตลอด
เห็นว่าเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างเยอะมาก จุดไหนที่ทีมผู้สร้างทุ่มเท และอยากภูมิใจนำเสนอมากที่สุด
จุดที่ภูมิใจนำเสนอที่สุด คือ การรวมตัวกันของนักแสดงในเรื่องที่ลงตัวมาก ด้วยความที่เป็นซีรีส์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและภัยพิบัติ เลยจะมีฉากที่ต้องรวมตัวกันเยอะ ถ้ากลุ่มนักแสดงไม่ลงตัว ซีรีส์ก็คงจะเละเทะมาก ในส่วนของจุดที่ทุ่มเท น่าจะเป็นจุดที่ผู้ชมจะเห็นจากผลลัพธ์ในซีรีส์ นั่นก็คือ ก้าวแรกในการผลิตสัตว์ประหลาดออกมาในรูปแบบต่างๆ ที่ท้าทาย
ทีมนักแสดงในเรื่องเยอะมาก มีทั้งนักแสดงที่อยู่ในวงการมานานและนักแสดงรุ่นใหม่ อยากให้คุณช่วยเล่าจุดเด่นของนักแสดงแต่ละคนให้ฟังหน่อย และคุณมีวิธีปรับให้นักแสดงทั้ง 2 รุ่นแสดงร่วมกันได้อย่างกลมกลืนอย่างไร
นอกจากจะมีนักแสดงรุ่นใหม่เยอะแล้ว ยังมีนักแสดงหลายท่านที่แสดงซีรีส์เป็นครั้งแรก นักแสดงเหล่านั้นมาทานข้าวที่กองด้วยกัน (ที่เกาหลีจะเรียกเป็น รถข้าว) รวมตัวกันโดยที่ไม่เกี่ยงว่าใครเป็นนักแสดงที่อยู่วงการมานานแค่ไหนแล้ว ทุกคนเข้ากันได้ดีมากโดยไม่ต้องพึ่งไดเรกติ้งพิเศษใดๆ จากผม คิดว่าน่าจะเป็นพลังของข้าวกอง เวลาทานข้าวทุกคนดูปรองดองกันมาก และมันก็ลากยาวไปจนถึงเวลาเข้าฉาก ผมเลยไม่ต้องทำอะไรมาก สนุกสนานมาก
จุดเด่นของนักแสดงแต่ละคน:
ซงคัง: แสดงอารมณ์และสายตาโดยที่ไม่มีบทพูดได้ดี รู้จักอารมณ์เศร้าและแสดงมันออกมาได้ดีมาก
อึนฮยอกและอึนยู: ไม่ค่อยแสดงออกเช่นกัน แต่สามารถโชว์อารมณ์สองด้านที่แตกต่างออกมาได้ดี อย่างเช่น ตอนที่อยู่ใน trailer ที่อึนฮยอกพูดว่า “สงสัยโลกจะแตกแล้ว”
อีจินอุค: สลับเปลี่ยนการสื่อสายตาได้หลายรูปแบบ จุดเด่นคือสามารถแสดงสายตาที่สื่อทั้งอารมณ์ของคนที่โหดเหี้ยมและอารมณ์ของเด็กน้อยออกมาได้ในเวลาเดียวกัน
อีชียอง: เคยบอกไปว่าถ้าออกกำลังกายมาน่าจะดี แต่ก็ไม่ได้บังคับอะไร แต่พอเจออีกทีก็มาพร้อมกับกล้ามหน้าท้องเลย ออกมาเท่มาก ๆ
Netflix เป็นแพลทฟอร์มที่เปิดกว้างในการถ่ายทอดเรื่องราว และยังไปถึงคนดูทั่วโลก Sweet Home เป็นออริจินัลซีรีส์ของ Netflix อยากรู้ว่าคุณต้องปรับช่วงพรีโปรดักชั่นยังไงบ้าง และกระบวนการทำงานแตกต่างจากซีรีส์สำหรับช่องโทรทัศน์ในเกาหลีอย่างไรบ้าง
ในส่วนของพรีโปรดักชั่น จุดที่สำคัญคือจำนวนตอนและคุณภาพของละคร สตรีมมิ่งจะมีจำนวนตอนได้มากกว่าละครโทรทัศน์ ผู้กำกับสามารถตัดต่อและส่งงานไปให้มากเท่าที่คิดว่าเหมาะสมกับละครได้ ซึ่งเป็นส่วนที่สนุกมากในขั้นตอนโปรดักชั่น นอกจากนี้ เนื่องจากผมอยากให้ทุกท่านได้ชม Sweet Home กันไว ๆ จึงเตรียมช่วงพรีโปรดักชั่นและช่วงโปรดักชั่นพร้อมกันเลย ในระหว่างที่เขียนบทก็ออกแบบสัตว์ประหลาดไปด้วย ระหว่างออกแบบสัตว์ประหลาดก็หา cg solution สำหรับโพสโปรดักชั่นไปด้วย เริ่มวางแผนตั้งแต่ประมาณช่วงกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ได้นำมาให้ทุกท่านได้ชมกัน
สเปเชียลเอฟเฟกต์ของ Sweet Home ที่แตกต่างจากซีรีส์ทุกเรื่องของเกาหลีคืออะไร
จุดที่ต่างจากซีรีส์เรื่องอื่นก็คือ ไม่มีคัทไหนที่ไม่ใส่ซีจีลงไปเลย ซึ่งเป็นจุดที่เหนื่อยมาก และก็เป็นเรื่องแรกที่มีสัตวต์ประหลาดออกมาหลายรูปแบบ พยายามใส่ซีจีเข้าไปเยอะเพื่อให้ทุกอย่างออกมาครอบคลุม คิดว่าน่าจะเป็นจุดที่ยังไม่เคยเห็นในหนังหรือซีรีส์เรื่องอื่นๆ ที่ออกมาตอนนี้ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนภาพสังคมในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวและเครียดได้อย่างไร และอะไรในเรื่องที่คุณคิดว่าสามารถถ่ายทอดภาพของสังคมเกาหลีในปัจจุบันได้ดี
ไม่น่าจะสะท้อนแค่สังคมเกาหลีอย่างเดียว แต่พยายามแสดงภาพการเพิกเฉยต่อคนที่ถูกทอดทิ้ง ความอมนุษย์ โดยเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “การกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด” ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงถึงประเด็นที่ว่า “มนุษย์จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์กันเองได้หรือไม่” ออกมาได้อย่างดี ครั้งแรกที่ได้อ่านเว็บตูนนี้เป็นช่วงก่อนจะเกิดโควิด แต่ตอนนั้นผมก็มองท้องฟ้าของกรุงโซลที่มีปัญหาเรื่องฝุ่น pm และรู้สึกถึงอารมณ์ดิสโทเปีย (dystopia) ณ ตอนนั้นรู้สึกว่า อยากเห็นท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าจริง ๆ แต่ในตอนนี้ที่เกิดโควิดขึ้น เป็นโรคระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดคำถามนั้นขึ้นอีกครั้งว่า ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์จะสามารถช่วยมนุษย์กันเองไว้ได้รึเปล่า
มีเรื่องอะไรน่าจดจำในระหว่างการถ่ายทำที่สามารถแชร์ร่วมกับเราได้บ้างไหม
น่าจะเป็นฉากที่ถ่ายทำเป็นฉากสุดท้าย รู้สึกว่า เอ้อ ถ่ายจบสักที เป็นฉากที่หิมะตก จะอยู่ตอนแรกสุดของอีพีแรกเลย แต่ว่าเป็นฉากที่ถ่ายทำท้ายสุด ก็เลยประทับใจที่สุด แล้วก็มีฉากที่เศร้าๆ อีกหลายฉากที่ประทับใจ
Sweet Home ดัดแปลงมาจาก Webtoon คุณให้สัมภาษณ์ว่าทำงานพร้อมๆ กับตอนที่เวบตูนออก ทำงานกับนักเขียนคิมคันบี และฮวังยังชาน เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ในการสร้างความแปลกใหม่ให้ซีรีส์เรื่องนี้
ต้องพูดว่านักเขียนทั้งสองท่านให้ความใส่ใจเป็นพิเศษมากกว่าทำงานร่วมกัน ส่วนที่เพิ่มเติมเข้าไปมีอยู่ในหลายตอนเลย แต่จุดเด่นที่สุดที่เพิ่มไป คือตัวละครซออีกยอง ส่วนอื่น ๆ ถ้าบอกตอนนี้น่าจะเป็นการสปอย พาร์ทหลังๆ สนุกมากกว่านี้อีก
บทสัมภาษณ์นักแสดง
ในฐานะที่เป็นแฟนเว็บตูนเรื่อง Sweet Home มาก่อน พอได้มาเล่นซีรีส์จากเว็บตูนที่ตัวเองชอบรู้สึกยังไงบ้าง และการได้มาแสดงเป็นตัวละครเองความรู้สึกแตกต่างจากการเป็นผู้อ่านอย่างไร
ซงคัง: ตอนอ่านเว็บตูน รู้สึกเข้าใจตัวละคร มีความรู้สึกร่วมไปด้วย แต่พอมาแสดงก็คิดเยอะมากว่าจะทำยังไงให้คล้ายคลึงและกลมกลืนกับตัวละครได้มากที่สุด จะแสดงความในใจของชาฮยอนซูออกมายังไงได้บ้าง
คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ หรือบทบาทที่คุณได้รับนั้นสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมปัจจุบันได้อย่างไร
ซงคัง: คิดว่าซีรีส์สะท้อนภาพสังคมที่กลายเป็นสังคมปัจเจกนิยม คนสนใจแต่ตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เกิดความโลภและกิเลสต่างๆ คิดว่าเป็นละครที่ทำให้เราได้ย้อนกลับมาคิดทบทวนเรื่องของความโลภเหล่านั้น
อีชียอง: ภัยพิบัติจะมาถึงตัวใครก็ได้ ถึงแม้ฉันจะแสดงบทผู้หญิง แต่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น คนแก่หรือแม้แต่เด็ก เมื่อเจอสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อปกป้องคนที่เรารักหรือสิ่งที่สำคัญกับเราแล้ว ใคร ๆ ก็สามารถกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งได้ และเหมือนกับที่คุณซงคังได้กล่าวไป ปัญหาของปัจเจกนิยมมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเมื่อเกิดวิกฤต เราจะรวมพลังและพิชิตมันได้
ด้วยความที่คุณอีจินอุคเป็นนักแสดงมากประสบการณ์ ผ่านผลงานมาเยอะมาก บทบาทที่คุณแสดงในเรื่องนี้มีด้านไหนที่แฟนๆ จะได้สัมผัสความแตกต่างจากผลงานที่ผ่านๆ มาของคุณ
อีจินอุค: ใช่แล้วครับ บทบาทก่อนหน้านี้ที่ผมเคยแสดง ส่วนมากจะเป็นบทที่ทุกคนคุ้นเคยกันและสามารถจินตนาการออก แต่คราวนี้เป็นบทบาทที่คิดว่าแฟนๆ น่าจะจินตนาการกันไม่ออก อยากจะให้แฟนๆ มองว่าเป็นตัวละครตัวนึง ถ้าหากเป็นเช่นนั้นได้ จะรู้สึกเป็นเกียรติมากในฐานะนักแสดง อยากให้ทุกคนมองว่านี่ไม่ใช่อีจินอุคในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นนักแสดงอีจินอุค เป็นพยอนซังอุก
จากเรื่องปีศาจที่เราเห็นมาจากตัวมนุษย์เอง สำหรับคุณ อะไรคือความปรารถนาของมนุษย์ที่คุณคิดว่าน่ากลัวที่สุดในปัจจุบันนี้
ซงคัง: ความเห็นแก่ตัว สนใจแต่ตัวเอง (ปัจเจกนิยม)
อีโดฮยอน: เห็นด้วย
อีจินอุค: คิดว่าน่าจะเป็นพื้นฐานของสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะสื่อถึง
นอกเหนือจากตัวละครของตัวเองแล้ว มีตัวละครไหนที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษบ้าง
อีโดฮยอน: ผมประทับใจตัวละครฮยอนซูมากที่สุด ตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านเว็บตูน และตอนที่ถ่ายทำก็เช่นกัน เราจะเห็นทั้งภาพในจินตนาการและภาพความเป็นจริงของฮยอนซู ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นภาพของมนุษย์เราที่ใช้ชีวิตอยู่จริงๆ เลยประทับใจที่สุด
อีจินอุค: ประทับใจทุกตัวละครเลย แต่คิดว่าน่าจะประทับใจตัวละครชาฮยอนซู ที่คุณซงคังเล่นมากที่สุด คุณซงคังแสดงบทบาทของนักเรียนที่จะช่วยปกป้องรักษาอนาคตของพวกเราไว้ได้ดีมาก เป็นตัวละครที่จะนำพาไปสู่อนาคตที่ดี อยากให้ผู้ชมได้ปฏิบัติตามตัวละครของฮยอนซูที่มีจิตใจที่ดีงาม
อีชียอง: คิดว่าพยอนซังอุคเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก เป็นตัวละครที่ดูมีความเหงา และมีความน่ากลัว แต่ก็เป็นตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์มากที่สุด มีเสน่ห์มาก
ซงคัง: ผมก็คิดว่าตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์มาก แต่ส่วนตัวชอบตัวละครอีกยอง เพราะชอบออกกำลังกาย คิดว่าเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์และเท่มาก
เรื่องนี้คุณใช้เวลาแต่งหน้ากับแต่งสเปลเชียลเอฟเฟกต์นานแค่ไหนก่อนจะได้เข้าฉาก
อีจินอุค: ผมต้องแต่งแผลรอยไหม้ แล้วแต่ว่าฉากนั้นจะเห็นเยอะแค่ไหนด้วย ช่วงแรกๆ ยังไม่ค่อยชิน เลยใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นเริ่มชินขึ้นเลยใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง การแต่งหน้าก็ยาก แต่ที่ลำบากจริงๆ คือการล้างหน้าหลังจากถ่ายเสร็จ ล้างยากมาก แล้วก็เจ็บด้วย ผมเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ออกจากห้องแต่งหน้าคนสุดท้ายเลย
คุณคาดหวังอะไรจากทั้งแฟนๆ และจากตัวเองหลังจากซีรีส์เรื่องนี้ออกฉาย
อีจินอุค: ถึงแม้จะต่างจากสถานการณ์ในละครของพวกเรา แต่ตอนนี้ทุกคนก็กำลังประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเหมือนกัน คิดว่าถ้าได้ดูละครของพวกเราแล้ว น่าจะได้รู้ว่า ยิ่งสถานการณ์เป็นเช่นนั้น เราไม่ควรจะนึกถึงแต่ความปลอดภัยและความสุขของตัวเองอย่างเดียว แต่ควรจะนึกถึงคนอื่นๆ ด้วย
อีชียอง: เป็นออริจินัลซีรี่ส์ที่ลองทำอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง หวังว่าคนดูจะชอบและดูกันอย่างสนุกสนาน จะได้มีซีรีส์แนวนี้ออกมาอีกเยอะๆ
อีโดฮยอน: ผมคิดว่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ในซีรีส์ ก็คือโคโรน่าในชีวิตจริงของพวกเรา อย่างที่พี่อีจินอุคบอกไป ถ้าซีรีส์เรื่องนี้ เป็นโอกาสที่ทำให้ผู้ชมนึกถึงคนอื่นๆ มากกว่าตัวเองได้ ก็น่าจะเป็นอิทธิพลที่ดีจากซีรีส์
ซงคัง: ผมก็เหมือนกันครับ อยากให้จิตใจที่ดีของทุกคนเป็นกำลัง ทำให้ผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้
เรื่อง Sweet Home ถือว่าเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของคุณที่ลงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ มีอะไรแตกต่างจากการเล่นละครโทรทัศน์ และการร่วมงานครั้งแรกกับ Netflix เป็นยังไงบ้าง
อีโดฮยอน: รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับ Netflix ผมเชื่อว่านักแสดงทุกคนน่าจะอยากแสดงละครของทาง Netflix เลยรู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณมาก ในส่วนตอนถ่ายทำ สิ่งที่ชอบที่สุดคือ มีขนมของว่างเตรียมไว้ให้ตลอดเลย เวลาที่สตาฟหรือนักแสดงเหนื่อย ๆ ก็มาทานกัน (ในจังหวะนี้ ซงคัง แซวขึ้นมาว่า เห็นอีโดฮยอนกินตลอดเลย)
อะไรคือสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากเนื้อเรื่องของ Sweet Home ที่คุณสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้บ้าง
อีจินอุค: เหมือนกับที่ตอบก่อนหน้านี้ คือ คิดว่าได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เราคิดว่าเราทำเพื่อตัวเอง มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ และเราไม่สามารถตัดสินได้ว่า สัตว์ประหลาดต้องเป็นสิ่งที่แย่ มนุษย์เป็นสิ่งที่ดี ภายนอกอาจจะเป็นสัตว์ประหลาด แต่การกระทำและการตัดสินใจอาจจะมีความเป็นมนุษย์มากกว่าก็ได้ หรือภายนอกอาจจะเป็นมนุษย์ แต่การกระทำและการตัดสินใจอาจจะแย่กว่าสัตว์ประหลาดอีก และคิดว่าปัญหาของการตัดสินใจด้วย
(ช่วงตอบคำถามนี้ อีจินอุคบอกว่า คำถามยากจัง ทำไมผมได้แต่คำถามยากๆ อีชียองเลยแซวว่า คุณเหมาะกับคำถามแบบนี้แล้ว)
Sweet Home สตรีมมิ่งที่ Netflix ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมเป็นต้นไป