Posts

DIOR ประกาศ House Ambassador คนล่าสุด! กับสองหนุ่มสุดฮอต ‘มาย-ภาคภูมิ และ อาโป-ณัฐวิญญ์’

ประกาศแล้วครับ! สำหรับ House Ambassador คนใหม่ล่าสุดแห่งแบรนด์ DIOR ประเทศไทย กับหนุ่ม ‘มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’และ ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’ ด้วยคาแร็กเตอร์และความหล่อเหลาของสองหนุ่ม จึงทำให้สามารถคว้าใจแบรนด์ดังไปในที่สุด เราขอแสดงความยินดีกับทั้งสองหนุ่มอีกครั้งครับ

Mile – Phakphum Romsaithong and Apo – Nattawin Wattanagitiphat 

และในวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ ทั้งสองคนมายและอาโป จะบินไปร่วมโชว์ที่ปารีส เราต้องมาติดตามลุคของทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดว่าจะหล่อถูกใจแฟนๆ เพียงใด กดติดตามลออฟฟิเซียล ออมส์ไว้ได้เลยครับ!

บทสัมภาษณ์สุดฮอตจาก 2 หนุ่ม ‘มาย – ภาคภูมิ และอาโป – ณัฐวิญญ์’

นาทีนี้คงไม่มีคู่ไหนฮ็อตฮิตติดปรอทในทุกที่ที่ปรากฏตัวได้เท่ากับ มาย – ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และอาโป – ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ อีกแล้ว และการปรากฏตัวบนปกของเราครั้งนี้ก็ฮ็อตไม่แพ้อากาศของประเทศไทยเลย

Photographer: Wasu Sukatocharoenkul

Fashion Editor: Chanond Mingmit

Author: Pacharee Klinchoo

มายสวมเสื้อคอเต่าผ้าสังเคราะหืพิมพ์ลายพร้อมแจ๊กเก๊ตพิมพ์ลวดลายเข้าชุด กางเกงผ้าขนสัตว์พร้อมกระโปรงจับจีบผ้าขนสัตว์เข้าชุด กระเป๋าหูหิ้ว แหวน รองเท้าหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Dior
      อาโปสวมเสื้อถักนิตทอลวดลายพร้อมคาร์ดิแกนถักนิตทอลวดลายเข้าชุด กางเกงผ้าขนสัตว์พร้อมกระโปรงจับจีบผ้าขนสัตว์เข้าชุด แหวน รองเท้าหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Dior

ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าได้ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์กับ Dior

มาย: ความรู้สึกแรกคือตื่นเต้น ความรู้สึกถัดมาคือดีใจที่มีโอกาสได้ไปครับ ครั้งแรกมายได้ไปคอลเลกชั่นผู้ชายที่ปารีส พอไปถึงงานก็ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แต่เอ็นจอยมากกว่า พอครั้งที่สองที่ได้ไปคอลเลกชั่นผู้หญิงที่ประเทศอินเดีย ก็ดีใจอีกแบบหนึ่ง เพราะได้ไปทั้งกับ Dior และกับอาโป มันเป็นการเดินทางที่สนุกมากครับ โชว์ทั้งสองครั้งดีมากจริงๆ ขนาดมายเป็นผู้ชาย เห็นโชว์ผู้หญิง มายยังอินกับคัตติ้งและรายละเอียดต่างๆ มาก และพอได้ไปดูโรงเรียนที่ผลิตชิ้นงานให้แบรนด์ ได้เห็นเรื่องราว เรื่องเล่า และความขลังในนั้น ก็ประทับใจมากครับ ได้แพสชั่นบางอย่างกลับมาทำงาน และที่สำคัญ ได้เจอแฟนคลับที่ประเทศอื่น ไม่ได้คิดว่าจะเยอะขนาดนั้น แต่ได้รับพลังงานกลับมาเยอะเลยครับ

อาโป: ครั้งแรกโปได้ไปคอลเลกชั่นผู้หญิงที่ปารีสครับ ตื่นเต้นมาก เพราะโปไม่เคยไปฝรั่งเศสมาก่อน ไม่เคยไปทวีปยุโรปเลยครับ นั่นเป็นครั้งแรก และได้ไปกับ Dior โปรู้สึกว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก ทาง Dior เตรียมทุกอย่างไว้ดีมากๆ พอถึงวันที่ร่วมงานที่โชว์ ก็รู้สึกประทับใจในความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ระดับโลก โปรู้สึกว่านี่เป็นอีกระดับการทำงานของโปแล้วนะ นี่คืองานที่คนทั่วโลกเขาไปกัน เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่เหมือนการไปเที่ยวเองเลยครับ ส่วนครั้งที่สองที่ไปประเทศอินเดียกับพี่มาย ก็อย่างที่พี่มายบอกล่ะครับดีใจมากที่ได้ไปด้วยกัน เพราะคิวของเราก็ไม่ค่อยจะตรงกันเท่าไหร่ พอได้ไปด้วยกัน ก็เหมือนมีเพื่อนมาแชร์ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน มันต่างจากทุกงานที่เราเคยร่วมงานกันมาเลยนะ เล่นหนังก็อย่างหนึ่งคอนเสิร์ตก็อีกอย่างหนึ่ง แต่การร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมันยิ่งใหญ่อย่างนี้นี่เองครับ

ความผูกพันกับคินน์และพอร์ชในวันที่ KinnPorsche The Series ครบรอบหนึ่งปีออนแอร์

อาโป: ต้องให้เครดิต Be On Cloud ที่กล้าทำอะไรใหม่ๆ และยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ทำให้เรามีสิ่งให้ต่อยอดไปทำงานอื่นๆ ที่ใหญ่ขึ้น แตกต่างมากขึ้นโปว่าตัวละครมันพาพวกเราให้ไปรู้จักโลกที่กว้างขึ้น เพราะทุกที่ที่เราไป เราเจอคนหลายชาติ พูดหลายภาษา อาจจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่สิ่งที่ทุกคนรับรู้ร่วมกันได้คือความรัก ความจริงใจ และความตั้งใจของพวกเราที่ส่งผ่านตัวละครออกไปเป็นผลงานที่ทำให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่พวกเราอยากจะสื่อ กลายเป็นภาษาเดียวกันครับ

มาย: ผูกพันมากๆ ครับ อธิบายหน้าเดียวคงไม่พอ มันเริ่มที่คินน์พอร์ชก็จริงครับ แต่สเตจการทำงานตั้งแต่เริ่มทำความรู้จักตัวละคร ถ่าย เริ่มฉายระหว่างฉาย ไปจนจบ ในระหว่างนั้นมันจะมีการเติบโตของทุกอย่าง ทั้งตัวงาน ตัวเรา คนที่ชื่นชอบซีรีส์นี้ พวกเราได้ผ่านสถานการณ์มาเยอะมาก ความผูกพันก็เยอะมากตามไปด้วย ไม่รู้จะอธิบายให้หมดได้ยังไงครับ ตอนที่ขึ้นคอนเสิร์ตคินน์พอร์ชครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ พวกเราไม่รู้หรอกครับว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว มายต้องลาจากคินน์จริงๆ ก็ต้องบอกว่ามันมีห้วงความเสียใจที่ต้องจากกัน คือมายรักเขามากแหละครับ

อาโป: โปว่ามันมากกว่าความผูกพันนะ เพราะคินน์กับพอร์ชพามายกับอาโปไปหลายๆ ที่ ได้ประสบการณ์หลายๆ แบบที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาก่อน

ผลงานใหม่ ‘แมนสรวง’

มาย: ผลงานใหม่เป็นหนังครับ ชื่อว่า ‘แมนสรวง’ ฉายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นหนังพีเรียดที่พวกเราเตรียมจะแสดงความสวยงามของประเทศไทยในยุคนั้นให้ทุกคนได้เห็น มายยังพูดอะไรมากไม่ได้ครับ รอดูแล้วกันครับ นอกเหนือจากความสวยงามของประเทศไทยแล้ว พวกเราก็ยังเสิร์ฟความสนุกอยู่ พูดอย่างนี้แล้วกันครับ เวลาคนนึกถึงละครหรือหนังพีเรียด อาจจะนึกถึงภาพความล้าสมัยหรือเชยบางอย่าง แต่สำหรับเรื่องนี้ มันต่างจากนั้นโดยสิ้นเชิงครับ ไม่รู้จะขายอะไรเยอะ แต่ถ้าคุณอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่ ก็รอดูได้เลยครับ

อาโป: ต้องบอกว่าทีมงานหยิบมุมบางอย่างของยุคนั้นมาดัดแปลงในมุมใหม่ครับ พวกเราลองจินตนาการขึ้นมาว่า ความสนุกของคนยุคนั้นเรื่องราวที่เจ๋งของคนยุคนั้นคืออะไร และนำมาถ่ายทอดในมุมมองของพวกเราชาว Be On Cloud ความรู้สึกของโปในทุกครั้งที่เข้าฉากคือ ‘โอ้โห’ ครับ ผลงานที่ออกไป คนดูจะได้เห็นดอกไม้แบบนี้ ความงามแบบนี้ สีสันและศิลปะแบบนี้ ขนาดโปเอง โปยังอยากดูเลยครับ โปเชื่อว่าคนดูจะต้องมีความสุขแน่ๆ ที่ได้เห็นมุมมองต่างๆ ในหนังเรื่องนี้

อะไรที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับตัวเอง

อาโป: บอกยากครับ เพราะตัวโปเองก็ยังศึกษามุมต่างๆ ของตัวเองในทุกวันอยู่เลย วันนี้โปอาจจะมองแบบนี้ อาทิตย์หน้าโปอาจจะมองอีกแบบหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้ว โปว่าสิ่งที่โปตามหาอยู่คือความสุข และความสนุกในการใช้ชีวิตนะครับ

มาย: โห… มายไม่แน่ใจเลยครับว่ามีมุมไหนที่ยังไม่ได้บอกอีกหรือเปล่า ลองมาช่วยมายค้นหาหน่อยเถอะครับ (หัวเราะ) เพราะสิ่งที่ออกไปจากการถ่ายทำเบื้องหลัง หรืออะไรก็ตามที่ทีมงานทำ มันอาจจะทั้งใช่และไม่ใช่มายก็ได้ครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าอยากค้นหามาย… เชิญครับ! จริงๆ มายเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัวมากนะครับ แต่ตอนนี้มันถูกเปิดไปเยอะมากจนไม่แน่ใจว่ามีมุมไหนที่คนยังไม่รู้จักมายอีกหรือเปล่า… อาจจะเป็นมุมที่ดุมั้งครับ มายไม่ค่อยแสดงออกในสื่อเท่าไหร่

อาโป: ความหมายคือ… พวกเราอยากให้ทุกคนได้รับความสุขครับ พวกเราเลยเอาแต่มุมที่เป็นความสุขใจ ความสบายใจให้คนอื่นเห็นก็พอ

อาโปสวมเสื้อคอเต่าผ้าขนสัตว์สวมทับด้วยเสื้อถักนิตทอลาย กางเกงผ้าขนสัตว์พร้อมกระโปรงจับจีบผ้าขนสัตว์เข้าชุด กำไลขอมือ แหวน แว่นตากันแดด รองเท้าหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Dior
    มายสวมเสื้อแขนยาวผ้าฝ้าย กางเกงผ้าขนสัตว์พร้อมกระโปรงจับจีบผ้าขนสัตว์เข้าชุด กำไลข้อมมือ แหวน แว่นตากันแดด รองเท้าหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Dior

อนาคตในวงการ

มาย: ข้อดีสำหรับวงการบันเทิงไทยคือมันมีการผสมผสานหลายๆ อย่างได้หมายความว่ามายสามารถเป็นนักร้อง นักแสดง และนักนู่นนักนี่ในคนเดียวกันได้ ซึ่งแพสชั่นของมายคือเรื่องดนตรี ก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปในทิศทางนั้นหรือเปล่า หรือจะไปในทิศทางนักแสดงเรื่อยๆ หรือได้ไปต่างประเทศ มายก็ไม่รู้ ต้องบอกว่าทุกอย่างเป็นโอกาส และมายก็เป็นคนเปิดรับทุกโอกาสอยู่แล้ว ดังนั้นมายว่ามันมีอะไรน่าสนุกรออยู่อีกเยอะมากทั้งในฐานะมายคนเดียว และในฐานะมาย-อาโป

อาโป: หลังจากที่โปได้เจอประสบการณ์ต่างๆ มากขึ้น โปรู้สึกว่า สำหรับตัวอาโป และสำหรับมาย-อาโป โปอยากให้เป็นการขับเคลื่อนประเทศในทางหนึ่ง เพราะพอได้มีโอกาสไปร่วมงานกับคนหลายๆ ชาติบนโลกนี้ได้เห็นว่าการทำงานของคนแต่ละชาติแตกต่างกันมาก โปเลยรู้สึกว่า ถ้ามาย-อาโปได้เป็นตัวแทนร่วมงานกับคนหลายๆ ชาติ ได้มีโอกาสทำอะไรอื่นๆ ที่สนุกกว่านี้ หรือลองอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้คนทั้งโลกเข้าใจได้เหมือนๆ กันดีกว่าไหม จากประสบการณ์ที่มาย-อาโปได้สัมผัสผ่านการเป็นคินน์-พอร์ชมาเนี่ย ทำให้โปรู้สึกว่าพวกเราสามารถขับเคลื่อนได้จากการทำงานของเรา สามารถส่งความสุขไปได้ไกลมากๆ ด้วย โปเลยรู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งโปไม่อยู่แล้ว ไม่ได้เป็นมาย-อาโปแล้ว โปจะไม่รู้สึกเสียดายเลยเพราะโปได้ทำอะไรบางอย่างไว้ให้โลกแล้วครับ

การวางตัวหลังจากมีชื่อเสียง

มาย: ข้อดีของการทำงานในวงการบันเทิงที่คนรู้จักคือ เราสามารถมีอิทธิพลกับคนอื่นได้ ดังนั้น เราควรจะส่งอิทธิพลในทางที่ดี ซึ่งก็ต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกคนเป็นมนุษย์ที่มีทั้งข้อดีและไม่ดี เรื่องเดียวกันอาจจะตีความได้หลายแบบแต่ถ้ามายและอาโปสามารถส่งอิทธิพลกับคนอื่นในทางที่ดีและเป็นธรรมชาติได้ มันก็ดีครับ เพราะถ้าใครได้ดูทั้งคินน์พอร์ช และแมนสรวง จะเห็นได้ถึงความเป็นธรรมชาติของเราสองคน ในความพอดีนั้น ผมว่ามันมีเสน่ห์ครับ

อาโป: โปก็ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับสิ่งที่ควรจะเป็น ควรจะทำเท่านั้นครับ เพราะทั้งพี่มายและโปก็มีวุฒิภาวะแล้ว พอมีคนมองพวกเราเป็นไอดอล พวกเราก็พยายามจะคิดดี ทำดี พูดดี ให้พวกเขาเห็น หลายๆ คนบอกว่าพวกเราเปลี่ยนชีวิตเขา เพราะเขาเห็นพวกเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเป็นธรรมชาติ เขาบอกว่ามันส่งอิทธิพลกับพวกเขา ทำให้พวกเขาอยากใช้ชีวิตแบบพวกเราเช่นกัน โปเลยรู้สึกว่า ถ้าพวกเราปฏิบัติตัวได้เหมาะสม โปก็จะรู้สึกดีที่หลายๆ คนเขาทำตามในสิ่งที่ดีกับตัวเขา และเขามีความสุขเท่านี้โปก็แฮ้ปปี้แล้วครับ

มาย: มองเรื่องวิธีคิดดีกว่าครับ เพราะถ้าจะให้ระบุเป็นเรื่องๆ คงจะยากนิดหนึ่ง อย่างแรกเลย สิ่งที่พวกเราทำต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น พวกเรามองมุมมองของตัวเองคนเดียวไม่ได้แล้วครับ ต้องดูว่าสิ่งที่ลงมือทำไปมันทำร้ายคนอื่นไหม เรื่องนี้สำคัญนะกับการเป็นคนที่เป็นที่รู้จัก เด็กที่อายุน้อยที่สุดที่รู้จักพวกเราคือห้าขวบนะ แล้วเด็กวัย 12-13 ที่ดูยูทูบอีกล่ะ ภาพที่พวกเขาเห็นมันจะฝังอยู่ในหัวนะครับ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราทำ อย่างน้อยในสื่อ ต้องไม่เบียดเบียนใคร และต้องไม่เป็นอันตรายต่อใคร นี่คือวิธีคิดเลยครับ เพราะความเป็นมนุษย์มันมีหลายเลเยอร์ แต่ถ้าสิ่งไหนที่มั่นใจแน่ๆ ว่ามันไม่ถูก ไม่ควร ก็ไม่ควรทำให้เขาดูครับ

อาโป: ขอเสริมครับว่า พวกเราก็ผ่านประสบการณ์กันมาเยอะ มีสิ่งที่ทำแล้วไม่ดี ไม่เหมาะสมกันมาบ้าง แต่ในวันนี้ พวกเราพยายามที่จะปรับตัวทำสิ่งที่เหมาะสมมากขึ้นในทุกๆ วัน อะไรที่เคยทำแล้วไม่ดี ก็พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น เพราะพวกเราอยู่ตรงนี้ เด็กๆ ยังรู้จักพวกเรา แปลว่าพวกเราส่งอิทธิพลให้พวกเขาได้ การทำดีมันก็ดีกับทั้งพวกเราและพวกเขานะครับ

เสื้อแขนยาวผ้าฝ้าย ต่างหู กำไลข้อมือ แหวน ทั้งหมดจาก Dior

พูดอะไรถึงแฟนคลับหน่อย

มาย: แฟนคลับคือประสบการณ์ คือพลังงานที่มายไม่คาดคิดว่าจะได้รับ ได้เจอ ได้ทั้งเป็นผู้รับและผู้ให้ในเรื่องต่างๆ การได้เดินทางไปหลายๆ ประเทศ ได้อ่านการ์ดที่ส่งมาจากทั่วโลกจริงๆ ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ได้เห็นแววตาของทุกคนจริงๆ ทุกอย่างมันมหัศจรรย์มาก ทุกครั้งที่ได้เห็นแฟนคลับ พวกเราได้รับแพสชั่น ได้รับพลังกลับมามาก ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นพื้นที่ให้มายได้เข้าไป และขอบคุณมากที่ให้เกียรติเข้ามาในพื้นที่ของมาย และมอบความสุขให้กับมายครับ

อาโป: แฟนคลับเป็นแรงผลักดันชั้นดีเลยครับ เวลาเห็นทุกคนมีความสุขจากการกระทำที่บางทีโปก็แค่เป็นตัวโป ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเขาเห็นความเป็นธรรมชาติของโปแล้วทำให้เขามีความสุข โปก็รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้โปมีพลังใจในทุกๆ วันครับ

เสื้อแขนกุดผ้าถักนิตทอลาย กางเกงผ้าขนสัตว์พร้อมกระโปรงจับจีบผ้าขนสัตว์เข้าชุด แหวน รองเท้าหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Dior

เส้นแบ่งระหว่างพื้นที่ส่วนตัวกับพื้นที่สาธารณะ

อาโป: ถ้าเป็นมุมมองของโป โปรู้สึกว่าทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนการที่พวกเราอยู่ตรงนี้ ก็ต้องยอมแลกพื้นที่ส่วนตัวบ้าง และโปก็ต้องเก็บพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นความสุขส่วนตัวของโปไว้บ้าง โปเลยไม่ได้รู้สึกว่าโปอึดอัดหรือรู้สึกว่าแฟนคลับเข้าใกล้เกินไปเลย โปรู้สึกว่าโปไม่มีทางได้ทุกอย่าง เพราะสุดท้ายแล้ว โปก็อยากเจอพวกเขา พวกเขาก็อยากเจอโป มันเป็นธรรมชาติ โปก็แค่ใช้ชีวิตให้เป็นธรรมชาติ ถ้ามีอะไรที่เบียดเบียนกันเกินไป ก็แค่พูดปรับความเข้าใจกัน

มาย: มายคงใช้คำว่า ‘ความพอดี’ นะ มันใช้ได้กับทุกเรื่องเลย ในเรื่องของพื้นที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะวงการไหน ถ้ามีคนรู้จัก เราก็ต้องเสียพื้นที่ส่วนตัวไปแต่ในมุมหนึ่ง มายก็ไม่มีทางแบทุกอย่างให้คนอื่นดูได้หมด ไม่อย่างนั้นมายก็จะไม่ได้ใช้ชีวิต ดังนั้น ความพอดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่มันพูดยากเพราะมันคือการรับฟังกันและกัน บางคนให้มาเท่านี้ แต่มายรู้สึกว่ามันมากไป หรือว่ามายให้กลับไป เขาก็ว่ามันน้อยไป เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องของความสมดุล ต้องดูเป็นเคสๆ ไป แต่ถ้าพูดในภาพใหญ่ การจำกัดความอาจจะยาก แต่สุดท้ายแล้ว การที่มีคนมาชื่นชมมาย ให้เกียรติมาย มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทั้งมายและเขามีความสุขอยู่แล้วนะครับ

Assistant Photographer: Similan Prangprasert / Santipong J / Tanaporn Pikul

Assistant Stylist :  Napat Roongruang

Makeup:  Pakanat Poolsawat

Hair: Thannicha Phayupmek

Videographer: Ketsara Leecharoen

Assistant Videographer: Suradit laorsittipirom

พรีออเดอร์นิตยสาร L’Officiel Hommes Thailand ฉบับปกแข็ง Summer 2023 ได้แล้ววันนี้!

เผยภาพแรก! ของสองหนุ่มสุดฮอต ‘มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’ และ ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’ บนปกนิตยสาร ลอฟฟิเซียล ออมส์ ฉบับปกแข็ง Summer 2023 (ประจำเดือนพฤษภาคม 2566) ที่อัดแน่นไปด้วยแฟชั่นเซ็ตสุดเท่ พร้อมบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คูลซีฟที่จะมาทำให้แฟนๆ ตกหลุมรักสองหนุ่มขึ้นไปอีกขั้น

ากแฟนๆ ไม่อยากพลาด สามารถตามไปพรีออเดอร์ได้ที่ลิงก์เว็ปไซต์ของเรา หรือทาง LINE Official Account @LOfficiel เท่านั้น (http://bit.ly/3Kw0OZH)

สามารถพรีออเดอร์กันได้แต่วันที่ 13 เมษายน จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น!

—————————————————-

First look! ‘Mile-Phakphum Romsaithong’ and ‘Apo-Nattawin Wattanagitiphat’ on L’Officiel Hommes Thailand, Summer 2023 issue (on newsstand since May 2023), with fashion set and exclusive interview which will make you love them even more. Don’t miss this issue!!

(Disclaimer: The Photo is for Pre-Order, not the actual cover)

Don’t miss this issue!! Pre-order on Website or LINE Official Account : @LOfficiel (http://bit.ly/3Kw0OZH)

Pre-order period: April 13th – 18th, 2023

ส่องแอร์พอร์ตลุคและไอเท็มของสองหนุ่ม ‘มาย-อาโป’ ที่เตรียมบินลัดฟ้าไปร่วมโชว์ Dior ณ มุมไบ

พร้อมเดินทางแล้วครับ! สำหรับสองหนุ่ม ‘มาย ภาคภูมิ’ และ ‘อาโป ณัฐวิญญ์’ ใน Airport Look ลุคสุดเท่จาก Dior ที่เตรียมพร้อมเดินทางไปยังมุมไบ ประเทศอินเดีย เพื่อเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Dior Women’s Fall 23 ที่กำลังจะเกิดขึ้นขึ้นในวันที่ 30 มีนาคมนี้

 

หลายครั้งที่แฟนๆ เรียกร้อง กับการแกะไอเท็มของทั้งสองหนุ่ม ‘มาย ภาคภูมิ’ และ ‘อาโป ณัฐวิญญ์’ กับการเดินทางไปร่วมงานในสายแฟชั่นแต่ละครั้ง ว่ามีชิ้นไหนที่ทั้งสองหนุ่มถูกใจเลือกหยิบ เลือกใส่กันบ้าง วันนี้เราได้นำไอเท็มชิ้นเด่น จากลุคของทั้งสองหนุ่มมาฝากเพื่อนๆ กันแล้วครับ แต่ละชิ้นจะโดนใจแฟนๆ มากน้อยเพียงใด เราไปชมกันเลย!

Apo Nattawin

 

 

Mile Phakphum