Posts

Under the Sheltering Sky แรงบันดาลใจของ Anthony Vaccarello ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Saint Laurent สำหรับคอลเลคชั่น Menswear Spring/Summer 2023

ดินแดนที่มีพื้นที่ของทะเลทรายมากกว่าความชอุ่มเขียวนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนอย่าง Paul Bowles โดยเฉพาะวรรณกรรมที่ชื่อ The Sheltering Sky ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของ Anthony Vaccarello ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Saint Laurent สำหรับคอลเลกชั่น Men Spring/Summer 2023 นี้

​เช่นกันแม้เขาจะเกิดในโอรอง แต่อีฟว์ แซงต์โลรองต์ ค้นพบว่ามาราเกชคือแรงบันดาลใจของเขาก็เป็นปี 1966 ที่เขาได้นำเอาสีสันของเมืองนี้ทั้งกายภาพและจินตภาพมาสร้างสรรค์คอลเลกชั่นมากมาย และไม่จำเป็นต้องเป็นอาภรณ์แบบใดแบบหนึ่งของที่นี่ แต่นำเอาสีสันของมาราเกชมาอยู่ในทุกๆ คอลเลกชั่นช่วงนั้น และที่นี่เสมือนเป็นที่หลบภัยอันคุ้นเคยของเขา เป็นสถานที่ที่เขาสามารถมีความสุขกับชีวิตได้อย่างสงบและเรียบง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับตารางงานอันแสนจะวุ่นวายของเขาในปารีส

​ความสำคัญของเมืองมาราเกชที่มีต่ออีฟว์ แซงต์โลรองต์ นับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ Anthony Vaccarello เลือกใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นฉากหลังอันโอ่อ่าให้กับคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนประจำปี 2023 นี้ โดยหากเคยมีเส้นแบ่งระหว่างสิ่งที่ประกอบเป็นเสื้อผ้า ‘ผู้ชาย’ และสิ่งที่ก่อให้เกิดเป็นเสื้อผ้า ‘ผู้หญิง’ เส้นแบ่งนั้นจะหายไปอย่างสง่างามผ่านโชว์ในครั้งนี้​ การมาชมการแสดงคอลเลกชั่นครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งที่จะทำให้เราได้เข้าใจในแรงบันดาลใจอันลึกล้ำของสองนักสร้างสรรค์ที่มีผลงานต่อ Saint Laurent ในแต่ละช่วงเวลา เมื่อรถของเราแล่นลึกเข้าไปในทะเลทรายที่เวิ้งว้างไร้จุดจบ แม้แดดจะเริ่มราฟ้า แต่เหมือนว่าสีขาวของทรายจะช่วยสะท้อนให้สว่างเรืองขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ทันใดที่ปลายสายตาเราก็เห็นป้าย Saint Laurent ในแบบตัวอักษรใหม่ปรากฏขึ้นมาเสมือนภาพลวงตา แต่ก็ไม่ทันจะขอให้หยุดรถเพื่อถ่ายภาพ รถก็แล่นเลยไป ด้วยความที่รถตามกันมาเป็นขบวนจึงไม่มีคันใดจะได้หยุด

​ไม่นานเราก็เห็นอาคารที่เสมือนภาพลวงตาโผล่ผุดขึ้นมาท่ามกลางเนินทราย อาคารชั่วคราวทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่มีผิวภายนอกคลุมด้วยวัสดุที่เสมือนกระจกเงา สะท้อนภาพทะเลทรายรอบๆ จนทำให้อาคารนี้กลืนหายไปกับทราย ชวนฉงนว่าเป็นภาพจริงหรือไม่ ยิ่งเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลับลงเส้นขอบฟ้าเบื้องหน้า ช่วงที่ฟ้าบรรจบทรายได้เปลี่ยนเป็นสีส้มจางๆ ก่อนจะจางไล่ขึ้นไปเป็นสีขาวของท้องฟ้าที่บ่งบอกถึงการไร้ขอบของห้วงอากาศ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักเขียนอย่าง Paul Bowles ถึงใช้คำว่า sheltering sky

​สถานที่จัดแสดงคอลเลกชั่นเป็นลานวงกลมกว้างใหญ่ล้อมรอบไปด้วยที่นั่ง ตรงกลางคือบ่อน้ำที่สร้างขึ้นมาขนาดใหญ่ที่มีน้ำสงบนิ่งเหมือนแผ่นกระจก ดูไกลๆ เสมือนภาพลวงตาในทะเลทรายที่คนมักจะเห็นบ่อน้ำท่ามกลางทะเลทรายที่เวิ้งว้างซึ่งไม่ใช่ภาพจริงโดยการทำงานในครั้งนี้ Vaccarello ได้ร่วมมือกับ Es Devlin ศิลปินและนักออกแบบเวทีชาวลอนดอน ในการรังสรรค์ฉากหลังอันน่าเกรงขามกลางทะเลทรายอากาเฟย์ รวมถึงโอเอซิสพร้อมวงแหวนเรืองแสงท่ามกลางความแห้งแล้งอันกว้างใหญ่ไร้ผู้คนรู้จัก ความหวังและความลึกลับถูกวางเป็นคำอุปมาอุปไมยที่สื่อถึงความซับซ้อนที่น่าสนใจของชีวิตซึ่งเป็นธีมของโชว์ในครั้งนี้

​เมื่อตะวันลับฟ้าไปพักใหญ่ทำให้เวิ้งฟ้าและผืนทะเลทรายกลืนเข้าหากันด้วยเฉดสีขาว กลุ่มควันได้ถูกปล่อยออกมาเป็นการสร้างบรรยากาศที่เหนือจริง เหล่านายแบบเดินออกมาด้วยอาภรณ์เฉดสีดำในซิลลูเอทของสูททักซีโด้ในแบบ Saint Laurent ไหล่แจ็คเก็ตที่ตั้งตรง ปกใหญ่ที่ช่วยพรางให้ช่วงบนดูเพรียวขึ้น นี่คือโครงแจ็คเก็ตทักซีโด้ที่เสมือนดีเอ็นเอของ Saint Laurent ตั้งแต่ยุคอีฟว์ แซงต์โลรองต์ออกแบบทักซีโด้สูทสำหรับผู้หญิงชุดแรก ไหล่ตั้งทำให้ดูสง่าผ่าเผย ย้ำความแฟมินีนด้วยทรงสูทที่เข้ารูป แต่สวมสบาย ไม่รัดลำตัว ซึ่ง Vaccarello ก็นำมาต่อยอดกับคอลเลกชั่นนี้ของสุภาพบุรุษได้อย่างลงตัวและเท่มากๆ นี่คือการสืบทอดจากคอลเลกชั่นก่อนหน้านี้คือฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวประจำปี 2022 ซึ่งเขาได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ปกและไหล่แบบใหม่ สายเดี่ยว หรือกระดุมสองแถว ตลอดจนชุดทักซีโด้ที่แฝงกลิ่นอายความเป็นโมเดิร์นซึ่งถูกตัดเย็บด้วยผ้าไหมอันมอบความรู้สึกเบาสบายมากยิ่งขึ้น

เสื้อตัวบนแบบเบล๊าซ์ที่มีโบผูกตรงคอ ปลายแขนรัดข้อมือตัดจากไหมชีฟองเนื้อบาง คือเสื้อสุดฮิตที่อีฟว์ แซงต์โลรองต์ ออกแบบมาในยุค 1970s และต่อยอดมาอีกมากมาย แต่ไม่เคยถูกทำให้เด่นชัดสำหรับสุภาพบุรุษเท่าครั้งนี้ เบล๊าซ์ผ้าชีฟองเนื้อบางจนแลลอดเห็นผิวเนื้อหนุ่มนั้นไม่ได้ดูเคอะเขินสำหรับหนุ่ม Saint Laurent ในยุคนี้บางตัวจะไร้แขนเป็นเบล๊าซ์แขนกุด หรือบางตัวจะมีตัวเสื้อยาวจนคล้ายเสื้อคลุมของผู้ชายในโมรอคโค แต่เป็นเสื้อตัวยาวเข้ารูป กับกระดุมผ่าหน้านอกจากแจ็คเก็ตทักซีโด้ที่ต้องมีจากคอลเลกชั่นนี้ก็คงต้องเป็นเบล๊าซ์ผ้าชีฟองนี่แหละที่หนุ่มฤดูร้อนที่จะถึงนี้ต้องมี

​ซิลลูเอทที่ขาดไม่ได้ก็คือเสื้อเฟอร์ตัวใหญ่โคร่งแต่ไหล่ตั้งสวมทับโครงชุดทรงเพรียว จะเห็นว่า Vaccarello นำเอาดีเอ็นเอของ Saint Laurent มาต่อยอดทั้งหมดและทำได้เท่สง่าในแบบสุภาพบุรุษแม้รากของชุดเหล่านี้จะมาจากเสื้อผ้าสุภาพสตรี กลับไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการแต่งกายข้ามเพศ แต่เป็นความลื่นไหลของรูปทรงที่เคยเป็นของสุภาพสตรีมาทำให้เป็นชุดของบุรุษอย่างลงตัวที่สุด

​สำหรับกางเกงเอวสูงที่ท้าทายคนสวมว่าจะผสมผสานอย่างไรไม่ให้ดูเป็นกางเกงทรงลุง แต่ผู้ออกแบบได้คิดมาแล้วว่ากางเกงเอวสูงนี้ต้องมาพร้อมช่วงขาที่กว้าง ช่วยเสริมสร้างความสูงเพรียวให้กับรูปร่างของผู้สวมใส่ รวมถึงบางแบบก็ถูกขัดด้วยสไตล์ช่วงปลายขาที่แคบลง แต่ไม่ใช่กางเกงทรงลุงที่จะทำให้คนสวมดูสูงวัย ซิลลูเอทที่เป็นที่นิยมในโลกปัจจุบันคือรูปทรงที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายเมื่อสวมใส่ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตของอีฟว์ แซงต์โลรองต์ ที่เมืองมาราเกช เสื้อตัวนอกที่ดูหลวมและมีความพลิ้วไหว เสื้อผ้าซาตินที่ห่อหุ้มร่างกายความยาวประพื้นคล้ายชุดพื้นเมืองของบุรุษโมรอคโค แต่ทว่ากลับทำให้แขนเสื้อเล็กลีบเข้ากับลำแขนจึงดูไม่ใช่ชุดท้องถิ่น ในขณะเดียวกันแจ็คเก็ตก็ถูกตัดเย็บมาในสไตล์ที่เฉียบคม นอกจากนี้ผ้าวูลเนื้อละเอียด grain de poudre อันสื่อถึงความสัมพันธ์อันยาวนานกับอีฟว์ แซงต์โลรองต์ และ Vaccarello ชอบที่จะใช้มัน ก็ได้ถูกนำมาใช้ในคอลเลกชั่นครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งทำให้เสื้อผ้าในหลายลุคดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

​เมื่อนายแบบคนสุดท้ายเดินออกมาด้วยชุดสูททักซีโด้ในเวอร์ชั่นล่าสุด (เปิดโชว์ก็เป็นชุดทักซีโด้แบบใหม่) เพื่อตอกย้ำการต่อยอดดีเอ็นเอของ Saint Laurent เมื่อเหล่านายแบบเดินออกมาเป็นการปิดโชว์ เราได้เห็นบ่อน้ำวงกลมตรงกลางมีขอบวงแหวนที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำยกขึ้นมาและพ่นฝอยน้ำให้ดูเสมือนกลุ่มควันของวัตถุลึกลับนอกจักรวาล จากบ่อน้ำกลางทะเลทรายกลายเป็นวัตถุไฮเทคที่ทำให้เราต้องหยิกตัวเองว่านี่คือภาพจริงหรือภาพฝัน สิ่งที่เราเดินทางมาถึงกลางทะเลทรายที่เวิ้งว้างนี้คือความจริงใช่หรือไม่ และความรู้สึกและภาพที่เหมือนจะเหนือจริงที่ปรากฏตรงหน้านี้ก็คงไม่ได้เกิดขึ้นให้เราเห็นบ่อยๆ โดยสิ่งที่เป็นวัตถุที่เราได้นำกลับมาจากการเดินทางไปกลางทะเลทรายในมาราเกชครั้งนี้ก็คือหัวใจที่ปั้นด้วยดินเผาชิ้นเล็กๆ ที่มีตัวอักษรขูดเข้าไปในเนื้อดินว่า Saint Laurent

​ดังคำพูดอันเฉียบคมของ Paul Bowles ที่ว่า “เรามักจะคิดว่าชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรานั้นเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง และน้อยครั้งมากจริงๆ คุณจะนึกถึงความทรงจำช่วงบ่ายในวัยเด็กของคุณได้อีกกี่ครั้ง หรือจะเป็นช่วงบ่ายที่ลึกซึ้งที่สุดของคุณ ลึกซึ้งจนคุณไม่แม้แต่จะนึกถึงชีวิตของคุณโดยปราศจากความทรงจำนั้น อาจจะสี่ถึงห้าครั้ง หรืออาจจะไม่ถึง คุณจะมีโอกาสได้ดูพระจันทร์เต็มดวงขึ้นอีกกี่ครั้ง อาจจะยี่สิบครั้ง และนั่นล่ะคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งอย่างดูไร้ขีดจำกัด”

– Author: Sethapong Pawwattana –