Posts

Maurice Lacroix x Benzilla คอลแลปบอเรชั่นของศิลปินไทยที่ดังไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น

นาฬิกา AIKON #tide X BENZILLA คอลเลคชั่นที่ต่อยอดความสำเร็จจากประเทศไทยไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกด้วยการเดินทางไปร่วมเปิดงานและโชว์ผลงานแบบเต็มๆ ให้กับบรรดาแฟนคลับแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ประเทศญี่ปุ่นตามคำเชิญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางอากาศหนาวของเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา โดยมีคุณปริญญา ศิริสินสุข (BENZILLA) ศิลปินชาวไทย ร่วมเดินทางไปกับ คุณเต้ รวิศ เหตานุรักษ์ (Maurice LacroixBrand Manager Thailand) ผู้ร่วมสร้างโปรเจคต์ AIKON #tide X BENZILLA อันโด่งดัง พร้อมกับ ดร.โอ๋ ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข (ML Club Thailand Co-Founder) และ คุณโจ้ สุวัฒน์ สุขกาย (ML Club Thailand Co-Founder) สองตัวแทนคนสำคัญของ ML Club Thailand ที่ร่วมเดินทางไปด้วยตามคำเชิญ เพื่อพบกับ คุณโคจิ นาคาซาว่า และเหล่าบรรดาแฟนคลับแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งให้การต้อนรับอย่างดีเป็นกันเอง และอบอุ่น

ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของเหล่าตัวแทนจากประเทศไทยทุกคน ในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมงาน Live Art Event Feat.BENZILLA by Maurice Lacroix ซึ่งเป็นงานเปิดตัวนาฬิการุ่น AIKON #tide X BENZILLA ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ อิชิดะ เบส (Ishida Best) ย่านชินจุกุ ใจกลางเมืองโตเกียว และ เอ.เอม.ไอ ปาร์โก้ (A.M.I. Pargo) ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น โดยงานนี้ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับ BENZILLA ศิลปินชาวไทย

โดยเฉพาะ ซึ่งภายในงานเปิดตัว BENZILLA ศิลปินชาวไทยก็ได้ทำการโชว์วาดภาพลุค (Loook) อันโด่งดังกันแบบสดๆ ให้แฟนคลับชาวญี่ปุ่นได้ชมอีกด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ชาวญี่ปุ่นจะให้การยอมรับ และให้ความสนใจในตัวศิลปินต่างชาติขนาดนี้ 

รวมไปถึงการขอสัมภาษณ์และพูดคุยถึงแนวคิดสร้างสรรค์ของ BENZILLA ในฐานะที่เป็นศิลปินชาวไทยคนแรกที่ได้ร่วมสร้างคอลเลคชั่นนี้ จนมีโอกาสได้มาเปิดตัวถึงในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่พิเศษไปมากกว่านั้นคือ เซอร์ไพรส์ขอบคุณที่ BENZILLA ตั้งใจไปมอบให้ ด้วยการวาดรูปใบหน้าของแฟนคลับชาวญี่ปุ่นลงบนกระเป๋าของขวัญสำหรับแจกในงาน ในสไตล์ของ BENZILLA เอง เพื่อมอบให้กับทุกๆ คนที่มาร่วมชมงาน ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จครั้งสำคัญส่งท้ายปลายปี ของแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ไทยแลนด์ ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ที่มอบให้กับคนไทยจริงๆ

สอบถามข้อมูลนาฬิกา มอริส ลาครัวซ์ ได้ที่ LINE Official Account @MauriceLacroixTH

rhunrun เรียบเรียง

เบื้องหลังความสำเร็จที่สวนกระแสของ Maurice Lacroix เรือนเวลาที่ทำยอดขายโตเกินเป้ากว่า 20% ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ปี 2563

ในปี 2564 ที่ผ่านมา มอริส ลาครัวซ์ ได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจุดเริ่มต้นของความสำเร็จกับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามนั้น เริ่มจุดประกายมาจากคอลเล็กชั่น Aikon รุ่น Limited Edition อย่าง Aikon Urban Tribe ที่เข้ามาไทยเพียง 24 เรือนเท่านั้น และได้ถูกจับจองหมดภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์ ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับแบรนด์เลยทีเดียว จนทำให้ทางแบรนด์ตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยง เพื่อส่งมอบนาฬิกา ซึ่งเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ได้พรีออเดอร์กันเข้ามาล่วงหน้า ที่ห้องอาหารรีเดล เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยภายในงานนั้นทางผู้บริหารของแบรนด์ คือ คุณ Marcel Gut (คุณมาแซล กู้ด) Global Sales Director of Maurice Lacroix เป็นผู้เดินทางมาส่งมอบนาฬิการุ่น Aikon Urban Tribe ให้ถึงมือลูกค้าไทยด้วยตัวเอง 

นอกจากนี้แล้วการกำเนิดขึ้นของ Maurice Lacroix Club Thailand ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แบรนด์เติบโตได้อย่างชนิดเรียกว่าก้าวกระโดด และอยู่ในกระแสนิยมของวงการนาฬิกาในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Maurice Lacroix Club Thailand นี้เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบและหลงใหลในนาฬิกาเป็นอย่างมาก และยังเป็นกลุ่มคนที่มีความชื่นชมในแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมองว่าทางแบรนด์เองก็มีศักยภาพพอที่จะเติบโตเป็นที่นิยมและรู้จักมากขึ้น     

ซึ่งหลังจากที่ Maurice Lacroix Club Thailand ได้ก่อตั้งขึ้นผ่านทาง Facebook Group ก็เริ่มมีสมาชิกเข้ามาร่วมอยู่ในคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ คลับมีสามชิกเกือบ 2,000 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ และนิยมในแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ที่เพิ่มเยอะขึ้นในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด  

โดยในปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ได้มีการจัดกิจกรรมร่วมกันกับ คลับ อยู่เป็นประจำ และล่าสุดได้ร่วมกัน จัดประมูลนาฬิกา Aikon Urban Tribe เรือนสุดท้ายของโลก ผ่านทางคลับ โดยเงินที่ได้จากการประมูลนั้น ทางแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ได้มอบบริจาคให้แก่โรงพยาบาลเจ้าคุณทหารลาดกระบังเพื่อใช้ในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์  

ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่พูดได้ว่า โรคระบาดโควิด-19 ยังมีผลกระทบในการดำเนินธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้านี้ แต่ผลประกอบการของทางแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ กลับถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปี 2563 กว่า 60% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 20% 

ด้วยกระแสตอบรับที่ดี และความสำเร็จของแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ในประเทศไทยนี้เอง ทาง มอริส ลาครัวซ์ โกลบอล จึงได้ตัดสินใจที่จะเปิด บูติก มอริส ลาครัวซ์ คอนเซ็บใหม่ โดยจะใส่ความเป็น Urban Spirit ลงไป ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกของโลกที่จะเปิดบูติกคอนเซ็บใหม่นี้ โดยบูติกจะตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของเกสรวิลเลจ     

ในปีนี้ มอริส ลาครัวซ์ ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและแผนของทางแบรนด์ที่จะทำให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยในวงกว้างมากขึ้นโดยการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งท่าน คือ คุณ ชิน ชินวุฒ นักร้องและนักแสดง ศิลปินชื่อดัง ที่มี character ตอบโจทย์กับสโลแกน #BeYourAikon ของแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ดังที่กล่าวไว้ได้อย่างชัดเจน  

เรียบเรียง rhunrun

A Watch for All Seasons

Maurice Lacroix เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ โดยภูมิภาคนี้จัดขึ้นที่โกตากีนาบาลู ประเทศมาเลเซีย เป็นการเผยโฉมนาฬิกา AIKON รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AIKON Venturer, AIKON Automatic: All Black, AIKON Automatic Mercury เป็นต้น โดยเริ่มจากงานดินเนอร์ในค่ำคืนแรกที่ทุกคนได้เห็นนาฬิการุ่นใหม่เหล่านี้ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะได้สัมผัสนาฬิกาเหล่านี้อย่างใกล้ชิด 

ดัช – ณัฐกิจ แตงไทย

หนึ่งในคนที่มาร่วมงานอย่างดัช – ณัฐกิจ แตงไทยนายแบบและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ชอบออกกำลังกายและเล่นกีฬากลางแจ้ง ดัชได้ลองสวมนาฬิกา Maurice Lacroix แต่ละแบบกับไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันที่อยู่ที่นั่น อย่างการสวมนาฬิกา Maurice Lacroix AIKON Venturer ตอนเล่นเจ็ตสกี นาฬิกานี้ออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาและไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง ตัวเรือนสเตนเลสสตีลหน้าปัดขนาด 43 ม.ม. พร้อมวงหน้าปัด (bezel) เซรามิกหมุนได้ทิศทางเดียว กันน้ำได้ 30 ATM มาพร้อมสายสเตนเลสสตีล ดีไซน์โก้และสายยางสุดเท่

ดัชสวมนาฬิการุ่นนี้กับสายสเตนเลสสตีลก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายยางอย่างง่ายดายเมื่อจะลงเล่นเจ็ตสกี นาฬิการุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับคนชอบเล่นกีฬาและคนรักการผจญภัยโดยเฉพาะ พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนชอบความท้าทาย Maurice Lacroix รุ่นใหม่ AIKON Venturer พร้อมจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ยังมีรุ่น Aikon Automatic Chronograph ที่เป็นนาฬิกาเท่สไตล์สปอร์ตสามารถจับเวลาได้ โดยระบบฟังก์ชั่นต่างๆ ออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้อย่างง่ายดาย ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีล หน้าปัดขนาด 44 มม. ภายในมีหน้าปัดเล็กๆ จับเวลาเป็นวินาทีที่ 9 นาฬิกา จับเวลารอบละ 30 นาทีที่ 12 นาฬิกา จับเวลารอบละ 12 ชั่วโมงที่ 6 นาฬิกา เข็มและขีดบอกเวลาเป็น Rhodium plated กลไกอัตโนมัติ ML112 สำรองพลังงานนาน 48 ชั่วโมง ในประเทศไทยมีจำหน่ายเพียง 5 เรือนเท่านั้น

แต่ใครที่หลงใหลเสน่ห์ของสีดำ นาฬิกา Maurice Lacroix รุ่นใหม่ AIKON Automatic: All Black ทั้งตัวเรือนและสายเป็นสีดำโทนเดียวกันทั้งหมดรวมทั้งหน้าปัด 42 ม.ม. ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวสไตล์ไหน นาฬิกาสีดำล้วนเรือนนี้คือเพื่อนคู่กายคุณเสมอ

ตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบสีดำ PVD ที่สวยและทนทานต่อการขูดขีด หน้าปัด black sun brushed Clous de Paris สวยเท่ ขีดบอกเวลาและเข็มนาฬิกาเคลือบ black Super-LumiNova เรืองแสงในที่มืด ทำให้อ่านเวลาได้อย่างง่ายดายในทุกสภาพแสง 

ใครที่ชอบดีไซน์หรูโก้ Aikon Automatic Mercury เท่สะดุดตาด้วยหน้าปัด 44 ม.ม. แบบ Skeketon ที่มีนวัตกรรมพิเศษในการดูเวลาที่เฉพาะคนสวมจะเห็นเวลาจริงเท่านั้น

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Stephane Waser ซึ่งเป็น Managing Director ของ Maurice Lacroix Ltd. โดยเขาบินมางานเปิดตัวนาฬิกานี้ เราจึงได้ถามคำถามสั้นๆ กับเขา

Mr. Stephane Waser

ทำอย่างไรให้ Maurice Lacroix แตกต่างจากนาฬิกาอื่นๆ ในตลาด

“นอกจากการพัฒนานวัตกรรมและดีไซน์ของนาฬิกาของเราให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแล้ว กลุ่มเป้าหมายของเราก็มีความชัดเจนคือเป็นกลุ่มมิลเลนเนียล กลุ่มคนที่มองหานาฬิกาที่มีคุณภาพ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ระดับราคาของนาฬิกาสะสมหรือนาฬิกาคลาสสิก ในแง่ของฟังก์ชั่นและดีไซน์ของ Maurice Lacroix จะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านาฬิกาของเราจะเป็นนาฬิกาสะสมไม่ได้ เพียงแต่เราไม่ได้ไปเน้นที่กลไกที่ซับซ้อนอย่างตูร์บิญองเหมือนนาฬิกาสะสมทั้งหลาย ของเราจะเน้นที่พวกเขาสวมใส่ใช้งานจริง ใช้ในชีวิตประจำวันเลย และไม่ต้องทะนุถนอมมาก คือถ้าเป็นระดับของสะสมก็คงไม่ได้นำมาใส่จริงๆ คงจะเก็บไว้ดู”

อย่างนาฬิการุ่น AIKON ล่าสุดนี้มีอะไรที่คุณคิดว่าพิเศษที่แม้แต่นักสะสมก็คงอยากจะมีไว้

“อย่างที่บอกว่าเราเน้นนวัตกรรม ดังนั้น AIKON Automatic Mercury ที่คนทั่วไปจะมองเห็นเวลาเป็น 12 นาฬิกาเสมอ แต่ถ้าเจ้าของยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาก็จะแสดงเวลาจริง ซึ่งเราใช้ตุ้มถ่วงและแรงดึงดูดของโลกทำให้เกิดลูกเล่นเช่นนี้ ซึ่งผมคิดว่าจะโดนใจกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา แต่คนที่ซื้อนาฬิกาเพื่อสะสมก็คงจะสนใจฟังก์ชั่นนี้ รวมทั้งดีไซน์ที่เป็น skeleton ที่ผมเชื่อว่าหลายคนชอบ เพราะเราได้เห็นความสวยงาม
ของกลไกที่ซับซ้อนของนาฬิกา”

จะเห็นว่าแม้จุดยืนของนาฬิกา Maurice Lacroix จะมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวมิลเลนเนียลที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองและชื่นชอบงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ แต่ขณะเดียวกันการพัฒนากลไกของนาฬิกาก็ยังเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งลูกเล่นที่บ่งถึงศาสตร์ของการทำนาฬิกาแบบสวิสที่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

MAURICE LACROIX x FC BARCELONA WATCHES

นาฬิกานั้นก็ไม่ต่างจากสูท มันมีบริบทของมันพอตัว ใครที่สนใจเรื่องสูทย่อมรู้ดีว่า สีกลางวัน สีกลางคืน ผ้าหนา ผ้าบาง ลายกว้าง ลายแคบนั้นมีเหตุมีผลเสมอ #นาฬิกาก็เช่นกัน

ต้องไม่ซ้ำ!

หากว่าด้วยเรื่องการเล่นฟุตบอล นักเตะแต่ละคนย่อมมีสไตล์ เทคนิค วิธีการเล่นที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้จึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบนาฬิกาคอลเลกชั่นพิเศษ ระหว่างนักฟุตบอลทีมบาร์เซโลน่าทั้ง 24 คน กับแบรนด์นาฬิกา Maurice Lacroix ภายใต้ความหรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ‘เรือนเวลาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และสื่อถึงความเป็นตัวตนของเหล่านักเตะ’ ซึ่งสำหรับพวกเขาที่เคยแสดงฝีเท้าแค่ในสนาม ได้ออกมาวาดลวดลายออกแบบนาฬิกา มันคือความท้าทายที่ ‘เงินไม่สามารถซื้อได้’

watch lopt th 1

ประสบการณ์ในการออกแบบ
แน่นอนนักเตะทั้ง 24 นี้คนพวกเขาคือ ‘วีระบุรุษ’ ในสนามฟุตบอลขนาด 115 หลาต่อ 74 หลา ที่รายล้อมไปด้วยแฟนบอลกว่า 80,000 คนในสนาม แต่ถ้าว่าด้วยเรื่องของนาฬิกาแล้วละ มอริส ลาครัวซ์คือ ‘ตัวจริง’ ในเรื่องของผู้นำด้านวัสดุที่ดีที่สุดในการผลิตนาฬิกา และสามารถออกแบบนาฬิกาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

watch lopt th 2 watch lopt th 3

ขั้นตอนแรกคือการพูดถึงคุยความต้องการในวัสดุ สายนาฬิกา รายละเอียด นำเสนอออกมาเพื่อสเก็ตแบบ อย่าง เลียวเนล เมสซี, เนียมาร์, ลุยส์ ซัวเรซ, อันเดรส อีเนียสตา พวกเขาชื่นชอบนาฬิกาดำน้ำเป็นพิเศษ

watch lopt th 7 watch lop th 01

watch lopt th 4

วัสดุตัวเรือนที่มากับวัสดุโลหะชนิดใหม่ที่เรียกว่า Powerlite ซึ่งเป็นโลหะผสมชนิดใหม่ที่มีเฉพาะแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์เท่านั้น โดยเป็นส่วนผสมของธาตุ 5 ชนิด คือ อลูมิเนียม แม็กนีเซียม ไทเทเสี่ยม เซอร์โคเนี่ยม และเซรามิก คุณสมบัติเด่นของวัสดุชนิดนี้คือ มีน้ำหนักเบาที่สำคัญแข็งแรงกว่าเหล็กอีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้เทคนิคพิเศษ Anodisation หรือกระบวนการเคลือบแผ่นฟิล์มทางเคมี เพื่อให้มีความทนทานต่อสนิม และรอยขูดขีด ซึ่งวัสดุประเภทนี้มักใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต Formula 1 และยานอวกาศ ปิดท้ายด้วยผู้เล่นสามารถสั่งแกะสลักชื่อหรือข้อความพิเศษในส่วนของด้านบนของนาฬิกาได้อีกด้วย

watch lopt th 5

watch lopt th 6

watch lopt th 8

watch lopt th 9

ขอทิ้งท้ายไว้เด็ดๆว่า อีก 50 ปีข้างหน้า นาฬิกาที่มีมูลค่ามากที่สุดในท้องตลาดจะไม่ใช่เรือนเวลาปราบเซียนซับซ้อนถึงขีดสุด แต่จะเป็นนาฬิกาทั้ง 24 เรือนของพวกเขาต่างหาก 🙂