Posts

‘Yang Yang’ ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ ‘Valentino’ 

หนุ่ม Yang Yang มีบุคลิกภาพและความสามารถด้านศิลปินอย่างสูง ทำให้เขาโดดเด่นและเป็นที่น่าจับตามองในวงการแฟชั่น Valentino จะยังคงสนับสนุนความหลากหลายและความเป็นเอกลักษณ์ของบุคคลต่อไป อีกทั้งยกระดับจิตวิญญาณของ Maison ในการเดินทางครั้งใหม่ร่วมกับ Yang Yang ซึ่งเขาจะได้มาเป็น DIVAS ของ Valentino เพื่อเป็นตัวแทนของผู้ชายยุคใหม่ภายใต้ Maison

‘Unboxing Valentino’ จากผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ‘Pierpaolo Piccioli’

Maison Valentino เฉลิมฉลองประกายอันสำคัญที่ก่อกำเนิดดอกไม้นับไม่ถ้วน นี่คือ Unboxing Valentino คอลเล็กชั่นประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิปี 2023 จากผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Pierpaolo Piccioli ที่นำคำว่า Deconstruction มาเป็นแรงบันใจในการสร้างสรรค์ใหม่ Unboxing คือคอนเซ็ปต์อันก่อให้เกิดคอลเล็กชั่นอันทรงพลัง ที่ผลักให้เกิดเป็นเกม Pass the Parcel ที่มี 9 สไตล์ลิสต์คนเก่งทั่วโลกมาร่วมเล่นทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ 

สไตล์ลิสต์แต่ละคนต่างตีความคอลเล็กชั่นนี้ด้วยมุมมองที่ต่างกันออกไป โดยนั่นทำให้คำกล่าวที่ว่า ภายใต้ความบริสุทธิ์นั้นมีความหลากหลายและความซับซ้อนอยู่เป็นจริงจนปฏิเสธไม่ได้ ทั้งนี้ Unboxing เฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด เสื้อผ้าคือคำบอกเล่า และใครกันที่จะเหมาะที่ความคำหลากความหมายนี้ดีไปกว่าเจ้าของภาษา เมื่อตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ก็จะพบกับแก่นสาร ที่สามารถนำไปใช้ได้กับเรือนร่าง ใบหน้า เรื่องราว เฉดสี และพื้นผิวที่หลากหลาย การตีความนี้ทำให้เกิดเป็น Toile Iconographe ที่สร้างสรรค์มาจากลาย VLogo ซ้ำไปมาซึ่งถูกแต่งแต้มอยู่บนไอเท็ม prêt-à-porter และเครื่องประดับ Valentino Garavani  เป็นการแสดงออกซึ่งความขัดแย้งอันซับซ้อนของคอลเล็กชั่นนี้  ตัวอักษร V ที่ตะโกนอัตลักษณ์ของแบรนด์ออกมาอย่างชัดเจนกลับแลดูพร่ามัวขึ้นกลายเป็นแพทเทิร์นที่ทำให้ตัวอักษรนั้นไม่ได้เด่นชัด กลายเป็นลวดลายหนึ่งเดียว และทำให้ความสนใจไปอยู่กับผู้สวมลวดลายนั้น โดยแนวคิดนี้ได้ปรากฎอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ผ่านการทำให้เสื้อผ้าไร้เพศ การตัดเย็บที่ประณีต และลุคโมโนโครมต่างๆ เป็นการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อที่จะทำให้ผู้สวมใส่สง่าขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน ความเรียบง่ายนี้ทำให้ความสนใจทั้งหมดมมอยู่กับความแตกต่างจุดเล็กน้อย ในขณะที่เสื้อผ้าต่างๆ ก็โดดเด่นได้ด้วยดีไซน์ ความสุนทรีย์เฉพาะกลายเป็นสิ่งที่นิ่มนวล ดัดแปลงได้ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้อัตลักษณ์บุคคลถ่องแท้ขึ้น

เมืองคือระบบสุดซับซ้อนที่เต็มไปด้วยถนน รถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากแพทเทิร์นเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา โดยแต่ละเมืองล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองก็จริง แต่เมืองต่างก็คือแพทเทิร์นที่ซ้ำๆ กัน ดังนั้นเหล่าสไตล์ลิสต์มากฝีมือจึงได้นำความคิดสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจหนึ่งเดียวกันมาบันดาลให้วินโดว์ตามเมืองต่างๆ แสดงถึงความเป็นมาของเมซงโดยมีเมืองต่างๆ เป็นบริบทหลัก เป็นการผสานสไตล์และเรื่องราวที่มาจากเวลา สถานที่ และลักษณะนิสัยต่างๆ

ณ กรุงนิวยอร์ก Law Roach ได้เผยการตีความในแบบของเขาผ่านพื้นที่อันอลังการ นั่นก็คือกล่องสีแดงเข้ม นำคอนเซ็ปต์ Unboxing ออกมาให้กลายเป็นสิ่งจับต้องได้ และยังเป็นการนำแรงบันดาลใจมากจากแคมเปญประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิปี 1998 ของ Mr. Valentino ที่ Steven Meisel เป็นผู้อยู่หลังกล้องอีกด้วย อีกทั้ง Law ยังได้นำรถวินเทจมมาตกแต่งด้วยลวดลาย Valentino Toile Iconographe ทั้งคันเพื่อสื่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้และความไม่มีที่สิ้นสุด

ส่วนคอนเซ็ปต์ของ Rebecca Corbin-Murray ได้แรงบันดาลใจมาจากรันเวย์ที่ดำที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีเหลือง 3 มิติ โดยวินโดว์ในลอนดอนประกอบไปด้วย ดอกไม้สีสันต่างๆ ปรากฏอยู่บนจอสีดำ ทำให้เห็นถึงซิลูเอทเรียบง่ายขัดกับสีดอกไม้สะดุดตา โดยวินโดว์นี้เป็นดังการเปิดกล่องโลกธรรมชาติ ซึ่งสีเหลืองอันเป็นสีของพระอาทิตย์, ดอก buttercup และเกสรดอกไม้และเป็นเหมือนสะพานเชื่อมกับพลังงานแบบ  psychedelic psyche อันซับซ้อน

ข้ามฝั่งแม่น้ำไปเล็กน้อย Clement Lomellini ได้นำ Unboxing สู่ปารีสพร้อมด้วยสีสันสดใสเกิดเป็นวินโดว์สุดไดนามิก อีกทั้งยังมี Valentino Toile Iconographe คอยดึงดูดทุกสายตาที่เดินผ่านไปมา ชุดราตรีสีดำพร้อมคัทเอาท์ และผ้าซีทรูทำให้เกิดการตระหนักรู้ในเรือนร่างในฐานะสิ่งที่เกิดจากองค์ประกอบที่แตกต่างกันอย่างมากแต่ยังคงสานต่อกันได้ ส่วนหุ่นทั้งหลายโผล่มาจาก backdrop ที่ทำมาจากกระดาษและถูกฉีกออก เป็นการแสดงให้เห็นถึงการแกะกล่อง หรือ unboxing ไอเท็มที่คุณอยากได้มานานจนอดใจแกะไม่ไหวนั่นเอง

ที่มิลาน Lorenzo Posocco นำเรื่องราวของมิลานมาไว้บนวินโดว์ของบูติกสาขาไอคอนิคอย่าง Via Montenapoleone โดยผสานโลกบนท้องถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านผ่านหน้าร้านทุกวันและโลกภายในบูติค เมืองต่างๆ ก็เหมือนเกสรดอกไม้ที่ถูกถ่ายไปเรื่อยๆ มีความใกล้เคียงและเกี่ยวข้องกันอยู่เสมอ Lorenzo เชิญชวนให้ผู้ที่เห็นก้าวเข้ามาในพื้นที่ที่โลกของแฟชั่นชั้นสูงและพลังของเมืองนี้ที่อยู่ในใจทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยการนำจอวิดีโอแสดงภาพวิวถนนมิลานมาไว้ในร้าน

สีอความารีนเย็นตา และสีทองทำให้วินโดว์ที่ดูไบคล้ายกับตู้ปลา โดย Anna Dello Russo ได้ทำเทคนิคคัลเลอร์บล็อกและเครื่องประดับต่างๆ มาใช้ให้ตู้ปลานี้ดูอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยขนนก, หมวกขน, ถุงมือ และกระเป๋าตกแต่งอยู่บนตัวหุ่นเหมือนลวดลายของปลาในแถบทรอปิค เป็นวินโดว์บานใหญ่ที่ให้ผู้คนเดินท้องถนนได้เห็นถึงโลกที่สว่างไสวสวยงาม เปิดให้เห็นโลกแฟนตาซี ที่ไม่ว่าใครเดินผ่านก็ต้องอยากเข้ามาชม

ส่วนที่เซี่ยงไฮ้ Mix Wei ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดจีนโบราณ และใช้สีเพียง 5 สีในการสื่อสารถึงธรรมชาติที่หลากหลาย นอกจากนี้วินโดว์ดังกล่าวยังนำภาพวาดจีนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งโดยการนำลาย Valentino Toile Iconographe มาตกแต่งม้วนภาพโบราณ โดยม้วนภาพเหล่านั้นถูกแขวนอยู่บนเพดานแสดงให้เห็นลวดลายประจำเมซงที่กลายเป็นฉากให้กับหุ่น 5 ตัวสวม เพื่อเป็นการสื่อว่าม้วนภาพเหล่านี้เป็นวัสดุสำคัญในการรังสรรค์งาน visual art ทุกแขนงนั่นเอง แก่นแท้ของแนวคิดอันบริสุทธิ์ที่ตกผลึกมาจากความซับซ้อน องค์ประกอบเพียงหนึ่งอย่างที่ทำให้เกิดโลกแห่งศิลปะและการสรรค์สร้าง ถูกแสดงผ่านสีๆ เดียว

Geum Nam Hwang ตั้งชื่อผลงานที่โซลของเธอว่า Unbox Me ที่นำ Soma Cube มาต่อกันเหมือนเป็นจิ๊กซอว์  เป็นการตีความใหม่โดยการนำกล่องใสที่ต่อเข้าด้วยกัน มาเป็นตัวเปรียบให้เห็นว่ามนุษย์ก็เป็นดังชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถูกนำประกอบเข้าด้วยกัน  สีโทน neutral ทำให้เกิดความรู้สึกสงบท่ามกลางเมืองหลวง ในขณะที่ไอเท็ม Valentino Garavani ที่วางอยู่บนกล่อง Soma เป็นการเชิญชวนให้ผู้ที่เห็นเข้ามาตีความว่าแก่นแท้ของพวกเขาที่แท้จริงแล้วคืออะไร

Masataka Hattori รังสรรค์ดินแดนแห่งธรรมชาตไว้ท่ามกลางถนนที่พลุกพล่ายของโตเกียว สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมนุษย์  โดย Masataka ได้นำความงามจากธรรมชาติมาตกแต่งพื้นที่ด้วยการใช้สีโทนธรรมชาติ และเอิร์ธโทนต่างๆ  ผสานเข้ากับ Valentino Layers เพื่อให้ความรู้สึกโมเดิร์นและเบาสบาย โดยการกล่าวถึงต้นไม้ หิน และทราย ณ ที่นี้เปรียบเหมือนบทเพลงที่บรรเลงให้กับวัสดุธรรมชาติต่างๆ ที่ก่อกำเนิดความรู้สึกทั้งปวง

ส่วนวินโดว์ที่ 9 นั้นอยู่บนโลกออนไลน์ พื้นที่ที่ใครๆ ก็ไปดูคอลเล็กชั่น Unboxing Valentino ได้ด้วยตาตัวเองไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตาม โดยวินโดว์ออนไลน์ที่รังสรรค์ขึ้นโดยคู่ดูโอ้ Grandquis ที่มีสองสไตล์ลิสต์อย่าง Alexandra และ Mackenzie ร่วมมือกันสร้างวินโดว์ดิจิทัล โดยหุ่นทั้งหลายยืนอยู่บนแพลตฟอร์มทรงสามเหลี่ยม พร้อมกับ backdrop สีแดงสดซึ่งเป็นสีที่สื่อให้เห็นถึงรากเหง้าและแก่นของ Valentino เป็นการย้อนเวลากลับไปยังช่วงเริ่มแรกของเมซง

นอกจากเหล่าวินโดว์ที่ตกแต่งสวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมในร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น styling sessions ตามเมืองต่างๆ ทั้ง 9เมืองและอีกมากมาย โดยจะมีสไตล์ลิสต์มากความสามารถมาให้คำแนะนำเพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปกับคอลเล็กชั่น Unboxing มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางเมซงยังพร้อมนำเสนอประสบการณ์แชทใหม่ผ่านการร่วมมือกับ GameOn Technology ที่นำ AI มาช่วยให้เกิดบทสนทนาเสมือนจริง ให้ผู้ที่อยู่บ้านก็สามารถสำรวจคอลเล็กชั่นนี้ได้ในรูปแบบใหม่ และเพื่อสานต่อการสร้างประสบการณ์แบบ immersive เหล่าสไตล์ลิสต์จะสร้าง ad hoc playlist บน Spotify และเพลงเหล่านั้นจะถูกเล่นระหว่างอีเวนท์ นอกจากนี้ บนวินโดว์ทั้งหลายจะมีคอนเซ็ปต์และชื่อของผู้รังสรรค์ผลงานเหล่านั้นแปะไว้ พร้อมกับ QR code ที่จะพาคุณไปสู่ playlist ที่พวกเขาสร้างขึ้น เป็นการสร้างพื้นที่ส่งต่อแรงบันดาลใจทั้งจากการได้เห็น และการได้ยิน

Unboxing Valentino ตัดสิ่งที่เกิดความจำเป็นออกไป โดยคอลเล็กชั่นนี้ผลักดันคอมมูนิตี้หัวครีเอทีฟด้วยการ จัดวินโดว์พร้อมๆ กัน กลายเป็นบนสนทนาระดับสากลที่เกิดมาจากคำแค่คำเดียว Unboxing เป็นเสมือนคำแถลงการว่าความงามของแต่ละบุคคลเกิดขึ้นจากพลังแห่งความใส่ใจ ซึ่งถูกปลดปล่อยด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่แม่ยำและลึกซึ้ง และถูกส่งต่อจากบุคคลสู่บุคคล  โดยหลังจากหักลบไปแล้ว แก่นแท้จึงถูกเผยออกมา จากที่ตรงนี้ เกิดเป็นเส้นทางใหม่มากมายไม่รู้จบ

พาไปถอดรหัส ‘Valentino’ ในคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาล Autumn/Winter 2023 

พบกับโชว์ Valentino คอลเล็กชั่นประจำฤดูกาล Autumn/Winter 2023 ณ Paris Fashion Week 

คำนิยามที่ตรงไปตรงมา คือการจัดกลุ่มกฎเกณฑ์ ไม่ใช่ตัวกฎเกณฑ์โดยชื่อ ‘Black Tie’ ได้กล่าวถึงสุนทรียศาสตร์ของการผสมผสานระหว่างความร่วมสมัย กับสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยากับพังค์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ ‘Pierpaolo Piccioli’ มอง ‘black tie’ เพียงผิวเผิน เป็นดังภาพพจน์สำหรับคอลเล็กชั่นที่รังสรรค์ขึ้นมาจากไอเท็มในชีวิตประจำวัน การอนุมาน และหลักด้านวัฒนธรรมถูกสับเปลี่ยนที่กัน โดยสัญลักษณ์พลังความเป็นชายที่เป็นตัวแทนแห่งความดั้งเดิมและขีดจำกัด  แนวคิดที่เรามีต่อเนคไทกลายเป็นกรอบทฤษฎีสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ที่เล่นกับกฎเกณฑ์ ปลดแอกความหมายนั้น แนวคิดเกี่ยวกับเนคไทที่เย่อหยิ่งถูกท้าทาย ถูกแย้ง และถูกนิยามใหม่โดยสิ้นเชิง การตีความใหม่มาเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในคอลเล็กชั่นนี้ การกล่าวถึงความประทับใจ ทั้งการแมตช์ลุคเชิ้ตผ้าฝ้ายจับคู่กับเนคไทสีดำ สวมทับด้วยแจ๊กเก็ตขนาดใหญ่ การถือกระเป๋าที่เล่นสีสันทำให้คอลเล็กชั่นนี้ดูสมบูรณ์มายิ่งขึ้น โดยนำเสนอเอกลักษณ์สไตล์แบรนด์ Valentino ได้เป็นอย่างดี

“FOREVER VALENTINO” A PERSPECTIVE

เนื่องในโอกาสงานขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมแห่งชาติประจำปีหรือ Qatar Creates พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์ Qatar Museums และ Maison Valentino จะจัดแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญในชื่อ “Forever Valentino” เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Valentino Garavani และเปิดเผยมรดกแห่งความเป็นเลิศทางโอต์กูตูร์ ณ ศูนย์ศิลปะนวัตกรรมและเทคโนโลยี M7 ที่ตั้งอยู่ในเอ็มชีเร็บ ดาวน์ทาวน์ เมืองโดฮา โดยจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2022 จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2023 ร่วมตื่นตาตื่นใจกับการสำรวจสัญลักษณ์แห่งโอต์กูตูร์ของเมซงและการเดินทางผ่านกรุงโรมสถานที่ที่เป็นดั่งบ้าน จุดเริ่มต้นและตัวตนของ Valentino


“Forever Valentino” นับเป็นนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Valentino เคยจัดมาและยังเป็นนิทรรศการครั้งแรกที่จัดในตะวันออกกลาง งานนิทรรศการนี้ถือเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ของเมซงและเมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1959 ด้วยมุมมองรอบด้านเช่นเดียวกับนิทรรศการวันครบรอบ 90 ปีของ Valentino Garavani และการเปิดตัวคอลเล็กชันโอต์กูตูร์ประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 2022 ที่ผ่านมา ณ ใจกลางกรุงโรม เมืองอันเป็นนิรันดร์ “Forever Valentino” ถูกออกแบบให้มีลักษณะราวกับกรุงโรม โดยจะนำผู้เข้าชมเดินทางผ่านอาคาร จัตุรัสและลานขนาดใหญ่ในกรุงโรมสู่พื้นที่อันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของเมซง อย่างอเตลิเยร์และห้องลองชุดในสำนักงานใหญ่ของเมซงที่จัตุรัส Piazza Mignanelli

นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของเมืองที่เต็มไปด้วยตำนานการสร้างสรรค์ของ Valentino รวมถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลงานอันตระการตาของ Valentino Garavani และ Pierpaolo Piccioli ผ่านการเปรียบเทียบกันระหว่างความแตกต่างของบรรยากาศและเรื่องเล่า นิทรรศการในครั้งนี้ได้รวบรวมอารมณ์ความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบคาปริชโชแห่งศตวรรษที่ 18 ที่ผสมผสานมุมมองที่แตกต่างกันของเมืองและสถาปัตยกรรมโดยจินตนาการใหม่ให้เป็นสถานที่อันน่าค้นหา โดยเหล่าอัจฉริยะของบาโรกอย่าง Giovanni Antonio Canaletto และ Giovanni Battista Piranesi เชื่อว่าศิลปะแบบคาปริชโชได้เปลี่ยนทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ของอิตาลีสู่ภาพฝันอันน่าหลงใหลที่สร้างสัญลักษณ์และตำนานมากมายให้มีอิทธิพลทั่วประเทศอิตาลีและประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงในโลกของแฟชั่นเองที่เต็มไปด้วย คาปริชโช หรือความไม่แน่นอนทั้งในเรื่องของจินตนาการ แรงบันดาลใจ วัสดุ ศิลปะ ดนตรีและวัฒนธรรมที่แปรเปลี่ยนพัฒนามาเป็นเสื้อผ้า


เสื้อผ้าทั้งแบบโอต์กูตูร์และ pret-à-porter กว่า 200 ชุดจะถูกจัดแสดงบนหุ่นที่ออกแบบโดย La Rosa พร้อมด้วยเครื่องประดับทั้งหมดในบรรยากาศอันชวนหลงใหล “Forever – Valentino” ถูกถักทอด้วยลวดลายอันวิจิตรและภาพวาดอันงดงามของกรุงโรมที่ถูกจารึกไว้ซึ่งในความทรงจำ เมืองแห่งจุดเริ่มต้นอันล้ำค่ำกว่าหกทศวรรษของเมซง พบกับชุดที่ถูกออกแบบให้เหล่าศิลปินอย่าง Elizabeth Taylor, Jacqueline Kennedy และ Zendaya พร้อมด้วยผลงานอันน่าทึ่งอีกมากมายที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของ Valentino นิทรรศการนี้ยังได้รวบรวมผลงานคอลเล็กชันส่วนตัวของชีคเคาะห์ โมซา บินท์ นัสเซอร์แห่งกาตาร์ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของ Valentino อีกด้วย สัญลักษณ์ของ Valentino และหลักการของโอต์กูตูร์ได้แต่งเติมทุกพื้นที่ของการสร้างกรุงโรมในจินตนาการครั้งใหม่นี้ ผลงานการออกแบบเสื้อผ้าตลอดช่วงอายุของ Maison Valentino นั้นทั้งสะท้อนและขัดแย้งกับสภาพแวดล้อม เสื้อผ้าเหล่านี้ทั้งน่าดึงดูดและโดดเด่นไปพร้อมๆ กันเช่นเดียวกันกับกรุงโรม แทนที่จะจัดแสดงภายในกำแพงของพิพิธภัณฑ์ Valentino กลับเลือกที่จะสร้างสรรค์เรื่องราวของตนเองขึ้นมาใหม่และทำให้เกิดบริบทของตนเอง โดยการนำร่องรอยของสถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของจินตนาการร่วมเดินทางไปกับผลงานของเมซง ทำให้ผลงานเหล่านี้ถูกเสื้อผ้าทั้งแบบโอต์กูตูร์และ pret-à-porter กว่า 200 ชุดจะถูกจัดแสดงบนหุ่นที่ออกแบบโดย La Rosa พร้อมด้วยเครื่องประดับทั้งหมดในบรรยากาศอันชวนหลงใหล


นิทรรศการ “Forever – Valentino” ถูกถักทอด้วยลวดลายอันวิจิตรและภาพวาดอันงดงามของกรุงโรมที่ถูกจารึกไว้ซึ่งในความทรงจำ เมืองแห่งจุดเริ่มต้นอันล้ำค่ำกว่าหกทศวรรษของเมซง พบกับชุดที่ถูกออกแบบให้เหล่าศิลปินค้นพบภายในสถานที่ที่อันเป็นบ้านเกิดที่คุ้นเคย ชิ้นงานที่ถูกคัดสรรโดยสัญชาตญาณ อารมณ์ และความรู้สึกที่เพลิดเพลินไปกับสีสัน ความสง่างามของสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ความรักที่ถูกถักทออยู่ในทุกๆ รอยเย็บ แว่วเสียงสะท้อนที่เป็นเป็น raison d’etre (จุดเริ่มต้น) ของโอต์กูตูร์ เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งแฟชั่น เป็นวัฒนธรรมและเป็นส่วนหนึ่งของกรุงโรม และการสร้างสรรค์ของ Valentino นั้นได้หยั่งรากและปรากฏอยู่บนมรดกที่สืบผ่านต่อกันมาของเมซงและสถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้น มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสถานที่บ้านเกิดอย่างที่ Valentino สร้างขึ้นร่วมกับกรุงโรม การปลูกฝังความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดกับเมืองอันเป็นนิรันดร์ที่ซึ่ง Valentino Garavani ได้ก่อตั้งเมซงขึ้นในปี 1959 และเปิดสำนักงานใหญ่ในใจกลางเมืองอันเป็นประวัติศาสตร์บน Dolce vita ในขณะที่

Pierpaolo Piccioli ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Valentino Garavani ได้ลดบทบาทของกรุงโรมในฐานะเมืองแห่งสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง หากแต่นำเสนอด้วยความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งหล่อหลอมความคิดและเสียงที่แตกต่างของชุมชนโดยแปรเปลี่ยนเป็นโครงสร้างอันซับซ้อนในมุมมองที่กว้างใหญ่ขึ้นและความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นของผู้คน
“Forever Valentino” จะนำเสนองานป๊อปอัพที่มีบรรยากาศเสมือนอยู่ในเมืองแห่งความฝันอย่างกรุงโรม ชวนให้น่าหลงไหลและน่าสนใจมากขึ้นเมื่อถูกจัดแสดงที่เมืองโดฮา เมืองที่อดีตและอนาคตมาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว
“Forever Valentino” จะถูกดูแลและจัดการโดย Massimiliano Gioni ผู้กำกับศิลป์ของ พิพิธภัณฑ์ New Museum New York รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและนักวิจารณ์ด้านแฟชั่นอย่าง Alexander Fury ซึ่งทั้งคู่จะทำงานใกล้ชิดกับผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Valentino อย่าง Pierpaolo Piccioli นี่จึงเป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่ควรค่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง หากมีใครได้มีโอกาสไปเยือนโดอา ในช่วงเวลาดังกล่าว

ชมโชว์ Valentino The Beginning, Haute Couture Fall/Winter 2022-23 สดส่งตรงจากกรุงโรมได้ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคมนี้เวลาตีหนึ่งตามเวลาประเทศไทย

รับชมโชว์ Valentino The Beginning, Haute Couture Fall/Winter 2022-23 ที่จะจัดขึ้น ณ จัตุรัส Piazza di Spagna กรุงโรม และออกแแบบโดย Pierpaolo Piccioli ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 นี้ เวลา 01:00 น.(ตีหนึ่ง) ตามเวลาประเทศไทย รับชมได้ตามที่ลิ้งค์นี้เลยครับ!

rhunrun เรียบเรียง

Valentino After Club Fall 2022 คอลเล็กชั่นล่าสุดจาก Valentino ที่ส่งเสริมให้ผู้ชายตระหนักรู้ในตนเองและก้าวข้ามกฏเกณฑ์เดิมๆของโลกแฟชั่น

ผมคิดอยู่เสมอว่างานของผมคือการถ่ายภาพสิ่งที่ทุกคนรู้จักดีอยู่แล้วในแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ผมสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งและรูปทรงที่ไม่เหมือนเดิม ดังนั้นคุณจะเห็นภาพเหล่านั้นจากมุมมองของผม” Pierpaolo Piccioli ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเมซงกล่าว

Piccioli กำลังพูดถึงคอลเล็กชัน Valentino Promenade Fall 2022 สำหรับเสื้อผ้าผู้หญิงและคอลเล็กชัน Valentino After Club Fall 2022สำหรับผู้ชายและแคมเปญที่มาพร้อมกันในชื่อ “Portrait of a Generation” – ผลงานที่ถ่ายทอดและนำเสนอสัญลักษณ์จากมรดกของ Valentino ทั้งลายทางและลายม้าลาย เสื้อคลุมและเบลาส์ ผลงานลายพิมพ์และงานปักอันประณีตบรรจง

Piccioli กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ Mr Valentino เริ่มต้นการออกแบบ ขณะนั้นยังมีกฏเกณฑ์มากมายในเรื่องการแต่งตัว แต่ในปัจจุบันนี้แฟชั่นเป็นเรื่องของการตระหนักรู้ในตนเอง คอลเล็กชันนี้คือการพา Valentino เข้าสู่โลกใหม่ด้วยการสร้างความหมายใหม่ให้แก่หลักเกณฑ์และค่านิยม”

เสื้อโค้ทผ้าไหมลายมังกรสำหรับฤดูร้อนที่มีความยาวถึงพื้นและสามารถสวมใส่เป็นเดรสได้ “เราไม่จำเป็นต้องนิยามมัน เราสามารถเลือกสวมใส่แบบไหนก็ได้ที่เราต้องการ” Piccioli กล่าว เสื้อครอปสเวตเตอร์ลายทางจับคู่กับเสื้อแจ็คเก็ตที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน กระโปรงมินิสเกิร์ตและรองเท้าสนีคเกอร์ Valentino Garavani เสื้อคลุมที่ดูมินิมอลแต่ประดับตกแต่งด้วยดีเทลลายปักที่ละเมียดละไมถูกสวมใส่คู่กับเสื้อสเวตเตอร์ที่เรียบง่าย กางเกงหนังและรองเท้าโลฟเฟอร์ Valentino Garavani VLogo Chain

เพื่อเก็บภาพคอลเล็กชันนี้ ภาพ portraits ถูกถ่ายบนถนนที่ Arnold Circus ณ เมืองลอนดอนฝั่งตะวันออก เฟอร์นิเจอร์ถูกนำมาใช้ในฉากเติมกลิ่นอายของงาน stooping หรือการนำเฟอร์นิเจอร์วินเทจมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่และตั้งทิ้งไว้ในเมืองเพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมาสามารถเลือกนำกลับไปใช้ได้ การแคสต์นายแบบและนางแบบเป็นเรื่องของทัศนคติ “เราไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาเหมือนโมเดลหากแต่เพียงเป็นมนุษย์” Piccioli กล่าว “เราต้องการที่จะแต่งตัวให้เขาแบบเดียวกับที่พวกเขาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน มันเป็นเรื่องของความเป็นตัวของตัวเองและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนผู้อื่น ซึ่งเชื่อมโยงกับงานของผมในกูตูร์ มันเป็นเรื่องของความหลากหลายและความกว้างขวางเข้าถึงได้ เป็นเรื่องของชุมชน” Piccioli กล่าว

ณ ใจกลางของ Arnold Circus เป็นสวนที่มีลานสำหรับแสดงดนตรีอยู่ตรงกลาง สวนนี้ได้รับการดูแลโดยอาสาสมัครจากชุมชน Valentino ได้บริจาคเงินให้กับ Friends of Arnold Circus สำหรับการถ่ายภาพ “ผมชอบที่ชุมชนคอยช่วยกันดูแลสถานที่แห่งนี้ซึ่งเป็นแนวคิดของเมืองที่ผมชอบ คุณสามารถแบ่งปันบางสิ่งและดูแลบางอย่างร่วมกัน” Piccioli กล่าว

พื้นที่แห่งนี้ทำให้ Piccioli นึกถึงบ้านเกิดของเขา “โรมเป็นเมืองที่มีหลายเลเยอร์ การทับซ้อนกันของประวัติศาสตร์ ยุคสมัย ผู้คนและวัฒนธรรม มันคือความกลมกลืนกันของสิ่งที่แตกต่าง ความงามอย่างไร้ที่ติที่มาจากทุกส่วนถูกผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นผลงานของ Piccioli ไม่ว่าจะเป็นมรดกอันเป็นรากฐาน คนรุ่นใหม่และทัศนคติมุมมองของเขาเอง “ผมชอบที่ผลงานออกแบบเหล่านี้ให้ความรู้สึกถึงอิสรภาพอย่างไม่มีกฏเกณฑ์และก้าวเข้าสู่บทต่อไปได้อย่างอิสระเสรี” เขากล่าว

Charlie Porter

rhunrun เรียบเรียง

Valentino Garavani Roman Stud Turtle รองเท้าแตะคู่ล่าสุดจาก Valentino กับการตีความหมายใหม่ของหมุด Stud เอกลักษณ์ของแบรนด์และเล่าเรื่องผ่านเทคโนโลยีเสมือน 

Maison Valentino เปิดตัวรองเท้าแตะ Valentino Garavani Roman Stud Turtle ที่ถูกเผยให้เห็นครั้งแรกในแฟชั่นโชว์คอลเล็กชัน Rendez-Vous Spring/Summer 2022

รองเท้าในโมเดลใหม่ที่สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิงนี้ ถือเป็นตัวแทนของวิวัฒนาการอันล้ำหน้าแห่งตระกูล Roman Stud ได้เป็นอย่างดีด้วยการตีความหมายใหม่ของหมุด Stud อันเป็นสัญลักษณ์โดยผลิตจาก EVA ยางที่มีเนื้อนุ่มและน้ำหนักเบาเพื่อรองรับรูปเท้าทุกสัดส่วนทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบายเรียกได้ว่าเป็นรองเท้าที่ทั้งมอบความเบาสบายและมีสไตล์ที่โดดเด่น

การเรียงกันอย่างต่อเนื่องของหมุดสร้างพื้นผิวสามมิติที่ดูสบายๆ ในสไตล์ Urban แบบวิถีคนเมืองควบคู่กับความ Casual และยังบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นเมซง รองเท้า Valentino Garavani Roman Stud Turtle มีทั้งหมด 4 สีด้วยกัน

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวในเดือนเมษายนปี 2022 นี้ เมซงได้ร่วมมือกับ WANNA – ผู้นำด้านการพัฒนาดิจิทัลและเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงสำหรับสินค้า Luxury และอุตสาหกรรมแฟชั่น – เพื่อสร้างเทคโนโลยีเสมือนจริงจำลองภาพรองเท้าแบบสามมิติให้ผู้ใช้ได้ลองสวมใส่ Valentino Garavani Roman Stud Turtle ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของ Valentino ถือเป็นครั้งแรกทางเทคโนโลยีที่ผู้ใช้จะได้ลองสวมใส่รองเท้าแตะผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง

การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างแฟชั่นและเทคโนโลยี รองเท้า Valentino Garavani Roman Stud Turtle นับเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ใหม่แห่งเมซง

rhunrun เรียบเรียง

rhunrun เรียบเรียง

อีกหนึ่งก้าวเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยื่น Valentino เปิดตัวโครงการ Open for a Change นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ (Bio-based) มาใช้ในการออกแบบ

Maison Valentino เปิดตัวโครงการ Open for a Change โดยนำรองเท้าสนีกเกอร์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมซงทั้งรุ่น Open และ Rockstud Untitled มาออกแบบและนำเสนอในรูปแบบใหม่ด้วยแนวคิดและความตั้งใจในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งการเสาะหานวัตกรรมใหม่ๆและคัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิต อย่างเช่นการนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ (Bio-based) มาใช้ในการออกแบบรองเท้า Open และ Rockstud Untitled เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเดินเข้าสู่ความยั่งยื่นอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันก็ยังคงซึ่งความสวยงามและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงไว้

รองเท้าสนีกเกอร์หลากสีสันในครั้งนี้ถูกผลิตโดยใช้วัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักทั้งการนำเส้นใยวิสโคสและโพลียูรีเทนที่ผลิตจากข้าวโพดมาใช้แทนหนังส่วนบนของรองเท้าทั้งสองรุ่นและด้านข้างของรุ่น Open ส่วนเชือกผูกรองเท้าก็ถูกผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลทั้งหมด ในขณะที่ Stud หมุดอันเป็นเอกลักษณ์ของ Valentino ในรุ่น Rockstud Untitled ก็ผลิตจากไนลอนรีไซเคิลเช่นเดียวกัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนี้ยังสะท้อนไปถึงบรรจุภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากผ้าฝ้ายรีไซเคิลและกระดาษที่มาจากป่าที่มีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

Valentino Garavani Open for a Change นั้นโดดเด่นด้วยความปราถนาในการเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับการรักษางานหัตถศิลป์อันมีมาอย่างยาวนานของเมซง ภารกิจหลักคือการให้ความสำคัญกับปัจจุบัน ณ ตอนนี้เพื่อตอบคำถามปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันผ่านชิ้นงานอันเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลาผ่านยุคสมัยและเทรนด์ ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการไตร่ตรองอย่างสงบผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ มุ่งไปยังอนาคตโดยปฏิเสธซึ่งทางลัด จิตสำนึกจะทำหน้าที่เป็นเข็มทิศตลอดเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงในโครงการ Open for a Change ของ Valentino ไม่เพียงแค่เมซง แต่ยังรวมไปถึงชุมชนด้วย

รองเท้าสนีกเกอร์ทั้งสองได้เปิดตัวในช่วง Paris Fashion Week ตั้งแต่วันที่ 1-5 ตุลาคม โดยถูกจัดวางชั่วคราวที่ร้าน Rombaut ที่ตั้งอยู่ใกล้กับหอ Eiffel ร้าน Rombaut นี้มีชื่อเสียงในการสนับสนุนโครงการความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับค่านิยมในปัจจุบัน Valentino Garavani Open for a Change มีวางจำหน่ายแล้วในร้าน Valentino ทั่วโลกและผ่าน e-commerce  ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่อย่างเป็นทางการ ไม่เปลี่ยนผันตามฤดูกาลและสอดคล้องกับความนิยมของทุกสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยวิสัยทัศน์ สุนทรียภาพ และความงามแบบคลาสสิกของ Valentino

เรียบเรียง rhunrun