Posts

‘Klear’ บนถนนดนตรี 20 ปี ความคิดที่เปลี่ยนไปและการหาความสุขในแบบผู้ใหญ่

Photographer: Ponpisut Pejaroen

Author: Neeraj Trirongaubon

ในยุคที่ศิลปินสามารถผลิตและเผยแพร่ผลงานได้เองโดยไม่ต้องง้อสังกัด ทำให้ในแต่ละปีมีเพลงใหม่ๆ ออกมาท่วมท้นตลาด นั่นแปรผันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมจะรับสินค้าใหม่ๆ และเปลี่ยนความชอบทันทีเมื่อเจอกับตัวแปรอื่นที่สดใหม่กว่า การเป็นศิลปินจึงทำได้ง่าย แต่การยืนระยะในวงการนั้นทำได้ยากกว่ามาก จินตนาการที่สร้างฝันและดับไฟคนรุ่นใหม่มานักต่อนักแล้ว ถ้าเปรียบวงการเพลงเป็นกีฬาสักชนิดหนึ่ง 4 เพื่อนสนิทวง ‘Klear‘ คงเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ทำความเร็วได้อย่างสม่ำเสมอ และอึดพอที่จะวิ่งเข้าสู่ปีที่ 20 ในอาชีพนักดนตรี จากการฟอร์มวงง่ายๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปัจจุบันพวกเขากำลังจะกลายเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ในวงการ อายุที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับมุมมองที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต และการตั้งคำถามต่อตัวเองสำหรับอาชีพศิลปินในอนาคต

เหมือนยังได้ยินเสียงแพทอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นในนามวง Klear ผลงานล่าสุดคือเพลงไหนนะ
ล่าสุดตอนนี้เป็นซิงเกิ้ลใหม่ชื่อว่า ‘ถามเพื่ออะไร’ จะเรียกว่าเป็น official single ในรอบเกือบ 3 ปีก็ได้ เพราะตั้งแต่มีโควิดก็หยุดกันไปเลย การทำงานครั้งนี้เป็นรอบที่เราไม่ได้คิดมากทำตามสัญชาตญาณไปค่อนข้างเยอะ เราอยู่ในวงการนี้มานานมากแล้ว เห็นการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง วงการเพลงก็มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ เราเองก็มีช่วงที่ไปทดลองหลายๆ อย่างมา แต่สุดท้ายเพลงนี้ก็กลับมาทำตามธรรมชาติของเรา เพราะจากการทดลองในหลายๆ ทาง เราลองแล้วรู้สึกว่าฝืนทั้งตัวเองและผู้ฟัง สุดท้ายก็ทำแบบที่เราเป็น แต่เติมสิ่งใหม่ๆ เข้ามา พอทำแล้วเรารู้สึกสบายใจ เป็นทางถนัดของวง

โอเค งั้นมาคุยถึงผลงานล่าสุดกัน ที่มาของเพลงนี้เป็นอย่างไร
เป็นเหตุการณ์ที่เราเคยเป็นทั้งฝ่ายโดนบอกเลิกและเป็นฝ่ายบอกเลิกเขา เวลาที่เราบอกเลิกใครสักคนก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดี แล้วพอฝ่ายที่บอกเลิกมาถาม คนที่กำลังจะทำใจได้อยู่แล้วก็รู้สึกว่าเป็นห่วงยังไงก็ทิ้งกันในที่สุด แล้วจะถามเพื่ออะไร นี่คือสิ่งแรกที่แพทมาคุยกับวง ว่าเรื่องประมาณนี้ดีไหม ทุกคนในวงก็โอเค เพราะเป็นเรื่องที่ใครก็คงเคยโดน

ความรู้สึกรักหรืออกหัก สำหรับการทำเพลงเมื่อ 5 ปีก่อนกับปัจจุบันเหมือนกันไหม
ไม่เหมือนเลย แทบจะเป็นคนละคนเลย โลกก็ด้วย เวลาไปเล่นดนตรีจะรู้เลยว่าเมื่อก่อนคนจะชอบความดราม่ามากกว่านี้ แต่ทุกวันนี้คนเจ็บแต่อยากมูฟออนให้เร็ว

20 ปีในฐานะศิลปิน สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้ในการเป็นศิลปินคืออะไร
เมื่อก่อนเราเล่นดนตรีเพราะชอบ แต่พอได้มาทำเป็นอาชีพจริงๆ ก็ได้รู้ว่าเพลงเปลี่ยนคนได้ ตอนที่เขารู้สึกแย่ เพลงของเราก็อยู่เป็นเพื่อนเขาได้ เลยเป็นที่มาของการที่เราเล่นเพลงเดิมได้เป็นพันครั้งโดยที่ไม่เบื่อ เพราะเรารู้ว่าเราเล่นเพื่ออะไร เพราะบางครั้งคนดูก็อาจจะได้ฟังเพลงเราเป็นครั้งแรก เลยต้องปรับมายด์เซ็ทตรงนี้ อีกอย่างเรารู้สึกว่าดนตรีตัดสินไม่ได้ มันคืองานศิลปะ ไม่มีผิดหรือถูก แล้วแต่ความชอบ

ค้นพบความสุขครั้งใหม่จากการเล่นดนตรีมาเป็บสิบๆ ปี
เหมือนเราได้เข้าใจความสุขในแต่ละช่วงเวลา ทำให้อยู่กับปัจจุบันได้มีความสุขมากขึ้นมากกว่า เพราะเมื่อก่อนชอบคิดถึงอนาคตแล้วละเลยกับความสุขตรงหน้า ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการรักตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ทำงานจนไม่สนใจสุขภาพตัวเองเลย เพราะสุดท้ายต่อให้ได้งานเยอะ คุณภาพอาจไม่ดีตามแรงที่ใส่ เพราะเรามีความเหนื่อยอยู่ในนั้น ได้เรียนรู้ว่า ก่อนที่เราจะบอกให้คนอื่นรักตัวเอง เราก็ต้องเต็มที่กับมันอย่างมีความสุขก่อน พอทำได้ก็กลายเป็นดีกับทุกสิ่ง

คิดว่าอะไรคือตัวชี้วัดของการเติบโตในครั้งนี้
เห็นข้อดีของความแก่ ตอนเป็นวัยรุ่นกราฟความสุขกับเศร้ามันจะขึ้นสุด-ลงสุด แต่ตอนนี้เราอยู่ตรงกลาง ถ้ารู้สึกสุขหรือเศร้า เราก็จะรีบยอมรับกับมันให้ได้ แล้วปรับให้มาอยู่ตรงกลาง

ในวันที่อายุ 50 จะยังทำเพลงอยู่ไหม
คิดว่าน่าจะทำ (หัวเราะ) เพราะตอนที่อายุ 30 ก็ไม่คิดว่าตอนนี้ที่อายุ 40 จะยังทำอยู่ ขึ้นอยู่กับร่างกายตอนนั้นด้วย