Posts

เหล่าคนดังสายเลือดเอเชีย เดินหน้าขึ้นแท่น Brand Ambassador ร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลก!

ช่วงหลังมานี้เราจะได้เห็น ศิลปิน, นักแสดง สายเลือดเอเชีย ได้มีก้าวเข้ามามีบทบาทในวงการแฟชั่นกันมากขึ้น พวกเขาไม่เพียงแต่จะมีฐานแฟนคลับที่หนาแน่น แต่คนดังที่มารับหน้าที่นี้ ยังสามารถสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์เหล่านั้นอีกด้วยครับ วันนี้เราได้นำ 7 คนดังสายเลือดเอเชียฝั่งผู้ชาย (บางส่วน) ที่ขึ้นแท่นเป็น Brand Ambassador แบรนด์หรู มาฝากเพื่อนๆ กันแล้วครับ จะมีใครกันบ้าง เราไปชมกันเลย

PRADA / Win – Metawin Opas-iamkajorn

หากจะกล่าวเริ่มต้น คนแรกที่เรานึกถึงในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นหนุ่มสุดฮอตคนนี้เลยครับ กับ ‘วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร‘ หนุ่มสายเลือดไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากแบรนด์ Prada ให้ขึ้นเป็น Global Brand Ambassador คนล่าสุด เราขอแสดงความยินดีกับหนุ่มวินอีกครั้ง และนับว่าเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทย ที่สามารถคว้าใจแบรนด์ระดับโลกไปครองได้สำเร็จครับ

BURBERRY / Bright – Vachirawit Chivaaree

ต่อกันด้วยอีกหนึ่งหนุ่มที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยครับ กับหนุ่ม ‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ ที่แบรนด์สุดคลาสสิกอย่าง Burberry ได้ชักชวนหนุ่มไบรท์ของเรา มาขึ้นแท่นเป็น Brand Ambassador เมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา เราต้องขอแสดงความยินดี กับความสำเร็จครั้งนี้ของนักแสดงไทย และหนุ่มไบรท์อีกครั้งครับ

DIOR / JIMIN

นับเป็นอีกหนึ่งคนดัง ที่ทำเอาช่วง Paris Fashion Week ที่ผ่านมา ดังกระหึ่มไปด้วยเสียงกรี้ดของแฟนๆ ที่มาเฝ้ารอการปรากฏตัวของเขาคนนี้ อย่างหนุ่ม ‘Jimin’ หนึ่งในสมาชิควง BTS ที่ฮอตจนแบรนด์สุดหรูอย่าง Dior ได้เชื้อเชิญขึ้นให้เป็น Global Brand Ambassador คนล่าสุดของแบรนด์ สไตล์อันโดดเด่นของหนุ่ม Jimin ก็เรียกได้ว่าเข้ากับแบรนด์สุดๆ ไปเลยครับ

GUCCI – KAI

ตามติดกันมาด้วย หนุ่มหล่ออย่าง ‘Kai’ หนึ่งในสมาชิควง EXO ก็เป็นอีกหนึ่งคนดัง ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น Global Brand Ambassador แห่งแบรนด์สุดหรูอย่าง Gucci เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่เข้ากับหนุ่ม Kai สุดๆ ครับ

LOUIS VUITTON / Jackson Wang

อีกหนึ่งหนุ่มสายเลือดเอเชียอย่าง ‘Jackson Wang’ หรือที่แฟนๆ พูดกันติดปากว่า ‘พี่แจ็คเขยไทย’ เรียกได้ว่าเนื้อหอมจนแบรนด์ยักใหญ่ Louis Vuitton ได้ชักชวนพี่แจ็คมาอยู่ในครอบครัวของแบรนด์ และแต่งตั้งขึ้นเป็น House Ambassador คนล่าสุด หลังจากที่พี่แจ็คได้รับเชิญไปร่วมชมคอลเล็กชั่นสุภาพบุรุษ ประจำฤดูกาล Fall/Winter 2023Paris Fashion Week ที่ผ่านมา

VALENTINO / SUGA

และคนนี้ก็ฮอตไม่แพ้ใครครับ! สำหรับหนุ่ม ‘Suga’ แห่งวง BTS ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น Brand Ambassador คนล่าสุดแห่งแบรนด์ Valentino ไม่เพียงเท่านั้น หนุ่มหล่อคนนี้ยังร่วมถ่ายแฟชั่นแคมเปญสุดพิเศษที่มีชื่อว่า ‘Maison Valentino Essentials’ อีกด้วย

GIVENCHY / TAEYANG

หนุ่ม ‘Taeyang’ หนึ่งในสมาชิกวง BIGBANG ก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง Givenchy ประกาศขึ้นแท่นเป็นแอมบาสเดอร์ระดับโลก อีกทั้งยังถือเป็นนักร้องชายชาวเกาหลีใต้คนแรก ที่ได้รับตำแหน่งนี้อีกด้วยครับ!

Smooth Operator

ใครๆ ก็ต้องมองตามเวลาที่ไคขยับตัวไปไหนต่อไหน การปรากฏตัวของเขาทำให้พวกเราเชื่อว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นได้ไม่ยาก เสียงฮัมเพลงของเขาทำให้เรารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง และเมื่อจังหวะกลองเร่งเร้าให้เราต้องลุกขึ้นปรบมือให้เขา เรียกร้องหาการแสดงเพิ่มขึ้นอีก ไอดอลอายุ 28 ปีผู้นี้ก็พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้มีเพียงความปราดเปรียวด้านร่างกายเท่านั้น แต่เขายังเป็นศิลปินเดี่ยวผู้ครอบครองพรสวรรค์ในการแสดงอารมณ์ได้อย่างหลากหลายตั้งแต่อ่อนโยนไปจนถึงแข็งกร้าว เชื่องช้าไปจนถึงว่องไว ร้อนแรงจนถึงเย็นชา เปลี่ยนแปลงได้จากเปลวไฟไปจนถึงน้ำแข็งอันเย็นเยือกได้อย่างลื่นไหล

ก่อนจะเริ่มการสัมภาษณ์ คุณเพิ่งฟังเพลงอะไรมาเหรอ

“เพลงล่าสุดที่ผมฟังเป็นเพลงจากอัลบั้มของผมเองนั่นแหละ (หัวเราะ) นอกจากเพลงพวกนั้น เพลงสุดท้ายที่ผมฟังก็คือเพลง Addicted ของ Jon Vinyl น่ะครับ”

คุณเป็นที่รู้จักจากความสามารถในการเต้นบนเวที คุณคิดอะไรอยู่เวลาคุณเต้น คุณต้องทำใจอย่างไรก่อนขึ้นเวทีเพื่อให้ได้อารมณ์ หรือคุณแค่ขึ้นเวทีแล้วแสดงได้เลย

“สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวผมเลยก็คือ ‘ผมมีความสุข’ โดยเฉพาะเวลาที่ผมขึ้นไปเต้นบนเวที ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่สนุกที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด สิ่งถัดไปก็คือ ผมใส่ใจกับความรู้สึกของผมในวันนั้น ผมจะเต้นในแบบที่เข้ากับอารมณ์หรือหัวข้อในแต่ละการแสดง แต่การเต้นของผมก็เกี่ยวข้องกับอารมณ์ของผมในวันนั้นเช่นเดียวกัน ที่คอนเสิร์ต ผมพยายามสบตาคนดู และมองให้ออกว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเขาดูมีความสุข ผมก็จะแสดงแบบเท่ๆ ให้พวกเขาดูคอนเสิร์ตของผมก็คือการแสดงอย่างหนึ่งนั่นแหละ แต่ผมมักจะคิดเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากการแสดง และปล่อยให้สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมีความสุขได้ ผมมักจะหัวเราะเวลาผมประหม่า ดังนั้น ก่อนขึ้นเวที ผมจะหัวเราะ นั่นเป็นสิ่งที่ผมทำก่อนขึ้นเวทีจริงๆ น่ะ (หัวเราะ) นั่นเป็นสิ่งที่ผมทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกตื่นเต้น และสนุกไปกับการแสดงของตัวเองครับ”

คุณเป็นคนประเภทวางแผนทุกอย่างในชีวิตหรือด้นสดกันแน่ ปรัชญาการใช้ชีวิตของคุณคืออะไร

“หลังๆ นี่ผมดูเหมือนจะด้นสดไปตามกระแสชีวิตนะครับ แต่ตอนทำงาน ทุกอย่างต้องได้รับการวางแผนไว้แล้ว ผมคิดว่าผมมีความรู้สึกกับคำว่า ‘แค่ใช้ชีวิตไป’ อย่างมากเลยนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าให้ ‘แค่ใช้ชีวิตไป’ แบบซังกะตายนะครับ เมื่อใดก็ตามที่ผมมีเรื่องต้องกังวลใจ หรือต้องคิดอะไรสักอย่าง พี่สาวผมจะบอกให้ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดสินใจ นั่นช่วยผมได้เยอะเลยครับ ผมพยายามมีชีวิตแบบที่มีความสุขกับสิ่งที่ผมพอจะทำได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข และปลอบประโลมใจของผมได้น่ะครับ”

คุณรู้ตัวไหมว่าคุณมีอะไรพิเศษในตัวเอง ทั้งเสน่ห์ และความสามารถ

“ผมคิดว่าผมเป็นคนสมาธิดีนะครับ ไม่ว่าจะอยู่ในเวลาไหน หรือสถานการณ์ไหน มันเป็นจุดแข็งของผมที่ผมสามารถมีความสุขกับทุกสิ่งที่ผมลงมือทำได้ อย่างเช่นการเต้น เพราะผมสมาธิดีมาก ผมเลยสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่นเวลาเรียนเต้นท่าเดียวกันน่ะครับ”

แฟนๆ แยกคุณออกจากเมมเบอร์คนอื่นได้อย่างรวดเร็ว เพราะคุณมักจะสวมสูทโดดเด่นโดยไม่ใส่เสื้อตัวใน หรือใส่แค่เสื้อครอปเท่านั้น สไตล์ส่วนตัวของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

“มันจะมีเวลาที่ผมอยากจะแต่งตัวเรียบร้อย หรือไม่ก็อยากจะแต่งตัวแบบสตรีทไปเลย และมันก็มีช่วงเวลาที่ผมสนใจเทรนด์แฟชั่นในปีนั้นๆ หรือสนใจแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งอยู่ ผมอยากจะแต่งตัวแตกต่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์น่ะครับ ผมไม่ใส่เสื้อผ้าที่โดดเด่นเกินไป ผมคิดว่ามันมีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างเสื้อผ้าขึ้นเวทีกับเสื้อผ้าที่ใส่ในชีวิตประจำวันนะครับ ผมอาจจะใส่เสื้อครอปขึ้นเวที แต่คงจะยากที่จะแต่งตัวแบบนั้นในชีวิตประจำวันนะ”

คุณเดินทางบ่อยมากเลย เล่าเรื่องทริปที่คุณประทับใจให้ฟังหน่อย

“ได้ไปเมืองเซบูกับเพื่อนๆ อาจจะเป็นทริปที่น่าประทับใจที่สุดแล้วนะครับ ไปดำน้ำตื้น ความรู้สึกอิสระนั้นยังอยู่ในความทรงจำของผมอยู่เลย เวลาผมคุยกับเพื่อน เรายังคุยกันเรื่องทริปนี้อยู่เลย ผมอยากจะกลับไปอีกถ้ามีโอกาสนะครับ”

ชื่อเสียงทำให้คุณเปลี่ยนไปไหม ในทิศทางไหน

“เปลี่ยนแน่นอนอยู่แล้ว ด้านหนึ่งคือมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ชื่อเสียงและลักษณะนิสัยส่วนตัวนั้นคือคนละเรื่อง ผมรู้ว่า ‘คนดีๆ’ นั้นแตกต่างจาก ‘คนเก๋ๆ’ ที่ทุกคนชื่นชอบนะ ชื่อเสียงทำให้ผมหันมามองตัวเอง มันทำให้ผมทำงานหนักขึ้น และไม่หลงระเริงไปกับมันน่ะครับ”

วงการเคป็อปใหญ่ขึ้นมากทุกวันนี้ คุณคิดว่ามันจะไปจบที่ใด

“ผมคิดว่าอุตสาหกรรมเคป็อปมีโอกาสมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปนะครับ การมาถึงของอินเทอร์เน็ตทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนได้มากขึ้นผ่านวงการเคป็อป ผมคิดว่ามันจะมีโอกาสสำหรับผมและศิลปินคนอื่นที่จะได้เจอแฟนๆ รอบโลกมากขึ้นนะครับ”

คุณเป็นที่รู้จักในแบบบุคลิกสองขั้ว ทั้งนักแสดงผู้ดุดัน และคุณอาไคผู้อ่อนโยน เมื่อไหร่ที่ตัวตนของคุณบนเวทีสิ้นสุด และตัวคุณภาคอยู่บ้านเข้ามาแทนที่

“ไคในฐานะคุณอาปรากฏตัวเวลาผมเจอหลานๆ ของผมครับ จริงๆ แล้วผมเชิญพวกเขามาที่คอนเสิร์ต และเปิดเทปการแสดงของผมให้ดูตลอดนะครับ แต่พวกเขาก็ยังมองผมในฐานะคุณอามากกว่าคนดังอยู่ดี ผมเลยคิดว่ามันมีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างเวทีและบ้านนะครับ แต่ผมคิดว่าผมก็เป็นคุณอาคนเดิมต่อหน้าพวกเขานะ”

มันมีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างเวทีกับบ้านใช่ไหม

“ใช่ครับ ผมคิดว่าความชัดเจนเป็นสิ่งที่ดี และทำให้ผมโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น ผมสามารถสะสมพลังงานและเคลียร์สมองให้โล่งระหว่างใช้ชีวิตนอกเวทีได้ครับ”

ครอบครัวคุณช่วยคุณในแง่ไหนได้บ้าง

“พวกเขาให้ทั้งแรงบันดาลใจและความช่วยเหลือครับ เพราะว่าครอบครัวของผมทำให้ผมเป็นคนแบบทุกวันนี้ และทำให้ผมเลือกอาชีพนี้ครับ ครอบครัวของผมเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผมเลยนะครับ เวลาผมกังวลเรื่องอะไรก็ตาม ผมจะขอความเห็นจากแม่และพี่สาวเสมอ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเวลาผมอยู่กับครอบครัว ผมเลยไปอยู่ใกล้ๆ และหาโอกาสเจอพวกเขาบ่อยๆ ครับ”

คุณมีกิจกรรมอะไรที่ชอบทำนอกเหนือจากการทำงานบ้างไหม

“ไปเดินเล่นริมแม่น้ำฮันครับ ผมรู้สึกปลอดโปร่งทุกครั้งที่ได้ไปยืนชมวิวแถวนั้น ผมยังชอบต่อเลโก้ ล่าสุดผมกำลังเห่อปากกาทรีดี ใช้ยากมากเลย แต่สนุกดีครับ”

สำหรับคนที่ถูกนิยามว่า ‘เซ็กซี่’ ตลอดเวลาอย่างคุณ คุณคิดว่าใครหรืออะไรที่เซ็กซี่ในสายตาคุณ

“คนก็นิยามความเซ็กซี่แตกต่างกันไปนะครับ แต่ผมคิดว่าคนที่ทำงานหนักหรือคนที่มีความเห็นเป็นของตัวเองคือคนเซ็กซี่ครับ คนเหล่านั้นเป็นพวกที่มีสมองเซ็กซี่น่ะครับ อ้อ… คนที่ใช้ชีวิตแบบรักษาสุขภาพก็เป็นคนเซ็กซี่สำหรับผมเหมือนกันนะครับ”

Photographer: Sang-Hun Lee

Stylist: Danyl Geneciran

Author: Tin Dabbay

Translator: Pacharee Klinchoo

พาไปชม Gucci Gaok flagship สาขาล่าสุดของ Gucci ในย่าน Itaewon พร้อมแขกคนสำค้ญของแบรนด์ Kai แห่งวง EXO

แขกคนสำคัญกับร้านสาขาใหม่! Kai(@zkdlin) แห่งวง EXO มาร่วมงานเปิด flagship สาขาล่าสุดของ Gucci ในชื่อ Gucci Gaok

Kai แห่งวง EXO

ซึ่งนับเป็นสาขาที่สองในกรุงโซลบนย่านที่เต็มไปด้วยแสงสีอย่าง Itaewon ครับ

โดยคอนเซ็ปท์อบอุ่นและบรรยากาศที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายเมื่อมาเยือนตามชื่อ ‘goak’ ที่แปลว่าบ้านในภาษาเกาหลีครับ และยังได้ศิลปินเกาหลีคนเก่ง Seungmo Park มาออกแบบ façade สวยๆหน้าตึกให้อีกด้วยครับ

ถือว่าน่าสนใจและชวนให้อยากไปชอปปิ้งที่สาขานี้ให้ได้ซักครั้งจริงๆครับ! ไปชมบรรยากาศและแขกคนสำคัญของแบรนด์กันได้เลยครับ

Gucci เปิดตัวโปรเจ็คใหม่ No Space, Just A Place เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมและเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยงานศิลปะร่วมสมัยของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

เพื่อนำประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนของพื้นที่แสดงงานศิลปะทางเลือกในกรุงโซลและความตั้งใจสะท้อนภาพลักษณ์ของGucciผ่านคอนเซ็ปต์ Eterotopia งานแสดงศิลปะในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นมาเพื่อนำเสนอนิยามใหม่ของคำว่า“other space” ที่หมายถึง“สถานที่สร้างอนาคตที่แตกต่างที่น่าถวิลหา ทางเลือกใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งรอบตัว”สิ่งนี้จะกลายเป็นรากฐานมุมมองใหม่ให้กับ“การอยู่ร่วมกัน” ของเราอย่างไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่ละโปรเจคที่จัดแสดงจะเชื่อมโยงกับธีมภายใต้ไอเดียพื้นที่ทางเลือกนี้เหมือนเป็นยูโทเปียดินแดนแห่งจินตนาการ ที่ที่เรากำหนดเรื่องราวขึ้นมาใหม่ อาศัยอยู่บนความเข้าใจซึ่งกันและกัน เสาะหาอัตลักษณ์แต่ของกลุ่มคนที่เล็กกว่าและมีระบบการเมืองที่แปลกแตกต่างออกไป

นิทรรศการNo Space, Just A Placeอยู่ภายใต้การดูแลของMyriam Ben Salahภัณฑารักษ์ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในด้านสุนทรียะและวิสัยทัศน์ในการมองสิ่งต่างๆของเธอ การผลักดันด้านความคิดอันลึกซึ้งและจริงจังของ Alessandro Michele ด้านคุณค่าทางจริยธรรมและสุนทรียศาสตร์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาพเขียนผู้คนและเพศ ความเชื่อเรื่องภูมิทัศน์แห่งการเรียนรู้ การแสดงตัวตนผ่านงานศิลปะ และสภาวะมานุษยวิทยาอันไร้กาลเวลา มาเป็นธีมหลักของงาน อันสะท้อนให้เห็นภารกิจและความทะเยอทะยานที่พื้นที่งานแสดงศิลปะทางเลือกนี้พยายามนำเสนอ

Kai Exo Gucci Ambassador
IU Gucci Ambassador

พื้นที่แสดงศิลปะทางเลือกนี้เป็นสถานที่ underground ที่มีประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านค้า คลังสินค้า และสถานที่ประกอบการอื่นๆอีกมากมายที่โดนทิ้งร้างจากวัฒนธรรมกระแสหลัก พื้นที่เหล่านี้ต้องเผชิญหน้าแข่งขันกับพื้นที่“กล่องสีขาว” แกลลอรี่ทางการค้าที่ให้ความเป็นกลาง โดยต้องโปรโมทผลงานที่บ่อยครั้งเกี่ยวข้องกับการเมือง การทดลอง และการโต้เถียงทางศิลปะมากกว่าผลงานที่มีคุณค่าเชิงพาณิชย์

ดูโพสต์นี้บน Instagram

‘No Space, Just a Place. Eterotopia’ is a new exhibition sponsored by Gucci, curated by Myriam Ben Salah @myriambensalah and propelled by #Gucci Creative Director @alessandro_michele’s meditations on society: the ethical and aesthetic value of the relationships between genres and gender, the notion of learnscapes, the urgency of self-expression and an ageless anthropological manifesto are key themes to him, which are reflected in the mission and ambitions of these alternative spaces. Held at the @daelimmuseum in Seoul—a location part of the #GucciPlaces network—the exhibit will run until July 12, 2020. Take a virtual tour of the exhibition with a special 360 video available through link in bio. #AlessandroMichele #NoSpaceJustAPlace

โพสต์ที่แชร์โดย Gucci (@gucci) เมื่อ

งานแสดงศิลปะในครั้งนี้เลือกเชิญพื้นที่ศิลปะที่ดำเนินงานเป็นอิสระเช่น Audio Visual Pavilion, Boan 1942, D/P, Hapjungjigu, OF, Post Territory Ujeongguk, Space illi, Space One, Tastehouse, White Noise เข้าร่วมแสดงผลงานที่พิพิธภัณฑ์แทลิม(Daelim Museum) บนพื้นที่แสดงงานที่จัดไว้ให้ถึง3ชั้น แต่ละชั้นนำเสนอโครงการที่ผลิตผลงานโดยทีมงานของตนเองผ่านการพูดคุยกับผู้จัด รวมถึงผลงานของศิลปินเดี่ยวและอีกหลายท่านที่มาร่วมนำเสนอหรือให้ความช่วยเหลือ

Martine Syms นำเสนอโครงการที่ตั้งคำถามอย่างสนุกสนานแก้วาทกรรมเชิงบรรทัดฐานที่มีมุมมองแคบ ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมสมัยที่แปลกใหม่และสมบูรณ์แบบของGucciผ่านธีมเรื่องการพลัดถิ่น เทคโนโลยีชีวภาพ ความประหลาดพิลึก และการผสมแบบไฮบริด เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเล่าเรื่องและนิยายบอกเล่าเรื่องราวของ “ความแปลกที่แตกต่าง”

Martine Syms

Meriem Bennani นำเสนอParty on the Caps (2018 – 2019) งานแสดงผลงานติดตั้งวิดีโอที่ตามมาด้วยประชากรในจินตนาการของCAPS เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ผู้อพยพและบุคคลย้ายถิ่น “อย่างผิดกฎหมาย” ข้ามเขตแดนเข้ามาถูกกักตัวBennaniจินตนาการถึงโครงสร้างการย้ายถิ่นฐานในรูปแบบใหม่ (ทั้งทางร่างกายและจิตใจ) ที่เกิดขึ้นกับคนย้ายถิ่นในอนาคต สร้างชุมชนใหม่ที่มีจุดหมายปลายทางทางภูมิศาสตร์ มีสถานะของความเป็นพลเมือง อายุ และเพศให้เกิดขึ้น

Meriem Bennani

งานติดตั้ง What The Heart Wants ของ Cécile B. Evansแสดงให้เห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคลและเครื่องจักร ที่กลายมาเป็นตัวกำหนดสภาพของมนุษย์ในโลกสมัยใหม่ การเจรจาท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ว่าใครหรืออะไรเป็นส่วนประกอบของคนหนึ่งคน และระบบสร้างเงื่อนไขการเป็น “มนุษย์” อย่างไร

Cécile B. Evans

ผลงานการติดตั้ง Covers (QueerArch)ของKang Seung Leeพุ่งความสนใจไปที่คอลเลคชั่นผลงานของ QueerArchที่แสดงมุมมองทางเลือกชุมชนแปลกประหลาดและประวัติศาสตร์ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมา โดยยังคงให้ความเคารพเรื่องเล่าส่วนบุคคลที่จากหายไปจากประวัติศาสตร์กระแสหลัก 

Kang Seung Lee

ผลงานเหนือจริงIda, Ida, Ida!ของ Olivia Erlangerแปลงพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์มาเป็น laundromatสถานที่ที่เกือบจะไม่ใช่สถานที่ อุทิศเพื่อการรอและมองดูเวลาที่ผ่านไปLaundromatเป็นที่อยู่อาศัยของนิทานนางเงือก สะท้อนให้เห็นถึงการปรากฏตัวสิ่งมีชีวิตลูกผสมที่ไม่ระบุเพศ ทำให้เกิดคำถามมากมายเรื่องการเคลื่อนย้าย การผสม และรูปแบบทางเพศ

Olivia Erlanger

Gucci ดึงสองซุปเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย NI NI และ KAI STAR ร่วมถ่ายแคมเปญ Eyewear คอลเล็กชั่นล่าสุด Spring/Summer 2020

สำหรับแคมเปญโฆษณาแว่นตาคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ Gucci ได้กลับไปยังร้าน Amoeba Music Hollywood ในลอสแองเจลิสมาเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพื่อระลึกถึงภาพยนตร์วัยรุ่นอเมริกันยุค 80s ร้านเช่าแผ่นเสียงและวิดีโอ VHSครีเอทีฟไดเรคเตอร์ Alessandro Michele ได้หยิบยกสีสันของวัยหนุ่มสาวที่นัดรวมตัวกันภายใต้แสงสีของนีออนหลากสีสันมาแสดงเพื่อเน้นจิตวิญญาณความเป็นตนเอง

เรียงจากซ้ายไปขวาในภาพ  เริ่มจากแว่นกันแดดทรงตาแมว กรอบครึ่งทรง มาพร้อมกับลวดลายไม้ไผ่สีดำตามขอบคิ้วและขมับ  ทำให้สวยงามด้วยโลโก้ interlocking GG    และแว่นกนแดดทรงนักบิน เลนส์สีเขียว ขอบอะซิเตทลวดลายฮาวาน่า ปลายอะซิเตทสีงาช้าง ตกแต่งด้วยเกาะจมูกเขาสัตว์สีเขียว และโลโก้คำว่า Gucci บนขมับทำจากเหล็กสีทอง

ในแคมเปญใหม่นี้ ลูกค้าที่กำลังเดินหาซีดีเพลงเป็นคนเดินเรื่องในหลายแง่มุม รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความรักอิสรภาพ ความเป็นตัวตนอย่างภาคภูมิใจ เหมือนอย่างที่ Gucciพยายามผลักดันให้ทุกคนแสดงออกความเป็นตัวตนให้มากที่สุด

 Kai สวมใส่แว่นกันแดดทรงสี่เหลี่ยม เพิ่มสไตล์ด้วยเลนส์สีเทา ขอบและปลายทำจากอะซิเตทสีดำ ตกแต่งสวยงามด้วยโลโก้ตัวหนังสือ Gucci และเหล็กสีทองตรงขมับ

Ni Ni นักแสดงหญิงชื่อดังชาวจีนและแบรนด์แอมบาสเดอร์ กลับมาเป็นดาวเด่นให้กับแคมเปญโฆษณา Gucci Eyewear อีกครั้ง ส่วนKai นักร้อง นักแสดง และแด๊นซ์เซอร์ชาวเกาหลี สมาชิกวงบอยแบนด์ EXO เป็นการกลับมาร่วมงานกับ Gucciอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ฝ่ายชายสำหรับสินค้าแว่นตาพร้อมกับนางแบบนายแบบชื่อดังอีกหลายคน อาทิเช่น Delphi McNicol, Azu Nwogu และJana Jonckheere

Kai (ด้านขวา) สวมใส่แว่นกันแดดทรงนักบิน เลนส์สีเขียว ขอบอะซิเตทลายฮาวาน่าและปลายอะซิเตทสีงาช้าง เพิ่มความสวยด้วยแป้นเกาะจมูกทำจากเขาสัตว์สีเขียง และโลโก้ตัวหนังสือคำว่า Gucci ตรงส่วนขมับ; Jana Jonckheere (ด้านซ้าย)สวมใส่แว่นกันแดดรูปทรงตาแมว กรอบครึ่งเดียว ทำลวดลายไม้ไผ่ตามขอบคิ้วและบริเวณขมับ เพิ่มความสวยงามด้วยโลโก้สัญลักษณ์interlocking GG ตรงส่วนขมับ

Harmony Korine รับหน้าที่ถ่ายทำหนังและแคมเปญโฆษณา นำเสนอทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในสไตล์แคนดิท ทั้งแบบเดี่ยวและคู่ ในร้านเช่าแผ่นเสียงที่ล้อมไปด้วยกองแผ่นเสียง ชั้นวางวิดีโอ ซีดี เทป และภาพไวนิล เน้นการถ่ายระยะใกล้เพื่อเน้นแว่นตาให้โดดเด่น ทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดด

 Ni Ni สวมใส่แว่นกันแดดทรงสี่เหลี่ยมไม่มีกรอบ มาพร้อมเลนส์สีม่วงไวโอเลตไล่เฉดสี สร้างความแตกต่างด้วยขาเกาะกรอบทำจากเหล็กสีทอง ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ interlocking GG เคลือบสีฟ้า
Kai (ด้านซ้าย) ใส่แว่นตากรอบเหล็กโทนสีทอง ขอบด้านหน้าทำจากอะซิเตท ตกแต่งด้วยลาย Web สีแดงบอร์โดสลับเขียว และโลโก้คำว่า Gucciบนขมับ;Delphi McNicol (ด้านขวา) ใส่แว่นตาทรงตาแมวขอบครึ่งเดียว ทำให้สวยงามด้วยลวดลายไม้ไผ่สีขาว ติดสัญลักษณ์ interlocking GG และโทนสีทองโบราณเป็นบางส่วนบนขมับ

ในขณะที่ฉากด้านหลังแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาท่ามกลางความวุ่นวาย ด้วยกราฟฟิคแนววัฒนธรรมป๊อบ ที่นำพลังงานและความตื่นเน้นแบบย้อนยุคเข้ามาผสมผสาน หนังโฆษณาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการหวนระลึกถึงวันเก่าก่อน ตอนที่ร้านเช่าซีดีหรือวิดีโอท้องถิ่นยังเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงชุมชนเข้าด้วยกัน พล็อตเรื่องของหนังโฆษณาแสดงให้เห็นว่าลูกค้ามาพบปะกันในร้าน ลองแว่นตา ในขณะที่เดินเลือกเทปและซีดี

ดูโพสต์นี้บน Instagram

#Repost @gucci with @make_repost ・・・ A film by #HarmonyKorine, the #GucciEyewear campaign for Spring Summer 2020 stars actress #NiNi @captainmiao together with singer, actor and dancer #KAI @zkdlin inside the @amoebahollywood music store in Los Angeles. Going back to the 80s when the local record shop or video exchange would be a social nexus, the scenes unveil the new eyewear collection designed by @alessandro_michele. Discover more through link in bio. #AlessandroMichele #GucciSS20 Music: ‘Dance Hall Days’ Wang Chung (Darren Costin, Nick Feldman and Jack Hues) © Kobalt Music Publishing Limited o/b/o Spirit Services Holdings, S.à.r.l. (P) Courtesy of Chong Music By arrangement with Spirit Music Group

โพสต์ที่แชร์โดย @ zkdlin เมื่อ

ดูโพสต์นี้บน Instagram

🤓😎 #GucciEyewear

โพสต์ที่แชร์โดย NiNi (@captainmiao) เมื่อ

ครีเอทีฟไดเรคเตอร์Alessandro Michele

อาร์ทไดเรคเตอร์: Christopher Simmonds
กำกับและถ่ายภาพ: Harmony Korine

ออกแบบ: Jonathan Kaye ออกแบบทรงผม: Alex Brownsell
แต่งหน้า: Thomas de Kluyver and Gao Jianออกแบบ: Jonathan Kaye

ดูโพสต์นี้บน Instagram

*Souvenir d’une promenade*

โพสต์ที่แชร์โดย Alessandro Michele (@alessandro_michele) เมื่อ