Posts

Valentino เตรียมจัดโชว์ Haute Couture คอลเล็กชั่นล่าสุด Fall/Winter 2022-23 ที่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์กลางกรุงโรมอย่าง Piazza Mignanelli

Maison Valentino และ Roma Capitale มีความภูมิใจที่จะประกาศว่าคอลเล็กชัน ValentinoHaute Couture Fall/Winter 2022-23 ในฤดูกาลนี้จะจัดแสดงในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2022 ณ Piazza Mignanelli และ Trinità dei Monti ท่ามกลางหัวใจแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเมซงเพื่อแสดงความเคารพต่อมรดกรากฐานของ Valentino แต่งเติมผสมผสานเข้ากับความทันสมัย

ความงดงามและมุมมองในหลากหลายระดับอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของ กรุงโรม เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Pierpaolo Piccioli ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์มาโดยตลอด มหานครที่ต้อนรับทุกวัฒนธรรมในนามของความส่องสว่างเปล่งประกายและความเจริญก้าวหน้าของศาสนา วัฒนธรรมและความคิดที่แตกต่าง เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งเสรีภาพและการเปิดกว้าง

“โรมเป็นสถานที่ที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นทั้งชีวิต ผู้คน เรื่องราวของเรา และตัวตนของเราอยู่ที่นี่ เราเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้มากเท่ากับที่สถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโลกและ Valentino”

Pierpaolo Piccioli, Creative Director, Maison Valentino กล่าว

“ฉันอยากขอบคุณ Maison Valentino สำหรับการกลับมาที่โรมอีกครั้งด้วยงานแฟชั่นโชว์อันเป็นเอกลักษณ์เนื่องด้วยความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมและศิลปะ เมืองนี้จึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับ Maison de Couture แห่งอิตาลีซึ่งก่อตั้งขึ้นในกรุงโรมและเผยแพร่คุณค่าของอิตาลีไปทั่วโลก ด้วยงานที่ยิ่งใหญ่นี้ กรุงโรมกลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการแฟชั่นระดับนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง”

Roberto Gualtieri, Mayor of Rome กล่าว

การร่วมมือของ Maison Valentino และ Roma Capitale, the Assessorato ai Grandi Eventi, Sport, Turismo e Moda,จะสร้างอีเว้นท์ที่น่าจดจำในมหานครแห่งโรมและจะถูกนำเสนอให้ทั่วโลกได้เห็นทั้งการร่วมชมโชว์อย่างแท้จริงและผ่านทางช่องทางดิจิตัลของแบรนด์

rhunrun เรียบเรียง

Bottega Veneta นำเสนอ ‘Bottega for Bottegas’ เพื่อสานต่อประวัติศาสตร์ในด้านความคิดสร้างสรรค์ของประเทศอิตาลี

BOTTEGA VENETA เปิดตัว BOTTEGA เพื่อเหล่า BOTTEGAS หากแปลในสาระสำคัญนั้น ความหมายของ Bottega นั้นสะท้อนถึง ‘เวิร์คช็อปการรังสรรค์’

ที่อุดมไปด้วยความสร้างสรรค์มากมายที่ได้ประทับกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้บนวลี ‘Made in Italy’ Bottega Veneta มีความจำนงที่จะสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ของเหล่า bottega ในอิตาลี หนึ่งในฐานะของตัวแทน Bottegas ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือระดับโลก

Bottega Veneta ขอมอบพื้นที่ของทางแบรนด์อันเป็นที่จับตามองของผู้คนรอบโลก อาทิ พื้นที่โฆษณา เว็บไซต์หลัก จดหมายแจ้งข่าว รวมไปถึงหน้าดิสเพลย์ร้านเพื่อ 12 bottegas ที่ได้ถูกรับเลือกจากการคัดสรรค์ ได้แก่:

Amatruda, Campania

Cantina Bisson, Liguria

Enza Fasano, Puglia

Gay-Odin, Campania

Ginepraio Gin, Toscana

Krumiri Rossi, Piemonte

Pastificio Martelli, Toscana

Bottega Orsoni, Veneto

Riso Pozzi, Lombardia

Respighi Drums, Lombardia

Olio Vanini, Lombardia

Saponificio Varesino, Lombardia

“เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเปิดตัว Bottega for Bottegas นี้ไปพร้อมกับเหล่าช่างฝีมือระดับสูงทั้งหลายที่มีความรักนับถือในงานหัตถศิลป์และศิลปะความคิดสร้างสรรค์เฉกเช่นเดียวกับเรา เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้แบ่งปันพื้นที่สื่ออันเป็นที่จับตาโดยทั่วทั้งโลกให้แก่ Bottegas เหล่านี้ ที่ได้สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับวัฒนธรรมของอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ที่ธุรกิจเล็กๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งใหญ่นี้ การส่งต่อพื้นที่โฆษณา เว็บไซต์ จดหมายข่าว และหน้าดิสเพลย์ร้านของเรานั้นจึงนับเป็นเกียรติแก่ Bottega Veneta เป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าโปรเจ็กในครั้งนี้จะส่องแสงสปอร์ตไลท์จากทั่วโลกลงมาส่องยังความเป็นเลิศของเหล่า Bottegas นี้ให้จงได้”

กล่าวโดย Bartolomeo Rongone – CEO ของ Bottega Veneta.

ชมเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

เรียบเรียง rhunrun

Prada บริจาคหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์การแพทย์เพิ่มหลังการเสียชีวิตในอิตาลีสูงขึ้น

หลังจากได้มีการบริจาคอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์รวมถึงเงินทุนที่จำเป็นให้กับทางโรงพยาบาลในมิลาน(สามโรงพยาบาลหลักอย่าง Vittore Buzzi, Sacco และ San Raffaele)

ล่าสุดทาง Prada ได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่าจะมีการผลิตหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกมาเพื่อบริจาคให้ทางโรงพยาบาลในประเทศอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้ อิตาลีขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดในโลก ทางแบรนด์ได้มีความตั้งใจที่จะผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 80,000 ชุดและหน้ากากกว่า 110,000 ชิ้น จากโรงงานของทางแบรนด์ที่ Montone โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดภายใน 6 เมษายนและนำสบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่างๆในเขต Tascany และทั่วประเทศอิตาลีต่อไป

ถือเป็นอีกเรื่องราวดีๆที่แบรนด์หรูออกตัวอย่างเต็มที่ว่าจะผ่านปัญหาโรคร้ายนี้ไปพร้อมกับทุกคน

Milano Uomo Moda SS 2019 : Ermenegildo Zegna Couture XXX กับเทรนด์กางเกงจับสองจีบ ที่มีความพิเศษ

Milan Report : Ermenegildo Zegna Couture XXX 

แม้ไม่ได้เป็นโชว์แรก แต่ก็เป็นโชว์ที่ยิ่งใหญ่เหมือนเป็นโชว์เปิด Milano Uomo Moda S/S 2019 หรือมิลานแฟชั่นวีคคอลเลกชันสุภาพบุรุษนั่นเอง นอกจากจะพาเหล่าแฟชั่นนิสต้าและสื่อมวลชนออกไปนอกตัวเมืองมิลาน ที่มีอาคารมหึมาที่ออกแบบโดย Oscar Niemeyer (ออสการ์ นีเอไมเยร์)สถาปนิกชาวบราซิล ที่มีผลงานแนว Brutalism ที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่ง 

ตัวอาคารนี้เป็นสำนักงานใหญ่ของตระกูล Mondadori ด้านหน้ามีบึงน้ำเสมือนกระจกแผ่นยักษ์สะท้อนตัวอาคาร ซึ่งครีเอทีฟของแบรนด์ Zegna (เซ็นญ่า) คือ Alessandro Sartori เลือกให้ที่นี่เป็นที่เปิดตัว XXX ของ Zegna ซึ่งเป็น couture craft ที่พิเศษกว่ากูตูร์ ทั่วไป รังสรรค์กันตั้งแต่เส้นใยทอผ้า มาจนถึงซิลลูเอทของชุด 

โชว์นี้ใช้แสงธรรมชาติยามสามทุ่มของฤดูร้อนที่พระอาทิตย์อัศดงฉาบกระจกของสีชาของตัวอาคารให้กลายเป็นสีอำพันเหมือนทอง Weightlessness คือคำจำกัดความสั้นๆ ที่ซิลลูเอทของชุดจะดูหลวมแต่ไม่รุงรัง เสื้อคลุมแบบตัวหลวมแต่เข้าเอว parkas มีทั้งสั้นและยาว ทุกชิ้นดูเบาเหมือนจะลอยในอากาศได้ 

กางเกงจับสองจีบกลับมาแล้ว รวมทั้งแขนเสื้อแบบดับเบิล เน้นคอปกทรงแปลกตา ทั้งหมดนี้อยู่ในผ้าที่เบาแต่อยู่ตัว มีความพริ้ว ผ้าบางชิ้นทอจากเส้นใย Century Cashmere ผสมเส้นใยที่กันน้ำทำให้มีผิวสัมผัสพิเศษ บางชิ้นเป็นผ้าไหม Tussah silk ผลิตโดย Lanificio Zegna 

โทนสีของคอลเลกชันมีตั้งแต่สีเบจ มอคกา ฟ้าจาง น้ำเงินนาวี เหลืองทานตะวัน  ไปจนถึงสีแดงก่ำ เฉดสีสวยจับตา ดีไซน์ของรองเท้าก็มีลูกเล่นมากมายรวมทั้งโลโก้ XXX มีทั้งรองเท้าผ้าใบและรองเท้าแตะรัดส้น หนุ่มๆ ด้แต่งตัวกันสนุกแน่ในฤดูร้อนปีหน้า

แต่ที่แน่ๆ โชว์นี้ได้เซ็ตภาพลักษณ์หนุ่ม Zegna แบบหลากเชื้อชาติ ในรูปร่างแบบอวตารที่มีแขนขายาว มีความหล่อในแบบเฉพาะตน แต่มีบุคลิกที่เหมือนกันแบบหนุ่ม Zegna ที่ไม่นำพาว่าจะต้องหล่อแบบอุดมคติ

ต้องบอกว่า Ermenegildo Zegna Couture  ทำให้อีก 3 วันที่เหลือของ Milano Uomo Moda S/S 2019 รอดจากการถูกค่อนว่าโชว์เด็ดๆ หนีไปปารีส หรือไปรวมกับโชว์ของสุภาพสตรีเสียหมด เพราะแค่โชว์นี้ก็ทำให้มิลานไม่เสียหน้าจากการเป็นผู้นำแฟชั่นสุภาพบุรุษแล้ว 

เรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Fiat รถยนต์ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของประเทศอิตาลี

From the Roof  to the Road

ประเทศอิตาลีถือเป็นแหล่งกำเนิดยนตรกรรมให้กับเหล่าซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกหลากหลายยี่ห้อไม่แพ้ประเทศอันดับหนึ่งเรื่องยานยนต์อย่างเยอรมนี หนึ่งในแบรนด์ดังที่แปะสัญลักษณ์ธงชาติอิตาลีอันคุ้นตาคุ้นหูก็คือแบรนด์อย่าง Fiat ที่ออกมาทำการตลาดกับรถ “จ่ายกับข้าว” หรือกลุ่มผู้ใช้รถทั่วไปบนท้องถนน ฉีกแนวออกมาจากแบรนด์สายพันธุ์สปอร์ตรุ่นพี่อย่าง Ferrari

LONDON, ENGLAND - JANUARY 23: Lorenzo Quinn's Vroom Vroom sculpture is installed in its new setting on Park Lane on January 23, 2011 in London, England. The four-metre high sculpture, consists of a vintage Fiat 500, the first car that the sculptor ever bought, grasped by an oversized aluminium child's hand modelled from Quinn's son. The exhibition has previously been displayed in Valencia and Abu Dhabi. (Photo by Matthew Lloyd/Getty Images for Halcyon Gallery)

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์มา Fiat เป็นรถที่แฝงตัวอย่างกลมกลืนกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเรามาโดยตลอด มันแทรกซึมตกทอดผ่านเจเนอเรชั่นต่างๆ ตั้งแต่รุ่นปู่ไล่เลียงมาจนถึงรุ่นเราในปัจจุบัน ตัวถังและดีไซน์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ Fiat นั้นทำให้พวกเราที่เคยใช้ชีวิตผ่านกาลเวลาร่วมกับมันมาหวนระลึกถึงอดีตและความทรงจำเก่าๆ ได้เสมอ ยกตัวอย่างรุ่น Fiat 500 ที่ออกรุ่นแรกสู่ตลาดโลกในปี 1957 ในฐานะรถขนาดกะทัดรัดที่ใช้เครื่องยนต์ความจุเพียง 497 ซีซี. แถมด้วยหลังคาเปิดได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรับลมเย็นๆ และแสงแดดอุ่นๆ ได้เพียงเปิดแผ่นหนังที่หุ้มตัวรถออกไปทางด้านหลังเท่านั้น หลังจากประสบความสำเร็จกับรุ่นแรก Fiat ก็ปล่อยอีกโฉมออกมาในปีใกล้ๆ กัน โดยสามารถเปิดหลังคาได้ทั้งบานไปจนถึงท้ายรถ ซึ่งแถมความเก๋ในการดีไซน์โดยให้มือเปิดอยู่ด้านหน้า ส่วนบานพับอยู่กลางรถ ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ประเทศที่เป็นหนึ่งในด้านแฟชั่น จวบจนปัจจุบัน รูปทรงของ Fiat 500 ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งเสน่ห์ดั้งเดิม ตัวหลังคาสามารถเปิดได้สุดไม่ต่างจากโฉมเดิมๆ แต่เพิ่มเติมเทคโนโลยีอันทันสมัยต่างๆ เข้าไป พร้อมอัพขนาดเครื่องยนต์ให้เริ่มต้นที่ 900 ซีซี. ไปจนถึง 1,400 ซีซี. เพื่อการขับขี่ที่ลื่นไหล และไปถึงที่หมายได้ไวกว่าเดิม

CHICHESTER, ENGLAND - JUNE 26: The ex Alex Fiorio Lancia Delta Integrale on the rally stage at Goodwood on June 26, 2015 in Chichester, England. (Photo by Charles Coates/Getty Images)

ส่วนอีกรุ่นยอดนิยมของแบรนด์นี้ก็ได้แก่ Fiat 124 Spider รถโรดสเตอร์ขนาดกะทัดรัดเปิดประทุนท้าลมทุกฤดูกาล ตัวล่าสุดมาพร้อมเครื่องเสียงจาก BOSE พร้อมลำโพงเก้าจุดรอบคันให้ความเพลิดเพลินตลอดการขับขี่ แต่กว่าจะมาเป็นโรดสเตอร์คันงามวิ่งฉิวโฉมปัจจุบันนั้น สายการผลิต Fiat 124 Sport Spider รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นในปี 1966 ที่ Lingotto Factory ในเขตเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ตัวโรงงานเป็นตึกสูงห้าชั้นที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่โรงงานผลิตรถยนต์แบบม้วนเดียวจบเท่านั้น แต่ชั้นดาดฟ้าของโรงงาน อันเป็นจุดสุดท้ายที่รถจะออกจากสายพานการผลิตเป็นคันอย่างสมบูรณ์แบบ ถูกปรับพื้นที่ให้กลายเป็นสนามทดสอบรถยนต์ของ Fiat โดยรถทุกคันจะต้องผ่านการทดสอบวิ่งบนหลังคาแห่งนี้ก่อนจะถูกส่งออกไปถึงมือลูกค้า เพื่อการันตีความสมบูรณ์แบบของมันเป็นครั้งสุดท้าย

maxresdefault-3_w1

สนามแข่งบนหลังคาของเมืองตูรินนี้มีชื่อเสียงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ความยาวของสนามนั้นก็พอๆ กับสนามแข่งขนาดย่อม พื้นสนามถูกออกแบบมาให้ลาดเอียงรับกับโค้งของตึกอย่างพอเหมาะลงตัว เป็นรูปวงรีสวยงามให้รถวิ่งทวนเข็มนาฬิกาได้อย่างสะดวก โรงงานแห่งนี้เปิดทำการอย่างเป็นทางการในฐานะโรงงานประกอบรถยนต์และสนามทดสอบหลักของ Fiat ตั้งแต่ปี 1923 ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่ารุ่นใหญ่อย่าง Fiat 500 ก็เคยผ่านมือสนามนี้มาก่อนที่ Fiat 124 Sport Spider จะนำเอาเครื่องขนาด 1,200 ซีซี. ขึ้นมาครองในปี 1966 หลังจากนั้น มีเพียงรุ่นหลานมันที่ผลิตขึ้นในปี 1969 เท่านั้นที่ได้มีโอกาสขึ้นมาทดลองกับสนามบนหลังคานี้ เพราะด้วยเหตุผลหลายประการทั้งเรื่องธุรกิจและปัจจัยภายนอก ทำให้โรงงานที่ดำเนินมาถึง 59 ปีนี้ต้องปิดตัวลง แต่ก็ไม่ได้เป็นการสิ้นสุดการทำหน้าที่ในฐานะอาคารอย่างถาวร แต่อาคารนี้ถูกเปลี่ยนไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อีกมากมาย ทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนหลักสูตรโพลีเทคนิคของมหาวิทยาลัยตูริน ต่อมาส่วนต่างๆ ของอาคารก็ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยตามกาลเวลา ปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์การค้า ฮอลล์คอนเสิร์ต และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนหลังคาอาคารถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่สนามแข่งลอยฟ้านี้ก็ยังคงอยู่ แม้จะไม่ได้เปิดใช้งานตามจุดประสงค์เดิม พื้นสนามและรายละเอียดหลักๆ ยังถูกคงไว้เหมือนก่อน เพื่อเปิดให้แขกผู้สนใจในประวัติศาสตร์ยานยนต์และอาคารได้เข้าชมตามอัธยาศัย

fiat-lingotto_w1

ก่อนที่สนามแข่งบนหลังคาแห่งนี้จะกลายเป็นตำนานตลอดกาลไปเมื่อปี 1982 มันก็ได้สร้างตำนานก่อนปิดโดยเปิดโอกาสให้คู่แข่งตัวสำคัญอย่าง Lancia Delta ได้ขึ้นสัมผัสแทร็คสนามแข่งแห่งนี้ ถือว่าเป็นรถรุ่นสุดท้ายจริงๆ ที่ได้วิ่งปิดตำนานโรงงานแห่งนี้อย่างถาวร ในปัจจุบัน บริษัทในเครือของ Fiat นั้นมีโรงงานการผลิตและทดสอบกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นบราซิล อิตาลี เม็กซิโก แคนาดา อินเดีย จีน เซอร์เบีย โปแลนด์ อาร์เจนตินา และตุรกี แต่สนามแข่งลอยฟ้าอย่าง Fiat Lingotto Factory ก็ยังเป็นที่กล่าวขานโจษจันกันมาจนถึงวันนี้

Content by Jonut, Photography by GettyImages