Posts

ไปชมทุกไอเท็มจาก Apple ที่เปิดตัวล่าสุดในงาน Apple Event นำโดย iPhone 13 สีเขียวอัลไพน์และ Mac Studio ที่มาพร้อมชิป M1 Max และ M1 Ultra ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา!

กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ในโทนเขียวสวยสะดุดตาใหม่ล่าสุด

Apple® ประกาศเปิดตัวสีใหม่ 2 สีคือ สีเขียวอัลไพน์และสีเขียวสำหรับ iPhone® 13 Pro และ iPhone 13 กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 มาพร้อมกับดีไซน์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับการเสริมให้ทนทานยิ่งขึ้นด้วยด้านหน้าแบบ Ceramic Shield™ อีกทั้งยังมีชิป A15 Bionic สุดล้ำ ประสบการณ์การใช้งาน 5G ขั้นสูง ระบบกล้องอันล้ำสมัยเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่สวยสะดุดตา และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นแบบก้าวกระโดด iPhone 13 และ iPhone 13 mini ยังมีจอภาพ Super Retina XDR® ที่ให้สีสันสดใสขณะที่ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR พร้อม ProMotion® ที่ให้สีสันสดใส โดยมีอัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้ตั้งแต่ 10Hz จนถึงสูงสุด 120Hz iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์และ iPhone 13 สีเขียวใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม

 iPhone SE ใหม่: สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ในราคาที่น่าคบหา!

 iPhone® SE ซึ่งเป็น iPhone ใหม่ที่ทรงพลังในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมความสามารถและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในราคาที่ไม่น่าเชื่อ iPhone SE มาในดีไซน์แบบกะทัดรัดและทนทาน ที่จะทำงานร่วมกับ iOS 15 เพื่อมอบประสบการณ์หนึ่งเดียวแบบไร้รอยต่อ iPhone SE ใหม่มาพร้อมการอัปเกรดที่น่าประทับใจ ซึ่งประกอบด้วยประสิทธิภาพของชิป A15 Bionic ที่เป็นขุมพลังให้กับความสามารถสำหรับกล้องสุดล้ำ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าในแทบทุกด้าน เริ่มตั้งแต่การปรับแต่งรูปภาพไปจนถึงตัวเลือกที่ต้องอาศัยการประมวลผลหนักๆ อย่างการเล่นเกมหรือเทคโนโลยีความจริงเสริม iPhone SE มาในสามสีใหม่อันน่าทึ่ง — มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ รุ่น (PRODUCT)RED1 ทั้งยังรวมไปถึง 5G, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น และความทนทานที่ได้รับการปรับปรุง 1 iPhone SE จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม

iPad Air ที่ทรงพลังและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 iPad Air® ใหม่พร้อมชิป M1 ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด iPad Air มีวางจำหน่ายในสีสันใหม่ๆ และยังมาพร้อมกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ใหม่พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” เพื่อประสบการณ์การประชุมทางวิดีโอที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น, พอร์ต USB-C ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 5G ที่เร็วสุดแรงในรุ่นเซลลูลาร์ ทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้นที่เอื้อมถึงได้เช่นเดิม กล้องสุดล้ำและการรองรับอุปกรณ์เสริมล่าสุดทำให้ผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เป็นนักสร้างคอนเทนต์ เกมเมอร์ และนักเรียนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพการทำงาน และการแสดงความเป็นตัวเอง iPad Air ใหม่จะพร้อมให้สั่งซื้อและจะวางจำหน่ายในร้านค้าเร็วๆ นี้

ชิป M1 Ultra ชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลกสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

ชิป M1 Ultra ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวกระโดดครั้งสำคัญสำหรับ Apple Silicon และ Mac® โดยที่ชิป M1 Ultra นั้นมาพร้อมสถาปัตยกรรมการบรรจุชิปอันล้ำสมัยของ Apple ในชื่อ UltraFusion™ ที่เชื่อมต่อแผ่นวงจรชิป M1 Max สองตัวเข้าด้วยกันเป็นหนึ่ง SoC (System on Chip) ที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงทำให้ Mac Studio™ ใหม่มีพลังการประมวลผลที่แรงเหลือล้น แต่ยังคงมีประสิทธิภาพต่อวัตต์อยู่ในระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมเช่นเดิม 

โดยที่ SoC ใหม่นี้ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ 1.14 แสนล้านตัว ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชิปคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ยิ่งกว่านั้น ยังสามารถปรับแต่งหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงและความหน่วงต่ำของชิป M1 Ultra ได้สูงสุดถึง 128GB สำหรับเรียกใช้โดย CPU แบบ 20-core, GPU แบบ 64-core และ Neural Engine แบบ 32-core เพื่อประสิทธิภาพที่สุดขั้วสำหรับนักพัฒนาที่คอมไพล์โค้ด, ศิลปินที่ทำงานในสภาพแวดล้อม 3D สุดอลังการในแบบที่ไม่เคยเรนเดอร์ได้มาก่อน และมืออาชีพด้านวิดีโอที่สามารถแปลงวิดีโอเป็น ProRes™ ได้เร็วขึ้นสูงสุด 5.6 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac Pro® แบบ 28-core ที่ติดตั้ง Afterburner®1

Mac Studio และ Studio Display แบบใหม่หมดดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลายในดีไซน์สุดกะทัดรัด

Apple® เปิดตัว Mac Studio™ และ Studio Display™ ซึ่งเป็นเดสก์ท็อป Mac® และจอภาพที่ใหม่หมดในทุกรายละเอียด ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีครบทุกสิ่งที่ต้องการสำหรับการสร้างสตูดิโอในฝัน เริ่มจาก Mac Studio ที่พร้อมปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลด้วยขุมพลังอย่างชิป M1 Max และ M1 Ultra ใหม่ ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลกสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และความสามารถใหม่เอี่ยมอีกมากมายในดีไซน์สุดกะทัดรัดที่สามารถวางบนโต๊ะให้ผู้ใช้เอื้อมถึงได้ไม่ยาก เรียกได้ว่า Mac Studio เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบนเดสก์ท็อปเครื่องไหน อย่างการเรนเดอร์สภาพแวดล้อม 3D ที่อลังการ และการเล่นวิดีโอ ProRes™ ได้ถึง 18 สตรีม

ในขณะที่ Studio Display คือคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Mac Studio แถมยังใช้งานร่วมกับ Mac ทุกรุ่นได้อย่างสวยงามลงตัว เพราะมีทั้งจอภาพ Retina® 5K ขนาดใหญ่ 27 นิ้ว, กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และระบบเสียง 6 ลำโพงที่คมชัด พร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง ซึ่งเมื่อรวมกัน Mac Studio และ Studio Display พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมทุกพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นขุมพลังสำหรับการสร้างสรรค์ ทั้งคู่จะเข้ามาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ตระกูล Mac ที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Apple

ประสิทธิภาพของ Mac Studio พร้อมชิป M1 Max2

  • CPU เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่เร็วที่สุดที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์แบบ 10-core สูงสุด 2.5 เท่า
  • CPU เร็วกว่า Mac Pro® พร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon แบบ 16-core สูงสุด 50%
  • กราฟิกเร็วกว่า iMac® รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 3.4 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro ที่มาพร้อมการ์ดกราฟิกรุ่นยอดนิยมเกิน 3 เท่า
  • แปลงวิดีโอได้เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 7.5 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro แบบ 16-core สูงสุด 3.7 เท่า

ประสิทธิภาพของ Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra3

  • CPU เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่เร็วที่สุดที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์แบบ 10-core สูงสุด 3.8 เท่า
  • CPU เร็วกว่า Mac Pro พร้อมโปรเซสเซอร์ Xeon แบบ 16-core สูงสุด 90%
  • CPU เร็วกว่า Mac Pro แบบ 28-core สูงสุด 60%
  • กราฟิกเร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 4.5 เท่า และเร็วกว่าการ์ดกราฟิกสำหรับ Mac ที่เร็วที่สุดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันสูงสุด 80%
  • แปลงวิดีโอได้เร็วกว่า iMac รุ่น 27 นิ้ว สูงสุด 12 เท่า และเร็วกว่า Mac Pro แบบ 28-core สูงสุด 5.6 เท่า

Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการแนะนำ Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้งห้าของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS มาพร้อมประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมบนอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่อง และเสริมสร้างการบริการที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ใช้ รวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple กว่าแสนคนทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และทำให้โลกใบนี้ดีกว่าที่เคยเป็นมา

เรียบเรียง rhunrun

ไม่ต้องใช้เอฟเฟ็กต์หรือแอพให้เสียเวลากับโหมด Portrait ขณะถ่ายวีดีโอจาก Apple iphone 13 เปิดตัวเดือนหน้านี้!

สำหรับการเตรียมเปิดตัว iPhone 13 รุ่นล่าสุดตามเวลาประจำของทุกปีในช่วงเดือนกันยายน และสำหรับปีนี้ทาง Apple เองนั้นก็ได้เพิ่มจำนวนการผลิตขึ้นถึง 20% เลยทีเดียว ที่จากเดิมจะส่งออกเพียง 75 ล้านเครื่องต่อปี ก็ได้ขยับเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 90 ล้านเครื่องเรียกได้ว่ามั่นใจว่าฟังก์ชั่นที่ทำมาต้องตอบโจทย์และทำให้แฟนๆยอมเสียเงินเพื่อจับจองครับ

ภาพเรนเดอร์เบื้องต้นของ iphone 13 Pro ที่มีสีใหม่สุดเท่คือส้มในโทนสีแนวสปอร์ตครับ

โดยไฮไลต์ของ iPhone รุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับฟังชั่นที่เสริมเทคนิคและการถ่ายภาพและวีดีโอที่มากยิ่งขึ้น กับโหมดถ่ายวิดีโอของไอโฟนที่ทางแอปเปิ้ลเองก็ได้มีการอัพเดตให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้สนุกมากขึ้นกับโหมด Portrait ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้เอฟเฟ็กต์ของระยะภาพที่ชัดลึกและสามารถจับภาพคมชัดได้ดียิ่งขึ้นรวมถึงโบเก้หลังเบลอที่โหมดถ่ายภาพ Portrait ของ iphone ทำได้ดีมาตลอด ด้วยคุณสมบัติ ProRes เวอร์ชั่นใหม่ของทาง Apple ที่จะทำให้รูปแบบของการบีบอัดวิดีโอนั้นมีคุณภาพสูงขึ้นและลื่นไหลอย่างไม่มีสะดุดอีกทั่งยังรองรับความละเอียดวิดีโอได้สูงสุดถึงระดับ 8K จากเดิม 4K

ซึ่งนอกจากฟีเจอร์วิดิโอที่อัปเดตแล้วนั้น iPhone รุ่นนี้ก็จะมาพร้อมชิปล่าสุก A15 ที่จะทำให้การประมวลผลของโทรศัพท์นั้น มีความรวดเร็วที่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีลูกเล่นใหม่ให้เราได้ตื่นเต้นกับระบบฟิลเตอร์ที่จะปรับปรุงรูปลักษณ์และสีของภาพให้สวยงามโดดเด่นเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยหน้าจอที่กว้างและรอยบากที่น้อยลงเรียกได้ตอบโจทย์การสร้างคอนเทนท์ของคนรุ่นใหม่และการถ่ายวีดีโอเพื่อลงใน social media ต่างๆได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามข่าวลือที่ว่าไอโฟนรุ่นนี้อาจจะมีระบบ Touch ID มาให้เรารึเปล่าหรือชื่อไอโฟนอาจจะเป็น 12s หรือ 13 กันแน่นั้น ก็คงต้องรอดูเซอร์ไพร์สพร้อมกันในเร็วๆนี้ครับ ถ้ารู้แล้วเราจะรีบมาบอกอย่างแน่นอน!

เรื่อง Eknaphat Noonwong

เรียบเรียง rhunrun

ลาก่อนพาวเวอร์แบงค์แบบมีสาย! Apple เปิดตัวไอเท็มใหม่ MagSafe Battery Pack กับที่ชาร์จไร้สายที่ติดไว้หลังเครื่องหรือเคสก็สามารถชาร์จ iphone ได้ทันที!

ลาก่อนพาวเวอร์แบงค์แบบมีสาย! Apple เปิดตัวไอเท็มใหม่ MagSafe Battery Pack สำหรับ iPhone12  ทั้งสี่รุ่น ในราคา $99 (ประมาณ 3,200 บาท)ที่มาพร้อมคุณสมบัติชาร์จ iPhone แบบไร้สายด้วยกำลังไฟ 5W และสูงสุดถึง 15 Wและ 20W เมื่อเชื่อมต่อกับสายชาร์จ (ตัว MagSafe Battery Pack มีความจุไฟที่ 1,460mAh) 

นอกจากนี้ที่น่าสนใจก็คือ MagSafe กับ iPhone นั้นสามารถชาร์จพร้อมกันได้อีกด้วยและด้วยขนาดที่เล็กพอดีกับตัวเครื่อง iPhone 12 mini และติดตัว MagSafe Battery Pack ผ่านเคสได้หลายชนิดและจะมีการแจ้งเตือนเมื่อชาร์จแบต iphone เต็มทำให้การพกพาทำได้สะดวกครับ

ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อตอนนี้ได้เลยทางเว็บไซต์ Apple ที่จะเริ่มการจัดส่งในสัปดาห์หน้า สำหรับอเมริกาครับส่วนประเทศไทยยังคงต้องรอกันต่ออีกนิด!

แก้คิดถึง iPod! Tannerv เวปไซต์ที่จะช่วยเปลี่ยนมือถือให้กลายเป็น iPod ได้ง่ายๆครบทั้งฟังก์ชั่นฟังเพลงและเล่นเกมส์!

แก้คิดถึง iPod! หลายคนคงมี Apple iPod เป็น gadget ชิ้นแรกๆที่พกติดตัวตลอดก่อนการมาของ smartphone ซึ่งหลังจากหยุดผลิตทุกรุ่นไปในปี 2014 ตอนนี้ถ้าใครคิดถึงแป้นหมุนและรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์สามารถเข้าเวปไซต์ tannerv.com เข้าไปใช้งาน iPod Classic ได้ออนไลน์ทั้งฟังเพลงผ่าน Apple Music และ Spotify หรือเล่นเกม Brick สุดคลาสสิคพร้อมแป้นหมุนแบบเดิม(เปลี่ยนสีเครื่องไดัทั้ง เทา ดำ และ U2 edition ดำ-แดง

)เรียกได้ว่าเป็นการนำช่วงเวลาดีๆและความทรงจำเก่าๆกลับมาได้ดีเลย ขอปรบมือให้กับ Tanner Villarette ผู้พัฒนาเวปไซต์นี้ครับไปลองเล่นกันเลย!(Spotify ต้องใช้ chrome ผ่านคอมพิวเตอร์ในการ sign in)

Apple เปิดตัว iphone 12 และ iPhone 12 mini แล้ว!

Apple เปิดตัว iphone 12 แล้ว! เผยโฉม iPhone® 12 และ iPhone 12 mini ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G โดย iPhone 12 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มาพร้อมจอภาพ Super Retina® XDR ที่กว้างแบบขอบจรดขอบเพื่อมอบประสบการณ์ในการรับชมที่เต็มมุมมองและสมจริงยิ่งขึ้น

พร้อมด้วยด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ใหม่รอบตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในเรื่องความคงทนของ iPhone และชิพ A14 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple นั้นยังนับได้ว่าเป็นเป็นชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนและเป็นขุมพลังที่ขับเคลื่อนทุกๆ ประสบการณ์บน iPhone 12 และครั้งนี้ A14 Bionic จับคู่มากับระบบกล้องคู่ที่มีรูรับแสงขนาดกว้างถึง ƒ/1.6 นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของ iphone กับ การรองรับ 5G อันล้ำสมัยครอบคลุมทั่วโลก

โดยจุดเด่นของ 5G บน iPhone มีตั้งแต่ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดที่สูงขึ้น การสตรีมวิดีโอที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น การเล่นเกมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น การโต้ตอบภายในแอพที่รวดเร็วทันใจ ในด้านของดีไซน์ iPhone 12 และ iPhone 12 mini มาในดีไซน์อะลูมิเนียมที่มี 5 สีสันสวยงามให้เลือก ได้แก่ น้ำเงิน เขียว ดำ ขาว และ (PRODUCT)RED1 แฟนๆเก็บเงินรอกันได้เลยครับ!

10 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus

ก่อนที่จะควักกระเป๋าเสียตังซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด มาทำความรู้จักกับคุณสัมบัติอันโดดเด่นของมันเสียก่อน

iphone-7-1

1. สีดำ Jet Black ตัวเครื่องอลูมิเนียม พื้นผิวมันวาว แสดงออกถึงความหรูหรา โลโก้แอปเปิ้ลวัสดุสเตนเลส

2. ปุ่ม Home แบบ Force Touch คือการแสดงผลต่างกันเมื่อเรากดเบาและกดแรง มีระบบ Taptic Engine การสั่นสะเทือนตอบสนองเวลาเรากดปุ่ม

3. สามารถกันน้ำได้ ความลึก 1 เมตร

4. iPhone 7 Plus มีกล้องคู่สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง (f/1.8) และเลนส์ซูม (f/2.8) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ในขณะที่ iPhone 7 ธรรมดามีกล้องตัวเดียว (f/1.8)

5. หน้าจอเรตินา HD หน้าจอสว่างขึ้นกว่าเดิม 25%

6. ครั้งแรกที่ใส่ลำโพงสเตอริโอคู่ อยู่บริเวณด้านล่างข้างๆ Lightning port และลำโพงที่ไว้คุยโทรศัพท์

7. ตัดช่องเสียบหูฟังออก เหลือแต่ช่องชาร์จ แต่แถม Adapter สำหรับเสียบหูฟังหัว 3.5 มม. มาให้ภายในกล่อง

8. AirPods หูฟังไร้สายพร้อมไมโครโฟน Built-in เคาะที่หูฟัง 2 ครั้งเพื่อเรียก Siri สามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคา 6,900 บาท

9. เปิด Apple pay และ Transit ให้ใช้ในญี่ปุ่น (ในไทยคงต้องรอความคืบหน้าต่อไป)

10. ชิพ Apple A10 Fusion ประมวลผลเร็วกว่า iPhone 6 สามเท่า และเป็นชิพที่ประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแยรนด์ มีความจุ 32, 128, 256 GB แต่สีดำมีเพียง 128, 256 GB เท่านั้น

ส่วนราคา iPhone 7 เริ่มต้น $649 และ iPhone 7 Plus เริ่มต้น $769 (ยังไม่เปิดเผยราคาในไทย)

เริ่ม Pre-order วันที่ 9 กันยายน และวางจำหน่ายวันแรก 16 กันยายนนี้ โดยเริ่มวางจำหน่ายในประเทศกลุ่มแรก 28 ประเทศ

เอาใจสาวกแอปเปิ้ลด้วยแก็ตเจ็ตใหม่ล่าสุดทั้ง 3 ชิ้นที่คุณไม่ควรพลาด

ลอปติมัมเอาใจสาวกแอปเปิ้ลด้วยโปรดักซ์ 3 ชิ้นใหม่ล่าสุด

iPhone SE

iphonese-1400-2
สำหรับใครที่ยังคิดถึง iPhone ขนาด 4 นิ้วแบบกะทัดรัด เตรียทเฮได้เลยเพราะแอปเปิ้ลกำลังจะออก iPhone SE ที่การกลับมาในครั้งนี้ได้ใส่ ชิพ A9 แบบเดียวกับ iPhone 6S ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล สามารถถ่ายดีวิโอความคมชัด 4K ได้โดยมาพร้อมกับ Live Photos และกล้อง iSight 12 MP จอภาพ Retina พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Touch ID อัดใส่เข้ามาแบบเต็มที่ขนิดที่ไม่เกรงใจรุ่นพี่ๆ กันเลย

iPad Pro

ipad-pro-97-renders
อดใจรอกันอีกสักหน่อยสำหรับ iPad Pro ที่กำลังจะออกรุ่น 9.7 นิ้ว สำหรับรุ่นเก่าหน้าจอขนาด 12.9 นิ้วก็ยังมีให้เลือกกันอยู่ ต้องรอกันกันยาวๆ ว่า ซีรีย์ในตระกูล iPad นี้จะมาสามารถมาปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ โดยในรุ่นล่าสุดนี้ใช้จอแสดงผล Retina ขนาด 9.7 นิ้ว 2048×1536 และ 12.9 นิ้ว 2732X2048 ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความคมชัดสูงสุดในตระกูล iOS และยังใช้ชิพ A9X แบบ 64 บิต โปรเซสเซอร์ร่วม M9 แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 10 ชม. มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Smart Keyboard, Apple Pencil และระบบปฎิบัติการ iOS9

Apple Watch

1457708116_207_Coming-at-Apple’s-March-21st-event-4-inch-iPhone-SE-9.7-inch-iPad-Pro-amp-new-Apple-Watch-models
แน่นอนว่าแอปเปิ้ลวอช์ทก็กลายเป็นอีกหนึ่ง gadget ชิ้นเด็ด เพราะนอกจากจะมีเซนเซอร์ที่จะสะกิดคุณเวลาเกิดการอัพเดทเรื่องราวต่างๆ แล้ว ยังกลายเป็นสิ่งที่คนรักสุขภาพทุกคนถามหา เพราะวัดได้ตั้งแต่ชีพจรหัวใจไปจนถึงสุขภาพโดยร่วม เรียกได้ว่าย่อเทคโนโลยีต่างๆ มารวมใว้บนข้อมือสมกับคำว่า “ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ แค่เหลือบมอง” จริงๆ

Content by Chanond M.