Posts

Scents and Sensibility

เมื่อเรื่องของ ‘กลิ่นหอม’ กลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญในปัจจุบัน และมันไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้ด้วยเรื่องของเพศอีกต่อไป วันนี้เราเลยขอพาคุณมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกับโลกของน้ำหอม ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของโทนกลิ่น และวิธีการฉีดพรมที่น่าสนใจ

Photographer: Ponpisut Pejaroen

Fashion Editor: Chanond Mingmit

Author: Chayanon Chongprasert

“การวางตัวที่ดี และโคโลญจน์กลิ่นดีๆ ซักขวดจะทำให้ชายหนุ่มธรรมดาๆ กลายเป็นสุภาพบุรุษ” คำกล่าวของ Tom Ford นี้อาจจะดูเกินจริงไปบ้างในครั้งแรกที่อ่าน ในหัวของใครหลายคนตอนนี้คงกำลังคิดว่า แน่ล่ะ ว่าการวางตัวที่ดีจะช่วยเรื่องภาพลักษณ์ของคนเราได้ แต่กลิ่นโคโลญจน์หรือน้ำหอมนี่หรือ จะทำให้เรา ‘กลาย’ เป็นสุภาพบุรุษอันน่าดึงดูดไปได้ พูดแล้วก็เหมือนราวกับเวทมนตร์ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าหากลองคิดให้ดี กลิ่นหอมในขวดหลากรูปทรงนี้แหละ ที่ทำให้บุคลิกของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับตัวคุณในเวลาเดียวกัน

หากจะกล่าวไป การใช้น้ำหอมของผู้ชายนั้นมีมาหลายต่อหลายปีแล้วในประวัติศาสตร์ ถ้าหากลองศึกษาดู คุณอาจจะพบกับคำว่า ‘โคโลญจน์’ ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก่อนที่จะพัฒนากลายมาเป็นคำจำกัดความในแบบเดียวกันกับน้ำหอมของผู้หญิงที่หลายคนคุ้นเคย คำจำกัดความเหล่านี้ ถูกแบ่งออกตามความเข้มข้นของหัวน้ำหอมภายในขวดนั้น ซึ่งก็จะส่งผลให้โทนกลิ่น การกระจายตัวของกลิ่น และความติดทนนั้นแตกต่างไปตามระดับกัน ‘parfum’ คือระดับเข้มข้นที่มากที่สุด หรือเรียกว่าหัวน้ำหอมเลยก็ได้ ส่วน ‘cologne’ หรือ ‘โคโลญจน์’ นั้นเป็นระดับที่มีหัวน้ำหอมเบาบางที่สุด มอบกลิ่นที่โปร่งสบายกว่ากันพอตัว

การที่โคโลญจน์ถูกเลือกใช้โดยผู้ชายส่วนใหญ่ในยุคสมัยก่อนนั้น ก็เพราะโทนกลิ่นที่โปร่งของมันนั่นแหละ น้อยคนนักที่จะเลือกน้ำหอมกลิ่นที่มีความเข้มข้นสูงมาใช้ ด้วยทั้งสภาพอากาศรวมไปถึงพัฒนาการของวงการน้ำหอมเอง แต่ในปัจจุบัน มุมมองหลายๆ อย่างก็ถูกปรับให้ร่วมสมัยและเข้ากับความต้องการและการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เราจึงได้เห็นน้ำหอมผู้ชายในแบบ ‘parfum’,‘eau de parfum’ รวมไปถึง ‘eau de toilette’ ที่มอบความติดทนที่เหมาะกับหลากหลายโอกาส

มองง่ายๆ เมื่อระดับความเข้มข้นมากขึ้น ความติดทนก็จะมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ถ้าหากเป็นโอกาสพิเศษ ที่คุณต้องการกลิ่นที่โดดเด่นกว่าการใช้ชีวิตประจำวันนั้น ลองเลือกหยิบน้ำหอมในรูปแบบ parfum ที่เข้มข้นมาแต้มบนผิว ส่วนในชีวิตประจำวัน วันไหนต้องการความติดทนซักหน่อยพร้อมกับโทนกลิ่นที่เข้มข้น คุณสามารถเลือกใช้น้ำหอมในรูปแบบ eau de parfum ได้ หรือถ้าหากเป็นวันสบายๆ ลองเลือกหยิบ eau de toilette หรือ cologne มาฉีดพรมก็เป็นความคิดที่ดีและเหมาะกับบรรยากาศที่คุณต้องการได้อย่างดี

พูดกันถึงเรื่องความเข้มข้นไปแล้ว เราขอพาคุณมาทำความรู้จักกับเรื่องของโทนกลิ่นของน้ำหอมกันบ้างดีกว่า นานนับปี วัตถุดิบชั้นดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้หอม ดอกไม้ สมุนไพร เครื่องหอมนานาชนิด แร่ธาตุ หรือแม้แต่สารสกัดพิเศษจากทั้งสัตว์หรือสารเคมีที่ปลอดภัยต่อการสูดดม ถูกเก็บเกี่ยวและเสาะหามาถึงมือของสุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอมระดับแถวหน้ามาอย่างนับไม่ถ้วน วัตถุดิบเหล่านี้ถูกผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อให้เกิดทั้งกลิ่นที่น่าหลงใหล สดชื่น หรือน่าค้นหา เพื่อบ่งบอกตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างหลากหลาย

สำหรับครั้งนี้ เราขอเลือก 3 โทนกลิ่นที่กำลังเป็นที่นิยมมาแนะนำให้คุณรู้จัก หรือถ้าหากใครรู้จักอยู่แล้วนั้น ก็หวังว่าเราจะทำให้คุณได้รู้จักกับโทนกลิ่นที่คุณหลงรักมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยกลิ่นโทน ‘woody’ โดยจะมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นอย่างกลิ่นจากไม้หอมเป็นหัวใจหลัก อย่างเช่นซีดาร์วู้ด แซนดัลวู้ด หรือโรสวู้ด ซึ่งก็จะถูกห้อมล้อมผสมผสานด้วยกลิ่นของเครื่องเทศบ้าง ผลไม้บ้าง หรือแม้แต่ดอกไม้ก็ตาม กลิ่นโทน woody จะมาพร้อมกับความอบอุ่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความลุ่มลึกและน่าค้นหาในตัวตน ตามแต่ส่วนผสมอื่นๆ ที่มาด้วยกัน กลิ่นหอมที่ดูจะเหมาะกับคาแรคเตอร์ของผู้ชายที่ลุ่มลึกและน่าค้นหา

โทนกลิ่นที่สองคือโทนกลิ่นแบบ ‘aromatic’ โทนกลิ่นหอมที่มีความเย้ายวนมากยิ่งขึ้น เป็นกลิ่นที่เหมาะ กับคาแรคเตอร์เท่ๆ ดูลึกลับ หรือเหมาะกับโอกาสพิเศษอย่างงานกลางคืนหรืองานสังสรรค์ โดยจะผสมผสานกลิ่นเครื่องเทศอย่างซินนาม่อน ลูกจันทน์ หรือทองก้าบีนส์ ไว้กับกลิ่นของแผ่นหนังหรือเครื่องหอมอย่างกำยาน ก่อนจะปิดท้ายความอบอวลด้วยมัสก์ที่สร้างมิติให้กับกลิ่น อาจจะมีกลิ่นของสมุนไพรหรือผลไม้เข้ามาสร้างสีสันบางครั้ง

และโทนกลิ่นสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำก็คือ ‘fresh’ หรือ ‘citrus’ ที่โดดเด่นมาด้วยความสดชื่น นำโดยผลไม้รสเปรี้ยวหลากชนิด เช่น เลม่อน หรือส้มแมนดาริน ผสมผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้หอมต่างชนิด รวมไปถึงดอกไม้ที่ไม่ได้มีกลิ่นที่เด่นชัดมากนัก อย่างเช่นจำพวกดอกไม้สีขาว เป็นกลิ่นที่เหมาะกับวันสบายๆ ให้ความสปอร์ตและมีมาด เป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เราจะขอทิ้งท้ายไปด้วยวิธีการฉีดน้ำหอมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่างที่รู้กันว่าการฉีดน้ำหอมนั้น ควรเริ่มจากบริเวณจุดชีพจร ไม่ว่าจะเป็นลำคอ ข้อมือ หรือข้อพับแขน เพราะจะเป็นจุดที่ร่างกายมีความร้อนและจะทำให้กลิ่นกระจายตัวได้ดีอย่างที่สุด สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้คุณทำความเข้าใจอีกครั้งหรือหยุดทำกันไปเลย คือการฉีดน้ำหอมและถูข้อมือทั้งสองข้างไปด้วยกันทันที การกระทำนี้จะทำให้กลิ่นของน้ำหอมนั้นเพี้ยนได้ เพราะเปรียบเสมือนกับไปขัดการทำงานของน้ำหอมให้ผิดขั้นตอน และกลิ่นหอมที่คุณเคยได้จากขวดหรือบนกระดาษที่เคยลองนั้น ก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ทีนี้นอกจากจุดชีพจรที่เรากล่าวไปแล้วนั้น ก็ยังมีเทคนิคการฉีดน้ำหอมที่เราอยากจะแบ่งปันกันเพิ่มเติม อย่างเช่นวันไหนที่คุณใส่กางเกงขาสั้น ลองฉีดน้ำหอมบริเวณข้อพับขา เพื่อเป็นการช่วยให้กลิ่นน้ำหอมของคุณนั้นกระจายตัวได้มากขึ้น โดยความร้อนจากพื้นดินจะยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมของคุณโดดเด่นขึ้นได้อีก หรือถ้าหากคุณต้องการที่จะยืดความติดทนของน้ำหอมของคุณโดยไม่อยากได้ความเข้มข้นที่มากขึ้นนั้น ลองผสมผสานกลิ่นหอมที่คุณชอบเข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณให้มากขึ้น ด้วยการใช้สบู่และครีมทาผิวกายในกลิ่นเดียวกัน ก่อนจะฉีดพรมน้ำหอมลงเป็นขั้นสุดท้าย เป็นอีกวิธีที่ดีที่จะทำให้น้ำหอมของคุณติดทนมากยิ่งขึ้นและยังทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับกลิ่นที่คุณรักมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

GROOMING: Sirima Khongtong

Model: Zsombar @Tofu Models

พาไปชมทุกบรรยากาศของงาน BOSS Celebrity Golf Day ที่รวบรวมเซเลปคนดัง และอินฟลูเอนเซอร์จากทั่วโลกที่ St Andrews ประเทศ Scotland บ้านเกิดอันเป็นตำนานของกีฬากอล์ฟ

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน BOSS ได้เชิญนักกีฬา เซเลปคนดัง และอินฟลูเอนเซอร์กว่า 60 ท่าน มาร่วมงานกอล์ฟที่ St Andrews ประเทศ Scotland บ้านของกีฬากอล์ฟและยังเป็นสนามที่จะมีการจัด The 150th Open ในฤดูร้อนนี้ โดยที่ในงาน Celebrity Golf Day ที่จัดโดย BOSS นี้ คนดังอย่างScHoolboy Q, Kathryn Newton, Ross Butler, Alex Pettyfer, Alvaro Morte, Lucien Laviscount, James and Oliver Phelps, Naomi Watanabe, Blake Grey และ นักแสดงหนุ่มชาวไทยอย่าง นาย ณภัทร เสียงสมบุญ เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ได้รับเชิญ

งานเริ่มด้วยการรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม The Old Course ซึ่งอยู่ห่างจากแฟร์เวย์ที่ 17 เพียงไม่กี่ฟุต จากนั้นบรรดาแขกจะถูกเชิญให้เข้าร่วม Golf School Session เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับการตีกอล์ฟกับอดีตแชมป์โอเพ่นคนดัง Sandy Lyle ตามด้วยรับประทานอาหารว่างสุดพิเศษสำหรับสมาชิกเท่านั้นที่Forgan House 

ในช่วงบ่าย จะมีการแบ่งกลุ่มออกรอบของบรรดาเซเลปบริตี้ที่ชื่นชอบในการตีกอล์ฟ และสำหรับแขกอื่นๆก็สามารถเข้าร่วมในกิจกรรมสุดพิเศษในสนามthe Old Course ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน “Longest Drive” และ “Nearest to the Pin” รวมถึงการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวสนาม และนวดผ่อนคลายที่สปาของโรงแรม

ปิดท้ายของวันด้วยอาหารค่ำสุดดื่มด่ำ ที่โรงแรม Rusacks ตามด้วยพิธีมอบรางวัลให้กลุ่มเซเลปผู้เข้าแข่งขันที่ได้คะแนนดีที่สุดของการออกรอบที่จัดขึ้นนี้ ในวันนั้นยังเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของแบรนด์กับ R&A และเป็นการเข้าสู่ปีที่หกในฐานะพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ The Open และงานนี้ยังได้มีการระดมเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั่วโลก และนี่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง BOSS กับกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ UNICEF เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเปิดตัวแคปซูลคอลเล็กชั่น BOSS x The Open เสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการเล่นกอล์ฟด้วยเนื้อผ้า และใช้ลาย 150th เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบประวัติศาสตร์ของการแข่งขันชิงแชมป์ โดยแคปซูลคอลเล็กชั่นนี้จะถูกวางจำหน่ายทางออนไลน์และในร้านค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป และสำหรับการแข่งขัน The 150th Open ที่กำลังจะถึงนี้ นักกีฬา BOSS Patrick Cantlay, Thomas Detry, Matthias Schwab และ Henrik Stenson (ผู้ชนะ The 145th Open ที่ Royal Troon ในปี 2016) จะสวมชุด Premium Golf Collection ของแบรนด์ BOSS ในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงรางวัล Claret Jug อันทรงเกียรตินี้อีกด้วย

งานนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับแบรนด์ และเป็นอีกหนึ่งขั้นความสำเร็จของ BOSS ที่ขับเคลื่อนให้แบรนด์ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำ 100อันดับแรก เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ CLAIM 5 ของบริษัท และหลังจากการเปลี่ยนรูปแบบของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จไปสู่การเปิดตัวที่ดูไบ ซึ่งงานนี้ทางแบรนด์อยากส่งเสริมกีฬากอล์ฟให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณก็สามารถ #BeYourOwnBOSS ในกีฬาได้เช่นกัน

rhunrun เรียบเรียง

HUGO BOSS คว้าเหล่าซูเปอร์สตาร์ตัวแทนคนรุ่นใหม่ร่วมเปิดตัวแคมเปญสำหรับ BOSS และ HUGO ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่

HUGO BOSS เปิดตัวโกลบอลแคมเปญด้วยเหล่าซูเปอร์สตาร์ สำหรับแบรนด์ BOSS และ HUGO โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งประวัติศาสตร์ และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีที่ HUGO BOSS ได้มีการเปิดตัวโลโก้ใหม่สำหรับแบรนด์หลักอย่าง BOSS พร้อมกับการปรับโฉมแบบ 360 องศาให้กับทุกรายละเอียด สำหรับแบรนด์ HUGO ในโลโก้ใหม่ก็ถือเป็นครั้งแรกนับจากการปรับโลโก้ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดยโลโก้ใหม่ทั้งสองนี้ปรับตัวอักษรให้มีความที่โดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อสื่อถึงความร่วมสมัยและมอบภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น

BOSS เผยโฉมเหล่าคนดังที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของแคมเปญ #BeYourOwnBOSS ในคอลเลคชัน
ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 (Spring/Summer 2022) โดย #BeYourOwnBOSS จะเป็นครั้งแรกของแคมเปญบนโซเชียลมีเดีย ที่ได้มีช่างภาพแฟชันชื่อดังอย่าง Mikael Jansson เดินทางไปถ่ายทำแคมเปญนี้ทั่วโลก

ควบคู่ไปกับการเปิดตัวแคมเปญ BOSS ยังได้ประกาศตัวพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์อย่าง Khaby Lame ซูเปอร์สตาร์ดาว TikTok ที่เริ่มต้นจากการเป็นตัวแทนแบรนด์ สู่การฟอร์มทีมเพื่อรวมสองแคปซูลคอลเลคชันที่ออกแบบร่วมกัน หลังจากที่เขาได้สร้างความประทับใจในงานมิลานแฟชันวีค โดยทำลายสถิติการชมคลิปได้มากถึง 4 พันล้าน ครั้ง ในเวลาเพียง 4 วัน ซึ่งแต่เดิมทางแบรนด์ BOSS ได้คัดเลือก Lame ไว้สำหรับงานเปิดตัวแฟชันบนรันเวย์เท่านั้น

ในแคมเปญ #BeYourOwnBOSS ยังมีนางแบบชั้นนำอย่าง Kendall Jenner, Hailey Bieber และ Joan Smalls รวมทั้งแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Future และ Khaby Lame ดารา TikTok ที่กำลังเป็นกระแสทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Lee Min-ho นักแสดงชาวเกาหลีใต้ Anthony Joshua นักมวยอาชีพชาวอังกฤษ Matteo Berrettini แชมป์เทนนิสชาวอิตาลี และ Alica Schmidt นักวิ่งชาวเยอรมัน มาร่วมในแคมเปญนี้อีกด้วย

นอกเหนือจากการเป็นแคมเปญระดับโลกแล้ว ทางแบรนด์ยังผลักดันและขยายสู่การผลิตคอนเทนต์ที่เน้นไปในทางสื่อโซเชียลให้กว้างขึ้นเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะในรูปแบบของพอดแคสต์ (podcast), การถ่ายทำเบื้องหลัง, Stories และ Reels โดยแคมเปญนี้จะเริ่มเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกสู่ทุกจุดสัมผัสของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์
ซึ่งจะนำไปสู่การโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย และสื่อนอกบ้านสำคัญ ๆ อีกกว่า 35 เมืองใหญ่ทั่วโลก

วันเปิดตัวแคมเปญถูกกำหนดไว้เป็นวันที่ 26 มกราคม พร้อมเหล่านักแสดงที่มีความสามารถกว่า 200 คน รวมถึงเหล่าผู้มีชื่อเสียง ที่จะร่วมเผยแพร่แคมเปญอันน่าประทับใจนี้ผ่านช่องทางโลกดิจิทัล โดยโพสต์เรื่องราวของ BOSS ลงบน Instagram, Weibo, Red และ WeChat ส่วนตัว พร้อมภาพตนเองสวมเสื้อ Signature BOSS Hoodie
อันเป็นเอกลักษณ์แบรนด์

เรียบเรียง rhunrun

BOSS x Russell Athletic Pre-Spring 2022 เฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งทีมเวิร์กและความคึกคักของกีฬาเบสบอล ถ่ายทอดผ่าน DNA ของทั้งสองแบรนด์

จากแรงบันดาลใจแห่งโลกกีฬาเบสบอลสู่การสร้างสรรค์คอลเลคชันใหม่ล่าสุด ของสองแบรนด์ระดับตำนาน BOSS X RUSSELL ATHLETIC PRE-SPRING 2022 ผสานสไตล์ แคชวลและโมเดิร์น เทเรอร์ริง อันโดดเด่น

สานต่อความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ จากการเปิดตัวแคปซูล คอลเลคชัน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สู่คอลเลคชันล่าสุด BOSS x Russell Athletic Pre-Spring 2022 การเฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งทีมเวิร์กและความคึกคักของกีฬาเบสบอล ถ่ายทอดผ่าน DNA ของทั้งสองแบรนด์

คอลเลคชันนี้ได้นำมุมมองอันสดใหม่สู่ความเรโทรแบบอเมริกัน ผสานความเชี่ยวชาญของ BOSS ด้านการตัดเย็บสุดเนี้ยบ และความสวยงามของชุด Sportwear อันเป็นที่จดจำได้ในทันทีของ Russell Athletic เข้าไว้ด้วยกัน แรงบันดาลใจของคอลเลคชันนี้ มาจากคลังแสงของทั้งสองแบรนด์

ด้วยรูปแบบที่ใส่สบายเข้ารูป และสไตล์แบบ 90s ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เฉดสี น้ำเงินเข้ม (Dark Blue) ครีม (Cream) และน้ำตาลคาเมล (Camel) ถูกชุบชีวิตด้วยความเจิดจ้าของสีส้ม (Orange) และสีฟ้ามิเนรัล บลู (Mineral Blue) ในขณะที่ Bomber Jacket ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดของตัวแทนนักกีฬามหาวิทยาลัย ตกแต่งด้วยการประดับชิ้นงานแพทช์กำมะหยี่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของ BOSS ต่องานช่างและงานฝีมือ โลโก้พิเศษ “BOSS x Russell Athletic”

BOSS x Russell Athletic Pre-Spring 2022 Collection คือภาพลักษณ์ใหม่ของงานฝีมือที่สวมใส่ได้ในสไตล์ลำลองสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ BOSS Flagship Store Siam Paragon และ BOSS Store  ICONSIAM ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นี้ เป็นต้นไป

เรียบเรียง rhunrun

รับชมโชว์ล่าสุดของ BOSS x Russell Athletic คอลเล็กชั่น Pre – Spring 2022 กับการผสมผสานกลิ่นไอ tailor หล่อเนี๊ยบกับความสปอร์ตเท่ๆของกีฬาเบสบอลสดๆก่อนใครที่นี่

BOSS และ Russell Athletic กลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในคอลเล็กชั่น Pre – Spring 2022 กับการผสมผสานกลิ่นไอ tailor หล่อเนี๊ยบกับความสปอร์ตเท่ๆของกีฬาเบสบอลสดๆก่อนใครวันนี้เวลา 5 โมงเย็นตามเวลาประเทศไทยได้ที่นี่ครับ

เรียบเรียง rhunrun

แตกต่างแต่ลงตัว Boss x Russell Athletic เมื่อแฟชั่นสไตล์เทเลอร์ริ่งเนี๊ยบเท่มาเจอกับสปอร์ตแวร์ระดับตำนาน

เมื่อสองขั้วต่างของแฟชั่นมาเจอกัน Boss x Russell Athletic โดย Boss แบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องการตัดชุดสูท สไตล์ tailoring และยูนิฟอร์มอันสง่างามของผู้ชายมาร่วมงานกับ Russell Athletic ที่ทำเสื้อผ้ากีฬามายาวนานหลากหลายประเภทกีฬา (โด่งดังที่สุดกับบาสเก็ตบอล) ทำให้ได้คอลเล็กชั่นที่มีความลงตัว สวมใส่คล่องตัวแต่ก็ตัดเย็บได้ประณีต มีเสื้อ blazer ที่ใส่กับกางเกงขาสั้น หรือ hoodies ได้อย่างพอดี

คู่สีสนุกสนานแต่ก็ยังมีความสุภาพละมุนซ่อนอยู่ ไปชมภาพคอลเล็กชั่นเต็มๆกันได้เลยครับ

เรื่อง-เรียบเรียง rhunrun

เทพเจ้าสายฟ้า Chris Hemsworth กับบทบาท Brand Ambassador ของ Boss แบรนด์หรูจากเยอรมัน!

ต้อนรับปี 2021 คริส แฮมสเวิร์ธ เป็นนักแสดงฮอลลีวูดคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งในฐานะ Global Brand Ambassador ของ BOSS

“ผมเป็นแฟนตัวยงมาอย่างยาวนานของ BOSS ซึ่งผมดีใจมากๆที่ตอนนี้ผมจะเป็นตัวแทนของแบรนด์ในส่วนของคอลเลกชั่นเสื้อผ้า” คริส แฮมสเวิร์ธ จะปรากฎตัวในแคมเปญโฆษณาของ BOSS เริ่มต้นกับคอลเลกชั่น Spring/Summer 2021 ที่กำลังจะเปิดตัวไปจนถึงปี 2022

ชมโชว์ Hugo Boss คอลเล็กชั่นประจำฤดูกาล Spring/Summer 2021 สดๆส่งตรงจากมิลานได้ที่นี่!

ติดตามชมไลฟสตรีมถ่ายทอดสดตรงจากมิลานของแบรนด์ Hugo Boss ประจำฤดูกาล Spring/Summer 2021 ได้เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย 25 กันยายน 2020 คลิ๊กที่นี่เพื่อชมได้เลยครับ

HUGO BOSS กับโครงการริเริ่มเพื่อชุมชนกับแคมเปญ #BOSSTOGETHERTH เพื่อให้การสนับสนุนกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19

HUGO BOSS กับโครงการริเริ่มเพื่อชุมชนกับแคมเปญ #BOSSTOGETHERTH เพื่อให้การสนับสนุนกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ) BOSSTOGETHERTH เป็นโครงการความร่วมมือกับร้านอาหารพันธมิตร ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน เพื่อสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นและชุมชนในช่วงเวลานี้ ร้านอาหารแต่ละร้านจะนำเสนอเมนูพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อ BOSS โดยสามารถสั่งเมนูพิเศษนี้ได้จากร้านอาหารที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับเราในช่วงเวลาจำกัดโดยรายได้จากเมนูพิเศษนี้ 10% BOSS และร้านอาหารพันธมิตรจะร่วมบริจาคเพื่อกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ) อีกด้วย

ร้านอาหารพันธมิตรแรกสำหรับเดือนกันยายน 2563 BOSS จับมือกับร้านอาหารระดับ 2 ดาว MICHELIN Sühring ที่สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษเพื่อ BOSS Sühring นำเสนออาหารเยอรมันร่วมสมัยซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำในวัยเด็ก, สูตรอาหารของครอบครัวและประสบการณ์ของเชฟคู่แฝด Mathias และ Thomas

#BOSSTOGETHERTH การร่วมมือกับโครงการพิเศษนี้จะประกาศให้สื่อทราบแยกกันในแต่ละเดือน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแคมเปญสุดพิเศษนี้ลูกค้าจะได้รับ BOSS VOUCHER มูลค่า 2,000 บาทสำหรับทุกการสั่งซื้อเมนู BOSS Exclusive ที่ F&B Partner ของเราสำหรับเดือนนั้นๆ

“เรารู้ดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งส าหรับทุกคนและเราอยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผ่านองค์กรการกุศล ด้วยความคิดริเริ่มนี้เราหวังว่าเราจะสามารถกระตุ้นให้ผู้คนตอบแทนคืนสังคมในขณะที่เราทุกคนยังคงทำส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ” Steven
Lam กรรมการผู้จัดการของ HUGO BOSS South East Asia Pte Ltd. กล่าว

อเล็กซ์ ทอมสัน สุภาพบุรุษชาวอังกฤษ
ที่แล่นเรือใบรอบโลกคนเดียวโดยไม่เทียบฝั่งในรายการ Vendee Globe

Sailing with Style

เรือใบเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ทรหดอย่างมาก การตากแดดและออกแรงนานๆ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย หากคุณมองเพียงแต่ข้อเสีย คุณก็จะไม่มีทางรู้สึกถึงวันที่คุณเอาชนะตัวเองได้อีกขั้นจะมีวันที่ทุกคนรอทำข่าวคุณอยู่ที่เส้นชัย วันที่คุณกำลังจะเป็นคนโด่งดัง จนถึงจุดนั้นแล้วคุณจะคิดว่าจุดหมายอะไรก็คงไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ได้พบเจอระหว่างทาง

รายการที่โหดที่สุดในการแข่งขันเรือใบคือรายการ Vendee Globe 
ที่เป็นรายการแข่งเดี่ยว ไม่มีผู้ช่วย และไม่จอดเทียบท่าที่ไหนจนกว่า
จะถึงเส้นชัย ซึ่งเป็นรายการที่ก่อตั้งราวช่วงยุค ’90s เป็นการแข่งขันที่ 4 ปีจะจัดหนึ่งครั้ง โดยในการจัดแข่งขันครั้งแรก ผู้ชนะเลิศทำสถิติไว้ที่ 109 วัน ในขณะที่ผู้เข้าเส้นชัยคนสุดท้ายนั้นใช้เวลาถึง 163 วันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็มีหลายคนที่ไม่สามารถแข่งจนจบรายการด้วยปัญหาต่างๆ 
จึงเรียกได้ว่าหากใครเข้าเส้นชัยได้ก็เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

Alex Thomson (อเล็กซ์ ทอมสัน) คือสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ
ที่แล่นเรือใบรอบโลกคนเดียวโดยไม่เทียบฝั่งในรายการ Vendee Globe เป็นระยะเวลา 74 วัน 19 ชั่วโมง 35 นาที ไปเมื่อวันที่ 
20 มกราคม ค.ศ. 2017 แม้ในรายการเขาจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับสอง แต่เขาก็ถือว่าเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในโลก 
เมื่อเขาเทียบท่าใน Les Sabies d’Olonne ประเทศฝรั่งเศส มีคนรอต้อนรับเขากว่าพันคน แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำได้

การเข้าเส้นชัยครั้งนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย เพราะเพียง 13 วันหลังจากออกตัว เรือของเขาได้ประสบอุบัติเหตุโดยชนวัตถุบางอย่างใต้น้ำ เกิดรูรั่ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่ออุดรอยรั่วนั้น และแล่นเรือตามลำพังจนเข้าเส้นชัยในที่สุด “เส้นชัยนั้นไม่ได้มาจากตัวผมเพียงคนเดียว แต่ยังมีทั้งสปอนเซอร์ ครอบครัว เพื่อนพ้องที่คอยสนับสนุนผม และขอขอบคุณทีมงานที่ทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและเตรียมงานอย่างหนักเพื่อการแข่งขันครั้งนี้ 
เราเตรียมการล่วงหน้ามาเป็นปีเพื่อให้ผมและเรือมีความพร้อม
ที่สุด” อเล็กซ์ให้สัมภาษณ์

ในการแข่งขันครั้งนี้ อเล็กซ์ตั้งใจว่าจะทำลาย 4 สถิติ และเขาก็ทำได้สำเร็จตามเป้า “เราดีใจและภูมิใจกับความสำเร็จของเขามาก 
เราเตรียมการล่วงหน้าถึง 4 ปี ทั้งการเตรียมทีม การฝึกซ้อมร่างกาย การสร้างเรือ การเข้าเส้นชัยของเขาสร้างสถิติมากมาย เรารู้สึกว่าเราชนะไปกับเขาด้วย ต้องขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ทำให้การแข่งขันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” Mark Langer (มาร์ก ลังเงอร์) ซีอีโอแห่ง Hugo Boss AG กล่าว “การล่องเรือให้ครบจนจบรายการและเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าคุณจะเข้าอันดับที่เท่าไหร่ แต่ทุกคนคือผู้ชนะ Vendee Globe คือรายการกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่แข่งความอึดที่สุด ไม่มีใครกังขาในเรื่องนั้น”

The Boat

เป็นการสปอนเซอร์ร่วมกันระหว่าง Hugo Boss (อูโก้ บอสส์) และ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) โดยเลือกเรือรุ่น IMOCA ขนาด 60 ฟุต น้ำหนักรวม 7.5 ตันโดยประมาณ ถือเป็นหนึ่งในเรือที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ แรกเริ่มเรือลำนี้ถูกคิดขึ้นมาในปีค.ศ. 1986 และถูกพัฒนาเรื่อยมา โดยปัจจุบันได้บรรจุเทคโนโลยีนำทางด้วยคอมพิวเตอร์ โปรแกรมทำนายสภาพอากาศ และเพิ่มความแม่นยำต่างๆ ในระบบกลไกให้ง่ายต่อการควบคุมมากขึ้น รวมไปถึงโปรแกรมอย่างการขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Auto Pilot) ที่ถือว่าจำเป็นมากสำหรับการออกเรือเพียง
คนเดียว มีการเพิ่มความกว้างของเรือขึ้นอีกมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวยามอยู่เหนือลม และห้องเครื่องวัสดุหนา สำหรับปกป้องเครื่องยนต์ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการเดินเรือ

Sports enthusiasm

Hugo Boss มุ่งมั่นสนับสนุนกีฬา 4 ประเภทในปัจจุบัน ได้แก่ฟุตบอล กอล์ฟ รถแข่งฟอร์มูล่าวัน และการล่องเรือ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ในแต่ละแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นแรง ขับเคลื่อน ความแม่นยำ และความสมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนการออกแบบเสื้อผ้าของแบรนด์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้อยู่ด้วย