Posts

การแต่งตัวโกธิกร็อคหัวจรดเท้า นั่นไม่ใช่ความร็อคแบบ Hermès

Photography: Courtesy of Hermès © Hugues Laurent / Hermès © Studio des Fleurs

Author: Sethapong Pawwattana

ร็อคไม่ใช่เพียงแนวดนตรีอีกต่อไปสำหรับวงการแฟชั่น เพราะร็อคคือรูปแบบหนึ่งของแฟชั่นที่เหมือนเครื่องเทศรสจัดเข้ามาสร้างความเผ็ดซ่าให้กับงานดีไซน์ ความร็อคที่บ่งบอกถึงความเท่ ความไม่น่าเบื่อ ผสมผสานกับความ goth (ที่แยกมาจากพังค์) แต่อย่างไรก็ยังมีดีเอ็นเอของแอร์เมส (Hermès) เต็มเปี่ยม

ไม่ใช่การแต่งตัวร็อคหรือโกธิกร็อคหัวจรดเท้า นั่นไม่ใช่ความร็อคแบบ Hermès แต่นำชิ้นงานที่มีความร็อคมาผสมผสานกับสไตล์ที่เป็นคุณ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสุดร็อค Haut Courroies Rock bag ทำจากหนัง Evergrain calfskin แค่ดีไซน์ก็กินขาดแล้ว หรือใครชอบเติมเต็มด้วยของประดับกระเป๋า Rock Touch ของตกแต่งกระเป๋ารูปกีตาร์ทำจากหนัง (Tadelakt calfskin) Chamkila goatskin และ Mysore goatskin หรือจะเลือกความร็อคที่รองเท้าหนังลูกวัว derby ตกแต่งด้วยตัวล็อคแบบ Kelly buckle ต้องบอกว่าเผ็ดจริงสำหรับรองเท้าคู่นี้ หรือจะง่ายๆ แค่ผ้าพันคอลายเท่ที่เขย่าใจแบบชาวร็อคได้แน่ๆ Chorus Stellarum scarf 70 cm พิมพ์ลายเมทัลลิกบนผ้าไหม silk twill เหมือนการเติมเครื่องปรุงรสจัดให้ชีวิต เรามาเติมความร็อคกับลุคของเราให้คึกคักตั้งแต่ต้นปีนี้กัน

เสริมหล่อให้ลุคไปอีกขั้น กับกำไลข้อมือจากแบรนด์ชั้นนำ ไอเท็มเด็ดที่หนุ่มๆ ไม่ควรพลาด!

ช่วงหลังมานี้จะเห็นได้ว่าผู้ชายหลายๆ คนได้ลุกขึ้นมาสนุกกับการแต่งตัวกันมาขึ้น ไม่ว่าไอเท็มไหนที่ทำให้ดูดีก็ต้องไขว่คว้าหามาครอบครอง แต่หากจะให้สมบูรณ์แบบเราก็ต้องมีไอเท็มเด็ดที่จะมาเสริมลุคให้ดูดีขึ้นไปอีกขั้นกับ ‘กำไลข้อมือ’ จากแบรนด์หรูที่จะมาเสริมความแพง ส่งเสริมความหล่อให้เพิ่มไปอีกหนึ่งเลเวล วันนี้เราได้นำกำไลข้อมือจาก 6 แบรนด์ดังที่ประกอบไปด้วย Cartier, Tiffany and Co., Gucci, Louis Vuitton, Hermes และ Celine มาฝากเพื่อนๆ กันแล้วครับ แต่ละแบรนด์ก็มีวัสดุที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นช้อยส์ให้หลายๆ คนได้ตัดสินใจ หากใครกำลังมองหาเครื่องประดับติดข้อมือชนิดนี้อยู่ บอกได้เลยว่า ‘ของมันต้องมีครับ’ สวมเข้าคู่กับนาฬิกาคู่ใจข้อมือของคุณจะดูดีขึ้นมาทันที จะมีรุ่นไหนที่เราคัดสรรมาให้เพื่อนๆ กันบ้าง เราไปชมกันเลยครับ!

Cartier – LOVE Bracelet

Tiffany and Co. – Venetian Link I.D. Bracelet

Gucci – Bracelet with Interlocking G

Louis Vuitton – EMPREINTE

Hermes – Jumbo H Bracelet

Celine – Beach Bracelet in Brass with Rhodium Finish and Polyester

Love Is All You Need การร้อยเรียงงานประติมากรรม กับไอเท็มสำหรับสุภาพบุรุษ

Photographer : Thanut Treamchanchuchai

Stylist : Teeratat Somudomsup

การร้อยเรียงประวัติศาสตร์ของงานประติมากรรมรวมเข้ากับแบรนด์ Hermès ที่ไม่มีคำจำกัดความถึงรูปแบบ กรรมวิธี และสื่อกลางของการสร้างสรรค์ประติมากรรม

กำไลหนัง จาก Hermès
ผ้าพันคอผ้าแคชเมียร์พิมพ์ลาย จาก Hermès

Scents and Sensibility

เมื่อเรื่องของ ‘กลิ่นหอม’ กลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญในปัจจุบัน และมันไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้ด้วยเรื่องของเพศอีกต่อไป วันนี้เราเลยขอพาคุณมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกับโลกของน้ำหอม ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของโทนกลิ่น และวิธีการฉีดพรมที่น่าสนใจ

Photographer: Ponpisut Pejaroen

Fashion Editor: Chanond Mingmit

Author: Chayanon Chongprasert

“การวางตัวที่ดี และโคโลญจน์กลิ่นดีๆ ซักขวดจะทำให้ชายหนุ่มธรรมดาๆ กลายเป็นสุภาพบุรุษ” คำกล่าวของ Tom Ford นี้อาจจะดูเกินจริงไปบ้างในครั้งแรกที่อ่าน ในหัวของใครหลายคนตอนนี้คงกำลังคิดว่า แน่ล่ะ ว่าการวางตัวที่ดีจะช่วยเรื่องภาพลักษณ์ของคนเราได้ แต่กลิ่นโคโลญจน์หรือน้ำหอมนี่หรือ จะทำให้เรา ‘กลาย’ เป็นสุภาพบุรุษอันน่าดึงดูดไปได้ พูดแล้วก็เหมือนราวกับเวทมนตร์ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าหากลองคิดให้ดี กลิ่นหอมในขวดหลากรูปทรงนี้แหละ ที่ทำให้บุคลิกของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับตัวคุณในเวลาเดียวกัน

หากจะกล่าวไป การใช้น้ำหอมของผู้ชายนั้นมีมาหลายต่อหลายปีแล้วในประวัติศาสตร์ ถ้าหากลองศึกษาดู คุณอาจจะพบกับคำว่า ‘โคโลญจน์’ ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก่อนที่จะพัฒนากลายมาเป็นคำจำกัดความในแบบเดียวกันกับน้ำหอมของผู้หญิงที่หลายคนคุ้นเคย คำจำกัดความเหล่านี้ ถูกแบ่งออกตามความเข้มข้นของหัวน้ำหอมภายในขวดนั้น ซึ่งก็จะส่งผลให้โทนกลิ่น การกระจายตัวของกลิ่น และความติดทนนั้นแตกต่างไปตามระดับกัน ‘parfum’ คือระดับเข้มข้นที่มากที่สุด หรือเรียกว่าหัวน้ำหอมเลยก็ได้ ส่วน ‘cologne’ หรือ ‘โคโลญจน์’ นั้นเป็นระดับที่มีหัวน้ำหอมเบาบางที่สุด มอบกลิ่นที่โปร่งสบายกว่ากันพอตัว

การที่โคโลญจน์ถูกเลือกใช้โดยผู้ชายส่วนใหญ่ในยุคสมัยก่อนนั้น ก็เพราะโทนกลิ่นที่โปร่งของมันนั่นแหละ น้อยคนนักที่จะเลือกน้ำหอมกลิ่นที่มีความเข้มข้นสูงมาใช้ ด้วยทั้งสภาพอากาศรวมไปถึงพัฒนาการของวงการน้ำหอมเอง แต่ในปัจจุบัน มุมมองหลายๆ อย่างก็ถูกปรับให้ร่วมสมัยและเข้ากับความต้องการและการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เราจึงได้เห็นน้ำหอมผู้ชายในแบบ ‘parfum’,‘eau de parfum’ รวมไปถึง ‘eau de toilette’ ที่มอบความติดทนที่เหมาะกับหลากหลายโอกาส

มองง่ายๆ เมื่อระดับความเข้มข้นมากขึ้น ความติดทนก็จะมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ถ้าหากเป็นโอกาสพิเศษ ที่คุณต้องการกลิ่นที่โดดเด่นกว่าการใช้ชีวิตประจำวันนั้น ลองเลือกหยิบน้ำหอมในรูปแบบ parfum ที่เข้มข้นมาแต้มบนผิว ส่วนในชีวิตประจำวัน วันไหนต้องการความติดทนซักหน่อยพร้อมกับโทนกลิ่นที่เข้มข้น คุณสามารถเลือกใช้น้ำหอมในรูปแบบ eau de parfum ได้ หรือถ้าหากเป็นวันสบายๆ ลองเลือกหยิบ eau de toilette หรือ cologne มาฉีดพรมก็เป็นความคิดที่ดีและเหมาะกับบรรยากาศที่คุณต้องการได้อย่างดี

พูดกันถึงเรื่องความเข้มข้นไปแล้ว เราขอพาคุณมาทำความรู้จักกับเรื่องของโทนกลิ่นของน้ำหอมกันบ้างดีกว่า นานนับปี วัตถุดิบชั้นดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้หอม ดอกไม้ สมุนไพร เครื่องหอมนานาชนิด แร่ธาตุ หรือแม้แต่สารสกัดพิเศษจากทั้งสัตว์หรือสารเคมีที่ปลอดภัยต่อการสูดดม ถูกเก็บเกี่ยวและเสาะหามาถึงมือของสุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอมระดับแถวหน้ามาอย่างนับไม่ถ้วน วัตถุดิบเหล่านี้ถูกผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อให้เกิดทั้งกลิ่นที่น่าหลงใหล สดชื่น หรือน่าค้นหา เพื่อบ่งบอกตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างหลากหลาย

สำหรับครั้งนี้ เราขอเลือก 3 โทนกลิ่นที่กำลังเป็นที่นิยมมาแนะนำให้คุณรู้จัก หรือถ้าหากใครรู้จักอยู่แล้วนั้น ก็หวังว่าเราจะทำให้คุณได้รู้จักกับโทนกลิ่นที่คุณหลงรักมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยกลิ่นโทน ‘woody’ โดยจะมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นอย่างกลิ่นจากไม้หอมเป็นหัวใจหลัก อย่างเช่นซีดาร์วู้ด แซนดัลวู้ด หรือโรสวู้ด ซึ่งก็จะถูกห้อมล้อมผสมผสานด้วยกลิ่นของเครื่องเทศบ้าง ผลไม้บ้าง หรือแม้แต่ดอกไม้ก็ตาม กลิ่นโทน woody จะมาพร้อมกับความอบอุ่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความลุ่มลึกและน่าค้นหาในตัวตน ตามแต่ส่วนผสมอื่นๆ ที่มาด้วยกัน กลิ่นหอมที่ดูจะเหมาะกับคาแรคเตอร์ของผู้ชายที่ลุ่มลึกและน่าค้นหา

โทนกลิ่นที่สองคือโทนกลิ่นแบบ ‘aromatic’ โทนกลิ่นหอมที่มีความเย้ายวนมากยิ่งขึ้น เป็นกลิ่นที่เหมาะ กับคาแรคเตอร์เท่ๆ ดูลึกลับ หรือเหมาะกับโอกาสพิเศษอย่างงานกลางคืนหรืองานสังสรรค์ โดยจะผสมผสานกลิ่นเครื่องเทศอย่างซินนาม่อน ลูกจันทน์ หรือทองก้าบีนส์ ไว้กับกลิ่นของแผ่นหนังหรือเครื่องหอมอย่างกำยาน ก่อนจะปิดท้ายความอบอวลด้วยมัสก์ที่สร้างมิติให้กับกลิ่น อาจจะมีกลิ่นของสมุนไพรหรือผลไม้เข้ามาสร้างสีสันบางครั้ง

และโทนกลิ่นสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำก็คือ ‘fresh’ หรือ ‘citrus’ ที่โดดเด่นมาด้วยความสดชื่น นำโดยผลไม้รสเปรี้ยวหลากชนิด เช่น เลม่อน หรือส้มแมนดาริน ผสมผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้หอมต่างชนิด รวมไปถึงดอกไม้ที่ไม่ได้มีกลิ่นที่เด่นชัดมากนัก อย่างเช่นจำพวกดอกไม้สีขาว เป็นกลิ่นที่เหมาะกับวันสบายๆ ให้ความสปอร์ตและมีมาด เป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เราจะขอทิ้งท้ายไปด้วยวิธีการฉีดน้ำหอมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่างที่รู้กันว่าการฉีดน้ำหอมนั้น ควรเริ่มจากบริเวณจุดชีพจร ไม่ว่าจะเป็นลำคอ ข้อมือ หรือข้อพับแขน เพราะจะเป็นจุดที่ร่างกายมีความร้อนและจะทำให้กลิ่นกระจายตัวได้ดีอย่างที่สุด สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้คุณทำความเข้าใจอีกครั้งหรือหยุดทำกันไปเลย คือการฉีดน้ำหอมและถูข้อมือทั้งสองข้างไปด้วยกันทันที การกระทำนี้จะทำให้กลิ่นของน้ำหอมนั้นเพี้ยนได้ เพราะเปรียบเสมือนกับไปขัดการทำงานของน้ำหอมให้ผิดขั้นตอน และกลิ่นหอมที่คุณเคยได้จากขวดหรือบนกระดาษที่เคยลองนั้น ก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ทีนี้นอกจากจุดชีพจรที่เรากล่าวไปแล้วนั้น ก็ยังมีเทคนิคการฉีดน้ำหอมที่เราอยากจะแบ่งปันกันเพิ่มเติม อย่างเช่นวันไหนที่คุณใส่กางเกงขาสั้น ลองฉีดน้ำหอมบริเวณข้อพับขา เพื่อเป็นการช่วยให้กลิ่นน้ำหอมของคุณนั้นกระจายตัวได้มากขึ้น โดยความร้อนจากพื้นดินจะยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมของคุณโดดเด่นขึ้นได้อีก หรือถ้าหากคุณต้องการที่จะยืดความติดทนของน้ำหอมของคุณโดยไม่อยากได้ความเข้มข้นที่มากขึ้นนั้น ลองผสมผสานกลิ่นหอมที่คุณชอบเข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณให้มากขึ้น ด้วยการใช้สบู่และครีมทาผิวกายในกลิ่นเดียวกัน ก่อนจะฉีดพรมน้ำหอมลงเป็นขั้นสุดท้าย เป็นอีกวิธีที่ดีที่จะทำให้น้ำหอมของคุณติดทนมากยิ่งขึ้นและยังทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับกลิ่นที่คุณรักมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

GROOMING: Sirima Khongtong

Model: Zsombar @Tofu Models

NO more DRAMA การเดินทางของโลกที่เปลี่ยนผ่านกับไอเท็มสุภาพบุรุษ

Photographer: Thanut Treamchanchuchai

Stylist: Teeratat Somudomsup

การเดินทางของโลกที่เปลี่ยนผ่าน ‘เครื่องฉายภาพยนตร์’ เป็นอุปกรณ์สำหรับฉายแสงให้ผ่านตัวฟิล์ม มาเป็นภาพเคลื่อนไหว การตีความโลกของยุคก่อนกับโลกยุคใหม่ไปในไอเท็มสำหรับสุภาพบุรุษ

ทั้งเข็มขัดหนังที่มีดีไซน์หัวแบบวินเทจ จาก Celine อย่างรองเท้าหนังรูปทรงคลาสสิก ที่ได้นำมาใส่เอกลักษณ์ของทางแบรนด์ หรือจะเป็นกระเป๋าผ้าแคนวาสที่ทำลวดลายทออย่าง Prada Symbole ที่เปรียบได้ดั่งสัญลักษณ์ที่ทรงพลัง อยู่เหนือกาลเวลา 

รองเท้าหนัง จาก Hermès

มัดรวมไอเท็มสีแดงจากแบรนด์ดัง! เตรียมพร้อมออกเดตต้อนรับวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึงนี้

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่หนุ่มๆ หลายคน ต้องหาไอเท็มหล่อ ที่จะมาเสริมลุคให้ดูดี กับการไปออกเดตในวันสำคัญอย่าง วันวาเลนไทน์ แล้วไอเท็มสีอะไรกัน ที่จะเหมาะกับความโรแมนติกนี้ คงจะหนีไม่พ้น ‘สีแดง’ นั่นเอง! วันนี้เราได้นำหลากไอเท็มสีแดงจากแบรนด์ดังมาฝากเพื่อนๆ กันแล้วครับ ก่อนจะถึงวาเลนไทน์สามารถพุ่งไปช้อปลุคหล่อ เตรียมพร้อมรับดินเนอร์สุดหวานกันได้เลย จะมีแบรนด์อะไรบ้าง เราไปชมกันเลยครับ!

LOUIS VUITTON

LV X YK PSYCHEDELIC FLOWER EMBROIDERED VARSITY BLOUSON

VERSACE

LA GRECA KNIT SWEATER

LOEWE

Ceramic print T-shirt in cotton

GUCCI

adidas x Gucci jersey pant

DIOR

DIOR BY ERL DIOR LINGOT 22 BAG

 

FENDI

Fendi and Porter Baguette Mini Phone Case

HERMES

Tie 7 Glenan Twillbi tie

PRADA

Prada America’s Cup Soft rubber and bike fabric sneakers

เปิดลุคบุคให้ชมทุกดีเทลกับรองเท้าคอลเล็กชั่นล่าสุด Spring-summer 2023 จาก Hermès

รองเท้าคอลเล็กชั่นล่าสุด Spring-summer 2023 จาก Hermès กับลุคบุคที่ถ่ายโดย Thue Nørgaard และมี Ohlman Consorti ช่วยจัดแจงในเรื่องของสไตล์ลิ่ง วัสดุสุดพรีเมี่ยมอย่าง หนังแกะ หนังลูกวัว หนัง Nappa หนังกลับจนไปถึงผ้าใบและผ้าไหมพิมลายผสมผสานเข้ากับเทคนิคอันประณีตของ Hermès ไปชมทุกคู่เต็มๆได้เลยครับ! 

rhunrun เรียบเรียง

กดซูมกระเป๋าและรองเท้าชิ้นเด่น 5 แบรนด์ดังขวัญใจหนุ่มสายแฟ จากรันเวย์ Fall/Winter 2023

เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ แต่ละแบรนด์ฝั่งสุภาพบุรุษ ค่อนข้างที่จะงัดไม้เด็ดมาสู้กันอย่างเต็มที่เลยก็ว่าได้ครับ ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่กลุ่มเครื่องหนังและรองเท้า ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่หนุ่มๆ รอคอย และลุ้นว่าแบรนด์ในดวงใจจะมีของเด็ดอะไรที่จะมาโชว์ในฤดูกาลนี้บ้าง วันนี้เราได้มัดรวม 5 แบรนด์ยักใหญ่ ที่หนุ่มๆ สายแฟในบ้านเรา ยกให้แบรนด์ในดวงใจ ได้แก่ Hermes, Louis Vuitton, Dior, Loewe และ Givenchy เราไปชมกันดีกว่าครับว่า ว่าเครื่องหนังและรองเท้าแต่ละแบรนด์จะสวยงามเพียงใด จะมีชิ้นไหนโดนใจกันบ้าง เราไปชมกันเลย!

Louis Vuitton

ต้องบอกเลยว่าในฤดูกาลนี้ Louis Vuitton มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ ครับ หลังจากที่เรารอคอยว่า ใครกันจะมาเสริมทัพร่วมกับทีมสตูดิโอ และก่อนสัปดาห์แฟชั่นสุภาพบุรุษ ฝั่งปารีสจะเริ่มขึ้น ทางแบรนด์ก็ได้ออกมาประกาศถึงการรายชื่อ ผู้ที่จะมาร่วมทีมเสริมทัพในครั้งนี้ นั่นก็คือ Colm Dillane นั่นเอง ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ในกลุ่มของกระเป๋าและรองเท้า เขาคนนี้ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้คอลเล็กชั่นนี้ตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้น เราได้นำไอเท็มชิ้นเด็ด (บางส่วน) จากคอลเล็กชั่นนี้มาฝากกันแล้ว ไปชมกันเลย

Hermes

ตามติดมาด้วย แบรนด์หรูสุดคลาสสิกอย่าง Hermes โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Véronique Nichanian ที่ในครั้งนี้คอลเล็กชั่นสุภาพบุรุษ Fall/Winter 2023 ได้นำไอเท็มสุดไอคอนิค มาปรับเปลี่ยนวัสดุหรือขนาด ให้ดูสุขุมมากยิ่งขึ้นสำหรับฤดูกาลนี้

Dior

ต่อกันด้วยอีกหนึ่งแบรนด์ ที่เรียกได้ว่ามีสายแฟชาวไทย ตั้งตารอคอยกันพอสมควร กับแบรนด์ Dior โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Kim Jones นับเป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ทางแบรนด์ทำเครื่องหนังและรองเท้าออกมาได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุหรือการใช้สี อีกทั้งกระเป๋าไอคอนิคอย่างกระเป๋า อานม้า ก็ได้ปรับโฉมให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นในฤดูกาลนี้

Loewe

และอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยครับอย่างแบรนด์ Loewe ในเรื่องความเชี่ยวชาญด้านเครื่องหนัง ต้องไว้ใจแบรนด์นี้เลยครับ สำหรับฤดูกาลนี้ Jonathan Anderson ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ได้ทำกระเป๋าทรงธรรมดาให้ไม่ธรรมดา พร้อมสอดแทรกกิมมิกมาให้เราได้ตื่นเต้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า Tote ใบเด่นที่มาในวัสดุหนัง พร้อมการตัดต่อที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมรองเท้าทรง Flat หุ้มข้อรูปทรงกางเกง เป็นต้น

Givenchy

ปิดท้ายด้วยแบรนด์สุดเท่อย่าง Givenchy โดยผู้อำนวยการสร้างสรรค์ Matthew M Williams ต้องบอกได้เลยว่าหนุ่มๆ สายเท่ ต้องถูกใจกระเป๋าและรองเท้าในคอลเล็กชั่นนี้กันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากวัสดุที่ดูแปลกตาแล้ว บางใบยังสามารถใช้แบบสมบุกสมบันได้ด้วย อาทิ น้องใบจิ๋วที่มาในวัสดุหนังดำ-เขียว ทำเทคนิคให้ดูแตกลาย หรือจะเป็น กระเป๋าคาดอกใบใหญ่ในวัสดุแคนวาสทหาร เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาดครับ!

One Fine Day

Artist: PETCHPAINTS

petit h celebrates Bangkok! จิตวิญญาณแห่งการมอบชีวิตให้กับสิ่งต่างๆ อีกครั้ง ผ่านงานฝีมือและการสร้างสรรค์ครั้งใหม่

petit h นำเสนอบรรยากาศของความเบาสบาย มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และความเป็นเลิศด้านงานฝีมือ ที่ร้าน Hermès ไอคอนสยาม ในรูปแบบของบทสนทนาอันแสนเพลิดเพลินจากการรังสรรค์ชิ้นงาน การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ และความยั่งยืน

petit h เวิร์คชอป ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ Godefroy de Virieu กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงานแบบย้อนกลับ อันเนื่องมาจากจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้มาจากการออกแบบชิ้นงานก่อน แต่กลับเกิดจากความปรารถนาที่จะมอบชีวิตให้กับวัสดุเหลือใช้อันทรงคุณค่าอย่าง หนัง ซิลค์ คริสตัล และพอร์ซเลน โดยช่างฝีมือ ศิลปิน และดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ ผสมผสานวัสดุต่างๆ ประกอบ ดัดแปลง และปรับแต่งขึ้นใหม่ ด้วยวิธีการหลากหลายนับพัน petit h เวิร์คชอป คืนชีวิตให้กับวัสดุได้กลับมามีคุณค่าและมีความหมายอีกครั้ง กำเนิดผลงานสร้างสรรค์อันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ งามสง่าและเหมาะแก่การใช้งาน ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของ Hermès ที่ยึดมั่นในอิสระภาพแห่งการสร้างสรรค์ การใช้วัสดุชั้นเลิศ และองค์ความรู้ความชำนาญของช่างฝีมือ เกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นมีชีวิตชีวาและสร้างความประทับใจ

ปาร์ตี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! ในเทศกาลงานวัดที่แสนคึกครื้น ซึ่งจัดในชุมชนท้องถิ่นของไทย petit h ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งเทศกาลตามประเพณีอันสนุกสนานของไทย สร้างสรรค์และนำเสนอในรูปแบบใหม่ ด้วยการแปลงโฉมทั้งสองชั้นของร้าน Hermès ไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร โดยศิลปินชาวไทย Suntur (ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล) ได้ตีความคอนเซ็ปต์งานวัดออกมาด้วยสไตล์มินิมอลอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา สะท้อนความโดดเด่นของงานออกแบบที่แยบยล และความคิดสร้างสรรค์อันล้ำลึกของ petit h บนพื้นทรายสีขาว จัดวางด้วยรถเข็นขายของ และรถเข็นบนแท่นอิฐสีสันสดใส ที่ทำขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล และตกแต่งด้วยร่มที่ทำจากผ้าพันคอซิลค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ nomadic แสงไฟประดับประดาที่สนุกครึกครื้น และธงที่ตกแต่งโบกสะบัด สอดผสานพื้นที่จัดแสดง สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของ petit h ที่ชิ้นงานล้วนผ่านการสร้างสรรค์อย่างอิสระ ผสานวัสดุที่หลากหลายอย่างไร้ซึ่งขีดจำกัด อย่างเช่นชั้นวางหนังสือรูปช้าง ที่โครงสร้างห่อหุ้มด้วยหนังหลากสีสัน และในอีกมุมจะพบกับเปลญวน ที่ถักทอรอยเรียงจากริบบิ้นซิลค์อย่างบรรจงและน่าดึงดูดใจแก่ผู้มาเยือน ซึ่งกำลังมองหามุมนั่งพักผ่อน ผลงานสร้างสรรค์ทั้งสองชิ้นนี้และอีกหลากหลายชิ้นในงาน แต่งแต้มชีวิตชีวา สอดผสานไปตามจังหวะที่สนุกสนานได้อย่างลงตัวในกรุงเทพมหานครแห่งนี้

rhunrun เรียบเรียง ร่วมสัมผัสประสบการณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2565

coffin dodger

t o n g