Author: Sethapong Pawwattana
Photographer: Narurbes Vadvaree
หลายคนอาจจะเคยไปเยี่ยมชม Gucci Garden ที่นครฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งไม่ใช่ที่แสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียน แต่เป็นสถานที่ที่ผู้ชมจะได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณแห่ง Gucci ผ่านการจัดแสดงต่างๆ ขณะเดียวกันก็ได้มีการจัดนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งเป็นนิทรรศการมัลติมีเดีย Gucci Garden Archetypes ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในเมืองฟลอเรนซ์ และเดินทางมาถึงนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากเซี่ยงไฮ้ ไทเป ฮ่องกง โตเกียว และโซล โดยเราได้มีโอกาสไปสัมผัสความสุดพิเศษนี้พร้อมกับวีไอพีจากประเทศไทย คือ กลัฟ – คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ โดยสถานที่จัดงานคือ Powerhouse Ultimo
นิทรรศการนี้เป็นการนำเอาแคมเปญโฆษณามาบอกเล่าใหม่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายและแหวกแนวที่สุดของ Gucci ซึ่งสร้างสรรค์โดย Alessandro Michele ซิดนีย์จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งที่ 7 ของโลกสำหรับดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเดินทางแห่งนี้ ต้นแบบคือรูปแบบดั้งเดิมทั้งหมดและจะไม่มีวันสร้างซ้ำอีก ทุกๆ แคมเปญของ Gucci จะพูดถึงช่วงเวลาที่ไม่เหมือนใครและไม่สามารถทำซ้ำได้ แสดงออกถึงจิตวิญญาณของแต่ละคอลเลกชั่น ในขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดแนวคิดที่สะท้อนถึงปรัชญาที่ครอบคลุม เป็นอิสระ และกล้าหาญของครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ (เราไปในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมิเคเล่ยังไม่ประกาศการลาออกจาก Gucci)
เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลพร้อมกางเกงเข้าชุด หูกระต่ายกำมะหยี่ ถุงเท้าผ้าทอลายและรองเท้าหนังตกแต่งด้วยแถบ web และสัญลักษณ์ horsebit ทั้งหมดจาก Gucci
เรามาถึงซิดนีย์ในช่วงเช้า หลังจากเข้าที่พักและออกไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Bar Totti’s ที่มีชื่อเสียงแถวจอร์จสตรีท ย่านกลางเมือง ร้านนี้อาหารอร่อย มีขนมปังอบจากเตาฟืนมาเป็นแผ่นกลมๆ พองๆ เป็นเอกลักษณ์ อาหารจานเล็กจานน้อยเพื่อนำมาแชร์กันตรงกลางเหมือนกินข้าวที่บ้าน คนต่างชาติจะว้าวกับคอนเซ็ปต์นี้ คนไทยที่กินอาหารเป็นสำรับเป็นเรื่องเคยชินจะว้าวกับรสชาติอาหารระหว่างรอรถมารับกลับไปโรงแรมก็มีการทำคอนเท้นต์กับกลัฟ เป็นการทักทายจากซิดนีย์ เรียกว่าสื่อมวลชนที่มาเป็นผู้รายงานกิจกรรมต่างๆ ของวีไอพีที่ Gucci เชิญมา แต่หลักๆ ของบ่ายนี้คือถ่ายแฟชั่นกลัฟกับชุดในคอลเลกชั่น Cosmogonie สำหรับตีพิมพ์ในนิตยสารลอฟฟีเซียล ออมส์ (เดือนธันวาคม 2565) โดยเราได้เลือกจุดชมวิวบน Observatory Hill Park เป็นหลัก กับการพยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตก 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เรียกว่าถอดใจกันตั้งแต่มาถึง แต่นี่เป็นความดีใจมากอีกครั้งที่การพยากรณ์ผิดพลาด เมฆฝนทะมึนมาก แต่ฝนไม่ตก ทำให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นมาก หลังจากเปลี่ยน 4 ชุดกับการเดินตามโลเคชั่นลงจากเนินเขามาริมท่าเรือ เราก็ปรึกษากันว่าขออีกชุดเพื่อปิดวันนี้โดยจะไปเอาชุดเพิ่มที่โรงแรมแล้วไปต่อใต้สะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ แต่ระหว่างรถติดก่อนจะถึงโรงแรม (ที่ซิดนีย์รถติดไฟแดงกับวันเวย์ คือต้องขับรถอ้อม) เสียงคุยที่คึกคักเริ่มเงียบ มองหน้ากันก็รู้สึกว่าทีมงานแบตเตอรี่ใกล้หมดเพราะตั้งแต่มาถึงยังไม่มีใครได้พัก จึงขอเก็บไว้ไปถ่ายเพิ่มวันอื่นจะดีกว่า แต่ทุกคนรวมทั้งกลัฟบอกพร้อมลุยต่อนะ แต่เรายังมีวันอื่นๆ เผื่อแสงจะเป็นใจกว่าวันนี้
วันต่อมาเราได้เข้าไปชมนิทรรศการ Gucci Garden Archetypes ก่อนในช่วงสายๆ พร้อมทำคอนเท้นต์กับกลัฟที่นิทรรศการก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในช่วงเย็นที่จะมีค็อกเทลและการเปิดให้สื่อมวลชนทั้งหลายชมนิทรรศการในตอนค่ำ แต่งานกาล่าที่จะเปิดนิทรรศการจะมีอีกในค่ำวันต่อไป การได้ไปชมนิทรรศการก่อนวันเปิดงานจริงๆ ถึงสองรอบในวันเดียวกันนี้ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับนิทรรศการนี้อย่างแท้จริง รวมทั้งมีเวลาทำคอนเท้นต์กับกลัฟโดยเฉพาะของเรา ก่อนรอบเย็นจะมีวีไอพีและสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ มาร่วมงาน คนก็จะคึกคักมากหน่อย การทำงานอาจจะไม่สะดวกเท่าช่วงสาย จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องมาถึงสองครั้ง และเรายังมีโอกาสสัมภาษณ์อเลสซานโดร มิเคเล่ ผ่านทางดิจิตัลในช่วงสองทุ่มของค่ำคืนวันนี้อีกด้วย ถือเป็นโอกาสที่พิเศษและหายากยิ่ง
สเวตเตอร์คอเต่าผ้าขนสัตว์สวมทับด้วยสเวตเตอร์แขนกุดผ้าขนสัตว์ทอลาย ทั้งหมดจาก Gucci
เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์พร้อมกางเกงเข้าชุดหูกระต่ายกำมะหยี่ หมวกปีกกว้างทำจากหนัง กระเป๋าสะพายข้างรุ่น Dionysus ทั้งหมดจาก Gucci
เชิ้ตผ้าฝ้ายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์พร้อมกางเกงเข้าชุด กระเป๋าสะพายข้าง ทำจากหนังรุ่น GG embossed mini tote bag ปั๊มลวดลาย GG นูนสีดำ รองเท้าหนัง ทั้งหมดจาก Gucci
Gucci Garden Archetypes นำเสนอแรงบันดาลใจที่หลากหลายจากดนตรี ศิลปะ การเดินทาง และวัฒนธรรมป็อปผ่านแคมเปญของ Gucci “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ได้ร่วมเดินทางกับผู้คนในความท้าทายเกือบ 8 ปีที่ผ่านมานี้ เชื้อเชิญให้พวกเขาก้าวข้ามจินตนาการ การเล่าเรื่อง สิ่งที่คาดไม่ถึง ความแวววาว ดังนั้นผมจึงสร้างสนามเด็กเล่นแห่งอารมณ์ที่เหมือนกับในแคมเปญ เพราะสิ่งเหล่านี้คือการเดินทางสู่จินตภาพของผมอย่างชัดเจนที่สุด” อเลสซานโดร มิเคเล่ ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ของนิทรรศการนี้กล่าวไว้
เทคโนโลยีล้ำสมัย งานประดิษฐ์ด้วยมืออย่างประณีตและการออกแบบภายในที่เป็นนวัตกรรมของโลกที่แตกต่างและชวนดื่มด่ำ ออกแบบโดย Archivio Personale ซึ่งเป็นสตูดิโอออกแบบที่ได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของมิเคเล่ให้เป็นพื้นที่เล่าเรื่องที่สะท้อนและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของวิสัยทัศน์ของเขา ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับมุมมองสดแบบแยกหน้าจอของนิทรรศการที่พวกเขากำลังเข้าไปชม ภายในเครือข่ายของพื้นที่และทางเดินตามธีมการสร้างแคมเปญ Gucci ระดับโลกที่สลับซับซ้อนมีชีวิตชีวา
ผู้ชมยังได้เข้าสู่สรวงสวรรค์อันหอมกรุ่นของ Gucci Bloom สวนในจินตนาการที่ซ่อนเร้นกลายเป็นสถานที่แห่งอิสรภาพสำหรับสามดาราของแคมเปญ ได้แก่ นักแสดงหญิง Dakota Johnson, ศิลปินและช่างภาพ Petra Collins และนางแบบนักแสดงอย่าง Hari Nef มีเสน่ห์และแหวกแนวทั้งสามคนนี้ร่วมกันนำวิสัยทัศน์ใหม่ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ก่อนฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 การแสดงความเคารพต่อเยาวชนชาวปารีสของ ‘พฤษภาคม 68’ ในวันครบรอบ 50 ปีนั้นถูกกระตุ้นด้วยกำแพงที่มีงานกราฟฟิตีที่แสดงออกถึงพลังอารยะขัดขืนของหนุ่มสาวชาวฝรั่งเศสในยุคนั้น (การประท้วงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในปารีส)
เสื้อคอปกโปโลผ้าทอลาย กระเป๋าทรงแข็ง GG Top Handle สะพายข้างมีหูจับด้านบน กางเกงผ้าขนสัตว์ ทั้งหมดจาก Gucci
สเวตเตอร์คอเต่าสวมทับด้วยสเวตเตอร์แขนกุดผ้าขนสัตว์ทอลาย กางเกงผ้าขนสัตว์ รองเท้าหนัง ทั้งหมดจาก Gucci
แคมเปญ Beloved Show ถูกสร้างขึ้นใหม่ โดยแสดงฉากที่นักแสดงฮอลลีวูดระดับ A-list ต่อความกับพิธีกรทอล์คโชว์ด้วยอารมณ์ขันที่เฉียบคมโดยมีภาพเส้นขอบฟ้าของนครซิดนีย์เป็นฉากหลัง ขณะที่โชว์กระเป๋าถือของพวกเขาอย่างภาคภูมิ ซึ่ง Gucci Beloved ได้แก่ Dionysus, Horsebit 1955 และ Jackie 1961 ต่างเป็นกระเป๋าที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองซึ่งเป็นคอลเลกชั่นอันน่าหลงใหลของแคมเปญ Fall/Winter 2018 แต่ห้องที่หลายคนทึ่งเพราะทั้งพื้นและเพดานปูด้วยวัสดุแบบกระจกเงา ทั้งห้องเติมเต็มพื้นที่ตั้งแต่พื้นจรดเพดานให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับชั้นวางที่เรียงรายไปด้วยนาฬิกากุ๊กกู เครื่องเคลือบ และกระเป๋าถือ Marmont หลายร้อยใบ โดยแขกที่มาชมงานยังพบว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำไนต์คลับยุค ’80s ของแคมเปญ Spring/Summer 2016 ที่จัดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน แคมเปญนี้สร้างความสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เผยโฉม และในนิทรรศการนี้ก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่คนมาชมเดินวนเวียนดูรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งหุ่นในเครื่องแต่งกายของ Gucci ที่จัดแสดงในห้องนั้น กลัฟถูกขอให้โพสท่ากับหุ่นในห้องน้ำหลายครั้งจนถูกแซวว่าหุ่นนั้นเป็นเพื่อนคุณกลัฟ รวมทั้งเข้าไปแดนซ์ในห้องที่เข้าไปในเขาวงกตที่เป็นกระจกเหมือนเข้าไปในบ้านโอ่อ่า โดยมีจอแอลอีดีขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ เหมือนที่เป็นหัวใจของแคมเปญ ‘The Dionysus Dance’ ของ Cruise 2016 และนั่งรถไฟใต้ดินใน LA เหมือนที่เคยปรากฏในแคมเปญ Fall/Winter 2015 ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของมิเคเล่ที่ทำได้เสมือนจริงมาก ต้องยอมรับว่าเป็นนิทรรศการที่ถ่ายทอดเอาแคมเปญสำคัญๆ ของ Gucci มาได้อย่างลงตัวน่าสนใจและน่าทึ่งมาก
เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลพร้อมกางเกงตกแต่งด้วยคริสตัลเข้าชุด รองเท้าหนัง ทั้งหมดจาก Gucci
วันรุ่งขึ้นทุกคนมาพบกันพร้อมความสดใสและเตรียมตัวไปรับประทานอาหารกลางวันเพื่อต้อนรับเหล่าสื่อมวลชนและวีไอพีจากประเทศต่างๆ อาทิ Luna Maya นักแสดงสาวจากอินโดนีเซีย, Nadine Lustre จากฟิลิปปินส์, Lawrence Wong จากสิงคโปร์ ฯลฯ ที่ร้าน Barbetta ถนนเอลิซาเบธ โดยมี Gucci Global Brand Ambassador คือ Olivia DeJonge นักแสดงชาวออสเตรเลียเป็นดาวเด่นของงาน บรรยากาศงานเป็นกันเองมากๆ โอลิเวียมากับน้องชาย ไม่มีคณะผู้ติดตามหรือต้องมีซีนเปิดตัว และให้ความเป็นกันเองกับทุกๆ คนมาก และเธอกับน้องชายยังไปนั่งบิ๊กบัสสีชมพูตกแต่งเป็นลวดลาย Gucci Garden Archetypes เพื่อชมนครซิดนีย์กับเราในภาคบ่ายอีกด้วย ก่อนจะลาจากเราระหว่างทางที่รถบัสผ่านใกล้บ้าน เธอก็แยกเดินกลับบ้านกับน้องชายเก๋ๆ เออ… ดูเป็นผู้หญิง Gucci มากๆ ความออร่าที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องประกอบใดๆ แต่พอค่ำคืนงานกาล่าเพื่อเปิดนิทรรศการเธอก็เข้าสู่โหมดหรูหราในชุดราตรี Gucci สีเขียวที่สวยสุดใจ
ส่วนกลัฟก็อยู่ในโหมดพร้อมให้ทีมงานทำคอนเท้นต์ตลอด ต้องชมทั้งกลัฟและทีมที่มาคือมีความพร้อมมาก กลัฟได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจาก SEA มาก มีการทำคอนเท้นต์ตลอด รวมถึงการสัมภาษณ์ ซึ่งกลัฟได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ได้เห็นว่าวีไอพีที่เชิญมาร่วมทริปจะต้องพร้อมกับการทำคอนเท้นต์เสมอสำหรับโซเชียลมีเดีย ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมวงการมีเดียหลังวิกฤติโควิดที่จะต้องมีคอนเท้นต์อย่างสม่ำเสมอเมื่อมีอีเว้นต์สำคัญๆ
ในค่ำคืนนั้นเป็นงานเปิดนิทรรศการ Gucci Garden Archetypes ซึ่งในส่วนของสื่อมวลชนได้ทำคอนเท้นต์ต่างๆ ในวันก่อนหน้านี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นการลำดับการทำงานที่ดีมาก ทำให้ได้เนื้อหาเกี่ยวกับนิทรรศการที่ต้องการอย่างครบถ้วน อากาศที่ซิดนีย์ค่อนข้างหนาว แต่หน้างานก็มีกลุ่มแฟนคลับของกลัฟมารอต้อนรับ เช่นเดียวกับตอนที่เดินทางมา แฟนคลับของกลัฟมาส่งที่สนามบินเยอะมาก แต่ทุกคนอยู่ในความเรียบร้อยและทำตามข้อปฏิบัติของการท่าอากาศยานฯ ไม่เพียงแต่อยู่ในโซนที่การท่าฯ จัดให้อย่างเป็นระเบียบ แต่ไม่มีการส่งเสียงดังรบกวนผู้มาใช้บริการสนามบิน แฟนคลับที่มาต้อนรับกลัฟหน้าสถานที่จัดนิทรรศการยังอยู่รอส่งกลัฟในตอนกลับ น่าปลื้มใจแทน และในค่ำคืนของงานกาล่าเปิดนิทรรศการก็เหมือนไฮไลท์ของทริปนี้ นอกจากบรรดาวีไอพีจากประเทศต่างๆ ยังมีการแสดงจากดีเจ Anderson Paak ที่ทำให้ค่ำคืนนั้นมีสีสันและประทับใจทุกคนที่ได้มาร่วมงาน
Gucci Garden Archetypes เป็นเรื่องราวต่อเนื่องของการเดินทางสู่จินตนาการของ อเลสซานโดร มิเคเล่ ซึ่งเป็นคลังที่แท้จริงของความคิดสร้างสรรค์ที่เสมือนออกมาปรากฏอยู่บนจอแสดงผล คอลเลกชั่นภาพและความน่าตื่นตาตื่นใจ เสริมด้วยถ้อยความโดยบุคคลในแวดวงวัฒนธรรม รวมถึงนักวิจารณ์ศิลปะ Achille Bonito Oliva, นักปรัชญา Emanuele Coccia, ศิลปินและนักวิจัย Anna Franceschini, ภัณฑารักษ์ Antwaun Sargent และ Shaway Yeh ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนและวัฒนธรรม
เรามีเวลาที่ซิดนีย์อีกหนึ่งวันเพื่อเก็บบรรยากาศต่างๆ และถ่ายทำคอนเท้นต์รวมถึงแฟชั่นกับกลัฟที่ตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้ามเรือไปฝั่งตรงข้ามของสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์เพื่อจะได้ภาพบนเรือข้ามฟาก ซึ่งเพิ่งทราบเหมือนกันว่าใช้บัตรเครดิตแบบสมาร์ทการ์ดแตะที่กั้นทางเข้าและไปถึงท่าเรือใดที่เป็นจุดหมายเราก็แตะออก บัตรก็จะถูกตัดค่าใช้จ่ายตามระยะทางการโดยสาร แน่นอนว่าจากไทยแลนด์ก็มีหลายคนที่บัตรเครดิตไม่อัพเลเวลให้ทำธุรกรรมแบบนี้ได้ แล้วก็ใช้บัตรใบเดิมแตะจ่ายให้เพื่อนไม่ได้อีก แต่ท้ายที่สุดใครมีบัตรกี่ใบก็ต้องเอาออกมาลองให้ผ่านขึ้นเรือได้ครบทั้งทีม สนุกสนานกันตั้งแต่เริ่มงาน จากตรงนี้เราไปถนนที่มีแนวต้น Jacaranda หรือต้นศรีตรัง (แต่คนละพันธุ์กับบ้านเรา) ที่ออกดอกสีม่วงพราวทั้งต้น มาซิดนีย์ช่วงนี้ต้องมาชมความงามของดอกไม้ชนิดนี้ ก่อนจะแวะไปชมหาดบอนได (Bondi Beach) กันเล็กน้อย เพราะลมแรงและหนาวจนตัวสั่น แต่ทุกๆ ที่ย่อมมีคอนเท้นต์เกิดขึ้น ต้องชมกลัฟจริงๆ ว่าตั้งใจทำงานมาก จนท้ายที่สุดมาจบที่ร้านอาหาร Chat Thai ร้านอาหารไทยที่รสชาติแบบไทยที่แท้ทรู ก่อนจะเดินข้ามถนนไปชมละครเพลง Moulin Rouge ที่ทาง Gucci จัดให้เป็นพิเศษ ซึ่งดีงามมาก เป็นการส่งท้ายความประทับใจของการมาเยือนซิดนีย์ในครั้งนี้
เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลพร้อมกางเกงเข้าชุด หูกระต่ายกำมะหยี่ ถุงเท้าผ้าทอลาย รองเท้าหนังตกแต่งด้วยแถบ web และสัญลักษณ์ horsebit ทั้งหมดจาก Gucci
นิทรรศการ Gucci Garden Archetypes เปิดให้สาธารณชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2022 ถึง 15 มกราคม 2023 ที่ Powerhouse Ultimo ซิดนีย์ สามารถจองบัตรได้ที่ www.gucci.com
Gucci Garden Archetypes Sydney 17 พฤศจิกายน 2565 – 15 มกราคม 2566 10.00 – 17.00 น. ทุกวันศุกร์ ถึงวันพุธ 10.00 – 21.00 น. ในวันพฤหัสบดี เข้าชมฟรี
Photographer: Narurbes Vadvaree
Make Up: Nadia Roongphothong
Hair: Tiyanon Kumtawai
Assistant Photographer: Poomin Wongsing
Model: Kanawut Traipipattanapong
Ready-to-Wear: Gucci Cosmogonie Collection