Posts

บทสรุป Nike Flyknit คลิ๊กเดียว รู้เรื่อง

ในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้ เทรนด์การใส่รองเท้าผ้าใบดูเหมือนจะบูมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเพราะไลฟ์สไตลหรือเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไป เหล่าค่ายใหญ่ๆ ก็ต่างส่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองออกมาสู่ตลาดกันอย่างคึกคัก ซึ่งวันนี้เราจะพามารู้จักเรื่องราวของ ไนกี้ ฟลายนิตท์ (Nike FlyKnit) กัน

reserch

เทคโนโลยีฟลายนิตท์ถูกพัฒนาเรื่อยมาใน 4 ปีหลังนี้ และยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มฟังชันก์หรือประสิทธิภาพต่างๆ เพิ่มเข้าไปอีก และปฏิเสธไม่ได้ว่ามันกลายเป็นสิ่งที่คนในวงการแฟชั่นนำมาใส่กันเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะสีสันที่หลากหลาย รูปทรง และความสบายขณะสวมใส่

NIKE-FLYKNIT-ZOOM-AGILITY

ไนกี้ใช้เวลาทำวิจัยอยู่ 10 ปี กว่าจะออกรุ่นโปรโตไทป์ในปี 2012 Flyknit Racer และ HTM Trainer

first Nike Flyknit Racer 2012

ในปี 2013 ก็พัฒนามาอีก 6 โมเดล ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรองเท้าบาสอย่าง Kobe 9 Elite รวมอยู่ด้วย

kobe 9 elite

ในปี 2014 ได้ออกแบบรุ่น Magista ที่เป็นรองเท้าฟุตบอลที่ อันเดรียส อิเนียสต้า หรือมาริโอ เกิทเซ่ สวมใส่ในการแข่งขัน ซึ่งมีทั้งแบบหุ้มข้อและแบบธรรมดา (Vapor Ultimate) และปลายปียังได้ออก Flyknit Zoom Agility ที่เพิ่มความหยืดยุ่นบริเวณฝ่าเท้าอีก

nike-flyknit-magista

ในปี 2015 พัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 28 โมเดลในหมวดหมู่ 6 กีฬา (วิ่ง เทรนนิ่ง สปอตแวร์ ฟุตบอล บาส และอเมริกันฟุตบอล) และเพิ่งเพิ่มหมวดหมู่กีฬากอร์ฟในปี 2016

nike-flyknit-chukka-golf-shoe-01-681x397

– เทคโนโลยีฟลายนิตท์ลดการใช้ทรัพยากรมากกว่าการผลิตรองเท้าปกติ 60 เปอร์เซนต์
– ตั้งแต่ปี 2012 ลดขยะไปได้ราว 3.5 ล้านปอนด์
– ใช้ขวดน้ำพลาสติกในการทอเส้นใยไปแล้วกว่า 182 ล้านขวด
– รองเท้าฟลายนิทต์เบากว่ารองเท้าที่ตัดเย็บปกติ 20 ออนซ์

แหล่งที่มา http://www.highsnobiety.com