Posts

Ferrari ร่วมต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ด้วยการผลิตวาล์วสำหรับเครื่องช่วยหายใจและหน้ากากป้องกัน

เฟอร์รารี่เริ่มผลิตวาล์วสำหรับใช้กับเครื่องช่วยหายใจ และชิ้นส่วนของหน้ากากป้องกัน ที่โรงงานในมาราเนลโล ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพที่รักษาผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนา 

แผนกสร้างรถยนต์ต้นแบบได้นำเทคโนโลยีการผลิตที่มีอยู่เดิมมาปรับใช้เพื่อผลิตชิ้นส่วนที่ทำจากเทอร์โมพลาสติก โดยวาล์วบางตัวได้รับการพัฒนาโดย Mares โรงงานผลิตอุปกรณ์ดำน้ำ ที่นำเอาวาล์วซึ่งพวกเขาออกแบบขึ้นเพื่อใช้ในการดำน้ำ มาปรับใช้กับหน้ากากช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยที่ประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจล้มเหลว

ผู้รับหน้าที่ให้คำปรึกษาโครงการคือ Nuovamacut Gruppo TeamSystem กลุ่มช่วยเหลือทางด้านการค้นคว้าวิจัยให้แก่บริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมสนับสนุนในโครงการจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว

ในขณะที่การประกอบชิ้นส่วนอื่นๆ ที่เหลือ จะถูกส่งไปยัง Solid Energy เพื่อนำไปดัดแปลงหน้ากากดำน้ำให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยปกป้องสุขภาพของผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อต่อไป

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เฟอร์รารี่มีแผนที่จะผลิตอุปกรณ์อีกนับร้อยรายการขึ้นโดยใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ได้รับมอบมาจากหลายๆ บริษัทที่ให้ความช่วยเหลือ และจะประสานงานกับองค์กร Italian Civil Protection เพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วอิตาลี รวมไปถึงใน แบร์กาโม, เจโนอา, โมเดนา และ ซาสซูโอโล ทั้งยังส่งไปให้กับผู้ปฏิบัติงานในเมือง เมดิซินา ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโบโลญาอีกด้วย

ไปชมบรรยากาศการทดลองขับที่สุดของรถสปอร์ตขุมพลัง V8 “Ferrari F8 Tributo Track Drive Experience”

คาวาลลิโน มอเตอร์ เฟอร์รารี่ ประเทศไทย จัดกิจกรรมสุดเอกคลูซีฟท์ให้กับลูกค้า “Ferrari F8 Tributo Track Drive Experience” ณ สนามแข่งพีระ จังหวัดชลบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

คาวาลลิโน มอเตอร์ พาคณะลูกค้าไปสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจพร้อมร่วมทดลองขับเฟอร์รารี่ F8 Tributo รถสปอร์ตขุมพลัง V8 ที่แสดงถึงความเป็นที่สุดแห่งตำนานยนตรกรรมจากค่ายม้าลำพอง ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโลกแห่งยนตรกรรมทั้งในด้านของสมรรถนะและอรรถรสในการขับขี่ ให้ลูกค้าได้ร่วมทดสอบความแรงของขุมพลัง 8 สูบที่ดีที่สุดในโลกการันตีรางวัล “Best Engine” จาก International Engine Of The Year Awards ถึง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 ถึง 2019 อีกทั้งยังสามารถปลดปล่อยพลังทั้ง 720 แรงม้าออกมาได้เต็มพิกัดถึง 8,000 รอบ/นาที เคียงข้างกับแฮนด์ลิ่งอันยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และความสะดวกสบายอย่างมีระดับ  พร้อมการออกแบบจาก Ferrari Styling Centre ส่งให้ F8 Tributo เป็นดั่งสะพานเชื่อมต่อของแก่นแท้แห่งภาษาการออกแบบยุคใหม่ เพื่อสืบสานบุคลิกของรถสมรรถนะสูงและประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงสุดอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่ให้ดำเนินต่อไป

สามารถเยี่ยมชมพร้อมทดลองขับเฟอร์รารี่ F8 Tributo ได้ที่โชว์รูม คาวาลลิโน มอเตอร์ เฟอร์รารี่ ประเทศไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-319-6109

Novitec Group แผลงฤทธิ์อีกครั้งกับผลงานล่าสุดบนตัวถังม้าลำพอง

สำนักแต่งรถสุดหรูอย่าง Novitec Group รับหน้าที่ตกแต่งรถสปอร์ตจากอิตาลีอย่าง Ferrari และผลงานชิ้นล่าสุดนั้นได้ชื่อว่า Novitec Rosso Ferrari F12 N-Largo-S ซึ่งก่อนหน้านี้ Novitec Rosso Ferrari F12 N-Largo ได้ถูกจำหน่ายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงนำเอา Ferrari F12 Berlinetta รุ่นเรือธงของค่ายม้าลำพองมาตกแต่งอีกรอบและเติมด้วยตัว S เข้าไปในชื่อรุ่น
ภายนอกได้ถูก Novitec Rosso ลอกคราบตัวถังเดิมๆ ออกรอบคัน และประกบชุดแต่งใหม่แบบ Wide Body ตั้งแต่กันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ บังโคลนด้านหน้าจรดด้านหลังถูกออกแบบใหม่ให้มีช่องระบายอากาศมากขึ้น ชุดแต่งด้านหลังออกแบบทรงโหดเหมือนรถแข่ง จนแทบจะไม่หลงเหลือสไตล์ความเป็นอิตาลีอยู่เลย แต่ได้อารมณ์ความเป็นรถแต่งเพิ่มมากขึ้น

ส่วนในขุมกำลังเครื่องยนต์ที่ทาง Novitec Rosso เปิดเผยแบบคราวๆ ว่า มีการปรับจูนเครื่องยนต์เดิม V12 ที่ขนาดความจุ 6.3 ลิตร จากเดิมให้พละกำลัง 740 แรงม้า ถูกเพิ่มขึ้นให้เป็น 780 แรงม้า ที่ 8,600 รอบ/นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3 วินาที หลังจากนั้นอีก 2 วินาที ก็ทะยานไปแตะ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำความเร็วได้สูงสุดที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเสียงพละกำลังเครื่องยนต์ก็คงเป็นไปตามคาด โดยจะมีเสียงคำรามออกมาอย่างทรงพลังเป็นที่แน่นอน เหล่าสาวกม้าลำพองไม่ควรพลาด ซูเปอร์คาร์ที่ไม่เหมือนใคร และคุณหละพร้อมหรือยังที่จะวางเงินก้อนโต เพื่อครอบครอง Ferrari F12 N-Largo-S คันนี้
Content by Thachakorn Meeprasert

สุภาพบรุษในตำนาน ผู้ฝาก ‘ชื่อ’ ไว้ข้างตัวรถ Ferrari มาหลายต่อหลายรุ่น

Legend of The Ferari

วันที่ 3 กรกฎาคม 2012 คือวันที่ Sergio Pinifarina (เซอร์จิโอ พีนีฟารีนา) นักออกแบบรถยนต์ชาวอิตาเลียน ผู้สร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ให้กับ Ferrari (เฟอร์รารี) มาเป็นเวลายาวนานกว่า 50 ปี ได้บอกลาโลกใบนี้ไป สำหรับแฟนซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนแบรนด์นี้ คงจะรู้จักและพูดถึงเขาเสมอเมื่อเปิดวงคุยกันถึงเรื่องเฟอร์รารี แต่หลายคนเองก็อาจไม่รู้มาก่อนว่าชื่อ Pinifarina ที่ฝากไว้ข้างตัวรถหลายๆ รุ่นนั้นเปรียบเสมือนลายเซ็นของศิลปินที่ฝากไว้บนภาพวาดขนาดใหญ่

PARIS, FRANCE - APRIL 19: Sergio Pininfarina Chief Executive Officer of Cofindustria - for Italian industry general confederation  on April 19, 1989 in Paris, France.(Photo by Marc DEVILLE/Gamma-Rapho via Getty Images)

เซอร์จิโอ พีนีฟารีนา คือผู้ออกแบบรถยนต์เฟอร์รารีที่ขึ้นแท่นตำนานมากมายหลายรุ่น อาทิ Ferrari 360, Ferrari P4/5, Ferrari F40 และ Ferrari 328 ปัจจุบันรถซูเปอร์คาร์ที่เขาออกแบบนั้นกลายเป็นของไอเท็มที่นักสะสมรถยนต์วินเทจทั่วโลกต่างหมายปอง จนทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นพอสมควรหลังจากที่เขาเสียชีวิตลง หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ดีไซน์จากปลายปากกาของเขา เราก็บอกได้คำเดียวว่า คุณเป็นผู้โชคดีที่ได้ครอบครองหนึ่งในตำนานแห่งม้าลำพองแล้วล่ะ

ซูเปอร์คาร์จากเฟอร์รารีที่เปิดหลังคาได้นั้น ก็เปรียบเหมือนรถแข่งเวอร์ชั่นถนนจริงนั่นเอง

เมื่อช่วงกลางปีที่แล้วหลายคนคงจำกันได้กับม้าศึกตัวใหม่จาก Ferrari (เฟอร์รารี) อย่าง 488 GTB ที่จะมาประจำการแทนที่ 458 Italia อย่างเป็นทางการว่าหน้าตานั้นได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมกันมาแบบเต็มๆ เสริมด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบตัวถังให้ดีมากขึ้น เพิ่มการลู่ลมได้สมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม

150901_Ferrari488GTB_Spider_Laterale_tettoMotion_w1

แน่นอนว่าหลายคนยังต้องคอยหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คว้า 488 GTB มาครองกันตั้งแต่ช่วงแรก และอดใจรอตัวเปิดประทุนที่จะ
ตามมาทีหลังเช่นเดียวกับตัว 458 ทาง Ferrari ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังด้วยการเปิดตัว 488 Spider สีน้ำเงินสู่สายตาชาวม้าลำพองในแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ และก็เป็นไปตามคาด รูปลักษณ์สุดดุดันและสวยงามของเจ้า 488 Spider นั้นไม่ทำให้แฟนๆ ที่รอคอยกันอยู่ต้องผิดหวัง เพราะหลังคาแข็งเปิดประทุนสีเดียวกับตัวรถนั้นทำให้คนซื้อรุ่นเปิดประทุนรู้สึกคุ้มค่าเหมือนกำไรสองต่อ เพราะเมื่อปิดหลังคาแล้วรูปลักษณ์ก็ไม่ต่างจาก 488 GTB เลย ต้องยกความดีงามให้กับเบื้องหลังการออกแบบมาจากปลายปากกาของฟลาวีโอ มันโซนี (Flavio Manzoni) จาก Ferrai’s Styling Centre โดยนำเอาเอกลักษณ์ของเฟอร์รารีมาใส่ลงไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่วางอยู่กลางลำนั้นคือ เครื่องยนต์ 8 สูบแบบวี ขนาด 3.9 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จแบบคู่ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 670 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดมหาศาล 760 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดคลัทช์คู่แบบ F1 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้เท่ากับรุ่น 488 GTB คือ 3.0 วินาที แตกต่างกันตรงที่อัตราเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดที่ช้ากว่ารุ่น 488 GTB อยู่เล็กน้อย และน้ำหนักรวมของตัวรถมากกว่าประมาณ 50 กิโลกรัม แต่ก็ยังเบากว่า 458 Spider อยู่ถึง 10 กิโลกรัม ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นส่งผลให้ 488 Spider เป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่มีพละกำลังมากที่สุดคันหนึ่งในตลาดซูเปอร์คาร์เมืองไทยในตอนนี้

150723_Ferrari488GTB_spider_interni_2945_w1

เห็นผลในการขับขี่ได้ชัดเจนในเรื่องของการเร่งเครื่อง ที่ไม่ต้องรอกำลังเครื่องยนต์ในรอบต่ำ เพราะเทอร์โบชาร์จสามารถช่วยส่งกำลังได้ทันที และยังประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่อง V8 แบบไม่มีเทอร์โบที่เคยประจำการอยู่ใน 458 Italia อีกด้วย ส่วนเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกนั้นเป็นออปชั่นมาตรฐานจากโรงงาน อยู่ด้านในล้อลาย 5 ก้านคู่ลายใหม่ โดยขนาดจานเบรกด้านหน้านั้นใหญ่ถึง 398 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังมีขนาด 360 มิลลิเมตร โดยเบรกชุดนี้จะช่วยให้หยุดรถได้เร็วขึ้นถึง 9 เปอร์เซ็นต์ และในตอนนี้ค่ายม้าลำพองก็เปิดตัวซูเปอร์คาร์เปิดประทุนมาให้คุณเลือกได้ทั้ง California T และ 488 GTB ซึ่งเป้าหมายการใช้งานนั้นค่อนข้างต่างกันอยู่พอสมควร ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหนุ่มๆ แต่ละคนที่ไลฟ์สไตล์แตกต่างกันนั่นเอง

Content by Poramin T.

โลโก้ของสุดยอดยนตรกรรมจากอิตาลีนั้น ไม่เพียงการันตีความยิ่งใหญ่ด้วยผลงานแต่ยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากมาย

The clash of logos

หากประเทศฝรั่งเศสภูมิใจว่าประเทศตัวเองมีเนยแข็ง 1,000 ชนิด ประเทศอิตาลีก็ไม่แพ้กันเพราะมียี่ห้อรถยนต์และจักรยานยนต์แทบนับไม่ถ้วน โลโก้ของรถเป็นรูปสัตว์ต่างๆ หรือเป็นลวดลายระดับมาสเตอร์พีซ ทุกลวดลายล้วนมีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ในโลกแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องดีที่จะสามารถแยกแยะยี่ห้อรถยนต์แต่ละยี่ห้อได้ ผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบดีว่าการแข่งขันในโลกปัจจุบันทวีความดุเดือดขึ้นทุกวัน ถ้าบริษัทใหญ่ๆ เกิดขึ้นมาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน (เหมือนช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 
ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ ต้องการเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่
ในเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศอิตาลี และต้องการ
ให้ชาติมีเสถียรภาพ) บริษัทใหญ่ๆ ต่างใส่ใจกับภาพลักษณ์ที่แสดงผ่านโลโก้เป็นพิเศษ ช่วงนั้นเป็นยุคที่โฆษณาไม่ต้องรอไวรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือนักโฆษณามือฉมังโลโก้แต่ละอัน
มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ความหมายของตราแต่ละความหมาย
บอกเล่าความเป็นมาของตระกูลผู้ผลิตได้ บางทีอาจจะเป็นลักษณะเฉพาะของตลาดรถยนต์ในอิตาลีก็ได้ที่แสดงให้เห็นถึงผลต่อจิตใจคนและสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่รถยนต์มีต่อบริษัท
ผู้ผลิต ทั้งหมดเป็นความร่วมมือกันระหว่างผู้ผลิตที่หลักแหลมช่างยนต์ผู้ชาญฉลาด และศิลปินอัจฉริยะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผลิตรถยนต์ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้ผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดไปหรือเป็นที่นิยม เป็นเทรนด์ เพียงช่วงใดช่วงหนึ่ง แต่ผลิตออกมาเพื่อให้ตราเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ เป็นความสัมพันธ์ที่ทุกคนจดจำได้

  Lamborghini

logo-lamborghini_114700_wide

เฟรุชชิโอ แลมโบร์กินี ผู้สร้างตำนานรถสปอร์ตหรูแลมโบร์กินีและเป็นผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ (สัญลักษณ์คือรูปวัว) เขามีความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์อยู่แล้วและยังเป็นแฟนตัวยงของการต่อสู้วัวกระทิงอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีโลโก้อันไหนเป็นตัวเลือกได้ดีไปกว่ากระทิงอีกแล้ว (ใช้รูปแบบอักษรอินเตอร์สเตท)

  Ducati

146-1206-01-z+ducati+logo

ในช่วงปี 2009 ดูคาติสามารถทำยอดขายได้มหาศาลจึงมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้เป็นรูปเกราะสีแดง (ในอิตาลีสีแดงหมายถึงชัยชนะ) ที่มีทางคดโค้งอันตรายอยู่ตรงกลาง แต่โลโก้ดั้งเดิมนั้นถูก
ออกแบบขึ้นตั้งแต่ปี 1927 แล้ว และมีการปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ เป็นปกติ ถ้าลองย้อนกลับไปดูโลโก้เดิมอันโด่งดังที่มีคำว่า Course อยู่ด้วยนั่นก็เปลี่ยนหลังจากที่ทางดูคาติไปจับมือร่วมงานกับรถออดี้และสร้างรายได้เกือบพันล้านยูโร (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบแอเรียลสีดำตัวเอียง)

  Abarth

Abarth Logo 1

ใครจะเชื่อล่ะว่าคนใหญ่คนโตในอิตาลีหลายๆ คนจะเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ 
หรือเรื่องดาวเรื่องดวงกับเขาเหมือนกัน เช่นเดียวกับผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์อย่าง
คาร์โล อบาร์ธ ที่เกิดในราศีพิจิก เราก็เลยเห็นสัตว์แปดขาอย่างแมงป่องขึ้นโชว์
อยู่ในโลโก้ของรถอบาร์ธด้วย ส่วนสีแดงและสีเหลืองสะท้อนถึงรักแรกๆ ของตัวอบาร์ธเอง พื้นหลังที่เหลือนั้นหมายถึง ความชอบ ความจริงจัง พละกำลัง
และความสุข (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบไมโครแกรมมาตัวเข้ม ดี เอ็กเทนดิด)

  Laverda

preview-Laverda

โลโก้ลาเวอร์ดามีขึ้นตอนปี 1947 บริษัทยักษ์ใหญ่นี้มีบริษัทในเครือที่ผลิตสินค้าหลายอย่าง ทั้งเครื่องจักร
ที่ใช้ในเกษตรกรรม หรือส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งเราสามารถรู้ได้แน่นอนว่าสินค้าของลาเวอร์ดาเป็นของอิตาลี เพราะตราโลโก้เป็นรูปธงชาติอิตาลีนั่นเอง สำหรับชาวคูเวตแล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้แน่นอน เพราะรถจักรยานยนต์ของตำรวจที่นั่นเป็นของ
ลาเวอร์ดาแทบทั้งหมด

  Benelli

preview-Benelli103

แรกเริ่มเดิมทีเบเนลีเป็นเพียงอู่ซ่อมรถจักรยานยนตร์
ธรรมดาเท่านั้น แต่ในปี1920 ครอบครัวเบเนลีตัดสินใจผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขายเอง และภายใต้การดูแลของพี่น้องชายล้วนทั้งหกคน รถแบรนด์เบเนลีมีการพัฒนาจนได้รับรางวัลมากมาย ทั้งในอิตาลีเองและระดับยุโรป เบเนลีจึงกลายเป็นชื่อที่โด่งดัง
ขึ้นมา เจ้าของปัจจุบันที่เป็นชาวจีนสั่งลดโลโก้ให้เรียบง่ายที่สุด โดยเหลือไว้แค่ตัวชื่อเบเนลี (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบเดอร์ริงเจอร์ซีเรียล)

  MV Agusta

mv-agusta

ตัวอักษร MV เป็นตัวย่อของชื่อ Meccanica Verghera ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทการบิน
ที่ก่อตั้งโดย โจวานนี ออกัสตา โดยลูกชายของเขาคนนี้เองที่เป็นผู้ริเริ่มไอเดียของการทำรถจักยานยนต์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแข่ง เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องแปลกใจถ้าบนโลโก้จะมีรูปปีกเครื่องบินติดมาด้วย (เหมือนแบบตราอินซิกเนียกับเบิร์ตแรม)

  Ferrari

Ferrari_GES

ท่านเคาท์ฟรานเซสโก บารัคคา สามารถเอาสองเรื่องนี้ไปโม้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานฟังได้อีกนานทีเดียว หนึ่งคือเรื่องชื่อของเขากลายเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จัก เรื่องที่สองคือของนำโชคของเขาที่เป็นรูปม้ายืนสองขาที่ติดอยู่บนเครื่องบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งไปเตะตา เอนโซ เฟอร์รารี่ เข้าอย่างจัง เขาจึงให้ดีไซเนอร์รุ่นเยาว์ชื่อเอลโจ จี. เอารูปม้าไปใช้ออกแบบเป็นโลโก้ให้กับบริษัท Scudreria Ferrari และมีพื้นหลังสีเหลือง
ที่เป็นสีของเมืองโมเดนาพร้อมกับธงชาติอิตาลีติดอยู่ตรงขอบด้านบนอีกด้วย

  Gilera

gilera-logo-wallpaper-765x1024

นอกจากรถยี่ห้อนี้จะได้
รางวัลแชมเปี้ยนระดับโลก
ถึง 6 รางวัลแล้วก็ตาม 
บริษัท Gilera ยังมีจุดเด่น
อยู่ที่สินค้าตัวท็อปอย่าง
รถมอเตอร์ไซค์สกูตเตอร์ รุ่น GP800 ที่ทางบริษัท
บอกว่าเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดในโลก
อีกด้วย (เหมือนคอลอสเซียม)

  Alfa Romeo

alfa_romeo

หลังจากมีโลโก้มา 6 แบบ อันนี้เป็นอันเดียวที่รูปงูเปลี่ยนไปเป็นแบบเรียบง่ายขึ้น (งูเป็นอาวุธประจำของครอบครัว Visconti ซึ่งถือว่ามีอำนาจมากที่สุดใน
มิลาน) และส่วนไม้กางเขนสีแดงมีความเกี่ยวเนื่องกับ
โจวานนี เดอ ริโอ ที่เขาสามารถปีนกำแพงเยรูซาเล็ม
เพื่อไปปักกางเขนได้เป็นคนแรก งูที่สวมมงกุฎอยู่นั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเชิดชูบุคคลสำคัญอย่างออตตาวิโอ วิสคอนติ เพราะในศตวรรษที่ 5 เขาสามารถฆ่างูน่ากลัวตัวหนึ่งที่เข้ามาในมิลานได้ (ใช้ตัวอักษรฟิวเชอร่าตัวเข้ม)

  Maserati

marque-maserati

มาริโอ มาเซอราติ หนึ่งใน 6 พี่น้องที่ร่วมก่อตั้งด้วยกันมา เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบการวาดรูปมาก จึงได้เป็นคนคิดโลโก้รูปอาวุธสามง่ามของเทพเนปจูนขึ้น ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกสามง่ามอันนี้เป็นสีขาวอยู่บนพื้นหลังสีน้ำเงิน (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบเบมโบ เอสทีดีตัวเข้ม)

Content by Editorial Team

25 Anniversary Ferrari Thailand

เพิ่งจะผ่านงานฉลองครบรอบ 25 ปี Ferrari (เฟอร์รารี่) กันไปหมาดๆเมื่อวันที่ศุกร์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมามีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานเฉลิมฉลองกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว แบรนด์เฟอร์รารีคงจะไม่ต้องพูดถึงสรรพคุณกันมากเพราะเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ประสบความสำเร็จออกมามากมายเป็นที่ต้องการและหลงใหลของผู้ที่ชื่นชอบขับขี่รถยนต์ความเร็วสูงไปทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในกีฬาฟอร์มูล่าวันมากที่สุด และฉายาที่คนไทยคงจะคุ้นหูกันดีคือ “ม้าลำพอง” เมื่อพบเห็นบนท้องถนนเวลาที่มันกำลังแผดร้องและแสดงสมรรถนะอันร้อนแรง คงไม่ต้องบรรยายถึงสายตาที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวให้ยืดยาว

ferrari th s

ลอปติมัมจึงมีบรรยากาศในงานมาฝากสำหรับคนที่พลาดชมงานนี้

Rocket powered bike breaks world speed record

ลองคิดเล่นๆดูว่า ถ้าจะมีจักรยานสักคันที่ขับด้วยความเร็วสูง สูงมากจนแซงเฟอร์รารี่ได้ หน้าตามันจะเป็นยังไง ที่สำคัญ จะทำได้ยังไง! จักรยานก็คือจักรยานวันยังค่ำ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงก็หรูแล้ว ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือความคิดแรก ก่อนที่จะเห็นคลิปต่อไปนี้

วันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ สนามแข่ง Paul Ricard ใน Le Castellet ของฝรั่งเศส Francois Gissy นำจักรยานที่ติดเครื่องยนต์จรวดเข้าไป ออกแบบโดย Arnold Neracher เพื่อนของเขา มาสร้างสถิติจักรยานเร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่ว่านั้นใช้เวลาเพียง 7 วินาที โดยวัดได้เมื่อขับไปถึงระยะเพียง 250 เมตรเท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์นั้นก็พอเดากันได้ว่าจักรยานติดจรวดคันนี้สามารถแซงรถเฟอร์รารี่ไปได้ไกลแบบไม่เห็นฝุ่นเลย