Posts

10 ผลไม้ช่วยลดน้ำหนักและยังทำให้สุขภาพผิวของคุณดูเปล่งปลั่งอีกด้วย

ปัญหาโลกแตกที่เกิดขึ้นทั้งผู้หญิงและผู้ชายคือ อยากผอมจะทำยังไงดี ลอปติมัม ไทยแลนด์ ได้มีแนวทางในการช่วยคุณลดหุ่นให้ดูสวยหรือหล่อสมาร์ทได้ เพียงคุณบริโภคผลไม้ชนิดเหล่านี้

1.แอปเปิ้ล

1386387403_lifestyle

  เป็นผลไม้ลดน้ำหนักระดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ มีทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายบวกกับปริมาณไฟเบอร์ที่มากล้น ช่วยลดปัญหาการกินจุบจิบ และไฟเบอร์ยังช่วยในเรื่องขับถ่ายและผิวพรรณสวยใสอีกด้วย

2.ทับทิม

thaihealth_c_fgmopqrtx348

  ทับทิมอุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นเซลผิว ทับทิมยังเป็นผลไม้ที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกายอีกทั้งยังกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดไขมันในเลือด

3.กล้วยน้ำว้า

_1_-1

  เป็นผลไม้อีกชนิดที่มีสารอาหารสูง ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้จะดูซับไขมัน น้ำตาล และสารพิษต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้กล้วยน้ำว้ายังอุดมไปด้วย วิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและลดอาการผิวอักเสบ

4.ส้ม

orange_illustration_realistic_by_lomba10

  เป็นผลไม่ยอดนิยมกันเลยทีเดียว ส้มยังอุดมไปด้วยกากใยและวิตามินมากมาย และยังมีคอลลาเจนเพื่อผิวพรรณที่สวยใส เรียกได้ง่ายๆ ว่าหนุ่มสาวจะสวยจะหล่อได้ แค่กินส้มเป็นประจำเท่านั้นเอง

5.สับปะรด

สับปะรด (1)

  อีกหนึ่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยสรรพคุณอันมากมาย เช่น เอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารได้ดี โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต่างๆ และยังมากล้มไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่ทำลายโครงสร้างเชลล์ผิว

6.แก้วมังกร

B1-8

 แก้วมังกรให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี ซึ่งพูดได้เต็มปากเลยว่ากินแก้วมังกรแล้วไม่อ้วนชัวร์ๆ ยังมีสรรพคุณที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งโดยไม่ต้องใช้ครีมบำรุงผิวใดๆเลย

7.มะละกอ

a4da7d44c

 มะละกอสุกเป็นผลไม้ที่มีไขมันน้อยมากพูดได้ว่าแทบจะไม่มีไขมันอยู่เลยก็ว่าได้ มะละกอสุกยังให้พลังงานไม่ถึง 50 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม ดังนั้นมะละกอจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

8.กีวี

กีวี

 สำหรับกีวีนั้น อาจจะยังไม่รุ้ว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์แล้ว เมล็ดสีดำๆเล็กของกีวียังเป็นไฟเบอร์ที่ไม่ละลาย จึงช่วยปรับสมดุลในระบบย่อยอาหาร และจะทำให้คุณอิ่มได้นานหมดปัญหาการกินจุบจิบแน่นอน

9.บลูเบอร์รี

บลูเบอร์รี

 ผลไม้ที่อุดมไปด้วยอนุภาพการบำรุงดูแลร่างกาย เริ่มตั้งแต่ช่วยรักษาระดับอินซูลิน ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคอ้วน และช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้จริงและมีคุณประโยชน์ครบทวน

10.ลูกพีช

332755_444515618924796_1886578436_o

 ลูกพีชเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงมากแล้ว และยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินอีกมากมาย แถมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยบำรุงผิดพรรณ จัดว่าเป็นผลไม้ที่ลดความอ้วนอย่างแท้จริงและทำให้ผิวพรรณสวยใสอีกด้วย

 อย่างไรก็ตามการที่เราจะลดน้ำหนักหรือจะดูแลผิวพรรณไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย เราก็ควรที่จะเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีหุ่นและผิวพรรณที่สวยและหล่อตามใจต้องการ

Content by Thachakorn Meeprasert

WEIGHT LOSS AND GAIN FOR ROLES

คอนเท้นต์นี้มีความเสี่ยงสูงผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีกรุณารวบรวมสติก่อนอ่าน!

นอกจากบทบาทการแสดงที่เหนือชั้นของ แมทธิว แม็คคอนาเฮย์, จาเรด เลโต และ คริสเตียน เบล อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนพูดถึงคือการลดน้ำหนักแบบ ‘ฮวบฮาบ’ เพื่อให้เขาถึงบทบาทของพวกเขา

AMF_7277 (341 of 376).NEF

แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ และจาเรด เลโต แข่งกันลดน้ำหนักจนผอมบักโกรกเพื่อให้สมบทบาทผู้ป่วยโรคเอดส์ในหนัง Dallas Buyers Club (2013) จนกอดคอกันคว้ารางวัลออสการ์ไปคนละตัวในหนังโปรเจคเล็กๆที่ใช้ทุนสร้างไม่ถึง 5 ล้านเหรียญและถ่ายทำเพียง 25 วันอย่าง Dallas Buyers Club กลายเป็นพระเอกในงานประกาศรางวัลออสการ์ปี 2014 โดยส่งแมทธิว แม็คคอนาเฮย์ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบทคาวบอยหนุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวีและผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวด้านโรคเอดส์ พร้อมกับจาเรด เลโต ที่ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครองเช่นกัน จากบทกระเทยผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน

loptimum weight1

นอกเหนือจากฝีมือการแสดงขั้นเทพ ฝีมือการ ‘ลดน้ำหนัก’ ขั้นเทพไม่แพ้กัน
‘สูตรแมทธิว แม็คคอนาเฮย์’ ระยะเวลา 4 เดือน สามารถลดได้ 21 กิโลกรัม

เขาใช้วิธีการกินอาหารครบทุกมื้อ แต่กินแค่ปลาและผักถ้วยเล็กๆ ภายใต้การดูแลของนักโภชนาการจึงไม่มีผลมากนัก แต่เขาก็ยอมรับว่าส่งผลให้สายตาพร่ามัวในช่วงที่ลดถึงขีดสุด และหลังจากหนังปิดกล้องแมทธิวสามารถกินชีสเบอร์เกอร์ได้สบายๆและใช้เวลา 3 เดือนให้น้ำหนักกลับมาเป็นปกติ

Pop Culture.indd

‘สูตรจาเรด เลโต’ ระยะเวลา 3 อาทิตย์ สามารถลดได้ 13.5 กิโลกรัม!!

พระเจ้า จิตใจพี่แกทำด้วยอะไร..#ยอมใจ หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานการแสดงในรอบ 5 ปี สำหรับการลดแสนโหดครั้งนี้ทำให้จาเรดเหลือน้ำหนักติดตัวเพียง 50 กิโลกรัม หนำซ้ำเขายังบอกปัดไม่พึ่งนักโภชนาการแต่ขอลดน้ำหนักแบบ ‘ฮาร์ดคอร์ด’ ด้วยตัวเอง โดยมีเคล็ดลับที่ไม่ซับซ้อนดังที่เขาบอกว่า ‘ก็แค่หยุดกิน’ ถึงจะคุ้มค่ากับรางวัลออสการ์ที่ได้รับ แต่ทว่า ‘รางวัลออสการ์’ ก็แลกมาด้วยอันตราย เพราะหลังจากปิดกล้องต่อให้เขาพยายามกินให้น้ำหนักเพิ่มมาเท่าเดิม แต่กระเพาะอาหารและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายกลับหดตัวโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้เขากินอะไรได้เพียงเล็กน้อยแม้จะรู้สึกหิวแค่ไหนก็ตาม งานนี้ถึงกลับออกปากว่า ‘จะไม่ลดน้ำหนักเพื่อเล่นหนังอีกแล้ว’

Christian Bale

อันที่จริงจาเรดเคยไปอีกสุดขั้วหนึ่งมาแล้วเมื่อปี 2007 ที่เขาเพิ่มน้ำหนักถึง 30 กิโลกรัม เพื่อรับบทมาร์ค แชปแมน ฆาตกรโรคจิตร่างอ้วนที่สังหาร จอห์น เลนนอน โนหนังเรื่องหนึ่ง Chapter 27 โดยเทคนิคการเพิ่มน้ำหนักคือ สวาปามพิซซ่า พาสต้า และไอศครีมซ้อกโกแลตเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟจนเหลว ผสมน้ำมันมะกอกนิดหน่อยและยกขึ้นดื่ม

kinopoisk.ru

‘ร่างกายสั่งรีโมทได้’ นั่นคือ คริสเตียน เบล

เขาเพิ่มน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ด้วยการกินอาหารจังค์ฟู้ดรวมไปถึงเบอร์เกอร์เพื่อรับบทหนักต้มตุ๋นในหนังเรื่อง American Hustle แต่ที่คนพูดถึงกันอย่างเกรียวกราวคือหนังเรื่อง The Machinist ในปี 2004 ที่เบลลดน้ำหนักสะท้านโลก 27 กิโลกรัม ให้เหลือเพียง 54 กิโลกรัม จนหุ่นซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเพื่อรับบทหนุ่มผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับมานานแรมปี เขาใช้เวลา 4 เดือนในการลดน้ำหนักด้วยการกินแค่แอปเปิ้ลวันละผล บวกกับดื่มกาแฟและน้ำเปล่า หลังจากนั้นเขามีเวลาแค่ 2-3 เดือน ในการเตรียมรับบท บรูซ เวย์น ใน Batman Begins ซึ่งต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาเท่าตัว
‘เบลใช้วิธีกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและเข้าฟิตเนสวันละ 3 ชั่วโมงเหมือนเคย’ และเขาก็กลับมาลดน้ำหนักอีกครั้งสำหรับหนัง The Fighter ปี 2010 จนคว้าออสการ์สมทบชายมาครอง

ปล. การลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบจะส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายด้านโดยเฉพาะการทำงานของหัวใจยังเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เบาหวาน โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า และแน่นอนโยโย่เอฟเฟ็กต์… เปลี่ยนจากอด เป็นเลือกกินดีกว่าครับ อยากกินอะไรก็กินนะครับแต่กินแบบมีสติ