Posts

Maserati เปิดตัว Ghibli Hybrid ยนตรกรรม ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์เทพตรีศูลที่หรูหราและปราดเปรียวตามสไตล์รถสัญชาติอิตาลี

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว ‘กิบลี ไฮบริด’ (Ghibli Hybrid) ใหม่ เป็นยนตรกรรมที่ใช้การขับเคลื่อนแบบผสมผสาน ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล

ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้นำเสนอยนตรกรรมแห่งอนาคต ที่ได้นำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้เป็นครั้งแรก ให้กับลูกค้าในประเทศไทย ได้สัมผัสกับความล้ำสมัย ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์นทรงพลัง และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้สมรรถนะอันเหนือชั้น พร้อมความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น”

มาเซราติ กิบลี ไฮบริด ใหม่ นับเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์สุดท้าทายของค่ายตรีศูล ซึ่งเป็นเสมือนการก้าวสู่ยุคอนาคตอย่างเต็มตัว

สิ่งที่นับเป็นความท้าทายของโปรเจ็กต์นี้ก็คือ ผลิตรถไฮบริดอย่างไร ไม่ให้ส่งผลกระทบกับตัวตนของแบรนด์ ทำให้ กิบลี ไฮบริด ใหม่ เป็นหนึ่งในรถไฮบริดที่ดีสุดในโลก อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์เสียงคำรามนดุดันไว้ได้อย่างครบถ้วน

การเปิดตัว กิบลี ไฮบริด ใหม่ ช่วยขยายไลน์อัพของ มาเซราติ ให้กว้างขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของรูปลักษณ์

กิบลี ไฮบริด ผ่านการออกแบบใหม่โดย Centro Stile Maserati ทั้งภายนอกและห้องโดยสารดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยสิ่งที่แสดงถึงความเป็นรุ่นไฮบริดก็คือ การนำสีน้ำเงินมาใช้เพื่อสื่อถึงเทคโนโลยีไฮบริดและโลกแห่งอนาคต

สีน้ำเงินถูกนำมาตกแต่งช่องระบายอากาศด้านข้าง 3 ช่อง, คาลิเปอร์เบรก และสัญลักษณ์สายฟ้าของโลโก้ตรีศูลบริเวณเสาซี ขณะที่เบาะในห้องโดยสาร ก็ผ่านการเย็บด้วยตะเข็บสีน้ำเงิน ส่วนกระจังหน้าก็ผ่านการออกแบบใหม่ ซี่กระจังมีลักษณะคล้าย ‘ส้อมเสียง’ (Tuning Fork) เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีเสียงใสชัด

ด้านของขุมพลัง Mild Hybrid

มาเซราติ นำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสมรรถนะ ลดการใช้เชื้อเพลิงและลดมลพิษ ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์อย่างลงตัว

เทคโนโลยีไฮบริด สะสมพลังงานกลขณะลดความเร็วหรือเบรก เพื่อนำมาแปลงเป็นไฟฟ้า และชาร์จเข้าแบตเตอรี่ พร้อมติดตั้งท่อไอเสียที่ผ่านการปรับแต่งให้สามารถเปล่งเสียงคำรามตามแบบฉบับของยนตรกรรม มาเซราติ

นวัตกรรมขุมพลังไฮบริดสุดล้ำ เป็นผลลัพธ์จากมันสมองของทีมวิศวกรและฝ่ายเทคนิคของ มาเซราติ Innovation Lab ที่เมืองโมเดนา โดยผสานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตรเข้ากับอัลเทอร์เนเตอร์ 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ (e-Booster) พร้อมแบตเตอรี่

รองรับ มีกำลังสูงถึง 330 แรงม้า (hp ) แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 255 กม./ชม. นับเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดโดดเด่น และเป็นผลงานแรกของเครื่องยนต์ยุคอนาคต ที่จัดผสมผสานสมรรถนะ, ความประหยัด และความเพลิดเพลินในการขับได้อย่างลงตัว ติดตั้งแบตเตอร์รี่บริเวณท้ายรถเพื่อความสมดุล และมีน้ำหนักโดยรวมเบากว่า กิบลี ดีเซล 80 กิโลกรัม

เชื่อมต่อโลกดิจิทัลครบวงจร ผ่านโปรแกรม Maserati Connect และ Maserati Intelligent Assistant โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานจาก Android Automotive ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับพร้อมอัปเดตฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยอัตโนมัติ

มาเซราติ กิบลี ไฮบริด ใหม่ นับเป็นก้าวแรกสู่การทำทคโนโลยีไฮบริดมาใช้กับรถรุ่นอื่นๆ ในอนาคต วันนี้เราจะพาไปชมดีเทลและ test drive รถที่ปราดเปรียวและน่าหลงใหลคันนี้กันครับไปชมกันเลย

เท่กันทั้งตระกูล Romeo Beckham ลูกชายคนรองของตระกูล Beckham รับบทนายแบบคอลเล็กชั่น Fall/Winter 21 ของ Saint Laurent

เท่ไม่แพ้คุณพ่อ! Romeo Beckham ลูกชายคนรองของตระกูล Beckham รับบทนายแบบคอลเล็กชั่น Fall/Winter 21 ของแบรนด์ Saint Laurent ออกแบบโดย Anthony Vaccarello

ซึ่งแคมเปญนี้ก็ได้ตากล้องมากฝีมือชาวอังกฤษ David Sims มาลั่นชัตเตอร์ของนายแบบหนุ่มวัย 18 ปีลูกรักของคุณพ่อ David ครับออกมาเท่เลยล่ะ!

Romeo ถือว่าเป็นลูกชายที่หน้าคล้าย David ตำนานนักฟุตบอลแห่งทีมชาติอังกฤษมากที่สุด (David Beckham มีลูกชาย 3 คน)

การเดินทางร่วมกันอีกครั้งระหว่างเบ็คแฮมและเควิน ฮาร์ท สำหรับคอลเลกชั่นจาก H&M

เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham) กลับมาร่วมงานกับเควิน ฮาร์ท (Kevin Hart) อีกครั้ง เพื่อแคมเปญ Modern Essentials selected by David Beckham ใหม่ของ H&M ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่างหนึ่งในไอคอนผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกกับดาวตลกระดับโลก ภาพยนตร์โฆษณานี้สร้างขึ้นในรูปแบบโร้ดทริปโดยมีเรื่องราวต่อเนื่องจากภาพยนตร์โฆษณาชิ้นแรก ซึ่งเควินเตรียมพร้อมที่จะแสดงบทบาทของเดวิดในภาพยนตร์ชีวประวัติ แคมเปญใหม่ซึ่งมีเดวิดและเควินสวมใส่เสื้อผ้าในลุคเดียวกันจากคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/หนาว 2559 นี้ ดำเนินต่อจากแผนของเควินที่จะแสดงใน “I, Beckham: The Musical” ภาพยนตร์โฆษณาเต็มรูปแบบเปิดตัวบนเว็บไซต์ www.hm.com ในวันที่ 26 กันยายน

“ผมชอบถ่ายทำแคมเปญแรกสำหรับ H&M กับเควินเป็นอย่างมากเสียจนกระทั่งต้องถ่ายทำภาคต่อไป ครั้งนี้จะมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ผมหวังว่าทุกคนจะชอบภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ เราสนุกกับการถ่ายทำมากจริงๆ” เดวิด เบ็คแฮมกล่าว

“ผมมีโอกาสที่ดีมากอีกครั้งที่จะแสดงให้โลกเห็นในสิ่งที่ทุกคนต่างก็ทราบดีว่าผมเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง สำหรับสไตล์ของเดวิด เบ็คแฮม เขาเลียนแบบทุกสิ่งจากผม” เควิน ฮาร์ท กล่าว

แคมเปญใหม่นี้ติดตามเดวิดและเควินในการเดินทางแบบโร้ดทริปจากลอสแอนเจลิสถึงเนวาดา เพื่อไปพบผู้จัดหาเงินทุนสำหรับละครเพลงในเวกัส ระหว่างทาง ความทุ่มเทของเควินต่อบทบาทในฐานะเดวิดมีความสุดขีดขึ้นเรื่อยๆ สำหรับแคมเปญนี้ เดวิดและเควินสวมใส่เสื้อผ้าในสองลุคจากคอลเลคชั่นนี้ แจ๊คเก็ตนักบินที่มีซิปหน้าและปกขนสัตว์เทียม ซึ่งสวมใส่กับเสื้อคอเต่าและเสื้อผ้าถักแขนยาวลายทางขวาง

“เดวิดและเควินดูเฉียบมากในแคมเปญนี้ Modern Essentials เป็นคอลเล็คชั่นสำหรับสุภาพบุรุษที่มีสไตล์เฉพาะตัวที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม แจ๊คเก็ตนักบินและเสื้อผ้าถักแขนยาวลายทางเป็นเสื้อผ้าชิ้นที่ขาดไม่ได้ ในชุดเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษทั่วโลก” อันเดรียส ลูเวนสตาม (Andreas Löwenstam) ผู้นำทีมออกแบบเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษของ H&M กล่าว

แคมเปญนี้กำกับโดยเฟรดริค บอนด์ (Fredrik Bond) ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่นำแสดงโดยเดวิด เบ็คแฮมสองเรื่องที่ผ่านมาสำหรับ H&M โดยแคมเปญนี้ถ่ายทำนอกเมืองลอสแอนเจลิส ในเดือนพฤษภาคม เดวิดแบ่งปันภาพจากสถานที่ถ่ายทำผ่านอินสตาแกรม (Instagram) เพื่อเปิดเผยแคมเปญใหม่ของเขาร่วมกับเควิน

10 สุภาพบุรุษที่มีอิทธิพลและเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ของวงการแฟชั่น

คำกล่าวของผู้รู้แห่งวงการแฟชั่นที่เคยได้กล่าวไว้ว่า ‘ในอนาคตอันใกล้จะเป็นยุคทองของแฟชั่นสุภาพบุรุษ’ ได้เป็นจริงแล้ว… ทุกวันนี้ทุกคนต่างรับรู้กันทั่วว่าการประสบความสำเร็จบนธุรกิจเสื้อผ้าผู้ชายเป็นเรื่องของอุตสาหกรรมแห่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความกล้าลองผิดลองถูก และความเฟื่องฟูหรูหรา แต่ใครบ้างคือผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ผลงานเสื้อผ้าทั้งหมดขยายอาณาเขตความสำเร็จขจรขจายไปทั่วโลก? ดีไซเนอร์ ช่างภาพ บรรณาธิการ ผู้ทรงอิทธิพลวงการต่างๆ ประธานองค์กร ศิลปิน นายแบบ อืม… เยอะแยะไปหมด และ 10 รายชื่อ ดังต่อไปนี้ คือคนที่ทำให้กลไกของธุรกิจแฟชั่นหมุนไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นหากคุณบังเอิญพบหน้าพวกเขาล่ะก็ โปรดส่งยิ้มสักนิด

loptmum

Mark Ronson 

อัจฉริยะทางดนตรี

มาร์ค รอนสัน คือคนเบื้องหลังงานดนตรีที่หน้าดีไม่แพ้คนเบื้องหน้า ก่อน เอมี ไวน์เฮาส์ ลาโลกใบนี้ไป เธอยังโชคดีที่ได้ร่วมงานกับหนึ่งในโปรดิวเซอร์มือดีอย่างมาร์ค ทำให้เพลง Valerie ติดหู คนไปทั่วแม้นักร้องจะไม่อยู่ร้องสดอีกต่อไป แต่ชื่อที่คนจดจำและพูดซ้ำพูดซากคือ มาร์ค รอนสัน อัจฉริยบุรุษผู้รักการแต่งกายมักก้มหน้าก้มตาอยู่เบื้องหลังอุปกรณ์เครื่องดนตรีของเขาในฐานะนักดนตรีและบางทีก็มีดีเจ มีอัลบั้มของตนเองแลได้เพื่อนร่วมวงการมาช่วยทำเพลงกันราวกับเป็นการเฉลิมฉลองจังหวะเพลงของเขาสนุก ใช้ดนตรีสังเคราะห์สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการอยู่เสมอ (อย่างเพลง Bang Bang Bang และ Oh My God) มาร์ค รอนสัน เป็นต้นแบบของหลายคนทั้งในแง่ของผลงานและภาพลักษณ์ เจ้าของรางวันแกรมมี่คนนี้มีสไตล์ที่โดดเด่นเพราะเขา ‘ส่วมอะไรก็ได้ที่ทำให้ผมเป็นผม’ มาร์คผสมผสานแรงบันดาลใจรอบตัวและสะท้อนมันออกมาเป็นสไตล์ของเขาเอง 

loptimum style 1 copy

Baptiste Radufe

นายแบบ (หนึ่งในปกลอปติมัม ไทยแลนด์)

บาติสต์ ราดุฟ นายแบบมาแรงแห่งยุคนี้ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้ใคร เพราะนอกจากจะเดินแบบให้กับ Chanel, Fendi และ Giorgio Armani แล้ว เขายังออกอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองด้วยเมื่อปี 2012 กับ Oxygen ซึ่งทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักกันทั้งวงการนายแบบและวงการเพลง จากผู้ชายซึ่งไม่มีใครรู้จักแม้แต่คนเดียว และหากรู้จักผู้ชายคนนั้นให้มากกว่านี้ตามไปอ่านต่อได้ใน L’Optimum Thailand June 2015

loptimum style 9

Johnny Depp

นักแสดง

ผู้หญิงหลงรักเขา ส่วนผู้ชาย (โดยมา) ก็อยากจะเป็นอย่างเขา เอกลักษณ์ของเขาคือความ ‘ดิบ’ ที่ดูดิบจริงซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการพูด การจา การวางตัว สายตาและการแต่งกาย ความสามารถทางการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง แน่นอนว่าเขาคือที่หนึ่งในใจของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน และจอห์นนี เดปป์ คือชายคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อจาก CFDA ให้เป็นผู้ชาย ‘คนแรก’ สำหรับรางวัล Fashion Icon ของงาน แต่มันตลกสำหรับเขาเพราะ CFDA เป็นสถาบันมอบรางวัลให้แก่คนในวงการออกแบบผู้เก่งกาจเด่ยดังทั้งหลาย แต่จอห์นนีนั้นนิยมเสื้ผ้าวินเทจหายากมากกว่าแบรนด์ดัง จอห์นนีคือคนที่รู้จักตัวเองและไม่ยอมให้สิ่งอื่นหรือใครอื่นมานิยาม

PARIS, FRANCE - UNDATED:  In this handout image supplied by Y.R., Creative Director at Yves Saint Laurent Paris Hedi Slimane is seen in Paris, France.  (Photo by Handout/Y.R. via Getty Images)

(Photo by Handout/Y.R. via Getty Images)

Hedi Slimane

ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์

แม้ว่า เอดี สลิมานน์ จะเป็นหนุ่มที่มีบุคลิกรักความสันโดษ สุขุมนุ่มลึก แต่เขาคือหนึ่งในไอคอนแห่งวงการเสื้อผ้าบุรุษ อดีตศิษย์จากโรงเรียนแนวหน้า Ecole du Louvre ก่อนไปร่วมงานกับห้องเสื้อ Yves Saint Laurent ในปี 1996 ก่อนไปร่วมงานกับ Dior และผลิตเสื้อผ้าเรดีทูแวร์สำหรับผู้ชายให้แบรนด์ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่ว สร้างปรากฎการร์ ‘ผู้ชายเอดี/ผู้ชายแบบดิออร์’ ด้วยคำสั้นว่า ‘สลิม’ และ ‘ร็อก’ เขาเป็นนักออกแบบที่แต่งตัวให้กับคนดังนับตั้งแต่ เดวิด โบวี ไปจนถึง มิค แจ๊กเกอร์ หรือแม้กระทั่ง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เองที่ยอมรีดน้ำหนักเพื่อจะเป็นหนึ่งในลูกค้าเสื้อผ้าสุดเพียวของเอดีผู้นี้ ปี 2007 ทุกคนประหลาดใจเมื่อเขาประกาศลาออกจาก Dior และย้ายไปอยู่ลอสแองเจลิส เพื่อใช้ชีวิตกับการถ่ายภาพ ห้าปีให้หลังเอดีกลับมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ให้กับแบรนด์ที่เขาเปลี่ยนชื่อให้เป็น Saint Laurent Paris  และดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรหยุดเขาได้

loptimum criticalmasspage

(Photo by criticalmasspage)

Kanye West

ศิลปิน

หากเป็นเมื่อสักแปดถึงเก้าปีก่อนเราคงจะหยิบ P. Diddy ขึ้นมาพูดถึง แต่เพราะเวลานี้นักร้องผวิสีที่โดดเด่นกลับเป็นผู้ชายที่หยิบเสื้อของผู้หญิงมาใส่ได้อย่างมั่นใจและไม่ถือว่าล้มเหลว คานเย่ เวสต์ คือแร็ปเปอร์สุดกวนที่เวลานี้เราหวังว่าเขาจะกลับมานั่งคิดทบทวนตัวเองเสียใหม่หลังจากได้ลูกสาวที่เกิดจากดาราเรียลลิตี้ Kim Kardashian เขาดูจะเป็นตัวแทนแห่งความมืด เมื่อคิดถึงอากับกริยาและพฤติกรรมสุดห่ามที่โลกหลับตาเห็น (อย่าบอกนะว่าไม่เคยเห็นหรือได้ยินแฟนของคุณพูดถึงวันที่เขาแย่งไมค์นักร้องคันทรี่ผมบลอนด์คนหน่งบนงานประกาศรางวัล) แต่ในแง่ของแฟชั่นและความสำเร็จคานเย่ไม่เป็นสองรองใคร เขาแต่งตัวเป็น เขียนท่อนแร็บโครตบรรเจิดเป็นที่นิยมชวนทำงานเพงของเหล่าศิลปินชั้นนำอาทิ Alicia Keys และ Ludacris นอกจากนั้นเขายังมีอารมณ์ทำหนังและออกแบบเสื้อผ้าทั้งกับ Nicola Formichetti ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์ Diesel และเมื่อผลงานออกมาเสื้อผ้าสำหรับคานเย่ เวสต์คงจะจำกัดความง่ายๆกว่า Unisex

loptimum

(Photo by MTV)

Pharrell Williams

ศิลปิน

เล่าถึงตัวพ่อแห่งวงการแร็ปแล้วย้ายมาตัวลูกที่ต้องยอมรับเลยว่าปีนี้เขามาแรงมากจริงๆ และได้ฟาดปกลอปติมัมไปแล้วสำหรับเล่มที่ 13  แถมยังเดินขึ้นไปรับรางวัล Fashion Icon แบบชิลชิลในงาน CFDA 2015 ของเดือนที่ผ่านมา เมื่อมองย้อนกลับไปถึงชีวิตของฟาร์เรลล์ ก็จะเห็นว่าเขานั้นเติบโตมากับความแตกต่างและอยู่กับมันมานานแล้ว เขาเกิดในรัฐเวอร์จิเนีย ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา แหล่งกำเนิดของบุคคลระดับตำนานที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกก่อนที่เขาจะดังเสียอีก… แม้จะมองออกมาจากนอกโลก หรือห่างไกลไปหลายล้านปีแสง เชื่อว่าคุณก็ยังคงเห็นฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ ได้จากระยะไกลสุดลูกหูลูกตา เราเชื่อว่าถึงแม้วันหนึ่ง ความชราภาพมาเยือนเขาอย่างห้ามไม่ได้ เขาก็ยังคงโดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำกว่าคนรุ่นเดียวกัน เขานี่ล่ะที่ใส่สูทของ Saint Laurent by Hedi Slimane ในเอ็มวีเพลง Get Lucky ที่เป็นผลงานร่วมกับ ดาฟต์ พังค์ และได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีไป พร้อมยอดวิวใน Vevo ถึง 60 ล้านครั้ง 

loptimum style

David Beckham

นักฟุตบอล (และคุณนายภริยา) 

ช่างงดงามเสียจริงเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง มีสามีเป็นนักฟุตบอลสุดเท่ มีสไตล์ แต่งตัวดีเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ยังเป้นสามีผู้ ‘รับฟัง’  ที่ดีเสียเหลือเกิน เขาถึงกับยอมโยนเสื้อฮู้ดลำลองของเขาทิ้งไปพร้อมกับรองเท้าผ้าใบเน่าๆ แล้วแทนที่ด้วยเสื้อสูทสั่งตัดสุดเนี้ยบและรองเท้าบู๊ดส้นนิเกิลสุดหรู เขายอมพัฒนาแบบก้าวกระโดด เปลี่ยนภาพหนุ่มนักกีฬามากความสามารถกลายเป็นสไตล์ไอคอนของโลกแห่งสื่อ จะไปล้อพวกเขาไม่ได้หรอกนะเพราะเดวิด กับ วิกตอเรียนั้นเป็นคู่รักที่มีอิทธิพลจริงๆ ขณะเดียวกันพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าผู้ชายสมัยนี้สามารถสนุกกับการแต่งตัวได้โดยไม่ต้องรู้สึกเขินอาย และแน่นอน ภรรยานั้นถูกเสมอเมื่อเป็นเรื่องของการแต่งตัว และลูกๆของเขาไม่เคยทำให้นิตยสารแฟชั่นผิดหวังเลยสักครั้ง 

loptimum Zara aw 2012

Sean O’Pry

นายแบบ

เจ้าของเรือนรางที่เทพเจ้ายังต้องอาย หนึ่งในนายแบบชายที่ฮอตที่สุดของโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนเกิดมาดูดีเสียอย่าง ให้พยายามทำตัวโลว์โพรไฟล์ให้ตายยังไงก็หนีไม่พ้นชายหนุ่มที่มีชื่อกลางว่า ริชาร์ด จากจอร์เจีย ถูกค้นพบบนโลกไซเบอร์ผ่านเว็บไซต์ mySpace โดย โนเร มาแร็ง แฟชั่นสไตลิสท์คุ้นหน้าจากรายการ America’s Next Top Model หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นสินค้าขายดีในโลกของแฟชั่น จนปี 2009 ฌอนคือนายแบบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดยืนยันโดย Forbes และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วผ่านเว็บไซต์ www.models.com ประกาศ 50 อันดับนายแบบนางแบบทำเงินและเบอร์หนึ่ง สำหรับปีนี้ก็ติดหนึ่งในนายแบบที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลกอีกด้วย

loptimum ss

Alexandre Mattiussi

นักสร้างสรรค์

หลังจบจากโรงเรียนตัดเสื้อสูทชั้นสูง Duperre นักออกแบบหนุ่มไปฝึกหัดงานที่ Dior เมื่อถึงปี 2004 อเล็กซองดร์ย้ายไปร่วมงานกับ Givenchy จากนั้นไปยัง Marc Jacobs เมื่ออิ่มตัวเขาเปิดตัวแบรนด์ชื่อตนเอง เสนอผลงานออกแบบสดใหม่ เขาอธิบายว่า ‘เป็นการผลิตด้วยความรักและความเอาใจใส่’ เพื่อสื่อถึงความละเอียดประณีตที่คิดมาอย่างดีว่าเหมาะสมกับการวางตัวในสังคม เขาทำงานทั้งเท่และน่าหลงใหล และสวมได้จริง (มีร้านที่ปารีสที่เดียว)

loptimum tom

(Photograph by The Selby)

TOM SACHS

เขาเป็นคนประเภทที่จะเอาสีทองไปทางที่พื้นรองเท้า Louboutin ของภรรยา หรือถ้าให้นิยามสั้นๆ เขาคือมนุษย์ต้นแบบของพวกเราทุกคนนะ เมื่อปลายยุค 1990s พ่อหนุ่มศิลปินชาวนิวยอร์กคนนี้ประดิษฐ์งานประติมากรรมที่เรียกว่า Chanel Guillotine, Prada Deathcamp และ Hermes Value meal ขึ้นมา เป็นหนึ่งในศิลปะของเขาที่ตั้งใจเอาแฟชั่นมายำเข้ากับความรุนแรง เพื่อตอกหน้าพวก ‘เศรษฐีใหม่’ ซึ่งบ้าโลโก้แบรนด์แพงๆ คุณสามารถไปเปิดเว็บไซต์ของเขาแล้วสั่งรองเท้า Nike ที่เขาไปร่วมทำด้วยสักคู่ ถ้าคุณโชคดี(จริงๆ) มันอาจจะยังพอเหลือให้สั่งอยู่บ้างนะ

Content by Editorial Team