Posts

Back to the origin

Photography: Courtesy of DAKS

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มิสเตอร์ไซมอน ซิมป์สัน (Mr. Simeon Simpson) ได้เปิดร้านเสื้อผ้าคุณภาพสูง (ค.ศ. 1894) บนย่าน Middlesex Street ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยวัยเพียง 16 ปี ทางร้านให้การบริการที่โดดเด่น มีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังเป็นสูทคุณภาพสูง ทำให้สูทของร้านได้รับการขนานนามว่า ‘สูทซิมป์สัน’ (Simpson’s Suits) และต่อมาได้พัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูป (ready-to-wear) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้เริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นในยุคนั้นเลยก็ว่าได้

ต่อมาในปี 1934 มิสเตอร์อเล็กซ์ (Alexander Simpson) ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สองของมิสเตอร์ไซมอน ได้ปฏิวัติวงการเสื้อผ้าด้วยการผลิตกางเกงแบบไม่ต้องใส่เข็มขัด ซึ่งตัวเขาเองได้มองหาชื่อที่จะมาเป็นแบรนด์ที่ตอบรับกับกางเกงแบบใหม่ที่ตัวเขาได้คิดค้นขึ้น เขาจึงเรียกกางเกงตัวดังกล่าวว่า ‘DAKS TOP’ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์ ‘DAKS’ ที่ได้เกิดขึ้นจากการผสมผสานคำว่า DAddy และ slacKS เข้าด้วยกัน 

ต่อมาในปี 1976 ทางแบรนด์ได้ออกแบบลายตารางหมากรุก ‘เฮ้าส์เชค’ (House Check) ซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์มากว่า 40 ปี ที่คนทั่วโลกรู้จักและให้การยอมรับจนถึงปัจจุบัน 

ด้วยประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน คุณภาพ ความพิถีพิถันในการตัดเย็บ และการเลือกสรรวัตถุดิบในทุกกระบวนการผลิตของทางแบรนด์ ทำให้ในปี 1956 เจ้าฟ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ (HRH The Duke of Edinburgh) ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ และปี 1962 ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Her Majesty The Queen, Elizabeth II) ต่อมาในปี 1982 ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เจ้าชายแห่งเวลส์ (HRH The Prince of Wales)

และในซีซั่นนี้ ทางแบรนด์ได้รังสรรค์ความเป็นเอกลักษณ์และความคลาสสิกผ่านลวดลายใหม่ในคอลเลกชั่น AW 2022 ที่สะท้อนเรื่องราวของการเดินทางกลับภูมิลำเนาของคู่รักหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ที่เดินทางกลับบ้านที่ริชมอนด์ อัพพอน เทมส์ (Richmond upon Thames) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและคอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ เป็นพื้นที่กิจกรรมที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ที่สร้างแรงบันดาลใจและความน่าประทับใจ ลายโมทีฟของคอลเลกชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย DD หรือ DAKS monogram จะผสมผสานความเป็นเฮอริเทจกับความสดใหม่เข้าไปตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็น DAKS

available at DAKS Shop Central World และเคาท์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือ FB : DAKSThailand, Line @daksthailand

ประวัติและจุดเริ่มต้นของ DAKS จากประเทศอังกฤษ

จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1894 ของแด๊กซ์ (DAKS) ผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน โดย Mr. Simeon Simpson (ไซมอน ซิมป์สัน) ผู้ก่อตั้งธุรกิจร้านรับตัดเสื้อสุภาพบุรุษ (Bespoke) ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ผู้ซึ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในฐานะของร้านเสื้อผ้าคุณภาพสูง ที่มีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังมาพร้อมด้วยการบริการที่โดดเด่น ตั้งอยู่ในย่านถนน Middlesex Street ณ เมืองลอนดอน จนได้รับการขนานนามว่า สูทซิมป์สัน ‘Simpson’s Suits’  ก่อนที่จะได้พัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าแบบ ready-to-wear (เสื้อผ้าสำเร็จรูป) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มการทำธุรกิจแห่งอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นในยุคนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แด๊กซ์ (DAKS)หยุดเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานอันประณีต แต่ทว่าในปี 1934 Alexander Simpson (Alex หรือ อเล็กซ์) ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สองของ Simeon Simpson ได้ปฏิวัติวงการเสื้อผ้า ด้วยการผลิตกางเกงแบบไม่ต้องใส่เข็มขัด ซึ่ง อเล็กซ์ (Alex) มองหาชื่อแบรนด์ที่จะมาเป็นแบรนด์กางเกงแบบใหม่ที่ตนคิดค้นขึ้น จึงเรียกชื่อกางเกงดังกล่าวว่า DAKS TOP ซึ่งกลายมาเป็นชื่อแบรนด์ “DAKS” ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานคำว่า DAddy และ slacKS ในเวลาต่อมา 

จนกระทั่งในปี 1976 DAKS ได้ออกแบบลายตารางหมากรุก หรือที่เรียกว่า ‘ลายเฮ้าส์เชค (House Check)’ ขึ้น ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มากว่า 40 ปี ที่คนทั่วโลกรู้จักและให้การยอมรับจนถึงปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน แต่ด้วยคุณภาพ ความพิถีพิถันในการตัดเย็บ และการเลือกสรรวัตถุดิบในทุกกระบวนการผลิต จึงทำให้แด๊กซ์ (DAKS)  เป็นแบรนด์ที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาติ ในการใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จากราชวงศ์อังกฤษ (The Royal Warrants) โดยในปี 1956 ได้รับพระราชทานพระราชานุญาติ ให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จาก เจ้าฟ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ (H.R.H. The Duke of Edinburgh.) และปี 1962 ได้รับพระราชทานพระราชานุญาติ ให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 (Her Majesty The Queen.) ต่อมาในปี 1982 ได้รับพระราชทานพระราชานุญาติ ให้ใช้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์จากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (HRH The Price of Wales.)

และนับจากวันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้ที่ DAKS ได้ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของทุกองค์ประกอบ เพื่อรังสรรค์ความสวยงามแบบคลาสสิคและยั่งยืน ที่สะท้อนผ่านลวดลายใหม่ในคอลเลคชั่น AW 2022 นี้ กับการเล่าเรื่องการเดินทางกลับภูมิลำเนาของคู่รักหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ที่เดินทางกลับบ้านที่อยู่ในพื้นที่ของริชมอนด์ อัพพอน เทมส์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของลอนดอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและคอมมูนิตี้มอลต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจและน่าประทับใจ เป็นพื้นที่กิจกรรมที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและเป็นที่ที่พบเจอแต่คนที่คุ้นตา เรื่องราวทั้ง 3 เรื่องของคอลเลคชั่นนี้ ถูกตั้งชื่อตามสถานที่ ที่ทั้งคู่แวะไประหว่างทาง ก่อนที่จะถึงจุดหมาย เพื่อเล่าเรื่องราวของพื้นที่นั้นๆ  

ลองจินตนาการ ถึงบ้านหลังใหญ่ที่ได้รับการสืบทอดมา ข้างในมีตู้เสื้อผ้าอยู่ตู้หนึ่งที่บรรจุเสื้อผ้าและเครื่องประดับของ DAKS เอาไว้ เปรียบเสมือนตู้สมบัติ ที่เราได้ไปค้นพบในบ้านหลังนี้ และเสื้อผ้าเหล่านั้นคือองค์ประกอบสำคัญของคอลเลคชั่นนี้ ที่มีความสวยงามแบบคลาสสิคและยั่งยืน เมื่อมองไปรอบๆ บ้าน การตกแต่งของบ้านก็เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่น ดีเทลต่างๆตั้งแต่วอลเปเปอร์และเฟอร์นิเจอร์ รายละเอียดเหล่านี้จะถูกดัดแปลงไปอยู่ในลายพิมพ์ และลายโมทีฟของคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย DD และ  DAKS Monogram ที่ผสมผสานความเป็นเฮอริเทจเข้ากับความสดใหม่ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็น DAKS