Posts

แฟนคลับห้ามพลาด ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตระดับโลกของ COLDPLAY เฉพาะที่ SF CINEMA เท่านั้น

แฟนคลับห้ามพลาด ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตระดับโลกในโรงภาพยนตร์
“COLDPLAY LIVE BROADCAST FROM BUENOS AIRES : LIVE VIEWING AT SF CINEMA” เฉพาะที่ เอส เอฟ เท่านั้น!!

โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เอาใจแฟนคลับวงร็อคระดับโลก COLDPLAY (โคลด์เพลย์) เตรียมฉาย “COLDPLAY MUSIC OF THE SPHERES LIVE BROADCAST FROM BUENOS AIRES : LIVE VIEWING AT SF CINEMA” ถ่ายทอดสดการแสดงคอนเสิร์ตจากเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา มาให้ชาวไทยได้ดูพร้อมกับแฟน ๆ อีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก บนจอยักษ์พร้อมระบบเสียงสมบูรณ์แบบ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2565 รอบเวลา 15.30 น. และ 19.00 น. เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เท่านั้น
 
คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “MUSIC OF THE SPHERES ถือเป็นคอนเสิร์ต World Tour ครั้งล่าสุดของ Coldplay วงดนตรีร็อกชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามกีฬา River Plate เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้แฟนเพลงได้รับชมในโรงภาพยนตร์กว่า 70 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เป็นโรงภาพยนตร์แห่งเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดครั้งนี้ หลังจากที่เราเคยประสบความสำเร็จในการฉายบันทึกการแสดงสด Coldplay Live ในปี 2012 และสารคดี Coldplay : A Head Full of Dreams ในปี 2018 มาแล้ว นอกจากนี้จากประสบการณ์ในการถ่ายทอดสดผ่านระบบสตรีมมิ่งในโรงภาพยนตร์ หรือ Live Viewing at SF Cinema ทำให้เรามั่นใจว่าแฟนๆ Coldplay ชาวไทย จะได้สัมผัสประสบการณ์ชมคอนเสิร์ตผ่านระบบภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบในโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ อย่างแน่นอน”

สำหรับผู้สนใจ COLDPLAY MUSIC OF THE SPHERES LIVE BROADCAST FROM BUENOS AIRES : LIVE VIEWING AT SF CINEMA สามารถตรวจสอบสาขา พร้อมซื้อบัตรล่วงหน้าได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน SF Cinema, www.sfcinema.com และจุดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์สาขาที่เข้าฉาย ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2565 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่นั่งละ 600 บาท พิเศษ!! สำหรับสมาชิก SF+ รับส่วนลดเพิ่มที่นั่งละ 50 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข่าวสารและสอบถามรายละเอียดได้ผ่านโซเชียลมีเดีย WeLoveSF และ #SFcinema

อัลบั้ม Under the Iron Sea ของ Keane อาจจะไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดแต่มันก็ยอดเยี่ยม

ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นครบรอบทศวรรษของอัลบั้ม Under the Iron Sea ของ Keane วงร็อกชื่อดังจากเกาะอังกฤษ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของนักวิจารณ์อังกฤษ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบอัลบั้มนี้ไม่แพ้อัลบั้มแรก และผมคิดว่ามีความเป็นร็อกมากขึ้นในบางขณะ Keane เป็นวงดนตรีที่ดู “เหมือนจะ” ดังมากในบ้านเรา ผมใช้คำว่า “เหมือนจะ” เพราะผมคิดว่าคุณผู้อ่านลอปติมัมนั้นน่าจะอินกับวงร็อกอย่าง Coldplay มากกว่า (นั่นล่ะครับ … วงที่เพิ่งกลับมาออกอัลบั้มสุดแป้กมาเมื่อต้นปี … หยุดออกเถอะครับ พี่คริส มาร์ติน … อ้อ … คริสนักร้องนำ Coldplay และทิม ไรซ์ อ็อกซ์ลีย์ นักร้องนำวง Keane จบการศึกษามาจากที่เดียวกันนะครับ)

LONDON - NOVEMBER 01:  Singer Tom Chaplin pictured during Keane's performance during the 'War Child Concert' at Brixton Academy on November 1, 2007 in London, England  (Photo by Ben Stansall/Getty Images)

ถึงแม้ว่า Coldplay จะโด่งดังกว่ามากมายในบ้านเรา แต่ผมยังจำความรู้สึกของตัวเองตอนที่อัลบั้ม Hopes and Fears ของ Keane ครั้งแรก คือ น้ำตาจะไหลเสียให้ได้ เมโลดี้สวยงามมาก สวยงามจริงๆ และก็เป็นดังคาด เพราะอัลบั้มนี้ถูกการันตีด้วยรางวัล Mercury Prize 2004 ต่อด้วยรางวัล Brit Awards ในปีเดียวกัน ผมอยากจะบอกคุณผู้อ่านนะครับว่า รางวัลที่การันตีว่าคุณเป็นศิลปินที่มีความสามารถอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่รางวัลอื่นใดเลยนอกจาก Mercury Prize ที่จัดขึ้นทางฝั่งอังกฤษทุกปี คือ ถ้าคุณไม่สุดจริง ไม่เท่จริง ไม่แนวจริง ไม่เก่งจริง คุณไม่มีทางได้มันมาครอบครองอย่างเด็ดขาดครับ ถ้าเทียบง่ายๆ ก็ประมาณว่ารางวัล Cannes Lions ของวงการโฆษณา ประมาณนั้นเลยนะครับ

LONDON - NOVEMBER 01:  Tom Chaplin from the band Keane introduces the first act on stage at the 'War Child Concert' at Brixton Academy on November 1, 2007 in London, England  (Photo by Ben Stansall/Getty Images)

แต่อย่างว่า กว่าที่ Hopes and Fears จะครองใจผู้ฟังบ้านเราได้ก็ต้องใช้เวลาบ่มเพาะพอสมควร คอนเสิร์ตครั้งแรกของ Keane ในประเทศไทยจัดที่อิมแพ็ค อารีน่านั้น ผมจำได้ว่าที่นั่งว่างโหรงเหรงมาก ในขณะที่ครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ สถานที่เล็กลงหน่อย แต่กลุ่มคนฟังแน่นหนาขึ้น ถือว่าได้รับการตอบรับดีพอสมควร ถ้าคุณถามผมว่า Keane ดังหรือไม่ พวกเขาดังมากในญี่ปุ่นและเม็กซิโกนะครับ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อัลบั้มที่สอง Under the Iron Sea เพิ่งจะครบรอบสิบปีไป แฟนๆ บ้านเราอาจจะลืมอัลบั้มชุดนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่สนใจชุดแรกกับชุดรวมฮิต แต่สำหรับผมแล้ว ชุดนี้อาจจะไม่ดีเท่าชุดแรก แต่การเติบโตและความท้าทายทางดนตรีก็มีมากขึ้น มีการใส่ซาวด์กีตาร์แทรกลงไปในเพลงที่ไม่ได้ยินเลยในชุดแรก ซึ่งจะเน้นเปียโนไฟฟ้าเป็นหลักมากกว่า

NEW YORK - AUGUST 06:  Singer Tom Chaplin of Keane performs at the Williamsburg Waterfront on August 6, 2010 in the Brooklyn borough in New York City.  (Photo by Jason Kempin/Getty Images)

นักวิจารณ์ฝั่งอังกฤษเองก็ไม่ได้ปลื้มกับ Under the Iron Sea สักเท่าไร ส่วนบ้านเรานี่เงียบกริบครับ เข็มตกพื้นยังดังกว่า อย่างไรก็ตาม ชุดนี้มีเพลงเท่ๆ อย่าง Crystal Ball ที่ทิมใส่เสียงซินธิไซเซอร์ลงไปแทนเสียงกีตาร์ไฟฟ้า ผมว่าเท่มากเลยนะครับที่ไม่ยอมใส่เสียงกีตาร์จริงลงไป เพลงนี้เป็นเพลงที่ติดหู ฟังง่าย สไตล์บริตป็อป แถมเสียงร้องของ Tom Chaplin (ทอม แชปลิน) เองก็เด่น ฟังแล้วรู้ทันทีว่ามาจากวงไหน นอกจากนั้นยังมีบัลลาร์ดสุดหม่นหมอง ความหมายเจ็บปวดที่เหมาะกับหน้าฝนและความรักที่ปวดร้าวอย่าง Try Again ที่มีมิดเทมโปที่สวยงาม แม้จะไม่ดีเด่นเทียบเท่า Somewhere Only We Know แต่ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว ส่วนตัวผมคิดว่ามันเพราะและมีเสน่ห์มาก นอกจากนั้นก็ยังมีเพลง Hamburg Song, Nothing in My Ways และ Bad Dreams ที่ฟังโดยรวมแล้วดีทีเดียว

NEW YORK - AUGUST 06:  Singer Tom Chaplin of Keane performs at the Williamsburg Waterfront on August 6, 2010 in the Brooklyn borough in New York City.  (Photo by Jason Kempin/Getty Images)

Under the Iron Sea ถือเป็นอัลบั้มที่ดี แต่ดันออกมาหลัง Hopes and Fears แฟนๆ ก็เลยไม่ปลื้มกันเท่าใดนัก แต่ก็ถือเป็นงานคุณภาพแห่งทศวรรษที่ผ่านมา Keane ถือเป็นนักร้องคุณภาพที่หลายคนเติบโตมากกับพวกเขา หลายคนยึดพวกเขาเป็นซาวด์แทรกแห่งชีวิต สำหรับงานอาร์ตเวิร์กของอัลบั้มที่ถูกมองข้ามนี้มีเสน่ห์มากมาย มันถูกออกแบบโดยศิลปินกราฟิกจากไบรตัน Sanna Annukka (ซานน่า อานนุคค่า) ลองไปหางานของเธอดูได้ครับ ถ้าใครเป็นแฟนวง Keane จริงๆ อาร์ตเวิร์กอัลบั้มนี้ถือว่าสุดจริงๆ โดยเฉพาะแผ่นเสียงและซีดีที่ปกเป็นพับหลายทบ บรรจุงานกราฟิกสวยงามมาก ผมเคยได้มีโอกาสสัมภาษณ์วง Keane ในงาน Press Conference เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วครับ เขาบอกว่าเขาไม่เคยรู้จักศิลปินคนนี้มาก่อน แต่พอเห็นงานปุ๊บ ก็ตกลงใจให้เธอมาทำเลย สวยจริงๆ ครับ สมควรไปหามาสะสมเป็นอย่างยิ่ง

NEW YORK - AUGUST 06:  A general view of atmosphere during the performance of Keane at the Williamsburg Waterfront on August 6, 2010 in the Brooklyn borough in New York City.  (Photo by Jason Kempin/Getty Images)

ปิดท้ายด้วยคำพูดที่ผมมักจะพูดเสมอนั่นคือ “Coldplay คือ วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่เก่ง และเป็นตำนาน ในขณะที่ Keane คืองานอาร์ตที่สวยงามกว่า Coldplay” ครับ

Content by Patrick Chainam, Photography by Getty Images

เมื่อทั้ง 2 วงอย่าง Coldplay และ Bring me the Horizon ต้องมาเผชิญหน้ากันในงาน NME Awards

Bring me the Horizon VS. Coldplay

ข้ามมาดราม่าทางฟากฝั่งอังกฤษกันบ้าง เป็นที่รู้กันอย่างแล้วว่าวงร็อคอย่าง Coldplay และ Bring me the Horizon นั้นมีเรื่องบาดหมางกันและทะเลาะแขวะกันอยู่เป็นระยะๆ แล้วเหตุก็เกิดขึ้นเมื่อทั้ง 2 วงต้องมาเผชิญหน้ากันในงาน NME Awards

BringMeTheHorizon_3_NMEAwards2016_170216_BB.article_x4

เมื่อวง Bring me the Horizon ได้ขึ้นไปโชว์แสดงสด Oliver Sykes นักร้องนำของวงได้ลงจากเวทีและเดินขึ้นไปยืนเหยียบบนโต๊ะของวง Coldplay ที่นั่งอยู่ กวาดแก้วจานที่อยู่บนโต๊ะระเนระนาด ก่อนขาโต๊ะข้างหนึ่งจะหักล้มจนเกลื่อนกลาด หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนจบลงมีคนตั้งประเด็นวงอาจจะมีความหมั่นไส้ส่วนตัวของวง Bring me the Horizon ที่เคยไปแขวะว่าอาร์ตเวิร์คบนปกของ Coldplay ไปลอกเลียนแบบของวงตนนั้นเอง โดย Coldplay ก็ได้สวนกลับไปแบบเฉือดนิ่มๆ ว่า เดิมทีพวดเขาไม่เคยฟังงานของ Bring me the Horizon แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาคิดว่าวงร็อครุ่นน้องนี้เป็นวงที่ยอดเยี่ยม และมีความเป็นร็อคแอนด์โรลอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมกับยืนขึ้นตรบมือให้

Content by Chanond M.