Posts

ไก่ย่างแอฟริกันสไตล์อยู่บ้าน(Roasted Chicken Quarantine style)

กักตัวอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่นึกอยากกินไก่อย่างแบบร้าน Malibu ที่ปารีส จริงๆ บ้านเรามีหลายร้านที่มีเมนูไก่ย่างสไตล์นี้ แต่ถ้าคุณอยากทำเองพอรับประทานแก้ขัด เราก็มีวิธีดัดแปลงอาหารที่คุณอาจจะมีอยู่แล้วให้กลายเป็นเมนูใหม่ๆ น่ารับประทาน

กักตัวอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่นึกอยากกินไก่อย่างแบบร้าน Malibu ที่ปารีส จริงๆ บ้านเรามีหลายร้านที่มีเมนูไก่ย่างสไตล์นี้ อย่าง Met Cafe ซอยสุขุมวิท 55(ซอยทองหล่อ)ที่โทรสั่งได้ (โทร.0889641989)มีเครื่องเคียงครบเป๊ะ รสชาติแอบอร่อยกว่าที่ปารีสเสียอีก แต่ถ้าคุณอยากทำเองพอรับประทานแก้ขัด เราก็มีวิธีดัดแปลงอาหารที่คุณอาจจะมีอยู่แล้วให้กลายเป็นเมนูใหม่ๆ น่ารับประทาน

เชื่อว่าช่วงนี้หลายบ้านมีไก่ย่างติดตู้เย็น เพราะนำมาอุ่นรับประทานได้เรื่อยๆ หรือไม่ก็ซื้อมาสักตัวที่เขาย่างเสร็จแล้วอย่าทำเองเสียเวลา นี่ช่วยอุดหนุนไก่ย่างร้านส้มตำแถวๆ บ้าน จะได้ช่วยๆ กันไป ไก่ย่าง แต่ที่ต้องลงมือทำจริงจังคือข้าวหุงกะทิหรือข้าวมันทำได้ง่ายมากอย่างน่าตกใจ เพราะใช้หม้อหุงข้าวทำได้เลย

เตรียมข้าวสารแบบที่เราใช้หุงข้าวรับประทาน ปริมาณก็ปกติเท่าที่เคยหุง ข้าวสาร 2 ถ้วยก็กิน 2 คนได้สองมื้อแล้ว กะทิกล่องหาซื้อได้ทั่วไปแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ กะทิหนึ่งกล่องขนาดกล่องนมสดปกติแบ่งมาใช้ครึ่งหนึ่ง เติมน้ำดื่มลงไป 2 เท่า คนให้เข้ากัน(กะทิในกล่องจะข้นเป็นหัวกะทิ เราต้องเจือน้ำให้เป็นหางกะทิ) ใช้อัตราส่วนนี้เพิ่มเอาถ้าคุณหุงข้าวเยอะกว่านี้ ใส่เกลือป่นลงในน้ำกะทิราวครึ่งช้อนชา เราอยากให้ได้รสกลมกล่อมแต่ไม่เอาเค็มโดด ติดหวานจะเติมน้ำตาลทรายลงไปนิดหน่อยก็ได้ แต่จริงๆ กะทิมีความหวานอยู่แล้วเดี๋ยวเลี่ยน

ซาวข้าวในน้ำสะอาดหนึ่งครั้ง ใส่ลงในหม้อหุงข้าว รินน้ำกะทิที่ผสมลงไป กะให้น้ำกะทิสุงกว่าข้าว 1 ข้อมือ อันนี้คนที่หุงข้าวบ่อยๆ จะรู้ว่าวิธีนี้ใช้ได้แม้แต่การหุงข้างไม่เช็ดน้ำบนเตาไฟ คนไม่เคยทำก็คือเราจะจุ่มนิ้วชี้ลงในหม้อให้แตะข้าวสารแล้วดูว่าปริมาณน้ำหรือน้ำกะทิสูงจากข้าวในระดับหนึ่งข้อนิ้วหรือยัง ถ้าเป็นข้าวเก่า(บนถุงจะมีบอก)จะให้น้ำสูงกว่าข้าวหนึ่งข้อครึ่งก็ดี จากนั้นก็ปิดฝากดปุ่มหุงข้าวแบบปกติ(อย่าลืมเสียบปลั๊กไฟละ)

ระหว่างนั้นเราก็เราก็เอาไก่ย่างที่มีมาเข้าเตาอบ(เตาติ๊ง)อบไฟกลางๆ ให้หนังกรอบ เตาไมโครเวฟใช้แค่อุ่นอาหาร เตาติ๊งก็คือเตาอบไฟฟ้าขนาดตั้งโต๊ะที่พอหมดเวลาที่ตั้งไว้จะมีเสียงเตือนติ๊งดังขึ้นมานั่นแหละ ระหว่างอุ่นไก่ย่าง เราก็ตั้งกระทะบนเตาด้วยไฟกลาง พอร้อนให้ตักเนยลงไปสักช้อนโต๊ะ พอเนยละลายใส่น้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงลงไปผัดกับเนยให้หอมเป็นคาราเมล(ผัดป็บเดียว) ปอกกล้วยหอม หั่นตามขวางเป็นชิ้นหนาราว 1 เซนติเมตร(หั่นเป็นแว่นๆ) นำกล้วยลงผัดกับเนย ถ้าได้กล้วยที่ยังไม่สุกมากจะอร่อยและไม่เละ แต่ถ้ากล้วยหอมสุกจะเละง่าย เราอย่าผัดแบบผัดผักหรือผัดข้าว แต่ใช้ตะหลิวกลับชิ้นกล้วยให้เคลือบด้วยเนยพอทั่วก็พอ ให้กล้วยสุกแต่ไม่เละ อย่าผัดบ่อยๆ กล้วยจะเละ แค่กลับด้านให้ชิ้นกล้วยสุกทั่วกัน กล้วยนี้ทำไว้เยอะๆ ก็ดี เพราะส่วนหนึ่งเอามากินแนมกับไก่ย่าง แต่อีกส่วนเอาไว้เป็นของหวานได้ เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาก็เข้ากันอย่างมาก

ที่จริงที่เรากินที่ร้านไก่ดำหรือร้านไก่มาลิบูที่ปารีสนั้นเขาใช้ pantain กล้วยงาช้าง บางคนก็รียกว่า‘กล้าย’ที่รสชาติเป็นลูกผสมของมันกับกล้วย นำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง แต่อย่าไปหาซื้อเลย บ้านเราไม่นิยม ใช้กล้วยหอมที่ยังไม่สุกจัดแทนก็ได้ แต่จริงๆ กล้าย หรือกล้วยงาช้างเหมาะจะนำมาทำอาหารคาวหวานได้ดีกว่ากล้วยหอม กล้วยหอมกินสุกๆ ก็อร่อยแล้ว แต่กล้ายเรากินแบบไม่ทำสุกไม่ได้

เอาละ ไก่ก็อุ่นจนหนังกรอบแล้ว ข้าวหุงกะทิก็สุกแล้ว(ข้าวหุงในหม้อหุงข้าวถ้าไฟขึ้นว่าสุกแล้ว ให้อุ่นข้าวในหม้ออีกราว 15 นาทีจะได้ข้าวที่หอมนุ่มละมุน) กล้วยผัดเนยก็ได้แล้ว ไปค้นน้ำพริกตาแดงที่ขายเป็นตลับๆ ร้านสะดวกซื้อก้มีมาคลุกกินกับข้าวมัน ส่วนซอสปิมองต์ที่ร้านไก่ดำเขาใช้พริกฮาลาปิโน่สีเขียวๆ มาทำซอสรสเผ็ดร้อนนั้นถ้าเราหาไม่ได้ก็ใช้ซอสพริกศรีราชาแทน ส่วนตัวแนะนำซอสพริกศรีราชาตราเหรียญทอง ร้านหัตถกรรมมาคาร หน้าวัดราชบพิธ(โทร.02-221-3251) โทรสั่งให้มอร์ไซค์ไปรับก็ได้ อร่อยทั้งสูตรเผ็ดน้อยและเผ็ดมาก แนะนำซื้อขวดใหญ่อย่างละขวดเลยไหนๆ ก็เสียค่าจ้างมอร์ไซค์ไปแล้ว เพราะแค่ราดข้าวไข่เจียวก็ยังอร่อยสุดๆ ไปเลย

และที่ขาดไม่ได้ก็คือซอสแม็กกี้ เอามาหยาะใส่ข้าวมัน ที่ร้านไก่ดำนี่แทบจะต้องแย่งกันระหว่างโต๊ะ จริงๆ ก็ซื้อได้ในซุปฯ ที่ปารีสทั่วไป แต่ของที่นั่นอร่อยเข้มข้นหอมกว่าของที่ขายบ้านเรา เชื่อว่าหลายคนไปยุโรปแล้วหอบซอสแม็กกี้จากที่นั่นกลับมากันเป็นขวดๆ มาแล้ว แต่ใครเหยาะแม็กกี้บนข้าวมันก็อย่าเอาน้ำพริกตาแดงคลุกไปด้วยเลยมันจะประหลาดๆ มากรสมากเครื่องไปนิดหนึ่ง ไม่ควรเอามาปรุงรสข้าวด้วยกัน 

น้ำพริกตาแดงกับข้าวมันนี่จริงๆ เขาไม่ใช่ของคู่กัน ของคู่กับข้าวมันคือน้ำพริกมะขาม ไม่ใช่น้ำพริกมะขามตำสด แต่เป็นน้ำพริกแดงใส่น้ำมะขามเปียก ถ้าอยากดัดแปลงก็เอาน้ำพริกตาแดงที่ซื้อมาผัดกับน้ำมะขามเปียกนิดหน่อยก็ได้(น้ำมะขามเปียกมีขายแบบบรรจุซองแล้วสมัยนี้)ออกมารสก็คล้ายๆ กัน จริงๆ น้ำพริกตาแดงที่ขายเป้นกระปุกนั้นก็มีรสออกเปรี้ยวนิดๆ ไม่รู้ว่าเปรี้ยวจากอะไร แต่ถ้าทำแบบสูตรคนเหนือแท้ๆ เราไม่ได้ใส่อะไรที่รสเปรี้ยวลงไปเลย

เอาละ ถึงเวลาเสิร์ฟก็ตักข้าวมันใส่โถข้าววางกลางโต๊ะ กล้วยผัดเนยใส่จานวางเคียง ไก่ย่างที่เราอุ่นจนหนังกรอบสับเป็นชิ้นๆ วางลงไป ซอสพริก ซอสแม็กกี้ จริงๆ ของที่ร้านไก่ดำมีซอสเกรวี่อีกอย่าง ถ้าอยากให้เหมือนก็ซื้อซอสเกรวี่แบบซองสำเร็จรูปมาที่วิลล่าฯ มี แต่ส่วนตัวไม่ติดใจอะไรกับวอสเกรวี่จือดๆ มันๆ นั้นเพราะยังไงก็ต้องมาเหยาะซอสแม็กกี้อยู่ดี ข้าวมันที่หุงเรากินได้หลายมือ อุ่นในหม้อหุงข้าวนั่นแหละ กดปุ่ม cook แล้วแป็บเดียวก็กลายเป็นอุ่น ส่วนข้าวที่ติดก้นหม้อจะมีความเกรียมถ้าอุ่นบ่อยๆ แต่ได้เป็นข้าวตัวหอมๆ ทำให้ข้าวมันมีกลิ่นหอมน่ากินไปอีก 

หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ง่ายดายเหมือยสูตรเนื้อสัมฤทธิ์ เพราะนี่ขนาดไม่ย่างไก่เองก็ยังหลายขั้นตอนอยู่ แล้วจะต้องไปซื้อของตามที่ต่างๆ ในช่วงอยู่บ้านนี่อาจจะไม่เหมาะ ให้ใช้บริการบริษัทรับส่งของทั้งหลายเลย หรือติดต่อไปที่ซุปเปอร์มาร์เก้ตใหญ่ๆ  ทั้งหลายเขามีบริการโทรสั่งแล้วให้คนมารับได้ สะดวกไม่ต้องออกไปนอกบ้าน สนองนโยบายอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่าได้ผลดีจริงๆ ประเทศจะไ้ด้กลับมาเป็นดังเดิมในเร็ววันนี้แน่นอน