Posts

เสริมหล่อให้ลุคไปอีกขั้น กับกำไลข้อมือจากแบรนด์ชั้นนำ ไอเท็มเด็ดที่หนุ่มๆ ไม่ควรพลาด!

ช่วงหลังมานี้จะเห็นได้ว่าผู้ชายหลายๆ คนได้ลุกขึ้นมาสนุกกับการแต่งตัวกันมาขึ้น ไม่ว่าไอเท็มไหนที่ทำให้ดูดีก็ต้องไขว่คว้าหามาครอบครอง แต่หากจะให้สมบูรณ์แบบเราก็ต้องมีไอเท็มเด็ดที่จะมาเสริมลุคให้ดูดีขึ้นไปอีกขั้นกับ ‘กำไลข้อมือ’ จากแบรนด์หรูที่จะมาเสริมความแพง ส่งเสริมความหล่อให้เพิ่มไปอีกหนึ่งเลเวล วันนี้เราได้นำกำไลข้อมือจาก 6 แบรนด์ดังที่ประกอบไปด้วย Cartier, Tiffany and Co., Gucci, Louis Vuitton, Hermes และ Celine มาฝากเพื่อนๆ กันแล้วครับ แต่ละแบรนด์ก็มีวัสดุที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นช้อยส์ให้หลายๆ คนได้ตัดสินใจ หากใครกำลังมองหาเครื่องประดับติดข้อมือชนิดนี้อยู่ บอกได้เลยว่า ‘ของมันต้องมีครับ’ สวมเข้าคู่กับนาฬิกาคู่ใจข้อมือของคุณจะดูดีขึ้นมาทันที จะมีรุ่นไหนที่เราคัดสรรมาให้เพื่อนๆ กันบ้าง เราไปชมกันเลยครับ!

Cartier – LOVE Bracelet

Tiffany and Co. – Venetian Link I.D. Bracelet

Gucci – Bracelet with Interlocking G

Louis Vuitton – EMPREINTE

Hermes – Jumbo H Bracelet

Celine – Beach Bracelet in Brass with Rhodium Finish and Polyester

ความคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Tank Louis Cartier)

ดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิกที่ไร้ขอบเขตของเวลา แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Tank Louis Cartier) กับโฉมใหม่ล่าสุดด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จุดเด่นคือหน้าปัดสี่เหลี่ยมลายกราฟิกซ้อนกรอบ หน้าปัดโมโนโครมในเฉดสีแดงโดดเด่น ซึ่งเป็นสีประจำเมซง และเข้มขลังในหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์

ความงามที่ไร้กาลเวลาเริ่มจาก Tank นาฬิกาที่สร้างพลังและเรื่องราวประทับใจจากรุ่นสู่รุ่น สู่ Tank Louis Cartier ดีไซน์ล่าสุด สะดุดตาด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมลายกราฟิกซ้อนกรอบ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ปรากฏครั้งแรกบนนาฬิกามัสท์ เดอ คาร์เทียร์ (Must de Cartier) เรือนเด่นจากยุค 1980s ซึ่งของเดิมนั้นมีตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าดีไซน์ที่มีคานประกบตัวเรือนในแนวดิ่งอันเป็นเอกลักษณ์

หน้าปัดสีแดงที่เราเห็นนี้ใช้วิธีเคลือบแล็กเกอร์ ส่วนหน้าปัดสีเทาใช้เทคนิคชุบกัลวาไนซ์ เพิ่มความเงางามด้วยเทคนิคการเคลือบซ้อนกันหลายชั้น ขับเน้นความเด่นของเลขโรมันทั้ง 4 ตำแหน่ง ละเมียดละไมในดีไซน์ด้วยการลดตัวเลขบอกชั่วโมงลงเหลือเพียง 4 ตำแหน่ง นี่คือความงามสง่าของ Tank Louis Cartier รุ่นใหม่นี้ที่นาฬิกาพลิกรับแสงแต่ละครั้งจะปรากฏมิติของสีบนหน้าปัดที่ดูลุ่มลึกและชวนให้จับจ้อง เป็นความพิเศษที่มีเอกลักษณ์สมค่าคู่ควรกับคนที่ชอบความพิเศษไม่เหมือนใคร

– Author: Sethapong Pawwattana –

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาร์เทียร์ โปรดเยี่ยมชม www.cartier.com/th-th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Cartier Thailand

LINE Official Account: @CartierTH

ซูมลุคและเครื่องเพชรของสองดาวเด่น ‘Jisoo’ และ ‘คิมเบอลี่’ ในงาน Beautés du Monde โดย Cartier

Cartier จัดงานค็อกเทลปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองการมาเยือนของคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี Beautés du Monde ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรม Siam Kempinski โดยงานนี้ได้มีแขกคนสำคัญอย่าง ‘Jisoo’ มาในฐานะ Cartier’s Global Brand Ambassador เป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษที่มาภายในงาน พร้อมด้วยสาวไทยอย่าง ‘คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส’ ก็มาเป็นอีกหนึ่งแขกคนสำคัญของงาน ในฐานะ Friend of the Maison ด้วยเช่นกัน

Jisoo

ในครั้งนี้ สาวสวยอย่าง Jisoo ได้ปรากฏกายภายในงานในลุค All Black โดยสวมใส่สร้อยคอและต่างหู RAYUELA โดดเด่นจับตาด้วยมรกตโคลัมเบียรูปทรงห้าเหลี่ยม น้ำหนักรวม 6.84 กะรัต จาก Cartier

Kimberley Anne Woltemas

ตามติดมาด้วยสาวไทยอย่าง ‘คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส’ ในลุคเดรสสีขาวสุดสง่า พร้อมด้วยการสวมใส่สร้อยคอและแหวน NOPAL สะกดทุกสายตา ด้วยรูเบลไลต์ทรง Cat’s eye สีแดงก่ำ น้ำหนัก102.17 กะรัต (สร้อยคอ) และ 44.08 กะรัต (แหวน) จาก Cartier

Fashion Show

ไม่เพียงเท่านั้น ในงานยังได้จัด Mini Fashion Show ให้แขกผู้มาร่วมงานได้ยยลโฉมไฮจิวเวลรีชิ้นไฮไลท์จากคอลเล็กชั่น Beautés du Monde ที่สวมใส่โดยนายแบบและนางแบบรวม 8 ลุค ที่บ่งบอกถึงสไตล์ในแบบคาร์เทียร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของเมซงอย่างยาวนาน แต่ละลุคจะงดงามเพียงใด เราไปชมกันเลยครับ

Beautés du Monde รังสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการเฝ้าสังเกตและชื่นชมความงดงามของโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยู่แห่งใด ผ่านการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญของคาร์เทียร์ในการดีไซน์อันสง่างาม รวมไปถึงการจับคู่ผสมผสานระหว่างอัญมณีเลอค่า โดยขับเน้นองค์ประกอบของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย

ส่องอัญมณีและเรือนเวลาชั้นสูงจาก Cartier ในงานโชว์เคสคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี Cartier Beautés du Monde

แบรนด์เครื่องประดับโลก สัญชาติฝรั่งเศสที่หลายๆ คนคุ้นเคยอย่าง Cartier จัดโชว์เคสไฮจิวเวลรีสุดพิเศษ ครั้งแรกในประเทศไทย ณ โรงแรม Siam Kempinski กับคอลเล็กชั่น Beautés du Monde จัดแสดงจิวเวลรีและเรือนเวลาอันล้ำค่ากว่า 300 ชิ้น หลังจากที่ได้เผยโฉมในประเทศต่างๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น มาดริด ประเทศสเปน และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และครั้งนี้ก็เป็นครั้งพิเศษ ที่คนไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์ ร่วมกับไฮจิวเวลรีระดับตำนานของ Cartier

ภายในงานจะถูกแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ โดยประกอบไปด้วย 5 ห้องหลักด้วยกัน คือ Lounge, Introduction room, Patrimony room, Exhibition room และ Private Viewing room โดย Lounge, Introduction room, Thai Patrimony จะถูกออกแบบโดยนักออกแบบไทยอย่าง ศรัณย์ เย็นปัญญา ต่อกันด้วยห้องที่ประกอบไปด้วย Exhibition room และ Private Viewing room จะถูกออกแบบโดย Jaime Hayon สำหรับไฮจิวเวลรีที่นำมาโชว์เคสในครั้งนี้ มาจากหลายหลายคอลเล็กชั่น ที่มีความล้ำค่าเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น SAMBHAL (ซอมบาล คอลเล็กชั่น)Beautés du Monde FINE JEWELRY Collection (โบเต้ ดู มงด์ ไฟน์จิวเวลรีคอลเล็กชั่น)NOPAL (โนปาล คอลเล็กชั่น)ENIVRE (อองนีฟ คอลเล็กชั่น)RAYUELA (ฮายูเอลา คอลเล็กชั่น) เป็นต้น

ในแต่ละโซนดังกล่าวได้จัดวาง Cartier คอลเล็กชั่นต่างๆ กับงานศิลปะไว้อย่างมีความหมายและลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Cartier Collection, อัญมณี, การผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับล้ำค่าที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ รวมถึงเรื่องราวมรดกคาร์เทียร์ชิ้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนไปถึงปี 1860 และชิ้นล่าสุดคือปลายศตวรรษที่ 20 โดยคอลเล็กชั่นของ Cartier มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีมากกว่า 3,000 ชิ้น โดยบางชิ้นทางแบรนด์ได้ประมูลกลับคืนมาแต่ไม่ใช่เพื่อนำมาเพื่อการค้า แต่เพื่อนำมาเป็นมรดกสืบทอดทางวัฒนธรรมและมรดกที่พิพิธภัณฑ์ทั่วโลกได้ยืมไปจัดแสดงผ่านเรื่องราวสำคัญต่างๆ

Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition ยลโฉมเครื่องประดับชั้นสูงจากความงดงามของโลก

– เตรียมพบกับโชว์เคสคอลเลคชั่นไฮจิวเวลรี เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง สุดยิ่งใหญ่ของโลก ครั้งแรกในประเทศไทย Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition ไฮจิวเวลรีที่ไฮไลท์ความหลงใหล ความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์ความงดงามจากธรรมชาติ และวัฒนธรรมทั่วโลกของเมซง ผ่านการผสมผสานอัญมณีสูงค่ามากมายออกมาเป็นเครื่องประดับที่ถูกเชิดชูด้วยความใส่ใจ กับคอลเลคชั่น Beautés du Monde พร้อมจิวเวลรีและเรือนเวลากว่า 300 ชิ้น

หลังจากเผยโฉมมาแล้วที่มาดริด ประเทศสเปน และเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ไฮจิวเวลรีระดับตำนานของคาร์เทียร์ พร้อมการปรากฏตัวของโกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่จะมาร่วมเฉลิมฉลองการมาเยือนของคอลเลคชั่นไฮจิวเวลรีในปาร์ตี้เปิดตัว Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition ในครั้งนี้

คอลเลคชั่น Beautés du Monde รังสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการเฝ้าสังเกตและชื่นชมความงดงามของโลกใบนี้    ไม่ว่าจะอยู่แห่งใด ผ่านการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญของคาร์เทียร์ในการดีไซน์อันสง่างาม รวมไปถึงการจับคู่ผสมผสานระหว่างอัญมณีเลอค่า โดยขับเน้นองค์ประกอบของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย

โดยงาน Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition ออกแบบโดย Jaime Hayon ดีไซเนอร์ชาวสเปน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ที่จะเผยโฉมการตกแต่งห้องภายใต้ 3 คอนเซ็ปต์ World Wildlife, Mineral World และ Cultural World ให้ผู้รับชมดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติอันทรงพลัง ปลุกเร้าจิตวิญญาณให้เปี่ยม   ไปด้วยความตื่นเต้นมีชีวิตชีวา

โดยนับเป็นครั้งแรกที่คาร์เทียร์ เปิดให้บุคคลทั่วไปผู้สนใจเข้าเชยชมและสัมผัสความตระการตาของไฮจิวเวลรีของเมซงที่เต็มไปด้วยความงดงามอันแสนประณีต ในงาน Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition เปิดให้ประชาชนที่สนใจร่วมชมได้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 วันเดียวเท่านั้น จำกัดผู้เข้าชมทั้งสิ้นจำนวน 400 คน สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ หรือแสกน QR ด้านล่างครับ

rhunrun เรียบเรียง

การกลับมาของ TANK FRANÇAISE เรือนเวลาสุดไอคอนิกในตระกูล TANK ที่มาพร้อมกลิ่นอายแห่งความเป็นฝรั่งเศส

คาร์เทียร์ TANK FRANÇAISE เรือนเวลาสุดคลาสสิกจากตระกูล TANK ที่กลับมาดึงดูดสายตาทุกคู่อีกครั้ง พร้อมสืบทอดนิยามแห่งสไตล์ในแบบฉบับฝรั่งเศส โดยเปี่ยมด้วยคุณสมบัติรอบด้าน เรียบง่ายแต่ภูมิฐาน มีความเป็นชายคู่ความเป็นหญิง นำเสนอเสน่ห์สุดคลาสสิกที่สร้างความแตกต่าง สง่างามไร้กาลเวลา ถ่ายทอดสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะ และศิลปะการก้าวทันยุคสมัยในแบบฉบับของ TANK

ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ในการปรับเปลี่ยนตนเองและยืนหยัดผ่านกาลเวลา คือมรดกตกทอดจากการออกแบบ   ที่ชาญฉลาด สำหรับผู้มีสุนทรียะในหัวใจ สมกับเป็นเรือนเวลาที่ได้รับเลือกให้คงอยู่ไปตลอดกาล

TANK FRANÇAISE (แทงก์ ฟรองเซส์) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1996 พร้อมสายโลหะที่กลมกลืนกับตัวเรือนอย่าง    ไร้ที่ติ และได้ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกตระกูลแทงก์อันยิ่งใหญ่ในทันที ดีไซน์แบบโมโนบล็อก (monobloc) กลมกลืนบนวัสดุโลหะชิ้นเดียวที่คาร์เทียร์นำมาปฏิวัติใหม่จนเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ด้วยแนวทางที่ครอบคลุมทั้งสุนทรียศาสตร์และ  การยศาสตร์สร้างพลังให้กับเส้นสายของนาฬิกาที่มีรูปทรงพิเศษ ซึ่งมีทั้งแบบตัวเรือนสตีลและตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ พร้อมตัวเลือกประดับเพชรและสไตล์เรียบหรู

“TANK FRANÇAISE รุ่นใหม่ สะท้อนความเชื่อมั่นในเชิงสร้างสรรค์ เฉกเช่นเดียวกับการกลับมาค้นพบเนื้อแท้ที่ยังไม่ผ่านการขัดเกลาของพลอยที่เจียระไนแล้วอีกครั้ง โดยเป็นการจับรูปทรงที่แหวกขนบของนาฬิกามาปรับเส้นสายหลักให้เรียบง่ายขึ้น ตัดทอนรายละเอียดการออกแบบที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน”

มารี-ลอร์ เซเรด ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์จิวเวลรี่และนาฬิกา

ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย กาทรีน เดอเนิฟ (Catherine Deneuve) & รามี มาเลก (Rami Malek)

กำกับการแสดงโดย กาย ริทชี่ (Guy Ritchie)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาร์เทียร์ โปรดเยี่ยมชม www.cartier.com/en-th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Cartier Thailand LINE Official Account @CartierTH

rhunrun เรียบเรียง

The Mirage of Time

Photography: Courtesy of Cartier

จากแทงก์ (Tank) เรือนเวลาที่สร้างพลังและเรื่องราวประทับใจจากรุ่นสู่รุ่น สู่แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Tank Louis Cartier) เวอร์ชั่นล่าสุดที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมลายกราฟิกซ้อนกรอบ และความเข้มขลังของหน้าปัดโมโนโครมในเฉดสีแดง สีประจำเมซง และสีเทาแอนทราไซต์

​Tank Louis Cartier มาพร้อมหน้าปัดสี่เหลี่ยมซ้อนกรอบ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ปรากฏครั้งแรกบนนาฬิกามัสท์ เดอ คาร์เทียร์ (Must de Cartier) เรือนเด่นจากยุค 1980s ด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดดเด่นตัดกับสายนาฬิกา และคานประกบตัวเรือนในแนวดิ่ง

​Cartier ก็ได้เปิดตัว Tank Louis Cartier ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้หน้าปัดสีแดงใช้วิธีเคลือบแล็กเกอร์ ส่วนหน้าปัดสีเทาใช้เทคนิคชุบกัลวาไนซ์ จากนั้นเพิ่มความเงางามด้วยเทคนิคการเคลือบซ้อนกันหลายเลเยอร์ ขับเน้นความเด่นของเลขโรมันทั้ง 4 ตำแหน่ง เวอร์ชั่นล่าสุดยังได้รับการปรับเกลาอย่างละเมียดละไม ลดตัวเลขบอกชั่วโมงสุดคลาสสิก ลงเหลือเพียง 4 ตำแหน่ง

​รูปลักษณ์ของ Tank Louis Cartier รุ่นนี้ มองเผินๆ จะเห็นเป็นนาฬิกาโมโนโครม แต่เมื่อแสงตกกระทบในบางมุม เฉดสีอันลึกล้ำบรรเจิดจะปรากฏต่อสายตา

– Author: Sethapong Pawwattana –

Sign of the Times

เรือนเวลา และร่องรอยแห่งกาลเวลา ความคลาสสิกที่แยกจากกันไม่ออก

Photographer: number 45

Stylist: Teeratat Somudomsup

The new : TANK LOUIS CARTIER

คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส มอบสัมผัสประสบการณ์ข้ามกาลเวลา จากแทงก์ (TANK) เรือนเวลาที่สร้างพลังและเรื่องราวประทับใจจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ (TANK LOUIS CARTIER) เวอร์ชั่นล่าสุดที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมลายกราฟิกซ้อนกรอบ และความเข้มขลังของหน้าปัดโมโนโครมในเฉดสีแดง สีประจำเมซง และสีเทาแอนทราไซต์ รวมไปถึงเรือนเวลารุ่น แทงก์ มัสท์ (TANK MUST) ที่ตอกย้ำความอมตะด้วยหน้าปัดดำสนิท เรียบขรึมไร้กาลเวลา

TANK LOUIS CARTIER (แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์)
แรงบันดาลใจในการรังสรรค์เรือนเวลาของคาร์เทียร์ คือแนวคิดที่ว่าเวลาอยู่กับเราทุกที่ ทุกขณะ เรือนเวลาคาร์เทียร์จึงมีเอกลักษณ์เด่นล้ำข้ามกาลเวลา ด้วยเส้นสายอันพิสุทธิ์ รูปทรงไร้ที่ติ และสัดส่วนที่ลงตัวทุกองศา แต่ละเรือนโดดเด่นอย่างไรในยุคของตน ก็จะเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต และคาร์เทียร์ แทงก์ก็เป็นตัวอย่างอันดีเลิศของความไร้กาลเวลา

ย้อนสัมผัสแรงบันดาลใจ
จากแทงก์สู่แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์
แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ มาพร้อมหน้าปัดสี่เหลี่ยมซ้อนกรอบ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ปรากฏครั้งแรกบนเรือนเวลามัสท์ เดอ คาร์เทียร์ เรือนเด่นจากยุค 1980 ด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดดเด่นตัดกับสายนาฬิกา และคานประกบตัวเรือนในแนวดิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ แทงก์ ที่ถือกำเนิดในปี 1917 และเป็นสไตล์เอกลักษณ์ที่หวงแหนจากรุ่นสู่รุ่น คาร์เทียร์ แทงก์ เป็นเหมือนแนวคิดฐานรากที่ปูทางไปสู่เวอร์ชั่นต่อๆ มา และแตกแขนงออกไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในปี 1922 คาร์เทียร์ แทงก์ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่หมด เพิ่มความยาวของตัวเรือน เกลาคานประกบตัวเรือนให้บางลง และเพิ่มความโค้งมน ผลลัพธ์คือเรือนเวลา แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ ซึ่งในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้หน้าปัดโมโนโครมเช่นเดียวกับแทงก์และแทงก์ มัสท์ ที่ถือกำเนิดในปี 1977 และต่อมา คาร์เทียร์ ก็ได้เปิดตัวแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้

แดงและเทา
นวัตกรรมเชิงเทคนิคในโทนโมโนโครมซ่อนเซอร์ไพรส์
ในปีนี้แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ มาพร้อมความภูมิฐานสุดขั้ว โดดเด่นกว่าที่เคยด้วยความเข้มขลังของหน้าปัดโมโนโครม ในเฉดสีแดง สีประจำเมซง และสีเทาแอนทราไซต์ ซึ่งเป็นสีเฉพาะที่คาร์เทียร์ใช้ในการรังสรรค์เรือนเวลา นอกจากนี้ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ เวอร์ชั่นล่าสุดยังได้รับการปรับเกลาอย่างละเมียดละไม ลดตัวเลขบอกชั่วโมงสุดคลาสสิกลงเหลือเพียง 4 ตำแหน่ง และตัดสเกลนาทีรูปรางรถไฟออก รูปลักษณ์ของแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์รุ่นนี้ มองเผินๆ จะเห็นเป็นนาฬิกาโมโนโครมแต่เมื่อแสงตกกระทบในบางมุม ความแพรวพราวในเฉดสีอันลึกล้ำบรรเจิดจะปรากฏต่อสายตา นี่คือผลงานการรังสรรค์ของช่างฝีมือคาร์เทียร์ที่นำการแกะลายด้วยเทคนิคไฟฟ้าเคมีมาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อความแม่นยำขั้นสูงในการรังสรรค์ลายที่ละเอียดจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สลักเสลาจากหลายทิศทางจนเกิดลายเป็นกลุ่มบนพื้นหน้าปัด จำลองลายกราฟิกบนหน้าปัดเรือนเวลาคาร์เทียร์ มัสท์จากทศวรรษ 1980 และยังใช้กรรมวิธีที่ต่างกันในการทำสี โดยหน้าปัดสีแดงใช้วิธีเคลือบแลคเกอร์ ส่วนหน้าปัดสีเทาใช้เทคนิคชุบกัลวาไนซ์ จากนั้นเพิ่มความเงางามด้วยเทคนิคการเคลือบซ้อนกันหลายเลเยอร์ ขับเน้นความเด่นของเลขโรมันทั้ง 4 ตำแหน่ง ซึ่งการแกะลายด้วยเทคนิคนี้ทำให้เกิดเงาสะท้อนและแปรผันไปตามแสง ช่วยให้เรารับรู้สีสันได้หลากหลายยิ่งขึ้น

แทงก์ มัสท์ ในเฉดสีดำอมตะ
แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ เวอร์ชั่นที่ 3 มาเติมความครบครันให้รุ่นพี่ทั้งสอง และเพิ่มความเข้มขลังฉีกแนวไปจากเดิมด้วยหน้าปัดดำสนิทเคลือบแลกเกอร์มันวาว ตัดกับตัวเรือนสีทอง ด้วยความเป็นพี่น้องร่วมตระกูลที่ต่างก็มีคาแรคเตอร์ชัดเจน แทงก์ มัสท์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของยุค 1970 และ 80 ได้นำเอกลักษณ์ด้านสไตล์ของแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ ยุคแรกมาประยุกต์ใช้กับสตีล เกิดเป็นศักยภาพเชิงสุนทรียะที่ยิ่งใหญ่ สร้างแรงบันดาลใจให้ช่างผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาคาร์เทียร์ และเป็นพลังขับเคลื่อนการสำรวจเชิงสร้างสรรค์ให้เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี 2021 คาร์เทียร์เปลี่ยนดีไซน์ของแทงก์ มัสท์ทั้งเรือน เพื่อให้ใกล้เคียงกับแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์มากที่สุด และแทงก์ มัสท์ รุ่นปี 2022 ก็มาพร้อมหน้าปัดสีดำล้วน เรียบขรึมไร้กาลเวลา บนตัวเรือนสตีล เปี่ยมด้วยคาแรกเตอร์ที่แน่วแน่ ไร้การประนีประนอม และมีให้เลือกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

รายละเอียดเรือนเวลาแต่ละรุ่น


TANK LOUIS CARTIER
ขนาดใหญ่ ความหนา 6.6 มม. (ตัวเรือน) เยลโลว์ โกลด์ 750/1000 เม็ดมะยมฝังแซฟไฟร์ทรงหลังเบี้ย
สายหนังอัลลิเกเตอร์สีแดง กลไกจักรกลคาร์เทียร์ คาลิเบอร์ 1917 MC ไขลานด้วยมือ
เส้นผ่าศูนย์กลางชุดจักร: 7 1/4 x 5 3/4 เส้น
มิติ: 16 มม.
ความหนา: 2.9 มม.
จำนวนอัญมณี: 19 เม็ด
อัตราความถี่: 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง
พลังงานสำรอง: 38 ชั่วโมง

TANK LOUIS CARTIER
ขนาดใหญ่ 6.6 มม. (ตัวเรือน) โรสโกลด์ 750/1000 เม็ดมะยมฝังแซฟไฟร์ทรงหลังเบี้ย
สายหนังอัลลิเกเตอร์สีเทา กลไกจักรกลคาร์เทียร์ คาลิเบอร์ 1917 MC ไขลานด้วยมือ
เส้นผ่าศูนย์กลางชุดจักร: 7 1/4 x 5 3/4 เส้น
มิติ: 16 มม.
ความหนา: 2.9 มม.
จำนวนอัญมณี: 19 เม็ด
อัตราความถี่: 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง
พลังงานสำรอง: 38 ชั่วโมง

TANK LOUIS CARTIER
ขนาดใหญ่ หนา: 6.6 มม. (ตัวเรือน) เยลโลว์ โกลด์ 750/1000 เม็ดมะยมฝังแซฟไฟร์ทรงหลังเบี้ย
สายหนังอัลลิเกเตอร์สีดำ กลไกจักรกลคาร์เทียร์ คาลิเบอร์ 1917 MC ไขลานด้วยมือ
เส้นผ่าศูนย์กลางชุดจักร: 7 1/4 x 5 3/4 เส้น
มิติ: 16 มม.
ความหนา: 2.9 มม.
จำนวนอัญมณี: 19 เม็ด
อัตราความถี่: 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง
พลังงานสำรอง: 38 ชั่วโมง

TANK MUST
ขนาดใหญ่ หนา 6.6 มม. (ตัวเรือน) สตีล เม็ดมะยมสตีล ฝังพลอยสปิเนลสังเคราะห์ทรงหลังเบี้ยสีน้ำเงิน
สายหนังอัลลิเกเตอร์สีดำ
กลไกควอตซ์

TANK MUST
ขนาดเล็ก หนา: 6.6 มม. (ตัวเรือน) สตีล เม็ดมะยมสตีล ฝังพลอยสปิเนลสังเคราะห์ทรงหลังเบี้ยสีน้ำเงิน
สายหนังอัลลิเกเตอร์สีดำ
กลไกควอตซ์

ร่วมค้นหาความงามของ Clash de Cartier เครื่องประดับสองขั้วที่ทลายทุกกฎเกณฑ์ ผ่านนิทรรศการ Clash de Cartier Pop Up Exhibition ณ สยามพารากอน

คาร์เทียร์ (Cartier) เมซงเครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส เชิญชวนให้ทุกท่านมาค้นหาความงามที่อยู่เหนือความคาดหมายผ่าน Clash de Cartier Pop Up Exhibition อาร์ตอินสตอเลชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับคอลเลคชั่นแคลช เดอ คาร์เทียร์ (Clash de Cartier) เครื่องประดับที่ถ่ายทอดความสมดุลแห่งดีไซน์ผ่านสัญลักษณ์ของศิลปะสองขั้ว พร้อมเช็กอินจุดถ่ายภาพสุดเก๋อัพลงโซเชียลตามรอยคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัสและแจ็กสัน หวัง เปิดให้เข้าชมอย่างเต็มอิ่ม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ Fashion Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันนี้ – 28 สิงหาคม 2565

จากปาร์ตี้เปิดตัวคอลเลคชั่น Clash de Cartier สุดยิ่งใหญ่แห่งปี ซึ่งเมซงเนรมิตสถานีรถไฟหัวลำโพงแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทย ให้กลายเป็นจุดพบปะของเหล่าเซเลบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยในการเปิดตัวคอลเลคชั่น อาทิ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส Friend of the Maison ของประเทศไทย, พีพี – กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, บิวกิ้น – พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ต่อ – ธนภพ ลีรัตนขจร, แอลลี่ – อชิรญา นิติพน และอีกมากมาย พร้อมทั้งแขกรับเชิญสุดพิเศษที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานอย่าง แจ็กสัน หวัง (Jackson Wang) หนึ่งในแอมบาสเดอร์ระดับโลกคนสำคัญของคาร์เทียร์

เมซงตั้งใจนำภาพบรรยากาศ Clash de Cartier Party ที่ครองโลกโซเชียลของทุกคนเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รังสรรค์ออกมาเป็น Clash de Cartier Pop Up Exhibition ณ Fashion Hall ชั้น1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่พร้อมต้อนรับทุกท่านให้เข้ามาเยี่ยมชม และดื่มด่ำไปกับผลงานภายใต้คอนเซ็ปต์ศิลปะสองขั้ว

คาร์เทียร์ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์ของ Clash de Cartier อย่างใกล้ชิด พร้อมค้นหาตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในด้วยตัวเองได้ที่ Clash de Cartier Pop Up Exhibition ณ Fashion Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน วันนี้ – 28 สิงหาคม 2565  สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. (มีช่วงเวลาปิดให้เข้าชมดังนี้ 19 ส.ค. เวลา 11.00-12.30 น. และ 13.00 – 14.30 น. / 20 ส.ค. เวลา 11.00-12.30 น.)

rhunrun เรียบเรียง