Posts

ส่งต่อความรักผ่านเครื่องประดับ Bulgari คอลเล็กชั่นพิเศษ เพื่อการกุศลช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส

เนื่องในเดือนแห่งความรักและเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 14 ปี ของการร่วมมือกันเพื่อการกุศล Bulgari และ Save the Children อยากชวนทุกคนมาแบ่งปันความรักให้แก่เด็กผู้ด้อยโอกาส ให้ได้มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงสนับสนุนให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษา โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายคอลเล็กชั่นเครื่องประดับ Bulgari and Save the Children จะถูกบริจาคเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แคมเปญครั้งพิเศษนี้ยังได้เชิญชวนเหล่าผู้ทรงอิทธิพลของเมืองไทย

ไม่ว่าจะเป็น ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’  , ‘มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’  , ‘ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่’ , ‘มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์’ , ‘ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์’ , ‘นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ’ , ‘กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์’  , ‘เต-ตะวัน วิหครัตน์’  , ‘นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ’ , ‘พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี’ และ ‘มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล’ อีกหนึ่งแคมเปญ ที่ตอกย้ำถึงแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่น Bulgari Save The Children ที่อบอวลไปด้วยความรักและการให้อนาคตของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส

ผู้ที่สนใจสามารถชมคอลเล็กชั่น Save the Children ได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทาง LINE MyShop ของ Bulgari shop.line.me/@bvlgarith

I Believe in Wonder

ฤดูกาลที่เสมือนมีเวทมนตร์ได้มาถึงแล้ว ในช่วงเทศกาลแห่งความสนุกสนานปลายปีนี้ บุลการี (Bulgari) เชื้อเชิญคุณให้เชื่อในความมหัศจรรย์ (Believe in Wonder) พร้อมปลุกสัมผัสแห่งความอัศจรรย์และรับประสบการณ์ใหม่ของฤดูกาลนี้ด้วยมุมมองอันสดใส เทศกาลวันหยุดที่จะเป็นช่วงเวลาแห่งมนต์วิเศษหากแต่เพียงคุณเชื่อในความอัศจรรย์ และพร้อมเปิดหัวใจ ปล่อยตนเองให้เพลิดเพลินไปกับของขวัญที่รอคอย

เดินตามรอยความสำเร็จของแบรนด์แคมเปญ Unexpected Wonders ที่เปิดตัวมาแล้วก่อนหน้าในปีนี้ และในวันนี้ Bulgari ได้นำเสนอ I Believe in Wonder ในฐานะแคมเปญฮอลิเดย์ซีซั่นใหม่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสัมผัสแห่งความสนุกสนาน ถ่ายทำในกรุงโรม ด้วยแคมเปญที่เชื้อเชิญให้โอบกอดไว้ซึ่งความมหัศจรรย์ และใช้ชีวิตด้วยความสุขอันเหนือความคาดหมายจากโลกรอบตัวคุณ

ในแคมเปญนี้ ความมหัศจรรย์ได้แสดงออกผ่านมุมมองของภาพหิ่งห้อยกะพริบแสงวิบวาว ให้คุณได้ดื่มด่ำสู่มนต์วิเศษแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองของฤดูกาล นับจากการจับจ้องไปที่ดวงดาวบนท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว และพลันจ้องมองไปที่ฝูงหิ่งห้อยที่ส่องแสงระยิบระยับจับเอาความน่าพิศวงของจักรวาลมาไว้ภายใต้หยาดของแสงอันเปล่งประกาย พร้อมนำเราหวนคืนสู่ช่วงเยาว์วัย เมื่อทุกๆ ช่วงขณะเวลาของทุกๆ วันนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

ด้วยวิสัยทัศน์และมุมมองที่อยู่ในหัวใจ และในฐานะส่วนหนึ่งของแคมเปญ I Believe in Wonder บริษัทได้จับมือร่วมกับเซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) ซึ่งนับเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมาแล้วนานกว่าหนึ่งทศวรรษ เพื่อสนับสนุนเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางที่สุดในโลก พร้อมทั้งช่วยเหลือพวกเขาในการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางการดำเนินชีวิตไปสู่การได้รับการศึกษาและการดูแล

โดยในแคมเปญฮอลิเดย์ซีซั่น 2022 นี้มุ่งหวังที่จะสนับสนุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัยของแซมเบีย เพื่อให้รับประกันได้ถึงสิทธิในการได้รับการศึกษาสำหรับเด็กๆ ระหว่างช่วงวัย 3 ปี ถึง 8 ปี ผู้ซึ่งอาศัยในเขตชนบทและห่างไกลอย่างมากจากการได้รับการบริการด้านการศึกษาจากภาครัฐของประเทศ

ขณะเดียวกัน Bulgari ยังได้สร้างสรรค์ประสบการณ์เสมือนจริงของ I Believe in Wonder ผ่านสองโหมด โดยความร่วมมือของเมตา (Meta) ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งในรูปแบบสตอรี (Stories) และรีล (Reels) บนเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) ทั่วโลก โดยการใช้กล้องเฟซ (Face Camera) ที่จะปล่อยให้ผู้ใช้สามารถ ‘แชร์ความอัศจรรย์’ (‘share the wonders’) ผ่านการถ่ายเซลฟียิ้ม (smile-activated selfies) ซึ่งนั่นหมายถึงหากมีมากกว่าหนึ่งรอยยิ้ม

ยิ่งมีจำนวนหิ่งห้อยปรากฏมากขึ้นบนหน้าจอ และเมื่อกล้องหันหน้าสู่โลกรอบตัว ผู้คนก็จะได้ร่วมดื่มด่ำสู่บรรยากาศเสมือนล่องลอยกลางอากาศ และราวกับรายล้อมไว้ทั้งหมดด้วยแสงกะพริบระยิบระยับของหิ่งห้อยภายในฉาก ทั้งยังสัมพันธ์ไปตามการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติของมือ ราวดั่งคทาวิเศษ ที่สร้างสรรค์เป็นการผสมผสานระหว่างความจริงและภาพเสมือนจริง

นี่คือเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังประสบการณ์ครั้งใหม่ของฮอลิเดย์ซีซั่น 2022 ณ ร้าน Bulgari ซึ่งจะเริ่มต้นนับจากเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ผู้มาเยือน Bulgari boutique แห่งต่างๆ จะสามารถดื่มด่ำสู่มนต์วิเศษแห่ง Bulgari ผ่านประสบการณ์เสมือนจริงสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนอินสตาแกรม และมีเฉพาะ ณ บูติกที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลกเท่านั้น

โดยการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR code) ซึ่งตั้งอยู่ประจำร้าน Bulgari แต่ละแห่ง จากนั้นผู้มาเยือนก็จะสามารถเข้าสู่ฉากที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความอัศจรรย์ ทั้งประสบการณ์ในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟซึ่งจำลองอย่างเสมือนจริง และเติมเต็มฉากแห่งความสุขนี้ด้วยของขวัญอันสดใส และเมื่อของขวัญนั้นๆ ถูกกดเลือก ก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นบรรดาหิ่งห้อยกะพริบแสงวิบวาว เพื่อรังสรรค์โลกแห่งความมหัศจรรย์ของการเฉลิมฉลองที่ได้เริ่มต้นขึ้นร่วมกับ Bulgari

Photos: Courtesy of bulgari

Bulgari ฉลองเปิด ‘Bulgari Serpenti Light Up’ ครั้งแรกในไทย

บุลการี (Bulgari) ฉลองเปิด Bulgari Serpenti Light Up ครั้งแรกในไทย 

จัดเต็มการแสดงดอกไม้ไฟตลอดริมโค้งน้ำเจ้าพระยา 

รัศมียาวกว่า 2,000 เมตร  

บุลการี (Bulgari) ช่างอัญมณีแห่งโรมัน (Roman Jeweler) ปลุกสัมผัสแห่งความอัศจรรย์ และต้อนรับประสบการณ์ใหม่ของฤดูกาลแห่งวันหยุดด้วยมุมมองอันสดใส เพื่อค้นพบกับความสวยงามและเสน่ห์ในทุกๆ มิติของชีวิต จัดงาน Bulgari Serpenti Light Up ฉลองเปิดไฟคริสต์มาส เซอร์เพนติ เนคเลซ ไลท์ สตรัคเจอร์ (Serpenti Necklace Light Structure) ติดตั้งแบบฟรีสแตน-ดิ้ง ด้วยขนาดสูง 18.5 เมตร ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยทำมา โดยได้แรงบันดาลใจจาก เซอร์เพนติ เนคเลซ (Serpenti Necklace) สร้อยคองูอันเป็น ไอคอนิกของบุลการี และเป็นดั่งสัญลักษณ์ตลอดกาลของการถือกำเนิดใหม่ และ ความเชี่ยวชาญของ ช่างอัญมณีแห่งโรมัน ภายใต้แคมเปญใหม่ ฮอลิเดย์ ซีซัน 2022 (Holiday Season 2022) ในแนวคิด ไอ บีลีฟ อิน วันเดอร์ (I Believe in Wonder) และดื่มด่ำไปกับความสุขแห่งปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน โดยได้จัดงานฉลองอย่างเป็นทางการ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ – ศิลปิน นักแสดงระดับท็อป นำโดย ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ในฐานะ Friend of The House บุลการี เซ้าท์เอเชีย-แปซิฟิค พร้อมแขกพิเศษจากเกาหลีซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด มาร์ก ต้วน (Mark Tuan)

พร้อมด้วย เก้า-สุภัสสรา ธนชาต, มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, สกาย-วงศ์รวี นทีธร, เต-ตะวัน วิหครัตน์, นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ, บิว-จักรพันธ์ พุทธา, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, เจษ-เจษฎ์พิพัฒน์ ติละพรพัฒน์, อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ มาร่วมงาน ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565

สำหรับงาน Bulgari Serpenti Light Up ฉลองเปิดไฟคริสต์มาส ดีไซน์ เซอร์เพนติ เนคเลซ ในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟทางแบรนด์บุลการี (Bulgari) สร้างสรรค์ พิธีเปิดอันตระการตา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดอกไม้ไฟตลอดริมโค้งน้ำเจ้าพระยา รัศมียาวกว่า 2,000 เมตร เป็นเวลากว่า 3 นาที ซึ่งเป็นการแสดงดอกไม้ไฟที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยมี ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงไฟเลเซอร์ การแสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัยอันน่าจดจำ 

ไฮไลต์สูงสุดงาน อย่าง เซอร์เพนติ เนคเลซ ไลท์ สตรัคเจอร์ ประติมากรรมประดับไฟ เซอร์เพนติ สุดงดงามนี้ได้ติดตั้งด้วยไฟ LED ขนาดเล็กถึง 150,000 ดวงเรียงรายไปตามลำตัวของโครงสร้างรูปทรงงูขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 9 เดือนในการออกแบบและผลิต ทำให้ เซอร์เพนติ เนคเลซ ไลท์ สตรัคเจอร์ นี้เปล่งประกายความสว่างไสวด้วยจิตวิญญาณแห่งความล้ำเลิศ และเป็นดั่งตัวแทนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานซึ่งหล่อหลอมไว้ด้วยมรดกแห่งองค์ความรู้และความสามารถอันแสนพิเศษ รวมถึงงานหัตถศิลป์อันล้ำเลิศเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมกับเซอร์ไพรส์พิเศษที่จะพาผู้ชมและผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความอัศจรรย์ ด้วยรูปแบบดิจิตัลอินเตอร์แอคทีฟ ให้ผู้ชมสามารถควบคุมแสงไฟ เซอร์เพนติ เนคเลซ ไลท์ สตรัคเจอร์ ได้ผ่านโปรแกรมที่มีอยู่ใน Line Official @BVLGARITH เพื่อให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมในการสัมผัสประสบการณ์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยดิจิตัลไปกับประติมากรรมอันงดงามนี้ 

ร่วมสัมผัสความอัศจรรย์ เซอร์เพนติ เนคเลซ ไลท์ สตรัคเจอร์ ประติมากรรมประดับไฟ พร้อมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม 

BVLGARI Exclusive High Jewellery Presentation

แรงบันดาลใจของกรุงโรมสู่กรุงเทพฯ บุลการีจัดงานแสดงเครื่องประดับชั้นสูง “BVLGARI Exclusive High Jewellery Presentation” เผยโฉมผลงานอันงดงามวิจิตรแห่งเครื่องประดับ High Jewellery Collection มากกว่า 100 ชิ้นเป็นการถ่ายทอดความงดงามและหัตถศิลป์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ที่ บุลการี (Bulgari) ในฐานะช่างอัญมณีแห่งโรมัน (Roman Jeweler)


โดยทางบุลการีได้แสดงถึงความหรูหราและความประณีตวิจิตรของอัญมณีล้ำเลอค่า ผ่านการจัดงานแสดง “BVLGARI Exclusive High Jewellery Presentation” กับการเผยโฉมเหล่าผลงานอันงดงามของเครื่องประดับอัญมณีจาก High Jewellery Collection มากกว่า 100 ชิ้นงาน โดยมีกว่า 20 ผลงานที่เป็นเครื่องประดับ One-of-a-kind ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวชิ้นเดียวในโลก จากการหล่อหลอมไว้ด้วยเสน่ห์แห่งงานฝีมือที่รังสรรค์เครื่องประดับแต่ละชิ้นเสมือนศิลปะชิ้นเอก พร้อมทั้งความโดดเด่นของสี ความมีชีวิตชีวา และความแจ่มจรัสของเหล่าอัญมณีสีล้ำค่าอันแสนพิเศษ

ในงานได้รับเกียรติจากคุณเจฟฟรีย์ ฮัง (Jeffrey Hang), Regional Managing Director, Bulgari South Asia Pacific ร่วมด้วย คุณสุปราณี จันทไพบูลย์ขจร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท บุลการี (ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม) กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ก่อนนำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงของบุลการี ทั้งความยิ่งใหญ่แห่งเมืองอันเป็นนิรันดร์ (Eternal City) อย่างโรม รวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งได้นำมาสู่การรังสรรค์ลวดลายและงานดีไซน์อันสง่างามของเครื่องประดับอัญมณีหลากหลายชิ้นพิเศษ พร้อมทั้งถ่ายทอดถึงสัมผัสและพลังแห่งเฉดสีสันที่มาจากทั้งอัญมณีและธรรมชาติ มวลดอกไม้และสวนอันเปี่ยมเสน่ห์ ที่ได้มอบเรื่องราวแห่งการรังสรรค์ให้กับอัญมณีชิ้นเอกเสมือนดั่งบทกวีแห่งความสุขอันเป็นนิรันดร์ที่อยู่เหนือซึ่งกาลเวลา ภายใต้ความหรูหราของงานจัดแสดงที่บรรจงเนรมิตจากแรงบันดาลใจของกรุงโรมสู่กรุงเทพฯ ณ ห้อง Author’s Lounge โรงแรม Mandarin Oriental Hotel

เฉกเช่นทุกๆ อัญมณีซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่บุลการีได้นำมาถ่ายทอดเคียงคู่กับเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์อันไร้ขอบเขตของจินตนาการ ทั้งยังผสมผสานไว้ด้วยเหล่าผลงานอันเป็นไอคอนิก อาทิ ความทรงพลังและเปี่ยมด้วยความหมายแห่งการเปลี่ยนรูปและการตีความใหม่ได้อย่างไม่มีสิ้นสุดของงู สู่ชิ้นงาน High Jewellery ซึ่งได้ต้นแบบมาจากผลงานระดับตำนานแห่ง Serpenti หรือรูปทรงพัดที่นำมาถ่ายทอดบนเครื่องประดับ Divas’ Dream จากแรงบันดาลใจแห่งลวดลายและสีสันแบบโมเสกของ Roman Baths of Caracalla ที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างเมืองอันเป็นนิรันดร์และความสวยงามสไตล์อิตาลีอันเป็นหัวใจ เช่นเดียวกับอัญมณีหายาก อย่าง แซฟไฟร์เฉดสีน้ำเงินทรงพลัง ที่นำมารังสรรค์สู่สร้อยคอรายล้อมด้วยเพชรจากงานฝีมือชั้นเอกของบุลการี พร้อมทั้งถ่ายทอดความงดงามวิจิตรดั่งศิลปะชิ้นเอกหนึ่งเดียวนี้โดย อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่เผยความสวยงามของอัญมณีได้อย่างไร้ที่ติ

คอลเลกชั่นเครื่องประดับอัญมณีเหล่านี้ได้ร่วมเผยกวีบทใหม่แห่งมหากาพย์ความงดงามล้ำเลิศ และร่วมเฉลิมฉลองให้กับความสวยงาม พร้อมทั้งแรงบันดาลใจอันเป็นนิรันดร์แห่งโรมัน ที่หล่อหลอมสู่ความวิจิตรหรูหราภายในโลกแห่งอัญมณีชั้นสูงจากบุลการี

Casablanca x Bulgari การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรูสุดไอคอนิกและแบรนด์มากไสตล์กลิ่นไอสปอร์ตแห่งเมดิเตอร์เรเนียน

เฮาส์สุดหรูแห่งโรมัน และเฮาส์ร่วมสมัยแห่งกรุงปารีส อย่าง คาซาบลังกา ได้จับมือร่วมงานกัน เพื่อสร้างสรรค์การเปลี่ยนโฉมอันแสนสนุกสนานสู่สไตล์ชิคสูงสุดแห่ง เซอร์เพนติ

คาซาบลังกา (Casablanca) แบรนด์ซึ่งผสมผสานระหว่างหัวใจแห่งสไตล์สปอร์ตลำลองกับสุนทรียะความสวยงามอันหรูหราแห่งเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean) ได้ส่งมอบการตีความสุดเอ็กซ์คลูซีฟใหม่ให้กับไอคอนแห่งตำนานอย่าง บุลการี  เซอร์เพนติ (Bulgari Serpenti) ผ่านคอลเลกชั่นแคปซูลของแอคเซสซอรี (accessories capsule collection) ที่มีทั้งความสนุกสนานและสไตล์ชิคสูงสุด

โดดเด่นด้วยการผสมผสานอันน่าหลงใหลของวิถีอันเรียบง่ายผ่อนคลายสไตล์โรมัน กับจิตวิญญาณสปอร์ตและลวดลายพิมพ์ที่เต็มไปด้วยสีสัน กับความร่วมมือครั้งนี้ที่นับเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์แห่งความร่วมมือที่ยังคงดำเนินต่อไปของบุลการี (Bulgari) อย่าง “เซอร์เพนติ ทรู ดิ อายส์ ออฟ” (“Serpenti Through the Eyes Of”) ซึ่งนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 ซีรีส์อันแสนวิเศษนี้ได้จับเอาการเปลี่ยนโฉมอย่างไม่มีสิ้นสุดของสัญลักษณ์งูแห่งบุลการี โดยผ่านวิสัยทัศน์และมุมมองต่างๆ อันกล้าแกร่งของเหล่าบรรดานักออกแบบผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์มากมาย

“ด้วยการร่วมงานกับบุลการี เราได้แลกเปลี่ยนซึ่งความรักและความเคารพเดียวกันต่อรหัสอันเหนือกาลเวลา และความพยายามที่จะแปลความหมายสิ่งเหล่านั้นสู่วิถีใหม่ๆ ซึ่งนั่นคือมิติที่เราได้เล่นกับผลงานแห่งความร่วมมือครั้งนี้ โดยภายในคอลเลกชั่นได้เผยทั้งความทันสมัยและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน ขณะที่ เซอร์เพนติ มีความเป็นประติมานวิทยาหรือรูปแห่งไอคอนอันเก่าแก่นับพันปีที่อยู่เบื้องหลัง และเราปรารถนาที่จะนำสิ่งนี้กลับมาอีกครั้ง แต่เป็นในวิถีที่ทันสมัยยิ่งกว่า โดยการเล่นกับคุณลักษณะแห่งสุนทรียะความสวยงามโดยเฉพาะ” ชาราฟ เทเจอร์ (Charaf Tajer) ผู้อำนวยการสร้างสรรค์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวฝรั่งเศส-โมร็อกโกของ คาซาบลังกา (Casablanca) 

ผสมผสานอย่างโดดเด่นระหว่างความหรูหรา เครื่องแต่งกายสไตล์พักผ่อนแบบลำลองสบายๆ และดีเอ็นเอ (DNA) แห่งเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ที่หลอมรวมไว้โดยกระเป๋าแฟนซี จิวเวลรี บ็อกซ์ (Jewellery Box) ประติมากรรมกระเป๋าที่ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากกล่องเงินใส่เครื่องประดับยุค ‘20s อันเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่น บุลการี เฮอริเทจ (Bulgari Heritage Collection) โดยในเอดิชันพิเศษนี้ ฝาปิดกระเป๋าด้านบนอันโดดเด่นนั้นได้มาบรรจบกับมิติเหลี่ยมด้านอันหลากหลายราวกับ   อัญมณีล้ำค่า และสวยเด่นด้วยหนังวัวสีเขียว ขณะที่ตัวดึงซิปอันมีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวได้ผสมผสานไว้ด้วยชาร์มรูปหัวงูไอคอนิก  

ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งและภายใต้รูปทรงใหม่ทั้งหมดนั้นได้สร้างซึ่งการปรากฏตัวเป็นครั้งแรกของกระเป๋ามินิ เซอร์เพนติ  ครอสบอดี้ แบ็ก (Serpenti Crossbody Bag) ผลงานที่ต้องมีไว้ในครอบครอง ซึ่งได้ร่วมถ่ายทอดถึงสไตล์อันหลากหลายและฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว อาบไว้ด้วยจิตวิญญาณอันเต็มไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวาและสะท้อนความเป็นวัยรุ่นของ คาซาบลังกา โดยด้านบนนั้นประกบไว้ด้วยไอคอนิกรูปหัวงูพร้อมลายเกล็ดงูลงยา กระเป๋าทรงกะทัดรัดและแบนเรียบอันประณีตสวยงามพร้อมทั้งสายหนังแบบหนานี้ประกอบด้วยโซ่ถักชุบทองอันหนักแน่น และเรียงรายด้วยการตกแต่งโลโก้ของ คาซาบลังกา 

จากโลกแห่งสไตล์สปอร์ตอันแสนผ่อนคลายสู่พรมแดนซึ่งเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับเอกลักษณ์เฉพาะของบุลการี ได้ถ่ายทอดภายในสตอรีที่สองของคอลเลกชั่น ซึ่งนำทางสู่หัวใจแห่งความสง่างามอันยิ่งใหญ่และงดงามล้ำเลิศของกรุงโรม  

คอลเลกชั่นสุดพิเศษนี้จะเปิดตัวภายในบูติก บุลการี ที่ผ่านการคัดสรรทั่วโลก ภายใต้สองเรื่องราวที่เป็นธีมหลักของคอลเลกชั่น โดยจะมีวางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2022 สำหรับธีม เอพริส เทนนิส และในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 สำหรับธีมโมเสก ตามลำดับ 

เรียบเรียง rhunrun

สร้างวันอันแสนประทับใจให้ยิ่งงดงามและสนุกสนานด้วย เอ็กซ์คลูซีฟ ไลน์ สติกเกอร์ จาก Bulgari ดาวน์โหลดได้เลยที่นี่

สร้างวันอันแสนประทับใจให้ยิ่งงดงามและสนุกสนานด้วย เอ็กซ์คลูซีฟ ไลน์ สติกเกอร์ จาก บุลการี ประเทศไทย ด้วยแรงบันดาลใจของไอคอนหญิงสาวผู้เปี่ยมเสน่ห์และสดใสของบุลการี เพิ่มเป็นเพื่อนกับ บุลการี ไลน์ ออฟฟิเชียล แอคเคานต์ @BVLGARITH เพื่อดาวน์โหลดสติกเกอร์เหล่านี้ได้แล้ว จนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 

คลิกลิงค์เพื่อดาวน์โหลดสติกเกอร์ https://line.me/S/sticker/25394

เรียบเรียง rhunrun

Bvlgari ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนด้วยแคมเปญที่นำโดยเหล่าแบรนด์ แอมบาสเดอร์ เชื้อสายจีนที่พร้อมมาแบ่งปันความสุขและความสนุกสนานเบิกบานใจในเทศกาลสำคัญนี้

ดอกไม้ไฟอันงดงามตระการตาที่ส่องประกายแสงพร่างพราวบนท้องฟ้ายามราตรี รายล้อมไปด้วยการประดับประดาโคมไฟสีแดงส่องสว่างให้กับบรรยากาศแห่งเทศกาลตรุษจีน พร้อมทั้งตัวอักษรจีน ฝู (Fu) ที่มีความหมายถึงความโชคดี นำมาติดกลับหัวบนประตูและหน้าต่างเพื่อนำพาความสมบูรณ์พูนสุข ความเป็นมงคลและพรมาให้ 

สำหรับเทศกาลตรุษจีน 2022 (Lunar New Year 2022) นี้ บุลการี (Bulgari) ได้เปลี่ยนความปรารถนาอันแสนสุขมีชีวิตชีวามาสู่ผลงานสร้างสรรค์อันงดงามวิเศษอีกครั้ง โดยทั้งหมดได้ร่วมถ่ายทอดผ่านเหล่าแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ทั้ง ชู ฉี (Shu Qi), ถงลี่ย่า (Tong Liya), หยางหยาง (Yang Yang) และวิคกี้ เฉิน (Vicky Chen)   เพื่อแบ่งปันความสุขและความสนุกสนานเบิกบานใจในเทศกาลนี้

เปี่ยมไปด้วยความหวังและความปรารถนาสำหรับปีใหม่จีนนี้ ที่ ชู ฉี ได้เขียนผ่านตัวอักษร ฝู (Fu)  พร้อมทั้งความงดงามของสร้อยคอ เซอร์เพนติ ไวเปอร์ (Serpenti Viper) ใหม่ ที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษสำหรับเทศกาลตรุษจีนนี้ เพื่อนำพามาซึ่งความโชคดีและสัมผัสแห่งความหรูหราสง่างามผ่านลวดลายงูอันเปี่ยมด้วยพลัง ขณะที่กระเป๋าใบใหม่ของ เซอร์เพนติ จิวเวลรี บ็อก (Serpenti Jewellery Box) และนาฬิกา เซอร์เพนติ ซีดัตทอรี (Serpenti Seduttori) นับเป็นการเชื้อเชิญสู่การผจญภัยครั้งใหม่อันมีชีวิตชีวา ด้วยประกายแสงและสีแดงแห่งการเฉลิมฉลอง

ชู ฉี แบรนด์แอมบาสเดอร์บุลการี

ทุกๆ บ้านล้วนตกแต่งด้วยโคมไฟและพู่สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ถึงความหวังสำหรับปีใหม่นี้ เช่นเดียวกับที่ หยางหยาง ได้ถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับบุลการี กับการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างสีราวดั่งต้องมนตร์และเปี่ยมเสน่ห์เข้ากับงานออกแบบอันเป็นไอคอนิก เขาได้เผยความสง่างามผ่านสร้อยคอเซอร์เพนติ ไวเปอร์ สเปเชียล เอดิชัน (Serpenti Viper Special Edition) ซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากพิงค์โกลด์และทับทิม และนาฬิกาตัวเรือนสตีลขัดด้านซาตินและขัดเงาอันแสนดึงดูดใจอย่าง ออคโต ฟินิสซิโม ออโตเมติก (Octo Finissimo Automatic) 

หยางหยาง แบรนด์แอมบาสเดอร์บุลการี

ปี ค.ศ. 2022 จะเป็นปีนักษัตรขาลหรือปีเสือ ซึ่งบรรจงถ่ายทอดผ่านลวดลายอันสวยงามภายใต้ผลงานเอดิชันพิเศษของกระเป๋าใบใหม่ เซอร์เพนติ จิวเวลรี บ็อก (Serpenti Jewellery Box) ที่ซึ่งเสือสีทองจะเชื้อเชิญคุณก้าวเข้าสู่วันตรุษจีนด้วยความสนุกสนานและสุขสันต์

ถงลี่ย่า แบรนด์แอมบาสเดอร์บุลการี

เติมสัมผัสอันแรงกล้าของความสนุกสนานเบิกบานใจให้กับการเฉลิมฉลอง ด้วยเหล่าผลงานสร้างสรรค์เอดิชันพิเศษต้อนรับตรุษจีน (Chinese New Year Special Edition) ของบุลการี ที่พร้อมเผยโฉมร่วมกับอีกหลากหลายผลงานอันเป็นไอคอนิกจากคอลเลกชั่นสัญลักษณ์สูงสุด อาทิ เซอร์เพนติ ไวเปอร์ (Serpenti Viper), ดีวาส์ ดรีม (Divas’ Dream), บุลการี บุลการี (BVLGARI BVLGARI), ออคโต (Octo) และกระเป๋า เซอร์เพนติ ฟอเรเวอร์ (Serpenti Forever) ที่พร้อมจะมอบให้ทุกๆ ความปรารถนานั้นเป็นจริง 

วิคกี้ เฉิน แบรนด์แอมบาสเดอร์บุลการี

เรียบเรียง rhunrun

MORE THAN A WISH แคมเปญล่าสุดจาก BVLGARI เฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งวันหยุดและช่วงเวลาอันน่าจดจำประจำปี 2021

เสมือนตัวแทนแห่งการเริ่มต้นใหม่ ฮอลิเดย์ ซีซั่น 2021 ของบุลการีนับเป็นโอกาสอันแสนวิเศษและน่าอัศจรรย์อีกครั้ง เพื่อ “แกะกล่อง” ความงดงามล้ำเลิศที่ซ่อนอยู่ภายใต้ทุกๆ สิ่งรอบตัวเรา ท่ามกลางท้องถนนที่สว่างไสวและสวยงามไปด้วยแสงไฟเจิดจ้าโดยการประดับไฟแห่งการเฉลิมฉลอง และอาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสนุกสนานเบิกบานใจ

ท้องฟ้าแห่งเวทมนตร์ยังส่องประกายแสงไปทั่วผืนฟ้าด้วยมวลหมู่ดาวระยิบระยับและดอกไม้ไฟ เช่นเดียวกันกับคอลเลกชั่นอันน่าอภิรมย์ที่บุลการีไม่เคยหยุดยั้งที่จะรังสรรค์และนำเสนอผลงานอันแสนงดงามล้ำเลิศเหล่านี้ขึ้นภายในบูติก ที่ซึ่งไม่มีความปรารถนาใดจะใหญ่เกินไป และความมหัศจรรย์นั้นก็ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะปรากฏกายอยู่เสมอ  

และนี่คือช่วงเวลาอันน่าจดจำที่อยู่เบื้องหลังของขวัญแห่งบุลการีทุกๆ ชิ้นที่คุณจะได้มอบให้กัน และเป็นห้วงเวลาแห่ง #MORETHANAWISH ที่มากกว่าความปรารถนาอย่างแท้จริง พร้อมทั้งเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจที่ไม่มีสิ้นสุด กับความรื่นรมย์ของชีวิตสไตล์อิตาลีและการเสาะแสวงหาอย่างไม่ลดละมาซึ่งความวิเศษล้ำเลิศสูงสุด  

สำหรับ บุลการี ฮอลิเดย์ ซีซั่น แคมเปญ 2021 (BVLGARI Holiday Season Campaign 2021) นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เราได้มองมองขึ้นสู่ท้องฟ้า ภายใต้ทัศนียภาพราวดั่งฝัน ด้วยลวดลายโลโก้ BVLGARI ที่ไม่มีสิ้นสุดอันเป็นตัวแทนถึงความนิยมชื่นชอบของเมซง (Maison) แห่งนี้ที่มีต่อขอบฟ้าแห่งการสร้างสรรค์ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด และเป็นดวงดาวแปดแฉกแห่งคอนดอตติ (Condotti) ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ท่ามกลางหมู่ดาวตกที่โอบกอดไว้โดยพลังแห่งความทรงจำของท้องฟ้า ซึ่งเป็นตัวแทนถึงความมหัศจรรย์เล็กๆ และแสนยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชีวิตนั้นงดงามล้ำเลิศ อันเป็นวิถีที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจและนำทางให้จินตนาการนั้นกลับกลายเป็นความจริง

โดยในแคมเปญนี้ยังได้ร่วมถ่ายทอดโดยมิวส์ (muses) ผู้เป็นแรงบันดาลใจของบุลการี ทั้ง วิตตอเรีย เซเรตติ (Vittoria Ceretti) และเบลสนีอา  ไมเนอร์ (Blesnya Minher) ที่จะเชื้อเชิญคุณให้ร่วมดื่มด่ำสู่บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งเป็นตัวแทนถึงจิตวิญญาณอันกล้าแกร่ง ร่าเริง และสง่างามอย่างไร้ขอบเขตแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่สไตล์อิตาลี

เรียบเรียง rhunrun

BVLGARI in Geneva Watch Days

ชมนาฬิกาสุดหรูของ BVLGARI ใน Geneva Watch Days  ถือเป็นความท้าทายต่อธุรกิจนาฬิกาหรูต่างๆ เมื่อวิกฤติไวรัสทำให้การจัดแสดงนาฬิกาต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไป แต่ถึงอย่างนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อนวัตกรรมและรูปแบบดีไซน์ของนาฬิการะดับสูงเหล่านี้ ที่งาน Geneva Watch Days ที่ผ่านมาก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของวงการนาฬิกาในปีนี้ โดยเฉพาะ BVLGARI ที่มีการเผยโฉมนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ๆ โดย Jean-Christophe Babin ผู้เป็น  CEO ของ ได้นำเสนอนิทรรศการนาฬิกาแนวใหม่ที่ยังคงวิถีแห่งนิวนอร์มอล โดยมีการพบกับลูกค้าคนสำคัญๆ ส่วนใหญ่ในโซนยุโรป ผ่าน Zoom และมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ทั่วโลก ผ่านทางออนไลน์กว่า 45 สำนักในช่วงวันที่ 26-29 สิงหาคมที่ผ่านมา

แม้จะเป็นการจัดนิทรรศการแบบวิถีปรกติใหม่ แม้คนจะไม่ได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการจากทั่วโลกเหมือนแต่ก่อน ทว่าการตกแต่งสถานที่และบรรยากาศโชว์รูมนาฬิกาบุลการี ชั่วคราวในครั้งนี้ก็ทำได้อย่างหรูหราและประณีต โดยมีนาฬิกาที่น่าสนใจอย่าง  Bvlgari Aluminium ในเวอร์ชั่นใหม่ นาฬิกา Octo Finissimo  ที่สร้างสถิติโลกอันใหม่ The Automatic Tourbillon Chronograph ในรูปโฉมแบบสเกลเลตันที่มองห็นกลไกอย่างสวยงามทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  และ The new Arena Bi-Retro by Gerald Genta ซึ่งทางบุลการีได้ผนวกรวมเข้ามาไว้ตั้งแต่ปี 2000

มาดูภาพสวยๆ ของนาฬิกา BVLGARI รุ่นใหม่ที่เผยโฉมในงานนี้กัน รวมทั้ง The new Arena Bi-Retro by Gerald Genta ต้องบอกว่าหนุ่มๆ เตรียมเงินไว้ได้เลย เพราะมีทั้งแบบหรูและแบบสปอร์ตและดูเท่ทันสมัย เหมาะกับคนที่ชอบดีไซน์นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

The Act of Art

‘งานศิลป์’ บนข้อมือก้าวล้ำไปอีกขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า ‘ศิลปะ’ ยอมจำนนให้กับ ‘ระบบพาณิชย์’ ในสักวันหนึ่ง อย่างที่นักคิดมากมายเคยหวั่นเกรง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คงยังไม่ถึงกาลปาวสาน เพราะแบรนด์นาฬิกาชั้นนำ ได้ต่อยอดงานคิดสร้างสรรค์ ผลิตนาฬิกาที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางศิลปะ ที่ไม่ใช่งานปั๊มแนวอุตสาหกรรมนะครับ จะได้งอกมาทีละพันเรือน

Watch 2

Bulgari ส่งเรือนเวลารุ่น Commedia dell’ Arte (กอมเมเดีย เดลลาร์เต) นับเป็นงานผสมผสานชั้นยอดในระดับซับซ้อน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการละครสวมหน้ากากสไตล์คณะละครเร่ของอิตาลีช่วงศตวรรษที่ 16 ตัวละครชื่อดังสามชีวิตได้รับการติดตั้งบนหน้าปัดนาฬิกาอย่างงดงาม และเมื่อฆ้องของระบบ Minute Repeater เริ่มทำงาน ตัวละครทั้งหมดจะขยับเขยื้อนอย่างมีชีวิตอยู่หน้าฉากหลังที่เป็นประสาทสไตล์อิตาเลียน

Watch 9

ศิลปะงานลงยากรองด์ เฟอ (Grand Feu) หรืองานลงยาด้วยการเผา ซึ่งเกือบหายสาบสูญไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ได้ถูกพลิกฟื้นตำนานขึ้นอีกครั้ง เพื่อสร้างสรรค์ Ralph Lauren Stirrup Enamel Watch (ราล์ฟ ลอเรน สเตอร์รัพ อินาเมล วอทซ์) ที่ผลึกคริสตัลสีจะถูกบดเป็นผงละเอียด ผสมเข้ากับน้ำกลั่น เพื่อสร้างสารเหลวสำหรับการลงยาที่ใช้วาดลงบนแผ่นโลหะล้ำค่าบนหน้าปัด จากนั้นชั้นต่างๆจะถูกบรรจงวาดเติมไปพร้อมกับการเผาที่อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส ด้วยความพิถึพิถันสูงสุด ซึ่งถ้าเกิดการผิดพลาดจำเป็นต้องทิ้งและสร้างใหม่ เพื่อสร้างสรรค์รายละเอียดของลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ ราล์ฟ ลอเรน ชั่วขณะอันทรงพลังในสนามโปโล่ก่อนที่ไม้จะปะทะกับลูกบอล ซึ่งประกอบไปด้วยสีสันที่แตกต่างกันถึง 15 สี ที่ศิลปินต้องบรรจงตวัดปลายพู่กันจิ๋วเท่าเส้นผมวาดลงบนภาพด้วยสีลงยาภายใต้กล้องขยายกำลังสูง

Watch 4

เปกาซัสเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความรู้และปัญญา (เข้ากับปีม้าพอดี) นาฬิการุ่น 50s Presidents’ Cricket “Pegasus in the sky” จาก Vulcain ใช้เทคนิคการทำหน้าปัดแบบกรองด์ เฟอ คลัวซอนเน่อนาเมล อันเหนือชั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งความล้ำลึกทั้งในด้านของสี พื้นผิวและแสงเงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากหลังสีฟ้าสดอันเปล่งปลั่งนั้น เครื่องนาฬิกาแบบอินเฮ้าส์ชุปโรเดียมที่บรรจุอยู่ในตัวเรือนพิงค์โกลด์ 18 กะรัต มีกลไกคริกเก็ตอลาร์ม อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งสามารถส่งเสียงปลุกได้เป็นเวลากว่า 20 วินาที หากเจ้าของนาฬิกาสั่งทำงาน

Watch 55

Parmigiani Fleurier นาฬิการุ่น Pershing Samba Madeira ดีไซน์ทูร์บิญงซ้อนทับลงบนลวดลายกีต้าร์ ซึ่งตกแต่งด้วยแผ่นไม้ขนาดบาง ตัวเรือนไทเทเนียม สายหนังสีน้ำเงิน ขอบตัวเรือนทองทำงานด้วยกลไกขึ้นลานด้วยมือ เป็นนาฬิกาที่มีลวดลายวินเทจแต่แฝงด้วยความน่าค้นหาไว้อย่างเต็มเปี่ยม

Watch 6

การหลอมรวมระหว่างศาสตร์แห่งการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม เข้ากับศาสตร์แห่งงานหัตถกรรมอันวิจิตร ของ Ulysse Nardin กับรุ่น Jazz Minute Repeater งดงามด้วยการสลักภาพนักดนตรีทั้ง 4 คน กำลังบรรเลงเพลง ทำขึ้นจากทอง 18 กะรัตฝังลงบนหน้าปัดสีดำออนิกซ์สองเข็ม ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ UN-74 ตัวเรือนทำจากแพลตินัม ขนาด 42 มิลลิเมตร บุกระจกแซฟไฟร์กันสะท้อนทั้งตัวเรือน มาพร้อมกับสายหนังสีดำที่ขับให้นักดนตรีดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น