Exquisite Gucci : Phantasmagorical power of fashion.
ไม่ผิดหวังกับการรอคอยที่เราจะพบการนำเสนอคอลเล็กชันหลักๆ เพียงปีละ 2 ครั้งของ GUCCI โดย Alessandro Michele สำหรับคอลเล็กชันต้นปีที่ชื่อ Exquisite Gucci ที่จัดขึ้นในช่วงที่แฟชั่นเฮ้าส์อื่นๆ นำเสนอคอลเล็กชันฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปีนี้ สำหรับคนที่ติดตามกุชชี่มาตลอดคงคุ้นชินแล้วว่าช่วง 2 ปีหลังที่อเลสซานโดร มิเคเล่ ตัดสินใจกลับมานำเสนอแฟชั่นโชว์ในช่วงมิลานแฟชั่นวีคอีกนั้น กุชชี่จะมีการนำเสนอแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นเพียง 2 ครั้งต่อปี แต่จะมีคอลเล็กชั่นต่างๆ รวมอยู่ในนั้นโดยไม่ได้บอกว่าเป็นฤดูกาลไหน
สำหรับ Exquisite Gucci ที่ถือเป็นชื่อของคอลเล็กชั่นและแฟชั่นโชว์นี้มาจากชื่อการเล่นเกม Cadavre exquis (exquisite corpse)ที่มีที่มาจากยุค 1920 ซึ่งเหล่าบรรดาศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสต์ได้เล่นเกม โดยการแบ่งหน้ากระดาษเป็น 3 ส่วนแล้วให้แต่ละคนวาดภาพตามที่เข้าใจจากคำบรรยายที่เสมือนปริศนา โดยแต่ละคนจะได้วาดแต่ละส่วน ส่วนบนกระดาษต้องวาดส่วนหัว ส่วนกลางจะเป็นลำตัวและส่วนล่างของกระดาษจะวาดเป็นส่วนขา โดยการส่งต่อให้วาดนั้นศิลปินแต่ละคนจะไม่ได้เห็นว่าก่อนหน้านี้ท่านอื่นๆ ได้วาดรูปเป็นเช่นไร แล้วค่อยมาเปิดให้เห็นภาพรวมในภายหลัง
เชื่อมโยงมาที่การจัดแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ของกุชชี่ที่ตกแต่งด้วยกระจกเงาแบบห้องกระจกของสวนสนุกที่ให้เงาสะท้อนแบบต่างๆ เสมือนภาพลวงตา แต่แนวคิดนั้นมิเคเล่ ได้มาจาก Speculum majus โดย Vincent de Beauvais ในศตวรรษที่ 13 ที่เขายกย่องให้กระจกเงาเป็นเครื่องมือของการรู้แจ้ง เพราะภาพเงาที่เกิดขึ้นทำให้วัตถุมีขนาดใหญ่กว่าจริง ผอมกว่าจริงหรือเล็กกว่าจริง เช่นกันกับอาภรณ์ก็สามารถสร้างสิ่งนี้ได้ คือทำให้คนที่สวมใส่มีภาพลักษณ์ออกมาได้ ซึ่งถ้าเราไม่ตื่นใจจนไม่ได้ดูรายละเอียดอื่นๆ นอกจากดีเทลสามแถบและโลโก้กลีบดอกไม้ในการร่วมงานกันของ Gucci กับ adidas เราจะเห็นว่าตั้งแต่ชุดสูทเบลเซอร์สีน้ำเงินตัวแรกที่สวมกับรองเท้าส้นสูงปลายแหลมแบบ kitten heel ก็สื่อแล้วถึงซิลลูเอทของชุดที่ทำให้ลุคโดยรวมของคนสวมออกมาได้อย่างที่ต้องการ นอกจากนั้นยังเชื่อมโยงไปถึงความ genderless ของแฟชั่นกุชชี่ที่มีมาตลอดตั้งแต่มิเคเล่ เข้ามากุมบังเหียนตั้งแต่ปี 2015 โดยเขาเองก็คิดว่ามีไอเท็มหนึ่งของผู้ชายที่ผู้หญิงอยากจะสวมใส่และใส่ได้แบบไม่ต้องเคอะเขินนั่นก็คือชุดสูท(แจ็คเก็ตและกางเกงหรือกระโปรงตัดจากผ้าชิ้นเดียวกัน) และในโชว์นี้จึงมีชุดสูทออกมาหลากหลายทั้งชนิดของผ้าและทรงที่ทำให้เกิดลุคของคนสวมดูเพรียว ดูสง่า(ไหล่ของแจ็คเก็ตกว้าง) หรือแจ็คเก็ตตัวบนที่หลวมโคร่งเสริมไหล่แบบแฟชั่นเอจตี้ส์ แจ็คเก็ตทรงบ็อกซี่ หรือแม้แต่ power suite ของผู้หญิงยุค 1990’s แต่เขาก็นำมาบิดให้เป็นดีไซน์ของเขาโดยไม่สร้างกลิ่นอายของยุคสมัยให้เป็นแฟชั่นเรโทร
แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำแค่ชุดสูทถ้าเราดูว่าที่มาของคำว่า Exquisite Gucci มาจากเกม exquisite corpse รวมทั้งการ์ดเชิญชมโชว์ที่เป็นสมุดที่แบ่งออกเป็น 3 ตอนให้เราเปิดสลับลุคของภาพสเก็ตช์ในเล่มได้เหมือนหนังสือภาพสำหรับเด็ก ซึ่งก็มีที่มาจากเกม exquisite corpse เราจะเห็นว่าก็ต้องมีการผสมผสานแจ็คเก็ตกับช่วงล่างที่เป็นกางเกงหรือกระโปรงอีกด้วย เหมือนภาพสมุดแต่งตัวให้ตุ๊กตาที่เคยเป็นที่นิยมในยุคหนึ่ง
และก็มาถึงคอลเล็กชั่นที่แย่งซีนให้สายสตรีทหรือคนที่เหนียวแน่นกับกุชชี่จะตั้งใจรอว่าคอลเล็กชันนี้จะมีการร่วมงานกับแบรนด์ไหน ทันทีที่เห็นแถบสามแถบสีขาวปรากฏบนดีไซน์ ก็ไม่ต้องดูอะไรอื่นอีกเพราะเชื่อว่าหลายคนจับจ้องว่าแถบสีขาว 3 แถบนี้จะปรากฏออกมาในชุดใดอีก และยิ่งตอกย้ำด้วยโลโก้ใบไม้ 3 ใบและมีขีด 3 แถบคาดด้านล่างของ adidas สปอร์ตแวร์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี การ่วมมือกันของ Gucci และ Adidas นี้มีชื่อคอลเล็กชันว่า adidasXGucci ตามได้ที่แฮชแทค #adidasxGucci ที่มีจุดเชื่อมโยงที่หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็น adidas ซึ่งยังไม่ได้มีรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการเพราะ adidasXGucci เป็นหนึ่งในคอลเล็กชันของ Exquisite Gucci
แต่เราคาดเดาว่าคงมาจากการมีแถบสีที่ตกแต่งบนดีไซน์แล้วกลายเป็นเอกลักษณ์ที่คนเห็นแล้วรับรู้ทันที อย่าง adidas มีแถบสีขาว(บนเสื้อผ้า)หรือสีดำ(บนโลโก้) 3 แถบ ของกุชชี่ก็มีแถบสีแดงและแถบสีเขียว(รวม 2 แถบ)บนงานดีไซน์แล้วผู้คนสามารถจดจำได้ทันทีโดยไม่ต้องมองหาชื่อแบรนด์ นอกจากนี้โลโก้ใบไม้ 3 ใบของอาดิดาส กับตัวผึ้งของกุชชี่ยังมีความเป็นโลโก้ที่คนจดจำได้เช่นกัน นี่คือการคาดเดาในด้านอัตลักษณ์ดีไซน์ แต่ที่แน่ๆ 3 แถบสีขาวของอะดิดาสสร้างพลังแห่งสปอร์ตแวร์และสตรีทสไตล์สัญชาติเยอรมันที่ยากจะหาโลโก้ใดมาเทียบ และเมื่อมาผสมผสานความหรูหราของดีไซน์จากกุชชี่ที่เป็นแฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูของอิตาลีนี่จึงเป็นพลังการขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ในวงการแฟชั่นที่เราจะเห็นว่าเป็นการจับคู่ที่เหมาะและลงตัวที่สุด ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงกดแฮชแทค adidasXGucci รัวๆ ว่าจะมีความคืบหน้าอะไรออกมาอีกบ้างหลังแฟชั่นโชว์ Exquisite Gucci
ปิดท้ายโชว์ด้วยนายแบบในชุดสูทสีมัสตาร์ดที่เป็นสีของกุชชี่แต่ตัวแจ็คเก็ตเป็นกระดุมป้ายเฉียงมาด้านข้าง 3 เม็ดที่เป็นทรงใหม่โดยมีผ้าพันคอทีนำมาคาดผมให้เห็นโลโก้ของ adidasXGucci อยู่ด้านหน้าและฟินาเล่ด้วยชุดเจ้าสาวสีดำ ถ้าไม่สวมเวลคลุมผมก็จะเป็นชุดเดรสที่หรูหราชายยาวกรุยกรายแต่มีความสปอร์ตที่สวมได้ในทุกวาระ