10 ศิลปินไทย สร้างสรรค์ผลงานสุดครีเอตบนเคสโทรศัพท์ในงาน Bangkok Design Week 2023

CASETiFY แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก ร่วมกับผู้จัดงาน Bangkok Design Week 2023 จับมือ 10 ศิลปินไทย ดึงเอกลักษณ์ย่านที่มีเสน่ห์ของกรุงเทพฯ สู่งานดีไซน์บนเคสโทรศัพท์มือถือ เตรียมจัดแสดงผลงาน CASETiFY Masterpieces ณ ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 6 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566 หรือ Bangkok Design Week 2023 ดำเนินการโดยสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) : สศส. หรือ Creative Economy Agency (Public Organization) : CEA โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 4 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ภายใต้ธีม ‘urban‘NICE’zation เมือง-มิตร-ดี’ ซึ่งเป็นพื้นที่สําหรับนักสร้างสรรค์จากสาขาต่าง ๆ ในการนําเสนอแนวคิดที่มีเป้าหมายในการ ‘ทําเมืองให้ดีขึ้น’ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันพัฒนาให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นสําหรับวันข้างหน้า นอกจากนั้น กิจกรรมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการผลักดันให้กรุงเทพฯ ได้รับคัดเลือกเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UNESCO Creative City Network) ในสาขาด้านการออกแบบ (Bangkok City of Design) ร่วมกับผู้ร่วมจัดงานทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรระหว่างประเทศกว่า 60 หน่วยงาน รวมถึงนักออกแบบและธุรกิจ สร้างสรรค์กว่า 2,000 ราย โดยมียอดผู้เข้าชมงานทั้งไทยและต่างประเทศรวมแล้วมากกว่า 400,000 คนในแต่ละปี

ความร่วมมือระหว่าง CASETiFY กับงาน BKKDW 2023 และ 10 ศิลปินไทยนั้น เป็นโปรเจกต์การออกแบบงานอาร์ตลงบนเคสโทรศัพท์มือถือของ CASETiFY ภายใต้ธีม ‘urban‘NICE’zation เมือง-มิตร-ดี’ โดยใช้แรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์ของย่านที่โดดเด่นของกรุงเทพฯ แสดงฉากสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวาตามมุมมองของศิลปินที่มีรูปแบบศิลปะที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้คอลเล็กชั่นนี้มีความชีวิตชีวาเหมือนกับเมืองกรุงเทพฯ โดย 1 ศิลปินได้ออกแบบคนละ 1 ย่าน อาทิ ย่านปากคลองตลาด, ตลาดน้อย เจริญกรุง, เยาวราช, สยาม เป็นต้น ศิลปินที่เข้าร่วมโปรเจกต์นี้เป็นศิลปินรุ่นใหม่ รวมถึงดีไซเนอร์ นักออกแบบ นักวาดภาพประกอบ ได้แก่ BDK, Jiranarong, Nakrob Moonmanas, Phayanchana, Eaowen, NATTHAPHORN, Kanith, Prang Vipaluk, faan.peeti และ Pnk.ff

แม้ว่าคอลเล็กชั่นนี้จะเป็นธีมเกี่ยวกับกรุงเทพฯ และงานออกแบบในกรุงเทพฯ แต่จะวางจำหน่ายที่ CASETiFY.com ทั่วโลก (มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น iPhone 11-iPhone 14, Samsung S21 และ S22 series และ ZFlip 3 และ 4) ซึ่งจะเป็นเวทีระดับโลกในการแสดงออกถึงตัวตนของศิลปินไทย รวมถึงมีจำหน่ายที่ Pop Up Store Bangkok และจะจัดแสดงผลงานการออกแบบจากคอลเล็กชั่น CASETiFY Masterpieces ที่ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ ใกล้ประตูทางเข้า โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 6 – 28 กุมภาพันธ์ 2566

พาไปชมบรรยากาศ Lamborghini Bangkok Family Day ส่งมอบความสุขพร้อมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลัมโบร์กินีให้เด็ก ๆ

เชื่อว่าวัยเด็กของทุกคนต้องมีไอเท็มชิ้นสำคัญที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและคุณค่าทางใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมีรถยนต์ในฝันอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพื่อเปิดโลกแห่งจินตนาการอย่างไร้ขอบเขตและเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมค้นหาแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนที่ชื่นชอบและหลงใหลในยนตรกรรม 

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ,ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการ จัดงาน LAMBORGHINI BANGKOK FAMILY DAY ในชื่อ ‘GIORNO DELLA FAMIGLIA’ ซึ่งนอกจากจะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองเทศกาลวันเด็กแห่งชาติแล้ว มิชชั่นสำคัญในครั้งนี้คือการส่งมอบความสุข พร้อมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลัมโบร์กินีให้เหล่าเด็ก ๆ ได้สัมผัสแบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่านับเป็นแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์แบรนด์แรก ๆ ที่เล็งเห็นความสำคัญและพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้เหล่าเด็ก ๆ 

ภายในงานอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสนุก ๆ ที่เสริมสร้างหลากทักษะมากมายที่เหล่าผู้บริหารมีความตั้งใจและคัดสรรมาให้    เด็ก ๆ  อาทิ สนุกสุดมันส์ไปกับกิจกรรมการจำลองวันส่งมอบรถลัมโบร์กินี, กิจกรรมเยี่ยมชมศูนย์บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ  ที่ไม่เคยเปิดให้ใครเข้าชมมาก่อน, กิจกรรมออกแบบรถลัมโบร์กินีในฝันผ่านโปรแกรมพิเศษ Ad Personam, กิจกรรมสวมบทบาทเป็นนักแข่งรถรุ่นจิ๋วที่ให้เด็ก ๆ เรียนรู้การขับขี่อย่างสนุกสนานและปลอดภัย,  กิจกรรมขี่วัวกระทิงพยศ, กิจกรรมบ้านลมสุดหรรษา, กิจกรรมเพนต์หน้าแฟนซี และเพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารคาวรสเลิศและขนมหวานแสนอร่อยตลอดทั้งงาน

ซึ่งความพิเศษในครั้งนี้นอกจากเจตนารมณ์ในการส่งมอบความสุขให้แก่ท่านเจ้าของรถลัมโบร์กินีและครอบครัวแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เหล่าเด็กและเยาวชนในพื้นที่เขตบางบอนและสายไหมร่วมงานด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมและสานฝันให้กับน้อง ๆ ได้มีโอกาสสัมผัสรถลัมโบร์กินี พร้อมเปิดประสบการณ์การเรียนรู้โลกแห่งซูเปอร์สปอร์ตคาร์  ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโรคและความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 ณ   โชว์รูม ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ถ.วิภาวดีรังสิตโดยมีเหล่าเซเลบริตี้ ครอบครัวแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุ รวมถึงเด็กและเยาวชนทั่วไป ร่วมงานกว่า 300 ท่าน

ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111

rhunrun เรียบเรียง

พาไปชมบรรยากาศ “LAMBORGHINI NIGHT 2022: HIP HOP NIGHT” เรนาสโซ มอเตอร์ เอาใจสาวกกระทิงดุสายฮิปฮอปกับปาร์ตี้อัพบีทเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี

เติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้นทุกปีสำหรับ เรนาสโซ มอเตอร์ และ ลัมโบร์กินีคลับไทยแลนด์ เพราะนอกจากจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น จนส่งผลให้ยอดรวมการส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของแบรนด์ บริษัทฯ ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดนิ่งและความเป็นมืออาชีพแบบรอบด้าน ตั้งแต่ประสบการณ์การส่งมอบรถอันยอดเยี่ยม บริการหลังการขาย 
ไปจนถึงแอคทิวิตี้ที่ให้เหล่าสมาชิกคลับและแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับตลอดทั้งปี

เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ อีกทั้งแสดงความขอบคุณและตอบแทนความไว้วางใจให้กับลูกค้าคนสำคัญที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลัมโบร์กินี อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ, ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส  ลีนุตพงษ์ กรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย พร้อมด้วย ภานุเมศ จงกลรัตนาภรณ์ ประธาน LAMBORGHINI CLUB THAILAND (ลัมโบร์กินีคลับไทยแลนด์) ร่วมกันจัดกิจกรรมสุดพิเศษส่งท้ายปีกับ “LAMBORGHINI NIGHT 2022: HIP HOP NIGHT” ปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เชิญชวนเหล่าสาวกกระทิงดุ ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ภายใต้คอนเซปต์ GLAM HIP HOP พร้อมอัพบีทแบบจัดเต็มไปกับมินิคอนเสิร์ตจากแร็ปเปอร์ตัวพ่อแห่งวงการฮิปฮอปไทย อย่าง “โจอี้บอย” 

โดยมีเหล่าเซเลบริตี้และสมาชิกคลับร่วมงานคับคั่ง อาทิ นที มาเสถียรวงศ์, บพิธ ธุระชน, ภัคคณวัฒน์ เหมะธนานันท์, พลอยนภัส เชษฐกุลรัตน์, สราวุธ เสรีธรณกุล, กันธิชา ฉิมศิริ และ น.พ.นพรัตน์ รัตนวราห เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ

ร่วมสัมผัสความหรูหราโฉบเฉี่ยวของซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ ได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111  

rhunrun เรียบเรียง fu ms pk

ให้ทุกการ Brainstrom เป็นเรื่องง่าย Apple เปิดตัว Freeform แอปใหม่อันทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อการสร้างสรรค์คอนเทนท์ผ่านรูปภาพได้อย่างอิสระ

นนี้แอป Freeform พร้อมให้ใช้งานแล้วบน iOS, iPadOS, และ macOS เวอร์ชั่นล่าสุด โดยเป็นแอปที่เปิดให้ใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย Freeform ช่วยให้ผู้ใช้จัดระเบียบและจัดวางคอนเทนต์ลงบนผืนผ้าใบที่ยืดหยุ่นในรูปแบบภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนดู แชร์ และทำงานร่วมกันได้ในที่เดียวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเลย์เอาท์หรือขนาดของหน้ากระดาษ ผู้ใช้สามารถเพิ่มไฟล์ได้หลากหลายประเภทและดูตัวอย่างได้เลยโดยไม่ต้องออกจากบอร์ด Freeform ซึ่งออกแบบมาเพื่อการทำงานร่วมกันช่วยให้การเชิญผู้อื่นมาทำงานร่วมกันบนบอร์ดเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ผู้ใช้ยังสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นขณะที่โทร FaceTime ได้ด้วย บอร์ด Freeform จะถูกจัดเก็บอยู่ใน iCloud ผู้ใช้จึงสามารถซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้

ตัวอย่างการทำแอป Freeform ไปใช้งาน

  • FaceTime: ผู้ใช้สามารถวาดภาพร่วมกันได้ขณะ FaceTime เพื่อให้ผู้อื่นเห็นภาพไอเดียของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ด้านการศึกษาและกิจกรรมในห้องเรียน: คุณครูสามารถใช้ Freeform เป็นสื่อการเรียนการสอน โดยสามารถให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันทำงานบนผืนผ้าใบเดียวกันคนละมุม จากนั้นนำกลับมารวมกลุ่มและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้
  • Mood Boards หรือโปรเจคส์ต่างๆ: ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันไอเดีย ภาพ reference และนำไปต่อยอดได้ โดยเฉพาะงานด้านการออกแบบต่างๆ ตลอดจนจัดงานอีเว้นต์ หรือแม้กระทั่งจัดงานแต่งงาน
  • การซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน: ถ้าหากกำลังวางแผนตกแต่งบ้านใหม่อยู่นั้น Freeform สามารถเป็นผืนผ้าใบที่ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลเฟอร์นิเจอร์ สี รูปแบบการก่อสร้างไว้ในที่เดียวกันได้ โดยสามารถส่งต่อให้คนในครอบครัวสามารถเข้ามาดูและแบ่งปันความคิดเห็นลงไปได้เช่นกัน 
  • การท่องเที่ยว: ผู้ใช้งานสามารถวางแผนทริปที่กำลังจะเกิดขึ้นบนแอป Freeform ได้ โดยครอบคลุมได้ตั้งแต่สถานที่ที่ต้องการจะไป ร้านอาหาร แผนที่ เส้นทางการเดินทาง งบประมาณ รูปภาพ หรือแม้แต่เพลย์ลิสต์ท่ีอยากเปิดขณะเดินทาง
  • แฟชั่น: ผู้ใช้สามารถสเก็ตช์ ออกแบบเสื้อผ้า ตลอดจนออกแบบโชว์ ใส่ภาพแรงบันดาลใจต่างๆ ฯลฯ และแบ่งปันให้แก่ทีมงานของผู้ใช้งานได้

พื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน

ไม่ว่าผู้ใช้จะทำงานที่โต๊ะหรือทำงานระหว่างเดินทาง Freeform ก็มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับโปรเจ็กต์แบบสแตนด์อโลนหรือเมื่อทำงานร่วมกับผู้อื่น Freeform มาพร้อมความสามารถในการทำงานร่วมกันได้สูงสุด 100 คนบนบอร์ดเดียวกัน จึงเป็นพื้นที่ในการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับผู้อื่น เมื่อทำงานในโปรเจ็กต์แบบกลุ่มหรือแม้แต่วางแผนวันหยุดพักผ่อนกับเพื่อนๆ

Freeform ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการทำงานร่วมกันแบบใหม่ในแอปข้อความ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชิญผู้อื่นมาที่บอร์ด Freeform ได้ง่ายๆ เพียงแค่ลากลงในเธรดข้อความ สมาชิกทั้งหมดของเธรดนั้นจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมบอร์ดโดยอัตโนมัติและสามารถเริ่มทำงานร่วมกันได้ทันที เมื่อมีคนแก้ไข การอัปเดตกิจกรรมจะแสดงที่ด้านบนของเธรดข้อความ

ความพร้อมใช้งาน

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Freeform จะใช้งานได้ฟรีบน iPhone, iPad และ Mac ทุกเครื่องที่รองรับ iOS 16.2, iPadOS 16.2 หรือ macOS Ventura 13.1

rhunrun เรียบเรียง

Nothing Ear (stick) นวัตกรรมสุดล้ำกับดีไซน์อ้างอิงหลักยศาสตร์เพื่อความสบายสูงสุด มาพร้อมกับเสียงที่สมจริงทรงพลังด้วยไดร์เวอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อพลิกโฉมวงการหูฟัง

Nothing ได้นำเสนอประสบการณ์ทางด้านเสียงที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน กับหูฟัง Ear (stick) ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 29 ชั่วโมง มีไดร์เวอร์ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะขนาด 12.6 มม. และออกแบบมาในรูปแบบ half-in ear สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย Nothing Ear (stick) ถ่ายทอดเสียงที่ทรงพลังอย่างแท้จริง มอบความรู้สึกเบาสบายในราคาเพียง 4,190 บาท

ออกแบบมาเพื่อความสบาย

ดีไซน์มาในรูปแบบ half-in-ear ที่ทำให้การสวมใส่สบายเป็นพิเศษ Ear (stick) มอบทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้ในระบบEcosystem เสียงของ Nothing หูฟังที่มาในเคสทรงกระบอกขนาดกะทัดรัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของลิปสติก ตัวหูฟังอยู่ในระดับที่พอดีกับหู เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างพอดีและเป็นธรรมชาติ ได้รับการออกแบบตามหลัก การยศาสตร์และผ่านการทดสอบกับผู้คนมากกว่า 100 คน Nothing Ear (stick) ให้ความรู้สึกเบาสบายราวกับไม่ได้สวมใส่ มีน้ำหนักเพียง 4.4 กรัมต่อข้าง เพื่อการใช้งานที่สะดวกตลอดทั้งวัน

เสียงที่ชัดเจน
สัมผัสเสียงที่มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยไดร์เวอร์ไดนามิคที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะของ Nothing Ear (stick) ซึ่งเป็นหนึ่งในไดร์เวอร์ที่มีความไวที่สุดในตลาด มีขนาด 12.6 มม. ซึ่งสามารถที่จะให้ความลึกของเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยรายละเอียดเสียงสูงที่ชัดเจนและครบถ้วน ในขณะเดียวกันก็ยังมีขนาดที่เล็กพอสำหรับการสวมใส่ที่พอดี ให้ความสม่ำเสมอของเสียงแม้อยู่ในความถี่สูงสุดและต่ำที่สุด เพื่อประสบการณ์การรับฟังที่สมจริงอย่างทรงพลัง

เผยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Bass Lock Technology ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่จะวัดรูปร่างของช่องหูที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้แต่ละคนและความพอดีของหูฟัง และทำการตรวจเสียงเบสที่หายไประหว่างการสวมใส่ หลังจากนั้นเส้นโค้งของอีควอไลเซอร์จะปรับโดยอัตโนมัติไปยังระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ เพื่อให้เสียงมีความลึกและคมชัดทุกครั้ง

Clear Voice Technology 

Nothing’s Clear Voice Technology อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ไมโครโฟนมีความละเอียดสูงสามตัว ทำงานร่วมกับระบบอัลกอริทึมที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และเพิ่มประสิทธิภาพการสนทนาของผู้ใช้ด้วยการป้องกันเสียงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ

Ear (stick) มีเสาอากาศที่ออกแบบใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากใบหน้าเพื่อลดการปิดกั้นของสัญญาณ เมื่อคุณเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนของ Nothing Phone (1) ฟังก์ชันนี้จะสลับไปที่โหมดความหน่วงต่ำโดยอัตโนมัติเพื่อให้เสียงและกราฟิกตรงกันอย่างพอดี นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ได้อย่างง่ายดายด้วย Fast Pair[1]


Press Controls
ปุ่มควบคุมหูฟังถูกออกแบบมาเพื่อการสัมผัสที่แม่นยำมากขึ้นเป็นพิเศษ โดยปุ่มควบคุมหูฟังสามารถใช้งานได้แม้ในขณะที่นิ้วมือเปียก ผู้ใช้สามารถกดสั่งการผ่านก้านหูฟังเพื่อเปิดใช้งานระบบด้วยเสียงและปรับระดับเสียงได้อย่างง่ายดาย


ใช้ร่วมกับ Phone (1)

Phone (1) สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานร่วมกับ Ear (stick) ได้อย่างลงตัว เพราะการตั้งค่าและคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Phone (1) โดยตรง ทั้งในเรื่องของการควบคุมและการตั้งค่าของ EQ ในทุกย่านความถี่ของเสียงได้อย่างรวดเร็วผ่านการตั้งค่าด่วน เพื่อการฟังที่ราบรื่นและลงตัวที่สุดสำหรับคุณ สำหรับอุปกรณ์ Android และ iOS อื่น ๆ ฟังก์ชันทั้งหมดจะมีอยู่ในแอปใหม่ Nothing X app[2]

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
Ear (stick) มาพร้อมกับเคสที่ถูกดีไซน์มาเป็นพิเศษ ด้วยสรีระที่ไม่ซ้ำใคร สามารถพกพาได้สะดวก ด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการฟังได้สูงสุดถึง 7 ชั่วโมงและรองรับการสนทนาการคุยโทรศัพท์ได้นานถึง3 ชั่วโมง อีกทั้งเคสยังบรรจุการชาร์จได้ถึง 22 ชั่วโมง ตัวหูฟังสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา เพียงใส่ในเคสในระยะเวลา 10 นาที ก็สามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานได้สูงสุด 2 ชั่วโมง

จับคู่กับอุปกรณ์ Android ที่ใช้งานร่วมกันได้ทันที เพียงแค่เปิดเคสและกดปุ่มจับคู่ [2] แอปสามารถใช้งานได้กับ Android 5.1 ขึ้นไปและ iOS 11 ขึ้นไป

การวางจำหน่ายและราคา

Ear (stick) จะวางจำหน่ายที่ประเทศไทยในจำนวนจำกัดครั้งแรกที่ Carnival ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป และจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่:

  • Dotlife ทุกสาขา
  • Nothing official store บน Shopee และ Lazada 
  • เว็บไซต์ KOAN 

rhunrun เรียบเรียง

coffin dodger 

t o n g


4 เซเลบริตี้ วางใจ BMW EUROPA MOTOR โชว์รูมรถหรูสัญชาติเยอรมันที่เปรียบเหมือนเพื่อนที่คอยดูแลกัน

BMW Europa Motor (บีเอ็มดับเบิลยู ยุโรปามอเตอร์) ผู้นำด้านการให้บริการรถยนต์ BMW และ BMW Premium Selection ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW Thailand เปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด Friends With Best support พร้อมเป็นเพื่อนที่ดูแลคุณในทุกเป้าหมายตลอดไป เพื่อทุกจุดหมายไปด้วยกัน โดยงานนี้ได้ 4 เซเลบริตี้ชื่อดังจาก 4 วงการร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความประทับใจที่มีกับการใช้บริการที่ BMW Europa Motor เปรียบเหมือนเพื่อนสนิทที่คอยเคียงข้างทุกเส้นทาง พร้อมให้คำแนะนำ มอบประสบการณ์พิเศษและดูแลกัน ผ่านวีดีโอ 4 เรื่อง ได้แก่ จารุจิต ใบหยก , ณ ชนก รัตนทารส ,วรากฤธ วิวัฒนาเกษม, ศรันยารินท์ หิรัญโชคอนันต์ และ นพวิชญ์ ไทยแท้ 

เริ่มต้นที่สาวมั่น จารุจิต ใบหยก เซเลบริตี้สาวทายาทเจ้าของตึกใบหยกที่ตอนนี้มาเอาจริงเอาจังกับธุรกิจส่วนตัว Gemster Thailand แบรนด์เครื่องประดับจากพลอยสีเหมาะกับแฟชั่นนิสต้าสาวยุคใหม่ ซึ่งเจ้าตัวดีไซน์เองทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องไลฟ์สไตล์การขับรถหรือการเลือกซื้อรถซักคัน คุณบุ๋มเผยว่า “ปกติผู้หญิงเราๆจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องรถอะไรมาก เราก็จะมองดีไซน์กับไลฟ์สไตล์การใช้งานเป็นหลัก ซึ่งด้วยแบรนด์ BMW ก็ตอบโจทย์อยู่แล้ว บุ๋มเองเป็นคนที่เวลารถมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับรถเล็กๆน้อยๆก็จะต้องมีคนคอยดูแลให้ตลอด อย่างที่ BMW Europa Motor พนักงานดูแลดีมาก มีอะไรก็ปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาให้เหมือนเป็น personal assistant เลยครบจบในที่เดียว และที่บุ๋มชอบคือเค้าเข้าใจลูกค้าว่าอย่างเราไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องยนต์เค้าก็จะใช้ศัพท์ ใช้คำที่พูดกับเราแล้วเราเข้าใจง่าย จริงเพื่อนๆก่อนหน้านี้ก็คุยกับเพื่อนหลายคนเค้าก็แนะนำที่นี่ และที่บ้านก็เป็นลูกค้าของที่นี่อยู่แล้วด้วยค่ะ เลยมั่นใจโชว์รูม “BMW Europa Motor”

ณ ชนก รัตนทารส CEO, G Enterprise & Co ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงอาหาร เล่าถึงความประทับใจในโชว์รูม Europa Motor ว่า “ปกติเวลาผมเลือกรถก็จะศึกษารุ่น หรือสมรรถนะ ดูรีวิวมาระดับหนึ่ง มีเกณฑ์ในใจของตัวเอง นอกจากจะต้องสวยถูกใจเพราะรถคันนึงบ่งบอกคาแรคเตอร์ของคนขับชัดเจนมาก เรื่องคุณภาพของรถยนต์ต้องดี ไม่เสียบ่อยและที่สำคัญโชว์รูมที่เราซื้อรถก็ต้องเลือกโชว์รูมที่มั่นใจด้วย โดยเฉพาะเซลล์ที่ดูแลผมจะต้องมีความเชี่ยวชาญและทำงานที่นั่นมาหลายปีหน่อย เพราะเราซื้อรถคันนึงอยู่กับเราก็อย่างน้อย 3-5 ปี เราก็อยากมั่นใจว่าเซลล์ที่ดูแลเรายังเป็นคนเดิมในระหว่างที่เราใช้ อีกอย่างศูนย์ซ่อมของที่นี่ก็ได้มาตรฐานมาก ที่สำคัญซ่อมเร็ว มีโชว์รูมใกล้บ้าน และมีหลายที่ อีกอย่างที่สังเกตได้เลยว่าโชว์รูมที่ไหนดี ดูได้เลยถ้ารถที่จอดโชว์มีรุ่นพิเศษ เบาะพิเศษ สีพิเศษ หรือสเปคตัวท็อปโชว์อยู่แสดงว่าอย่างน้อยโชว์รูมนี้ขายดีมีลูกค้าไว้ใจเยอะ ทำให้ได้โควต้าตัวท็อปๆมาขาย ซึ่งที่นี่มีครบ”

วรากฤธ วิวัฒนาเกษม

จ๊ะจ๋า-ภูผา ศรันยารินท์ หิรัญโชคอนันต์ และ นพวิชญ์ ไทยแท้ สองคู่รักที่ชอบการเดินทางและหาประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิตอยู่เสมอ ได้เล่าเรื่องราวความประทับใจกับโชว์รูม BMW Europa Motor ว่า “ผมกับจ๊ะจ๋าเรามีบ้านที่สุรินทร์ เพราะทำธุรกิจที่โน่นด้วย จะขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ เรียกได้ว่าใช้งานหนัก ขับทางไกลด้วย เวลาซื้อนอกจากรถจะต้องสมรรถนะดี ขับขี่ปลอดภัย ก็ต้องเลือกโชว์รูม หรือบริการศูนย์ซ่อมที่มั่นใจได้ แล้วด้วยความที่เราเป็นรถที่สลับกันขับ บางทีเราก็ต้องเลือกรถให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทั้งสองคน ต้องมีที่เก็บของเยอะ ต่อไปวางแผนว่าจะวางแผนจะมีลูกก็ต้องวางคาร์ซีทได้ เลยเลือกเป็นรุ่นที่ใหญ่หน่อยแต่อาจจะไม่ถึงกับใหญ่มากเพราะผู้หญิงขับด้วย โชว์รูมนี้ก็ให้คำแนะนำค่อนข้างดี อีกอย่างที่ผมชอบเพราะมีถึง 4 สาขาทั่วกรุงเทพเลย แล้วที่ประทับใจมากๆ คือที่นี่ตรงต่อเวลา นัดซ่อมค่อนข้างไว ทำให้เราตัดปัญหาความยุ่งยากในการส่งเรื่อง ส่งซ่อม เช็คสภาพไปได้เลย เพียงแค่โทรหาเค้าก็จัดการให้หมด สุดท้ายผมว่าการเลือกซื้อรถซักคันต้องซื้อกับโชว์รูมที่ได้มาตรฐาน และไว้ใจได้เท่านั้น”

สัมผัสประสบการณ์การให้บริการด้านรถยนต์เหนือระดับ

เปรียบเสมือนเพื่อนที่ดูแลคุณในทุกเป้าหมายตลอดไป เพื่อ“ทุกจุดหมายไปด้วยกัน”

ที่ BMW Europa Motor ทุกสาขา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ

ยุโรปามอเตอร์ สาขา จรัญสนิทวงศ์    โทร.02-864-0077          ยุโรปามอเตอร์ สาขา พระราม 2            โทร.02-848-1111

ยุโรปามอเตอร์ เซอร์วิสเอาท์เลท       โทร. 02-408-2266        ยุโรปามอเตอร์ สาขาตลิ่งชัน     โทร. 02 458 2266

Line official : @BMWEuropaMotor

พาไปชมทุกดีเทลของซูเปอร์เอสยูวีระดับโลก กับ Lamborghini Urus Performante ความจัดจ้านและเร้าใจที่ท้าให้คุณมาพิสูจน์

ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) สุดยอดแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี เผยโฉม Urus Performante” ปรากฏการณ์ใหม่แห่งสุดยอดสมรรถนะและสัมผัสการขับขี่แนวสปอร์ตในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวี ที่พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งบนท้องถนน สนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางสุดทรหด 

ซึ่งก่อนเผยโฉมที่งาน Pebble Beach Concours d’Elegance ครั้งที่ 71 ซูเปอร์เอสยูวีคันนี้ได้สร้างสถิติใหม่ในหมวดยานยนต์เอสยูวีเป็นที่เรียบร้อย จากการทดสอบวิ่งบนทางลาดชันสุดหฤโหดของ Pikes Peak International Hill Climb Road ที่มีระดับความสูงกว่า 4,302 เมตร (14,115 ฟุต) โดยสามารถทำเวลาเพียง 10:32.064 นาที ทุบสถิติเดิมที่ Bentley Bentayga เคยทำไว้เมื่อปี 2018 ที่ 10:49.902 นาที ถึง 17.838 วินาที

และนี่คือดีเทลสุดจัดจ้านที่ท้าให้คุณมาพิสูจน์ความเร้าใจ กับ Urus Performante มาตรฐานใหม่แห่งสุดยอดงานดีไซน์อันเปี่ยมพลัง ที่ผสานระบบวิศวกรรมยานยนต์ระดับซูเปอร์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว

  • สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์แนวอากาศยานในทุกมุมมอง โดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า ด้วยงานออกแบบฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่โดยใช้รูปทรงที่เฉียบคม ที่นอกจากสื่อถึงดีเอ็นเอสายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตของ Performante ได้อย่างเด่นชัดแล้ว ยังแฝงกลิ่นอายแห่งความหรูหรา
    ภูมิฐานของรถยนต์ Urus ไว้อย่างกลมกลืน ขณะที่การออกแบบฟินสปอยเลอร์หลังซึ่งช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถได้แรงบันดาลใจจากAventador SVJ 
  • เหนือระดับด้วยดีไซน์อากาศพลศาสตร์แบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นช่องดักอากาศด้านหน้าที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์พร้อมเพิ่มความดุดันแนวซูเปอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์, ม่านดักลมที่ทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น ไปจนถึงการออกแบบอย่างเหนือชั้นตรงช่องระบายลมบนฝากระโปรง 
  • มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V8 มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจด้วยกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 660 แรงม้า และด้วยน้ำหนักที่เบาลงถึง 47 กก. จึงทำให้ Urus Performante มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีที่สุดในคลาส สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที มีแรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 2,300 – 2,400 รอบต่อนาที ซึ่งความสามารถที่เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกันยังรวมถึงความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม.
  • ยาง Pirelli P Zero ที่ใช้เป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อ Urus Performante รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตยาง Pirelli แบบกึ่งสลิคเพื่อให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของรถเอสยูวีซึ่งเกิดจากการร่วมมือพัฒนากับลัมโบร์กินี ผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ได้ยางที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ดีขึ้น แต่ยังคงมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมทั้งบนพื้นผิวแห้งที่มีอุณหภูมิสูง และบนพื้นผิวเปียกที่มีอุณหภูมิต่ำ
  • นอกจากโหมดการขับขี่มาตรฐานต่าง ๆ Urus Performante ยังมาพร้อมโหมดใหม่อย่าง RALLY เพื่อยกระดับการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกสนานในแบบฉบับเอสยูวี และนำเสนออีกระดับของความตื่นเต้นเร้าใจในการวิ่งบนทางดิน

ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111

rhunrun เรียบเรียง

Mercedes-Benz Experience Center

BENZ BKK GROUP อวดโฉม Mercedes-Benz Experience Center เวิลด์คลาสออโต้โมทีฟเดสติเนชั่น ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย แลนด์มาร์คเชื่อมโยงโลกแห่งยานยนต์และประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ เบนซ์ บี เคเค กรุ๊ป จัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง เผยโฉม Mercedes-Benz Experience Center อย่างเป็นทางการ สู่การเป็นเวิลด์คลาสออโต้โมทีฟเดสติเนชั่น ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย

พร้อมทั้งเป็นแลนด์มาร์คเชื่อมโยงโลกแห่งยานยนต์และประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ด้วยแฟซิลิตี้ หลากหลาย สุดพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ชูความลักซูรี ในงานเปิดตัวพบกับการปรากฏโฉม Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium, Mercedes-EQS 450+ AMG Premium และ Mercedes-AMG GT C นำโดย ประณัย พรประภา เซเลบริตี้หนุ่มไฟแรง พร้อมโชว์สุดพิเศษจาก “แต้ว” ณฐพร เตมีรักษ์ และ เจ-เจตริน วรรธนะสิน ที่ BENZ BKK GROUP – BANGNA

ตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ บี เคเค กรุ๊ป จำกัด (BENZ BKK GROUP) ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนานกว่า 30 ปี เผยว่างานแกรนด์โอเพ่นนิ่งครั้งนี้จะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mercedes-Benz Experience Center ที่จะเป็นเวิลด์คลาสออโต้โมทีฟ แห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ไม่เพียงตอบโจทย์การเป็นศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการเทคโนโลยียานยนต์ครบวงจรที่ทันสมัยที่สุดแล้ว

ที่สำคัญ Mercedes-Benz Experience Center แห่งนี้จะเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ที่จะมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ด้วยการเนรมิตพื้นที่พักผ่อนสุดหรูหราไม่ต่างจากคลับเฮ้าส์ กว่า 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่

“ทุกวันนี้โลกแห่งยานยนต์คนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการแค่นวัตกรรมรถยนต์ แต่ต้องการเสพประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิต เบนซ์ บี เคเค กรุ๊ป เข้าใจถึงเทรนด์นี้ จึงสร้างสรรค์ Mercedes-Benz Experience ให้มีแฟซิลิตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟและบริการที่มารองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ได้ทุกกลุ่ม ทุกเจเนอเรชั่น โดยตั้งเป้าให้ที่นี่เป็น ไอคอนนิคบิลดิ้ง เข้าสู่บางนา New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก”

สุดยอดความยิ่งใหญ่ของ BKK Group, Mercedes-Benz Experience Center แห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ย่านบางนา-ตราด บนถนนเทพรัตน์ (บางนา-ตราด) กม.ที่ 4.2 อลังการด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 50,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่โชว์ยานยนต์กว่า 6,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการให้บริการหลังการขายได้มากกว่า 1,500 คัน/เดือน โดดเด่นด้วยโชว์รูม 3 มิติ โถงสูงกว่า 15 เมตร เชื่อมต่อกัน 3 ชั้น ด้วยบันไดเลื่อน

สูงตระหง่านด้วยสัญลักษณ์ดาวสามแฉกบนยอดอาคาร สะกดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่ง Mercedes-Benz ผ่าน Car Display Box เด่นชัดทุกมุมมอง ทั้งจากทางด่วนบูรพาวิถีและถนนเทพรัตน์ ครบครันทุกฟังก์ชัน พิถีพิถันการดีไซน์ทุกมิติ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเช่นเดียวกับยุโรป โดยเป็นผลงานการดีไซน์จาก Gensler (เจนส์เลอร์) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกจากซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 100 ประเทศทั่วโลก

“ดีไซน์แบบ Car Display Box เราตั้งใจให้เป็นเสมือนออโต้มอลล์เช่นเดียวกับวงการยานยนต์ระดับโลกในต่างประเทศ ที่ลูกค้าสามารถสัมผัส-จับต้องประสบการณ์จริงของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ครบทุกรุ่นมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถให้บริการ ดูแล-ซ่อมบำรุงยานยนต์แบรนด์อื่นๆ นอกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ด้วย ซึ่งเป็นการย้ำว่าเราสามารถตอบสนอง
บริการด้านยานยนต์ได้ครบวงจรที่สุด ด้วยศูนย์บริการที่เน้นความรวดเร็ว ปลอดภัย มาพร้อมเซอร์วิสด้านไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส”

BKK Group, Mercedes-Benz Experience Center พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้สัมผัสประสบการณ์ขั้นสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “World-class Automotive Destination” ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่โชว์รูม ตั้งแต่ชั้น 1 ตระการตากับ Mercedes-Benz รุ่นใหม่ทุกประเภท, BKK Café, Service Lobby และ Accessories Shop
ชั้น 2 พบกับโชว์รูม Mercedes-AMG จัดแสดงรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ แบบสปอร์ต ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ ที่มอบพละกำลังแรงม้าที่เร้าใจในชั่วพริบตา และ Exclusive Mercedes-Maybach Lounge เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการในการจัดจำหน่าย และดูแลบริการหลังการขาย Mercedes-Maybach ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการได้รับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ลูกค้าได้สัมผัสความหรูหรา สะดวกสบายระดับเวิลด์คลาส ในการเลือกชม และสัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมบริการหลังการขายที่มีการจัดเตรียมพื้นที่พิเศษเฉพาะ มีการจัดสรรบุคลากรเฉพาะทั้งด้านการขาย และบริการหลังการขาย นอกจากนั้นที่ชั้นนี้ยังมีความโดดเด่นเหนือระดับด้วยห้องส่งมอบรถที่ไม่เหมือนใครให้ลูกค้าและครอบครัวสามารถเฉลิมฉลองการรับรถแบบไพรเวท ตื่นตาตื่นใจไปกับการรับมอบรถระดับ VIP จัดเต็มเทคโนโลยีแสงสีเสียง และ Turntable Car ที่ให้ชมทุกมุมของยานยนต์แบบ 360 องศา ในบรรยากาศเอ็กซ์คลูซีฟเลาจน์ Cigar Bar สุดหรู นั่งดื่มไวน์เคล้าเสียงดนตรี

ชั้น 3 โชว์รูมโอ่โถงของ Mercedes-Benz Certified ที่จัดแสดงรถยนต์ Pre-owned ให้เลือกมากกว่า 100 คัน พร้อมพื้นที่ Co-working Space ดีไซน์สุดฮิป, DIY Cafe และ Business Center ที่มีห้องประชุมให้ใช้ถึง 4 ห้อง 4 สไตล์ รองรับไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่หยุดนิ่งของคนยุคใหม่ ให้ได้นั่งทำงานหรือคุยธุรกิจได้ตลอดวัน

สัมผัสการพักผ่อนสุดพิเศษ ยกระดับการใช้บริการเมื่อเข้ามาศูนย์บริการบนชั้น 8 ด้วย Sky Lounge ที่มีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มจากเชฟมืออาชีพ, Massage Studio ห้องนวดผ่อนคลายระดับโรงแรม, ฟิตเนส พร้อมห้องอาบน้ำแยกชายหญิง ไปจนถึงเปิดรับวิวสุดสายตาบนสวนลอยฟ้าแบบ Semi -Outdoor รวมไปถึงพื้นที่อเนกประสงค์ให้เป็นตัวเลือกผ่อนคลายหรือทำงานได้อย่างใจ

“ในอนาคตเรามีแผนจับมือ (Collaborate) ต่อยอดความเป็นแลนด์มาร์คไลฟ์สไตล์ให้ชัดเจนขึ้น โดยอาจจัดเป็นพื้นที่จัดแสดงงานอาร์ตแกลเลอรี หรืออาคารมิกซ์ยูสจัดกิจกรรมลักซ์ชัวรี่ไลฟ์อื่นๆ ที่จะมาตอบโจทย์เทรนด์ชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้คือมิติใหม่แห่งความสมบูรณ์แบบ ทันสมัยและยิ่งใหญ่ที่สุดของโชว์รูมและศูนย์บริการ Mercedes-Benz ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนในเมืองไทย”

สำหรับภายในงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งเปิดโชว์รูมสุดอลังการ “BENZ BKK GROUP GRAND OPENING : WORLD-CLASS AUTOMOTIVE DESTINATION” นำโดย เหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ ท่านประธานใหญ่ ที่จะพาไปพบกับที่สุดแห่งยานยนต์สุดพรีเมี่ยมที่ทุกคนเฝ้ารอคอย กับการปรากฏโฉมของ Mercedes-Maybach GLS600 4MATIC Premium ยนตรกรรมตระกูล SUV ที่ได้สืบทอดประวัติศาสตร์ของ Mercedes-Maybach มาทุกประการ นำโดย อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล และตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ ผู้บริหารใหญ่แห่ง Benz BKK Group

ตลอดจนการเผยโฉม Mercedes-EQS รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ที่ได้ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ประณัย พรประภา มาเป็นตัวแทนของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต และร่วมค้นพบมิติใหม่ของ “Comfort zone” กับ The new C-Class พร้อมโชว์สุดพิเศษ จาก “แต้ว” ณฐพร เตมีรักษ์” และ Mercedes-AMG GT C Roadster ที่มาพร้อมแรปเปอร์ชื่อดัง “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” คับคั่งด้วยเหล่าเซเลบริตี้ตบเท้าร่วมงาน อาทิ พล.ต.ต สันต์ – ยุวเรศ ศรุตานนท์, ปิยะเลิศ – สุนทรี ใบหยก, นภัสดล หวั่งหลี, คุณาคม-นันทวิมล พลพานิช, สยาม-คริสตินา เศรษฐบุตร

ทั้งนี้ BKK Group, Mercedes-Benz Experience Center โดดเด่นด้วยการนำเสนอรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ครบทุกซับแบรนด์ Mercedes-Benz Passenger Cars & Van, Mercedes-AMG, Mercedes-Maybach, Mercedes-EQ, และ Mercedes-Benz Certified ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและการบริการที่ทันสมัยที่สุด ถือเป็นศูนย์บริการศูนย์ช่อมสีตัวถังครบวงจรใหญ่ที่สุดในเอเชีย กับการบริการศูนย์ซ่อมสีรถยนต์มาตรฐาน (Body & Paint) ที่รองรับรถยนต์ได้กว่า 400 คันต่อเดือน พร้อมเซอร์วิสต่างๆ ที่รองรับได้มากถึง 1,500 คันต่อเดือน

กลุ่ม เบนซ์ บีเคเค มีความภาคภูมิใจ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร กับ 3 โชว์รูม 3 มุมเมือง ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็น Benz BKK Group (บางนา) ที่ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันออก Benz BKK Vipawadee ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันตก และ BKK Autohaus Kanchanapisek ครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอนัดหมายได้ที่เบอร์ 1449
www.benzbkkgroup.co.th

Mercedes-Benz: The Reinvention of Tomorrow ค่านิยมใหม่ของคำว่าพรีเซนเตอร์รถยนต์ ที่เป็นการแทนที่ภาพจำเดิมๆด้วยการให้ความสำคัญและคุณค่ากับความหลากหลาย

เทคโนโลยี ค่านิยม และความคิดของผู้คน คือสิ่งที่ถูกเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นตลอดเวลา “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ผู้นำของโลกยนตรกรรมสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย(diversity) และความเท่าเทียมอย่างต่อเนื่องเสมอมา จึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยเริ่มจากการเปลี่ยน “ค่านิยม” ที่อยู่คู่กับงานจัดแสดงรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

นั่นก็คือวัฒนธรรมการใช้ “พรีเซนเตอร์” ที่ทุกคนรู้จักในนาม “พริตตี้” ที่ช่วยโปรโมทรถยนต์ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย จนอาจส่งผลต่อมุมมองของคนไทยที่มีต่อ “พริตตี้” และหลาย ๆ ครั้งก็ส่งผลกระทบกับคุณค่าของผู้หญิงและอาจนำไปสู่การกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อพวกเธอ

เพราะคุณค่าของแต่ละบุคคล อยู่ที่หลากหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่แค่เพศสภาพ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยการสร้างนิยามใหม่ เพื่อให้พรีเซนเตอร์คนนี้ถูกให้เกียรติ และสร้างจุดยืนใหม่ ๆ ในวงการ ด้วยการนำเสนอ

พรีเซนเตอร์…ที่ไม่จำกัดเพศ สีผิว หรือรูปร่าง                                                                        

พรีเซนเตอร์…ที่ไม่จำเป็นต้องแต่งตัววาบหวิว

พรีเซนเตอร์…ที่ได้รับการอบรมเรื่องรถยนต์ และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ให้ข้อมูลอย่างแม่นยำ

เราเรียกพวกเขาว่า “Digital Guide” (ดิจิทัล ไกด์) กลุ่มคนที่จะมาทำหน้าที่ในการให้ความรู้เรื่องรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น ในงานจัดแสดงรถยนต์ทุกงานในประเทศไทย โดยเป็นการแสดงจุดยืน ผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาหนึ่งเรื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Reinvention of Tomorrow ว่านี่เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่เราเปลี่ยน เพื่อสร้างค่านิยมใหม่และแนวคิดใหม่ของงานแสดงรถยนต์

..และยังมีสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมายจากเมอร์เซเดส-เบนซ์รอคุณอยู่

rhunrun เรียบเรียง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 3 KOLs

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 3 KOLs เป็นตัวแทน 3 แนวคิดที่เผยจุดยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ทั้งในเรื่องการออกแบบประสบการณ์ สมรรถนะและความหลงใหล และความยั่งยืน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำจุดยืนในการนำเสนอการออกแบบประสบการณ์ สมรรถนะของรถยนต์ที่อัดแน่นไปด้วยความหลงใหล พร้อมความยั่งยืน ผ่านวิดีโอที่เล่าเรื่องของ 3 ผู้นำทางความคิด (Key Opinion Leaders: KOLs) ผู้เป็นตัวแทนของ 3 จุดยืนดังกล่าว ได้แก่ พล หุยประเสริฐ นักออกแบบประสบการณ์ผู้ผสมผสานดีไซน์และนวัตกรรม พลอย ปิ่นแสง นักกีฬาโปโลทีมชาติผู้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และต้น บดินทร์ พลางกูร สถาปนิกและนักออกแบบภายในที่ใช้ธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จุดยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเรื่องของการนำเสนอนวัตกรรมการออกแบบที่มีความโดดเด่น สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ควบคู่ไปกับความยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจนในใจผู้บริโภคอยู่แล้ว และการเลือกบุคคลที่มีความโดดเด่นทั้ง 3 ท่านนี้มาเป็นตัวแทนของจุดยืนของเราก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในทุก ๆ ด้าน ทั้งการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมภายใต้ประสบการณ์การออกแบบที่น่าจดจำและน่าตื่นเต้น สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับผู้คน การตอบสนองความต้องการของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยโซลูชันที่ผลักดันให้ทุกคนไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างราบรื่น และการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านจุดยืนด้านการมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมที่มีความยั่งยืน ทั้งหมดนี้คือการตอกย้ำความตั้งใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะให้ความสำคัญกับ 3 จุดยืนนี้ทั้งในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ KOL ทั้ง 3 ท่านและหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยประกายและเติมเต็มแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า พร้อมทั้งช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเป็นแบรนด์ลักชัวรีอันดับ 1 ที่ตอบสนองความต้องการของทุกท่านได้”

พล หุยประเสริฐ นักออกแบบประสบการณ์ผู้ทำงานออกแบบหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะคอนเสิร์ตที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้ชม บอกว่า “งานของผมคืองานออกแบบประสบการณ์ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสให้คนได้รู้สึก มีส่วนร่วม และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้มาสัมผัสบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นความสุข เศร้า ตื่นเต้น และความสนุก เมื่อผมได้ฟังเรื่องราวของรถยนต์รุ่น The new C-Class ที่ออกแบบมาจากแนวคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอ ดึงดูดความสนใจ และเข้าถึงความรู้สึกและความต้องการ ไม่ว่าปลายทางจะเป็นการออกแบบคอนเสิร์ตหรือดีไซน์รถยนต์ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญคือการสร้างประสบการณ์ทีดีให้กับผู้ใช้ ผมดีใจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดโอกาสให้ผมเป็นตัวแทนการนำเสนอแนวคิดจากการทำความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของมนุษย์ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังร่วมทำโปรเจกต์ออกแบบประสบการณ์พิเศษใหม่ร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ อยากให้ติดตามกันครับ”

พลอย ปิ่นแสง นักกีฬาโปโลทีมชาติผู้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง กล่าวว่า “พลอยบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าเราเชื่อและเรามี passion กับสิ่งไหนแล้ว เราจะทำสิ่ง ๆ นั้นได้ดี ดังนั้นพลอยจะตั้งใจมาก ๆ ทุ่มเทและเต็มที่กับสิ่งที่ทำ ทำให้สุด ใส่ให้เต็มร้อย เรียกว่า Go Hard or Go Home เราจะทำได้ดี ทำได้มาก หรือไปได้แค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทั้หงมด นี่คือพลังผลักดันและขับเคลื่อนตัวเราให้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าถึงจุดมุ่งหมาย สำหรับพลอย รถยนต์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe Special EDITION ที่พลอยได้เห็นครั้งแรก แค่ดีไซน์ก็คงไม่ต้องบรรยายแล้ว พอได้ฟังและได้สัมผัสถึงพลังของเครื่องยนต์ แค่เสียงและฟีเจอร์แบบเข้ม ๆ นี้ passion ของพลอยก็มาเต็มเลยค่ะ อยากจะลองขับและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อไปยังจุดหมายด้วยกัน รถยนต์คันนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่พลอยได้ขี่ม้า ได้สัมผัสถีงพลังของรถ เหมือนต้องการคนขับที่พร้อมจะใส่พลังแล้วออกไปสุดด้วยกัน อยากให้ทุกคนมาลองประสบการณ์กับรถยนต์คันนี้ ได้ลองขับ แล้วก็จะเข้าใจความหมายเกี่ยวกับ Performance ที่พลอยพูดถึงค่ะ”

ต้น บดินทร์ พลางกูร สถาปนิกและนักออกแบบภายในหนุ่มผู้ใช้ธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาผสมผสานเพื่อสร้างผลงานที่มีความยั่งยืน เล่าว่า “ส่วนตัวผมเชื่อในพลังของธรรมชาติที่เป็นทั้งแหล่งสร้างแรงบันดาลใจและเป็นพื้นที่ที่ช่วยฟื้นพลังให้กับตัวเอง แนวคิดในการทำงานออกแบบของผมส่วนใหญ่มาจากการนำสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งต่าง ๆ ตามธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานดีไซน์ ส่วนเรื่องเทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน ซึ่งในการออกแบบ เทคโนโลยีก็ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้เกิดประสิทธิภาพ ผมคิดว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจความสำคัญของธรรมชาติ พร้อมไปกับการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีเพื่อให้ธรรมชาติสามารถอยู่กับเราได้อย่างยืนยาวต่อไปในอนาคต เหมือนกับวิวัฒนาการของรถยนต์ ที่ปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและมีเทคโนโลยีไฟฟ้าให้เลือกใช้ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนเรื่องความยั่งยืนมาตลอด ไม่ว่าจะผ่านงานดีไซน์ แนวคิด หรือการใช้ชีวิตประจำวัน รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลั๊กอินไฮบริด สำหรับผม คือส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความยั่งยืน ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเราและสิ่งที่เราเลือก นี่คือจุดเริ่มต้นของวันพรุ่งนี้ และผมคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับหลาย ๆ คนเลยครับ ผมกำลังมีโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับความยั่งยืนที่ผมจะทำร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วย ฝากติดตามด้วยครับ”

การทำงานร่วมกับ KOL ทั้งสามท่านคือเครื่องยืนยันว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่มีวันหยุดนิ่งที่จะจินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งกว่าด้วยการสร้างสรรค์รถยนต์และนำเสนอนวัตกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เป็นที่ปรารถนาและทำให้ลูกค้ามีความภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้เป็นเจ้าของออกมาอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-อีคิว จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยแบรนด์เมอร์เซเดส มีนำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2563 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2.1 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 375,000 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเดมเลอร์ ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม