เอเชียผงาดอีกครั้ง!!! เกาหลีส่ง Project Silence เข้าฉาย Midnight Screening ในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2023

ปังไม่หยุดสำหรับประเทศเกาหลี ล่าสุดส่งภาพยนตร์แอ็คชั่น-ภัยพิบัติโปรเจ็กต์ยักษ์ Project Silence ไปเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2023 โดยภาพยนตร์นี้ได้รับคัดเลือกเข้าฉายในโปรแกรม Midnight Screening นอกสายประกวด ตามรอยภาพยนตร์รุ่นพี่อย่าง Train to Busan และ Hunt 

ภาพยนตร์เรื่อง Project Silence จะจัดฉายที่โรงภาพยนตร์ Lumière Grand Theater ในคืนวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2023 เวลา 00.30 น. 

About Project Silence

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของคิมแทกอน (Familyhood / Sunshine Boys) นำแสดงโดยอีซอนคยุน (Parasite) และจูจีฮุน (Along with The God 1 และ 2) เล่าเรื่องราวการเอาตัวรอดของมนุษยชาติเมื่อหมอกหนาปกคลุมไปทั่วเมือง และทุกคนต้องฝ่าฟันภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มนุษย์โลกเคยเผชิญไปด้วยกัน

สำหรับแฟนๆ ชาวไทย มงคลเมเจอร์คอนเฟิร์มแล้วว่า Project Silence เข้าฉายในไทยอย่างแน่นอน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้

เตรียมตัวให้พร้อม! ซีรี่ส์ยอดฮิตอย่าง Island จะมาสานต่อความเข้มข้นใน Part 2 ให้เราได้ชมกันแล้ว

Prime Video ได้ประกาศให้เราได้ทราบกันแล้วครับ สำหรับพาร์ทต่อของซีรี่ส์สุดเข้มข้นอย่าง ‘Island’ (เกาะปีศาจ) ซีรี่ส์เกาหลีแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง คิมนัมกิล, อีดาฮี, ชาอึนอู และ ซองจุน กำกับโดย พัคแบจง โดยซีรี่ส์ภาคต่อเรื่องนี้ จะฉายให้แฟนๆ ได้ชมกันใน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2023 ซีรี่ส์สุดเข้มข้นนี้ ได้ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้รับชมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยตอนสุดท้ายของภาค 1 ออกอากาศให้เราได้รับชมไปในวัน ศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา หรือหากใครอยากทราบเบื้องลึก เบื้องหลัง รวมไปถึงความรู้สึกของนักแสดงทั้ง 4 ที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้ สามารถตามอ่านบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คูลซีฟ ที่เราได้บินลัดฟ้าถึงประเทศเกาหลี เพื่อพูดคุยกับทั้งนักแสดงนำทั้ง 4 คนได้ที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ! https://hommesthailand.com/2022/12/the-modern-demon-slayer/

หลังจากที่ตอนสุดท้ายของภาค 1 ได้สิ้นสุดลง ทาง Prime Video ก็ได้ออกมาประกาศถึงวันฉายภาคต่อของซีรี่ส์เรื่องนี้ นั้นก็คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นี้แล้วครับ ซึ่งจะเป็นการฉายพร้อมกันกับประเทศเกาหลีใต้ หรือหากใครที่ยังไม่ได้รับชม สามารถรับชม ภาคแรก ทั้ง 6 ตอนได้แล้ววันนี้ทาง Prime Video และหากใครเป็นแฟนของซีรี่ส์เรื่องนี้อยู่ละก็ ต้องห้ามพลาดเลยครับ!

มาแล้ว!!! ตัวอย่าง Christmas Carol ปิดท้ายปี ผลงานสุดระทึกของพัคจินยอง แห่ง GOT7

ส่งท้ายปี 2565 กับผลงานระทึกขวัญที่แฟนๆ ทุกคนต่างรอคอยกับ “Christmas Carol” ภาพยนตร์ ระทึกขวัญโปรเจกต์ยักษ์ปิดท้ายปีที่จะมอบนิยามใหม่ให้วันคริสต์มาส โดยได้ “พัคจินยอง” ศิลปินระดับแถวหน้าของเอเชียจากวง GOT7 และนักแสดงมากความสามารถที่เคยฝากผลงานโด่งดังมาแล้วจากซีรีส์ He is Psychometric และ Yumi’s Cells 2 มาแสดงนำในบทบาทฝาแฝดที่ต้องกลับมาล้างแค้นซึ่งถือเป็นผลงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของจินยอง ล่าสุดภาพยนตร์ได้ปล่อย “ตัวอย่างซับไทย” ออกมาพร้อมคอนเฟิร์มวันเข้าฉายให้แฟนๆชาวไทยเตรียมปักหมุดรอชมได้แน่นอน 

Christmas Carol เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของเกาหลีใต้ในชื่อเรื่องเดียวกันและถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอ็กชัน-ทริลเลอร์จากผู้กำกับฝีมือฉกาจอย่าง “คิมซองซู” ที่เคยสร้างผลงานระทึกขวัญไว้จาก Running Wild  และซีรีส์ดราม่า Save Me โดยภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมสุดระทึกการล้างแค้นของฝาแฝดคนพี่ที่ต้องยอมโดนจับเข้าสถานดัดสันดานเยาวชนเพื่อสืบหาสาเหตุการตายของน้อง หลังจากพบศพชายผู้พิการทางสติปัญญาในแทงก์น้ำร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยแต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ แฝดพี่จึงต้องเดินหน้าสืบหาสาเหตุ และชำระแค้นคนที่อยู่เบื้องหลังให้สาสม 

นอกจากได้พัคจินยอง จาก Got7  มาแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วยังได้นักแสดงชื่อดังที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการล้างแค้นสุดเข้มข้นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น  คิมยองมิน (Crash Landing On You) , คิมดงฮวี (In Our Prime), ซงกอนฮี(Snowdrop) และ ฮอดงวอน (Extraordinary Attorney Woo)

ห้ามพลาด! เมอร์รี่ “แค้น” มาสกับ Christmas Carol 29 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

Decibel – ลั่นระเบิดเมือง พร้อมจัดหนักทุกโปรดักชั่นแล้ว

เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจับตามอง ด้วยความยิ่งใหญ่ตั้งแต่เปิดรายชื่อนักแสดงก็สร้างกระแสบอกต่อ ปักธงรอของแฟนหนังแอ็กชันทั่วทั้งเอเชีย และยังทุบบ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลี ทำรายได้อันดับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย กวาดเสียงวิจารณ์จากผู้ชมมาอย่างล้นหลาม เพราะนอกจากจะเป็นการเจอกันครั้งประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์เกาหลี อย่าง คิมแรวอน – อีจงซอกและ ชาอึนอู แล้ว “Decibel” หรือชื่อไทย “ลั่นระเบิดเมือง” ยังเป็นภาพยนตร์แอ็กชัน-ทริลเลอร์ที่มีความสดใหม่ ด้วยการสร้างสถานการณ์วินาศกรรมทางเสียงได้สมจริง ถ่ายทอดเรื่องราวสุดระทึก ทุ่มทุนสร้างมหาศาล สมกับเป็นสุดยอดโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ส่งท้ายปี และพิเศษที่สุดสำหรับแฟนชาวไทย วันนี้สองนักแสดงนำจากภาพยนตร์ อีจงซอก และ คิมแรวอน รวมถึง ฮวางอินโฮ ผู้กำกับภาพยนตร์ จะขอเปิดเบื้องหลังสุดบิ๊ก และการทำงานที่ทุ่มเทสุดเดซิเบล เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยแฟนชาวไทยก่อนไประเบิดอะดีนารีนพร้อมกัน

ในชีวิตประจำวัน เดซิเบลอาจหมายถึงค่าวัดเสียงที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว แต่สำหรับในภาพยนตร์เรื่องนี้หมายถึงความตายและชีวิตของผู้คนจำนวนมหาศาล เพราะนี่คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ระเบิดทำงาน ภาพยนตร์จะถ่ายทอดความกดดัน ลุ้นระทึกส่งต่อไปยังผู้ชมทุกพื้นที่ในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วินาทีแรกจนจบ เรามีฉากระเบิดเยอะมากที่สำคัญเราใช้ระเบิดจริงโดยไม่พึ่ง CG ทีมงานทุกคนพยายามสุดความสามารถที่จะใช้ระเบิดจริงไปพร้อมกับความปลอดภัยของทุกๆคน ฮวางอินโฮผู้กำกับกล่าว

อีกหนึ่งไฮไลท์พลาดไม่ได้ของภาพยนตร์ Decibel มาจากเลือกใช้โลเคชั่นขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการปิดสวนน้ำถ่ายฉากระเบิด ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีข้อจำกัดของการใช้เสียง โดยคิมแรวอนเปิดเผยว่า การถ่ายทำฉากนี้ยากที่สุดสำหรับเขา มันยากแต่น่าจดจำมากผมต้องดำน้ำลงไปเพื่อหาระเบิดท่ามกลางสระน้ำที่มีคลื่นเทียม  หรือการเหมาสนามกีฬา Busan Asiad Main Stadium เพื่อถ่ายทำเหตุการณ์วางระเบิดระหว่างการแข่งขันแมตช์ชิงแชมป์ระดับประเทศ รวมถึงการสร้างเรือดำน้ำขนาด 4000 ตัน ซึ่งมาจากการปะติดปะต่อของทีมงาน เพราะข้อมูลเรือดำน้ำของประเทศคือความลับ ทีมงานเลยต้องหาข้อมูลมหาศาลเพื่อนำมาสร้างให้สมจริงที่สุด โดยมีกัปตันตัวจริงร่วมเป็นที่ปรึกษา ฉากนี้สมจริงมากมันสมจริงมากๆผมนึกว่ากำลังอยู่ในเรือดำน้ำจริงๆครั้งแรกที่เห็นผมเดินวนอยู่ทั่วฉากกว่า 20 นาที ชาอึนอูผู้รับบทเจ้าหน้าที่โซนาร์ในเรือดำน้ำกล่าว

นอกจากความทุ่มเทของทีมงานเพื่อให้เกิดภาพที่สมจริงที่สุดในการชมภาพยนตร์แล้ว นักแสดงได้พิสูจน์ความตั้งใจ ด้วยความทุ่มเทและทำลายทุกข้อขีดจำกัดการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่ง คิมแรวอน นักแสดงนำแสดงฉากแอ็กชันด้วยตัวเองเกือบทั้งเรื่อง โดยเข้าพูดถึงตัวละครนี้ว่า ตัวละครนี้ต้องต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเพียงคนเดียวนานถึง 6 ชั่วโมงและด้วยเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังปมของตัวละครทำให้ผมอยากทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ออกมาสมจริงผมเล่นฉากแอ็กชันเองเกือบทั้งหมดฉากขับรถไล่ล่าก็ขับเองฉากดำน้ำหาระเบิดกระโดดข้ามตึกระฟ้าทั้งหมดผมเล่นเองครับ

 สำหรับอีจงซอกเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ กับบทผู้ก่อการร้าย เขาจึงทุ่มเทและต้องโชว์ลีลาการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แสดงฉากแอ็กชันในพื้นที่จำกัดอย่างลิฟท์ บทนี้ค่อนข้างมีกรอบของตัวละครชัดเจนผมพยายามลองหาวิธีที่แตกต่างด้วยการหาข้อมูลปรึกษาเพื่อนนักแสดงผู้กำกับเพื่อให้เข้าถึงจิตใจตัวละคนมากๆเพื่อเป็นการเปิดประตูด้านมืดออกมา

นอกจากนี้ฮวางอินโฮ ผู้กำกับภาพยนตร์ยังกล่าวถึงหนึ่งในนักแสดงอย่าง ชาอึนอูว่าทุกซีนที่ชาอึนอูแสดงเป็นซีนยากทั้งหมดแต่เขาทำได้อย่างไร้ที่ติด้วยระยะเวลาสั้นๆ ชาอึนอูคือดาวรุ่งที่มอบชีวิตให้กับทุกตัวละครของเขาไม่ว่าจะเป็นบทนำหรือบทสมทบ

ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของวินาศกรรมเสียงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี เมื่อเมืองทั้งเมืองกลายเป็นระเบิดเวลา กลุ่มผู้ก่อการร้ายวางแผนจ้องยึดเมือง ด้วยระเบิดสั่งการด้วยเสียงชนิดพิเศษที่ถูกซ่อนไว้ตามจุดสำคัญต่างๆ ทันทีที่ความดังสูงถึง 100 เดซิเบล ระเบิดจะทำงานทันที โดยมีชีวิตของคนทั้งเมืองเป็นเดิมพัน

นับถอยหลังสู่ปรากฏการณ์หยุดเดซิเบล ด้วยสุดยอดโปรเจ็กต์แอ็กชัน-ทริลเลอร์ลุ้นระทึกแห่งปี “Decibel – ลั่นระเบิดเมือง” 1 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

พูดคุยกับกู่เทียนเล่อ ในฐานะนักแสดงนำ และผู้อำนวยการสร้าง Warriors of Future

คุณมีความคาดหวังอย่างไรต่อเรื่อง Warriors of Future ในฐานะภาพยนตร์ Sci-Fi ของเอเชีย

เนื่องจากในเอเชียไม่ค่อยมีภาพยนตร์แนว Sci-Fi เราจึงอยากลองทำภาพยนตร์ Sci-Fi ฟอร์มยักษ์ดูสักเรื่อง เพื่อที่จะบอกให้ผู้ชมรู้ว่าพวกเราคนเอเชียก็มีความสามารถที่จะถ่ายทำภาพยนตร์แนวนี้ และผมก็หวังว่าในอนาคตจะได้ทำภาพยนตร์แนวนี้มากขึ้น และอยากให้ภาพยนตร์มีความหลากหลายขึ้นครับ

มีฉากไหนหรือโมเมนต์ไหนในการถ่ายทำที่คุณประทับใจและอยากเล่าให้ฟังบ้าง

สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือผมต้องใส่ชุดเกราะที่มีน้ำหนัก 33 ปอนด์ เราต้องใส่ชุดนั้นทั้งวิ่ง กระโดด หรือแม้แต่บินด้วยครับ และตอนที่ถ่ายทำเป็นหน้าร้อน ใส่แล้วจะร้อนมาก และอาจได้รับบาดเจ็บง่าย บางฉากต้องบิน ซึ่งทำให้หายใจยากด้วย ถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ผมประทับใจไม่ลืมเลยครับ

คุณมองว่าทำไมภาพยนตร์หรือซีรีส์ประเภท Sci-Fi ในเอเชียจึงมีค่อนข้างน้อย

ผมคิดว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ Sci-Fi ต้องใช้เวลานาน ลงทุนค่อนข้างเยอะ และบุคลากรด้านการทำเทคนิคคอมพิวเตอร์สำหรับภาพยนตร์แนวนี้ยังค่อนข้างน้อย อีกทั้งผู้สร้างภาพยนตร์ Sci-Fi ในฮ่องกงก็มีไม่มาก ดังนั้นเราเลยยังไม่ค่อยเห็นใครลองทำภาพยนตร์แนวนี้ในเอเชียครับ

คุณยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ทุกครั้งที่ภาพยนตร์ของคุณจะออกฉายไหม หรือค่อนข้างเฉยๆ แล้วเพราะว่าอยู่ในแวดวงนี้มานาน

ผมตื่นเต้นมากครับ

มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยไหม

ต้องมาดูเลยครับ ถ้าดูรอบเดียวไม่พอ ขอให้ดูสัก 10 รอบเลยครับ (หัวเราะ)

Warriors of Future สตรีมมิ่งแล้วทาง Netflix

บทสัมภาษณ์ Rian Johnson ผู้กำกับ Glass Onion: A Knives Out Mystery แบบเอ็กซ์คลูซีฟ

คุณรู้สึกกดดันไหมที่ต้องกำกับภาพยนตร์ภาคต่อ และที่สำคัญ Knives Out (2019) ก็เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากๆ ด้วย

พระเจ้าช่วย… พวกเราสนุกกับการสร้างภาคต่อนี้มากๆ เลยนะครับ และสำหรับผม สิ่งที่สนุกก็คือ ผมอยากจะแสดงให้ผู้ชมเห็นว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องที่มันต่อเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่อง Knives Out แต่มันเป็นเรื่องสืบสวนสอบสวนเรื่องใหม่เลยต่างหาก เหมือนกับนวนิยายชุดสืบสวนสอบสวนของ Agatha Christie ที่จะเป็นคดีใหม่ๆ ในทุกเล่ม แบบนั้นน่ะครับ ผมอยากจะแสดงให้คนดูเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีลักษณะแบบนั้น โดยแต่ละเรื่องก็จะมีความแตกต่างไปจากเรื่องที่แล้วอย่างชัดเจน พอผมตระหนักได้แบบนั้น การทำงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สนุกมากเลยครับ เพราะว่าผมไม่จำเป็นต้องทำเรื่องต่อเนื่องจากภาคที่แล้วเลย ผมกำลังทำภาพยนตร์เรื่องใหม่เลยต่างหากล่ะ 

เราสามารถคาดหวังอะไรจาก Glass Onion: A Knives Out Mystery ในเรื่องของคาแรกเตอร์ตัวละคร พล็อต และมุกตลกในนั้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะดูตลกกว่า Knives Out นะครับ เพราะว่าผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องแหละครับ ทั้งมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง และคุณก็มียูทูบเบอร์ที่เป็นอินฟลูฯ เน็ตไอดอลจากอินสตาแกรม แล้วก็มีนักการเมืองมาเกี่ยวข้องอีกด้วย พอเอามารวมกัน ทุกอย่างก็กลายเป็นคอมเมอดี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับผม มันเป็นเรื่องสนุกมากที่จะทำหนังตามตัวละครเหล่านี้ ผมรู้สึกว่าพวกเขาลงตัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ฉากก็ลงตัวมากเช่นกันครับ และการได้เห็นแดเนียล เครกเล่นคอมเมอดี้แบบเต็มๆ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ เลยครับ ผมคิดว่าเขาดูตลกมากกว่าภาคที่แล้วมากเลยนะ 

คุณประทับใจอะไรในตัวแดเนียลในขณะที่พวกคุณได้ร่วมงานกันบ้าง

พวกเราทำงานด้วยกันคือสนุกมากเลยครับ เหตุผลทั้งหมดที่ผมยอมกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะพวกเรามีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันนี่แหละครับ ตอนที่เราทำหนังภาคแรกด้วยกัน ระหว่างที่กำลังถ่ายๆ อยู่ เรามองหน้ากันแล้วก็พูดว่า ‘มันสนุกมากเลยนะ ถ้าเราไปต่อด้วยกันได้ ก็ไปต่อด้วยกันเถอะนะ’ แดเนียลไม่ใช่แค่เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ดีที่สุดในโลกนี้เท่านั้น แต่เขายังเป็นมูฟวี่สตาร์อีกด้วยนะ ซึ่งนั่นคือคนละบทบาทเลย และก็ไม่ค่อยมีคนทำได้ทั้งสองบทบาท แต่เขานี่มาทั้งแพคเกจเลย สำหรับผมการได้เห็นเขามีความสุขระหว่างการแสดงเป็นเรื่องที่ดีมาก ผมก็คงจะทำงานกับเขาต่อไปเรื่อยๆ แหละครับ

บอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยหน่อยสิ

สวัสดีครับ แฟนๆ หนังสืบสวนสอบสวนชาวไทย ผมหวังว่าทุกคนจะได้ดู Glass Onion: A Knives Out Mystery นะครับ มันเป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่สนุกมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ ขอบคุณครับ 

Glass Onion: A Knives Out Mystery กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เร็วๆ นี้ และพร้อมสตรีมมิ่งทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม เป็นต้นไป

Netflix เผยคาแรกเตอร์ Uncle Foster จากซีรีส์ WEDNESDAY เป็นครั้งแรกในตัวอย่างใหม่

g

เตรียมพบกับซีรีส์สุดสยองขวัญ WEDNESDAY เล่าเรื่องของครอบครัวอดัมส์ ได้อย่างเป็นทางการทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และในระหว่างนี้ มาดูตัวอย่างใหม่ ที่เปิดคาแรกเตอร์ Uncle Foster อย่างเป็นทางการ

เปิด 4 ลุคสุดเท่ของ “ฮยอนบิน” จารชนโอปป้าตัวพ่อที่สาวๆ ทั่วโลกคลั่ง

ใกล้ระเบิดความมันส์ ความรั่วส์ข้ามโลกกันแล้ว สำหรับภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ “Confidential Assignment 2 จารชนโอปป้ารั่วส์ข้ามโลก” ที่ได้นักแสดงหนุ่มสุดฮอตอย่าง “ฮยอนบิน” แสดงนำร่วมกับ ยูแฮจิน, แดเนียล เฮนนีย์, จินซอนกยู และไอดอลชื่อดัง อิมยุนอา ฮยอนบินถือเป็นซุปตาร์ที่มีสาวๆ หมายปองและยกให้เป็นอีกหนึ่งสามีแห่งชาติทุกคนต่างหลงรัก โดยเฉพาะเมื่อเขารับบทนำในซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Crash Landing on you ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่ได้รับการต้อนรับและกระแสคำชมจากผู้ชมทั่วโลกพร้อมสร้างตำนานคู่จิ้นให้กลายเป็นคู่จริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะห่างหายจากการแสดงภาพยนตร์ไปนานถึง 4 ปี แต่ฮยอนบินยังคงความเป็นนักแสดงระดับเอลิสต์ที่มีฝีมือทางการแสดงอันดับต้นของเกาหลี ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงหนุ่มที่แฟนๆต่างรอคอยและรอสนับสนุนผลงานต่างๆของเขามากที่สุด 

ก่อนที่จะได้ชมผลงานใหม่ของพระเอกที่ทุกคนหลงรัก วันนี้เราขอเปิดที่สุดของจารชนโอปป้า “ฮยอนบิน” กับ 4 ลุคโคตรเท่ที่ทำให้สาวๆคลั่งและอยากคว้ามาครอง 

ลุคสนามบิน 

ฮยอนบินถือเป็นนักแสดงเกาหลีใต้ที่มีการแต่งตัวที่ดูดีภูมิฐาน สมกาละเทศะอยู่เสมอ และแม้จะเป็นวันสบายๆที่สวมใส่เสื้อผ้าแบบน้อยชิ้น แต่เขาก็ยังคงหล่อสะดุดตาคนที่พบเห็นอยู่ตลอดเวลา 

ลุค Cover

นอกจากจะเป็นนักแสดงที่มีผลงานทั้งซีรี่ส์และภาพยนตร์ ฮยอนบินยังเป็นหนุ่มหล่อสุดฮอตที่แบรนด์ต่างๆ อยากได้มาเป็นแอมบาสเดอร์ ทำให้เขาได้รับโอกาส และได้รับเลือดให้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงได้การถ่ายแบบและแฟชั่นให้กับนิตยสารชื่อดังต่างๆ มากมาย 

ลุคกาล่า

อีกลุคที่เชิดฉายและชวนหลงรักคือ การแต่งกายเวลาออกงานต่างๆ หลังจากที่ห่างหายไปจากจอภาพยนตร์มานาน ฮยอนบิน กลับมารับงานแสดงอีกครั้งในภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ฟอร์มใหญ่ ซึ่งทุกลุคที่เขาไปร่วมงานต่างๆทั้งงานแถลงข่าวภาพยนตร์ งานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ก็ยังคงความโดดเด่นและประทับใจในทุกลุค

ลุคนักสืบ

อีกหนึ่งลุคที่ผู้หญิงทั่วโลกจะต้องคลั่งกับความเท่ แต่ฮากระจาย เมื่อฮยอนบินคัมแบ๊คกลับมารับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Confidential Assignment 2: International จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก ซึ่งเขารับบทเป็น อิมชอลรยอง นักสืบมือพระกาฬจากเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปยังเกาหลีใต้เพื่อปฎิบัติภารกิจล่าอาชญากรข้ามชาติ จารชนโอปป้าสายโหดที่สามารถคว้าทุกอย่างมาเป็นอาวุธแม้กระทั่งไม้ตียุง งานนี้มันส์ ฮากระจายแน่ เมื่อเขาต้องมาร่วมมือกับ นักสืบสายมึนจากเกาหลีใต้, เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจากสหรัฐอเมริกา และยูทูบเบอร์สาวสุดรั่วที่มาป่วนภารกิจล่าให้สนุกแบบทวีคูณ

Confidential Assignment 2 จารชนโอปป้ารั่วส์ข้ามโลกเข้าฉายตั้งแต่ 13 ตุลาคมเป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์

Timothée Chalamet นักแสดงมาดเท่เลือกสวมเสื้อแจ็คเก็ตแบบอสมมาตร กางเกงขายาวทรงสอบจากคอลเล็กชั่นล่าสุด SS2023 ของ Alexander McQueen

Timothée Chalamet สวมเสื้อแจ็คเก็ตแบบอสมมาตร กางเกงขายาวทรงสอบ พร้อมรองเท้าบูท Chelsea หนัง สีขาวล้วน ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ ‘Bones & All’ ที่งาน 66th BFI London Film Festival เมื่อวันเสาร์ที่ 8ตุลาคม จาก Alexander McQueen คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2023

LONDON, ENGLAND – OCTOBER 08: Timothée Chalamet attends the “Bones & All” premiere during the 66th BFI London Film Festival at The Royal Festival Hall on October 08, 2022 in London, England. (Photo by John Phillips/Getty Images for BFI)

rhunrun เรียบเรียง

สัมภาษณ์พิเศษ ‘ฮยอนบิน’ กับ Confidential Assignment 2 : International

อีกไม่นานแล้วที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘Confidential Assignment 2 : International – จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก’ จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากจะได้ว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ฮยอนบิน มารับบทนำหลังจากห่างหายจากจอภาพยนตร์ไปกว่า 4 ปีแล้ว ยังได้ยูแฮจิน นักแสดงตลกชั้นแนวหน้าของประเทศเกาหลี อิมยุนอา วิชวลคนสวยจาก Girl’s Generation แดเนียบ เฮนนีย์ โอปป้าระดับอินเตอร์ และจินซอนกยู นักแสดงแถวหน้ามาร่วมกันอย่างคับคั่ง

เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษจากฮยอนบินมาให้ทุกคนเสพก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคมนี้

ในเมื่อภรรยาของคุณ ซนเยจิน เคยร่วมงานกับอีซอกฮุน ผู้กำกับภาพยนตร์มาก่อน คุณได้ถามเธอก่อนไหมว่าการร่วมงานกับเขาเป็นยังไง

ฮยอนบิน:  แน่นอน ผมถามเธอก่อนเปิดกล้อง ว่าการร่วมงานกับอีซอกฮุนเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเธอเคยร่วมงานกับเขาใน The Pirates เมื่อปี 2014 เธอเองก็แปลกใจนะ ที่คนขรึมๆ อย่างอีซอกฮุนสนใจทำหนังตลกอย่างเรื่องนี้ ผมไม่ได้ถามอะไรเธอไปกว่านั้น เพราะเราเองต่างเป็นนักแสดง รู้จักงานของตัวเองดีกว่าอีกฝ่ายอยู่แล้ว เราเลยต่างพยายามหลีกเลี่ยงคำแนะนำที่มันเกินความจำเป็นจนเกินไป

ความน่าสนใจของ Confidential Assignment 2

ฮยอนบิน: Confidential Assignment 2 มีความเข้มข้นของแอ็กชันแม้จะเพิ่มระดับแต่มันไม่ได้มีประเด็นตึงเครียดขนาดนั้น ภาพรวมจะดูผ่อนคลายและสนุก ผมอยากแสดงให้เห็นว่าตัวละครอิมชอลรยองคุ้นเคยดีกับชีวิตในเกาหลีใต้แล้ว เช่นเดียวกับการต้องต่อกรกับแจ็ก 

พูดถึงการร่วมงานกับนักแสดงในเรื่องอย่างยูแฮจิน อิมยุนอา และแดเนียล เฮนนีย์ เป็นยังไงบ้าง

ฮยอนบิน: เมื่อบรรยากาศโดยรวมของเรื่องมันผ่อนคลายขึ้น การทำงานในกองถ่ายก็เช่นกัน ผมกับเขา (ยูแฮจิน) แลกเปลี่ยนไอเดียกันตลอด แบบไม่มีฝ่ายใดเกรงใจอีกฝ่ายเลย เราคุ้นเคยกันดี  รวมถึงยุนอาเธอแสดงได้ดี ยิ่งในเรื่องนี้เธอปล่อยของยิ่งกว่าเดิม เธอทุ่มเทให้กับงานมาก เธอเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่ผมเฝ้าติดตามผลงานตลอด ส่วนแดเนียล ผมเคยร่วมงานกับแดเนียล ในเรื่อง My Lovely Sam Soon เมื่อปี 2004 หลังจากนั้นเราแทบไม่ได้คุยกันเลย แต่พอกลับมาได้ทำงานกันอีกครั้งเรากลับมาสนิทกันได้เร็วมาก ทำงานไปถามไถ่ สารทุกข์สุขดิบกันไป

มีคนบอกว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ฮยอนบินรับบทเป็นคนเกาหลีเหนือ รับรองได้ว่าโปรเจกต์นั้นต้องปังแน่นอน

ฮยอนบิน: ผมคงไม่รับบทเป็นคนเกาหลีเหนืออีกแล้ว ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ผมหัดพูดสำเนียงเกาหลีเหนืออยู่สามเดือนเพื่อถ่าย Confidential Assignment 2 สำเนียงเกาหลีเหนือใน Confidential Assignment มันต่างกับใน Crash Landing on You อยู่บ้าง ตอนที่ผมถ่าย Crash Landing on You ผมต้องพยายามลืมสำเนียงแบบ Confidential Assignment ไป ตอนนี้ผมต้องทำตรงกันข้าม แต่ผมพยายามสุดความสามารถเลยนะ

แล้วคุณต้องเตรียมตัวเล่นฉากแอ็กชันยังไงบ้างภาคนี้

ฮยอนบิน: ผมทุ่มเทอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวละครชอลรยองดูมีมิติขึ้นในทุกแง่มุม เราเพิ่มระดับความมันส์ของฉากแอ็กชัน ผมต้องฝึกการใช้สลิงและฝึกยิงปืนกับทีมสตันต์ ฝึกแบบเข้มข้นเลยทีเดียว ผมยังต้องหยิบเอาของใกล้ตัวมาเป็นอาวุธเหมือนเดิม     อย่างในภาคแรกชอลรยองและจินแทใช้กระดาษชำระเปียกเป็นอาวุธ ซึ่งมันฮาใช่เล่น ในภาคนี้ชอลรยองใช้ไม้ตีแมลงวันแช่ซุปเผ็ดเป็นอาวุธในการจัดการวายร้าย นี่ยังไม่นับฉากเปิดเรื่องที่เป็นการดวลปืนกลางนิวยอร์ก ต้องขอบคุณทีมงานที่จำลองย่านถโซโห มันใช้เวลาสร้างกว่าหกเดือน พวกเขาสร้างฉากที่มีถนน 4 เลน ความยาว 100 เมตร รับรองว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้เลย

ติดตามชม ‘Confidential Assignment 2 : International – จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก’ 13 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น