IT’S MOTHER ISSUE : ตามดูหนังแม่แม่…แบบทางเลือก

Mother-3-20150812-224143288

ถ้าให้พูดถึงเดือนสิงหาคม นอกจากสภาพฟ้าฝนคะนองอันหนาวเหน็บเปียกปอน สิ่งแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงในทุกๆ เดือนแปดของแต่ละปีคือบรรยากาศอบอุ่นสวนทางดินฟ้าอากาศของ “วันแม่แห่งชาติ” สำหรับคอภาพยนตร์เดนตายอย่างเรา เพื่อให้เข้ากับกลิ่นอายบรรยากาศของ “วันแม่แห่งชาติ” ภาพยนตร์ที่เราควรเลือกชมในช่วงนี้ก็น่าจะเกี่ยวกับกับเรื่อง “แม่” อยู่บ้าง แต่ถ้าจะให้เราพูดแนะนำภาพยนตร์เชิดชู “พระคุณแม่” กันแบบโต้งๆ ในแบบที่นั่งดูกับบุพการีแล้วมีน้ำตาซึม  ก็ฟังดูน่าเบื่อเกินไปสำหรับคนแนวๆ อย่างเรา ด้วยเหตุนี้เราเลยนึกถึงภาพยนตร์ที่น่าสนใจและมาพร้อมกับชื่อเรื่องที่แปลว่า “แม่” จากสองฝั่งฟากโลกมาฝากให้เลือกชมกันแบบสองเรื่องควบ ส่วนจะเหมาะเอาไว้นั่งดูกับแม่ที่บ้านหรือเปล่า…ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านจะพิจารณาเอาก็แล้วกัน

Mother-4-20150812-224155562

สำหรับภาพยนตร์ “วันแม่” เรื่องแรกที่เราอยากยกมานำเสนอนั้น มาจากประเทศเกาหลีใต้และเป็นผลงานภาพยนตร์โดยผู้กำกับตัวท็อปของวงการภาพยนตร์เกาหลีอย่างบองจุนโฮ หลังจากที่ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดฟอร์มยักษ์อย่าง “The Host” (2006) ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งในแง่ของรายได้และคำวิจารณ์ด้วยประเด็นวิพากษ์สังคมเกาหลีใต้ยุคหลังอาณานิคมผ่านมุมมองแบบตลกร้ายได้อย่างเผ็ดร้อน ต่อมาในปี 2009 บองจุนโฮก็ปล่อยผลงานเรื่อง “Mother” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวลำดับที่สี่สู่สายตาผู้ชม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคัดเลือกให้ร่วมฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 62 (ปี 2009) ในสายประกวด Un Certain Regard ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีรางวัลติดมือมาจากเทศกาล แต่สองนักแสดงนำในบทแม่ลูกอย่างคิมเฮจาและวอนบินก็ ก็ได้รับคำชมอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของแม่ม่ายนิรนามฐานะยากจน ผู้หาเลี้ยงชีพตัวเองและลูกชายสติไม่สมประกอบด้วยการเก็บสมุนไพรมาขายและรับจ้างฝังเข็มรักษาโรค อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุฆาตกรรมนักเรียนสาวในเมืองที่ทั้งสองอาศัยอยู่ ลูกชายของเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัย ด้วยความรักของความเป็นแม่ ทำให้ตัวเธอเองต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับลูกชาย เรื่องราวฟังดูเหมือนจะเป็นภาพยนตร์ดราม่าซาบซึ้งซึ่งเชิดชูความสัมพันธ์อันสวยงามระหว่างแม่ผู้จริงจังกับลูกชายอันเป็นที่รัก แต่กับ “Mother” บองจุนโฮเลือกนำเสนอประเด็นนั้นผ่านการดำเนินเรื่องราวตามแบบฉบับภาพยนตร์สืบสวน “ใครเป็นคนทำ” (Whodunit) เช่นเดียวกับภาพยนตร์สืบสวนรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับเองอย่าง “Memories of Murder” (2003) ที่มีเส้นเรื่องของการสืบหาความจริงอันสุดแสนจะดำมืด นอกจากนั้นบองจุนโฮก็ยังบ่งบอกความเป็นตัวของเขาเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยการใส่ความเป็นตลกร้ายให้เราได้เห็นอยู่ตลอด เพราะนอกจากจะใช้เสียดสีเหน็บแนมประเด็นร่วมสมัยต่างๆ ได้อย่างแยบคายแล้ว องค์ประกอบ “ชวนเหวอ” เหล่านี้ยังทำหน้าที่สร้างระยะให้ผู้ชมได้ถอยตัวเองออกไปจากเรื่องราวภาพยนตร์เป็นระยะๆ เพื่อตรึกตรองกับตัวเองถึงคำถามในเรื่องความเหมาะสมและขีดจำกัดของ “ความเป็นแม่” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหมัดฮุคกระแทกใจที่ทางผู้กำกับตั้งใจโยนทิ้งไว้ให้ผู้ชมได้ครุ่นคิดกันต่อไปหลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ภาพยนตร์ชื่อ “แม่” อีกเรื่องที่เราอยากพูดถึงคือ “Mommy” ผลงานของซาวิเยร์ โดลองที่ออกฉายในปี 2014 ด้วยวัยเพียงแค่ 26 ปี แฟ้มสะสมผลงานของผู้กำกับหนุ่มที่ผันตัวจากการเป็นนักแสดงผู้นี้ค่อนข้างสวยหรูเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ที่ผลงานของเขาได้รับคัดเลือกให้ร่วมฉายมาแล้วในทุกระดับ พ่วงด้วยตำแหน่งคณะกรรมการตัดสินของสายประกวดหลักเทศกาลเมื่อต้นปี 2015 นี้ไปหมาดๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ซาวิเยร์ โดลองกลายเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองแห่งยุคที่โดดเด่นในด้านการหยิบยกประเด็น “ความสัมพันธ์ในครอบครัว” มานำเสนอและสไตล์การเล่าเรื่องอันแสนฉูดฉาดแต่หนักแน่น ชวนให้นึกถึงผลงาน “กลิ่นอายแบบยุโรป” ของผู้กำกับรุ่นลายครามอย่างมิคาเอล ฮาเนอเกอ อย่างที่ทราบกันดีว่า “Mommy” เป็นภาพยนตร์เจ้าของรางวัล Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 64 ร่วมกับภาพยนตร์ “Goodbye to Language” ของผู้กำกับชั้นครูฌอง ลุค โกดาร์ด นอกจากนั้นยังเป็นตัวแทนภาพยนตร์จากประเทศแคนาดาเพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศครั้งล่าสุดด้วยแต่หลุดโผโค้งสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย

“Mommy” ทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง “I Killed My Mother” ซึ่งได้รับคัดเลือกให้ร่วมฉายในสาย Directors’ Fortnight ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2009 หลังจากที่หันไปเล่นกับประเด็นเพศทางเลือกในภาพยนตร์ช่วงหลังๆ นับได้ว่า “Mommy” คือการหวนคืนมากำกับภาพยนตร์ที่มีประเด็นหลักเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง ”แม่กับลูก” อีกครั้งหนึ่งของซาวิเยร์ โดลอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของดีอาน (ที่ใครๆ เรียกว่า “ดี” ในเรื่อง) แม่ม่ายที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูสตีฟ ลูกชายวัยรุ่นของเธอผู้มีอาการสมาธิสั้นขั้นรุนแรง ซึ่งไม่ว่าอาการของสตีฟจะรุนแรงหนักหนาสักแค่ไหน คนเป็นแม่ก็พร้อมที่จะยอมรับและห่วงใยดูแลเขาอยู่เสมอ ด้วยเรื่องราวสุดแสนจะลึกซึ้งตรึงใจแบบเรียบง่ายตรงไปตรงมา (และที่สำคัญคือไม่พยายามขยี้อารมณ์ผู้ชมจนเกินไป) ขับเคลื่อนด้วยการแสดงอันทรงพลังของนักแสดงนำ พ่วงด้วยสไตล์แอบเก๋กับการเลือกใช้ภาพอัตราส่วน 1:1 ซึ่งเป็นการแหวกขนบการถ่ายภาพยนตร์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นอัตราส่วนภาพ 1.85:1 (หรือ 2.35:1) ทำให้ภาพออกมาเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัสแทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบที่เราคุ้นกัน โดยผู้กำกับเองอธิบายว่ามุมมองแบบนี้ทำให้ไม่มีอะไรมารบกวนสมาธิให้ผู้ชมวอกแวกไปกับสิ่งที่อาจปรากฎทางซ้ายหรือทางขวาของจอภาพยนตร์และทำให้สามารถมองเห็นและสัมผัสตัวละครได้ตรงตามจริงที่สุด ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ยิ่งทำให้ผลงานชิ้นล่าสุดของซาวิเยร์ โดลองเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ประเด็นความสัมพันธ์แม่ลูกธรรมดาที่ “ล้ำ” และ “ลึก” เกินธรรมดาและน่าจะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ “วันแม่” ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจประจำปีนี้

 

 

MTV Fandom Awards

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของงาน ‘San Diego Comic-Con’ (ซานดิเอโก้ คอมมิค คอน) เลยก็ว่าได้ สำหรับงานประกาศผลรางวัล ‘MTV Fandom Awards’ (เอ็มทีวี แฟนด้อม อวอร์ด) ประจำปี 2015 ซึ่งก็ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งหมดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วwilla-shields-1436527570โดยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วทั่วโลกอย่าง ‘The Hunger Games : Mockingjay’ (เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ : ม็อกกิ้งเจย์) ก็ยังคงกระแสความฮิต และการันตีความยอดเยี่ยมกันชนิดข้ามปี เพราะภาพยนตร์สามารถคว้ารางวัลใหญ่ที่สุดของงานนั่นก็คือ ‘Fandom of the Year’ (แฟนด้อม ออฟ เดอะ เยียร์) หรือรางวัล ‘ภาพยนตร์ขวัญใจแฟนๆ’ มาครอบครองไว้ได้ … โดยมีนักแสดงสาวสุดสวย วิลโลว์ ชิลด์ ผู้รับบทเป็น ‘พริมโรส เอเวอร์ดีน’ภายในภาพยนตร์ เป็นผู้ไปรับมอบรางวัลภายในงาน

MJ2_KatnissThrone_1Sheet_resize

สำหรับแฟนๆ เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ทางค่าย มงคลเมเจอร์ ก็ไม่พลาดที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2015 สู่ปีสุดท้ายแห่งเกม ใน ‘THE HUNGER GAMES: MOCKINGJAY PART 2’ (เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์: ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท 2) : 19 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

ACTORS’ NEW ROLES

แบรด พิตต์, แซนนิง เททัม รวมไปถึง มาร์ค วอฮ์ลเบิร์ก และนักลงทุนอีกมากมายในวงการฮอลลีวูดที่ผันตัวออกมาจากอาชีพนักแสดง พวกเขากำลังขึ้นชกรุ่นเฮฟวีเวท คิดทำการใหญ่ แล้วอะไรคือสิ่งที่พวกเขาได้ตอบแทนกันล่ะ!

Archival Cinema

วงการฮอลลีวูดไม่ได้เพิ่งเกิด และการพลิกบทบาทไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สืบย้อนไปไกลถึงปี 1919 ที่ ชาร์ลี แชปลิน, แมรีย์ พิกฟอร์ด และดักลาส แฟร์แบงคส์ เคยร่วมกันก่อตั้งบริษัท United Artists ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่นเอกชนรายใหญ่สำหรับผลิตสื่อบันเทิงที่เคยทำให้ Pink panter และ James Bond ประสบความสำเร็จมาแล้ว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

ต่อมาในยุค 1960s-1970s ดารารุ่นเก๋าอย่าง สตีฟ แม็กควีน ก็เคยขึ้นแท่นนั่งกำกับภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมยอดของตัวเองที่ชื่อว่า Bullitt ซึ่งยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนในตอนนี้ และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนในวงการลุกขึ้นมาสร้างสรรค์ผลงานในจินตนาการดูบ้าง หรือเรียกง่ายๆว่า การปฎิวัติวงการนั่นเอง..

TWELVE YEARS A SLAVE
(Photo: Fox Searchlight Pictures)

เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง  ได้รับการประกาศชื่อให้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ จากการนั่งแท่นกำกับของ สตีฟ แม็กควีน และมี แบรด พิตต์ เป็นโปรดิวเซอร์ ใช้งบในการลงทุนไปเป็นจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชนชั้นทาสในอเมริกาช่วงยุค 1960s โดยมีดาราหน้าใหม่หลายคนแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ และนอกจากรางวัลแล้วเม็ดเงินที่สร้างได้ก็สูงถึง 188 ล้านดอลลาร์

แบรด พิตต์ เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ผันตัวเองมาผลิตงานโดยได้ก่อตั้งบริษัท Plan B Entertainment และมักจะเห็นเขาในภาพยนตร์หลายเรื่องที่ผลิตจากบริษัทนี้อย่างเช่น Troy (ปี 2004) และ Moneyball (ปี 2011) เขาหวังอยู่ลึกๆว่าอยากประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวงการอย่าง จอร์จ คลูนีย์ ที่เป็นโปรดิวเซอร์เรื่อง Argo ร่วมกับ เบ็น แอฟเฟล็ค และเรื่อง August: Osage County หรืออย่าง มาร์ค วอฮ์ลเบิร์ก โปรดิวเซอร์ เรื่อง We Own the Night และ Fighter…

Mark Movpins lopt
(Photo: Movpin)

มากไปกว่านั้น เขายังหวังว่าจะได้กระแสตอบรับจากคนดูเป็นอย่างดี และเป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนผลงานที่ออกมาจากบริษัท Fox หรือไม่ก็ Warner ภายใต้ปัจจัยเรื่องเงินทุนที่มีอยู่จำกัด เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ทั้งผู้กำกับและนักแสดงต่างก็เชื่อมั่นกันว่าทุกคนกำลังทำผลงานชิ้นที่ดีที่สุดออกมา เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อสักวันจะก้าวขึ้นมาอยู่ที่ 1”  อุดมการณ์ที่เขาเชื่อมั่น ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่อง World War Z โกยรายได้ไปมากที่สุดในประวัติการณ์ของค่ายถึง 540 ล้านดอลลาร์! จากเงินทุกน 190 ล้านดอลลาร์

Channng lopt
(Photo: Facebook Magic mike)

สำหรับ แชนนิ่ง เททัม ดารานำจากเรื่อง Magic Mike เขาไม่ได้เพียงแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก เพราะเขาและผู้กำกับ สตีเฟน โซเดอเบิร์ก ช่วยกันผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้จนคลอดออกมาในปี 2012 ซึ่งเรื่องราวของหนังสือนี้นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงที่แชนนิ่งเป็นนักเต้นเปลื้องผ้าสไตล์ Chippendale นั่นเอง “หนังเรื่องนี้เป็นโปรดักชั่นขนาดกลางที่เกี่ยวกับคณะนักเต้นชายล้วน สตีเฟนกับผมตัดสินใจแล้วที่จะผลักดันเรื่องนี้ออกมาให้ได้ภายใต้ความรับผิดชอบของเรา 2 คน เพื่อที่จะนำออกฉายในอเมริกาและต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่อยากจะเชื่อ” จากเงินทุนเพียง 7 ล้านดอลลาร์ พวกเขาสามารถโกยผลกำไรไปอย่างสวยงามถึง 167 ล้านดอลลาร์ หรือ 54 เท่าจากทุนสร้าง!…ในปีต่อมานิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับให้ แชนนิ่ง เททัม เป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก โรเบิร์ด ดาวนีย์ จูเนียร์ ซึ่งเขาก็ได้ใช้แรงเหวี่ยงจากการประสบความสำเร็จในครั้งนี้

10 FAMOUS BANDS WHO WERE REJECTED

 บางครั้งบางที คนเราก็มั่นใจเกินไป มั่นใจจนทำให้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด จนลืมไปว่าเราอยู่ในยุคไหนกันแล้ว จะมามั่วยึดติดกับความคิดเดิมๆ โดยไม่เปิดกว้างไม่ได้…เช่นเดียวกับค่ายเพลงหลายค่าย ที่เคยปฎิเสธศิลปินเหล่านี้ โดยไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะกลายเป็นผู้ทรงอิทธพลและสร้างเม็ดเงินมหาศาล….

The beatles

The Beatles
เมื่อปี 1962 ผู้บริหารค่ายเพลง Decca Records เลือกปฎิเสธที่จะรับวง The Beatles เข้ามาอยู่ในสังกัดของตนเองหลังจากมาออดิชั่น ด้วยความคิดที่ว่า ‘We don’t like their sound. Groups of guitars are on the way out.’ เอิ่ม เอาทองแท่งมาวางที่ประตูบ้านแล้วยังยอมรับอีกนะ ….

Photo: Soundbard.com
U2

U2
‘We wish you luck with your future career.’ คือข้อความบรรทัดสุดท้ายจากบริษัทแผ่นเสียง RSO Records หลังจากได้ฟังเดโมของวงร็อคนามว่า U2 แล้วตัดสินใจไม่ให้เทปม้วนดังกล่าวผ่านการพิจารณา ด้วยเหตุผลที่ว่าแนวเพลงไม่ใช่สไตล์อย่างที RSO ต้องการ ซึ่งนับจากวันนั้น ไม่ถึง 365 วัน ทางวง U2 ได้เซ็นสัญญากับ Island Records พร้อมปล่อยแทร็ค 11 O’Clock Tick Tock ที่ถือเป็นผลงานเปิดตัว จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยอดขาย 150 ล้านแผ่น พ่วงด้วยรางวัลแกรมมี่อีก 22 สาขา (ไม่เคยมีผู้ใดทำได้) ปิดท้ายด้วยถูกยกให้เป็นวงที่ทำรายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี

elvis presley

Elvis Presley
ก้าวแรกของการเริ่มต้นอาชีพนักร้อง แนชวิส ผู้จัดการ เคยโดนดูถูกเขาว่า ‘นายกลับไปขับรถบรรทุกเหมือนเดิมเถอะ นายไม่มีวันเป็นนักร้องได้หรอก’ แต่ด้วยความใจ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ได้พูดไว้นั้น ‘ผิด’ เพราะหลังจากการเป็นนักร้องเดี่ยวทำยอดขายอัลบั้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว เอวิสขึ้นแท่นเป็นราชาของวงการ Rock n Roll ในที่สุด

Photo: Nydailynews.com

Madonna

Madonna 

‘The direction is a good one, in my opinion, only thing missing from this project is the material.’ คือสิ่งที่ Jimmy Jenner โปรดิวเซอร์ชื่อดังส่งจดหมายกล่าวปฎิเสธที่จะรับเธอเป็นศิลปินในตอนนั้น โดย มาดอนนา บอกว่าเธอเก็บจดหมายปฎิเสธฉบับนี้เอาไว้กับตัวอยู่หลายปี และเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ตัวเองได้พิสูจน์ว่าคำที่คุณดูถูกฉันนั้น ‘คุณคิดผิด’ จากนั้นปี 1982 มาดอนนาได้เซ็นสัญญากับ Sire Records พร้อมออกอัลบั้มชุดแรกที่ได้ยอดขายสูงถึง 10 ล้านแผ่น

Photo: Gary Heery

JM_22231_01.tif

Linkin Park
เซสเตอร์ เบนนิงตัน ฟรอนท์แมนของวงร็อคชื่อดังบอกว่า เส้นทางดนตรีของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นและสวยงาม กว่าจะมายืนในจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จพวกเขาผ่านจุดต่ำที่สุดของชีวิตมาก่อน จาก Xero วงดนตรีที่เกิดจากการรวมตัวกันของวัยรุ่น เคยถูกค่ายใหญ่ค่ายเล็กปฎิเสธเดโม่มากกว่า 40 ครั้ง ก่อนจะประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับ วอร์เนอร์ ปี 1999 ก่อนจะเปิดตัว Hybrid Theory พร้อมกับเป็นการตบหน้าบรรดาค่ายเพลงเหล่านั้นด้วยยอดขายที่มากกว่า 27 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก

Morrissey

Morrissey
อดีตนักร้องนำวงดนตรีในตำนานของเกาะอังกฤษ The Smiths ต้นกำเนิดของ Alternative Rock ที่ได้รับนิยมมากในยุค 1980s แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงที่การแยกย้ายในปี 1987 ด้าน Morrissey ยังคงเดินหน้าออกอัลบั้มเดี่ยว ถึงแม้จะเริ่มมีชื่อเสียงแล้วแต่เขาก็ได้รับการปฎิเสธจากหลายค่ายว่า อัลบั้มเดี่ยวหรอ! แล้วไง แต่ World Peace Is None Of Your Business ที่ถูกกลั่นออกมาจากประสบการณ์ชีวิตอันยาวนานในวงการดนตรีและเต็มไปด้วยความลุ่มลึก ตอบข้อสงสัยทั้งหมดเหล่านั้นได้

Dave Grohl Portrait Session

Dave Grohl
นักร้องนำแห่งวง Foo Figthers อดีตสมาชิกวงที่มีอิทธิพลมากๆวงหนึ่งในยุค 1990s อย่าง Nirvana วันหนึ่ง เดฟบอกว่า วิถีทางดนตรีในทุกวันนี้มันผิด ‘ทำไมเราถึงต้องไปยืนต่อแถวเพื่อให้ได้ร้องเพลง ต่อหน้าพวกคนรวยๆ เพื่อให้เขาบอกว่า เราเหมาะหรือไม่เหมาะที่จะเป็นนักร้อง’ หลังจากที่เขาวิพากษ์วงการประกวดดนตรี ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คำพูดของเดฟอาจฟังดูไม่เข้าหู และหลายคนคิดว่า เพราะเขาดังแล้ว เขาจะพูดอย่างไร ทำเก๋า ทำเท่ก็ได้!! หากคิดอีกแง่หนึ่ง เดฟไม่ได้วิจารณ์วงการดนตรี แต่เดฟกำลังวิจารณ์ ‘กลไก’ ที่ทำให้ มาตรวัตรทางศิลปะกลายเป็นสิ่งที่เราต้องยึดติดและทำตาม มันกำลังทำให้วงการเพลงถูกตีค่าทุกอย่างกลายเป็น ‘คะแนน’ และถ้าให้ย้อนไปถึงประวัติของเดฟ เขาก็ไม่ได้เป็นนักร้องมาตั้งแต่แรก จนเคิร์ทตาย … จึงเกิดคำถามขึ้นว่าในเมื่อเขาอยู่กับ Nirvana มาตั้งแต่แรก ไม่ได้มีหน้าที่แค่เป็นมือกลองเท่านั้น เพราะเขายังเขียนเพลงไว้มากมาย(รวมไปถึงเพลงที่ไม่เคยมีใครเคยได้ฟัง) ทำไมตัวเขาเองถึงไม่ร้องเพลงล่ะ? หลังจากนั้น เขาเช่าห้องอัด จองคิวยาวทั้งอาทิตย์ เพื่อร้องและเล่นเพลงของตัวเอง ที่ไม่เคยร้องให้ใครฟัง เขาทำมันอย่างบ้าคลั่ง จน Foo Fighters กลายเป็น 1 ในวงร็อคที่มีอิทธิพลมากในยุค 2000

Photo: Rolling Stone

The Supremes

The Supremes
ในปี 1960 The Supremes ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มนักร้องแอฟริกัน-อเมริกันที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มีแผ่นซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 ถึง 12 เพลง และที่สำคัญคือสมาชิกทั้งหมดของวงนี้ยังเป็นผู้หญิงล้วน ซึ่งนั่นถือเป็นความหัศจรรย์เล็กๆ ในยุคที่ผู้หญิงผิวดำยังเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่ปราศจากสิทธิเสรีภาพในสังคมชาย (ผิวขาว) ความโด่งดังของ The Supremes เป็นหนึ่งในทรัพย์สินอันทรงคุณค่าของ โมทาวน์ เรคคอร์ด แต่รู้ไหมว่าก่อนจะมาเป็นวงที่โด่งดัง พวกเธอเคยไปทดสบอัดเสียงกับ เบอร์รี่ กอร์ดี้ หัวหน้าค่ายเพลงอยู่หลายครั้ง แต่กลับถูกปฏิเสธเนื่องจากเขาเห็นว่าพวกเธอยังเด็กเกินไปและขาดประสบการณ์…ยังดีที่สติกอร์ดี้กลับมา จนตัดสินใจเซ็นสัญญาให้พวกเธอเข้ามาอยู่ในสังกัด โมทาวน์

Photo: Etinside

Huty1757454

Venom
วงเมทัลในตำนานสัญชาติอังกฤษ ผู้บุกเบิกแนว Extreme, Thrash Metal จนถูกยกให้เป็นวงดนตรีผู้เปิดเสพดนตรี เปิดใจรับฟังดนตรีแนวนี้มากยิ่งขึ้น แต่กว่าจะมาเป็นมาเฟียชื่อดังขนาดนี้ พวกเขาเคยถูกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ปฎิเสธอย่างโหดร้ายมาแล้วเมื่อปี 1980 วง Venom ส่งเดโม่ของพวกเขาไปยัง EMI Reords และสิ่งที่ได้กลับคือมากคือจดหมายพร้อมข้อความสั้นๆว่า ‘F U C K O F F’ อาจเป็นเพลงทางค่ายคงคิดว่าดนตรีของพวกเขารุนแรงเกินไป ไม่เคยมีวงไหนเล่นได้หนักหน่วงขนาดนี้ เลยดูเป็นเรื่องแปลกใหม่

Photo: NME

be

Beyonce
นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ดีไซเนอ์ และอีกหลายบทบาทในวงการบันเทิง แต่ว่าจะแบกภาระความรับผิดชอบมากขนาดนี้ เมื่อตอน 8 ขวบ พ่อของเธอได้ตั้งวงเกิลด์กรุ๊ปขึ้นมา ภายใต้ชื่อ Girl’s Tyme มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน และได้ขึ้นเวทีครั้งแรกในรายการประกวด Star Search ผลที่ออกมาคือคณะกรรมบอกว่า การแสดงของพวกเธอไม่สมบูรณ์เสียเท่าไร! จนในปี 1993 มีการเพิ่มของสมาชิกในวงพร้อมกับการเปลี่ยนชื่อใหม่ และปี 1995 ถือว่าโชคเข้าข้างพวกเธอ หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักก็ไปเข้าตาค่ายเพลง Elektra Records

ศิลปินทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าชีวิตของเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของใคร หากแต่ขึ้นอยู่กับใจที่มั่นคงและยึดมั่นในความเป็นตัวเองมากพอ…..

L’OPTIMUM COOL BOY’S CLUB 3

นิตยสาร L’Optimum Thailand (ลอปติมัม ไทยแลนด์) จัดงานแถลงข่าว L’Optimum Cool Boy’s Club 3 เพื่อเป็นการเปิดตัวแขกรับเชิญพิเศษทั้ง 7 คน ขันเงิน เนื้อนวล, ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ (โจ้ ช.การช่าง), กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา (ก้อง Hive Salon), วสุ วิรัชศิลป์, ดร. ฐิติพร สงวนปิยะพันธ์, มร. มาร์ค บูคานัน และ กุสุมา ไกรมณี พวกเขาเหล่านี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวความสนุกที่หลากหลายจากทั่วโลกตามแบบฉบับของตัวเอง รวมไปถึงการเปิดตัว ‘ผู้หญิงคนแรก’ สำหรับปกลอปติมัม ไทยแลนด์ และเราขอย้ำนักย้ำหนาว่าเธอนี่แหละคือผู้หญิงของผู้ชายลอปติมัมโดยแท้

loptimum a18

loptimum aa1

lopt15

lopt11

loptimum th24

lopt41

lopt40

lopt37

lopt36

lopt32

lopt28

lopt27

lopt26

lopt23

lopt22

lopt21

lopt20

lopt19

lopt18

ภายในเมอร์เซเดส-เบนซ์ คาเฟ่ ที่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้า เอ็มโพเรียม บรรยากาศภายในงานถูกเนรมิตไว้อย่างเรียบหรู เต็มไปด้วยแขกผู้เกียรติ ก่อนความพิเศษที่ลอปติมัมเตรียมไว้จะเริ่มขึ้น กับพิธีกรมากฝีมือ ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พร้อมด้วย 2 ผู้บริหาร กุสุมา ไชยพร และ อาลี ซีอานี เล่าย้อนถึงการมาเยือนของนิตยสารหัวฝรั่งเศสรายนี้ ตามด้วยหัวเรือใหญ่ของลอปติมัม สุริยะ ครุฑพันธุ์ บรรณาธิการบริหารที่จะมาเพิ่มความเข้มข้น ความกลมกล่อมลงในหน้ากระดาษที่คุณจะได้อ่านต่อจากนี้

lopt3

lopt14

lopt8

lopt29

loptimum a9

loptimum a8

ขึ้นชื่อ Mr. Mark ตัวแทนจาก Fitness First Thailand ซึ่งเป็นฟิตเนสอันดับหนึ่งของเมืองไทยมาบอกเล่าเรื่องการออกกำลังทั้งที ย่อมมีอะไรดีๆที่ผู้อ่านก็ทำตามได้ไม่ยาก เพราะงานนี้เรามีนำเสนอในแบบตคลิปวิดีโอให้ได้ติดตามกัน

loptimum a7

Luxury ไม่ใช่แค่เรื่องราคาแต่เป็นการเลือกใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าในรายละเอียด….ทำไม ดร. ฐิติพร ผู้ร่วมก่อตั้ง Luxcellence Center จึงกล่าวเช่นนั้น คงต้องมาติดตามกันใน ลอปติมัม กรกฎาคมนี้ loptimum a6

Lifestyle กับตัวเลขการเงิน…จะเข้ากันได้อย่างไร ต้องมาฟังคุณโจ้ ช.การช่าง ที่จะมาถ่ายทอดผ่านความคิดที่ตกผลึกจากชีวิตประจำวันของเขากันได้ ผ่านมุมมองแบบลอปติมัม ที่คุณเองอาจคาดไม่ถึงก็เป็นได้! loptimum a5

10882098_1070306152996720_24338965913035774_n

กสุมา ไกรมณีหรือ ครูแจง เชฟสาวสวย ที่จะชวนแฟนๆลอปติมัมเข้าครัว สอนทำอาหารกับคอลัมน์ Look and Learn จะสนุกเพียงใดต้องรอติดตามกัน

loptimum a1

แน่นอนว่าเป็น style magazine เราจึงเลือกสรรมาให้คนที่คลุกคลีในเรื่องนี้กับ คุณกฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา หรือ ก้อง Hive มาร่วมถ่ายทอดสไตล์ในมุมมองใหม่ แล้วเจอกันได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

loptimum a19

loptimum a20

อีกหนึ่งเซอร์ไพร์ของงาน เมื่อชมพู่ อารยา นำช่อดอกไม้มามอบให้กับเพื่อนสนิท…

loptimum tha6

loptimum aa2

loptimum a3

ขันเงิน Thaitanium จะชวนแฟนๆลอปติมัมมาร่วมเปิดโลกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่ว่าจะเป็น music, film, fine arts และทุกๆอย่างรอบตัวที่สร้างแรงบันดาลใจและความบันเทิงให้คุณ ขันเงินจะเตรียมนำเสนอให้คุณได้ติดตามอย่างแน่นอน

11112487_1070305536330115_3936342528051695559_o

Art&Design ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องสถาปัตยกรรมเสมอไป แต่คุณวสุ วิรัชศิลป์ สถาปนิกไฟแรงเตรียมนำเสนอมุมมองใหม่ๆให้แฟนลอปติมัมได้ติดตามกัน

loptimum a12

และมาถึงเซอร์ไพร์ครั้งใหญ่กับการเปิดตัว ผู้หญิงคนแรกที่จะมาขึ้นปกลอปติมัม ไทยแลนด์ ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุคเบิร์ก

lopt24

lopt13

loptimum aa1

loptimum a4

loptimum a11

loptimum a10

loptimum a16

loptimum th1loptimum th2

lopt31lopt30loptmum th22loptimum tha3lopt9lopt13lopt12

lopt35

CHIVAS THE VENTURE

เพราะปัจจุบันธุรกิจประเภทสร้างสรรค์ที่มุ่งเน้นประโยชน์และแก้ไขปัญหาสังคมมีมาก จึงเกิดเป็นแนวคิดของแคมเปญ The Venture จาก Chivas หนึ่งในโครงการดีๆที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้ทำคนรุ่นใหม่ให้สำคัญกับการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม เป็นการสนับสนุนแบบ Win the Right Way หรือประสบความสำเร็จในธุรกิจที่คำนึงถึงผลกำไรไปพร้อมกับการเติบโตและการพัฒนาไปในทางที่ดีของสังคม

ดังนั้นชีวาส รีกัล จึงได้ส่งคำเชิญไปถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ใน 16 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อคัดเลือกสุดยอดนักธุรกิจที่มุ่งสร้างผลกำไรไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจ และมีเป้าหมายในการสร้างประโยชน์เพื่อสังคมมาเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระดับโลก

Screen Shot 2015-06-13 at 5.16.20 PM copy

สำหรับประเทศไทยผู้ที่ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ใน 16 ประเทศที่ผ่านเข้ารอบ คือ SocialGiver  ธุรกิจไลฟ์สไตล์ออนไลน์แบบใหม่ที่ทำให้การ ‘ช็อป’ และ ‘ช่วย’ กลายเป็นเรื่องเดียวกัน ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการชั้นนำในราคาสุดพิเศษจากทั่วประเทศ พร้อมไปกับการสนับสนุนโครงการดีๆ ความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหัวใจหลักของธุรกิจรุ่นใหม่ แต่ถึงกระนั้น ทุกๆวันมีทรัพยากรทางธุรกิจมากมายที่สูญเสียไปโดยไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เช่น โรงแรมชั้นนำที่มีห้องว่าง หรือ ร้านอาหารที่มีโต๊ะว่าง กิจกรรมดนตรี หรือ คอนเสิร์ตที่ขายตั๋วไม่หมด ปล่อยไปก็เสียเปล่าไม่เกิดคุณค่า SocialGiver ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสร้างสรรค์การบริโภคในรูปแบบใหม่ ให้คุณได้ ‘ช็อป’ และ ‘ช่วย’ ไปด้วยกัน

Screen Shot 2015-06-13 at 5.16.30 PM copy Screen Shot 2015-06-13 at 5.16.53 PM copy
Screen Shot 2015-06-13 at 5.16.40 PM copy

นอกจากนั้นยังมี Algramo จากชิลี กับการแก้ไขปัญหาความยากจน ความไม่เท่าเทียมกัน พร้อมกับการช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้าน ช่วยลดค่าครองชีพและให้การศึกษาแก่เด็ก แถมยังให้ทุกคนได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ส่วนฝั่งเอเชียเพื่อนบ้านเรา อย่าง ฮ่องกง กับบริการของ Diamond  (Top Quality Barrier-Free Taxi Service) รถแท็กซี่บริการอย่างคุณภาพสำหรับทุกคน โดยรถดังกล่าวสามารถรับผู้โดยสารทีนั่งวีลแชร์ได้ 2 คน พร้อมกับคนในครอบครัวโดยไม่มีการปฎิเสธ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถเช่ารถเป็นช่วงโมงได้อีกด้วย

lopt       

          
         SocialGiver โดย อลิสา นภาทิวาอำนวย เจ้าของโครงการรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมโยงการทำธุรกิจเข้ากับภาคสังคม ภายใต้แนวคิด รูปแบบใหม่ของการแบ่งปัน รณรงค์ให้ธุรกิจหลากหลาย ภาคร่วมกันคืนกำไรให้สังคม ด้วยการจัดทำบัตรกำนัลสินค้าและบริการของธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือร้านอาหาร โดยประชาชนทั่วไปสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ และร่วมบริจาคเงินให้โครงการเพื่อสังคมที่ชื่นชอบตามความสมัครใจรวบรวมสินค้าและบริการชั้นนำในราคาที่ดีที่สุด โดยทันทีที่ ‘คลิกซื้อ’ เงินจำนวนนั้นจะถูกส่งเข้าโครงการ โดยทุกโครงการที่เข้าร่วมเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือด้านการศึกษาผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้เจ็บป่วย กลุ่มผู้หญิงที่โดนทำร้าย สัตว์สงวนที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และยังสามารถมั่นใจได้ว่า เงินทุกบาทจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อทำให้สังคมและคุณภาพชีวิตของคนอีกหลายคนดีขึ้น

เวที The Venture 2015 การประกวดสุดยอดธุรกิจเพื่อสังคมระดับโลก ซึ่งจะจัดขึ้นที่ ซิลิคอน วัลเลย์ สหรัฐอเมริกา ในเดือนกรกฎาคมนี้ และรอให้คนไทยร่วมโหวตให้กำลังใจอยู่ที่ theventure.com เวทีนี้ใหญ่แค่ไหน พิจารณาได้จากรางวัลชนะเลิศที่เป็นเงินสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32 ล้านบาท! ทว่าจะชนะหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่เป้าหมายที่ชัดเจนแล้วในปีหน้า คือ พวกเขาจะขยาย Socialgiver สู่ตลาดโลก

สามารถร่วมเป็นกำลังใจและโหวตให้กับทีมไทย ได้ทาง ลิ้งด้านล่างนี้

https://www.theventure.com/th/en/finalists/socialgiver?utm_source=facebook&utm_medium=Promote&utm_campaign=venture_content

5 โรงแรมจากภาพยนตร์ ที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ

โรงแรม Youth Hostel จากภาพยนตร์เรื่อง Hostel 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่พักเยาวชนของเมือง บราติสวาลา ใจกลางประเทศสโลวาเกีย ในบรรยากาศแบบยุคกลางของยุโรป (จริงๆถ่ายทำที่สาธารณรัฐเช็ก เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า สรุปก็หลอกคนดูนั่นแหละ) ที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นแบบ ‘กึ่งส่วนตัว’ เพราะเป็นการพักร่วมกันของนักศึกษาหลายๆคน มีบริการสระว่ายน้ำและสปารวมอยู่ด้วย

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: ห้อง 237 และอัธยาศัยที่ดีเกินไปของคนในพื้นที่

Lopt Youth Hostel
(photo by hdmoviespoint.com)

โรงแรม Izu Pacific Land Resort จากภาพยนตร์เรื่อง The Ring

สถานที่ในฝันของใครหลายคน โรงแรมตั้งอยู่ในหมู่เกาะ Izu ประเทศญี่ปุ่น วิวข้างหน้าเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนข้างหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ รีสอร์ตแห่งนี้มีบ้านพักเล็กๆที่รับรองแขกอยู่ 10 กว่าหลังบ้านพักแต่ละหลังจะมีโทรศัพท์ ทีวี และเครื่องเล่นวิดีโอไว้คอยบริการ ผู้มาพักสามารถติดต่อยืมวิดีโอได้ที่ล็อบบีของโรงแรม

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: ห้อง B4 และวีดิโอที่ไม่มีชื่อเรื่องlopt Izu(photo by gamefaqs.com)

โรงแรม The Great Northern Hotel จากซีรีส์เรื่อง Twin Peaks

โรงแรมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในรัฐวอชิงตัน มีประวัติการสร้างมาตั้งแต่ปี 1916 ที่นี่ต้อนรับแขกทุกคนเป็นอย่างดี เพราะนอกจากห้องพักยังมีห้องครัวและสปาไว้รองรับอีกด้วย อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ในแต่ละห้อง เข้ากันได้ดีกับเตาผิงที่คอยให้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวของแต่ละปี

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: การออกไปเดินเล่นข้างนอกตอนกลางคืนคนเดียว

lopt The Great Northern Hotel
(photo by twinpeaks.com)

โรงแรม Bates Motel จากภาพยนตร์เรื่อง Psycho

โรงแรมที่ตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ในแฮริโซนา (จริงๆถ่ายในสตูดิโอของยูนิเวอร์เซล) จำนวนห้องทั้ง 12 ห้องรอเปิดรับผู้มาเยือนทุกวัน ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน เหมือนกับนอร์แมนลูกชายเจ้าของ ที่มีนิสัยชอบสันโดษ ตึกเก่าสไตล์วิกตอเรียนข้างๆ น่าจะทำให้บรรยากาศในการพักผ่อนที่นี่ ดูมีสีสันมากขึ้น

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: การอาบน้ำใจตอนกลางคืน

lopt Bates motel
(photo by retroweb.com)

 

โรงแรม Overlook จากภาพยนตร์เรื่อง Shining

ถึงแม้ว่าภูมิศาสตร์ในเรื่องจะบอกว่าโรงแรมนี้ตั้งอยู่กลางภูเขาในโคโลราโด แต่จริงๆแล้วตั้งอยู่ที่ Timberland Lodge รัฐโอเรกอน ตัวตึกที่สวยงามมักดึงดูดผู้เขามาพักได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงฤดูหนาวที่ผู้ดูแลโรงแรมจะหยุดพักผ่อนไปช่วงหนึ่ง โรงแรม Overlook เคยอวดอ้วงสรรพคุณของตัวเองว่า ‘ที่นี่เรามีบาร์เทนเดอร์ที่ดีที่สุด หาจากที่ไหนไม่ได้ในแถบนี้’ รวมไปถึงสวนวงกตด้วย

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด: ห้อง 237

lopt overlook(photo by pchm.com)

ROCK STAR HOBBIES

Kurt Cobain ‘นักสะสมและนักเขียน’

ตำนานแห่งวงการเพลงยุค 1990s ถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปนานนม แต่ชื่อเสียงยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงเสมอ เคิร์ท โคเบน ถือเป็นผู้ที่ทำให้เสียงของกรันจ์ กลายเป็นเสียงดนตรีของคนทั้งโลก ตลอด 6 ปีในการทำงานของเขา ภาพบนเวทีคอนเสิร์ต ภาพตอนฝึกซ้อม ภาพตอนปาร์ตี้กับวง Nirvana ถูกถ่ายเก็บไว้หลายร้อยใบ ซึ่งเคิร์ทเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เคยชอบมันเลย …… หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าหนุ่มกรันจ์ จะชอบสะสม กล่องรูปหัวใจ เรื่องมันมีอยู่ว่าปี 1994 เขากับภรรยาคอร์ทนีย์ เลิฟ ชอบเก็บกล่องรูปหัวใจ ทุกครั้งที่ออกทัวร์คอนเสิร์ตหรือบังเอิญเจอ พวกเขาจะซื้อมาเก็บไว้และมีเยอะเต็มบ้าน และมักจะให้กล่องพวกนี้เป็นของขวัญกับคนอื่นๆ บางครั้งก็จะใส่ของส่วนตัวของตัวเองลงไป เช่นเส้นผม หรือ ข้อความ อีกอย่างที่หลายคนคงรู้แล้วคือ เขาชอบเขียน และมักเขียนเรื่องราวต่างๆลงในไดอารี่ รวมไปถึงทุกอย่างที่อยู่ใกล้มือ ทั้งเทปคลาสสิกที่ชอบสะสมไว้ ไม่เว้นแม้กระทั่งกีตาร์แตกๆตัวนี้  Photo by Cobain Unseen

kurt lopt th1 kurt lopt 5 kurt lopt th 4

Richie Kotzen  ‘ต่อเติมบ้าน’

ในบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Guitar Messenger หนึ่งในมือกีต้าร์ระดับโลกแห่ง Mr.Big และ Poison อย่าง Richie Kotzen กล่าวไว้ว่า ‘ผมมีบ้านที่ฮอลลีวู้ดอยู่หลังหนึ่ง และสิ่งที่ผมชอบทำและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ (นอกจากเล่นกีต้าร์) คือการ ต่อเติมบ้าน’ เขามักเปลี่ยนแปลงมันเรื่อยๆไม่รู้จบ พอเริ่มชินแล้วก็เปลี่ยนใหม่ หรือมีแบบมาก็เปลี่ยนใหม่จนพอใจ และล่าสุดเพิ่งทำการเปลี่ยนประตูห้องน้ำโดยได้แรงบันดาลใจมากจากซุ้ม พร้อมกับบอกว่านี่คือการทำประตู้ห้องน้ำครั้งแรกและมันเท่มาก (photo by youtube)

loptimum kri

Paul Stanley ‘จิตกรรม’

วง KISS ถ้าจะให้บอกถึงคุณลักษณะพิเศษก็น่าจะอยู่ที่การเป็นวงดนตรีที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ต่างจากหลายวงที่มักตอบว่า ‘ศรัทธา’ ในดนตรี Rock n’ Roll หรืออุดมการณ์อะไรก็ตามแต่ ทว่าสำหรับ KISS มักบอกเสมอว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ก็คือ ‘ธุรกิจบันเทิง’ ว่าด้วยเรื่องของ Paul Stanley มือลีดกีต้าร์แห่ง KISS ต่อ ซึ่งกิจกรรมยามว่างของเขาค่อนข้างสอดคล้องกับกิจกรรมหลัก นั่นก็คือการวาดภาพ และภาพส่วนใหญ่ของเขามักสื่อถึงยุคฮิปปี้มีสีสันแปลกตาแต่อบอุ่นเน้นความสำคัญที่สัญลักษณ์อย่าง ‘สันติภาพ’ ในยุคฮิปปี้ รวมไปถึงภาพโมนาลิซ่า เทพีสันติภาพ และโรเบิร์ต จอห์นสัน (photo by fanpop)

loptimum stanley 11

loptimumth stanley

Neil Young ‘ผู้ชำนาญเรื่อง รถไฟ’

เจ้าพ่อแห่งโฟล์ก อคูสติกร็อก (เปิดเพลง Old Man คลอตามไปด้วย) มีหลายคนยกชายผู้นี้ให้เป็นไอดอลและต้นแบบสำหรับการหัดเล่นกีต้าร์ (ประสบการณ์ตรง) เมื่อปี 2008 ยอดขายอัลบั้มของเขาโดยประมาณอยู่ที่ 80 ล้านชุดทั่วโลก นอกจากนั้นยังเคยเป็นผู้ช่วยกำกับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยใช้ชื่อนามแฝงว่า เบอร์นาร์ด เชกกีย์ อย่างเรื่อง Journey Through the Past (1973), Rust Never Sleeps (1979), Human Highway (1982), Greendale (2003),และ CSNY Déjà Vu หรือ Linc/Volt (2008) ผลงานล่าสุดที่เขาทำเป็นสารคดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และนี่คือจุดเริ่มต้นของงานอดิเรกคือศึกษาเกี่ยวกับรถไฟ ครั้งหนึ่งเขาได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Lionel, LLc บริษัทผลิตโมเดลรถไฟโบราณที่หลายคนรู้จักดี โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษา และยังเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มความคิดจดสิทธิบัตรให้กับบริษัท Lionel (photo by huffingtonpost)The 2015 MusiCares Person Of The Year Gala Honoring Bob Dylan - Show

Steve Vai ‘เลี้ยงน้ำผึ้ง’

ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของฉายา ‘พ่อมดกีต้าร์’ อย่าง Steve Vai จะสะสมน้ำผึ้ง ความจริงเขาเริ่มสนใจมันตั้งแต่อาศัยอยู่ที่ฮอลลีวู้ด เมื่อเขาย้ายไปที่ เอ็นชิโน แคลิฟอเนีย จากความชอบกลายเป็นกิจการ และมันเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้น ถึงขั้นเปิดช่องทีวีเป็นของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำผึ้ง การเก็บรักษา ไปจึงถึงการเลื้ยงผึ้ง ต้องบอกว่าเขาไม่ได้เปิดช่องเพื่อมาจัดรายกายทำสิ่งที่ตัวเองชอบเท่านั้นแค่ถึงขึ้นไปเรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ (หวังจะพาเพื่อนผึ้งโด่งดัง) ปิดท้ายด้วยการเปิดประมูลน้ำผึ้งของตัวเอง เพื่อนำเงินมอบให้กับมูลนิธิเสียง (photo by lick library)

Vai Michael loptimum

Jeff Beck ‘เก็บรถยนต์’

เขานี่แหละคือผู้คลั่งไคล้ในรถยนต์คลาสสิก โดยเฉพาะเจ้า Ford Hot rods สีเหลืองคันงาม ที่เขาจัดการทุกอย่างทั้งภายนอกตั้งแต่ตัวสีรถเรื่อยไปจนถึงภายในเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง โดย เจฟฟ์ เบ็ค บอกในรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับรถ Car Crazy ว่า ที่จริงเขาอยากซื้อต่อรถของ จอห์น มิลเนอร์ ในหนังเรื่อง American Graffiti เมื่อปี 1973 แต่ไม่สามารถ เลยสร้างรถคันใหม่ขึ้นมาด้วยการศึกษาค้นคว้าของตัวเอง ในปีถัดมาเขาก็ได้รับป้ายทะเบียนจริง THX 1138 ของรถคันในหนังมาเป็นคำปลอบใจจากผู้กำกับ (photo by alphacoders)

loptimum th

Nikki Sixx ‘ลั่นชัตเตอร์’

นอกจากโดดเด่นและโด่งดังในฐานะมือเบสของวงร็อกชื่อก้อง Motley Crue และ Sixx A.M แล้ว นิคกี้ ซิกว์ ยังชอบเขียนหนังสือ ไล่ตั้งแต่ The Dirt และ The Heroin Diaries เหตุผลคงเป็นเพราะชีวิตของเขามันสมบุกสมบัน เต็มไปด้วยเหล้ายาปาปิ้ง ผู้หญิง และความรุนแรง และเล่มล่าสุดที่เขาปล่อยออกมาคือ This is Gonna Hurt ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าด้วยภาพถ่ายที่ซิกซ์ ถ่ายมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หากย้อนกลับไปเขาเริ่มชอบการถ่ายภาพมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน หยิบกล้องมาถ่ายภาพวง ภาพครอบครัว ก่อนจะลงมือทำสตูดิโอของตัวเอง ซิกซ์มีกล้องตัวโปรด 2 ตัว หลักๆคือ Nikon D3 กล้องฝรั่งเศสจากทศวรรษที่ 18 เพื่อถ่ายภาพแบบ Wet Plate และ Hesselblad ซึ่งซิกซ์กล่าวว่า ‘โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่ากล้องมีความสำคัญมากนัก ผมเฉยๆ ระหว่างฟิล์มกับดิจิตอล แต่ Wel Plate จะเป็นโลกที่แตกต่าง’ ก่อนจะบอกว่ากล้องตัวโปรดคือ Nikon D3 (photo by lavialeica)

NikkiSixxLeica_header

Alice Cooper ‘ออกรอบ’

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่นักดนตรีร็อคอย่าง อลิซ คูเปอร์ จะมีถ้วยรางวัลที่ได้จากการแข่งขันกีฬากอล์ฟมาแล้วมากมาย (พรสวรรค์และการฝึกฝนล้วนๆ) แน่นอนว่าพวกเหล่าชาวร็อคจะหลงระเริงอยู่การปาร์ตี้ก่อนขึ้นเล่นคอนเสิร์ต แต่สำหรับ อลิช เขาเล่าให้ฟังว่า เขาจะใช้เวลาว่างก่อนขึ้นเล่นคอนเสิร์ตด้วยการปลดปล่อยอารมณ์ที่สนามกอล์ฟ ‘ผมว่ากอล์ฟเป็นยาเสพติดที่ทำให้สุขภาพดี’ เขากล่าว ในปี 2007 ถ้าใครได้อ่านชีวประวัติของเขาจะเห็นฉายาของเขา ที่ถูกบันทึกไว้ว่า ‘Monster Golf’

alice loptimum

Dave Mustaine ‘ศิลปะการต่อสู้’

มาฝั่งคอเมทัล พวกที่ถือว่าการถูกรังแกเป็นเรื่อง ‘หยาบ’ ที่สุด และนี่คือจุดเริ่มต้นของการหัดเล่นกีต้าร์ของ เดฟ มัสเทน ฟรอนด์แมนแห่งวง Megadeth  ‘มันก็เหมือนการที่มีคนปิดประตูรถใส่มือคุณนั่นแหละ คุณจะนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ทำอะไรเลยและยินยอมรับความเจ็บปวดก็ได้ หรือคุณจะเปิดประตูออกไปแล้วไล่เตะก้นมันก็ได้เช่นกัน’ เขากล่าว และหลังจากนั้นมัสเทนก็ลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนรอบข้างด้วยการเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว ตั้งแต่อายุ 12 กับคาราเต้ภายใต้ The Jet และกลับมาเรียนเทควันโด้อย่างจริงจังจนถึงระดับเข็มขัดสายดำ ต้องบอกก่อนว่าเขาลองมาหมดแล้วตั้งแต่เพาะพันธุ์ม้าไปจนถึงกระโดดร่ม (อย่างที่เห็นในแทร็ค High Speed Dirt จากอัลบั้ม Countdown To Extinction) แต่มันไม่ใช่แนว! (photo by deans art)

dave loptimum

Kirk Hammett ‘เล่นเซิร์ฟ’

เคิร์ก แฮมเม็ตต์ มือกีต้าร์โซโล่ผู้เกรียงไกรแห่งวง Metallica ไม่ได้ฝีมือดีอย่างเดียวเท่านั้น ฝีเท้าก็ดีเช่นกัน ในที่นี่หมายถึงเทคนิคการทรงตัวที่ใช้ในกีฬาทางน้ำอย่างเซิร์ฟ ถามว่าดีแค่ไหน? ดีขนาดที่ว่าถูกเชิญให้ไปพูดเรื่อง Surf Summit ครั้งที่ 17 ณ ลอส คาบอส ประเทศแม็กซิโก (ดีไหมล่ะ) แฮมเม็ตต์เริ่มเล่นเซิร์ฟมาตั้งแต่อาศัยที่แคลิฟอร์เนีย และการเล่นเซิร์ฟยังสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างเขากับทรูฮีโร มือเบสของวงได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งคนหลังนี้เติบโตมาในเดอะ เวนิซ ด็อกทาวน์ แคลิฟอร์เนีย ย่านที่นักสเก็ตและนักเล่นเซิร์ฟทุกคนต้องรู้จักกันดี จากภาพยนตร์สายดาร์คเรื่อง Lords of Dogtown (photo by gunshyassassin)

loptimum kirk s

 

source: gibson.com

TAKE FLIGHT

จะดีขนาดไหนถ้าคุณได้บินสูงเสียดฟ้าอย่างอิสระ ด้วยปีกของตัวเอง …..

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ถูกสร้างขึ้นโดย Vince Reffet โดยติดเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ลงไปในอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายปีกนกซึ่งมันถูกพัฒนาขึ้นมากว่า 20 ปี จนสิ่งประดิษฐ์นี้จะสมบูรณ์แบบ ก่อนจะชวนนักบิน Yves Rossy สวมมันบินรอบเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่มหัศจรรย์อย่างดูไบ ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆเช่น ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ เกาะต้นปาล์ม และทะเลทรายลิวา สิ่งที่เห็นได้จากวิดีโอคือดูพวกเขามีความสุขในการบินครั้งนี้ มีความสุขที่ได้เห็นมุมมองที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยตาตัวเอง

FORGET ‘THAT’ TOM HARDY

ผู้ชายมาดดิบที่เรา ‘คุ้นตา’ จากบทวายร้ายสวมหน้ากากใน Batman : The Dark Knight Rises ซึ่งหลังจากจบภาคนี้ แฟนคลับของ ทอม ฮาร์ดี้ ก็เพิ่มขึ้นอีกโข และนอกจากความสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว ตัวใหญ่ ไหล่กว้าง หน้าแปลกแล้ว เขาสามารถเปลี่ยนรูปร่างเพื่อสวมทุกบทบาทการแสดงที่ได้รับ ทั้งตัวใหญ่ล่ำ ตัวพอดี บางทีก็ผอม และนี่แหละคือสิ่งที่ตอกย้ำ ‘จิตวิญญาณ’ ความเป็นนักแสดงของเขา….

Tom Hardy lopt co

LIKE

Tom hardy aa

(photo by celebitchy)

WC9V1318.CR2
(photo by MMA)

ทอม ฮาร์ดี้
พื้นเพ : เกิดปี 1977 ที่ลอนดอน อายุ 37 ปี เป็นลูกชายของนักโฆษณาและจิตกร สำเร็จการศึกษาที่ Richmond Drama School ตามมาด้วย London Drama Center มีบุตรชาย 1 คน ชื่อ หลุยส์ ทอม ฮาร์ดี้ เกิดในปี 2008

ฝากฝีมือมาแล้วใน

Inception (2010) : ฝีมือการกำกับและเขียนบทของคริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากภาวะที่คนเราสามารถที่จะรู้สึกตัวและตระหนักได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในความฝัน ‘lucid dream’ โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการโจรกรรมความฝัน โดยการเข้าไปอยู่ในความฝันของผู้อื่น จนผู้ที่เข้าไปขโมยความฝันกลายเป็นอาชญากรและต้องหลบหนีรวมทั้งสูญสิ้นทุกสิ้นทุกอย่าง หลังจากนั้นได้รับข้อเสนอในการที่จะกลับมาใช้ชีวิตแบบเก่า แลกกับการปฏิบัติภารกิจปลูกฝังความคิดของเป้าหมาย ขั้นตอนในการปลูกความคิดเรียกว่า ‘Inception’

บท : ฮีมส์ ตำแหน่งนักปลอมแปลง ผู้สามารถแปลงโฉมตัวเองเป็นใครก็ได้ในความฝัน เพื่อหลอกล่อเป้าหมายมาสู่แผนที่วางไว้

inception 1 lopt

INCEPTION

inception lopt 3

This Means War (2012) : คู่หูที่เป็นเหมือนเงาตามติดกันและเป็นทั้งเพื่อนซี้ จนกระทั่งตกหลุมรักสาวคนเดียวกัน ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยช่วยกันปราบเหล่าร้ายทั่วประเทศ แต่ตอนนี้พวกเขานำทักษะความสามารถระดับที่หาตัวจับได้ยากและอุปกรณ์สุดไฮเทคมาต่อกรกับศัตรูตัวฉกาจของทั้ง 2 ฝ่าย

บท : ทัค สายลับ CIA ที่มีลักษณะห้าวหาญ เป็นคนดูดีและเจ้าเล่ห์แต่ขาดฝีมือเรื่องความรัก

time 1 lopt

Time lopt

this means war lopt

This Means War lopt

The Dark Knight Rises (2012) : ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูนชุดมนุษย์ค้างคาว และเป็นภาคที่สาม และภาคสุดท้ายในไตรภาคมนุษย์ค้างคาวที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน ต่อจากภาพยนตร์เรื่อง Batman Begins (2005) และ The Dark Knight (2008) กำกับภาพยนตร์โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน เขียนบทโดยตัวโนแลนเองและโจนาธาน ผู้เป็นน้องชาย

บท : จอมวายร้ายสวมหน้ากากที่มีความอำมหิตย์มีนามว่า เบน ผู้เป็นที่กล่าวขานของชาวเมืองก็อธแธมในความโหดเหี้ยม แถมยังเป็นผู้ก่อการร้ายที่มีปัญหาทั้งด้านจิตใจและพฤติกรรม สำหรับการรับบทนี้ไม่ใช่แค่ว่าเขาต้องมาเป็นผู้ร้ายในภาคจบที่จะต้องทำให้ได้เจ๋งกว่าภาคก่อน แต่ภาระใหญ่หลวงที่สุดคือเขาดันต้องมาเป็นผู้ร้ายต่อจากฮีธ เลดเจอร์ที่เป็นโจ๊กเกอร์ได้น่าทึ่งสุดยอดใน The Dark Knight ซึ่งถ้าจะว่ากันตรงๆ โจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นนี้ก็ได้กลายเป็นผู้ร้ายที่ดีที่สุดในหนังฟรานไชส์แบทแมนไปเรียบร้อยแล้ว..

tom Hardy lopt

tom hardy lopt 2

DARK KNIGHT RISES

tom hardy lopt 5

tom hardy lopt 6

tom hardy lopt 4

Child 44 (2015) : ภาพยนตร์ทริลเลอร์สุดเข้มข้น โดยมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์จริงที่สั่นสะเทือนไปทั้งประวัติศาสตร์โลกของชายผู้มีฉายาว่า ‘นักเชือดแห่งรัสตอฟ’ ซึ่งก่อคดีฆาตกรรมเด็ก และหญิงสาวไปมากกว่า 50 ชีวิต

บท : ลีโอ สเตฟาโนวิช เดมิดอฟ สายลับที่ทำงานในหน่วยรักษาความมั่นคงผู้อุทิศตัวและรักในประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง คอยดูแลรักษาความสงบในบ้านเมือง จนได้ไปพบกับเบาะแสคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซึ่งมีเหยื่อเป็นเด็กผู้บริสุทธิ์หลายสิบชีวิต แต่ว่ากลับโดนคำสั่งกลับมาให้บิดเบือนความจริง เขาจึงต้องหาทางเร่งสืบคดีนี้เองก่อนที่จะมีผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตไปมากกว่านี้

CHILD 44

child lopt

child lopt 2

child-44-3508x2338-best-movies-of-2015-tom-hardy-gary-oldman-vincent-3087

child lopt 5

รางวัล
– เคยได้รับรางวัลจากโรงละครลอนดอน อีเวนนิ่ง ในปี 2003 ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่โดดเด่น จากการแสดงเรื่อง Blood and Arabia
– เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ลอเร้นซ์ โอลิเวอร์ในปี 2004 ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ของปี 2003 ในเรื่อง We’d All Be Kings.
แฟน

ผลงานในอนาคต

Mad Max ‘Fury Road’ : เป็นการหวนกลับไปหาโลกของ Road Warrior แม็กซ์ ร็อกคาแทนสกี้ แมด แมกซ์ต้องถูกอดีตหลอกหลอน เขาเชื่อว่าว่าวิธีเดียวที่เอาชีวิตรอดได้ดีที่สุดคือการออกเดินทางอย่างลำพัง แต่ยังไงก็ตามเขาต้องเข้าไปอยู่กับลุ่มผู้หลบหนีข้าม Wasteland ใน War Rig ที่บังคับโดยอิมเพอเรเตอร์ผู้มากความสามารถอย่างฟูริโอซ่า พวกเขาต้องหนีออกจาก Citadel ที่อิมมอร์แทน โจปกครองอย่างกดขี่ ซึ่งสิ่งที่มิอาจทดแทนได้กลับถูกริดรอนไป Enraged เดอะ วอร์ลอร์ดรวมตัวกองกำลังและออกตามล่าผู้ก่อกบฏด้วยความโหดเหี้ยมในสงครามกลางถนนไฮออคเทนที่ตามมา

บท : Max Rockatansky …ลองจิตนาการถึงหมาป่าผู้หิวโซดูสิ!

Mad Max 2

Mad Max 3

FURY ROAD

FURY ROAD

ตัวอย่างหนัง

Legend : ผลงานการกลับมาเขียนบทและกำกับของ ไบรอัน เฮลเกแลนด์ จาก Mystic River และ L.A. Confidential ที่งานนี้เขาจับเอาเรื่องจริงของพี่น้องฝาแฝดแก๊งสเตอร์ในยุค 1960s โดยตัวหนังจะเล่าถึงเรื่องราวในยุครุ่งเรืองไปจนถึงยุคตกต่ำ ของ 2 พี่น้อง หลังจากต้องเจอทั้งปัญหาของเรื่องอาชญากรรม และอีกมากมาย

บท : พี่น้องทั้ง 2 คนอย่าง เร็กกี้ และ รอน เครย์ โดยในตัวอย่างหนังใช้ CG ในการช่วยเหลือเพื่อแยกร่างทอม ฮาร์ดี้ แต่การแสดงยังคงเป็นของจริงล้วนๆแบบที่ใน Dhoom 3 เคยทำมาแล้วนั่นเอง

Legend 0

legend 2

legend 3

legend 4

ตัวอย่างหนัง

by MovieReviews

ผลงานในอนาคต (ที่อาจจะเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้)

Suicide Squad : ถูกทาบทามให้รับบทริค แฟล็ก หัวหน้าทีมซุยซายด์ตัวละครที่มีความสำคัญมากใน Suicide Squad แต่เขากลับปฎิเสธไปเหตุผลที่ว่าตารางในการถ่ายทำภายยนตร์ที่ไม่ลงตัวและชนกับอีกเรื่องที่ถ่ายทำอยู่นั่นคือ The Revenant ของผู้กำกับรางวัลออสการ์ปีล่าสุดอย่างอเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาริตูจาก ถึงแม้จะเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ต้องพลาดบทนี้ไป อย่างไรก็ตามตัวฮาร์ดี้ก็มั่นใจว่าตัวนักแสดงที่มารับช่วงต่อนั้นจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน..

X-Men Apocalypse : ทางค่าย Fox มีแผนทำหนังภาคต่อจาก X-Men Day of Future Past กำกับโดย ไบอัน ซิงเกอร์ และหมายตาให้เขามารับบท Apocalypse ตัวร้ายสำคัญตัวหนึ่งในฉบับคอมมิคของ ซึ่งเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ตัวแรกของโลกที่มีอายุอยู่ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ มีความสามารถหลายอย่าง เช่นควบคุมอะตอมของร่ายกายตัวเองได้ เคลื่อนย้ายตัวเองได้ และรักษาตัวเอง เป็นต้น ทั้งยังเป็นหนึ่งในมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีชีวิตอมตะ

The Punisher : หลายคนคงจำหนังและหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับคนธรรมดาที่มีวีรกรรมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ซูเปอร์ฮีโร่ และถึงแม้หนังทั้ง 3 ภาคจะไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่แฟนๆยังรอคอยให้ตำนานเหล่านี้ถูกเล่าขานใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่แน่นะเพราะแววๆมาจากทาง ทอม ฮาร์ดี้ ว่าอยากสวมบท แฟรงค์ คาสเซิล หนึ่งในตัวละครใน The Punisher ถึงแม้เขาจะคิดมากเรื่องส่วนสูงของตัวเองที่มีเพียง 5 ฟุต 9 นิ้ว ซึ่งมันอาจจะดูน้อยเกินไปสำหรับบทดังกล่าว…ถึงแม้ว่าทาง Marvel ยังไม่มีแผนจะนำกลับมาทำเป็นซีรีย์ แต่ถ้าใครอยากดูฝีมือการแสดงของพระเอกคนนี้ ต้องสวดมนต์กันอย่างหนักแล้วล่ะ!!!

นักแสดงท่านอื่นที่เคยรับบทนี้มาก่อน
1. โธมัส เจน ผู้รับบทนำในเวอร์ชั่นปี 2004 มีความสูง 5 ฟุต 11 นิ้ว
2. เรย์ สตีเวนสัน ที่สวมบทในปี 2008 มีความสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว
3. ดอล์ฟ ลันด์เกรน เจ้าของบทบาทเวอร์ชั่นปี 1989 มีส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว