แนะนำเชฟคนใหม่ Cinzia Pernici แห่งห้องอาหาร Zuma

จิตวิญญาณแห่งความเป็นญี่ปุ่นยังคงอบอวลอยู่ในห้องอาหาร Zuma ไม่ว่าจะเปลี่ยนเชฟไปอีกกี่คนก็ตาม และในห้วงเวลานี้หัวหน้าเชฟคนใหม่อย่าง Cinzia Pernici ก็พิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่าเธอสามารถสรรค์สร้างเมนูกลิ่นอายใหม่ แต่ยังคง signature ของทั้งตัวเธอและห้องอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วน 

นอกเหนือจากเมนูปลาย่างอันเป็นเอกลักษณ์ที่เราอดสั่งซ้ำไม่ได้แล้ว เมนูใหม่ที่ถูกรังสรรค์จากปลายนิ้วของเชฟซินเซียก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน จานโปรดของเราเห็นจะเป็น Grilled Edamame with Lemon Oil and Shichimi Pepper ที่ได้ทั้งความหอมของถั่วย่างไฟ ความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ และความสดชื่นของมะนาว กินเพลินๆ หมดถ้วยไม่รู้ตัว และถ้าใครเป็นสาย healthy ก็แนะนำให้ลอง Seared Tuna with Braised Red Onion and Ponzu ที่หอมกลิ่นพอนสึ และ Crab Salad, Sesame Dressing and Tobiko ซึ่งทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

ห้องอาหาร Zuma เปิดให้บริการ

มื้อเที่ยง ทุกวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 11.30 – 15.00 น. / มื้อเย็น ทุกวัน เวลา 18.00 – 23.00 น. / บรันช์ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 11.00 – 15.00 น. / บาร์ ทุกวัน เวลา 11.30 – 23.00 น.

สำรองโต๊ะได้ที่

โทร: 02-252-4707 / อีเมล์: reservations@zumarestaurant.co.th / เว็บไซต์: www.zumaresturant.com

หน่อไม้ฝรั่งขาว สุดยอดวัตถุดิบของซีซั่นนี้

ในบ้านเราน้อยนักที่จะมีห้องอาหารที่มีช่วงปิดตามฤดูกาล ไม่ใช่ปิดเพราะเชฟจะไปเที่ยวพักร้อน แต่ปิดเพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่อำนวยให้เปิดบริการ เชาว์ เทอราซซ่า โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าของอาคารเก่าแก่งดงามที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ ความเก๋คือห้องอาหารนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวบ้านเรา นอกจากบรรยากาศที่งดงามด้านหนึ่งคืออาคารที่เป็นตำนาน อีกด้านหนึ่งคือแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เรื่องรสชาติอาหารของที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่ามีความเป็นอิตาเลียนแบบโฮมเมดอย่างแท้จริง ก่อนที่เชาว์ เทอราซซ่าจะปิดประจำปีในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนเป็นประจำทุกปี(ให้บริการถึงวันที่วันที่ 2 เมษายน 2566 เท่านั้น) เราไปเยือนก่อนเพราะที่นี่เขามีวัตถุดิบพิเศษประจำฤดูกาล


ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีเครื่องปรุงชั้นเลิศชนิดหนึ่งที่คนซึ่งชื่นชอบเรื่องอาหารจะเฝ้ารอ นั่นก็คือหน่อไม้ฝรั่งขาว หรือ white asparagus ที่แม้ความอร่อยสุดเรียบง่ายจะเกิดจากการนำไปลวกและมาจิ้มกับไข่แดงที่นำไข่ไก่ไป poached หรือจะหรูขึ้นอีกนิดก็เหยาะซอส Béarnaise Sauce ลงไป แต่ถ้ามีโอกาสก็ควรจะลิ้มลองหน่อไม้ฝรั่งขาวที่ทำขึ้นจากเชฟที่เชี่ยวชาญเพราะจะได้คำตอบว่าทำไมวัตถุดิบชนิดนี้จะเป็นที่ตั้งตารอ และมีแค่ช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
เชฟดาริโอ บุสเนลลี่ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารเชาว์ เทอราซซ่า ต้องการให้ทุกท่านได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความอร่อยไว้ในความทรงจำจนกว่าจะถึงวันที่เชาว์ เทอราซซ่ากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปลายปีนี้ เชฟดาริโอจึงขอนำเสนอเมนูพิเศษ ซึ่งหน่อไม้ฝรั่งขาวเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมในช่วงเดือนนี้ในแถบทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เชฟดาริโอเติบโตมานั่นเอง


เชฟสามารถสร้างสรรค์เมนูพิเศษที่นำหน่อไม้ฝรั่งขาวมาปรุงเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ไปจนถึงขนมหวาน สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อยในเมนูหน่อไม้ฝรั่งขาว ราคาเริ่มต้นที่ 690++ บาท ริซอตโต้หน่อไม้ฝรั่งขาวเสิร์ฟพร้อมหอยเชลล์และไข่ปลามุลเล็ตจากแคว้นซาร์ดิเนีย ซึ่งจานนี้เชฟดาริโอได้ใช้เทคนิคการปรุงที่ดึงความหวานของหอยเชลล์ออกมาให้เข้ากันอย่างลงตัวกับความหวานของหน่อไม้ฝรั่ง (1,100++ บาท) อีกหนึ่งเมนูที่เชฟแนะนำ คือ เนื้อแกะหั่นเป็นชิ้นทรงกลมเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งขาวและซอสไวน์มาร์ซาลา โดยเนื้อแกะได้รับการปรุงด้วยการจี่ในกระทะ จากนั้นนำซอสถั่วพิสตาชิโอและพาร์สลีย์ราดบนเนื้อแกะ ก่อนจะนำเข้าเตาอบเพื่อให้มีความกรอบอยู่บนผิวของเนื้อแกะ ส่วนข้างในเนื้อนั้นชุ่มฉ่ำ (1,590++ บาท) สำหรับของหวาน ต้องไม่พลาด เจลาโต้หน่อไม้ฝรั่งขาวผสมน้ำมันมะกอกกับแบล็คทรัฟเฟิล (550++ บาท) ซึ่งเมนูของหวานนี้มีให้บริการที่ห้องหารเชาว์ เทอราซซ่า เป็นครั้งแรก

สัมผัสความอร่อยของเมนูส่งท้ายก่อนที่เชาว์ เทอราซซ่าจะปิดให้บริการประจำปี โดยห้องอาหารจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนตุลาคมปีนี้
ห้องอาหารเชาว์ เทอราซซ่าเปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 22.30 น. จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2566
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และ สำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โทร 0 2659 9000 หรืออีเมล mobkk-restaurants@mohg.com

ข่าวลือหนาหู!? ‘McDonald’s Korea’ เตรียมปล่อยโปรเจ็กต์สุดพิเศษ กับชุดอาหารของสาวๆ วง ‘Newjeans’

นับว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสในโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับข่าวลือเกี่ยวกับการจับมือร่วมกันระหว่างแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักใหญ่อย่าง McDonald’s ประเทศเกาหลี กับวงสาวน้อยมาแรงแห่งยุคอย่าง Newjeans โดยข่าวลือนี้ยังไม่มีการออกมายืนยันอย่างชัดเจน แต่แอคเคาต์หลัก @mcdonald_kr ก็ได้ลงคำใบ้บางอย่าง ที่ทำให้เราได้ฉุกคิดว่า หรือโปรเจ็กต์สุดพิเศษนี้จะเกิดขึ้นจริง!? โดยภาพแรกที่ลงจะเป็นข้อความที่เขียนว่า ‘ATTENTION’ ซึ่งคำดังกล่าวเป็นหนึ่งในบทเพลงสุดฮิตของทั้ง 5 สาว ต่อมาก็ได้ลงวิดิโอที่มีไอคอนคล้ายหูกระต่าย และมีแคปชั่นที่เขียนแสดงถึงวงของสาวๆ ‘🐰➡🅼❓’ โดยล่าสุดภาพชุดอาหาร และเขียนแคปชั่นเป็นไอคอน ‘ 🧡🍟🍔🥤🧡’ เราต้องมาติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับว่า โปรเจ็กต์สุดพิเศษนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ หรือไม่ หากขึ้นขึ้นจริงเชื่อเหลือเกินว่า แฟนๆ ทั่วโลกต้องเรียกร้องขอให้การร่วมมือครั้งนี้ ปล่อยทั่วโลกอย่างแน่นอนครับ

The Winter Chef’s Table Has Come

ต้อนรับลมหนาวสั้นๆ ของประเทศไทยด้วยรสชาติแห่งฤดูกาลเหมันต์ ณ ห้องอาหาร Royal Osha

Photography: Courtesy of The Restaurant

Royal Osha ร้านอาหาร fine dining ที่ได้รับเลือกแนะนำลงมิชลินไกด์ 2 ปีซ้อนนำเสนอเมนู chef’s table ประจำฤดูหนาวด้วย 8 คอร์สพิเศษ ที่รังสรรค์วัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดูกาล ผสมผสานกับสมุนไพรแบบไทยๆ ก่อกำเนิดเป็นคอร์สอาหารไทยแบบโบราณครบรส ภายใต้แนวคิด ‘Classic Thai Elegance Reinvented’ 

อาหารที่เราประทับใจจัดๆ คือ จานเรียกน้ำย่อย ‘ทองม้วนต้มยำกุ้งคาเวียร์’ ที่นำขนมขบเคี้ยวดั้งเดิมมาเล่าใหม่ผนวกกับอาหารที่ถือได้ว่าเป็น soft power ของประเทศอย่างต้มยำกุ้ง ตามด้วย ‘แตงโมหอยสังข์กับบีทรูทปลาแห้ง’ ที่เพิ่มความสดชื่นด้วยกรานิต้าน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มความสดชื่น และจานขนมปิดท้าย ‘ถั่วแปบ ขนมครกข้าวเหนียวมะม่วง ขนมสอดไส้’ เพื่อจบคอร์สอย่างอิ่มเอม 

แต่จานอื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ไปลิ้มลองรสอาหารแห่งเหมันตฤดูได้ที่ร้านอาหาร Royal Oash ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ

– Author: Pacharee Klinchoo –

The ​​Excellence-est of The Year!

รางวัล Design Excellence Award (DEmark) ในกลุ่มผลงานการออกแบบตกแต่งภายในที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า พื้นที่ทำงานร่วมกัน อาคารชุดของปี 2022 ตกเป็นของ Tangible Bangkok

ด้วยการออกแบบร้านกาแฟให้เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและ เชื่อมโยงให้งานออกแบบและศิลปะเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น Tangible ทำให้ประสบการณ์การจิบกาแฟของคุณเหมือนกับนั่งอยู่ในอาร์ตสเปซ นำบริบทของธรรมชาติเข้ามากลืนกับสังคมเมืองในรูปแบบใหม่ๆ และชั้นสองของพื้นที่ร้านยังเป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้กับนิทรรศการหมุนเวียนที่เปลี่ยนธีมอยู่เสมอ 

โดยหลักการออกแบบนั้นเน้นที่การพลิกมุมมองของตัววัสดุการก่อสร้างโดยใช้การออกแบบเป็นตัวกำหนดคุณค่าใหม่ให้กับวัสดุนั้นๆ พร้อมใช้กระบวนการออกแบบเพื่อนำเสนอคุณค่าให้แก่พื้นที่ในแง่ประโยชน์การใช้สอยที่หลากหลาย เปิดกว้างสู่ความร่วมมือใหม่ๆ ได้เสมอ และยังใช้พื้นที่กระตุ้นเตือนให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยออกแบบพื้นที่ธรรมชาติภายนอกให้เข้ามาสู่ภายในให้มากที่สุดอีกด้วย

– Author: Pacharee Klinchoo –

Tangible Bangkok เปิดให้บริการวันพุธ – จันทร์ (9.00 – 18.00 น.) 

โทร. 064-445-5365 IG: TANGIBLEBANGKOK

McDonald’s เปิดตัวเมนูรับวันวาเลนไทน์ ของคู่รักสุดสวีทอย่าง ‘Cardi B & Offset’

เรียกได้ว่าเป็นข่าวรับวันวาเลนไทน์เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับการเปิดตัวชุดอาหารจาก McDonald’s ของคู่รักสุดหวานอย่าง ‘Cardi B’ และแร็ปเปอร์หนุ่ม ‘Offset’ โดยอินสตาแกรมแอคเคาต์อย่าง @mcdonalds ได้โพสต์ภาพโปรโมตชุดอาหารใหม่ล่าสุด โดยมีคู่รัก ‘Cardi B’ และ ‘Offset’ ซบกันอย่างสวีทหวาน ในลุคทานดินเนอร์สุดหรู พร้อมถุงกระดาษที่เขียนว่า ‘The Cardi B & Offset Meal’ พร้อมแก้วน้ำติดโลโก้ โดยทางแบรนด์ จะปล่อยชุดอาหารนี้ออกมา ในวันวาเลนไทน์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เราต้องมาชมกันครับ ว่าเมนูของคู่รักคู่นี้จะน่าทานเพียงใด แฟนๆ ต้องห้ามพลาดครับ!

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย McDonald’s (@mcdonalds)

เดือนเดียวเท่านั้นกับวัตถุดิบสุดหายากจากฟุกุโอกะ

สายกิน สายชิม ต้องไม่พลาด และใครจะฉลองวันวาเลนไทน์ที่ห้องอาหารคินูบายทาคากิ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ยังมีให้จับจอง(อยากรู้ว่าทำไมต้องอ่านต่อไป) ครั้งนี้มีแค่เดือนเดียวกับวัตถุดิบที่ไม่ได้เล็ดรอดออกมาให้นอกจังหวัด เพระาแค่ผลิตให้คนท้องถิ่นกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฟุกุโอกะก็ไม่พอเสิร์ฟแล้ว เราจึงจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกับวัตถุดิบเหล่านี้จากจังหวัดฟุกุโอกะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือหอยนางรมที่ไหนๆ ก็อาจจะมี แต่ของที่เชฟโนริฮิสะ มาเอดะ แห่งห้องอาหารญี่ปุ่น คินูบายทาคากิ (KINU BY TAKAGI) คัดสรรมาไม่ได้มีขายทั่วไป เรียกว่าเป็นของชั้นเลิศประจำจังหวัดที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองจะหารับประทานได้ง่ายๆ


ความพิเศษครั้งนี้ต้องชื่นชมตัวแทนจังหวัดฟุกุโอกะ ตั้งแต่ภาครัฐจนถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดที่ผลักดันให้วัตถุดิบเหล่านี้มาเสิร์ฟให้เราได้ลิ้มลอง ประกอบกับฝีมือของเชฟที่การันดีได้มาปรุงมาชนิดรู้คุณค่าของวัตถุดิบทำให้เมนูไคเซกิที่เสิร์ฟในห้องอาหารคินุ ของเดือนกุมภาพันธ์นี้พิเศษสุดๆ เพราะหอยนางรมที่หายากยิ่งนี้มีให้ชิมแค่เดือนนี้เดือนเดียวเท่านั้น ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ แม้จะยังมีอยู่ แต่ไหนๆ จะรับประทานก็ควรจะมาลองให้ครบเซ็ต และเป็นการจัดขึ้นเพื่อฉลองความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างกรุงเทพฯ และ ฟุกุโอกะครบรอบ 15 ปี
เดินทางสู่จังหวัดฟุกุโอกะผ่านความอร่อยของวัตถุดิบแห่งความภาคภูมิใจของจังหวัด นำเสนอเป็นอาหารกลางวันและอาหารค่ำเสิร์ฟตามอย่างวิถีไคเซกิ ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2566 (ขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบที่จัดส่งมาจากญี่ปุ่น) ย้ำแล้วนะว่าขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ส่งมา ฉะนั้นโอกาสยากเช่นนี้อย่าให้หลุดลอยไป


ทำไมวัตถุดิบชั้นเลิศเช่นนี้ถึงมีการนำเสนอแค่เดือนเดียว ก็เพราะวัฒนธรรมด้านอาหารที่เรียกว่า “เคียว ริวริ” (Kyo-ryori) อันเป็นที่สุดแห่งความมีรสนิยมในเรื่องประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่น เคียว ริวริ คือ อาหารที่เชฟนำเสนอครสชาติกลมกล่อมที่เกิดจากศาสตร์และศิลปะการปรุงอาหารของเชฟที่สามารถชูรสชาติของวัตถุดิบ หาใช่เกิดจากการเติมเครื่องปรุงต่างๆ แต่อย่างใด และอาหารนั้นๆ ยังรับกับฤดูกาลต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นอยู่ในขณะนั้น และช่วงเวลาที่วัตถุดิบเหล่านี้มีคุณภาพดีที่สุดคือในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อฮากาตะวากิว หอยนางรมพันธุ์ฮิโตตซูบุ จากทะเลบูเซ็น ลูกพลับพันธุ์ฟูยุ สาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ และสตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอ เอาแค่ลูกพลับพันธุ์ฟูยุ ซึ่งสงวนสำหรับปลูกในจังหวัดฟุกุโอกะเท่านั้น และฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะได้ลูกพลับคุณภาพดีที่สุดอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นลูกพลับฟูยุที่เชฟนำมาจึงมีรสชาติที่หวานฉ่ำ และมีความหอม

เชฟมาเอดะเลือกใช้ลูกพลับมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบของจานเรียกน้ำย่อย ซึ่งจานนี้ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “คาคิ นามะสุ” คือ เมนูที่นำผักดองนานาชนิด รวมทั้งผลไม้ ซึ่งต้องหั่นเป็นเส้นๆ มาคลุกเคล้ากับอาหารทะเลหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นเมนูตามประเพณีที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในช่วงปีใหม่ เชฟนำลูกพลับมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคลุกเคล้ากับผักชนิดอื่นๆ อาทิ หัวไช้เท้า ผักกาด และเชฟมาเอดะได้สอดแทรกขึ้นฉ่ายของไทยเข้าไปด้วย ซึ่งปรากฏว่าช่วยเสริมรสได้อย่างน่าแปลกใจ ต้องมาลองชิมเองว่าเสริมรสกันได้น่าทึ่งแค่ไหน ในส่วนของอาหารทะเลเชฟมาเอดะนำเสนอ เนื้อปูหิมะ หอยเชลล์ เมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้ว เชฟจะราดด้วยซอสยูสุที่ทำเป็นเจลลี่ จานนี้เป็นจานเริ่มต้นการเดินทางแห่งความอร่อยของทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ และเชฟลงมือดองหัวผักกาดเองด้วย ต้องบอวก่ารสและกลิ่นซับซ้อนแต่สดชื่นมากๆ มีกลิ่นหอมของผิวส้มด้วย

เนื้อฮากาตะวากิว เป็นเนื้อที่ได้มาจากวัวพันธุ์น้ำตาลและวัวพันธุ์ดำของญี่ปุ่น โดยได้รับการเลี้ยงด้วยฟางข้าวคุณภาพดีซึ่งเป็นข้าวที่ปลูกในจังหวัดฟุกุโอกะ และยังเลี้ยงด้วยธัญพืชนานาชนิด โดยวัวเหล่านี้เป็นวัวอายุ 20 เดือนขึ้นไป และเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่ไร้ความตึงเครียดแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและทัศนียภาพที่งดงาม ซึ่งเราได้เห็นวิวที่วัวจะได้ชื่นชมทุกๆ วันถึงกับอึ้งเพราะสวยกว่ารีสอร์ทหลายๆ แห่งด้วยซ้ำ แต่เขาปล่อยให้เป็นพื้นที่ให้วัวชมและจำกัดคนเข้าไปเพื่อกันการนำเชื้อโรคไปติดวัว
ซึ่งคุณค่าจากสารอาหารที่ได้รับจากธัญพืชเป็นเสมือนอาหารเสริมชั้นดีของวัวเหล่านี้ เพราะช่วยให้วัวเหล่านี้มีเนื้อวัวที่มีชั้นไขมันแทรกเสมือนลายหินอ่อน และ ยังเป็นตัวช่วยให้เนื้อวัวมีความนุ่มชนิดที่เรียกว่าละลายในปาก โดยเชฟมาเอดะนำเนื้อฮากาตะวากิวมาย่างเตาถ่านและราดด้วยซอสเทอริยากิ เสิร์ฟพร้อมด้วยผงไข่แดงและแบล็กทรัฟเฟิ้ล เชฟมาเอดะใช้ความพิถีพิถันและใช้ทักษะขั้นสูงตั้งแต่การเตรียมเนื้อ แขกทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับขั้นตอนย่างเนื้อด้วยเตาถ่านซึ่งเชฟมาเอดะต้องใช้ความใส่ใจในขั้นตอนนี้เป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้เนื้อวากิวที่มีความนุ่มกำลังดีสมคำร่ำลือว่า “ละลายในปาก” ซึ่งเมนูนี้มีเสิร์ฟทั้งเมนูเซ็ทมื้อกลางวัน และเซ็ทมื้อค่ำ


แต่สุดยอดไฮไลท์ที่ปกติไม่มีใครที่ไม่ไปฟุกุโอกะด้วยตนเองจะไม่ได้ชิมแน่ๆ เพราะแม้แต่ในญี่ปุ่นเขาก็ไม่ส่งไปขายยังจังหวัดอื่นๆ เพราะมีปริมาณน้อย หายาก และมีแค่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นหอยนางรมฮิโตตซูบุ จากทะเลบูเซ็น เป็นหอยนางรมขนาดใหญ่ได้รับการเลี้ยงในทะเลบูเซ็น เนื่องจากกระแสน้ำในทะเลบูเซ็นไม่มีคลื่นสูง ประกอบกับทะเลบูเซ็นในเขตน้ำตื้นมีแพลงตอนจำนวนมาก จึงเหมาะกับการทำฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม และทำให้หอยนางรมที่ได้มีขนาดใหญ่ เนื้อเยอะ และ เนื้อมีความแน่นให้รสสัมผัสที่ดีเมื่อรับประทาน และในหอยนางรมยังอุดมไปด้วยสารอาหาร ทำให้เนื้อหอยนางรมมีรสชาติเข้ม เสน่ห์ที่สำคัญของหอยนางรมพันธุ์ฮิโตตซูบุ คือ เมื่อได้รับความร้อนจากการปรุงอาหาร เนื้อของหอยจะไม่หดตัว
นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นักชิมจะได้สัมผัสความอร่อยของหอยนางรมพันธุ์นี้ ที่ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เชฟมาเอดะนำหอยนางรมฮิโตตซูบุและชิราโกะ (อวัยวะภายในของปลา)มาห่อด้วยเต้าหู้แล้วนำไปทอดกรอบ ก่อนเสิร์ฟจะราดด้วยซอสดอกเก๊กฮวย เสิร์ฟคู่กับหอยนางรมฮิโตตซูบุลวก ท็อปปิ้งด้วยคาเวียร์ ให้ท่านได้สัมผัสความอร่อยของเนื้อหอยนางรมฮิโตตซูบุที่ได้รับการปรุงสองแบบ ซึ่งคอร์สนี้ มีอยู่ในเซ็ทมื้อค่ำ โดยจานนี้ขอบอกว่าต้องมาลองเองจริงๆ เนื้อหอยฉ่ำมีรสสัมผัสที่ละมุนและเต็มไปด้วยรสชาติมากๆ อีกทั้งเนื้อหอบยก็มีขนาดใหญ่ รับประทานได้เต็มคำจริงๆ วิธีการปรุงของเชฟก็ชูรสชาติของหอยให้เด่นละเมียดยิ่งขึ้น


วัตถุดิบอีกอย่างที่ยากจะได้ชิมก็คือ สาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ ได้รับการกล่าวขานให้เป็นสุดยอดของสาหร่ายญี่ปุ่น เนื่องจากระดับน้ำในทะเลอะริอะเกะมีความแตกต่างกันมากกว่า 6 เมตรระหว่างช่วงเวลาน้ำขึ้น และ น้ำลง จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้สาหร่ายที่ได้รับการเพาะเลี้ยงที่ทะเลนี้ มีรสชาติและคุณภาพที่ดีกว่า อีกทั้งการเก็บสาหร่ายก็ทำในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สาหร่ายได้กักเก็บสารอาหารรวมทั้งรับแสงแดดมาแล้วอย่างเต็มที่ จึงส่งผลให้สาหร่ายมีรสชาติที่กลมกล่อมครบรส
ดังคำที่ชาวญี่ปุ่นให้นิยามไว้คือ “อุมามิ” ในแต่ละปีมีการผลิตสาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ มากกว่าสองพันล้านแผ่น แต่กล่าวได้ว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ จึงไม่เคยมีสาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะนำเข้ามาในประเทศไทย ในเดือนนี้จึงถือว่าพิเศษเพราะจะได้สัมผัสความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของสาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะนี้ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ โดยเชฟมาเอดะนำมาใส่ในข้าว ซึ่งเชฟนำเสนอข้าวหน้าอาหารทะเลนานาชนิด พร้อมไข่ออนเซ็นและสาหร่ายอะริอะเกะ ซึ่งคอร์สนี้มีทั้งในเซ็ทมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ซึ่งเชฟนำสาหร่ายมาปิ้งไฟให้หอมก่อนจะนำมาใส่ลงในข้าว สัมผัสแรกก็คือความอุมามิที่ระเบิดอยู่ในปาก คนละเรื่องกับสาหร่ายปรุงรส เพราะนี่ไม่ปรุงรสใดๆ กับสาหร่าย แต่ให้รสแท้เป็นตัวนำ ยิ่งได้ข้าวที่เชฟคัดสรรมาต้องบอกว่าได้สาหร่ายมาไปทำกินเองก็ไม่ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้


ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งวัตถุดิบที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดฟุกุโอกะ คือ สตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอ ซึ่งเป็นสตรอเบอร์รี่ที่ปลูกเฉพาะในพื้นที่จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นติดต่อกันมากกว่า 15 ปี สตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรูปทรงที่อวบ ผิวสีแดงสดเงางามเป็นประกาย เนื้อแน่นและมีความฉ่ำหวาน ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่พันธุ์นี้ คือ ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม
เชฟมาเอดะและทีมของห้องอาหารญี่ปุ่น คินูบายทาคากิจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอสตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอซึ่งเป็นผลผลิตที่ดีที่สุดของปีให้แก่แขกทุกท่าน โดยเชฟสร้างสรรค์ให้เมนูของหวานมีความสนุกสอดแทรก เชฟมาเอดะนำเสนอสตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอให้แตกต่างกันห้าแบบในหนึ่งถ้วยขนมหวาน เพิ่มความสนุกด้วยการราดซอสสตรอเบอร์รี่อุ่นๆ ลงบนแผ่นช็อกโกแลตที่ประดับอยู่ด้านบนเพื่อให้ช็อกโกแลตละลายเมื่อรับประทานคู่กับผลสตรอเบอร์รี่สด และเจลลี่สตรอเบอร์รี่


ส่วนที่บอกว่าวาเลนไทน์ยังจองทันก็เพราะจริงๆ แล้วช่วงวันวาเลนไทน์นี้ตรงกับวันที่ห้องอาหารปิดในแต่ละอาทิตย์(จันทร์-อังคาร) แต่เมื่อมีเสียงเรียกร้องมาว่าวันพิเศษต้องมีอาหารมื้อพิเศษสิ ทางห้องอาหารจึงเปิดให้บริการในวันวาเลนไทน์ อาหารไคเซกิที่ห้องอาหารนี้จึงยังมีที่ว่างสำหรับคนที่ต้องการฉลองในวันวาเลนไทน์ ที่มาก็เป็นเช่นนี้

อาหารแต่ละจานของเมนูต้อนรับปีใหม่ที่เชฟรังสรรค์ขึ้นนี้ เสมือนเราได้เดินทางสู่จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นผ่านวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม และหลายๆ ชนิดยังเป็นการนำเสนอเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้เราได้เข้าถึงความหรูหราในโลกแห่งวัตถุดิบและความละเอียดอ่อนของ
วัฒนธรรมด้านอาหารตามวิถีไคเซกิอย่างแท้จริง ซึ่งแม้ที่ญี่ปุ่นเองการนำเสนออาหารูปแบบนี้รับวันจะมีน้อยลงเพราะมีเงื่อนไขต่างๆ มากมายถึงจะเรียกว่าเป็นไคเซกิ ได้ แม้จะจำกัดความง่ายๆ ว่า เป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่นำเสิร์ฟอาหารอย่างต่อเนื่องหลายคอร์ส แต่ที่มาของแต่ละคอร์สนั้นวัตถุดิบก็ต้องถูกต้องตรงตามฤดูกาล การปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงรสจะมีน้อยมากเพราะต้องชูรสธรรมชาติของวัตถุดิบให้โดดเด่น การใช้เครื่องปรุงรสเพียงแค่เสริมรสอย่างเบาบางเท่านั้นเอง
ห้องอาหารญี่ปุ่น คินูบายทาคากิ (Kinu by Takagi) เปิดให้บริการวันพุธ – วันอาทิตย์ สามารถรองรับแขกได้ 10 ท่าน ต่อมื้ออาหาร
มื้อกลางวันให้บริการห้าคอร์ส ราคา 4,000++ บาท ต่อท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 12.00 น.
มื้อค่ำให้บริการสิบคอร์ส ราคา 8,000++ บาท ต่อท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 18.00 น.
สำรองที่นั่งล่วงหน้า และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ห้องอาหารญี่ปุ่นคินูบายทาคากิ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โทร 0 2659 9000 เว็บไซต์ mandarinoriental.com/bangkok

เติมเต็มความสุขให้คู่รักในวันวาเลนไทน์นี้ กับห้องอาหารสุดโรแมนติก ณ โรงแรมแชงกรี-ลา

หากหนุ่มๆ กำลังมองหาสถานที่ฉลองค่ำคืนวันวาเลนไทน์แสนหวานอยู่ เราขอแนะนำที่นี่เลยครับ ที่ทุกท่านจะสามารถไปกับมื้อค่ำเลิศรส พร้อมชมวิวทิวทัศน์สุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ห้องอาหารชั้นนำ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ กับ 3 ห้องอาหาร ที่จะมารองรับคู่รักที่ชื่นชอบอาหารหลากหลาย

เริ่มต้นกันด้วย ‘เน็กซ์ทู คาเฟ่’ อิ่มอร่อยไปกับ (แชร์ เดอะ เลิฟ) อาหารทะเลสดใหม่ตัวโตจานใหญ่ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับทุกคู่รัก อีกทั้งบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติเลิศรสมื้อค่ำ พร้อมสเตชั่นของหวานในธีมวาเลนไทน์สุดโรแมนติก

ต่อกันด้วย ‘ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ’ อิ่มเอมไปกับชุดอาหารจีนมื้อค่ำสุดโรแมนติกสำหรับ 2 ท่าน โดยฝีมือของเอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟ ตัน กวางอิ๊ก หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ครัวจีน ภายในบรรยากาศสุดหรูที่ตกแต่งไปด้วยโคมไฟระย้ารูปหัวใจส่องประกายงดงามระยิบระยับของห้องอาหารจีน

ปิดท้ายด้วย ‘ห้องอาหารไทย ศาลาทิพย์’ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติกภายในศาลาไม้สักทองหลังงาม พร้อมชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา นำเสนอชุดอาหารไทยมื้อค่ำรสเลิศสำหรับคุณและคนพิเศษในค่ำคืนวันวาเลนไทน์ทีวใกล้จะถึงนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 02-236-7777 หรือ อีเมล restaurants.slbk@shangri-la.com

เตรียมตัวให้พร้อม! Shake Shack เบอร์เกอร์ชื่อดัง จะเดินทางเปิดสาขาที่ประเทศไทย เดือนมีนาคมนี้!

เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารชื่อดัง ที่หลายๆ คนเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ก็ต้องลิ้มลองรสชาติกันให้ได้ บอกได้เลยว่าในเดือนมีนาคมนี้ ต้องปักหมุดไว้เลยครับ! เพราะ Shake Shack จะเดินทางมาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย พร้อมเสิร์ฟเมนูอเมริกันสุดคลาสสิกที่ทุกคนหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์สูตรพิเศษ ฮอตดอก มิลค์เชค หรือ ไอศกรีมโฟรซเซ่นคัสตาร์ด ที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

Shake Shack แบรนด์เบอร์เกอร์ชื่อดังจากมหานครนิวยอร์ก ได้บอกเล่าเรื่องราวของ Shake Shack ผ่านการเชื่อมโยงมาจากการแสดงงานศิลปะครั้งแรกในชื่อ ‘I Heart Taxi’ ที่เมดิสันสแควร์พาร์ค นิวยอร์ก เมื่อ 22 ปีก่อน นำเสนอผ่าน Hoarding Design งานศิลปะสนุกๆ บนรั้วกำแพงที่ได้รับการออกแบบโดยคุณ นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปินไทยเชื้อสายอินเดีย เจ้าของผลงานการออกแบบกราฟิกบนรถเข็นขายฮอทดอก จุดต้นกำเนิดของ Shake Shack กลางกรุงนิวยอร์ก

แฟนๆ เตรียมตัวพบกับรสชาติความอร่อยสไตล์อเมริกันคลาสสิกที่คุณรอคอย สาขาแรกในประเทศไทย ในเดือน มีนาคม 2023 นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บอกเลยว่าห้ามพลาด!

ดื่มด่ำความสร้างสรรค์ ไปพร้อมกับรสชาติอันโดดเด่น ณ SAVA Modern THAI Flavour

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ที่ก่อตั้งและสร้างสรรค์โดย ‘หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา’ หรือคุณ ‘หมูอาซาว่า’ กับร้านอาหารที่มีชื่อว่า ‘SAVA’ นั่นเอง และในวันนี้ก็เป็นการกลับมาอีกครั้งของร้านอาหารคอนเสปต์อันโดดเด่น ในวันนี้พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ ‘Modern THAI Flavour‘  ณ บริเวณชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม 

การดีไซน์ร้านใหม่ของ SAVA Modern THAI Flavour สะท้อนคอนเซ็ปต์ ‘Modern THAI Flavour’ ด้วยการตกแต่งร้านในโทนสีขาวและน้ำเงินโคบอลต์ ผสานลายทาง Stripe อันเป็นเอกลักษณ์ของ อาซาว่า และวอลเปเปอร์ลาย Chinoiserie ออกแบบโดย โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ศิลปินนักวาดภาพประกอบชื่อดัง นำเสนอลวดลายที่สอดแทรกองค์ประกอบความเป็นไทยและภาพกราฟฟิค เพื่อทำให้พื้นที่ในร้าน SAVA Modern THAI Flavour ดูมีสีสัน สนุก และสบายตายิ่งขึ้น โดยภายในร้านยังแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลากหลายโซน ทั้งโซนที่นั่งในตัวร้าน อีกทั้งยังคงสร้างสรรค์เมนูอาหารสุดพิเศษและหลากหลาย พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ดูสบาย อบอุ่น และดีไซน์ที่สะดุดตา อีกด้วย