เปิดตัว ‘FuchsiaBKK’ ไนต์คลับรูปแบบใหม่ เนรมิตพื้นที่ด้วย Futuristic Art Nouveau

Watermelon Group เปิดตัว ‘Fuchsiabkk’ ไนต์คลับรูปแบบใหม่สุดอลังการ ที่พร้อมจะพาเหล่าปาร์ตี้เลิฟเวอร์สัมผัสประสบการณ์สุดตื่นตาตื่นใจแห่งโลกอนาคต

เนรมิตพื้นที่ด้วยศิลปะสไตล์ Futuristic Art Nouveau ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลภาพวิชวลล้ำสมัยควบคู่กับระบบเสียงคมชัด และโชว์ตระการตาแบบจัดเต็ม ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการเสมือนจริงแบบ 360 องศา เติมเต็มความสนุกสุดเหวี่ยงให้ค่ำคืนแสนพิเศษ

‘Junho’ กลับมาเยือนไทยให้หัวใจฮอตเทสว้าวุ่นอีกครั้ง

“อี จุนโฮ” กลับมาเยือนไทยให้หัวใจฮอตเทสว้าวุ่นอีกครั้งกับ 

“LEE JUNHO 1st FANMEETING TOUR <JUNHO THE MOMENT 2023> IN BANGKOK”

10 ธ.ค. นี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์

ประเทศไทยมี “อี จุนโฮ” อีกครั้ง กลับมารอบนี้จะทำให้ฮอตเทสฟินกว่าเดิม! ใน “LEE JUNHO 1st FANMEETING TOUR <JUNHO THE MOMENT 2023> IN BANGKOK” 10 ธันวาคมนี้ เจอกันที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สมาชิกไลฟ์ เนชั่น เทโร ซื้อบัตรก่อนใคร 30 กันยายนนี้ ที่ livenationtero.co.th

“อี จุนโฮ” หนุ่มตายิ้มหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์สุดร้อนแรง “2PM” เตรียมลุยแฟนมีตเดี่ยวทั่วเอเชีย รวมถึงครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งเหล่าฮอตเทสจะได้สนุกไปกับเขาคนนี้ในบทบาทของศิลปินมากความสามารถ ทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง นักเต้น และนักแสดงอย่างใกล้ชิด

“Can I” โซโล่ซิงเกิ้ลภาษาญี่ปุ่นล่าสุดของจุนโฮที่ปล่อยออกมาเมื่อกรกฎาคม มาพร้อมกับลุคแจ็คเกตหนังสุดฮอต โชว์สกิลโวคอล แรป และเต้นแบบครบสูตรให้แฟนๆ ต้องใจละลาย ไม่แพ้อีกหนึ่งผลงานการแสดงสุดฟีลกู๊ดอย่างซีรีส์ “King The Land” ที่ได้แสดงประกบกับนางเอกขวัญใจชาวเกาหลี “อิม ยุนอา” หนึ่งในสมาชิกวง Girls’ Generation ออกอากาศผ่านทาง Netflix เมื่อกลางปี 2023 ที่ผ่านมา และได้ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์สุดฮิตอันดับ 1 บน Netflix ในฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม รวมถึงติดท็อป 10 ในอีก 24 ประเทศทั่วโลก

จุนโฮยังเคยพิสูจน์ความสามารถในฐานะนักแสดงผ่านอีกหนึ่งผลงานซีรีส์แนวย้อนยุค “The Red Sleeve” ในบทองค์รัชทายาทอีซานที่ต่อมากลายเป็นพระเจ้าชองโจ กษัตริย์แห่งราชวงศ์โช สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างการเป็นไอดอลคนแรกที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาโทรทัศน์ จากเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 58 และรางวัล Talent Award ที่มอบให้กับผู้ที่มีผลงานด้านการแสดงโดดเด่น จากเวที Korea PD Awards ครั้งที่ 31 หลังจากประสบความสำเร็จกับแฟนมีตเดี่ยวถึง 2 ครั้งในเกาหลีใต้เมื่อปี 2022  รวมถึงทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศญี่ปุ่นตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปลายปีนี้เหล่าพี่สาวฮอตเทสเตรียมอมยิ้มและหัวเราะไปกับความน่ารักของเขาในแฟนมีตเดี่ยวครั้งแรกที่ประเทศไทย “LEE JUNHO 1st FANMEETING TOUR <JUNHO THE MOMENT 2023> IN BANGKOK” บัตรราคาเริ่มต้น 2,800 บาท เปิดจำหน่ายรอบพรีเซลสมาชิกไลฟ์ เนชั่น เทโร 30 กันยายนนี้ เวลา 10.00 – 22.00 น. ทาง livenationtero.co.th เปิดจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป 1 ตุลาคม เวลา 10.00. น. เป็นต้นไป ทาง thaiticketmajor.com และเปิดจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลักในวันที่ 2 ตุลาคม เวลา 10.00. น. เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.co.th

ครบรอบ 4 ปี กับ ‘TRINITY’ ใน “2023 TRINITY BREATH OF DESIRE CONCERT”

“4NOLOGUE” ทุ่ม! โปรดักชั่น สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่คอนเสิร์ตในไทย!!

จัดเต็ม “2023 TRINITY BREATH OF DESIRE CONCERT”

เรียกว่าสมการรอคอยของ TWILIGHT (ทไวไลท์ : ชื่อแฟนคลับ) เมื่อ 4NOLOGUE (โฟร์โนล็อค) ประกาศ! จัดคอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 4 ปี กับการเดินทางครั้งสำคัญของ  TRINITY (ทรินิตี้) “เติร์ด-ลภัส, ปอร์เช่-ศิวกร, แจ๊คกี้-จักริน” ใน “2023 TRINITY BREATH OF DESIRE CONCERT” ที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ที่อิมแพ็ค อารีน่า นอกจากนี้ยังเป็นวันครบรอบเดบิวต์ครบ 4 ปีของ TRINITY และ TWILIGHT อีกด้วย

เปิดความสนุกสุดปังไปกับความอลังการของ แสง สี เสียง รวมไปถึงการดีไซน์สเตจขนาดใหญ่ ที่ปิดพื้นที่ชั้นล่างของอิมแพ็ค อารีน่า ซึ่งภายในงานผู้ชมจะเห็นมุมมองจากด้านบน ได้ประการณ์การดูคอนเสิร์ตในมุมใหม่ นอกจากนี้ในคอนเสิร์ตนี้ได้ยังมีการดีไซน์โชว์ ที่มีความผสมผสานงาน Art เพอร์ฟอร์มแมนซ์ และเทคนิคโชว์ต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของภาพยนตร์มากกว่าการดูคอนเสิร์ตที่ผ่านมา

และที่ทำเอาผู้ชมในอิมแพ็ค อารีน่า ถึงกับอึ้งไปกับความยิ่งใหญ่เมื่อ 4NOLOGUE สร้างไฮไลท์ซีนด้วยการให้สามหนุ่ม TRINITY ขับรถลัมโบร์กินีซูเปอร์สปอร์ตคาร์และซูเปอร์เอสยูวีสุดหรูบนเวทีครั้งนี้  ยังไม่รวมอุปกรณ์แสงสี และระบบเสียง  เรียกว่าโปรดักชั่นขนมาจัดเต็มเพื่อคอนเสิร์ตวันครบรอบ 4 ปี ของ TRINITY โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าจะเรียกว่าเป็น The Best Concert ของปีนี้เลยก็คงไม่ผิด

นอกจาก แสง สี เสียง โปรดักชั่นที่จัดเต็มแล้ว ทั้งสามหนุ่มยังจัด set list โชว์สกิลทั้งร้อง เต้นเกือบ 3 ชั่วโมง แบบแรงดีไม่มีตก เกือบ 30 เพลงในคอน ทั้งเพลงชาติของวง และเพลงที่ Re-Arrange ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น LIFE AIN’T OVER, NOBODY, 100 DAYS, Haters got nothing, ขอไม่ยินดี(Congrats), I Don’t Miss You, Hidden Track, IOU, Oh! Oh!, ผู้โชคดี (The Lucky One), THANK YOU ALLฯลฯ

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีรุ่นน้องในตึกดำอย่าง “DVI” มาเพิ่มสีสันบนสเตจในเพลง SUGAR, Second Chance สาวๆ “bXd” ที่มาแสดงโชว์ซิงเกิ้ลใหม่ครั้งแรกบนเวทีนี้กับเพลง Don’t wanna miss you และขาดไม่ได้แขกรับเชิญเพื่อนซี้คนพิเศษจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง “BALLISTIK BOYZ” from EXILE TRIBE ที่มาพร้อมกับโชว์เดือดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบคอนเสิร์ตเรียกว่าไฮไลท์ทุกพาร์ท เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก และการฉลองครบรอบ 4 ปีที่ครบรสที่สุดเลยก็ว่าได้ 

สามารถติดตามเบื้องหลัง ภาพความประทับใจ และทุกความเคลื่อนไหวได้ที่โซเชียลมีเดียของ 4NOLOGUE และ TRINITY ทุกช่องทาง 

ประมวลภาพพี่หมีจากคอนเสิร์ตคิกออฟเอเชียทัวร์ที่กรุงเทพฯ เมืองคอนเสิร์ต

Photography: Courtesy of Live Nation Tero by TEAMRQ777

เปิดประเดิมเอเชียทัวร์ของพี่หมี Post Malone กันที่กรุงเทพมหานครแห่งเมืองคอนเสิร์ตกับ ‘If Y’all Weren’t Here, I’d Be Crying Tour in Bangkok’ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2023 ที่ผ่านมากันไปแบบสนุกสนาน

โดยในครั้งนี้ เซ็ตลิสต์ของพี่หมีมาแบบจุกๆ ทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ โดยเปิดตัวด้วยเพลงชาติของตัวคุณพี่อย่าง Better Now และปิดท้ายอังกอร์กันแบบฟินๆ กับ Sunflower และ Congratulations 

พี่หมีเดินทางไปแสดงต่อที่รายการ F1 Singapore Grand Prix 2023 ที่ประเทศสิงคโปร์ และจะเดินสายเอเชียทัวร์กันแบบจุกๆ ทั้งที่ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายโซนไปที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ใครที่คิดถึงพี่หมี และคิดถึงบรรยากาศคอนเสิร์ตที่ผ่านมา เรามีประมวลภาพสวยๆ มาให้แบบดูกันแบบรับประกันว่าหายคิดถึงอย่างแน่นอนครับ

บทสัมภาษณ์พิเศษจากสามนักแสดงนำของซีรีส์ ‘The Killing Vote – โหวตโทษประหาร’

หากคุณสงสัยถึงการดำรงอยู่ของ ‘ความยุติธรรม’ และความย้อนแย้งของ ‘ประชาธิปไตย’ ในแง่มุม ‘เสียงข้างมาก’ เราขอแนะนำให้คุณเปิด Prime Vido TH และเลือกชมซีรีส์ ‘The Killing Vote – โหวตโทษประหาร’ เพื่อหาคำตอบในข้อสงสัยของคุณ และเชื่อเถอะว่า… แม้คุณจะไม่ได้คำตอบ แต่คำถามที่คุณตั้ง ไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน

ใน The Killing Vote บุคคลปริศนาต้องโทษประหารชีวิตตามผลการโหวตจากคนทั่วประเทศ ถ้าไม่คิดถึงบทบาทและความคิดด้านศีลธรรมของตัวละครที่คุณแสดง คุณมีจุดยืนต่อสถานการณ์นี้อย่างไรบ้าง

พัคแฮจิน: ผมคิดว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมาย ผมคงไม่สามารถพูดได้ว่าโทษประหารเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็มีบางมุมที่สมเหตุสมผลนะครับ

พัคซองอุง: ในความเป็นจริง มีเรื่องราวที่เลวร้ายยิ่งกว่า ‘การโหวตโทษประหาร (The Killing Vote)’ อีกนะครับ และปัญหาสังคมบางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ดูเหมือนจะทำให้คนจำนวนมาก รวมทั้งตัวผม รู้สึกเหนื่อยล้าและมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งในสถานการณ์ที่ซ้ำซากแบบนั้น ผมคิดว่าการเกิดขึ้นของ ‘การโหวตโทษประหาร’ อาจจะเป็นหนทางที่จะช่วยหยุดเรื่องร้ายๆ ลงได้บ้าง

อิมจียอน: ฉันมีเรื่องที่กังวลหลายจุดเลยค่ะ ฉันพอจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีรีส์นะคะ เพราะว่ามันมีหลายสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมายและอาจจะมีกรณีที่ไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นได้ แต่ในมุมหนึ่ง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ทุกอย่างจะดำเนินไปแบบตรงไปตรงมาทั้งหมด ดังนั้นมันก็เลยเป็นสถานการณ์ที่น่าหนักใจในหลายๆ ด้าน

การทำงานร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ และบรรยากาศในกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง คุณรู้สึกเครียด สนุก หรือรู้สึกแตกต่างจากเรื่องราวที่เกิดในซีรีส์ไหม คุณเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้างในการถ่ายทำซีรีส์นี้ มีเรื่องตลกหรือน่าจดจำเกิดขึ้นขณะถ่ายทำ The Killing Vote หรือไม่

พัคแฮจิน: ผมคิดว่าเป็นซีรีส์ที่นักแสดงมีเคมีเข้ากันดีกว่างานอื่นๆ ที่ผ่านมาเลยครับ ครั้งนี้เป็นซีรีส์เรื่องที่สองที่ผมได้ร่วมงานกับคุณพัคซองอุง บรรยากาศในกองถ่ายก็ดี และบางทีอาจเป็นเพราะลักษณะของซีรีส์แนวนี้ พวกเราก็เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนึกถึงกันและกัน และเป็นห่วงกันและกันมากขึ้น พวกเราก็เลยสนิทกัน ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องราวในซีรีส์ของเราด้วยนะครับ 

พัคซองอุง: ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นแนวระทึกขวัญ แต่เวลาอยู่ในกองถ่ายผมไม่ได้รู้สึกเครียดเลยครับ ตรงกันข้าม ผมกลับสามารถมีสมาธิจดจ่อด้วยการดื่มด่ำกับตัวละครของตัวเองได้มากขึ้นด้วย นี่เป็นครั้งที่สองของผมที่ร่วมงานกับคุณพัคแฮจินนับตั้งแต่ซีรีส์เรื่อง ‘Man to Man’ ดังนั้นผมก็เลยสามารถสื่อสารกับเขาได้เพียงแค่สบตากัน แล้วก็เป็นละครเรื่องแรกที่ผมได้แสดงร่วมกับคุณอิมจียอน แต่ด้วยความที่เธอเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์มาก ผมก็เลยสนุกมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับเธอ ส่วนผู้กำกับพัคชินอูและผู้กำกับภาพอีชางแจ นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ทำงานกับพวกเขาหลังจากเคยถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘White Night’ ด้วยกันมาก่อน ดังนั้นการถ่ายทำก็เลยราบรื่นได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ เลยครับ

อิมจียอน: ฉันดีใจมากเลยค่ะที่ได้ทำงานร่วมกันนักแสดงหลายท่าน รวมถึงคุณพัคแฮจินและคุณพัคซองอุง เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างหนักและจริงจัง แต่ทันทีที่กล้องหยุดถ่าย บรรยากาศก็เป็นกันเองมาก ฉันสามารถถ่ายทอดตัวละครจูฮยอนได้ดีก็เพราะได้ถ่ายทำในบรรยากาศที่ดีร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ เลยค่ะ

ระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Killing Vote ฉากไหนที่เป็นฉากที่คุณคิดว่าน่าจดจำและชอบที่สุด ฉากไหนที่แสดงยากที่สุดสำหรับคุณ และทำไมมันถึงยาก

พัคแฮจิน: ฉากสะเทือนอารมณ์ระหว่างคิมมูชานและควอนซอกจูเป็นฉากที่น่าจดจำที่สุดเลยครับ ผมนึกว่าการแสดงร่วมกันคงเป็นเรื่องยากเพราะจริงๆ แล้วผมสนิทกับพัคซองอุงมาก แต่สุดท้ายแล้วการที่เรารู้จักกันดีนี่แหละ ที่ทำให้การแสดงในระดับลึกซึ้งกว่าเดิมเกิดขึ้นได้ ความเจ็บปวดของควอนซอกจูถ่ายทอดมาถึงผม และกระบวนการแสดงความรู้สึกในส่วนนั้นออกมาก็ยากมากๆ ครับ

พัคซองอุง: สำหรับผม การได้ถ่ายทำร่วมกับนาแร ลูกสาวของผมในเรื่อง เป็นสิ่งที่น่าจดจำมากครับ เธอน่ารักมากจนผมจำได้แม่นว่าเราสนุกกันมากๆตอนถ่ายทำด้วยกัน ดังนั้นจึงพูดได้ว่าการถ่ายทำฉากสถานที่เกิดเหตุของนาแรเป็นเรื่องยากมากๆ หัวใจของคนเป็นพ่อที่สูญเสียลูกไปนั้นเจ็บปวดเกินคำบรรยาย มันเป็นฉากที่ผมระบายอารมณ์ออกมาเยอะมาก เป็นการถ่ายทำที่ยากลำบากพอสมควรเลยครับ

อิมจียอน: มันยากมากเลยนะคะที่จะเลือกแค่ฉากเดียวเพราะฉันชอบทุกฉากเลย เนื่องจากตัวละครของฉันทำหน้าที่สืบสวน ฉันก็เลยรู้สึกสนุกเพราะมีหลายฉากที่ฉันต้องใช้ร่างกาย เช่น วิ่งหรือกระโดดข้ามกำแพง แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายก็ตาม

ดูเหมือนว่าจะมีซีรีส์เกาหลีที่คล้ายกันหลายเรื่องที่เจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องความยุติธรรมและการแก้แค้น คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้มีจุดเด่นคืออะไร อะไรคือเสน่ห์ของ The Killing Vote

พัคแฮจิน: ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือคุณจะพูดถึงเรื่องเดียวกันนี้ด้วยวิธีที่แตกต่างไปจากเดิมยังไง ซีรีส์ของเรามีวิธีการเล่าเรื่องที่จะพาผู้ชมไปค้นหาว่าใครคือตัวละครที่ดี ตัวละครที่ไม่ดี และสุดท้าย ใครคือ ‘หน้ากากสุนัข (Dog Mask)’ คนที่หลายคนคาดหวังไว้อาจจะเป็น ‘Dog Mask’ ก็ได้ หรือคนที่หลายคนคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงก็อาจจะเป็น ‘Dog Mask’ ก็ได้เช่นกัน อยากให้ผู้ชมติดตามกันให้ดีๆ อย่าให้คลาดสายตานะครับทุกคน

พัคซองอุง: ผมคิดว่าการโหวตโทษประหารระดับประเทศคือจุดที่น่าสนใจของซีรีส์ การกำหนดโทษจากคะแนนเสียงของประชาชน ผมคิดว่าแนวคิดนี้มันทั้งใหม่และน่าสนใจในเวลาเดียวกัน

อิมจียอน: ‘The Killing Vote’ พูดถึงการโหวตโทษประหารชีวิตระดับชาติ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นในโลกความเป็นจริง คุณจะได้รู้สึกถึงการปลดปล่อยอารมณ์ที่รุนแรง และความตื่นเต้นที่แปลกใหม่จากเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณจะถูกปลุกในขณะที่ซีรีส์ตั้งตำถามกับเราว่าความยุติธรรมที่แท้จริงคืออะไรกันแน่

คุณคิดว่าถ้าคุณอยู่ในโลกของ The Killing Vote จริงๆ คุณมีแนวโน้มที่จะลงคะแนนโหวตไปในทิศทางใดมากกว่ากัน และเพราะอะไร ถ้าคุณเป็นผู้มีสิทธิโหวตในซีรีส์นี้ คุณจะมีเกณฑ์ในการตัดสินโทษอย่างไร

พัคแฮจิน: ผมไม่คิดว่าผมจะลงคะแนนได้ตอนนี้นะครับ ผมคิดว่าผมคงให้ลงโทษคนที่สมควรได้รับโทษนั้น แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีความมั่นใจมากพอที่จะรับมือกับผลสะท้อนกลับของผลลัพธ์การโหวตนั้นได้ แต่ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นในชีวิตจริง ผมอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

พัคซองอุง: ผมคิดว่าผมจะร่วมโหวตด้วยถ้าผมมีความรู้มากพอเกี่ยวกับคดีที่ต้องลงคะแนนโหวดระดับประเทศนะครับ ผมคิดว่าเกณฑ์การตัดสินใจของผมว่าจะร่วมโหวตหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับว่าผมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในคดีนั้นๆ หรือเปล่า

อิมจียอน: ฉันไม่คิดว่าจะเลือกได้ง่ายๆ นะคะ (หัวเราะ) ฉันคิดว่าฉันคงจะตัดสินใจหลังจากศึกษาเรื่องการโหวตและเป้าหมายอย่างใกล้ชิดแล้ว ฉันจะต้องค้นหาก่อนว่าการโหวตครั้งนี้คืออะไรกันแน่ และเกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อบ้าง

คุณเคยดูหรือชอบเว็บตูนที่เป็นต้นฉบับของซีรีส์เรื่องนี้ไหม อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร อะไรคือสิ่งที่เวอร์ชั่นเว็บตูนกับเวอร์ชั่นซีรีส์มีเหมือนกัน

พัคแฮจิน: ผมเคยอ่านเว็บตูนต้นฉบับครับ มีบางส่วนในเว็บตูนที่เหมือนและบางส่วนที่แตกต่างจากในซีรีส์ เรื่องราวที่เป็นต้นฉบับจากในเว็บตูนทำให้เราสามารถใช้เป็นโครงเรื่องหลักของได้ดี แต่ผมคิดว่าเราต้องพยายามไม่ติดอยู่ในกรอบเดิมๆ แล้วก็คิดว่าน่าจะสนุกดีถ้าได้ลองเปรียบเทียบเรื่องราวในเว็บตูนกับซีรีส์ดู

พัคซองอุง: โดยปกติผมจะไม่ค่อยดูงานต้นฉบับ เพราะผมกลัวว่าการแสดงของผมจะมันจะไปเหมือนกับตัวละครต้นฉบับนั้นเกินไป ส่วนใหญ่ผมจะใช่วิธีสร้างคาแรคเตอร์ขึ้นมาใหม่เองมากกว่าครับ

อิมจียอน: ฉันเคยได้อ่านเว็บตูนแล้วค่ะ เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามมาก เว็บตูนและซีรีส์มีทั้งส่วนที่เหมือนและต่างกัน และฉันคิดว่าการค้นหาว่ามีจุดไหนบ้างคงจะสนุกดี

อะไรคือเหตุผลที่ต้องดูซีรีส์เรื่องนี้ 

พัคแฮจิน: ‘The Killing Vote’ เป็นซีรีส์ที่น่าสนใจตั้งแต่ธีม บท นักแสดง ไปจนถึงการกำกับที่จริงจัง ผมคิดว่าเป็นซีรีส์ที่ดีควรค่ากับการแนะนำเลยครับ

พัคซองอุง: ผมคิดว่ามันเป็นซีรีส์ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสดใหม่ครับ เป็นซีรีส์ที่ทำให้สิ่งต่างๆ ที่หลายคนเคยจินตนาการไว้เป็นจริงขึ้นมา ผมคิดว่า ‘The Killing Vote’ จะสร้างความสนุกสนานที่ทรงพลังให้แก่ผู้ชม พร้อมกับการเดินเรื่องที่เหนือความคาดหมาย

อิมจียอน: ‘The Killing Vote’ พูดถึงการโหวตโทษประหารชีวิตระดับชาติ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นในโลกความเป็นจริง คุณจะได้รู้สึกถึงการปลดปล่อยอารมณ์ที่รุนแรง และความตื่นเต้นที่แปลกใหม่จากเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณจะถูกปลุกในขณะที่ซีรีส์ตั้งตำถามกับเราว่าความยุติธรรมที่แท้จริงคืออะไรกันแน่

ระบบการตัดสินโทษที่ใช้ในซีรีส์ดูเหมือนจะเป็นระบบประชาธิปไตยที่เคารพเสียงข้างมาก คุณคิดว่าระบบประเภทนี้ยุติธรรมจริงหรือเปล่า คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับระบบการลงคะแนนใน The Killing Vote

พัคแฮจิน: มันเป็นระบบที่เปิดให้พลเมืองทุกคนมีส่วนร่วมในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมภายใต้หน้ากากของประชาธิปไตยที่เคารพเสียงข้างมาก สำหรับตอนนี้ ผมไม่คิดว่าคุณจะเรียกว่ามันเป็นระบบที่ยุติธรรมจริงๆ หรอกนะครับ

พัคซองอุง: ผมคิดว่ามันเป็นระบบที่สามารถบรรเทาความรู้สึกหงุดหงิดของผู้คนได้นะ เพราะว่ามีปัญหาสังคมมากมายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีวิธีที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองโดยตรงได้ไม่มากนัก มันยากที่จะบอกว่ามันเป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นระบบที่ดีในแง่ของผลลัพธ์นะครับ

อิมจียอน: ฉันคิดว่าการเคารพเสียงข้างมากก็ยุติธรรมดีนะคะ แต่แม้ว่าจะผลการตัดสินจะขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงข้างมาก ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความไม่เป็นธรรมอื่นๆ ขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวังและรอบคอบมากๆ

คุณมีการเตรียมตัวเพื่อสวมบทบาทในซีรีส์ The Killing Vote อย่างไรบ้าง

พัคแฮจิน: ผมลองหาซีรีส์แนวเดียวกันมาดูหลายเรื่องเลยครับ ผมไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สัมผัสถึงชีวิตตำรวจจริงๆ รวมถึงได้รับคำแนะนำดีๆ มาด้วยครับ

พัคซองอุง: ก่อนอื่นเลย ผมเริ่มต้นจากการที่ตัวละครของผมมีลูกสาวชื่อนาแร ผมไม่ต้องการแสดงออกมาให้ให้ตัวละครดูชั่วร้าย ก็เลยใช้ความพยายามมากๆ ในการทำให้ควอนซอกจูเป็นตัวละครที่อยู่ระหว่างความดีและความชั่ว เพื่อที่เขาจะได้ไม่ดูเป็นตัวร้ายอย่างเดียว

อิมจียอน: ฉันพยายามที่จะแสดงเป็นจูฮยอนในแบบที่เธอเป็น จูฮยอนอายุพอๆ กับฉัน และฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่ดูเป็นมิตรมากกว่าตัวละครอื่นๆ ที่ฉันแสดงเมื่อเร็วๆ นี้ ฉันยังพยายามสร้างจูฮยอนที่มีลักษณะเหมือนอิมจียอนโดยเน้นไปที่พลังที่บ้าบิ่นและความดีของจูฮยอน

อะไรคือแก่นเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ มีประเด็นไหนที่คุณอยากจะส่งต่อไปให้ผู้ชมซีรีส์เรื่องนี้บ้างไหม 

พัคแฮจิน: ผมคิดว่าสิ่งที่ซีรีส์อยากจะสื่อสารคือ ‘ความยุติธรรมของคุณถูกต้องจริงหรือเปล่า’

พัคซองอุง: ความยุติธรรมแบบไหนที่เหมาะสม มันเป็นเรื่องยากที่การผดุงความยุติธรรมจะขึ้นอยู่กับการกระทำของคนคนเดียว ผมคิดว่าการเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกก็ต่อเมื่อมีผู้คนจำนวนมากสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมเท่านั้น ผมหวังว่าผู้ชมจะได้ดู ‘The Killing Vote’ และให้ความสนใจในเรื่องขั้นตอนที่นำไปสู่ความยุติธรรมกันเยอะๆ ครับ

อิมจียอน: ฉันคิดว่ามันเป็นซีรีส์ที่ทำให้คุณได้คิดถึงแก่นแท้ของความยุติธรรม มันคงจะดีถ้าหลังจากชมซีรีส์ ‘The Killing Vote’ แล้ว ผู้ชมจะได้ลองคิดว่าความยุติธรรมที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่

ตัวละครที่คุณแสดงเป็นคนแบบไหน มีบทบาทในเรื่องอย่างไร อะไรคือความเหมือนและความแตกต่างของตัวละครของคุณกับบุคลิกในชีวิตจริงของคุณ

พัคแฮจิน: คิมมูชาน เป็นตัวละครที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไขคดีให้ได้ เขายังเป็นตัวเดินเรื่องโดยแสดงให้เห็นทั้งด้านดีและชั่วร้ายของเหตุการณ์ต่างๆ ในซีรีส์ ผมคิดว่าเขามีบุคลิกที่แตกต่างจากบุคลิกของผมมากเลยครับ ผมไม่ได้เป็นคนบ้าบิ่นดุดันเหมือนมูชานขนาดนั้น

พัคซองอุง: ควอนซอกจูอาจดูเหมือนตัวร้าย แต่เขาไม่ใช่ตัวร้ายนะครับ ควอนซอกจูเป็นตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องในหลายมุม และก็คงจะดีถ้าเราได้ดูเรื่องราวที่มีศูนย์กลางมีควอนซอกจูเป็นแกนกลางของเรื่อง

อิมจียอน: จูฮยอนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานในสำนักงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสำนักงานตำรวจโซลมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว เธอเคยเป็นดาวเด่นของหน่วย แต่ปัจจุบันกลับเป็นที่รู้จักในฐานะตัวสร้างความรำคาญ ความยุติธรรมตรงไปตรงมาทำให้เธอมีเสน่ห์และก็โดดเด่นแบบมีเอกลักษณ์ ตัวละครนี้คล้ายกับบุคลิกจริงของฉันมากค่ะ

อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณคิดว่าต้องตอบตกลงรับบทนี้

พัคแฮจิน: ตอนแรกผมก็กังวลนะครับเพราะตัวละครที่ผมได้รับมันแตกต่างจากตัวจริงของผมมาก แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากแสดงบทนี้มากขึ้นด้วย

พัคซองอุง: ผมพบว่าคาแรคเตอร์ของควอนซอกจูยืนอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว  ซึ่งน่าดึงดูดมาก ผมคิดว่าผมน่าจะสามารถแสดงมุมมองใหม่ๆ ของตัวเองออกมาให้ผู้ชมเห็นได้ ผ่านคาแรคเตอร์ที่ดูคุ้นเคย แต่ก็แตกต่างไปจากภาพลักษณ์ของตัวละครอื่นๆ ที่ผมเคยรับบทมา

‘The Killing Vote – โหวตโทษประหาร’ สตรีมแล้วที่ Prime Video TH 

‘Cartier’ กับแนวคิด The Urban Oasis ณ บูติกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม

คาร์เทียร์ (Cartier) ชวนค้นพบความงดงามที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทยและความหรูหราแบบปารีเซียงตามแบบฉบับของเมซง ณ บูติกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม บูติกที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด The Urban Oasis แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยที่มีความพิเศษเฉพาะตัว

ร่วมถ่ายทอดคอนเซปต์ The Urban Oasis ที่หยิบยกธีมสำคัญจากเมซงอย่าง Flora & Fauna มาเล่าเรื่องผ่านการออกแบบบูติก โดยเราจะได้เห็นดีเทลความงดงามจากวิดีโอสุดเอ็กซ์คลูซีฟไปพร้อมกับ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส Friend of the Maison หญิงจากประเทศไทย และ ต่อ – ธนภพ ลีรัตนขจร Friend of the Maison คนล่าสุด ซึ่งเป็นผู้ชายคนแรกจากประเทศไทย เผยให้เห็นบูติกที่มีบรรยากาศอันผ่อนคลาย แต่เต็มไปด้วยความหรูหราร่วมสมัย ล้อไปกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ใจกลางความศิวิไลซ์ของเมืองหลวง นอกจากนี้ทางคาร์เทียร์ยังได้เชิญ ปอย ตรีชฎา และ เจฟ ซาเตอร์ มาร่วมเผยโฉม และถ่ายทอดความงดงามของบูติกสาขา ดิ เอ็มโพเรียมอีกด้วย

Troye Sivan เผยโมเมนต์มากรุงเทพฯ เพื่อถ่ายมิวสิกวิดิโอ ‘Got Me Started’ โดยมีพีพี ปรากฏตัวอยู่ในคลิป!

นักร้องหนุ่ม Troye Sivan เผยโมเมนต์การมากรุงเทพฯ เพื่อการถ่ายทำมิวสิกวิดิโอเพลง ‘Got Me Start’ โดยมีหนุ่ม ‘พีพี กฤษฏ์’ ปรากฏตัวอยู่ในคลิปด้วย! อีกไม่กี่วันเราก็จะได้ฟังและชม มิวสิกวิดิโอตัวล่าสุดของหนุ่ม Troye Sivan กันแล้วครับ หลังจากที่เขาคนนี้ได้มาโปรโมทอัลบั้มที่ประเทศไทย พร้อมกับการเผยให้แฟนๆ ได้ทราบกันถึงมิวสิกวิดิโอตัวต่อไปที่จะปล่อยนี้ เขามาถ่ายทำที่ประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน

และไม่นานเกินรอเขาก็ได้เผยถึงชื่อเพลง พร้อมเบื้องหลังการทำงานและดนตรีบางส่วน ให้เราได้ชมกันเป็นน้ำจิ้ม โดยมีแคปชั่นว่า “GOT ME STARTED เป็นมิวสิกวิดีโอที่ผมชอบ เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานมากที่สุด แค่คิดก็อยากร้องไห้แล้ว และเราถ่ายทำที่กรุงเทพฯ” ไม่เพียงเท่านั้นวินาทีที่ 0.16 เรายังได้เห็นถึงนักแสดงไทยมากความสามารถอย่าง ‘พีพี กฤษฏ์’ ปรากฏตัวอยู่ในคลิปวิดิโอที่ทรอยปล่อยออกมาด้วย มิวสิกวิดิโอ ‘GOT ME STARTED’ โดย Troye Sivan จะปล่อยให้เราได้ฟังกันในวันที่ 20 กันยายนนี้ บอกได้เลยว่าแฟนๆ ต้องห้ามพลาดครับ!

สัมผัสสวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง กับรีสอร์ตสุดหรู ‘Avani+ Fares Maldives Resort’

หากจะให้พูดถึงสถานที่ที่ผู้คนอยากหลีกหนีความวุ่นวายเพื่อไปพักผ่อนนั้น ‘ทะเล’ คงเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายลำดับต้นในแถบลิสต์ของหลายๆ คน และหมู่เกาะที่เต็มไปเสน่ห์อย่าง ‘มัลดีฟส์’ ก็คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นดั่งสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ทุกคนจะนึกถึง เราก็เช่นกันครับเพราะเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสบินลัดฟ้าเพื่อไปเปิดประสบการณ์การพักผ่อนสุดแสนพิเศษ ณ Avani+ Fares Maldives Resort

ในครั้งนี้ทางโรงแรมได้ชักชวนเราไปร่วมทริปพักผ่อนกันถึง 4 วัน 3 คืน ด้วยการเดินทางสุดแสนสบายจากประเทศไทยด้วยสายการบิน Air Asia ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง (DMK) บินลัดฟ้าสู่สนามบินมัลดีฟส์ มาเล (MLE) เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์ โดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 4 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น เราก็จะได้พบกับเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามแล้วครับ หลังจากนั้นเราก็ได้นั่ง Seaplane ราว 40 นาทีเพื่อไปยังจุดมุ่งหมายของเราในทริปนี้ และในที่สุดเราก็ได้มาถึงโรงแรม Avani+ Fares Maldives Resort กับการต้นรับอันแสนอบอุ่นของทางโรงแรม สามารถสร้างความประทับใจให้เราได้ยิ้มกันตั้งแต่แรกพบ และในวันนี้ก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแก่นักท่องเที่ยวที่รักในมนต์เสน่ห์แห่งคลื่นแล้ววันนี้ครับ โรงแรมแห่งนี้ ถูกประกอบด้วยห้องพักจำนวน 176 ห้อง พร้อมวิลล่าที่มีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 ถึง 4 ห้องนอน เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบหมู่คณะหรือครอบครัวใหญ่ และยังมีวิลล่าที่ตั้งอยู่เหนือน้ำทะเลพร้อมวิว ดอลฟิน เบย์ อันงดงาม สำหรับคู่รักที่มองหาสถานที่พักผ่อนในฝันที่ไม่เหมือนใคร

ไม่เพียงเท่านั้นโรงแรมแห่งนี้ ยังโดดเด่นด้วยห้องอาหารที่จัดเต็มแบบไม่ต้องกังวล โดยทางโรงแรมมีห้องอาหารถึง 7 ห้องด้วยกัน รวมทั้งบริการอาหารมื้อพิเศษแบบส่วนตัวบนชายหาดและในวิลล่า แขกผู้เข้าพักจะได้ลิ้มรสอาหารนานาชาติและอาหารสไตล์มัลดีเวียน ณ ห้องอาหาร Ocean Terrace,  sห้องอาหารและบาร์ริมสระว่ายน้ำ Skipjack, ห้องอาหารทะเลสไตล์ปิ้งย่าง Charcoal, บริเวณล็อบบี้ยังมีร้าน Hammock ที่เสิร์ฟอาหารว่างแบบ แกรป แอนด์ โก และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพคอมบูชา, ในขณะที่ Tribe และ Smuggler’s Shack ให้บริการเครื่องดื่มนานาชนิดตั้งแต่ยามเย็นไปจนถึงค่ำคืนและยังนำเสนอตัวเลือกเหล้ารัมที่มากที่สุดในมัลดีฟส์อีกด้วย

บอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งทริปสุดประทับใจที่ยากจะลืมเลือน เพราะทุกโมเมนต์ที่ได้ไปสัมผัสสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างไม่ยาก เพียงแค่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง เราก็จะได้พบสวรรค์บนหาดทรายอย่างแท้จริง เพื่อฉลองการเปิดให้บริการของโรงแรมอวานีแห่งแรกในมัลดีฟส์ อวานี พลัส แฟเรส มัลดีฟส์ รีสอร์ท ทางโรงแรมก็ได้มอบข้อเสนอห้องพักราคาพิเศษมากมาย โดยมีทั้งราคาห้องพักแบบรวมอาหารเช้า, ราคาห้องพักแบบ Half-board, ราคาห้องพักแบบ Full-board, และราคาห้องพักแบบ All-inclusive อีกทั้งการเดินทางสู่มัลดีฟส์ ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่มัลดีฟส์ทุกวัน โดยจะเพิ่มเป็น 9 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2566 เป็นต้นไป บอกได้เลยว่าหากหลายๆ คนแพลนไว้ในใจอยู่ละก็.. โรงแรมนี้เป็นอีกหนึ่งที่ที่ห้ามพลาดเลยครับ!

‘aespa’ เติมพลังความสดใสในซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงใหม่สุดคูล ‘Better Things’

‘aespa’ เติมพลังความสดใสพร้อมสะกดทุกสายตาด้วยภาพลักษณ์สุดฮอต

ในซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงใหม่สุดคูล ‘Better Things’

‘aespa’ (เอสป้า) เติมพลังความสดใสพร้อมสะกดทุกสายตาด้วยภาพลักษณ์สุดฮอต ในซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงใหม่สุดคูล ‘Better Things’ (เบทเทอร์ ธิงส์) ซึ่งปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้รับฟังทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงออนไลน์ทั่วโลก เช่น Spotify, Apple Music, iTunes ฯลฯ รวมถึงมิวสิกวิดีโอของเพลง ‘Better Things’ ที่รับชมได้ในช่องSMTOWN ทาง YouTube

เพลงซัมเมอร์ตามสไตล์ aespa (เอสป้า) อย่าง ‘Better Things’ (เบทเทอร์ ธิงส์) เป็นเพลงแดนซ์จังหวะเร็วแบบมินิมอล ความโดดเด่นอยู่ตรงเสียงเครื่องกระทบที่เป็นจังหวะ และรูปแบบจังหวะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีทำนองและคอร์ดที่สดใสเหมาะกับฤดูร้อน ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเพลงนี้ ในเนื้อเพลงถ่ายทอดข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับ การเชิญชวนให้ทุกคนใช้เวลากับสิ่งที่มีค่ามากขึ้น สำหรับมิวสิกวิดีโอของเพลง ‘Better Things’ (เบทเทอร์ ธิงส์) แสดงให้เห็นอารมณ์ของน้ำอันลึกลับ ซึ่งเข้ากับบรรยากาศของเพลง ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์ที่แตกต่างของ ‘aespa’ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ชมได้เป็นอย่างดี จากการผสมผสานระหว่างภาพที่สวยงามตระการตาและภาพลักษณ์ที่เหมือนฝันของ ‘aespa’ ที่ออกผจญภัยครั้งใหม่

นอกจากนี้ ‘aespa’ (เอสป้า) เป็นศิลปินเค-ป๊อปวงแรกที่ได้ขึ้นปก DORKนิตยสารผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีของสหราชอาณาจักร โดยในตอนท้ายของบทความDORK กล่าวถึงเพลงใหม่ของ ‘Better Things’ (เบทเทอร์ ธิงส์) ว่า “ดนตรีของ aespa ช่วงหนึ่งมีพื้นฐานมาจากความทรงพลัง แต่เพลงใหม่ครั้งนี้ไม่ผูกมัดกับสตอรี่ไลน์ เพลง ‘Better Things’ ได้ดึงเอาเสียงร้องและการประสานเสียงที่ดีที่สุดออกมา เช่นเดียวกับเพลงประกอบอัลบั้มอย่าง ‘Thirsty’ และซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงแรก ‘Life’s Too Short’”

HYO พิสูจน์การเป็น ‘ราชินีแห่งการแสดง’ ในเพลงใหม่ ‘Picture’

HYO พิสูจน์การเป็น ราชินีแห่งการแสดง’ ในเพลงใหม่ ‘Picture’

โชว์พลังสุดโดดเด่นผ่านการแสดงที่อัปเกรดอีกขั้น

‘HYO’ (ฮโย) กลับมาพิสูจน์การเป็น ‘ราชินีแห่งการแสดง’ พร้อมโชว์พลังสุดโดดเด่นผ่านการแสดงที่อัปเกรดอีกขั้น ในซิงเกิลล่าสุด ‘Picture’ (พิกเจอร์) ผลงานเพลงใหม่ในรอบ 1 ปี 3 เดือน หลังจากเพลงไตเติล ‘DEEP’ ของมินิอัลบั้มชุดแรกที่วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2565 ก่อนหน้านี้ ‘HYO’ (ฮโย) ได้แสดงศักยภาพในฐานะ ‘ราชินีแห่งการแสดง’ ผ่านการทำกิจกรรมโปรโมตในวง Girls’ Generation และโปรเจกต์ยูนิต GOT the beat รวมถึงโชว์หลากหลายเสน่ห์ ในฐานะ DJ ด้วยการปล่อยซิงเกิลแรก ‘Sober’ ในเดือนเมษายน 2561 และนำเสนอสีสันทางดนตรีอันไม่เหมือนใครในฐานะศิลปินเดี่ยว ผ่านซิงเกิลต่าง ๆ ทั้ง ‘DESSERT’, ’Second’ และ ‘DEEP’ ซึ่งได้รับความรักอันอบอุ่นจากแฟนเพลงมากมาย

              สำหรับซิงเกิลล่าสุด ‘Picture’ (พิกเจอร์) ที่ปล่อยออกมาให้ทุกคนได้รับฟังเรียบร้อย ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงออนไลน์ต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ Melon, FLO, Genie, iTunes, Apple Music, Spotify, QQ Music, KuGou Music, Kuwo Music นั้น เป็นเพลงแดนซ์ ป็อป แนว Moombahton ที่มีจังหวะซ้ำ ๆ และเย้ายวนชวนติดหู ตลอดจนการผสมผสานจังหวะที่ร้อนแรง เสียงฟลูตที่เข้มข้น และเสียงแตรที่ทรงพลัง เข้ากับเสียงร้องที่มีเอกลักษณ์ของ ‘HYO’ (ฮโย) ในเนื้อเพลงพูดถึงการหวังว่า ช่วงเวลาที่ตกหลุมรักกันและกันจะคงอยู่ตลอดไป เหมือนรูปถ่ายที่จะคงอยู่ตลอดไป

              นอกจากนี้ มิวสิกวิดีโอของเพลง ‘Picture’ (พิกเจอร์) จะเล่าเรื่องราวของ ‘HYO’ (ฮโย) อาชญากรที่มีความเป็นอิสระและหัวรั้น ที่ได้รับแสงสปอตไลท์และกล้องตามติดในทุกที่ที่ไป โดยเธอได้ผู้ตกหลุมรักกับเจ้าพนักงานปราบปรามผู้ร้าย ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านการกำกับมุมกล้องแบบไดนามิก ร่วมด้วยสีสันแบบภาพยนตร์ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงของเพลง ‘Picture’ (พิกเจอร์) ประกอบด้วยท่าเต้นแนว Dancehall ที่สื่ออารมณ์อันเซ็กซี่ของเพลงได้อย่างทรงพลังและมีจังหวะ อีกทั้งตามเนื้อเพลงที่ว่า ‘Picture’ ก็จะมีท่ามือที่ทำเป็นขอบเหมือนกับถ่ายรูปและถูกถ่ายรูป ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกในการรับชม