MISS DIOR เก้าอี้เมดัลเลียนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไอคอนิกของแบรนด์ซึ่งได้รับการตีความใหม่โดย ฟิลิปป์ สตาร์ค เตรียมเปิดตัวที่งาน Salone del Mobile 2022

นี่เป็นครั้งแรกที่ ดิออร์ เมซง (Dior Maison) ได้เชื้อเชิญให้ฟิลิปป์ สตาร์ค(Philippe Stark) หยิบเอาผลงานที่ถือเป็นอีกหนึ่งไอคอนของแบรนด์ นั่นคือ เก้าอี้ เดอะ เมดัลเลียน (The Medallion Chair) มาตีความใหม่ โดยผลงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากการร่วมมือครั้งพิเศษนี้ได้ถูกเผยโฉมในงาน ซาโลเน เดล โมบิเล 2022 (Salone del Mobile 2022) ซึ่งจัดขึ้นในมิลาน ระหว่างวันที่ 7-12 มิถุนายนนี้ 

เก้าอี้ เดอะ เมดัลเลียน ถือสัญลักษณ์สำคัญที่ถือเป็นตัวแทนของแนวคิด ‘art de vivre’ แบบฝรั่งเศสและงานศิลปะในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อันเป็นที่รักยิ่งของคริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) ถือเป็นแหล่งที่มาแห่งแรงบันดาลใจอันไร้ซึ่งขีดจำกัด ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในการศึกษาค้นคว้าผลงานในตำนาน ตลอดจนนัยยะไอคอนชิ้นนี้หมายรวมถึง ฟิลิปป์ สตาร์ค วาดภาพ มิส ดิออร์ (Miss Dior) อันเป็นผลงานที่เขาตีความขึ้นมาใหม่ ประกอบขึ้นด้วยเส้นสายที่บริสุทธิ์สะอาดตา พร้อมจุดเด่นที่ลุคที่ดูทันสมัย เสริมไว้ด้วยความเบาอันเกิดจากการเลือกใช้อะลูมิเนียมซึ่งเขาชื่นชอบเป็นพิเศษเนื่องจากความสง่างามและคงทน ผลลัพธ์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ถูกสื่อให้เห็นผ่านเก้าอี้สามรุ่น โดยหนึ่งในนั้นดูโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยที่วางแขนที่ปรากฎอยู่เพียงด้านเดียว*

ผลงานอันสง่างามและไร้ซึ่งกาลเวลาเหล่านี้ได้รับการยกย่องให้เทียบเท่างานศิลปะอันทรงคุณค่าและได้รับการจัดแสดง ณ ปาลาซโซ ซิตเตอริโอ (Palazzo Citterio) คฤหาสน์จากศตวรรษที่ 18 อันโอ่โถงซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เก้าอี้ทั้งสามรุ่นจะปรากฎท่ามกลางฉากหลังอันดำสนิทซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ต่างจากฉากในละครเวที ทั้งนี้เพื่อให้ถึงเอาเฉดสีต่าง ๆ ของเก้าอี้ให้ยิ่งดูโดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสีขัดมัน ชุบโครมดำ ชมพูคอปเปอร์ หรือทอง

การติดตั้งและจัดแสดงผลงานเก้าอี้ เดอะ เมดัลเลียน นี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อมอบประสบการณ์ที่ผู้เข้าชมจะได้รู้สึกดื่มด่ำเป็นส่วนหนึ่งของงาน เสริมความมีชีวิตชีวาด้วยการจัดแสง ตลอดจนการเรียบเรียงดนตรีที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับดิออร์ โดย Soundwalk Collective 

rhunrun เรียบเรียง

f g o T n

a g t o g

SELF 07 โปรเจกต์พิเศษจาก Saint Laurent ที่ร่วมกับศิลปินชื่อดัง 6 คนและจัดแสดงงานที่ 6 หัวเมืองใหญ่ทั่วโลก

SELF 07 คือคำวิจารณ์ทางศิลปะที่ถ่ายทอดผ่านทางเลนส์ของทั้ง 6 ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ Saint Laurent ซึ่งจะถูกเผยพร้อมกันในหลากหัวเมืองทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการเชื่อมต่อโลกอย่างไร้ตัวตน ทั้ง 6 ผลงานแสดงจะถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9-12 มิถุนายน ในปารีส, ลอนดอน, นิวยอร์ก, โตเกียว, โซลและเซี่ยงไฮ้ โดยผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับศิลปะและแฟชั่นผ่านแนวคิดของ Harry Gruyaert, Olivia Arthur, Alex Webb, Takashi Homma*, Daesung Lee* and Birdhead*.

*Magnum Photos Guests

rhunrun เรียบเรียง

พาไปชมบรรยากาศเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Royal Oak เรือนเวลาสุดไอคอนิกที่หลายคนอยากหามาครอบครองจาก Audemars Piguet

โอเดอมาร์ ปิเกต์แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เฉลิมฉลองการครบรอบอันยิ่งใหญ่แห่งคอลเลกชันรอยัล  โอ๊ค – เผยโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1972 ณบาเซล แฟร์ (Basel Fair) – มหกรรมการจัดแสดงนาฬิการะดับโลก ซึ่งหมุนเวียนจัดขึ้นตามเมืองสำคัญต่างๆโอเดอมาร์ ปิเกต์ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการขนาดย่อมที่จะมอบประสบการณ์เกี่ยวกับรอยัล โอ๊ค ณ ดูไบ ซูริก นิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้ ระหว่างเดือนเมษายนจนถึงกรกฎาคม2022 นิทรรศการขนาดย่อมที่เปี่ยมด้วยความรู้เหล่านี้จะพาผู้เยี่ยมชมเดินทางไปพบกับดีไซน์และนวัตกรรมกลไกและพัฒนาการต่างๆ ของรอยัล โอ๊คตลอด50ปีที่ผ่านมา

การเฉลิมฉลองทั่วโลก

การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของรอยัล โอ๊ค ได้เริ่มขึ้นด้วยการสร้างประสบการณ์ทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์อันเหนือคำบรรยาย ณ ใจกลางของดูไบ มอลล์ (Dubai Mall) โดยจัดแสดงช่วง 15-24 เมษายน 2022 ที่ผ่านมาผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินไปกับจักรวาลแห่งวัฒนธรรมของรอยัล โอ๊ค และติดตามการเดินทางของนาฬิกาเรือนนี้ตั้งแต่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ไปจนถึงพัฒนาการแห่งยุคสมัยที่เปิดโลกนาฬิกาให้กว้างขึ้น ประวัติศาสตร์ 5 ทศวรรษของคอลเลกชันนี้ถูกนำเสนอผ่านเรื่องราวอันน่าทึ่งและดื่มด่ำไปกับสื่อที่เปี่ยมด้วยความรู้ บอกเล่าแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต วิสัยทัศน์ที่เด็ดเดี่ยวสะท้อนให้เห็นตั้งแต่ต้นกำเนิด ในบูธจัดแสดงเรือนเวลาที่มีความร่วมสมัยผสานความดั้งเดิม เพื่อมอบประสบการณ์ที่แสนตราตรึงให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโซนที่มอบความรู้เกี่ยวกับรอยัล โอ๊คและแบรนด์โดยรวมผ่านสื่อดิจิทัล การจัดแสดงในครั้งถัดมาจัดขึ้นที่ซูริกตั้งแต่ 6-12 พฤษภาคม ตามมาด้วยที่นิวยอร์ก ในวันที่ 19-25 พฤษภาคม และที่เซี่ยงไฮ้ในช่วงเดือนกรกฎาคม

Pop-up exhibitions จะจัดแสดงที่โตเกียว ฮ่องกง และลอนดอน ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงกันยายน สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันทันสมัย นิทรรศการขนาดย่อมนี้บอกเล่าเรื่องราววิวัฒนาการการสร้างสรรค์รอยัล โอ๊ค และประวัติศาสตร์ของเรือนเวลาที่ร่วมสมัยผสานกับความดั้งเดิม

ปิดท้ายด้วยการรับประทานอาหารค่ำสุดพิเศษที่จะจัดขึ้นในเมืองสำคัญต่าง ๆ เช่นสิงคโปร์ ไทเป กรุงเทพมหานคร ลอนดอน และตูริน โดยลูกค้าและนักสะสมนาฬิกามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันแสนล้ำค่าและคอลเลกชันรุ่นดั้งเดิมของรอยัล โอ๊ค

การเปิดตัวโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรอยัล โอ๊ค

รอยัล โอ๊ค (Royal Oak) ออกแบบโดยเจอรัล เจนตา (Gérald Genta) ให้กับโอเดอมาร์ ปิเกต์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15เมษายน 1972 ณ บาเซล แฟร์ (Basel Fair) เรือนเวลาอันล้ำยุคนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการนาฬิกาด้วยตัวเรือนขนาดใหญ่ที่ทำด้วยสแตนเลส สตีล พร้อมประกอบด้วยมือทุกขั้นตอน โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงแปดเหลี่ยม ยึดด้วยสกรูหกเหลี่ยมอันสะดุดตา สายสแตนเลส สตีลที่ออกแบบอย่างล้ำสมัยและกลไกไขลานอัตโนมัติอันบางเฉียบ แม้จะมีกระแสต่อต้านในช่วงแรก แต่เรือนเวลานี้ก็ได้เอาชนะทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์และผสมผสานความสปอร์ตกับความเชี่ยวชาญของบรรพบุรุษได้อย่างลงตัว รอยัล โอ๊คได้จุดประกายให้เกิดยุคการผลิตนาฬิกาชั้นสูงแบบใหม่ที่แปรผันไปตามไลฟ์สไตล์ของผู้คน เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมแห่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างแท้จริง และเป็นผืนผ้าที่แต่งแต้มด้วยนวัตกรรมการออกแบบตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน50 ปีผ่านไป รอยัล โอ๊คถูกสร้างสรรค์ออกมากว่า 500 เรือนในขนาด วัสดุ รูปแบบ และกลไกต่างๆ

โดยทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้คอลเลกชันกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในทุกองค์ประกอบตั้งแต่กลไกภายในและก้าวข้ามไปมากกว่าการผลิตนาฬิกา วาระครบรอบ 50 ปีของรอยัล โอ๊คนี้ได้นำพาผู้หลงใหลนาฬิกามารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และจิตวิญญาณอันสดใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อีก

rhunrun เรียบเรียง

เตรียมชมโชว์สุดอลังการกลางกรุงเทพจาก Louis Vuitton เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจแทนการจากลาของ Virgil Abloh ดีไซน์เนอร์อัจฉริยะผู้ล่วงลับ

หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) เตรียมจัดแฟชั่นโชว์รูปแบบ Spin-Off คอลเลคชั่นสุภาพบุรุษฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2022 ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ ณ The Pinnacle ชั้น 8 ของ ICONSIAM โดยนับเป็นครั้งแรกของการจัดแฟชั่นโชว์ Spin-Off คอลเลคชั่นสุภาพบุรุษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นำการบอกเล่าเรื่องราวแรงบันดาลใจของเวอร์จิล อาโบลห์ (Virgil Abloh) ตลอด 8 ฤดูกาลในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ (Men’s Artistic Director) ของหลุยส์ วิตตอง

ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดโชว์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของหลุยส์ วิตตอง รวมทั้งแพลตฟอร์มสำคัญในประเทศไทยอย่าง LINE Official @LouisVuittonTH, และเว็บไซต์ th.louisvuitton.com

rhunrun เรียบเรียง

หรูหราขั้นสุดให้กับน้องหมาแสนรัก Celine ปล่อยไอเท็มสำหรับน้องหมาหลายรายการตั้งแต่ปลอกคอไปจนถึงชามอาหารด้วยวัสดุสุดพรีเมี่ยม 

หรูหราขั้นสุดให้กับน้องหมาแสนรัก! Celine โดยดีไซเนอร์มาดขรึม Hedi Slimane เตรียมเปิดตัวคอลเล็กชั่น accessories เพื่อน้องหมาเป็นครั้งแรก (ตัว Hedi เองลงมือถ่ายภาพแคมเปญนี้ด้วยตัวเองซึ่งใช้เก้าอี้จากแบรนด์ PIERRE PAULIN มาประกอบฉาก)โดยจะมีตั้งแต่ สายจูง ปลอกคอ ที่ตกแต่งด้วยหนังแท้และหมุดทองเหลือง ชามใส่น้ำและอาหาร และอื่นๆอีกมากมายเตรียมให้ได้จับจองในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ครับ


ชอบชิ้นไหนบ้างคอมเมนท์บอกเราได้เลยครับ! (สาขาที่วางจำหน่ายชมได้ที่โพส IG ด้านล่างครับ)

rhunrun เรียบเรียง

พบกับคอลเล็กชั่นพิเศษจาก Vans เพียงที่เดียวในไทยบน Vans Wall ที่ร้านมัลติแบรนด์คาแร็คเตอร์เท่ Siwilai 

SIWILAI ผู้จัดจำหน่าย Vault by Vans อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมกับ Vans เนรมิต Sneaker Wall บนโครงสร้างการออกแบบโดยสตูดิโอออกแบบระดับโลก Yabu Pushelberg โดยรวบรวมสนีคเกอร์พรีเมี่ยมของ Vans ในไลน์ Vault by Vans ทั้งคลาสสิคและคอลเลคชั่นพิเศษสุดแรร์ที่ร่วมออกแบบกับศิลปินและแบรนด์ชื่อดัง อาทิ Javier Calleja, Bedwin & The Heartbreakers, Wacko Maria, Ray Barbee x Leica, Doable และอีกมากมาย ไว้เฉพาะ “ที่นี่และที่เดียว” ณ SIWILAI Store ชั้น 5 Central Embassy

พบกับคอลเลคชั่นพิเศษล่าสุดอย่าง

VAULT BY VANS x JULIAN KLINCEWICZ การกลับมา collab กันอีกครั้งของศิลปินหลากความสามารถ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกในวัยเด็กที่มิชิแกน ด้วยรองเท้าที่สวมใส่วิ่งเล่น และทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ ในช่วงซัมเมอร์ SIWILAI นำเสนอ OG Style 31 LX สนีคเกอร์หนังกลับในโทนสี jewel-toned อย่าง turquoise และ amethyst ในธีม PURE IMAGINATION ราคา 4,990-.

Vault by Vans x Museum of Peace & Quiet

Christion และ Ashley Lennon ผู้ก่อตั้ง Museum of Peace & Quiet แบรนด์เครื่องแต่งกายออนไลน์ชื่อดังจากแคลิฟอร์เนียที่ให้ความสำคัญในดีไซน์และความเรียบง่าย จับมือ Vans ร่วมออกแบบรองเท้า ในโทนสีและดีไซน์เอกลักษณ์ของ MoPQ สวมใส่ง่ายสบาย บนวัสดุพรีเมี่ยมของ Vault by Vans ราคา 5,590-.

Vault by Vans x Taka Hayashi

การจับมือร่วมกับศิลปินชาวญี่ปุ่น และดีไซเนอร์แบรนด์สเก็ตในแคลิฟอร์เนีย เปิดตัวรองเท้า AMZN TRL LX ในโทนสี earthy trail-mix สองสีอย่าง Pecan Brown (สีน้ำตาลพีแคน) และ Fig (สีม่วงลูกฟิก) ด้วยซิลลูเอทที่เป็นเอกลักษณ์ของการผสมผสานหนัง หนังกลับ และผ้าตาข่าย ดีไซน์ในธีม hiking-ready ราคา 5,990-.

พบกับความพิเศษของ Vault by Vans ที่สามารถค้นพบได้ในที่เดียว ที่ SIWILAI Store ชั้น 5 Central Embassy เท่านั้น

rhunrun เรียบเรียง

Saint Laurent ร่วมงานกับศิลปินชาวอเมริกัน Nick Turner ที่มีผลงานโดดเด่นเกี่ยวกับธรรมชาติและมนุษย์จัดแสดงผลงานที่ร้าน Saint Laurent Rive Droite ในปารีสและลอสแองเจลิส

Anthony Vaccarello ร่วมงานกับศิลปินชาวอเมริกัน Nick Turner จัดแสดงผลงานที่ร้าน Saint Laurent Rive Droite ในปารีสและลอสแองเจลิส

Nick Turner เป็นศิลปินและช่างภาพชาวอเมริกันที่มีความสนใจอย่างมากในเรื่องของธรรมชาติและมนุษย์ เขาทำงานกับวัสดุที่หลากหลาย รวมถึงภาพวาด ภาพถ่าย และงานคอลลาจภาพตัดปะ ซึ่งความสัมพันธ์ของเขากับธรรมชาติ ความสนใจในม้าและการเล่นกระดานโต้คลื่นนั้นถูกผสมผสานเข้ากับลวดลายของประวัติครอบครัว และภูมิประเทศที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่จากทั่วโลก รวมถึงหนังสือที่ตีพิมพ์โดย SLRD Editions ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello ที่มีวางจำหน่ายเฉพาะสำหรับการซื้อเท่านั้น

มากไปกว่านั้น ในสโตร์ยังมีการจัดแสดงผลงานของอื่นๆ ของเขาเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ภาพวาดและภาพคอลลาจตัดปะรอบๆ การโต้คลื่นและภาพพิมพ์พระอาทิตย์ตก รวมถึงผลงานภาพพิมพ์ลายม้าที่จัดแสดงในปารีส ในขณะที่งานศิลปะภาพต้นปาล์มและโลมาปรากฏขึ้นที่ลอสแองเจลิส

เพื่อเติมเต็มนิทรรศการนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น Anthony Vaccarello ยังได้พัฒนาสินค้าคอลเล็กชั่นไลฟ์สไตล์สุดพิเศษอีกด้วย รวมถึงผลงานของ Nick Turner ได้ถูกนำมาตีความเล่าใหม่เป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่ถูกคัดสรรมาแล้ว อาทิเช่น กระเป๋าแบ็คแพ็คสะพายหลัง รองเท้าผ้าใบเวนิส และกระเป๋ารุ่นไอคอนิคอย่าง 5 à 7 รวมถึงการร่วมงานครั้งใหม่เนื่องในโอกาศพิเศษกับNew Era ที่นำสีสันและลวดลายงานของ Nick Turner มาใช้ประดับตกแต่งอีกด้วย

rhunrun เรียบเรียง

Gucci เลือกสถานที่โชว์ Cruise Collection ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ กับสถานที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างปราสาทบนยอดเขา Castel del Monte ที่ถูกยกย่องให้เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมของโลก

Gucci เลือกสถานที่โชว์ Cruise Collection ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ กับสถานที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างปราสาทบนยอดเขา Castel del Monte ในแคว้น Apulia ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิตาลี ที่สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1240–1250 โดย King Frederick II

และถูกยกให้เป็น UNESCO World Heritage Site อีกด้วย รอชมโชว์ฝีมือการออกแบบของ Alessandro Michele กันได้เลยครับ

rhunrun เรียบเรียง

นิทรรศการ Shadow Dancing: Where Can We Find a Silver Lining in Challenging Times?

Shadow Dancing: Where Can We Find a Silver Lining in Challenging Times? เป็นนิทรรศการต่อเนื่องจากโครงการ Challenging Time, Artists and Curatorial Exchange, and Research Residency Program Between Thailand and Taiwan 2020 ซึ่งเป็นโครงการศิลปินในพำนักเพื่อการแลกเปลี่ยนและวิจัยเชิงทดลองออนไลน์ ภายใต้ความร่วมมือทางไกลระหว่าง หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน ในกรุงเทพฯ และ พิพิธภัณฑ์ฮงกา ในไทเป

นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายที่มีอยู่ระหว่างแวดวงศิลปะของประเทศไทยกับไต้หวันแล้ว นิทรรศการนี้ยังถือเป็นความร่วมมือระหว่างภัณฑารักษ์ ศิลปิน กับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงผู้ชม ซึ่งมุ่งเน้นการสนับสนุนและส่งเสริมคุณค่าของการร่วมสนทนา การเชื่อมต่อถึงกัน และความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน อันเป็นแบบอย่างสำหรับการอยู่ในโลกนี้ในช่วงเวลาที่ท้าทายในปัจจุบัน

นิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการลำดับที่ 2 ในนิทรรศการชุดสงครามเย็นของหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน โดยเน้นที่บริบททางสังคมการเมืองและวัฒนธรรมของประเทศไทยและไต้หวัน ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองมาจนถึงปัจจุบัน นิทรรศการนี้ที่เป็นผลลัพธ์ของการอภิปรายอย่างต่อเนื่องระหว่างศิลปินและองค์กรศิลปะทั้งสองแห่งที่เข้าร่วม โดยเป็นการนำประวัติศาสตร์สงครามเย็นกลับมาพิจารณาใหม่ และยังใช้เป็นจุดเริ่มต้นที่มีส่วนช่วยในการสำรวจการคงอยู่ของประวัติศาสตร์และผลพวงจากยุคสงครามเย็น ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นและสัมพันธ์กับความเป็นจริงร่วมสมัย อีกทั้งยังส่งผลถึงการมองหาความเป็นไปได้ในอนาคตที่คลุมเครือ

Shadow Dancing เปิดเผยเรื่องเล่าของประวัติศาสตร์กระแสรองที่ทำให้เราครุ่นคิดพิจารณาเกี่ยวกับสถานการณ์ของชีวิตความเป็นอยู่ในโลกที่ซับซ้อนและมีหลากหลายแง่มุม โดยหยิบยืมมโนทัศน์จากการ การเคลื่อนไหวในความมืด อันเป็นพลวัตที่ตรงข้ามกับความชัดแจ้งและความชอบธรรม ในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และเมื่อเราต้องจมอยู่กับความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ เราจะมองหาแสงสว่างในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ได้จากที่ไหน? โดยที่เราไม่รู้ตัว จังหวะชีวิตของเราถูกก่อกวนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยังไม่นับความจริงที่ว่าเราได้ใช้ชีวิตภายใต้การควบคุมจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกมาตลอด ในทำนองเดียวกัน Shadow Dancing ยังพาดพิงถึงประวัติศาสตร์อันซับซ้อนและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์การเมืองของไต้หวัน ตลอดจนสถานการณ์ทางสังคมและการเมืองที่ปั่นป่วนในไทยที่คล้ายกับถูกม่านหมอกสีดำปกคลุมไปทั่ว ด้วยเหตุนี้ ผลลัพธ์จากการพบปะพูดคุยเสมือนจริงและการวิจัยออนไลน์ตลอดระยะเวลาสี่เดือนโดยศิลปินชาวไต้หวันและชาวไทยทั้ง 8 คน ประกอบด้วยผลงานศิลปะสหสาขา ที่เน้นประสบการณ์และการมีส่วนร่วม รวมถึงศิลปะวิดีโอการแสดงและศิลปะจัดวางเสียง ผลงานของศิลปินต่างสะท้อนมุมมองอันหลากหลายและนำเสนอการอภิปรายอันล้ำลึกหลายชั้นและต่อเนื่อง

จากความสนใจเกี่ยวกับการตั้งฐานทัพของสหรัฐฯในบ้านเกิดของ ปณชัย ชัยจิรรัตน์ ได้สำรวจแนวคิดเรื่องพื้นที่นอกอาณาเขต และตรวจสอบหาความจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของทหารในเขตเป่ยโถวและบริเวณใกล้เคียงในไต้หวัน นอกจากนี้เขายังพิจารณาการมีอยู่ของพื้นที่นี้ภายในไทย ซึ่งทำให้เขาได้พบบันทึกเหตุการณ์ของกองทหารก๊กมินตั๋ง กองพันที่ 93 ซึ่งหลังจากถอนที่มั่นออกจากเมืองยูนนานในปี พ.ศ. 2492 บางส่วนได้อพยพไปไต้หวันผ่านโครงการความร่วมมือทางทหารระหว่างไต้หวัน ไทย พม่า กับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ถูกทิ้งและยังคงอาศัยอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน ส่วน ศรภัทร ภัทราคร ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่และการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกและความเป็นประชาธิปไตย โดยเขาอ้างถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมและนักเคลื่อนไหวที่สำคัญในประวัติศาสตร์จากทั้งสองฝั่ง ด้วยความที่เขาสนใจเรื่องเล่ากระแสรองและต้องการรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกี่ยวข้องมาไว้ในงานของเขาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยวิธีการที่เขาทำสามารถสร้างพื้นที่ให้เรื่องเล่าขนาดย่อมและเปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการเติมส่วนที่ขาดหายไป

ผลงานของ เอนคาริอน อัง ใช้เทคนิคการดัดแปลงเสียงและภาษาที่อ้างถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่มีความเกี่ยวเนื่องกับภูมิศาสตร์และปรากฏการณ์ระดับโลก ศิลปินทำการรวบรวมภาพยนตร์ไทยและคลิปเสียงจากแหล่งต่าง ๆ มากมาย และสร้างสรรค์เสียงในรูปแบบใหม่ขึ้นมาเพื่อท้าทายการรับรู้และความเข้าใจของเรา ในขณะที่ เจิ้ง ถิงถิง ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง The Beach และภาพข่าวในประเทศไทยของผู้ประท้วงสองคนที่ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำไปยังรัฐสภา ศิลปินฉายภาพเกาะพีพีของประเทศไทย อันเป็นเกาะสวรรค์ของคนไทยและนักท่องเที่ยว เป็นดั่งจุดหมายที่ไม่มีวันไปถึงได้ กล่าวได้ว่าแดนสวรรค์ในความเป็นจริงนั้นแตกต่างออกไปเมื่อนำไปใช้กับบริบทของเวลาในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เราครุ่นคิดถึงความเป็นจริงที่ท้าทายต่อความคาดหวังและการมองอนาคตของเรา

งานวิจัยของ หลิน อี๋จวิน เกี่ยวกับบทบาทของคนค้าขายหาบเร่ตามท้องถนนในประเทศไทย เกิดขึ้นหลังจากศิลปินได้รู้เห็นว่าคนค้าขายหาบเร่เหล่านี้ตอบสนองต่อการประท้วงและโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้ศิลปินยังย้อนกลับไปพิจารณาความเป็นมาของคนค้าขายหาบเร่ของไต้หวันอีกด้วย ในขณะที่ จุฬญาณนนท์ ศิริผล ค้นพบแรงบันดาลใจจากวงไอดอลหญิงล้วนยอดนิยมของญี่ปุ่นอย่าง AKB48 และวงน้องสาวต่างประเทศของพวกเขาในเอเชีย ซึ่งรวมถึง BNK48 ในกรุงเทพฯ และ TPE48 ในไทเป เขาสร้าง ANGSUMALIN 48 หรือ ANG 48 เพื่อล้อเลียนวงดังกล่าวว่าทำงานเพื่ออุดมการณ์กระแสหลัก เขายังชี้ให้เห็นถึงความแพร่หลายของวัฒนธรรมหรือซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศญี่ปุ่นในเอเชียตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เจิง เยี่ยนอวี๋ มักใช้ผ้ามาทำหุ่นเชิดโดยใช้เทคนิคการห่อและรัดให้แน่น ศิลปินเกิดความประทับใจต่อการมีส่วนร่วมในชุมชนของ คุณจิม ทอมป์สัน ตลอดจนวิสัยทัศน์ของเขาที่มีต่องานหัตถกรรมและการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบทบาทให้ผู้หญิง ส่วน กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ ในฐานะแพทย์สำหรับครอบครัว เขาสนใจการปะทะสังสรรค์กันระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรมกับบุคคลที่ถูกจำกัด เขาจึงสำรวจเรื่องราว “ดั้งเดิม” ที่ถูกละเลยและความเชื่อมโยงของเรื่องราวเหล่านี้ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น ศิลปะและการทรงเจ้าเข้าผี นอกจากนี้เขายังจัด Limbic Release โครงการฉายภาพยนตร์ที่จะเชื้อเชิญให้เราขบคิดทบทวนเรื่องการล่าอาณานิคมและผลกระทบของโลกาภิวัตน์

นิทรรศการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน), สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย, มูลนิธิ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน, พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม, GroundControl, และ SEALECT BRAND, ร่วมกับสถาบันภาพยนตร์และโสตทัศนูปกรณ์ไต้หวัน (TFAI), สถานีโทรทัศน์สาธารณะไต้หวัน (PTS), โรงภาพยนตร์ลิโด้ และสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) และขอขอบคุณสมาชิกของเราที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนในการจัดนิทรรศการและโปรแกรมของเรา

โปรแกรมสำหรับสาธารณชน:

17 มีนาคม 2565 วันเปิดงานนิทรรศการ ณ ห้องโถง Event Space ชั้น 2

● เวลา 16:00 – 17:00 น.
ลงทะเบียนและรับการตรวจ ATK ณ ชั้น G

● เวลา 17:00 – 18:30 น.
เสวนาโดยศิลปินไทย จุฬญาณนนท์ ศิริผล, กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ, และปณชัย ชัยจิรรัตน์
ดำเนินรายการโดย ปวีณา เนคมานุรักษ์
ศิลปินไทยทั้ง 3 คนจะมานั่งพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการทำงานและการพัฒนาผลงานศิลปะในระหว่างการเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ช่วงออนไลน์มาจนถึงการติดตั้งผลงาน ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

● เวลา 18:30 – 18:45 น. พิธีเปิดนิทรรศการและการกล่าวต้อนรับโดย กฤติยา กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน และ เถียน โย่วอัน ผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรม สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป แห่งประเทศไทย

● เวลา 18:45 – 21:30 น. เดินชมนิทรรศการ ณ แกลเลอรี่ 1 และ 2 ชั้น 3

23 เมษายน 2565
● เวลา 16:00 – 18:00 น.
Limbic Release ภาค 1 โดย กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ
การฉายภาพยนตร์เรื่องสั้น ที่ห้อง Event Space หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน
ประกันชีวิต (2009, นฆ ปักษนาวิน, 30 นาที)
เงาสูญสิ้นแสง (2018, กฤษดา นาคะเกตุ, 25 นาที)
32 Km – 60 Years (2018, ลาฮา มีโบ, 20 นาที)
Water without Source (2017, เหลี่ยง ติงหยู, 30 นาที)

เสวนา (ประมาณ 30-45 นาที)
หัวข้อ: สนทนาข้ามสาขาวิชาชีพระหว่างภัณฑารักษ์กับแพทย์/ผู้สร้างภาพยนตร์

ผู้ดำเนินรายการ: กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ (แพทย์/ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์)
ผู้ร่วมเสวนา: นฆ ปักษนาวิน (แพทย์/ผู้สร้างภาพยนตร์)
วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา (ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์)

7 พฤษภาคม 2565
● เวลา 16:00 – 18:00 น.
Screen World: ด้วยความร่วมมือระหว่างหอศิลป์บ้านจืม ทอมป์สัน, บางกอก ซิตี้ซิตี้ แกลอรี่, สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล และ ภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โปรแกรมฉายภาพยนตร์ Onsite & Online และการเสวนาข้ามสาขาวิชาชีพกับศิลปิน
จุฬญาณนนท์ ศิริผล ในการรื้อสร้างประวัติศาสตร์และการปลดแอก “ความโรแมนติก” ในประเทศไทยและเอเชีย

ผู้ร่วมเสวนา: อ. ดร. วิกานดา พรหมขุนทอง
(สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล )
รศ. ดร. นัทธนัย ประสานนาม
(ภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

*ดำเนินรายการด้วยภาษาไทยพร้อมการแปลสดภาษาอังกฤษ

21 พฤษภาคม 2565
● เวลา 16:00 – 18:00 น.
Limbic Release ภาค 2 โดย กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ
การฉายภาพยนตร์เรื่องยาว ที่ โรงภาพยนตร์ลิโด้ สยามสแควร์ ซอย 2
Bodo (1993, ฮวง หมิง ฉวน, 80 นาที)

เสวนา (ประมาณ 30-45 นาที)
หัวข้อ: สนทนาข้ามสาขาวิชาชีพขยายความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์

ผู้ดำเนินรายการ: กฤตภัทธ์ ฐานสันโดษ (แพทย์/ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์)
ผู้ร่วมเสวนา: ปวีณวัช ทองประสพ (ศศ.ม. สาขาวรรณคดีเปรียบเทียบ เชี่ยวชาญ
ด้านนิเวศวิทยาและกฎหมายพื้นเมือง)
รณฤทธิ์ มณีพันธุ์ (ศศ.ม. สาขาวรรณคดีเปรียบเทียบ เชี่ยวชาญด้าน
วรรณคดีในช่วงความสะพรึงสีขาว (White Terror), ประวัติศาสตร์
บาดแผล และการศึกษาความทรงจำ)

* โปรแกรมออนไลน์เพิ่มเติมจะประกาศในภายหลัง อย่างไรก็ตามโปรแกรมทางกายภาพอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดตามการอัพเดทเพิ่มเติมบนเว็บไซต์และหน้าเพจเฟสบุ๊คของหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

หมายเหตุ: ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านต้องได้รับการตรวจ ATK ที่หน้างาน จึงเรียนมาเพื่อขอความร่วมมือ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์ (+66) 02 001 5470
อีเมล artcenter@jimthonpsonhouse.com
เว็บไซต์ www.jimthompsonartceter.org
เฟสบุ๊ค Jim Thompson Art Center
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไป 50 บาท; เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีเข้าชมฟรี; สมาชิกเข้าชมฟรี
กลุ่มนักเรียนนักศึกษา (กรุณาจองล่วงหน้า)

ข้อมูลเพิ่มเติม: เรามีที่จอดรถจำนวนจำกัด ท่านสามารถเดินทางมาหอศิลป์บ้านจิมทอมป์สันด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 1 และเดินเข้าซอยเกษมสันต์ 2 เข้ามาประมาณ 200 เมตร