Author: Peerachai Pasutan
การเต้นและการคัฟเวอร์เพลงถือเป็นกิจกรรมที่ควรส่งเสริม เพราะนอกจากจะทำให้เด็กๆ และวัยรุ่นใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์แล้ว ยังเปิดโอกาสให้พวกเขาเติบโตและมีเป้าหมายในชีวิต สมาชิกทั้งห้าของ Sugar ‘N Spice (SNS) เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่จากบ้าน LIT Entertainment เองต่างค้นพบว่าตัวเองชอบร้องเพลงและเต้นบนเวทีตั้งแต่ยังเด็ก พอบวกกับอิทธิพลของเค-ป็อปตามยุคสมัยแล้ว ก็จุดประกายให้พวกเธอเข้ามาออดิชั่นตามการทาบทามของค่าย “หนูเริ่มมาจากการที่เพื่อนชวนคัฟเวอร์เพลงเค-ป็อปทั่วไป ชวนแสดงที่งานโรงเรียน พอได้แสดงก็รู้สึกว่าตัวเองชื่นชอบในด้านนี้เหมือนกัน มาถึงวันที่หนูขอแม่ไปเรียนร้องเพลง รู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพในการร้องเพลง ก็เลยอยากลองในด้านนี้มากขึ้นค่ะ” ถิงถิง – ฐิติชญา เฉิน พูดถึงเส้นทางการเข้ามาเป็นศิลปินของเธอ ส่วนยี่หวา – ณัฐภัสสร จันทร์เจริญ น้องเล็กประจำวง ก็อยากทำงานในวงการดนตรี เข้าคอนเซปต์ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น “ตั้งแต่เด็กๆ หนูชอบร้องเพลงและเล่นมากๆ และก็มีคัฟเวอร์ร้องเพลง คุณพ่อ [โจ๊ก – กรภพ จันทร์เจริญ] ก็ดีดกีตาร์ให้ตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ เลยเป็นการฝึกไปในตัว แล้วพ่อก็เป็นไอดอลที่ทำให้หนูอยากเป็นศิลปินค่ะ” เกล้า – พิมพ์พิชชา สุดดี ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ค่ายเห็นความสามารถจนได้รับการเรียกตัว “เกล้าเคยเต้นเป็นแดนเซอร์แบ็คอัพ ก็เห็นพี่ๆ ศิลปินอยู่ใกล้ๆ เรา แล้วจินตนาการว่าถ้าเราได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นบ้างจะเป็นอย่างไร ก็ฝึกฝนตัวเองมาเรื่อยๆ จนมีพี่ๆ จากค่าย LIT เห็นและติดต่อมาค่ะ”
‘JELLO’ คือซิงเกิลแรกของ Sugar ‘N Spice ที่ปล่อยออกมาช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากชื่อเพลงจะตรงธีมขนมตามชื่อวงแล้ว ตัวเพลงเองก็เป็นการ ‘เซย์ฮัลโหล’ หรือทักทายให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับทั้งห้าสาว “พอได้อ่านเนื้อเพลงและฟังเดโมที่พี่ๆ ส่งมาให้ รู้สึกว่าเป็นเพลงที่นำเสนอภาพรวมของวงและคอนเซปต์ได้ดีค่ะ เห็นความ ‘sugar’ และ ‘spice’ [ความหวานและความถึงพริกถึงขิง] ของพวกเรา” อิมมี่ – ธัษณ์ชัญญา คุณพาณิชย์โชติ พูดถึงความรู้สึกตอนที่ได้เห็นผลงานของตัวเองเป็นครั้งแรก พูดกันตามตรง สมาชิกทุกคนก็อายุยังน้อย อยู่ในวัยที่อยากมีอิสระและอยากลองสิ่งต่างๆ ตามประสา แต่พอก้าวเข้ามาสู่สปอตไลต์และวงการบันเทิงแล้ว พวกเธอปรับตัวกันอย่างไรบ้าง “หนูคิดว่าอาชีพนี้เป็นการทำงานอย่างหนึ่ง” ยี่หวาเกริ่น “เป็นการทำงานที่เราสนุกไปด้วย มีคนรัก แต่ว่าอาจจะต้องแลกกับชีวิตวัยรุ่น ของหนูจะมีเรื่องการแบ่งเวลาเรียน การทำงาน และการวางตัวให้เหมาะสมค่ะ” แล้วเวลาเพื่อนนัดเจอหรือไปกินหมูกระทะกัน แต่ตัวเองว่างไม่ตรง จัดการกับความรู้สึกอย่างไรบ้าง “จริงๆ ตอนแรกก็ค่อนข้างที่จะปรับตัวยากค่ะ เพราะไม่ชินและยังเป็นเด็กอยู่ ก็อยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างค่ะ แต่ว่าหลังๆ พอเข้าใจกระบวนการในการทำงานมากขึ้นแล้ว ก็ปรับตัวได้ค่อนข้างดีค่ะ” ถิงถิงตอบ
ร่องรอยการเติบโตของเด็กสาวทั้งห้าคนนี้ปรากฏให้เห็นเมื่อเราถามพวกเธอว่าบทเรียนสำคัญที่สุดจากการทำงานเป็นกลุ่มจนถึงตอนนี้คืออะไรบ้าง “ความเข้าใจเป็นการสร้างทีมเวิร์คที่ดีค่ะ” อิมมี่ตอบก่อน “แต่ละคนก็มาจากคนละที่ เราเติบโตมาต่างกัน พอมาอยู่และทำงานด้วยกัน หนูคิดว่าการที่เราพยายามเข้าใจคนอื่นจะทำให้สบายใจในการทำงานและอยู่ด้วยกันได้ดีมากขึ้นค่ะ แล้วหนูคิดว่ามันส่งผลต่อในชีวิตประจำวันด้วย พอเราไปทำงานด้วยกัน เราต้องเจอผู้คนมากมายใช่ไหมคะ เราก็ได้เข้าใจพี่ๆ คนอื่นๆ ที่ร่วมงานกันด้วย” ส่วนณิช ปรีชาวีรกุล พี่ใหญ่ ก็เสริมต่อว่า “ของณิชอาจจะเป็นการรับฟังความเห็นหรือความรู้สึกของคนอื่นๆ และการสื่อสารสำคัญมากๆ ถ้าเกิดว่าใครรู้สึกอย่างไรก็คุยกัน ไม่เก็บเอาไว้คนเดียวค่ะ” จากนั้นเราให้วงประเมินผลลัพธ์การทำงานที่ผ่านมาในปี 2024 “พวกเราตั้งใจซ้อมกันมากค่ะ ก็เลยพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมามากๆ เพราะเหมือนเราตั้งใจซ้อม ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เท่ากับความคาดหวังในช่วงซ้อมเลยค่ะ” เกล้าตอบ ส่วนถิงถิงนั้นมองว่าพวกเธอเองก็อยากพัฒนาทักษะต่างๆ ต่อไป “ก็อยากจะพัฒนาทุกเรื่องเลยค่ะ ทั้งเรื่องเต้น เรื่องร้อง และการแสดงสีหน้าระหว่างแสดงด้วยค่ะ อยากทำให้ดีขึ้น อยากพัฒนาทุกอย่างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการที-ป็อปก็มีบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปมากหน้าหลายตา แล้วอะไรล่ะคือจุดเด่นของ Sugar ‘N Spice ในสายตาของสมาชิกวงเอง “ณิชคิดว่าเรามีคาแรกเตอร์ที่ต่างกันมากๆ เลย ตั้งแต่บุคลิก นิสัย และตัวตนเวลาออกแสดงบนเวที ทุกคนมีรสชาติที่ต่างกัน แต่ว่าพอมารวมกันแล้วก็เป็นรสที่กลมกล่อมมากๆ ค่ะ” ณิชคิดไว้อย่างนี้ ขณะที่อิมมี่บอกว่าความสดใสที่แฝงความเข้มแข็งคือจุดขายของวง “หนูคิดว่าภาพลักษณ์ของวงเราเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีความสดใสมากๆ ค่ะ แต่เวลาที่เราแสดง หนูคิดว่าเรามีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่แข็งแรงอยู่พอสมควรเลย” ในฐานะคลื่นลูกใหม่ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ยี่หวาเชื่อว่าเพลงที-ป็อปสามารถเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์องคาพยพวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลกได้ “จริงๆ เราสามารถแทรกซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาได้ค่ะเพื่อโปรโมทวัฒนธรรม อาหาร หรือสถานที่ต่างๆ เพราะว่าช่วงนี้ที-ป็อปก็ได้รับความสนใจจากต่างชาติเยอะมากๆ หนูเลยคิดว่าพวกเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนที-ป็อปได้” กระนั้นก็ดี ณิชคิดว่ายังมีอุปสรรคอยู่สองข้อที่เกี่ยวพันกันอยู่ในตอนนี้ “พื้นที่ในการแสดงออกของศิลปินที-ป็อปยังไม่ได้เยอะมากขนาดนั้นในไทย และผู้คนอาจจะยังไม่ได้เปิดใจให้ที-ป็อปขนาดนั้นค่ะ หมายถึงว่าฝั่งเกาหลีอาจจะมีเค-ป็อปมานานแล้ว คนก็อาจจะยังฟัง เค-ป็อปกันอยู่ คิดว่าถ้าผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นก็อาจช่วยกันส่งเสริมและมีพื้นที่ให้ศิลปินที-ป็อปได้แสดงออกมากขึ้นค่ะ”
ช่วงที่เราสัมภาษณ์ก็ใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปีเต็มแก่ เราจึงขอให้ Sugar ‘N Spice พูดทิ้งท้ายถึงปี 2024 และตั้งปณิธานสำหรับปี 2025 สักหน่อย “เราฝึกซ้อมกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ขอบคุณที่ทุกคนอยู่ด้วยกันมาถึงจุดนี้ค่ะ อยากให้ทุกคนติดตามผลงานและการพัฒนาของพวกเราไปเรื่อยๆ ค่ะ” ถิงถิงพูด แล้วเกล้าก็เสริมต่อว่า “เราจะมีผลงานปล่อยมาเรื่อยๆ ค่ะ คิดว่าในแต่ละผลงานก็จะเป็นสีสันและรสชาติใหม่ๆ ของ SNS ส่วนปี 2025 แค่คาดหวังให้คนจดจำและติดตามพวกเราเยอะขึ้น อยากเป็นศิลปินที่แข็งแรงในวงการ สามารถสร้างความสุขและความสดใสให้ทุกคนได้ค่ะ” ส่วนเรื่องผลงานใหม่ อิมมี่แง้มให้ฟังว่าพวกเธอกำลังจะปล่อยซิงเกิลที่สอง ‘Sugar-coated’ เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับความไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่เรามีอยู่นั้นเป็นของจริงหรือเป็นเพียง ‘น้ำตาลเคลือบ’ ที่รอวันแตกสลายพร้อมคราบน้ำตา เเราได้ลองฟังแล้วและคิดว่ามู้ดแอนด์โทนของเพลงนี้น่าจะโดนใจใครหลายๆ คนในช่วงเริ่มต้นปีแบบนี้ที่สิ่งต่างๆ ในชีวิตอาจยังดูไม่ชัดเจน แต่ถ้าเรากล้ามากพอที่จะถาม เราอาจจะหายคาใจให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยอย่างที่เพลงบอกไว้ว่า “เธอคิดอะไรพูดมา มันจะหวานหรือจะมีน้ำตา”
ติดตาม Sugar ‘N Spice ได้ทาง TikTok และ Instagram: @snsofficial_th