Author: Pacharee Klinchoo
เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเปิดซีนดนตรีอันคับแคบของเราให้กว้างขึ้นอีกเล็กน้อยผ่านการรู้จักสองสิ่ง สิ่งแรกคืองานดนตรีที่มีชื่อว่า ‘Road to โฟล์คข้างวัด’ อันเป็นเทศกาลดนตรีอินดี้ขนาดเล็กที่จัดกระจัดกระจายไปทั่วทุกมุมเมืองที่แนะนำให้เรารู้จักกับสิ่งที่สอง นั่นคือวงอินดี้ร็อคสัญชาติฮ่องกงที่มีชื่อว่า Mr. Koo
และใช่… ด้วยความที่โลกเราแคบกว่าที่เราคิด เราไม่เคยได้ยินชื่อ Mr. Koo มาก่อน เราจึงค้นหาชื่อของเขาในแอพพลิเคชั่นฟังเพลงชื่อดัง และก็ถูกดึงดูดเข้าไปหาเพลงที่ชื่อว่า Time & Space ได้อย่างประหลาด
เราจึงตอบรับการสัมภาษณ์กับเขาไปอย่างใจง่าย สเต็ปต่อไป เราก็ค้นหาชื่อของเขาและก็ค้นพบว่า เราแทบจะหาอะไรเกี่ยวกับเขาในโลกออนไลน์ไม่ได้เลยนอกเหนือไปจาก live session ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เขียนอย่างเป็นรูปแบบ และบทวิจารณ์คอนเสิร์ตของเขาเป็นภาษาอังกฤษเพียงหนึ่งชิ้น
เราจึงตัดสินใจว่าบทความชิ้นนี้ที่เราได้คุยกับ Ollie Rodgers นักร้องนำและมือกีตาร์ของวงจะทำให้คนอย่างเราที่น่าจะมีอยู่เกลื่อนโลกออนไลน์รู้จักเขามากขึ้น และหวังว่าหลังจากคุณอ่านบทความนี้จบ ความตั้งใจของเราจะประสบผลสำเร็จ แต่ถ้าไม่… เราก็ได้เปิดโลกของเราผ่านการสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว
Mr. Koo คือใคร แนะนำตัวเองให้โลกออนไลน์รู้จักคุณมากขึ้นหน่อย
Mr. Koo เป็นชื่อวงดนตรีของผมครับ และเป็นชื่อที่บางคนใช้เรียกผมจริงๆ ด้วย ‘Koo’ เป็นนามสกุลของแม่ผม ผมเป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษ ผมตัดสินใจใช้นามสกุลภาษาจีนของผมตั้งชื่อวงเพื่อที่จะเชื่อมต่อกับรากเหง้าความเป็นชาวจีนของผมมากขึ้นอีกนิด Mr. Koo เริ่มต้นจากการเป็นโซโล่โปรเจ็กต์ของตัวผมเองครับ ผมเริ่มเขียนเพลงคนเดียว แต่พอเขียนไปเขียนมา ผมก็ตัดสินใจตั้งวงดนตรีขึ้นมาเพื่อเล่นเพลงที่ผมเขียน ตอนนี้ Mr. Koo คือวงดนตรี 5 คนครับ มีผมเป็นนักร้องนำและมือกีตาร์ มือเบสชื่อ Tom Chan คีย์บอร์ดชื่อ Andy McBain มือกลองชื่อ Kevin Cheng และแซ็กโซโฟนชื่อ Jun Ho ครับ
เอาจริงๆ พวกเราเป็นวงที่ค่อนข้างทำตัวลึกลับอยู่แล้วครับ ไม่ค่อยมีคนรู้หรอกครับว่า Mr. Koo คือใคร และถึงผมจะเป็นคนแต่งเพลงหลัก แต่พวกเราจะมาทำงานร่วมกันหลังจากผมแต่งเพลงเสร็จแล้ว มาดูโครงสร้างเพลงโดยรวม และเนื้อเพลงด้วยกัน ส่วนประเภทของเพลงที่วงทำ… ผมคิดว่าพวกเราทำเพลงประเภท surf rock ที่มีกลิ่นอายของ bedroom pop และไซเคเดลิคอีกนิดหน่อย แต่ผมว่าหลักๆ พวกเราทำเพลงแนวอินดี้ล่ะครับ
งั้นถ้าคุณจะแนะนำเพลงหนึ่งเพลงของ Mr. Koo ให้คนที่ไม่รู้จักวงคุณเลย คุณจะแนะนำเพลงไหน
ผมคงแนะนำเพลง Big Wave Day ที่เป็นเพลงที่ดังที่สุดของวงนั่นแหละครับ
ขอสารภาพว่าเราชอบ Time & Space นะ
ผมก็ชอบเพลงนั้นเหมือนกันครับ เป็นแนวไซเคเดลิคร็อคที่มีเสียงแซ็กโซโฟนชัดเจนมาก เพลงนี้เล่นสดสนุกมากๆ เลยครับ แต่เพลง Big Wave Day นี่พูดถึงชายหาดหนึ่งในฮ่องกงที่ผมชอบใช้เวลาที่นั่น ผมแนะนำเพลงนี้เพราะมันเป็นเพลงแนว surf rock ที่เป็นหัวใจหลักของวงน่ะครับ
คุณเพิ่งปล่อยเพลง The Real World ออกมา ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรสำหรับเพลงนี้
ผมได้แรงบันดาลใจมาจากความเร็วในการใช้ชีวิตบนเกาะฮ่องกง และในยุคที่ทุกคนจมอยู่กับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ตรงหน้า เพลงนี้จะบอกให้ทุกคนถอยห่างออกจากเทคโนโลยีเหล่านั้น เพื่อมาดื่มด่ำกับโลกแห่งความเป็นจริงตรงหน้าให้มากขึ้น มันมีเรื่องให้น่าดื่มด่ำเยอะแยะทั้งแสงอาทิตย์ อากาศบริสุทธิ์ เสียงนกร้อง และอื่นใด ซึ่งผมก็ยอมรับว่าตัวผมเองโหยหาอดีตพอสมควรในเรื่องแบบนี้ และเวลาผมฟังเพลงเก่าๆ หรือประสบการณ์เก่าๆ ผมจะยิ่งคิดถึงโลกในยุคก่อนที่เทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดนี้จริงๆ นะครับ ผมเลยชอบพูดถึงเรื่องการถอยออกมาจากเทคโนโลยี และดื่มด่ำกับโลกแห่งความเป็นจริงตรงหน้าครับ
พวกคุณมีความฝันสูงสุดในฐานะวงดนตรีไว้ที่จุดไหน
พวกเราต้องการไปเล่นคอนเสิร์ตตามเมืองต่างๆ ทั่วทวีปเอเชียให้มากขึ้นครับ อยากจะสำรวจทวีปนี้ให้ทะลุปรุโปร่ง ผมชอบซีนดนตรีอินดี้ร็อคในประเทศไทย เลยอยากจะกลับมาเล่นที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง และอยากจะแวะไปเล่นที่ไทเปด้วย ส่วนเฟสติวัลในฝันที่อยากเล่นมากๆ คือ Fuji Rock ที่ประเทศญี่ปุ่น และมหรสพเฟสติวัลที่ประเทศไทยนี่ล่ะครับ ผมชอบมากจริงๆ อยากจะสำรวจประเทศไทย ไต้หวัน และฮ่องกงบ้านเกิดให้ทะลุก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะไปต่อที่ไหน และจะเขียนเพลงเพิ่มขึ้นตลอดเวลาครับ
และเราเป็นวงที่ไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องอะไรเลยครับ พวกเรามีความสุขกับการได้ขึ้นเล่นสดต่อหน้าคนอื่น เลยอยากจะขึ้นเล่นสดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าคุณจะให้เราขึ้นเล่นที่เฟสติวัล หรือในผับที่ไหนก็ตาม บอกพวกเราได้นะครับ พวกเรายินดีที่จะได้ขึ้นเล่นสดมากๆ ผมรู้ว่ามีวงอื่นๆ ที่ดังกว่าวงเราเยอะมาก แต่เราก็อยากจะทำความรู้จักกับซีนดนตรีประเทศไทยให้มากขึ้น อยากให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอเพลงของเราบ้างครับ
มีอะไรที่คุณอยากบอกให้เรารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณบ้างไหม อะไรก็ได้ที่เราไม่ได้ถาม
ผมทำอีกวงหนึ่งที่ชื่อว่า Almond Milk เป็นวงอินดี้ร็อคเช่นกัน ลองไปฟังกันดูนะครับ ที่มาคือ วงแรกที่ผมเคยได้ร่วมเล่นสมัยวัยรุ่นชื่อว่าวง Chocolate Milk และผมก็เพิ่งได้กลับมารวมตัวกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนอีกครั้งหนึ่ง พวกเราเลยตั้งชื่อวงว่า Almond Milk นี่ล่ะครับ ตอนนี้ผมก็แต่งเพลงให้กับทั้ง Mr. Koo และ Almond Milk ครับ
Mr. Koo เป็นวงที่เน้นไลน์กีตาร์ ทำเพลงแนว surf rock เป็นหลัก เพลงจะ upbeat มากกว่า Almond Milk นิดหน่อยและออกแนวร็อคมากกว่า และผมเขียนเพลงหลักของวง ส่วน Almond Milk เป็นโปรเจ็กต์ร่วมของสมาชิกสามคนที่เป็นเพื่อนกันมานาน คือจะช่วยกันเขียนเพลง ดนตรีจะออกแนวอินดี้โฟล์คร็อค ถ้าจะให้เทียบก็แนว Velvet Underground และ Gorillaz น่ะครับ
และตอนนี้ ผมยังได้รับแรงบันดาลใจจากวงร็อคของฝั่งเอเชียตะวันตกเฉียงใต้มากขึ้นด้วยนะครับ ผมชอบวง ALI ที่เป็นวงร็อคของประเทศอินโดนีเซียมากเลยครับ คือผมเล่นสเก็ตบอร์ด และมือกีตาร์ของวง ALI ก็เป็นเพื่อนเล่นสเก็ตบอร์ดของผม ผมเลยรู้จักพวกเขา และได้แรงบันดาลใจในการเล่นกีตาร์จากพวกเขามา นอกเหนือไปจากวงในตำนานอย่าง The Doors, The Beatles และ Oasis แล้ว ก็มีเขานี่แหละครับที่ทำให้ผมตกหลุมรักดนตรีจากทวีปนี้ได้
มีวงดนตรีไทยวงไหนที่คุณชอบบ้างไหมนะ
ผมเป็นเพื่อนที่ดีกับวง H3F ครับ ปีที่แล้วพวกเขาไปเล่นที่ฮ่องกง ผมได้พาเขาเที่ยวไปทั่วเลยครับ และผมก็ชอบเพลงของภูมิ วิภูริศมากเลยครับ The Paradise Bangkok Molam International Band นี่ก็ชอบมากๆ เลยครับ ตั้งใจว่าจะไปดูพวกเขาเล่นสดที่มหรสพเฟสติวัลปีนี้ให้ได้ครับ วง Soft Pine ก็ชอบครับ
ติดตาม Mr. Koo ได้ทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย (ที่พอหาได้) และในบทความนี้