ในครั้งนี้ออกแบบโดย Sabato de Sarno ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ เขานำเสนอวิสัยทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างอิสรภาพไร้ขอบเขตจากยุคสมัยนั้นกับความร่วมสมัยของมรดกแบรนด์ Gucci
ได้อย่างลงตัว คอลเล็กชั่นนี้สะท้อนถึงการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันอย่างกลมกลืน
งานออกแบบในคอลเล็กชั่นนี้สื่อถึงความรู้สึกของความเป็นอิสระและความมีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของยุค ’70s โดย Sabato de Sarno ได้ปรับปรุงและตีความใหม่ให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ใช้โทนสีอัญมณีสดใสและลวดลายที่สะท้อนความสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวและรายละเอียดที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นการผสมผสานความคลาสสิกของ Gucci กับความทันสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม Sabato de Sarno ไม่ได้นำเสนอความอลังการเหมือนกับดีไซเนอร์คนก่อนหน้า แต่เลือกที่จะให้คอลเล็กชั่นนี้ดูเรียบง่ายและเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ลุคหนึ่งที่โดดเด่นคือชุดคาร์ดิแกนสีมิ้นต์เรียบๆ ที่มีโลโก้ Gucci ขนาดเล็กบนหน้าอก สวมคู่กับโปโลสีเดียวกันและกางเกงลายตาราง สร้างลุคที่เหมาะกับการสวมใส่ในออฟฟิศ นอกจากลุคที่ดูมินิมอลแล้ว ยังมีช่วงเวลาที่สร้างความตื่นตาตื่นใจจากการใช้สีสันสดใสและลายดอกไม้ เช่น แจ็คเก็ตซิปเปอร์สีเขียวมรกตที่ประดับลายดอกไม้และลายพาสลีย์สีเขียวขาว สวมคู่กับกางเกงขาสั้นสีเขียวและถุงเท้าสีเขียว อีกหนึ่งลุคที่น่าสนใจคือชุดโค้ทสีลาเวนเดอร์สวมคู่กับมินิเดรสสีเดียวกัน พร้อมรองเท้าบูทหนังสีเขียวเข้ม
อีกทั้งคอลเล็กชั่นนี้ยังถูกเติมเต็มด้วยแอคเซสเซอรี่ที่มีเอกลักษณ์ เช่น กระเป๋าถือ monogram แบบคลาสสิกที่ประดับด้วยลวดลายสีแดงและเขียว รวมถึงเครื่องประดับทอง G ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Gucci นอกจากนี้ยังมีเสื้อโค้ทขนฟูที่สร้างความน่าสนใจ อาทิ โค้ทขนฟูสีเหลืองสดและแจ็คเก็ตขนฟูลายขีดสีดำและน้ำตาล คอลเล็กชั่น Gucci Pre-Fall 2025 จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยที่ไม่ลืมตัวตนของแบรนด์ Gucci พร้อมทั้งสะท้อนความเรียบง่ายและความหรูหราที่ลงตัวในทุกลุค
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ
A Time for Joy เลือกของขวัญชิ้นเด็ดจาก Gucci
ก้าวสำคัญของ Gucci ในการจัดคอลเล็กชั่นรวมชาย และหญิงในปีหน้า
แบรนด์ Gucci ชุบชีวิตผลงานชิ้น Archive ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งกับกระเป๋า Gucci Blondie