‘Conjunction’ จุดตัดระหว่างงานศิลป์กับเฟอร์นิเจอร์จากศิลปิน SUNTUR และ Vertier แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทยแท้

Share This Post

- Advertisement -

“ตอนนี้ยังกังวลอยู่ครับ เหมือนยังไม่ถึงเวลาตื่นเต้น (หัวเราะ) เพราะว่ายังไม่ได้เตรียมงานเลยครับช่วงนี้ แต่ว่าพอได้เห็นชิ้นงานแล้วคิดว่าคนที่มาดูน่าจะชอบครับ เพราะว่าผมเองก็ชอบ” Suntur หรือซันเต๋อ – ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ศิลปิน พูดถึงความรู้สึกของตัวเองในโอกาสที่คอลเล็กชั่นเฟอร์นิเจอร์ชุดแรกในชีวิต

‘Conjunction’ กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันนับจากวันที่เราได้สัมภาษณ์เขา การที่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยอย่าง Vertier (เวอร์เทียร์) ติดต่อซันเต๋อให้มาร่วมงานกัน นับว่าประจวบเหมาะกับช่วงที่เขากำลังตกแต่งบ้านของตัวเองและออกจากคอมฟอร์ทโซนพอดี “รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำคอลเล็กชั่นนี้ครับ เพราะว่าช่วงนี้ผมเองก็อินกับพวกเฟอร์นิเจอร์และทำบ้านอยู่ด้วย เลยคิดว่า ถ้าเป็นบ้านผม ผมอยากให้มีเฟอร์นิเจอร์หน้าตาแบบไหนอยู่ในบ้าน ผมเลยนำความชอบตัวเองใส่ในเฟอร์ชุดนี้ด้วยครับ [แต่] ผมไม่ได้อยากเอารูปวาด [เข้าไปใส่] อยู่ในคอลเล็กชั่นอย่างเดียว ผมอยากออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีเซนส์ของงานผมอยู่ด้วยครับ ผมจึงเอาสี รูปร่าง รูปทรง และองค์ประกอบอื่นๆ ของรูปวาดผมมาเปลี่ยนเป็นในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ก็จะมีความเรียบง่ายและความมินิมอลบางอย่างอยู่ในนั้น” 

ความเรียบง่ายที่ทรงพลังและเรื่องราวบางอย่างที่แฝงอยู่ในลายเส้นและสีนั้น สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบในงานของ Vertier พอดี “พอมอง [ผลงานศิลปะของซันเต๋อ] แล้ว ก็นึกถึงเฟอร์นิเจอร์ของเรา จริงๆ แนวทางในการออกแบบของเราทั้งคู่ก็ไปด้วยกัน ค่อนข้างที่จะสอดคล้องกันได้” เติ้ล – วรวุฒิ จันทวี ผู้ก่อตั้ง Vertier บอกกับเรา ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกัน แบรนด์ได้ช่วยนำการออกแบบของซันเต๋อมาสร้างสรรค์ต่อให้เป็นจริง “ตอนที่เต๋อถ่ายทอดจินตนาการผ่านออกมาเป็นตัวสิ่งของน่ะครับ เราก็ใช้ความเชี่ยวชาญชำนาญของเรา เช่น การขึ้นรูป การเลือกใช้วัสดุต่างๆ มาหาจุดลงตัวกันกับคุณเต๋อว่า ‘โอเคกับตรงนี้ไหม มีอะไรอยากแนะนำ’ จริงๆ ขั้นตอนตรงนี้เร็วมาก เพราะว่าเราคิดเห็นตรงกันกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เลยหาข้อสรุปร่วมกันง่าย… ถึงจะดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดค่อนข้างเยอะครับ” ทั้งหมดนี้เกิดเป็นคอลเล็กชั่นที่ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากสีสันและวัสดุซึ่งสามารถจับคู่เข้ากันอย่างไรก็ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ “คอลเล็กชั่นนี้ก็มีหลายวัสดุ ทั้งสีแบบไฮกลอส ซีเมนต์ เหล็กสเตนเลส ฯลฯ มันจะมีความผิดที่ผิดทางอะไรบางอย่างที่พอจับคู่กันแล้วก็ดูน่าสนใจและเข้ากันได้ เก้าอี้เราก็มีหกสี โต๊ะก็มีหลายสี ลูกค้าสามารถซื้อไปมิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อปรับให้เป็นรูปแบบของตัวเอง [เช่น] สามารถจับคู่เป็นโทนเดียวกันหมดก็ได้ หรือเก้าอี้แต่ละตัวจะเป็นคนละสีเลยก็ได้ครับ” ซันเต๋ออธิบาย

นอกจากเรื่องการออกแบบและประโยชน์ใช้สอยแล้ว คอลเล็กชั่น ‘Conjunction’ ก็ยังคำนึงถึงความยั่นยืน อันเป็นปรัชญาหลักข้อหนึ่งของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เพื่อคนรุ่นใหม่ “สักพักแล้วครับที่แบรนด์เราพยายามปรับใช้เรื่องความยั่งยืนกับการผลิตหรือแนวคิดในการออกแบบชิ้นงาน” เติ้ลเกริ่น “หนึ่ง ก้อนหินก้อนหนึ่งหรือไม้แผ่นหนึ่ง เราจะคำนวณให้เราใช้พื้นที่ของมันได้สูงสุด หรือถ้าใช้ไม่หมด เราก็เอาเศษที่เหลือมาทำสินค้าตกแต่งได้อีก มีการกำชับกับทั้งโรงงานครับว่า เราต้องทิ้งขยะอุตสาหกรรมให้น้อยที่สุด สอง เราทำให้ผลิตภัณฑ์แข็งแรงไปเลยในระยะ 5-20 ปี สมมติว่าเฟอร์นิเจอร์ชำรุด ต้องซ่อมได้ ไม่ใช่เศษขยะทิ้ง คือใช้ได้ในระยะยาว สาม เราปรับดีไซน์ให้ยูนิเวอร์ซัล ชิ้นงานชิ้นหนึ่งสามารถใช้ได้หลายอย่าง ปรับเป็นอะไรได้ ก็น่าจะช่วยลดขยะและลดสิ่งที่สร้างมลพิษต่อโลกได้ครับ” นอกจากนี้ เติ้ลยังเชื่อว่า แม้ Vertier จะยังคงเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทยไปสู่ระดับสากลได้อีกแรง “จริงๆ ทางแบรนด์ก็มีแผนไปจัดแสดงที่ต่างประเทศอยู่ ก็คิดว่าอยากพัฒนาทั้งในเรื่องคุณภาพและงานออกแบบให้ก้าวไปอยู่ในระดับสากลได้ในอนาคตอันใกล้ครับ” 

กลับมาที่ซันเต๋อ เขาไม่ได้รู้สึกกดดันที่จะต้องมาทำงานศิลปะในเชิงพาณิชย์ กลับกัน นี่ถือเป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อนำไปจัดแสดงตามนิทรรศการด้วย “ศิลปินควรจะทำงานที่หลากหลายได้ครับ ควรจะทำงานเชิงพาณิชย์บ้าง งานส่วนตัวก็ด้วย ถ้าเราทำอย่างเดียวก็เบื่อและความคิดตันเหมือนกัน พอได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้น อย่างผมเองก็ได้ความรู้เรื่องเฟอร์นิเจอร์มากขึ้นครับ” แล้วซันเต๋อคิดว่าปัจจัยใดที่จะทำให้ศิลปินคนหนึ่งยืนระยะยาวได้ในวงการล่ะ “อันนี้ยากมากเลยครับ ก็หาทางทำให้อยู่ได้นานที่สุด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า [ปัจจัยนั้น] คืออะไร แต่ผมคิดว่าคุณภาพงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ในปัจจุบัน ทุกอย่างมันเร็วและพร้อมที่จะหายไปง่ายมาก ถ้าเราไม่ทำงานให้ดีขึ้นหรือลองอะไรใหม่ๆ คนที่ดูงานอาจจะเบื่อเร็ว เพราะฉะนั้น ผมก็ต้องหาอะไรใหม่ๆ ทำ พยายามโฟกัสกับคุณภาพงาน ไม่ใช่ทำออกมาปริมาณเยอะ แต่คุณภาพตกลง อย่างนี้ก็ไม่ได้ งานเยอะอาจจะไม่ได้สำคัญเท่าคุณภาพของแต่ละโปรเจกต์ที่ออกไปครับ” 

สุดท้ายนี้ ทั้งซันเต๋อและเติ้ลเชื่อว่าเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นจากคอลเล็กชั่น ‘Conjunction’ จะเติมเต็มและสร้างชีวิตชีวาให้แก่ที่อยู่อาศัยของลูกค้าได้ “ผมชอบคำว่า conjunction (การเชื่อมต่อ) มากครับเพราะว่า [คอลเล็กชั่นนี้] เชื่อมโยงงานศิลปะและงานเฟอร์นิเจอร์ไว้ด้วยกัน ด้วยความที่งานของเต๋อมีเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ [ซ่อนไว้อยู่] พอถ่ายทอดลงมาผ่านงานเฟอร์นิเจอร์ ผมคิดว่ามันจะช่วยทำให้พื้นที่นั้นๆ เกิดเรื่องราวขึ้น สมมติว่ามีคนซื้อไปวาง มันทำให้พื้นที่เหล่านั้นดูมีเรื่องราว พร้อมกับเหมือนมีงานศิลปะที่จับต้องและใช้งานได้ในบ้านครับ” เติ้ลฝากทิ้งท้าย 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของคอลเล็กชั่น ‘Conjunction’ ได้ทาง Line: @vertier หรือโทร. 088-196-4569 

Interview conducted by: Pacharee Klinchoo 

Interview rearranged by: Peerachai Pasutan 

Photography: Courtesy of The Band

- Advertisement -