สมการแห่งการรอคอย สำหรับการเปิดตัว Apple Event ‘It’s Glowtime’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการรวมกันของสิ่งที่คาดหวังและสิ่งที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นตัวที่ทุกคนรอคอยอย่าง iPhone 16 วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาให้คุณแล้ว อย่าพลาดเช็คกันเลย!
Apple Watch Series 10
เริ่มต้นด้วย Gadget ที่ทุกคนต่างชื่นชอบ อย่าง Apple Watch Series 10 ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดที่น่าตื่นเต้น! หน้าจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมวัสดุตัวเรือนไทเทเนียมที่เพิ่มความทนทานและหรูหรา จอ OLED Wide Angle ให้มุมมองที่ชัดเจนและมองเห็นได้ง่ายขึ้นจากทุกมุม
ในครั้งนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย มาให้สายรักสุขภาพได้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
– ปรับปรุงเซ็นเซอร์ดีขึ้น วัดความลึกการดำน้ำ และวัดอุณหภูมิน้ำได้
– ตัวเครื่องเบาบาง น้ำหนักเบาลง ทำให้ออกกำลังกายได้สะดวกขึ้น หน้าจอใหญ่ เห็นข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น
– สามารถตรวจจับภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ได้ทราบ (รองรับในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรปก่อน)
Apple Watch Ultra 2
Apple Watch Ultra 2 มาพร้อมกับสีดำใหม่ที่ดุดันและสง่างาม เคลือบ PVD เพิ่มความแข็งแกร่งและความหรูหรา และใช้วัสดุไทเทเนียมรีไซเคิลเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สายใหม่ที่ทำจากไทเทเนียมเหมาะสำหรับการดำน้ำอย่างแท้จริง พร้อมตัวล็อคที่แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัยในทุกกิจกรรมของคุณ
AirPods
การเปิดตัว AirPods 4 ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจาก AirPods 3 พร้อมการออกแบบใหม่ที่ทำให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้นและฟีเจอร์ที่อัปเกรดเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่ดีขึ้น AirPods 4 ใช้ ชิป H2 ที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการรองรับ Personalized Spatial Audioที่ทำให้การฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์เป็นประสบการณ์ที่สมจริงและดื่มด่ำมากขึ้น
AirPods 4 ยังมีรุ่นที่รองรับ Active Noise Cancellation (ANC) ซึ่งสามารถกดใช้งานได้เหมือนกับ AirPods Pro 2 ฟีเจอร์เพิ่มเติมในโหมดนี้รวมถึง:
- Adaptive Audio: ปรับระดับเสียงตามสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อให้ได้ประสบการณ์การฟังที่เหมาะสมที่สุด
- โหมดปล่อยเสียงเข้า: ช่วยให้เสียงจากภายนอกเข้ามาได้ เพื่อให้คุณสามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้เมื่อจำเป็น
AirPods Max
AirPods Max มาพร้อมสีสันใหม่ถึง 6 สี พร้อมพอร์ต USB-C โดยใน AirPods Pro 2 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ แต่มีซอฟต์แวร์ใหม่เพิ่มเข้ามา คือ Hear Protection ตรวจสอบและปรับระดับเสียงรอบข้างอัตโนมัติ , Hear Testing: ตรวจสอบปัญหาการได้ยิน และสุดท้าย Hear Aid สามารถเปลี่ยน AirPods Pro 2 เป็นเครื่องช่วยฟังได้
iPhone 16
iPhone 16 ยังคงความสดใสด้วยสีใหม่ที่โดดเด่น—สีน้ำเงิน! มาพร้อมกับกระจก Ceramic Shield ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และปุ่ม Action Button ที่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่ทนทานและหรูหรา อัปเกรดด้วยชิป Apple Silicon A18 ใหม่ล่าสุด ซึ่งมาพร้อมกับ Neural Engine 16 Core และแบนด์วิดท์เพิ่มขึ้น 17% ทำให้รองรับ Apple Intelligence ได้เร็วขึ้น 30% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 15% เมื่อเทียบกับ iPhone 15 นอกจากนี้ GPU 5 Core ใหม่ยังให้ความแรงที่เหนือชั้นและกินไฟน้อยลง Apple Intelligence ทำงานบน Cloud ส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยสูงสุด และจะเริ่มให้บริการในสหรัฐฯ ก่อนเป็นที่แรก
iPhone 16 มาพร้อมกับระบบกล้องหลังที่ทรงพลัง:
- – กล้องหลัก 48MP f/1.6 ซูม 2x ที่ไม่แตกและคมชัด
- – เลนส์ Ultrawide 12MP พร้อม Auto Focus ถ่าย Macro ได้สะดวก
- – รองรับ Spatial Photography บน Apple Vision Pro เพื่อการถ่ายภาพ 3 มิติที่ล้ำสมัยตัดเสียงลมได้ดี และสามารถหยุดอัดวิดีโอชั่วคราวได้
ฟีเจอร์พิเศษยังรวมถึง:
- – ปุ่ม Quick Capture: ใช้ถ่ายภาพหรือเรียกใช้ Apple Intelligence เพื่อค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว
- – แตะหรือกดค้างเพื่อเข้าถึง ChatGPT หรือ Google ได้ทันที
- – ปุ่ม Camera Control: เชื่อมต่อกับแอปกล้องเพื่อถ่ายภาพ ซูม ปรับค่าต่างๆ และส่งวิดีโอให้เพื่อน
ทุกฟีเจอร์ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น!
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max
เมื่อพูดถึง iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ไม่เพียงแต่ดีไซน์ที่คล้ายกับ iPhone 15 Pro เท่านั้น แต่ยังมีการอัปเกรดที่น่าตื่นเต้นในหลายๆ ด้าน ทำให้รุ่นนี้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าเดิม
Phone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับดีไซน์ที่คงความสวยงามเหมือน iPhone 15 Pro แต่เพิ่มสีใหม่ที่น่าสนใจอย่าง สีทอง เพื่อเพิ่มความหรูหราและโดดเด่นให้กับตัวเครื่อง หน้าจอได้รับการขยายใหญ่ขึ้นจากเดิม โดย iPhone 16 Pro มีขนาด 6.3 นิ้ว ขณะที่ iPhone 16 Pro Max ขยายถึง 6.9 นิ้ว หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้รองรับ ProMotion เพื่อความลื่นไหลในการใช้งานและ Always On Display เพื่อความสะดวกในการดูข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ใช้ ชิป A18 Pro ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่สำคัญจาก A17 Pro โดยมาพร้อมกับ Neural Engine 16 Core และ GPU 6 Core ที่มีความแรงเพิ่มขึ้นถึง 16% ทำให้การประมวลผลกราฟิกและการเรียนรู้ของเครื่องมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น นอกจากนี้ CPU ของ A18 Pro ยังเร็วขึ้น 15% และมีการประหยัดพลังงานถึง 20% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ด้วยการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น การรองรับ Apple Intelligence ยังทำให้การทำงานของสมาร์ทโฟนมีประสิทธิภาพสูงสุด และรองรับ Media ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้การเล่นสื่อและการใช้งานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นสมาร์ทโฟนที่รวมเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่หรูหรา หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ฟีเจอร์การควบคุมที่หลากหลาย หรือประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ทั้งหมดนี้ทำให้ iPhone 16 Pro Series เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการความทันสมัยและความสามารถที่สูงสุดในมือของตนเอง