Valentina Ploy นักร้องสาวลูกครึ่งไทย – อิตาเลียน (ที่เคยได้ขึ้นเป็นวงเปิดให้กับคอนเสิร์ตของ Coldplay ครั้งที่มาแสดงที่ประเทศไทยครั้งที่สองมาแล้ว) ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของงาน Soho Rising โปรเจ็กต์ของ Soho House Bangkok ที่รวบรวมศิลปินรุ่นใหม่จากทุกวงการที่เกี่ยวเนื่องกับความคิดสร้างสรรค์มาแสดงความคิดสร้างสรรค์กันอย่างไม่จำกัด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน ซึ่งลอฟฟีเซียล ออมส์ ไทยแลนด์ ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับพลอยถึงเรื่องประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานดนตรีในทุกช่วงชีวิตของเธอแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และหวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณบ้าง ไม่มากก็น้อย
ช่วยเล่าเส้นทางในวงการดนตรีได้ไหม ว่าเริ่มต้นยังไงบ้าง?
จริงๆ พลอยก็อยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เด็กเลย ถึงจะไม่ได้เป็นนักร้องมืออาชีพจริงจัง แต่พลอยก็แต่งเพลงเล่นมาตั้งแต่เด็ก เหมือนการแต่งเพลงเป็นการแสดงตัวตนอีกแบบหนึ่ง ก็เรียกได้แหละว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเลย พอเวลาผ่านไป พลอยก็ค่อยๆ เอาชนะความขี้เขินของตัวเอง โดยการไปประกวด The Voice กับ The X Factor Italy แต่พลอยคิดว่าตัวเองเริ่มเป็นศิลปินเต็มตัวตอนได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่าย What The Duck ที่ประเทศไทยเมื่อปี 2019 นะคะ
ทำไมพลอยถึงชอบร้องเพลง และชอบเล่นดนตรี?
รู้สึกว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ฮีลใจพลอยได้มากเลยนะคะ เริ่มจากการที่พลอยชอบฟังเพลง เพราะรู้สึกว่าตัวเองต่อติดกับศิลปินเจ้าของเพลงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พลอยจะรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง ก็เลยค่อยๆ มาค้นหาตัวเองว่าจริงๆ แล้วพลอยก็ชอบร้องเพลงและชอบแต่งเพลงเหมือนกัน พลอยเลยอยากจะสร้างประสบการณ์แบบที่เคยเกิดกับตัวพลอยเองให้กับคนอื่นๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
พลอยมีใครเป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นไอดอลทางด้านดนตรีไหม?
มีเยอะมากเลยค่ะ และเปลี่ยนไปตลอดเวลาในแต่ละช่วงชีวิต ถ้าถามตอนนี้ พลอยจะตอบว่า Ed Sheeran เป็นไอดอลพลอยในแง่ของการเขียนเพลงแบบ story telling และการเล่นกีตาร์ค่ะ
เล่าเรื่องกระบวนการการแต่งเพลงให้ฟังหน่อย
ปกติพลอยเป็นคนที่จดโน้ตตลอดเวลา จดทุกอย่างที่คิดทั้งหมด การเริ่มขึ้นเพลงแต่ละเพลงของพลอยจะต่างกันออกไปค่ะ บางครั้งอาจจะเริ่มจากการเล่นกีตาร์ไปเรื่อยๆ แล้วชอบคอร์ดนี้ ก็ค่อยๆ ฮัมเมโลดี้ ก่อนจะเอาเรื่องที่จดโน้ตไว้มาประกอบร่างเป็นเพลงหนึ่ง หรือบางครั้งอาจจะเริ่มต้นจากคอนเซ็ปต์เพลงก่อน อาจจะมาแค่ชื่อเพลง หรือคำใดคำหนึ่งที่เรา spark กับมัน ก็หยิบมาแต่งต่อจากตรงนั้น แต่ส่วนมากในทุกเพลงจะเป็นเรื่องราวที่พลอยรู้สึก หรือเป็นประสบการณ์ของพลอยที่เคยจดๆ ไว้ทั้งนั้นเลยค่ะ
ตั้งแต่เริ่มเป็นศิลปิน จนมาถึงวันนี้ พลอยคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลง พัฒนาไปในทิศทางไหนบ้าง?
เปลี่ยนไปเยอะมากเลยค่ะ พลอยกล้าแสดงออกมากขึ้นเยอะ ตอนเด็กๆ พลอยไม่กล้าแสดงออกเลย เป็นเด็กขี้เขินที่สุดในโลกชนิดที่ใครให้ร้องเพลงก็จะร้องไห้ และวิ่งหนีไปเลย แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง พลอยไม่เคยคิดที่จะหยุดพัฒนาตัวเอง ไม่เคยหยุดเรียนรู้ ซึ่งมันก็ทำให้มุมมองของพลอยต่อชีวิตค่อยๆ เปลี่ยนไป และพลอยก็จะเอามุมมองเหล่านี้มาถ่ายทอดออกมาในฐานะศิลปิน นั่นทำให้พลอยพัฒนาตัวเองตลอดเวลาค่ะ
คิดอย่างไรที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ Soho Rising
ตื่นเต้นและเป็นเกียรติมากค่ะ พลอยไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ รู้สึกเหมือนได้เล่นในโรงละครจริงๆ รู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟมากๆ เลยค่ะ
ฝากผลงานได้เลยค่ะ..
ฝากอีพีใหม่ที่เพิ่งปล่อยด้วยค่ะ No Cares Era
ถ้าให้พลอยเลือกเพลงที่เหมาะกับบรรยากาศของ Soho House Bangkok พลอยจะเลือกเพลงอะไรคะ?
(นิ่งคิด) เลือกเพลง No Cares Eras เลยค่ะ เพราะเนื้อเพลงจะมีไวบ์ของความ ‘I don’t care.’ อยู่นิดหน่อย และมีกลิ่นความเป็นอิตาเลียนเจือมาในเพลงแบบที่อธิบายว่า แม้ว่าฉันจะเคยคิดอะไรมากมายมาก่อน แต่ตอนนี้ฉันไม่สนไม่แคร์อะไรแล้ว เพราะพลอยคิดว่านี่อาจจะเป็นความรู้สึกแรกตอนที่ได้เข้ามาที่ Soho House นั่นคือได้มาพักผ่อน ได้อยู่ในโลกส่วนตัวของฉันแบบไม่แคร์อะไรอีกแล้ว