

“การพบกันระหว่างผลงานของ Monsieur Dior และ Massimo Osti ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Stone Island อาจจะทำให้คนที่หลงใหลในแฟชั่นที่เหมือนจะมาจากคนละขั้ว ไม่ว่าจะมาจากคนที่ชื่นชอบในโลกของโอต์กูตูร์ หรือจะมาจากคนที่อินกับเสื้อผ้าแนวทหารเน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยผมคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นจะสามารถจำรายละเอียดอะไรบางอย่างในผลงานผ่านการออกแบบที่ชัดเจนของทั้งสองได้เป็นอย่างดี มันเป็นการผสมผสานและการพลิกแพลงของการทำให้ความดั้งเดิมที่มีอยู่ดู แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน” กล่าวไว้โดย Kim Jones ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Dior Men



จากวิสัยทัศน์ของเสื้อผ้าโอต์กูตูร์ที่มีประวัติศาสตร์สืบทอดมาอย่างยาวนานในแบบฉบับ ปารีเซียง สู่ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเสื้อผ้าโดยเครื่องจักรที่มีความพิถีพิถันจากฝั่งอิตาลีในด้านของการผลิตเสื้อผ้าเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้าแนวทหาร (military) คอลเล็กชั่นนี้จะสัมผัสถึงส่วนผสมที่ลงตัวของความโรแมนติกและความแข็งแกร่ง และประวัติศาสตร์ของโอต์กูตูร์ตามแบบฉบับของปารีเซียง มาบรรจบกันกับความเชี่ยวชาญของฝั่งทางเหนือจากอิตาลีที่เน้นการผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องจักร มีรายละเอียดที่เน้นฟังก์ชั่น การใช้งานที่อเนกประสงค์ ทั้งสองสิ่งนี้เป็นเหมือนโลกคู่ขนานที่มาพบกันในแง่มุมของการพลิกแพลงทักษะและความชานาญดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว ทำให้เกิดผลงานใหม่เฉพาะตัวที่ดูแตกต่างออกไปจากเดิม ซึ่งวิธีหรือเทคนิคนี้ในภาษาฝรั่งเศสจะเรียกว่า savoir-faire การนำทักษะที่แตกต่างคนละขั้วของทั้งสองแบรนด์มาผสมผสานและทำให้เกิดผลงานใหม่ และนี่คือนิยามของการออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายของ Dior Men ในปัจจุบันเช่นกัน‘



‘The Alchemy of Color’ คือธีมหลักของคอลเล็กชั่นนี้ การผสมผสานของสีที่มาจากเทคนิคการย้อมผ้าและเทคนิคการตัดเย็บชั้นสูงแบบดั้งเดิม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูแตกต่างออกไปจากเดิม
การตัดเย็บหรือการปักแบบแฮนด์เมดของ Dior Men การย้อมผ้าและการผลิตเสื้อผ้าสไตล์ utility ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ Stone Island ถูกนำมาใช้ในการออกแบบคอลเล็กชั่นนี้ ด้วยเทคนิคแฮนด์เมดที่มีขั้นตอนที่ละเอียดและซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการนำผ้ามาเย็บบุให้เป็นลายโมทีฟอย่าง cannage เทคนิคการปักด้วยงานฝีมือชั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของฝั่ง Dior Men ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอลเล็กชั่น Autumn/Winter 1955 และ Spring/Summer 2013 นำมาอยู่บนซิลลูเอทและเนื้อผ้าที่ถูกย้อมและฟอกสีบนเสื้อผ้าสไตล์ utility ที่เน้น การใช้งานที่อเนกประสงค์ไม่ว่าจะเป็นบอมเบอร์แจ๊กเก็ต นิตแวร์ แจ๊กเก็ต โค้ท กางเกงทรงคาร์โก้ ซึ่งถือเป็นดีเอ็นเอที่ชัดเจนของ Stone Island สำหรับบางลุคยังมีการใช้เทคนิคของสูทเทเลอริ่งตามแบบฉบับของ Dior Men รวมไปถึงการใช้ผ้าฝ้ายผสมผ้าไหมและหนังปั๊มให้เป็นลาย การใส่รายละเอียดต่างๆด้วยโลโก้ตราสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของทั้งสองแบรนด์ออกมาได้อย่างลงตัวและยอดเยี่ยม