Photographer: Thanut Treamchanchuchai
Stylist: ViewC.
Author: Pacharee Klinchoo
ซิงเกิ้ลแรก กับการเป็นศิลปินเดี่ยวครั้งแรก
“ซิงเกิ้ลแรก ตื่นเต้นมากเลย จะออกมาเป็นยังไงนะ” โมบาย – พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปเปิดตัวให้สัมภาษณ์กับเราด้วยน้ำเสียงราวกับรำพึงกับตัวเอง “ตั้งแต่เข้าค่าย LOVEiS+ มา พี่ๆ ก็นัดประชุมกันหลายรอบมากๆ เลยค่ะ ถามว่าหนูอยากจะทำเพลงแนวไหน อยากจะวางตัวเองในแนวทางไหน หนูก็เลือกเพลงที่หนูชอบฟัง และเพลงที่หนูชอบร้องมาให้พี่ๆ ดู ภาพรวมก็จะเป็นฟีลอินดี้เกาหลีนิดนึง ซึ่งแนวทางแรกๆ มองกันว่าอยากจะฉีกจากภาพจำเดิมๆ ที่มีความเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปไปเลย แบบเปลี่ยนเป็นนักร้องที่มีวงดนตรีซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง ให้ภาพลักษณ์นักร้องศิลปิน ไม่ใช่ฟีลทีป็อป ก็คุยกันไปคุยกันมาหลายรอบ มีเพลงมาให้เลือกเยอะมากค่ะช่วงนั้น
“แต่ก่อนจะออกเพลงจริงๆ” โมบายเล่าด้วยสีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่กระตือรือร้นมากขึ้น “หนูได้มีโอกาสไปโชว์ตามงานต่างๆ หลายครั้ง และหนูก็เลือกเพลงที่ออกแนวทีป็อปนิดนึง เป็นเพลงที่มีการเต้นนิดหน่อย ซึ่งแฟนๆ ก็ชอบเห็นหนูเต้นด้วย พี่ๆ เลยมองใหม่ว่าให้หนูเริ่มอาชีพศิลปินเดี่ยวจากทีป็อปน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องฉีกลุคขนาดนั้น ค่อยๆ เลี้ยงไปน่าจะดีกว่า และส่วนตัวหนูเป็นคนชอบเพลงช้า เพลงเศร้า แต่อาจจะยังไม่เหมาะกับการเปิดตัวเพลงแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว เลยมาลงตัวเป็นเพลงทีป็อป ที่ก็เป็นจริตในตัวของหนูอยู่แล้ว และได้พี่มุก (MUKU จาก Lit Entertainment) ที่หนูชอบผลงานของพี่เขามาช่วยแต่งเพลงให้ ก็คิดว่าเพลงนี้น่าจะเหมาะที่จะเป็นเพลงแรกในการเปิดตัว”
ในวันที่เราลงนั่งคุยกับโมบาย เพลงนี้ยังไม่ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ โมบายจึงพยายามอธิบายให้เราฟังว่าเป็นสไตล์ทีป็อป ผสมกับแดนซ์ และใส่เสียงไวโอลินเข้าไปในเพลงเพื่อเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีก “หนูเป็นคนชอบความไม่ธรรมดาค่ะ” โมบายหัวเราะ “หนูคิดว่าพอใส่เสียงไวโอลินเข้าไปในเพลง มันก็จะดูยกระดับ ไม่ได้เป็นเพลงที่ได้ยินบ่อยๆ แต่ก็ยังเข้าถึงง่ายได้ค่ะ” และในวันที่เราเขียนบทความนี้ เพลง ‘มีใจทำไมไม่จีบ’ ก็ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการพร้อม MV ที่ได้หนุ่มหล่ออย่างอลัน หัวหน้าวงบอยแบนด์สุดฮ็อตอย่าง BUS มาแสดงนำร่วมกับเธอ ซึ่งทั้งอารมณ์เพลง ไวบ์ และอื่นใดก็ใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอพยายามอธิบายเราในวันสัมภาษณ์เป็นอย่างมาก
จากเกิร์ลกรุ๊ป สู่การบินเดี่ยวครั้งแรก
“หนูว่าหนูก็ชอบร้องเพลงคนเดียวอยู่นะ” น้ำเสียงของโมบายมั่นใจ “และหนูก็ชอบร้องเพลงมากกว่าเต้นอยู่แล้ว เลยคิดว่าถ้าได้ร้องเพลง ได้เป็นศิลปินจริงๆ หนูน่าจะมีความสุขนะ และพอได้ออกมาทำงานเป็นศิลปินเดี่ยวจริงๆ ก็รู้สึกว่ามีความสุขจริงๆ ตามที่คิดไว้เลย แต่การเป็นศิลปินเดี่ยวก็จะต้องเจอกับความยากแบบใหม่ที่ต้องรับมือให้ได้อย่างเวลาไปขึ้นคอนเสิร์ต หรือแม้แต่ขึ้นงานอีเวนต์ทั่วไป เวลาขึ้นไปกับเพื่อนๆ ก็จะมีคนคุย มีคนตบมุกโบ๊ะบ๊ะไปด้วยกัน ก็จะไม่ได้รู้สึกว่ากดดันอะไรขนาดนั้น อาจจะเพราะว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปกันมานานด้วยมั้งคะ เลยค่อนข้างชิน แต่พอออกมาทำงานคนเดียว ขึ้นเวทีคนเดียว เรื่องร้องเพลงไม่ค่อยกังวลมาก แต่กังวลว่าจะเอนเทอร์เทนคนดูยังไงดีนะ เพราะการขึ้นเวทีแต่ละครั้งมันไม่ใช่การเอาเพลงมาร้องต่อๆ กันอีกต่อไปแล้ว เมื่อก่อนหนูอาจจะมีแฟนคลับกลุ่มเฉพาะที่แค่เห็นหน้าหนูก็มีความสุขแล้ว แต่ในครั้งนี้ แฟนคลับจะเป็นคนที่เสพผลงานหนูจริงๆ นั่งฟังเพลงหนูจริงๆ หนูก็จะมีความกังวลว่าจะทำยังไงดีเพื่อจะเอาทุกคนให้อยู่เวลาขึ้นโชว์น่ะค่ะ หนูก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ และก่อนออกเพลง หนูก็ได้มีโอกาสไปงานอีเวนต์ต่างๆ ที่ต้องร้องเพลงกับวงดนตรีแบบ full band หนูตื่นเต้นมากเลยค่ะ โชคดีที่ค่ายมีเพลงหลายสไตล์ให้เลือกร้อง เลยได้ร้องเพลงหลายสไตล์เลยค่ะ”
ความคาดหวังที่มากับการบินเดี่ยวด้วยปีกตัวเอง
“เอาจริงๆ นะพี่” เธอยิ้มอย่างมีความสุข “แค่ได้มีเพลงเป็นของตัวเองสักเพลงหนูก็มีความสุขมากแล้วค่ะ แต่ถ้าจะให้ตอบเรื่องความคาดหวังจริงๆ หนูก็อยากให้ผลงานทั้งหมดออกมาจากตัวหนูเอง คือเป็นหนูที่ลงมือทำดนตรี เนื้อร้องทั้งหมดด้วยตัวเอง หนูจะได้มีอะไรที่เป็นตัวเองอยู่ในเพลง นั่นน่าจะเป็นจุดสูงสุดแล้วที่หนูหวังในตอนนี้” โมบายนิ่งคิด “อย่างเพลงแรกนี่ก็ยังก้ำกึ่งว่าแฟนคลับจะชอบไหมนะ แต่อย่างน้อยหนูก็ได้ทำในสิ่งที่หนูอยากทำไปแล้ว จริงๆ เป้าหมายสูงสุดของหนูคืออยากมีเพลงเป็นของตัวเองไปเรื่อยๆ ได้ร้องเพลงไปเรื่อยๆ และถ้าเพลงไหนมันดัง ก็คงจะรู้สึกดีใจนั่นล่ะค่ะ คือสำหรับหนูนะ…” อีกครั้งที่เธอนิ่ง หาคำอธิบายความรู้สึกในใจ “ความรู้สึกที่บอกว่า ‘เพลงเราบูมนะ’ ในชีวิตมีแค่ครั้งเดียว คือตอนที่ออกเพลง ‘คุ้กกี้เสี่ยงทาย’ ซึ่งก็เป็นการบูมในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของวง หนูเลยรู้สึกว่าห่างหายจากความรู้สึกนั้นไปนานมากแล้ว ในใจก็หวังลึกๆ อยากให้เพลงนี้มันมา ตอนนี้เลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆ และถ้ามันมาจริงๆ ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตเลยค่ะ
“ถ้าได้ทำเพลงเอง อยากจะเล่าเรื่องอะไรเหรอ” โมบายทวนคำถามของเรา “ถ้าเพลงที่เคยลองแต่งเองเล่นๆ นะคะ หนูก็จะเล่าเรื่องตัวเองที่จดเอาไว้นั่นล่ะค่ะ หนูชอบเพลงบัลลาร์ด ชอบเพลงเกาหลีช้าๆ เพราะหนูมี IU เป็นไอดอล และเขาก็ทำเพลงค่อนข้างลึก คือ ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังเนื้อหาเพลง ฟังแต่ดนตรี ก็จะรู้สึกว่าเพลงนี้เพราะจัง แต่ถ้าไปสนใจเนื้อหาอย่างจริงจัง ก็จะรู้สึกเลยว่ามันจะมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ในเนื้อเพลงของเขา เลยอยากจะทำให้ได้แบบนั้น และคนเราก็มีหลายอารมณ์นะ ก็อยากจะจับเอาความรู้สึกเหล่านั้นออกมาแต่งเป็นเพลงน่ะค่ะ”
เราบอกโมบายว่าให้เธอลองหลับตาฝันให้เต็มที่ แล้วบอกเราหน่อยว่าความฝันในฐานะศิลปินเดี่ยวของเธอจะพาเธอไปถึงจุดไหน “อันดับแรกเลยหนูอยากเป็นที่รู้จักในประเทศไทย นี่คือเป้าหมายแรกเลยค่ะ” โมบายยิ้ม “และถ้าให้มองไกลกว่านั้น หนูอยากไปต่างประเทศ ตอนเป็นเกิร์ลกรุ๊ปหนูก็เคยไปประเทศญี่ปุ่น แต่วงก็ค่อนข้างดังในประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว ความฝันหนูเลยอยากจะเป็นที่รู้จักในฐานะโมบายที่เป็นศิลินเดี่ยว อยากให้คนชื่นชอบผลงานของหนู อยากให้เพลงที่หนูร้องทำให้เขารู้สึกอะไรๆ แบบนี้ได้ค่ะ
“อนาคตอาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ตอนนี้” โมบายทิ้งท้าย “แต่ตอนนี้คือหนูชอบร้องเพลงมากที่สุด ความฝันของหนูเคยอยากจะมีเพลงให้หนูร้องไปอีกนานๆ ความฝันและอนาคตหนูจะได้ชัดเจนมากขึ้น หนูจะพยายามทำให้ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น หนูจะได้อยู่กับแฟนทุกคนไปนานๆ ความฝันของหนูจากจางๆ จะได้ค่อยๆ ชัดเจน และกลายเป็นความจริงได้ในที่สุดค่ะ”
Photographer: Thanut Treamchanchuchai
Assistant Photographer: Supachai Suwanmajo (@super_supachai) , Kachapon panuditeekun (@piabanananu_)
Stylist: ViewC.
Author: Pacharee Klinchoo
Model: MOBYE – Pimrapat Phadungwatanachok
Clothes: Marc Jacobs / Narong
Make Up: Casperproud
Hair: Phkhomr
Location: Dai Lou (FB: DailouTapas)