ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับความสำเร็จและประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต (นักดนตรี)

Share This Post

- Advertisement -

Interview conducted by: Pacharee Klinchoo 

Interview rearranged by: Peerachai Pasutan

Photography: Courtesy of The Records

29 สิงหาคม 2023 อาจเป็นเพียงวันวันหนึ่งสำหรับใครหลายคน แต่คงจะไม่ใช่วันธรรมดาสำหรับข้าว – ปณิธิ เลิศอุดมธนา และที – พิษณุ หทัยพัธลักษณ์ อย่างแน่นอน “คือ [วันนั้น] หย่อนไปสองเพลงฮะ ถ้ามันได้สักเพลงก็โอเค” ข้าวย้อนความอย่างติดตลกถึงวันที่พวกเขาปล่อยเพลง ‘ดาวหางฮัลเลย์’ และ ‘ฉันคือความทรงจำดีๆ ของเธอรึเปล่า’ พร้อมกัน แล้วความหวังของเขานั้นเป็นจริง เพราะเพลงแรกทำยอดรับชมบน YouTube ไปกว่า 70 ล้านครั้ง และกลายเป็นไวรัลทั่วอินเทอร์เน็ต เปลี่ยนชีวิตของศิลปินทั้งสองชั่วข้ามคืน หลังจากที่พวกเขาอยู่ในวงการดนตรีด้วยกันมา 11 ปี

แม้ช่วงเริ่มต้น fellow fellow จะทำเพลงกันเพื่อความสนุกและเน้นคัฟเวอร์เพลงของคนอื่นเป็นหลัก แต่พอมีค่ายเพลงค่ายหนึ่งมาทาบทาม การทำเพลงเลยกลายเป็น ‘อาชีพ’ ของพวกเขา “[ตอนเซ็นสัญญากับค่าย] มันเริ่มจริงจังแล้ว ไม่ใช่เล่นๆ แล้ว มันคือการผลิตผลงานออกมาให้สาธารณะได้เห็น แล้วตอนนั้นก็เป็นตอนที่เริ่มฝึกเขียนเพลงจริงๆ จังๆ ก็ประกอบคู่กันมา พยายามที่จะสร้างให้เป็นอาชีพของเรา” ข้าวเล่า ถึงทีจะพูดติดตลกว่าเส้นทางของวงก่อนที่จะมี ‘ดาวหางฮัลเลย์’ จะ “ลุ่มๆ ดอนๆ” แต่พวกเขาก็ได้รู้จักคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่ช่วยปูทางมาสู่ความสำเร็จในวันนี้ “ก็เริ่มมาจากตอนเข้าค่ายครั้งแรก เจอพี่ณรงค์ เดชะ ก็เป็นโปรดิวเซอร์และคุณครูคนแรก เขาสอนเรื่องการทำและเขียนเพลงครับ จึงเริ่มได้วิชาจากตรงนี้ แล้วก็ได้มีโอกาสมาเจอพี่แทน Lipta (ธารณ ลิปตพัลลภ) พี่แทนก็หาพาร์ทเนอร์ คนร่วมทำงาน แล้วก็พอได้ทำด้วยกันแล้วเคมีมันได้ ก็ทำด้วยกันยาวเลย” หลังจากนั้น fellow fellow ก็ย้ายมาสังกัดค่าย Kicks Records ที่แทนร่วมก่อตั้ง “ผมก็ ‘ลองกันอีกสักตั้ง’ ลองดูกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็เหมือนได้รีเฟรชกับตัวเอง แล้วเต็มที่กับมันอีกรอบครับ” ข้าวเสริม

ถึงจะกังวลว่าผู้ฟังอาจจะไม่เข้าใจกับชื่อ ‘ดาวหางฮัลเลย์’ และสารที่เพลงจะสื่อ แต่สุดท้าย fellow fellow ก็มั่นใจในผลงานที่พวกเขาอยากนำเสนอ “ตอนแรกก็รีเสิร์ชให้หลายคนฟังหรือว่าดู เรามาคิดว่า ‘เอ๊ะ มันจะยากไปหรือเปล่าสำหรับตลาด’ แล้วไอ้คำว่าดาวหางฮัลเลย์เนี่ย เด็กรุ่นใหม่จะเก็ตหรือเปล่าถ้าเราใช้ชื่อเพลงนี้ แต่ว่าผมชอบคอนเซปต์นี้และอยากจะผลักดันมัน ต่อให้ออกไปแล้วคนจะงง แต่เราชอบ ก็เลยปล่อยสิ่งที่มันดีไว้ก่อนสำหรับเรา” ข้าวเล่า เมื่อซิงเกิลนี้ดังไปทั่วประเทศ ความพยายามตลอดหลายปีของพวกเขาในเส้นทางดนตรีก็ไม่สูญเปล่า “เราทำมาจนผ่านช่วงท้อ ช่วงปลง ‘การทำเพลงดังคงเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเราแล้วแหละ’ แต่ก็ทำเพลงกับเบื้องหลังไปเรื่อยๆ พอทำเพลงของตัวเองแล้วมันมาได้ [จนถึงจุดนี้] ก็ภูมิใจ รู้สึกว่าเหมือนชีวิตได้ปักธงครับ”

หลังจาก ‘ดาวหางฮัลเลย์’ วงก็ใช้ความ ‘โรแมนติก-ดรามา’ เป็นแนวอารมณ์และแนวความคิดหลักในการทำเพลง เนื่องด้วยชีวิตรักและครอบครัวของพวกเขาที่เติบโตขึ้น “[แต่] ตอนปล่อยเพลง ‘ไม่เปลี่ยนเลย (Best Luck)’ ลง YouTube ในคอมเมนต์ก็จะมีบางคนแบบ ‘โอ้ย มาเพลงรักอีกแล้ว อยากฟังเพลงมูดอื่นบ้าง’” ทีเล่าจนทำคู่หูของตัวเองหัวเราะ แต่นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วงลองเปลี่ยนโหมดมาทำเพลงเกี่ยวกับความโศกเศร้าเสียใจในชีวิตมนุษย์บ้าง จนเกิดเป็นซิงเกิลล่าสุด ‘หน้าที่ของน้ำตา’ ที่ได้วงอินดี้ FREEHAND มาร่วมงานด้วย “ส่วนตัวผม การที่เพื่อนมาปลอบว่า ‘มึง ไม่เป็นไร สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น’ มันไม่ช่วยอะไรสำหรับผม ยิ่งตอกย้ำ [ซ้ำเติมอีก] ด้วยซ้ำ ยิ่งเวลามีคนมาปลอบเยอะๆ แล้วเรารู้สึกว่าตัวเองยิ่งอ่อนแอ วิธีเดียวที่จะช่วยได้คือให้เวลาเยียวยา ให้น้ำตาไหลไป เพลงนี้ก็เหมือนให้กำลังใจคนที่เศร้าอยู่ ยอมรับความจริงแล้วอยู่กับมัน มันจะมีคำว่า ‘อย่างน้อยเหล้าก็จะหวานตอนที่เราเสียใจ’ คงเป็นประมาณนั้น” ข้าวอธิบาย “แต่ต้องบอกแฟนเพลงไว้ก่อนว่า เดี๋ยวจะได้ฟังเพลงรักอีกหลายเพลงนะ (หัวเราะ) แต่ว่าเราแค่ตัดมาที่โหมดเพลงเกี่ยวกับชีวิต [และ] ความเสียใจครับ”

ความโด่งดังของ ‘ดาวหางฮัลเลย์’ ทำให้ fellow fellow มีพลังเกินร้อยในการออกไปแสดงคอนเสิร์ตและสร้างสรรค์เพลงใหม่ๆ “จริงๆ เรามีแพสชันที่รุนแรง ต่อให้อายุวงจะสิบปีก็ตาม แต่ว่างานในช่วงหกเดือนที่ผ่านมามันเยอะกว่าที่เราเล่นมาสิบปีครับ (หัวเราะ) เรา [จึง] รู้สึกว่าเป็นศิลปินกึ่งเก่ากึ่งใหม่ เราทำมานาน แต่ว่าเรียกว่ามาจุดติดจริงจังก็เพราะ ‘ดาวหางฯ’ เราได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ การออกไปทัวร์เยอะๆ ไปเล่นเวทีใหญ่ๆ งานเยอะแล้วคอพัง ก็เลยเป็นการเติมเชื้อเพลิงได้รุนแรงมาก และรู้สึกเหมือนสิบสี่อีกครั้ง (หัวเราะ)” ข้าวตอบด้วยความสนุก “จากก่อนหน้านี้ที่ทำไปเรื่อยๆ ทำด้วยความสุข ตอนนี้ก็กระตือรือร้น เริ่มมีธงและความกล้าที่จะฝันมากขึ้น” ความฝันที่วงวาดไว้ ณ ตอนนี้คือการมีเพลง 100 ล้านวิวสักเพลง การได้ออกไปแสดงดนตรีและสร้างฐานแฟนคลับใหม่ๆ ในต่างแดน และคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเวนิวที่รองรับผู้ชมได้ 500-800 คน

สิ่งหนึ่งที่เราสนใจจากการสัมภาษณ์ fellow fellow คือการทำงานเป็นทีมและการนำ ‘ข้อมูล’ บนโลกออนไลน์มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ “ต้องขอบคุณทาง Kicks Records และ Believe Digital ด้วยที่มากระตุ้นและมีข้อมูลมาฟีดแบคเราค่อนข้างบ่อย มีแผน ประชุม และการโปรโมทต่างๆ ค่อนข้างเยอะ เราเองไม่เคยทำงานในยุคดิจิตอล [เต็มรูปแบบ] ขนาดนี้เหมือนกัน น่าสนใจดีครับ ก่อนหน้านี้เราปล่อยเพลงในชาแนลของค่าย แต่ตอนนี้เราปล่อยเพลงในชาแนลของเราเอง เราเห็นหลังบ้านแล้วว่าค่าต่างๆ อยู่ตรงไหน ผู้ชมของเราอยู่ที่ไหนบ้าง หรือบางเรื่อง ทีมมาร์เกตติงมาบอกว่า ‘มีเทรนด์เรื่องนี้เรื่องนั้นนะ fellow fellow ลองทำอันนี้ลงโซเชียลไหม’ [เมื่อก่อน] พอเราสองคนไม่ได้ติดตามเรื่องพวกนี้ เราก็ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ครับ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานหลายรูปแบบเหมือนกัน แล้วโซเชียลมีเดียก็มีผลค่อนข้างเยอะสำหรับการโปรโมทสิ่งต่างๆ ในยุคนี้ครับ”

ฟังเพลง ‘หน้าที่ของน้ำตา’ ได้แล้วบนทุกช่องทางสตรีมมิ่ง และติดตาม fellow fellow ได้ทางช่อง YouTube และ Instagram: fellowfellowband

 

- Advertisement -