หากจะพูดถึง ‘โทรศัพท์มือถือ’ ในยุคนี้ คงจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ไปเสียแล้ว และสิ่งที่อยู่คู่โทรศัพท์คงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก ‘เคสโทรศัพท์มือถึอ’ และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเรานั้นได้เปลี่ยนเคสบ่อยมากกว่าโทรศัพท์ เมื่อเราเปลี่ยนบ่อยปริมาณของขยะก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นปัญหานี้จึงเป็นปัญหาที่สำคัญที่หลายๆ คนไม่ควรมองข้าม โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 CASETiFY แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยี ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และก้าวกระโดดสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่ครองใจกลุ่มมิลเลนเนียล Gen Z และเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลก ความปังของแบรนด์ไม่เพียงได้มาด้วยความเก๋ที่แตกต่าง แต่ยังเป็นผลพวงที่มาจาก “พลังแห่งการสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน” หนึ่งในหัวใจหลักของแบรนด์ ที่มุ่งส่งเสริม สนับสนุน และเชื่อมโยงการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพเข้ากับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านแคมเปญ ‘Re/CASETiFY’ โครงการรีไซเคิลที่ปลุกชีวิตใหม่ให้กับเคสมือถือชิ้นเก่าให้มีคุณค่าในทั่วโลก ซึ่งตอกย้ำว่า CASETiFY ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ แต่ยังเป็นตัวแทนของวิถีชีวิตที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน
Re/CASETiFY เริ่มต้นจาก ‘กล่องบริจาค’ ที่มีอยู่กว่า 40 สาขาในร้าน CASETiFY Studio ทั่วโลก ผู้ใช้งานสามารถนำเคสมือถือเก่ามาหย่อนใส่กล่องเหล่านี้ได้ตลอดเวลา โดยจะได้รับส่วนลดสำหรับใช้ซื้อสินค้าภายในร้านเป็นการตอบแทน สำหรับผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ใกล้กับร้าน CASETiFY Studio ก็สามารถส่งเคสเก่าทางไปรษณีย์ไปยัง CASETiFY ที่กำหนดไว้ได้หลายแห่ง เพื่อให้แบรนด์นำไปกำจัดอย่างถูกวิธี และนอกจากจะกำจัดแล้วการนำเคสเก่ามาต่อยอดยังถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่ทางแบรนด์ได้โฟกัส โดย CASETiFY ประเทศไทย ได้นำเคสมือถือเก่าเหล่านี้ไปแปรรูป (Upcycle) เป็น ‘รองเท้าแตะ’ Re/CASETiFY Sandals จำนวน 500 คู่ ร่วมกับ โครงการรองเท้าทะเลจร (Tlejourn Shoes) ซึ่งเป็นโครงการแบบไม่หวังผลกำไรที่เปลี่ยนขยะจากทะเลเป็นพื้นรองเท้า บนความร่วมมือระหว่างอาสาสมัครกลุ่ม Trash Hero นักวิทยาศาสตร์ด้านพอลิเมอร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แบรนด์แฟชั่นดีไซน์ และชุมชนชาวปัตตานี โดยรองเท้าแตะ Re/CASETiFY Sandals 1 คู่ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนจากเคสมือถือเก่า 7 เคส และขยะจากทะเลกว่า 20 กิโลกรัม เท่ากับว่ารองเท้า Re/CASETiFY Sandals ทั้ง 500 คู่นี้ ได้ช่วยลดขยะในท้องทะเลถึง 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) เลยทีเดียว
นอกจากรองเท้าแล้วนั้น CASETiFY ยังตอกย้ำแนวคิด ‘ความคิดสร้างสรรค์ไม่หยุดยั้ง’ ด้วยกิจกรรมเฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ในปีนี้ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2567 ด้วยการลุยจัดกิจกรรมที่ผสมผสานศิลปะและความยั่งยืนเข้าด้วยกันในทั่วโลก ตลอดทั้งเดือนเมษายน 2567 โดยมีศิลปินและนักออกแบบชื่อดังจากทุกมุมโลกได้รับเชิญให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะขนาดใหญ่จากเม็ดพลาสติก Re/CASETiFY เพื่อจัดแสดงในพื้นที่สาธารณะ และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ CASETiFY ในการสนับสนุนศิลปิน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม การจัดแสดงศิลปะเหล่านี้ไม่เพียงดึงดูดสายตา แต่ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยงชุมชน สร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างผู้คนกับธรรมชาติในวันคุ้มครองโลกอีกด้วย