3 เรือนเวลาจากคอลเลกชันใหม่ “Long Island Evolution” กับ Franck Muller

Share This Post

- Advertisement -

นวัตกรรมทางเทคนิคคือคุณภาพที่เป็นหัวใจสำคัญแห่งปรัชญาของ Franck Muller โดยพบกับ Lonh Island ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 เรือนเวลาแสดงเวลาแบบสามเข็มชี้ ด้วยความสง่างามของตัวเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยมมนที่มีรูปทรงของขอบโค้งอันแสนอ่อนโยน หูตัวเรือนแบบสั้นและตัวเลขแสดงเวลาโค้งไปตามงานออกแบบของตัวเรือนนั้นได้อุทิศให้กับยุค Art Deco และผลงานนี้ก็กลายเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากท่ามกลางหมู่นักสะสม 

โครงสร้างใหม่อันซับซ้อน พบกับ Vartan Sirmakes กับงานออกแบบใหม่ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งโครงร่างไว้ดั้งเดิม ได้รับการออกแบบและคิดค้นคิดขึ้นโดยผู้ร่วมก่อตั้งของทางแบรนด์ ขณะที่แทรกไว้ซึ่งความทรงพลังใหม่สู่ตัวเรือนนาฬิกา และเพื่อปรับโครงสร้างขึ้นใหม่ให้กับคอลเลกชั่นนี้เราจึงจำเป็นต้องถอดรหัสโครงสร้างของงานออกแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งเผยซึ่งสัดส่วนอันประณีตยิ่งขึ้นเพื่อมอบความโดดเด่นให้กับความโค้ง มุมและเส้นสายอันละเอียดอ่อนต่างๆ ได้อย่างแท้จริง

เมื่อเปรียบเทียบกับงานออกแบบ Long Island แบบดั้งเดิม ตัวเรือนใหม่นี้ได้หลอมรวมเข้ากับตัวเรือนด้านในที่ทำหน้าที่ปกป้องกลไกรูปทรงพิเศษซึ่งขับเคลื่อนการทำงานของนาฬิกาโดยตัวเรือนด้านในเพิ่มเติมของนาฬิกาคอลเลกชัน Long Island Evolution นี้ได้นำเสนอความปลอดภัยเพิ่มเติม รวมไปถึงการปกป้องกลไกจากแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทก นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างแบบหลายชั้น จนเกิดประโยชน์สูงสุดข้อหนึ่งนั่นคือการช่วยให้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ทำหน้าที่ปกป้องการแสดงเวลาของนาฬิกาสามารถเชื่อมเข้ากับขอบด้านข้างของหน้าปัดได้โดยไร้สกรูติดตั้งใดๆ ที่มองเห็นได้ 

ตัวเรือนด้านในอลูมิเนียมยังผ่านกระบวนการชุบอโนไดซ์ด้วยเฉดสีเขียวต้นสน ขณะที่ตัวเรือนด้านนอกทำจากไทเทเนียมผ่านการเคลือบ PVD สีดำและตกแต่งด้วยงานขัดแบบซาติน มาพร้อมสายหนังจระเข้หรูหราในเฉดสีดำแบบด้านที่ตกแต่งด้วยด้ายเย็บตะเข็บสีตัดกันตลอดจนขอบด้านข้างของสายหนังที่เป็นเฉดสีเขียวต้นสนเดียวกันซึ่งเข้ากับตัวเรือน ลอง ไอส์แลนด์ ใหม่ได้อย่างลงตัว

รุ่น Long Island Evolution Master Jumper

Triple Jumping Complication ในปีนี้ แบรนด์ได้เผยโฉมอีกหนึ่งความสลับซับซ้อนขั้นสูงในรูปแบบของ Triple Jumping ผ่านการแสดงเวลาด้วยตัวเลขสำหรับทั้งชั่วโมง นาที และวันที่ ผ่าน Long Island Evolution Master Jumper ขณะที่การแสดงเวลาแบบTriple Jumping นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง แต่จะเชื่อมโยงถึงเพียงเฉพาะกับฟังก์ชันปฏิทินต่างๆ ในเรือนเวลาแสดงปฏิทินถาวรหรือ Perpetual Calendars ก็ยังไม่เคยปรากฏซึ่งนาฬิกาภายในเรือนเดียวกันที่ สามารถแสดงด้วยตัวเลขในสามการแสดง รวมถึงเป็นทั้งฟังก์ชันที่แสดงเวลาและวันที่ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

อีกทั้งยังได้เพิ่มกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ด้านใน ณ ระดับเดียวกับขอบตัวเรือนด้านใน ลุ่มลึกในแบบสามมิติให้กับเรือนเวลา นอกจากนั้นยังมีประโยชน์สำหรับองค์ประกอบของตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ลงบนองค์ประกอบ เช่นเดียวกับบนกรอบของช่องหน้าต่างทั้งสามช่องที่สามารถผสานสู่หน้าปัดได้โดยตรงอย่างกลมกลืน ทั้งยังช่วยให้สามารถรักษาไว้ซึ่งคุณลักษณะเด่นของกลไกแบบเปลือยโปร่งหรือ Open-Worked ขณะที่ยังคงความโดดเด่นของการแสดงด้านเทคนิคต่างๆ บนกลไกไปอีกขั้น

นาฬิกาแสดงเวลาแบบ Jumping Hour นั้นปรากฏมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่การแสดงด้วยตัวเลขอย่างสมบูรณ์ของเวลาภายในนาฬิกาจักรกลเพิ่งจะเผยโฉมเมื่อเพียงในปี ค.ศ. 2009 สำหรับผลงานรุ่น Long Island Evolution Master Jumper นี้ได้ก้าวไปเหนือยิ่งกว่า ด้วยการแสดงแบบจั๊มปิ้งในระยะเท่ากันและจัดวางการแสดงทั้งหมดในแนวตั้งใหม่ โดยมาพร้อมช่องหน้าต่างสามช่องที่จัดเรียงกันในแนวตั้งและอยู่ในบริเวณกลางหน้าปัด เริ่มไล่จากการแสดงชั่วโมงด้านบน การแสดงนาทีที่จุดศูนย์กลาง และการแสดงวันที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา หน้าต่างแสดงนาทีและวันที่นั้นในแต่ละช่องใช้ดิสก์สองชิ้นแยกกันสำหรับหน่วยสิบและหน่วย และดิสก์ทั้งคู่กระโดดไปทีละตัวเลขบนฐาน 10 ในขณะที่หน้าต่างแสดงชั่วโมงใช้เพียงดิสก์เดียว เพื่อแสดงชั่วโมงต่าง ๆ นับจาก ‘1’ ถึง ‘12’ สำหรับดิสก์ทั้งห้าชิ้น เช่นเดียวกับเฟืองต่างๆ การเคลื่อนการเคลื่อนไหวเหล่าทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นได้จากด้านหน้าของนาฬิกาผ่านสะพานจักรรองรับซึ่งตัดขึ้นรูปอย่างแม่นยำโดยเครื่องจักร

ความท้าทายสูงสุดของ Master Jumper คือการมอบพลังงานให้กับการแสดงด้วยตัวเลขเหล่านี้ ที่การส่งถ่ายจังหวะการกระโดดแบบฉับพลันสำหรับชั่วโมงและนาทีนั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการกระโดดของชั่วโมง และแม้กระทั่งเมื่อสิ้นสุดวัน ที่การแสดงวันที่จะต้องกระโดดด้วยเช่นกัน และเพื่อให้บรรลุถึงกำลังบิดที่เพียงพอไปตลอดจนถึงสิ้นสุดพลังงานสำรอง เราจึงได้สร้างสรรค์นวัตกรรมของระบบตลับลานคู่ขึ้น ที่ประกอบด้วยตลับลานตัวแรกที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทำหน้าที่ขับเคลื่อนดิสก์แสดงชั่วโมงและนาที ขณะที่ตลับลานตัวที่สองซึ่งตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ทำหน้าที่มอบพลังงานให้กับกลไกและดิสก์สองตัวที่เชื่อมโยงกับการแสดงวันที่กันอย่างลงตัว

นอกจากนั้นบนกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ รายละเอียดของกลไกของ Calibre FM 3100 ที่ออกแบบขึ้นเฉพาะสำหรับเรือนเวลานี้ได้ถูกพิมพ์ข้อความไว้เพื่อบ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคนิคของกลไกชุดนี้ ภายใต้วิถีอันสร้างสรรค์ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากสี่ปีเต็มของการพัฒนา กลไกชุดนี้ยังผ่านการตกแต่งด้วยมือ พร้อมด้วยเทคนิคอีกมากมายที่นำมาใช้ในโรงงานการผลิตของเรา เพื่อมอบซึ่งกลไกที่ทั้งสวยงามและน่าทึ่งทางเทคนิค 

รุ่น Long Island Evolution Giga Tourbillon

ทูร์บิญองนั้นเป็นงานออกแบบที่เป็นไอคอนิกสูงสุดในโลกของเรือนเวลาชั้นสูง (Haute horlogerie) แฟรงค์ มุลเลอร์ ได้สร้างสรรค์ทูร์บิญองหลากหลายประเภทสำหรับติดตั้งภายในนาฬิกาข้อมือมานับตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของแบรนด์ โดยเราถือเป็นแบรนด์แรกที่พัฒนาทูร์บิญองหลายแกน (Multi-Axis Tourbillon) ขึ้น และยังครองสถิติสำหรับนาฬิกาข้อมือสลับซับซ้อนสูงสุดเท่าที่เคยสร้างสรรค์มา โดยในวันนี้กลไก Giga Tourbillon ของเรา ซึ่งมีกรงทูร์บิญองขนาด 20 มม. ได้มาปรากฏโฉมในตัวเรือน ลอง ไอส์แลนด์ พร้อมด้วยการตีความใหม่อันเซ็กซี่และทันสมัย ตลอดจนการเคลือบตกแต่งด้วยโทนสีดำทั้งหมดซึ่งจับคู่ได้อย่างลงตัวกับตัวเรือนไทเทเนียม 

กรงทูร์บิญองขนาดใหญ่ของ Long Island Evolution Giga Tourbillon ได้ครองพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของกลไกทั้งชุด พร้อมด้วยสะพานจักรรองรับแบบสามแฉกที่สะท้อนอย่างใกล้ชิดถึงสะพานจักรต่างๆ ของตลับลานซึ่งทำหน้าที่รองรับเมนสปริงทั้งสี่ตัวไว้ทั้งหมด องค์ประกอบเหล่านี้ได้มอบซึ่งพลังงานสำรองอันยาวนานถึง สี่วัน พร้อมการแสดงพลังงานสำรอง ณ ระหว่างตลับลานต่าง ๆ ส่วนเข็มชี้เติมด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่ทั้งสองเข็มชี้ไปยังชั่วโมงและนาที พร้อมด้วยทูร์บิญองขนาดใหญ่พิเศษซึ่งทำหน้าที่คู่สำหรับเป็นหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีต่อเนื่อง 

รุ่น Long Island Evolution 7 Days Power Reserve

เพื่อความสมบูรณ์ของคอลเลกชั่น เรายังได้สร้างสรรค์นาฬิกาแบบสามเข็มชี้รุ่นที่สามขึ้นซึ่งติดตั้งด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ FM 1745 calibre ภายใต้งานออกแบบแบบสเกเลตันอย่างสมบูรณ์ โดยเรือนเวลาอันน่าประทับใจนี้มอบการสำรองพลังงานได้ยาวนานถึงเจ็ดวัน พร้อมการทำงานอย่างแม่นยำด้วยความถี่สม่ำเสมอที่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง ในผลงานเรือนเวลารุ่น Long Island Evolution 7 Days Power Reserve ที่ตั้งใจหวนคืนสู่สไตล์คลาสสิกของกลไกนาฬิกา แต่ยังคงมอบไว้ซึ่งการปรับโฉมใหม่อย่างเข้มแข็งและชวนหลงใหลซึ่งรับได้อย่างลงตัวกับเอกลักษณ์ ‘T’ ของตัวเรือน ลอง ไอส์แลนด์ ใหม่

โดยสะพานจักรต่าง ๆ ของกลไกนี้ผ่านการสลักเสลาแบบสเกเลตันทั้งหมด เพื่อมอบภาพการมองเห็นกลไกได้อย่างชัดเจนสูงสุดผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมด้วยหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีเล็ก ณ ด้านล่างสุดของการแสดง ที่จัดวางไว้อย่างสมดุลและสมบูรณ์แบบเข้ากับเมนสปริงขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือขึ้นไป ส่วนรางเกียร์เฟืองและเกียร์เฟืองไขลานต่าง ๆ เผยให้มองเห็นได้บางส่วน ทั้งยังสามารถสำรวจความซับซ้อนและสวยงามของกลไกนี้เพิ่มเติมได้ผ่านฝาหลังของนาฬิกา ขณะที่เหนือขึ้นไปจากกลไก เป็นการแสดงด้วยตัวเลขอารบิกบอกชั่วโมงขนาดใหญ่ที่วาดด้วยสารเรืองแสง เพื่อแสดงเวลาได้อย่างชัดเจน และสามารถมองเห็นได้ในที่มืดด้วยรายละเอียดเรืองแสงของเรือนเวลา 

นาฬิกาทั้งสามรุ่นใหม่ของ ลอง ไอส์แลนด์ ล้วนอุทิศให้กับผลงานสร้างสรรค์ ลอง ไอส์แลนด์ แบบดั้งเดิม แต่นำมาแสดงออกด้วยมิติและความสง่างามครั้งใหม่ เช่นเดียวกับงานออกแบบใหม่ของนาฬิกาแสดงเวลาแบบสามเข็มชี้ โดยทุกรุ่นยังได้ร่วมสะท้อนให้เห็นว่า แฟรงค์ มุลเลอร์ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและก้าวไกลยิ่งขึ้นตลอดกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา และพวกเรายังคงเดินหน้าสู่การบรรลุถึงจุดสูงสุดอันยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นต่อไป 

เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเอเชียแปซิฟิก

นาฬิการุ่น ลอง ไอส์แลนด์ อีโวลูชั่น มีจัดจำหน่ายเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สำหรับรุ่น Long Island Evolution 7 Days Power Reserve ทั้งหมด 300 เรือน, รุ่น Long Island Evolution Master Jumper 100 เรือน และ รุ่น Long Island Evolution Giga Tourbillon 8 เรือน

 

- Advertisement -