“คิม ซู ฮยอน” แบรนด์แอมบาสเดอร์ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่อจากแบรนด์ “มิโด” (MIDO) 

Share This Post

- Advertisement -

อวดลุคสปอร์ตสุดเท่ผ่านเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดพิเศษ “โอเชี่ยน สตาร์ จีเอ็มที สเปเชียล อิดิชั่น” (Ocean Star GMT Special Edition)

“มิโด” (MIDO) เรือนเวลาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ล่าสุดได้เปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชั่นสุดพิเศษชื่อว่า “Ocean Star GMT Special Edition” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี คอลเลกชั่น Ocean Star นาฬิการะดับตำนานที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันน้ำที่พัฒนามาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้ยังได้แบรนด์แอมบาสเดอร์ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่ออย่าง“Kim Soo Hyun” ร่วมถ่ายทอดลุคสปอร์ตสุผ่านนาฬิการุ่นพิเศษ

MIDO แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าเป็น 100 ปี ตั้งแต่ GEORGES SCHAEREN เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน

คอลเลกชั่น Ocean Star GMT Special Edition เป็นเเรือนเวลาสำหรับเหล่านักเดินทางและคนรักการทำกิจกรรมดำน้ำ ที่มาในดีไซน์ใหม่ล่าสุด โดยคอลเลกชั่น Ocean Star นั้น ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1944 ในสมัยนั้นมิโดยังเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของคุณสมบัติกันน้ำ ได้คิดค้นระบบ Aquadura ขึ้นมาเพื่อปกป้องกลไกอันล้ำค่าภายในตัวเรือนจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางแบรนด์มิโดจึงอยากฟื้นคืนจิตวิญญาณของเรือนเวลารุ่นในอดีตนี้อีกครั้ง โดยการผสมผสานกลิ่นอายสไตล์ความวินเทจและเทคโนโลยีอันทันสมัย มาพร้อมกับฟังก์ชัน GMT ที่เหมาะสำหรับนักเดินทาง ในหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร ที่สามารถแสดงเวลาสองไทม์โซนที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวลาของเมืองที่เดินทางมา (Home Time) และเวลาของเมืองที่เดินทางมาถึง (Local Time) สำหรับรุ่นสเปเชียล อิดิชั่นครั้งนี้ ตัวเรือนถูกออกแบบให้มีดีไซน์หน้าปัดสีน้ำเงินกรมท่าตัดกับสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยการตกแต่งหมุดบอกเวลาในรูปทรงฟันปลาฉลามอันแหลมคม พร้อมกรอบ Bezel อลูมิเนียมสีน้ำเงินเข้มที่สามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง ด้านตัวหมุดบอกเวลาและเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา Super-luminova® ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย ในขณะที่เข็มเคลือบเงาสีแดงจะชี้ไปยังโซนเวลาที่สองบนหน้าปัด พร้อมช่องบอกวันที่ ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกลาสบ็อกซ์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ด้านบริเวณฝาหลังถูกสลักเป็นสัญลักษณ์รูปปลาดาวที่สะท้อนถึงคอลเลกชั่น Ocean Star โดยตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจาก Nivachron™ เพิ่มความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก และความสามารถในการกันลึก 20 บาร์ / 200 เมตร นอกจากนี้เรือนเวลาคอลเลกชั่นสเปเชียล อิดิชั่นยังมาพร้อมกับกล่องดีไซน์สุดพิเศษ และสายนาฬิกาแบบ 2 สไตล์ ได้แก่ สายแสตนเลสสตีลขัดเงาแบบมัลติลิงค์เคลือบซาตินที่มีตัวล็อคแบบพับได้ พร้อมส่วนต่อขยายสำหรับทำกิจกรรมดำน้ำ และสายนาโต้สีน้ำเงินเข้มที่มีดีเทลแต่งเส้นกึ่งกลางเป็นแถบสีเทาสุดโดดเด่น มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทนทานและยังสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์สวมใส่ได้ในทุกโอกาส 

ด้านแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะข้อควรคำนึงในการเลือกนาฬิกาสำหรับคนรักกิจกรรมดำน้ำ ซึ่งสิ่งสำคัญควรเลือกนาฬิกาที่ทนทานต่อการใช้งานใต้น้ำและมีคุณภาพเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อันดับแรกควรคำนึงถึงความทนทานต่อการแรงดันของน้ำ เลือกจากนาฬิกามีค่า Water Resistance เพียงพอสำหรับการดำน้ำลึก ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่านาฬิกาสามารถทนทานต่อความดันของน้ำใต้ผิวทะเลได้ ต่อมาการเลือกจากวัสดุของตัวเรือน โดยเลือกวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล อย่างตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงควรเลือกที่มีฟังก์ชันส่วนขยายของสายที่สามารถปรับให้กระชับรับกับข้อมือเพิ่มความสะดวกสบายขณะใช้งานใต้น้ำ ข้อควรคำนึงต่อมาเลือกจากความชัดของหน้าปัด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมใต้น้ำทะเลลึกมักจะมีความมืด ความชัดของหน้าปัดและการอ่านค่าที่ง่ายจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

ร่วมเป็นเจ้าของเรือนเวลาระดับตำนานในรุ่นสเปเชียล อิดิชั่นล่าสุดอย่าง “โอเชี่ยน สตาร์ จีเอ็มที สเปเชียล อิดิชั่น” (Ocean Star GMT Special Edition) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com 

- Advertisement -