จบกันไปแล้วกับแฟนมีตติ้งที่ผ่านมาของยุนอาใน วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำเอาโซวอนปลื้มปริ่มกันสุดๆ ถือเป็นเวลาเกือบ 6 ปีที่ยุนอาไม่ได้มาจัตแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทย โซวอน(ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) คนไหนยังติดอยู่ที่ ไบเทคกันบ้าง?
ไฟเริ่มทยอยปิดลง แสงไฟจากแท่งไฟสีชมพูค่อยๆ สว่างไสวขึ้น จนเป็นทะเลสีชมพู พร้อมด้วยเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่น ยุนอาเปิดแฟนมีตติ้งมาด้วยเพลงแรกเบาสบาย พร้อมเสียงอันแสนหวานของเธออย่างเพลง “ 바람이 불면 (When The Wind Blows)”
โดยแฟนมีตของยุนอานั้นจะแบ่งช่วงของแฟนมีตติ้งตามคอนเซปต์ของหนังสือ เริ่มด้วย Chapter 0 ที่เป็นช่วงตอบคำถาม ที่ให้แฟนๆ ส่งคำถามมาถามยุนอากัน บรรยากาศเป็นกันเองสนุกสนาน และแฟนๆที่ถูกเลือกได้ถ่ายรูปคู่ยุนอาอีกด้วย แต่ที่ตลกไปกว่านั้น มีโซวอนท่านนึงเขียนคถาบูชาพระพิฆเนศ ไว้ที่กระดาษคำถามแล้วยุนอาดันหยิบคำถามนั้นมาได้จริงๆ เรียกได้ว่าโซวอนขำกลิ้งกันทั้งฮอลล์
ถัดมาที่ Chapter 1 กับการเล่าถึงตัวละครจากบทบาทต่างๆของยุนอาที่เคยแสดงมา พร้อมปล่อยภาพเบื้องหลังสุดเอ็กซ์คลูซีฟของผลงานที่ผ่านมาอย่าง EXIT และ King The Land
และบรรยากาศยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ต่อมากันที่ Chapter 2 ช่วงทำชาแลนจ์ต่างๆ ที่จะมีตัวเลขจากแผ่นป้ายในจอ แล้วให้ยุนอาเลือกมาทีละหมายเลข เรียกได้ว่า แผ่นแรกก็ทำโซอนใจละลายกันทั้งฮอลล์ เนื่องจากโจทย์คือให้เธอเต้นเพลงถืออมยิ้มในตำนานอย่าง “Kissing You” เท่านั้นยังไม่พอตามด้วยเพลงสุดปังอย่าง “The Boys” และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือการที่ยุนอาร้องเพลงไทยโชว์กันสดๆ กับเพลง ”สลักจิต“ ทำให้โซวอนทั้งหลายแทบหยุดหายใจ
แล้วก็มาถึง Last Chapter เป็นบทส่งท้ายก่อนบอกลาแฟนๆ กับเพลง “노크 (Knock)“ ที่เป็นเพลงใหม่ช่าสุดของยุนอา ขณะเดียวกันโซวอนก็ร่วมกันทำโปรเจคต์ ชูป้าย “Everywhere YOONA goes, SONE follow. We YOONITE” แต่ก็น่าเสียดายที่แฟนมีตติ้งครั้งนี้ ไม่สามารถทำแฟนโปรเจคต์โดยวิดิโอได้
สุดท้ายลากันไปด้วยเพลง “덕수궁 돌담길의 봄 (Deoksugung Stonewall Walkway) เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง 30 นาทีของยุนอาและโซวอน ที่ได้ร่วมกันทำให้แต่ละบทเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวความทรงจำดีๆ และทำให้ปิดหนังสือเล่มนี้ลงอย่างบริบูรณ์